ชื่อกลอน : เตือนใจตน ประพันธ์โดย : แอ๊บแบ้ว 29/7/51 ประสงค์ : เพื่อตอบแทนเพื่อนธรรมที่แวะผ่านเข้ามา ขอบคุณ : สำหรับดอกไม้และความปราถนาดีที่มีต่อกัน .............................................................................. อรุณสวัสดิ์ยามเช้าเรามีหวัง ด้วยนิทรายังมิรู้ตื่นขึ้นเมื่อใด ครั้นตื่นมาพบดอกไม้สดชื่นใจ ดอกขาวใสใสธรรมนำชีวา ตื่นขึ้นมาครานี้มีดีกว่า แต่ทว่าทำดีนั้นให้เกิดผล ตนทำตนดีนั้นเกิดที่ตน ดีที่ตนเกิดที่ตนเพราะตนทำ หวังว่าหลับไปอีกครานี้ฝากดีไว้ บาปอย่าได้นำติดตัวให้มัวหมอง ฝากดีไว้อย่างธรรมตามตามครรลอง หวังโน้มสองคนใกล้ให้ได้ดี (สองคนใกล้หมายถึงพ่อแม่) อันว่าดีนั้นดีใดไม่มีโทษ สุดประเสริญเลิศหล้าหาไหนเหมือน ทำขัดเคืองดีนั้นไม่ดีเลือน ด้วยขัดเคืองผิดทางและคนกาล อันว่าดีคนดีง่ายทำชั่วยาก ความชั่วนั้นคนชั่วทำง่ายสบายจริง ทุกทุกสิ่งล้วนต้องฝืนจึงยืนได้ แสนสบายเมื่อทำดีมีสุขผลฯ ..ทุกคนเอย........ ...............................................................................
[IMG] เอาดอกไม้ ละกาน มาปันไว้ ให้ใครใคร ได้ยล ระคนกลิ่น แทนสำเนียงสื่อเสียงที่ได้ยิน ดั่งเพลงพิณให้คุณคุณ ละมุลใจ (วันนี้ออกแนวแหววนะครับ ^^)
เจริญธรรมนำปัญญาโน้มนำมาพัฒนาตน รื้อภพพ้นชาติอันอับจนตั้งใจสนให้พ้นภัย เจริญธรรมแล้วโน้มออกตนใครเล่าเข้ามาสน หากตนมิพึ่งตนแล้วเราจะพึ่งใครล่ะท่านเอย
ประวัติหลวงปู่มั่นตอนที่51ลูกศิษย์กับอาจารย์โต้นรกสวรรค์กัน ..........(ความตอนหนึ่งว่า)........................ ....ธรรมนั้นอยู่ฟากตาย ถ้าใครกลัวตายเสียดายทุกข์ ชอบถือเอาความสนุกในการเกิดว่าเลิศเลอ ผู้นั้นต้องจัดว่าลืมตัวมัวประมาทและชอบผัดเพี้ยนเลื่อนเวลาว่า เช้า สาย บ่าย เย็น ไม่อยากบำเพ็ญความดีสำหรับตนในเวลาที่เป็นฐานะพอทำได้อยู่ ความประมาททั้งนี้ยังจะพาให้หลั่งน้ำตาด้วยความทุกข์ในสงสาร ไม่อาจประมาณได้ว่ายังอีกนานเท่าไร จึงจะผ่านพ้นแหล่งกันดารอันเป็นที่ทรมานไปได้ จึงขอฝากปัญหาธรรมเหล่านี้ไว้กับท่านทั้งหลายนำไปขบคิดด้วยว่า เราจะเป็นฝ่ายคืบหน้ากล้าตายด้วยความเพียรหมายพึ่งธรรม ไม่เหลียวหลังไปดูทุกข์ที่เคยเป็นภาระให้แบกหาม