เรื่องเด่น ขอคืน ‘พญาครุฑ” หายจากที่ว่าการอำเภอ 19 ปี คาดเจออาถรรพณ์

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 18 มกราคม 2019.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    4DQpjUtzLUwmJZZPFiZHT7oa72QQIoryw6kYFrnXOB6w.jpg

    พญาครุฑกางปีก หรือครุฑพ่าห์ หายไปจากที่ว่าการอำเภอแม่สอดหลังเก่า ที่ถูกรื้อ 19 ปีเต็ม อยู่ๆ ก็มีชายสูงอายุ นำใส่ถุง ฝากมาให้นายอำเภอ คาดหยิบฉวยเอาไปครอบครองแล้วเจออาถรรพณ์

    เมื่อวันที่ 18 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งว่ามีบุคคลนิรนามท่าน หนึ่งนำร่างพญาครุฑมาฝากคืนให้กับนายอำเภอแม่สอด เป็นพญาครุฑที่หายไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2543 ตั้งแต่สมัยที่ทำการอำเภอแม่สอด หลังเก่าที่ถูกรื้อไปตั้งแต่ปี 2543 องค์พญาครุฑเป็นลักษณะกางปีก กว้างขนาด 36 นิ้ว สูง 30 นิ้ว เป็น”พญาครุฑพ่าห์”

    4DQpjUtzLUwmJZZPFiZHT7oa72QQIorxzKeQailyh7c9.jpg

    ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด ขณะที่ท่านกำลังทำความสะอาดและนำน้ำมันมะกอกมาขัดถูองค์พญาครุฑจนมีความสง่างามน่าเกรงขาม ครุฑ หรือ พญาครุฑ (Garuda) เป็นสัตว์กึ่งเทพ ในตำนานปรัมปราของอินเดีย ปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง

    นายชัยพฤกติ์ กล่าวว่า พญาครุฑองค์นี้ เคยอยู่ที่หน้าบัน ของที่ว่าการอำเภอหลังเก่าที่เป็นอาคารไม้ และไม่ทราบว่าหายไปที่ไหนนานแล้ว ไม่มีคนคิดถึง จนวันหนึ่งก็มีคนนำมาฝากที่นักการภารโรงให้นำไปมอบกับนายอำเภอ จึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ เพื่อให้ประชาชนมาศึกษาว่าพญาครุฑสมัยโบราณมีความศักดิ์สิทธิ์น่าเกรงขามยังไง เบื้องต้นจะทำตู้ครอบกระจกมาตั้งไว้ในจุดที่เหมาะสมหน้าห้องนายอำเภอ

    4DQpjUtzLUwmJZZPFiZHT7oa72QQIor1j3It5BUx21o5.jpg

    ด้านนายสมาน สุทาคำ อายุ 55 ปี นักการภารโรงเปิดเผยว่า จู่ๆ มีคนสูงอายุนำถุงมาฝากผ่านไปให้นายอำเภอ เมื่อตนเปิดดูก็พบว่าเป็นพญาครุฑ จึงนำไปให้นายอำเภอ คิดว่าพญาครุฑองค์นี้มีคนหยิบฉวยไปช่วงรื้ออาคารหลังเก่า นำไปครอบครองโดยไม่ถูกต้อง คงเกิดอาเพศหรือเจ็บป่วย หรือมีเหตุที่คาดไม่ถึง จึงต้องนำมาคืนยังจุดเดิมดังกล่าว

    ทั้งนี้ ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนกที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์เชื่อว่าปกติอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ที่ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า “สุบรรณ” ซึ่งหมายถึง “ขนวิเศษ” ครุฑเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง สามารถบินได้รวดเร็ว ทั้งยังมีสติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาด อ่อนน้อม ถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ

    ด้วยฤทธานุภาพของพญาครุฑนี้เอง จึงได้มีการสร้างรูป ครุฑพ่าห์ (หรือ พระครุฑพ่าห์) หมายถึง ครุฑซึ่งเป็นพาหนะ เป็นรูปครุฑกางปีก และใช้เป็นสัญลักษณ์หมายถึงพระราชบัลลังก์ และตราประจำแผ่นดินของไทย สืบต่อกันมาแต่สมัยอยุธยา ซึ่งพบโดยทั่วไป โดยเฉพาะตราประทับบนหัวจดหมายราชการ เรียกว่า ตราครุฑ ด้วยความเชื่อว่าพระมหากษัตริย์คือ สมมุติเทพ เป็นพระนารายณ์อวตาร ผู้ทรงมีครุฑเป็นพระราชพาหนะนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ พระราชพาหนะของพระมหากษัตริย์จึงประดับธงมหาราช ซึ่งเป็นธงรูปครุฑ ขณะเดียวกัน ยังมีเรือพระราชพิธีหลายลำ ที่สลักโขนเรือเป็นรูปครุฑ เช่น เรือครุฑเหินเห็จ ครุฑเตร็จไตรจักร และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9



    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.thairath.co.th/content/1472781
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มกราคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...