ขอเชิญร่วมพิธีหล่อพระตรีมูรติ ณ วัดสว่างอารมณ์(แคแถว)อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย kukkai.l, 29 พฤศจิกายน 2008.

  1. kukkai.l

    kukkai.l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    488
    ค่าพลัง:
    +173
    referrelative="t">
    วัดสว่างอารมณ์(แคแถว)
    ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม


    พิธีหล่อพระตรีมูรติ เทพเจ้าแห่งความรัก ความสำเร็จ
    ในวันพุธที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 21.39 น.
    ณ มณฑลพิธีวัดสว่างอารมณ์(แคแถว)

    โดย..พระครูยติธรรมานุยุต(พระอาจารย์แป๊ะ)
    ขอเชิญร่วมงานเคาน์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยการนิมนต์พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี และพระภิกษุสงฆ์ 108 รูปร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์และทำพิธีหล่อองค์เทพเจ้าตรีมูรติ ปาง 9 หน้า

    พระศิวะ เป็นเทพเจ้าสูงสุด
    พระนารายณ์ 4 หน้า 4 ปาง
    ได้แก่ปางนารายณ์เปิดโลก ปางนารายณ์พราหมณ์ ปางนารายณ์กฤษณะ ปางนารายณ์ราม
    พระพรหม 4 หน้า 4 ปาง
    ได้แก่ปางเมตตา ปางกรุณา ปางมุทิตา ปางอุเบกขา

    ทางวัดสว่างอารมณ์ ขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญด้วยการถวายปัจจัยในการซื้อแผ่นทองหรือทองเหลือง สำหรับใช้ในพิธีหล่อองค์พระตรีมูรติ ตามแต่ศรัทธา สามารถร่วมทำบุญได้ที่พระครูยติธรรมานุยุต(เจ้าอาวาส)ได้ทุกวันหรือติดต่อสอบถาม โทร. 034-324-544 , 081-995-5748
    ;aa14วัดสว่างอารมณ์ ยินดีต้อนรับทุกท่าน
    ปล. เมื่อร่วมกันเคาน์ดาวน์ สร้างบุญหล่อพระแล้ว ก็พลาดไม่ได้นะจ๊ะ กับพิธีอาบน้ำเพ็ญ
    โดยพระอาจารย์แป๊ะเพื่อเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่




    <TABLE class=MsoNormalTable style="BACKGROUND: #ffffcc; WIDTH: 85.2%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR style="HEIGHT: 13.85pt; mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: #ffaa00; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 13.85pt" width="100%">
    กำเนิดตรีมูรติ





    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 306.8pt; mso-yfti-irow: 1"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 306.8pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" width="100%"><O:p

