คาถาทำน้ำมนต์อาบแก้อาถรรพ์

ได้มาจาก คัมภีร์ไสยศาสตร์ฉบับสมบูรณ์ ของอาจารย์ญาณโชติค่ะ มีหลายบทที่ดีและน่าสนใจ หากมีเวลาจะค่อยทยอยมาลงให้นะค่ะ

คาถาทำน้ำมนต์อาบแก้อาถรรพ์

พุทธัง อัตถัญจะ ปัจุททะรามิ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ โองการ พินทุนาถัง อุปปันนัง พรหมสะหะ ปะฏิมานัง อาทิกัปเปสุ อาคะโต ปัจจะปะถุมัง ทิสสะวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเม สัพพะสิเนหา จะปูชิโต สัพพะโกธัง วินาสะสันตุ ปิยามะนาโป เมโลกัสสะมิง สัพพะสุขโข ลาโภภิญโญ ภะวันตุ เมฯ

คาถาบทนี้ว่าเมื่อทำน้ำมนต์ 3 จบ จุดขี้ผึ้ง เทียนหนัก 1 บาท หยดใส่น้ำในขัน ว่าคาถาเมื่อหยดเทียนลงในน้ำหลาย ๆ จบ ก็ได้ เอาน้ำมนต์นี้อาบกิน แก้อาถรรพ์ที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ แก้อาถรรพ์ สิ่งอัปรีย์เสนียดจัญไรทั้งปวง

บุคคลที่ต้องอาถรรพ์หรือมีสิ่งอัปรีย์เสนียดจัญไร ได้แก่ บุคคลประเภทอัปมงคล ประพฤติตนต่ำช้าเลวทราม พูดจาหยาบโลน ชอบนินทาใส่ร้ายผู้อื่นอยู่เสมอ ยกตนข่มท่าน ไม่คารวะผู้ใหญ่ผู้สูงอายุ อกตัญญู ลบหลู่ผู้มีพระคุณ ชอบเอาของใช้ที่ต่ำส่วนตัวแขวนไว้ที่สูง เช่น ถุงเท้า กางเกงใน ตากไว้บนราวสูงตรงกับทางเดินภายในบ้าน คนเดินลอดไปลอดมา มีนิสัยชอบกามวิปริตผิดมนุษย์ธรรมดา มั่วกามารมณ์ ชอบเสพกามเมถุนด้วย ผู้นั้นก็จะอับเฉา ทำมาหากินไม่ขึ้น ประสบอุปสรรคต่าง ๆ ชั่วชีวิต เรียกว่า บุคคลต้องกาลกิณี แม้แต่บุคคลใดที่เคยอยู่ร่วมหรือมีความสัมพันธ์กับบุคคลประเภทนี้ ก็เรียกว่าต้องกาลกิณีไปด้วย ต้องรดด้วยน้ำมนต์ธรณีสารเสีย 3 ครั้ง โทษร้ายจึงจะกลายเป็นดี ทำให้การดำเนินชีวิตมีความราบรื่น เจริญก้าวหน้าสืบไป

บุคคลที่ต้องธรณีสาร ได้แก่ บุคคลที่มีลักษณะ ซึมง่วงเหงาหาวนอนอยู่เสมอ มีคนอีกประเภทหนึ่งเมื่อนอนหลับจะมีการกรนเสียงดัง (หมายถึง กรณีที่ดังมาก ๆ ผู้เขียนสันนิษฐาน) กัดกรามกรอด ๆ น้ำลายไหลยึดไม่รู้สึกตัว และมีคนอีกประเภทหนึ่ง คือ มีกลิ่นตัวแรงมีกลิ่นเหม็น จะทำให้คู่ครองเกิดความเบื่อหน่ายจนต้องเลิกร้างจากกัน