ด้วยความเจ็บแสบและปวดร้าวในหัวใจมาเป็นเวลานาน หรือยังจะเป็นฝ่ายเสียดายความตายแล้วกลับมาเกิดอีก อันเป็นตัวมหันตทุกข์ที่แสนทรมานอีกต่อไป รีบพากันนำไปพิจารณา อย่ามัวเมาเฝ้าทุกข์และหายใจทิ้งเปล่า ๆ ดังที่เป็นมาและเป็นอยู่เวลานี้ จะช้าทางและเสียใจไปนาน เพราะโรงดัดสันดานกิเลส ตัวพาให้ว่ายบกอกแตกแบกกองทุกข์ไม่มีเวลาปลงวางนั้น มิได้มีอยู่ในที่อื่นใดและโลกไหน ๆ แต่มีอยู่กับผู้ตั้งหน้าบำเพ็ญด้วยการใช้หัวคิดปัญญาศรัทธาความเพียร เป็นเครื่องมือบุกเบิกเพื่อพ้นไปนี้เท่านั้น ไม่หยุดหย่อนนอนใจว่ากาลเวลายังอีกนาน สังขารยังไม่ตายร่างกายยังไม่แก่ ซึ่งเป็นความคิดที่ทำให้แย่ลงโดยถ่ายเดียว ผู้เป็นนักบวชและนักปฏิบัติจึงไม่ควรคิดอย่างยิ่ง อนึ่ง ผู้จะพาให้ผิดพลาดและพาให้ฉลาดแหลมคมก็มีอยู่กับใจดวงเดียวจะเป็นผู้ผลิต ไม่มีอยู่ในที่ใด ๆ จึงไม่ควรตั้งความหวังไว้กับที่ใด ๆ ที่มิได้สนใจดูตัวเอง ตัวจักรเครื่องทำงาน คือกายวาจาใจที่กำลังหมุนตัวกับงานทุกประเภทอยู่ทุกขณะ ว่าผลิตอะไรออกมาบ้าง ผลิตยาถอนพิษคือธรรมเพื่อแก้ความไม่เบื่อหน่ายและอิ่มพอในความเกิดตาย หรือผลิตยาบำรุงส่งเสริมความมัวเมาเหมาทุกข์ ให้มีกำลังขยายวัฏวนให้ยืดยาวกว้างขวางออกไปไม่มีสิ้นสุด หรือผลิตอะไรออกมาบ้าง ควรตรวจตราดูให้ละเอียดถี่ถ้วน ไม่เช่นนั้นจะเจอแต่ความฉิบหายล่มจม ไม่มีวันโผล่ตัวขึ้นจากทุกข์ที่โลกทั้งหลายกลัว ๆ กันได้เลย
ขอนุญาตลบข้อความต่างๆที่โพสไปยังท่าน...เพราะดูท่าจะเครียดอ่ะ....มาด้วยบริสุทธิ์ใจ....ด้วยหวังความเจริญต่อเพื่อนธรรม...เด๋วจะเข้าใจผิดไปกันหย่ายอ่ะ.....ขอโทษนะขอรับ
[IMG]..... เจริญธรรมแล้วโน้มออกตนใครเล่าเข้ามาสน หากตนมิพึ่งตนแล้วใครเล่าจะพึ่งได้ล่ะท่านเอย ....... _/|\_ อนุโมทนา ^_^
ข้าจะจดจำแล้วนำไปคัดลอกลงใบลาน 1000 จบ ขอบคุณศิษย์พี่ที่ไว้ชีวิตข้า..... ละครนี้จบแล้ว...แต่ละครชีวิตยังคงคลิ๊กต่อไป.......
เจริญธรรมนำปัญญาโน้มนำมาพัฒนาตน รื้อภพพ้นชาติอันอับจนตั้งใจสนให้พ้นภัย เจริญธรรมแล้วโน้มออกตนใครเล่าเข้ามาสน หากตนมิพึ่งตนแล้วใครเล่าจะพึ่งได้ล่ะท่านเอย ข้าจะจดจำแล้วนำไปคัดลอกลงใบลาน 1000 จบ ขอบคุณศิษย์พี่ที่ไว้ชีวิตข้า