    ตรีมูรติคือเทพสูงสุด 3 องค์ของศาสนาฮินดูคือพระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหมเมื่อก่อนที่จะมี พระศิวะนั้น ในจักรวาลมีแต่ความมืดและว่างเปล่า ไม่มีกลางวันไม่มีกลางคืน มีเพียงสิ่งเดียวที่ปรากฏ คือ สัตพรหมณ์เป็นโยคีผู้เป็นอมตะ เป็นหนึ่งเดียว ไม่มีเริ่มต้นและสิ้นสุดหรือดับสูญ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นที่รวมแห่งสรรพปัญญาและความรู้ทั้งมวล แต่ไม่มีรูปร่าง มีแต่ความปรารถนาที่จะสร้างสิ่งทั้งหลายขึ้นมา จึงบังเกิดเป็นรูปร่างขึ้นมาจากพลังงานและอำนาจของความรู้และปัญญาที่มีอยู่ ล่องลอยไปทุกหนทุกแห่ง มองเห็นได้ รูปร่างนี้เป็นจุดกำเนิดของสิ่งทั้งหลายที่จะเกิดตามมาภายหลัง เป็นรูปร่าง ในสภาวะจิต เป็นพรหมสูงสุด บรรดานักปราชญ์ และฤๅษีในสมัยโบราณได้ขนานนามรูปร่างนี้ว่า พระศิวะ จากนั้นพระศิวะได้สร้างสิ่งต่างๆให้เกิดตามมา โดยการแบ่งภาคมาจากพระองค์เอง โดยให้เกิดเป็นหญิงคือนางอุมาเทวี ซึ่งเป็นมารดาแห่งเทพทั้ง 3 คือ พระวิษณุ พระพรหม และพระศิวะ มีพระศิวะเป็นเทพสูงสุด และได้สร้างศิวะโลกเพื่อเป็นที่ประทับ เมื่อสร้างสิ่งต่างๆแล้ว พระองค์จำเป็นต้องมีการคุ้มครองสิ่งเหล่านั้น และทำลาย สิ่งที่ไม่ดีออกไป เหลือไว้แต่สิ่งที่ดี พระองค์จึงทรงหลั่งน้ำอำมฤตลงบนซีกด้านซ้าย และเกิดชีวิตใหม่ขึ้นมา และประทานนามให้ว่าพระวิษณุ(หรือพระนารายณ์ แปลว่า ผู้มีแผ่นน้ำเป็นที่อาศัย เนื่องจากพระวิษณุลงไป พักผ่อน อยู่ในน้ำ) โดยให้มีหน้าที่คอยคุ้มครองรักษาสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา แล้วพระองค์ก็จะ เปลี่ยนเป็น พระผู้ทำลาย คือทำลายสรรพสิ่งที่ไม่ดี แก้ไขไม่ได้ โดยมีดวงตาที่ 3 อยู่บนหน้าผากซึ่งปิดสนิท ถ้าลืมตาขึ้นมาก็ จะเกิดไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญทุกสิ่งในขณะที่พระวิษณุบรรทมอยู่ในน้ำ ก็ได้เกิดมีดอกบัวผุดออกมาจากสะดือ ซึ่งเป็นพระบัญชาของพระศิวะ และ พระศิวะได้หลั่งน้ำอำมฤตลงบนซีกขวาเพื่อให้ได้ชีวิตใหม่คือ พระพรหม และใส่ไว้ในดอกบัวนั้น พระพรหม หรือพระผู้เกิดมาจากดอกบัว ไม่รู้ว่าตัวเองเกิดมาได้อย่างไร และใครเป็นผู้สร้าง เมื่อออกมาจากดอกบัวแล้ว ได้เขย่า ดอกบัวจึงบังเกิดเป็นมนุษย์ชาติ และสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก ชาวฮินดูจึงเรียกพระพรหมว่า พระผู้สร้างพระวิษณุได้กล่าวปลอบพระพรหมโดยเรียกพระพรหมเป็นเด็กน้อย เพราะถือว่าเกิดมาจากดอกบัวในสะดือของพระองค์เอง พระพรหมเมื่อถูกเรียกอย่างนั้นก็ไม่พอใจ จึงเกิดการรบกันขึ้น ร้อนไปถึงพระศิวะ เมื่อทราบว่าเทพ ทั้ง 2 กำลังต่อสู้กันอยู่ จึงเสด็จมา ณ. สถานที่ที่กำลังรบกันอยู่ โดยแปลงตัวเป็นเสาไฟขนาดใหญ่ ซึ่งหาที่สิ้นสุดมิได้ทั้งบนและล่าง แล้วมาปรากฏอยู่ระหว่างเทพทั้ง 2 เสาไฟนี้ มีความร้อนมาก ทำให้เทพทั้ง 2 หมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ให้แปลกใจในความใหญ่โตหาที่สิ้นสุดมิได้ เทพทั้ง 2 จึงพนันกันว่า ถ้าใครค้นหาจุดสิ้นสุดได้ก่อนถือว่าเป็นผู้ชนะ และผู้แพ้จะยอมกราบไหว้บูชา พระพรหมจึงแปลงร่างเป็นหงส์ บินขึ้นไปหาส่วนยอดด้าน บน พระวิษณุแปลงร่างเป็นสุกรขุดดินลงไปหาปลายที่ด้านล่าง ด้านพระพรหมในร่างของหงส์ เมื่อบินขึ้นไปก็หา จุดสิ้นสุดมิได้ แต่ได้พบดอกเกตุขึ้นอยู่ที่ส่วนหนึ่งของเสาไฟ จึงได้กลับลงไปพร้อมดอกเกตุนั้นฝ่ายพระวิษณุ เมื่อไม่พบอะไรก็กลับขึ้นไปยังที่เดิม และพบพระพรหมนำดอกเกตุลงมาจากข้างบน ก็เข้าใจว่าพระพรหมพบส่วน ยอดแล้ว ซึ่งพระพรหมโกหกว่าพบจริง โดยมีดอกเกตุเป็นพยาน พระวิษณุก็ยอมแพ้และกราบไหว้บูชาพระพรหม ตามสัญญา เมื่อเรื่องกลายมาเป็นเช่นนี้ พระศิวะจึงได้คืนร่างมาดังเดิม และชำระความให้แก่เทพทั้ง 2 โดยกล่าวชมว่า พระวิษณุเป็นเทพที่มีความซื่อสัตย์ จึงยกให้พระวิษณุเป็นเทพเสมอพระองค์ สามารถที่จะมีโบสถ์และพิธีกรรมทางศาสนาเป็นของตนเองได้ ส่วนพระพรหมซึ่งเป็นผู้ไม่ซื่อสัตย์ พระศิวะได้ทำโทษ โดยการตัดเศียรทั้ง 5 แต่พระวิษณุได้ขอร้องไว้ จึงตัดไปเพียง 1 เศียรเหลืออยู่ 4 เศียร และไม่อนุญาตให้ขึ้นมาเป็นเทพเทียบเท่าพระ องค์ และไม่ให้มีโบสถ์และพิธีกรรมทางศาสนาเป็นของตนเอง แต่ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพระศิวะ และเป็น ผู้สร้างมนุษยชาติจึงอนุญาตให้มีศาลหรือเทวสถานอยู่นอกโบสถ์และให้พระพรหมเป็นประธานของพิธีบวงสรวงทั้งมวลส่วนดอกเกตุที่มีส่วนร่วมนั้น พระศิวะได้ห้ามนำมาใช้ในการบูชากราบไหว้ วันที่พระศิวะคืนร่างจากเสา ไฟ ชาวฮินดูเรียกว่าวันศิวะราตรี และจะทำพิธีบูชาในลิงคสถาน<O:p

    <O:p



    โดยเหตุนี้คนโบราณจึงนิยมสร้างรูปปั้นหรือรูปหล่อของ
     
  2. น้ำใจ21

    น้ำใจ21 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    ;20
    สาธุ..สาธุ..สาธุ
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญjaah

    thaxx4 U
     

แชร์หน้านี้

Loading...