แต่ตามความเห็นของผู้เขียนเห็นว่า แม้ว่าการรดน้ำมนต์จะกระทำได้ดังอาจารย์ว่าก็จริง แต่อีกส่วนหนึ่งเราก็ต้องสร้างคุณความดีด้วยตัวเราเองด้วย หากเรายังคงเป็นคนไม่ดี แม้จะรดน้ำมนต์ต้องธรณีสาร กาลกิณีซักกี่ร้อยครั้งก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้นะค่ะ อีกเรื่องที่เป็นความเห็นส่วนตัวคือ การที่จะท่องเพื่อทำน้ำมนต์แก้อาถรรพ์นี้ ผู้กระทำต้องมีจิตที่เป็นสมาธิ กอปร์กับสร้างคุณความดีพอที่จะทำให้น้ำธรรมดากลายเป็นน้ำมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ได้พอที่จะแก้สิ่งไม่ดีทั้งหลายได้ หากจิตไม่นิ่ง สมาธิไม่เกิด ความดีไม่มี ความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำมนต์นี้ก็จะเกิดขึ้นมิได้เลย

หากการที่ท่านทั้งหลาย เพื่อน ๆ ในเวปพลังจิตนี้ได้กระทำแล้วเกิดเป็นคุณในทางใดทางหนึ่งแล้ว ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจิตในครั้งนี้แด่เทพเทวาทั้งหลายที่รักษาประเทศชาติไทยขอให้ประเทศไทยรอดพ้นจากมหันตภัยจากธรรมชาติทั้งปวง และขอให้เพื่อนร่วมชาติของข้าพเจ้าทุกท่านมีแต่ความสุข ความเจริญ กินดีอยู่ดี ประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่ดี ขอให้ทุกคนในชาติร่ำรวยมีความสุขกันทุกครอบครัว และอาจารย์ญาณโชติด้วยค่ะ สาธุ

คราวหน้าจะลงคาถาทำน้ำมนต์แก้อาถรรพ์จากไฝต่าง ๆ นะค่ะ

 

พระคาถามีแรงครูสูง การนำมาใช้โดยไม่ได้บอกกล่าว ประสิทธิ์ประสาทให้ *ต้องธรณีสาร * อยากทราบว่าผู้ตั้งกระทู้มีจุดประสงค์ใด ช่วยชี้แจงให้กระจ่างด้วยครับ เผื่อผู้นำไปใช้จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ หากสามารถทำได้

 

พระคาถาโองการนารายณ์แสง
โองการ พินทุนาถัง อุปปันนัง พรหมสะหะ ปะฏิมานัง อาทิกัปเปสุ อาคะโต ปัจจะปะถุมัง ทิสสะวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง
พระคาถาบูชาครู
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเม

 

ขอแก้ไข

พระคาถาโองการนารายแสง
โองการ พินทุนาถัง อุปปันนังพรหมาสะหะปะตินามะ อาทิกัปเป สุอาตะโต ปัญจะปะทุมังทิสะวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง
พระคาถาบูชาครู
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเม
<!-- / message -->

 

มีเจตนาดีค่ะ แต่ก่อนที่จะทำก็ต้องสวดมนต์ก่อน คิดว่าทุกท่านที่เวปนี้ก็คงรู้จักที่จะสวดมนต์ก่อนและระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์เจ้าของตำรา จึงมิได้กล่าวถึงค่ะ ผู้เขียนก็ทำมาแล้วชีวิตก็ดีขึ้น (พูดแบบนี้ไม่ทราบว่าจะเกินเลยไปหรือเปล่า เพราะปกติชีวิตก็มิได้ลำบากแต่อย่างใด สุขสบายเมื่ออยู่กับบุพการีฉันใด เมื่อแต่งงานกับท่านสามีก็สุขสบายฉันนั้นและมีเกียรติยศจากหน้าที่การงานของสามีด้วยค่ะ) แต่ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจว่า ตัวเองต้องอาถรรพ์หรือไม่อย่างใด แต่ก็ได้ทำตามวิธีและท่องมนต์ตามที่บอกให้ทุกท่านทราบแล้วค่ะ (ก่อนที่จะแต่งงาน) จึงอยากให้ทุกท่านดีขึ้นนะค่ะ ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงอย่างใด ๆ เลยค่ะ

 

