@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    temp_hash-65557a32ffb0d345e0f7a7fec46bf352-jpg.jpg






    ************************************


    ( การบำเพ็ญของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระสมณโคดม องค์ปัจจุบัน)


    สโมธานกถา
    สรุปการบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัศ



    [๓๖] การบำเพ็ญบารมีอันเป็นเครื่องบ่มพระโพธิญาณเหล่านี้ จัดเป็นบารมี
    ๑๐ อุปบารมี ๑๐ ปรมัตถบารมี ๑๐ คือการบำเพ็ญทานในภพที่ตถา-
    คตเป็นพระเจ้าสิวิราชผู้ประเสริฐเป็นทานบารมี ในภพที่เราเป็น
    เวสสันดรและเป็นเวลามพราหมณ์ เป็นทานอุปบารมี ในภพที่เรา
    เป็นอกิติดาบสอดอาหารนั้น เป็นทานอุปบารมี ในภพที่เราเป็น
    พระยาไก่ป่า สีลวนาคและพระยากระต่าย เป็นทานปรมัตถบารมี
    ในภพที่เราเป็นพระยาวานร ช้างฉัททันต์ และช้างเลี้ยงมารดา
    ----------------------------------------------------------------------------
    หน้าที่ ๔๐๗.

    เป็นศีลบารมี พระผู้มีพระภาคผู้แสวงหาคุณยิ่งใหญ่ตรัสไว้ดังนี้ การ
    รักษาศีลในภพที่เราเป็นจัมเปยยกนาคราช และภูริทัตตนาคราช เป็น
    ศีลอุปบารมี ในภพที่เราเป็นสังขปาลบัณฑิต เป็นศีลปรมัตถบารมี
    ในภพที่เราเป็นยุธัญชยกุมาร มหาโควินทพราหมณ์ คนเลี้ยงช้าง
    อโยฆรราชโอรส ภัลลาติ สุวรรณสาม มฆเทวะและเนมิราช บารมี
    เหล่านี้เป็นอุปบารมี ในภพที่เราเป็นมโหสถผู้เป็นทรัพย์ของรัฐ
    กุลฑลตัณฑิละและนกกระทาบารมีเหล่านี้เป็นปัญญาอุปบารมี ในภพ
    ที่เราเป็นวิธูรบัณฑิตและสุริยพราหมณ์มาตังคะ ผู้เป็นศิษย์เก่าของ
    อาจารย์บารมีทั้ง ๒ ครั้งนี้ เป็นปัญญาบารมี ในภพที่เราเป็นพระราชา
    ผู้มีศีล มีความเพียร เป็นผู้ก่อให้เกิดสัตตุภัสตชาดก บารมีนี้แล
    เป็นปัญญาปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นพระราชาผู้มีความเพียร
    บากบั่น เป็นวิริยปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นพระยาวานรผู้มีครุธรรม
    ๕ ประการ เป็นวิริยบารมี ในภพที่เราเป็นธรรมปาลกุมาร เป็น
    ขันติบารมี ในภพที่เราเป็นธรรมิกเทพบุตร ทำสงครามกับอธรรมิก
    เทพบุตร เรียกว่าขันติอุปบารมี ในภพที่เราเป็นขันติวาทีดาบส
    แสวงหาพุทธภูมิด้วยการบำเพ็ญขันติบารมี ได้ทำกรรมที่ทำได้ยาก
    เป็นอันมาก นี้เป็นขันติปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นสสบัณฑิต
    นกคุ่ม ซึ่งประกาศคุณสัจจะ ยังไฟให้ดับด้วยสัจจะ นี้เป็นสัจจบารมี
    ในภพที่เราเป็นปลาอยู่ในน้ำ ได้ทำสัจจะอย่างสูงยังฝนให้ตกใหญ่
    นี้เป็นสัจจบารมีของเรา ในภพที่เราเป็นสุปารบัณฑิตผู้เป็นนักปราชญ์
    ยังเรือให้ข้ามสมุทรจนถึงฝั่ง เป็นกัณหทีปายนดาบส ระงับยาพิษ
    ได้ด้วยสัจจะ และเป็นวานรข้ามกระแสแม่น้ำคงคาได้ด้วยสัจจะ
    นี้เป็นสัจจอุปบารมีของเรา ในภพที่เราเป็นสุตโสมราชา รักษาสัจจะ
    อย่างสูง ช่วยปล่อยกษัตริย์ ๑๐๑ นี้เป็นสัจจปรมัตถบารมี อะไรที่จะ
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    หน้าที่ ๔๐๘.

