คาถาพระสมเด็จ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่

พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่)
พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ หรือที่ลูกศิษย์ลูกหารู้จักกันดีในนามหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ มีฉายาว่า พุทธรักขิโต เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2432 ตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำเดือนอ้าย ปีฉลู โยมบิดาชื่อนายเหมือน มีศรีไชย ต้นตระกูลเดิมเป็นชาวบ้านทึงโยมมารดาชื่อนางชัง บ้านเดิมอยู่ที่บ้านหนองผักนาก มีพี่น้องด้วยกันทั้งสิ้น 5 คนคือ

นางน้ำอ้อย จันทร์สุวรรณ
นางน้ำตาล จันสุกแสง
นายช่อง มีศรีไชย
หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต
นางสาคู มีศรีไชย
ครอบครัวของท่านมีอาชีพทำนา ในวัยก่อนบวชท่านมีหน้าที่เลี้ยงควาย อุปนิสัยเรียบร้อย เยือกเย็น พูดน้อย ไม่ได้เรียนหนังสือ ท่านจึงไม่มีความรู้ในการอ่านเขียน


อุปสมบท 2 ครั้ง
การบวชครั้งแรกนั้น ไม่มีข้อมูลหลักฐานปรากฏแน่ชัดว่าบวชเมื่อใด ใครเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชได้ราว 10 พรรษาหลวงพ่อได้ลาสิกขาบทออกมาตามคำขอของญาติเพื่อเตรียมเข้าพิธีแต่งงาน แต่เมื่อลาสิกขาบทออกมาได้ไม่นานก็เกิดอาหารป่วยอย่างกะทันหันจนแทบเอาชีวิตไม่รอด จึงได้อธิษฐานจิตอุทิศชีวิตบวชใหม่เป็นครั้งที่สองโดยมีพระครูธรรมสารรักษา วัดดอนบุปผารามเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทวนวัดบ้านกร่างเป็นพระกรรมวาจาจารย์และพระอาจารย์กุนวัดดอนบุปผารามเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ พัทธสีมาวัดดอนบุปผาราม วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2465 ฉายา พุทธรักขิโต สันนิษฐานว่ามีการเปลี่ยนชื่อจากเชื่อมมาเป็นมุ่ย ในระยะที่หายป่วยนี้เอง หาใช่เป็นการเปลี่ยนเป็นทางการไม่


ครูอาจารย์ทางไสยศาสตร์
เรียนวิชากับฆราวาส
หลวงพ่อมุ่ยมีอาจารย์หลายท่าน ทั้งฆราวาส และพระเกจิอาจารย์ อย่างไรก็ดี จะกล่าวถึงอาจารย์ที่สำคัญดังต่อไปนี้

หลวงพ่ออิ่มวัดหัวเขา
หลวงพ่อได้ศึกษาวิปัสสนากัมฐานขั้นต้นจนสำเร็จหมดทุกวิชาจากหลวงพ่ออิ่ม มีเรื่องเล่าว่า การฝึกขั้นพื้นฐานกับหลวงพ่ออี่มนั้นต้องนั่งสมาธิจนลอยขี้นจากหลุม แล้วจึงสามารถเรียนวิชาอื่นๆ ต่อไปได้
หลวงพ่ออิ่มเป็นพระเกจิที่ทรงคุณวิเศษ เป็นพระสหายกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเป็นที่นับถือมากสำหรับชาวบ้านในย่านอำเภอเดิมบางและสามชุก ท่านสามารถเดินตากฝนโดยไม่เปียกฝน และทำมือยาวไปหยิบกระเบื้องหลังคาโบสถ์ได้

หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า


เมื่อหลวงพ่อได้ศึกษาวิชาจนแตกฉานแล้วจากหลวงพ่ออิ่ม หลวงพ่ออิ่มได้เมตตาพาท่านไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่สุข ได้มีบันทึกถึงเรื่องนี้จากชาวบ้านซึ่งเคยถามกับหลวงพ่ออิ่ม หลังจากที่เดินทางพาหลวงพ่อมุ่ยมุ่งหน้าไปหาหลวงปู่สุขหลายเดือนก่อนจะกลับมาว่า หลวงพ่อิ่มได้อะไรกลับมาบ้าง หลวงพ่ออิ่มท่านตอบว่า ได้มาครึ่งเล่มแต่ท่านมุ่ยได้มาเล่มครึ่ง ซึ่งบ่งบอกว่าหลวงพ่อมุ่ยท่านเก่งและหนุ่มกว่า จึงได้มามาก ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ทันทีว่า หลวงพ่อก็เป็นศิษย์ของหลวงปู่สุขอีกองค์หนึ่งเช่นกัน

หลวงพ่ออ้น วัดดอนบุปผาราม
เมิ่อหลวงพ่อบวชครั้งที่2 หลวงพ่ออ้นเป็นพระอุปชาย์ ซึ่งหลวงพ่ออ้นองค์นี้เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณวิเศษมากอีกท่านหนึ่ง ลูกศิษย์องค์อื่นๆที่มีชื่อเสียงได้แก่ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน และ หลวงพ่อสม วัดดอนบุปผารามเป็นต้น

หลวงพ่อยังได้เรียนวิชาทำยาสมุนไพรจากอาจารย์ฆราวาส และพระอาจารย์อีกหลายองค์



ปฏิปทาและวัตรปฏิบัติ
หลวงพ่อท่านเป็นพระที่ไม่ค่อยพูด เวลาที่ลูกศิษย์มากราบท่าน ท่านจะพูดน้อย จึงทำให้หลวงพ่อดูน่าเกรงขาม แต่แท้ที่จริงแล้ว ท่านเปี่ยมไปด้วยความเมตตา หลวงพ่อใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งเพ่งใบโพธิ์ ซึ่งหลวงพ่อจะจ้องมองผ่านทางหน้าต่าง ตลอดเวลาถ้าไม่มีญาติโยมมากราบ จากการสอบถามจากพระลูกศิษย์ของท่าน

ท่านเพ่งใบโพธิ์เป็นกสิน และทำสมาธิตลอดเวลาที่นั่งเพ่ง เมิ่อมีลูกศิษย์มากราบเพื่อให้ปลุกเสกของ ท่านก็จะละมาทำให้ หลังจากศิษย์กลับท่านก็จะเข้าสู่สมาธิ นั่งเพ่งใบโพธิ์ต่อ

ท่านปฏิบัติอย่างนี้มาไม่ต่ำกว่า 40 ปี ท่านสงเคราะห์ลูกศิษย์เท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะยากดีมีจน หรือมีตำแหน่งมาจากไหน หลวงพ่อล้วนแล้วแต่เมตตาสงเคราะห์

ประวัติหลวงพ่อมุ่ยวัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี พระเครื่อง พระแท้ ประมูล ร้านค้า เว็บ-พระ.คอม


คำอาราธนาพระเครื่อง ของ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่

คาถาสมเด็จ ของ หลวงพ่อมุ่ย ตั้งนะโม 3 จบ ให้ระลึกพระรัตนตรัย จึงอาราธนาว่าดังนี้

"พระพุทธะราธนานัง พระธัมมะราธนานัง พระสังฆะราธนานัง วิญญาณ นะสัมปันโน อิติปิโส นะโมพุทธายะ"

เมื่อเข้าที่คับขัน จงภาวนาพระคา (ชินบัญชร) ย่อดังนี้ "ชะยา สะนา กาตา พุทธาฯ"