ถ้าเป็นอย่างนั้นผมขออนุโมทนาด้วยครับ ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ผู้หนึ่งผู้ใด มีแต่เจตนาที่ต้องการให้ผู้อื่นนำไปใช้ได้ศิริมงคลอย่างแท้จริง ผมภาวนาพระคาถาที่ post ไว้เป็นประจำซึ่งมีแรงครูสูงครับ ขอขอบคุณครับ

 

การเดินลอดโบสถ์๙รอบ ช่วยได้ครับ วัดหนองใหญ่ พัทยา ชลบุรี

 

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ

 

โมทนาบุญกับเจตนาที่ดีนะครับ.....มีอยู่สิ่งหนึ่ง...ที่หลายๆท่านมองข้าม...ท่านเคยเอาน้ำเก่าที่เราถวายพระพุทธรูปที่หิ้งพระมาทำน้ำมนต์บ้างไมครับ...น้ำนั้นไม่ธรรมดานะครับ...

 

"บุคคลที่ต้องอาถรรพ์หรือมีสิ่งอัปรีย์เสนียดจัญไร ได้แก่ บุคคลประเภทอัปมงคล ........มีนิสัยชอบกามวิปริตผิดมนุษย์ธรรมดา มั่วกามารมณ์ ชอบเสพกามเมถุนด้วย ผู้นั้นก็จะอับเฉา ทำมาหากินไม่ขึ้น ประสบอุปสรรคต่าง ๆ ชั่วชีวิต เรียกว่า บุคคลต้องกาลกิณี แม้แต่บุคคลใดที่เคยอยู่ร่วมหรือมีความสัมพันธ์กับบุคคลประเภทนี้ ก็เรียกว่าต้องกาลกิณีไปด้วย ต้องรดด้วยน้ำมนต์ธรณีสารเสีย 3 ครั้ง โทษร้ายจึงจะกลายเป็นดี ทำให้การดำเนินชีวิตมีความราบรื่น เจริญก้าวหน้าสืบไป "

บุคคล ประเภทนี้ รวมหมายถึง พวกรักเพศเดียวกาน หรือป่าวคับ

ถ้าใช่ รดน้ำมนต์ ก้อจะหายจาก อาการรักเพศเดียวกาน ด้วยสิคับ

 

ไอ่ถ้ามันเป็นจากกรรมนี่...มันไม่ค่อยหายนะครับ....ลักเพศนี่เป็นเพราะผิดศีลข้อ 3 มาก่อน....หายต่อเมื่อหมดกรรมครับ......
พระพุทธเจ้าตรัษว่า ทุกอย่างเกิดจากเหตุถึงจะมีผลนะครับ...
ในความหมายนั้นอาจหมายถึงหากเราไปคบแล้วเขาเป็นพาลเราก็คงจะเป็นพาลด้วยถึงแม้จะรดน้ำมนต์ขนาดใหนถ้าเรายังไปคบพาลอยู่และรับคติและวิสัยมาปฏิบัติอยู่ก็ไม่มีวันหายพาลอ่ะครับ...ในความหมายอาจบอกในบทมนต์(ที่แปลออกแล้วมีความหมายเป็นมงคลในข้อปฏิบัติที่โบราณเขาตั่งเอาไว้แล้วต่อมาเลยกลายเป็นพิธีเพื่อเป็นกุศโลบายธรรม)อาจบอกให้เราเลือกที่จะคบ...และเลือกที่จะปฏิบัติได้....คบคนพาลพาลพาไปหาผิดคบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผลครับ...

 

พระคาถาโองการนารายณ์แสง
ใช้ใน กานได้ครับ

 

ไฝปานในจุดตำราบ่งบอก็เป็นอาถรรพณ์ครับ เช่นในร่มผ้า ฝ่ามือ ที่ของลับ ถ้าเป็นคาถาจริงถือขึ้นก็แก้เอง ถ้าไม่ เขามีวิธีบ่งบอกไว้แบบง่ายขึ้นเหมือนกันแต่ควรถือศีลห้ากำกับตนไปก่อนพักนึงก่อนแก้ ปัญหาคือคุณแก้นิสัยตนด้วยหรือเปล่า พวกนี้จะบั่นทอนความเจริญครับดั่่งกับเราไม่ควรได้รับ ควรตกต่ำอยู่เช่นนั้น