    เป็นความพอใจไปกว่าอธิษฐาน นี้เป็นอธิษฐานบารมี ในภพที่เรา
    เป็นมาตังฏิล และช้างมาตังคะ นี้เป็นอธิษฐานอุปบารมี ในภพ
    ที่เราเป็นมูคผักขกุมาร เป็นอธิษฐานปรมัตถบารมี ในภพที่เป็น
    มหากัณหฤาษี และพระเจ้าโสธนะ และบารมีสองอย่าง คือในภพ
    ที่เราเป็นพระเจ้าพรหมทัตต์ และคัณฑิติณฑกะ ที่กล่าวแล้วเป็น
    เมตตาบารมี ในภพที่เราเป็นโสณนันทบัณฑิตผู้ทำความรัก บารมี
    เหล่านั้นเป็นเมตตาอุปบารมี เมตตาบารมีในภพที่เราเป็นพระเจ้า
    เอกราช เป็นบารมีไม่มีของผู้อื่นเหมือน นี้เป็นเมตตาปรมัตถบารมี
    ในภพที่เราเป็นนกแขกเต้าสองครั้ง เป็นอุเบกขาบารมี ในภพที่เรา
    เป็นโลมหังสบัณฑิต เป็นอุเบกขาปรมัตถบารมี บารมีของเรา ๑๐
    ประการนี้ เป็นส่วนแห่งโพธิญาณอันเลิศ บารมียิ่งกว่า ๑๐ ไม่มี
    หย่อนกว่า ๑๐ ก็ไม่มี เราบำเพ็ญบารมีทุกอย่างไม่ยิ่งไม่หย่อน เป็น
    บารมี ๑๐ ประการฉะนี้แล.
    จบสโมธานกถา
    จบจริยาปิฎก

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕
    ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2017
  2. นะมัตถุ โพธิยา

    นะมัตถุ โพธิยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +2,269
    กราบ กราบ กราบ
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    เมื่อสัตว์โลกทั้งหลาย น้อมเอาความบริสุทธิ์
    คือ “พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ”
    ตลอดทั้ง “พระจักรพรรดิ รัตนะ๗”

    ซึ่งซ้อนอยู่ภายใน

    เราจะเห็นก็ตาม ไม่เห็นก็ตาม ... มีอยู่


    เข้ามาสู่ใจตนเช่นนั้น


    มีผลให้แต่ละสัตว์โลก ... สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งๆขึ้นไป
    มีกำลังสูงขึ้น ในการที่จะบำเพ็ญบุญบารมีไปเพื่อ
    "มรรค ผล นิพพาน"

    เป็นบุญเป็นกุศล เเก่กล้าเป็น
    “บารมี อุปบารมี ปรมัตถบารมี” ยิ่งๆขึ้นไปแก่ตนเองผู้ปฏิบัติ



    ยิ่งเป็นเท่าไหร่ คือ บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ
    เป็นบุญ เป็นบารมี ที่เราบำเพ็ญส่วนภายนอกเท่าไหร่ ... ยิ่งมีผลไปถึงภายใน


    ผลถึงภายในอย่างไร ?
    “จักรพรรดิ” นั่นแหละเขาจะ “เก็บเหตุ”
    ที่สัตว์โลกแต่ละสัตว์โลก บำเพ็ญคุณความดี
    ถ่ายทอดส่งกลับไปยัง “ต้นธาตุต้นธรรม” หรือ “เครื่องธาตุเครื่องธรรม”

    เพื่อ “ปรุงเป็นผล” เป็นวิบาก ส่งผ่านกลับเข้ามายัง ธาตุธรรมที่สุดละเอียดของกายหยาบ ตรงกลางกำเนิดธาตุธรรมเดิม
    ให้มีผลเจริญงอกงามไพบูลย์ ในบวรพระพุทธศาสนา
    สุข สมบูรณ์ บริบูรณ์
    ด้วย มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ในส่วนของกายเนื้อหรือกายหยาบ มีการส่งไปส่งมาอย่างนี้
    และในขณะเดียวกัน “กำลัง” หรือ “ความแก่กล้าของธาตุธรรม” ที่สัตว์โลกทั้งหลายกระทำ กาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์

    ไปถึงธาตุธรรม "เห็น จำ คิด รู้" สุดหยาบไปจนสุดละเอียด
    ก็ไปมีผลถึง “ต้นในต้น” ... ให้แก่กล้ายิ่งขึ้นด้วย
    เมื่อแก่กล้ายิ่งขึ้น ด้วยการสื่อเชื่อมต่อ “บุญกุศล” จากกายเนื้อซึ่งเป็นฐานของพระ ถ้าทำคุณความดี
    ผ่านเข้าไปจากกายแต่ละกาย ที่มีอยู่สุดกายหยาบกายละเอียด
    ผ่านไปทางภาคผู้เลี้ยง คือ “จักรพรรดิ” ฯลฯ
    ไปจนถึง “ต้นธาตุต้นธรรม”


    แล้วก็ทับทวีกลับเป็นวิบากกรรมมา ยิ่งใกล้ชิดเข้าไปมากเท่าไหร่ บุญบารมีในธาตุในธรรม สุดหยาบสุดละเอียดของท่าน ... ก็แก่กล้าไปตาม
    จนถึง”ต้นธาตุต้นธรรม” เพียงนั้น
    และเมื่อถึงที่สุดของความแก่กล้า คือ “ปรมัตถบารมี” นั้นแล้ว
    ท่านก็มีพลังที่จะบรรลุ "มรรค ผล นิพพาน" ตามส่วน
    พร้อมจะเรียกว่า “พระโพธิสัตว์”
    แปลว่า ผู้ที่ได้รับพยากรณ์แล้ว
    พระผู้บำเพ็ญบารมี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ หรือผู้ที่ยังไม่ได้รับพยากรณ์ก็แล้วแต่ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากนั้น เมื่อองค์ใดได้มาบรรลุ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ก็จะยิ่งมีพลังสูง ที่จะช่วยสัตว์โลกได้มากเพียงนั้น



    [​IMG]




    นี่ในส่วนของการบุญการกุศล มันมีความละเอียดลึกซึ้งไปอย่างนี้
    และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ ได้เปิดเผยเรื่อง “จักรพรรดิ”


    และ "จักรพรรดิ" นี่แหละ
    เมื่อมีมากขึ้น สะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น
    ก็จะช่วยให้ผู้เข้าไปนมัสการกราบไหว้
    ปฏิบัติบูชา ... “ถึงธรรมะ” กันได้มาก
    เรียกว่า "กำลังต่อกำลัง" ทุนต่อทุนเลยทีเดียว
    หรือ บารมีต่อบารมี



    พระเทพญาณมงคล ( เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี)

    *****************************************************


    คำอธิษฐาน


    โดย


    พระเทพญาณมงคล (เสริมชัย ชยมงฺคโล)


    เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี




    ขอกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ประกอบบำเพ็ญไว้ด้วยดีแล้ว
    มีทานกุศล ศีลกุศล ภาวนากุศล
    และการอุทิศแผ่ส่วนกุศลนั้น แก่สรรพสัตว์โลกทั้งหลายเป็นต้นนี้
    ตั้งแต่อดีต จนตราบเท่าถึงปัจจุบัน
    จงเป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย
    ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ปราศจากกิเลสนิวรณ์ และวิปัสสนูปกิเลสทั้งหลาย
    ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีปัญญาอันเห็นชอบในพระอริยสัจทั้ง ๔ และได้ดวงตาเห็นธรรม
    ขอให้สิ้นอาสวกิเลส ตัณหา อุปาทาน
    และได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ฝ่ายสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว
    และขอจงเป็นพลวปัจจัยเกื้อหนุนข้าพเจ้า


    ๑.ให้แตกฉานในพระไตรปิฎก
    มีพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และ พระอภิธรรมปิฎก


    ๒.ให้ถึงพร้อมด้วยจรณะ ๑๕ ธรรมเครื่องยังให้เกิดและเจริญ โพธิปักขิยธรรม
    องค์ธรรมเครื่องตรัสรู้ ๓๗ ประการ อันประกอบด้วย
    ทิพพจักขุ ทิพพโสต สมันตจักขุ ปัญญาจักขุ ธรรมจักขุ และพุทธจักขุ อันบริสุทธิ์
    พร้อมด้วยวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ และจตุปฏิสัมภิทาญาณ
    (สำหรับผู้ปรารถนา พุทธภูมิ พึงอธิษฐานเพิ่มว่า .....
    ให้เจริญด้วย อาสยานุสยญาณ และ อินทริยปโรปริยัตตญาณ ธรรมเครื่องช่วยในการโปรดสัตว์)


    ๓.ให้ได้เข้าถึง ได้รู้ เห็น และเป็นพระธรรมกายมรรค ผล และพระนิพพาน
    คือ ธรรมกายที่บรรลุพระอรหัตตผลแล้ว
    ทำให้แจ้งทั้งพระนิพพานถอดกาย และทั้งพระนิพพานเป็น โดยพลัน
    ให้ได้ตรัสรู้ในธรรมที่ควรรู้ ทั้งสังขตธาตุสังขตธรรม
    และอสังขตธาตุอสังขตธรรมทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง
    ให้สามารถละธรรมที่ควรละ ให้สามารถเจริญในธรรมที่ควรเจริญ
    มุ่งตรงต่อมรรคผลนิพพาน ที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ทั้งปวง


    ๔.ขอให้ได้บุญศักดิ์สิทธิ์ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ เฉียบขาด เป็นทับทวี
    ตามศักดิ์แห่งบารมี และหน้าที่ทนายแห่งพระพุทธศาสนา


    ๕.ขอให้ข้าพเจ้าได้ชนะศัตรู คือ กิเลสมาร ขันธมาร มัจจุมาร
    และอุปาทานในอภิสังขารมาร ด้วยตัณหาและทิฏฐิ คือ ความหลงผิด
    และขอให้พญามารทั้งหลายและบริวาร จงอย่าได้ช่อง
    เข้าครอบงำ ขัดขวาง และทำลายการบำเพ็ญบารมีแห่งข้าพเจ้า
    ตลอดทั้งเพื่อนผู้ร่วมบำเพ็ญบารมีทั้งหลายของข้าพเจ้าได้


    ๖.ให้ได้รู้ถูก เห็นถูก ในธรรมที่ควรรู้และควรเห็น
    ให้เป็นผู้คิดถูก พูดถูก กระทำถูก นำผู้อื่นถูก
    และทรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาของพระบรมศาสดาตลอดไป ในกาลทุกเมื่อ


    ๗.ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ฉลาดในอุบาย แห่งความเจริญและความเสื่อม
    เป็นผู้เฉียบแหลมในอรรถ และ ในธรรม


    ๘.ขอให้สุข สมบูรณ์ บริบูรณ์ ด้วยปัจจัย ๔ สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลาย
    มียวดยานพาหนะ และเครื่องใช้สอยต่างๆ เป็นต้น
    ขึ้นชื่อว่าความขาดแคลนในสิ่งเหล่านี้ อย่าได้มี


    ๙.แม้ว่าข้าพเจ้าจะยังอาภัพอยู่ ยังจะต้องท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสาร
    ก็ขอให้ได้เกิดในฤกษ์สร้างบารมี บริบูรณ์ด้วยสมบัติ ๖ ประการ คือ
    กาลสมบัติ ชาติสมบัติ ตระกูลสมบัติ ประเทศสมบัติ ทิฏฐิสมบัติ และอุปธิสมบัติ
    ให้ได้มีโอกาสศึกษาและปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ตามแนวทางพระพุทธศาสนา
    และขอให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้
    ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว ไม่กระทำอกุศลกรรมอันจะนำไปสู่อบายภูมิอีก
    และถ้าหากยังมีเศษกรรมเหลืออยู่ ก็ขออย่าได้ถึงฐานะแห่งความอาภัพต่างๆ


    ๑๐.เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ก็ขอให้ได้เพศบริสุทธิ์ เป็นชาย ให้ได้บรรพชาอุปสมบท
    เป็นผู้มีอายุยืนกว่าอายุขัยของมนุษย์ในกาลนั้นตามปรารถนา
    และแม้ว่าจะผ่านวัยกลางคน ก็ขอให้มีพลานามัยแข็งแรง
    อายตนะภายในดีเลิศ และสุขภาพจิตใจดีเลิศ


    ๑๑.ขอให้ข้าพเจ้าไม่พึงคบมิตรชั่ว ให้พึงคบแต่บัณฑิตในกาลทุกเมื่อ
    และขอให้ข้าพเจ้าเป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดี คือ
    เป็นผู้มีศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ ประกอบด้วยความเพียรและขันติ
    พึงเว้นจากเวรทั้ง ๕ ไม่เกาะเกี่ยวในกามคุณทั้ง ๕
    พึงเว้นจากเปือกตม คือ กาม

    พึงยินดีในการรักษาศีล เจริญสมาธิ ปัญญา
    วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ โดยสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว


    *** ที่มา
    หนังสือ ทางมรรคผลนิพพาน




    ************************************************


    <iframe width="640" height="480" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/baB_GWg5PEo?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    *************************************************


    <iframe width="440" height="540" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/BKG45weLl9I?&autoplay=
    1&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 57 - 1.jpg
      57 - 1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.5 KB
      เปิดดู:
      11,154
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y9175592-1.jpg
      Y9175592-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.9 KB
      เปิดดู:
      5,541
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    สูตรทำบุญไม่เสียเงินของหลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ

    [​IMG]




    สูตรทำบุญไม่เสียเงินของหลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ

    พอตื่นเช้ามาขณะล้างหน้า หรือดื่มน้ำให้ว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ” ก่อนจะกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ (เป็นอนุสสติอย่างหนึง) ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขากระทำความดี เป็นต้นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ข่าวงานบุญต่างๆ ฯลฯ ก็ให้นึก อนุโมทนา กับเขา

    ผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่ หรือดอกบัวในสระข้างทาง ก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยว่า “พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ” แล้วต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้ หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้าน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า “โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา” (เป็นการบูชาระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ก่อเกิดอานิสงค์แห่งบุญในดวงจิต) เวลาไปที่ไหนเห็นข่าว คนตาย คนเจ็บ คนป่วย คนที่กำลังมีความทุกข์ ก็ดี ผ่านจุดที่คนตายบ่อยๆ เห็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ก็ดี ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บารมีรวมของครูบาอาจารย์ อันมีหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด แผ่บุญไป (เป็นการเจริญเมตตา ฝึกให้จิตมีพรหมวิหาร เป็นการบำเพ็ญบุญ)

    ก่อนนอนก็นั่งสมาธิ เอนตัวนอนลง ก็ให้นึกคำบริกรรมภาวนาไตรสรณะคมนี้จนหลับ ตื่นขึ้นมาก็บริกรรมภาวนาต่ออีกตลอดวัน

    เหล่านี้คือตัวอย่างเทคนิคการตะล่อมจิตให้อยู่แต่ในบุญกุศลตลอดวัน และได้บุญมากกว่าการทำทาน โดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว เป็นการทำให้ดวงจิตเราเกิดแสงแห่งบุญทุกขณะลมหายใจเข้าออก สะสมบุญได้ตลอดทั้งวัน

    เวลาทำบุญ ควรอธิษฐานอย่างไร

    คนส่วนใหญ่เวลาทำบุญมักอธิษฐานว่า ขอให้รวย ขอให้สุขภาพแข็งแรง ขอให้ได้ยศตำแหน่ง ฯลฯ แต่ที่จริงแล้วมีคำอธิษฐานที่ง่าย สั้น ครบวงจรเป็นประโยชน์ครบถ้วนกว่ามาก

    หลวงปู่ดู่เคยสอนไว้ว่า เวลาทำบุญให้อธิษฐานสั้นๆไปเลยว่า "ขอให้ประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์" เพราะคำว่า ความดี นั้นรวมครบหมด ทั้งรวย สุขภาพดี มียศตำแหน่ง มีคนรักเมตตา ฯลฯ ส่วนปราศจากความทุกข์ก็ตัดสิ่งไม่ดีหมดทุกอย่าง ไม่มีทุกข์ ไม่มีโรคภัย ไม่มีอุปสรรค ไม่มีศัตรู ฯลฯ

    ที่สำคัญคือ การ "พบแต่ความดี" นั้นสำคัญมาก เพราะแม้เราจะขอพรจนร่ำรวยจริง แต่ไม่ดี เงินนั้นเราอาจเอาไปเล่นพนัน ไปซื้อยาบ้า สุดท้ายก็พาไปนรก แม้จะมียศตำแหน่งแต่ปราศจากความดี ก็อาจเอาตำแหน่งไปข่มเหงคนอื่น คดโกงประเทศชาติ ก็มีนรกเป็นที่ไป แม้จะมีแต่ใครๆก็รักเมตตา แต่หากเราไม่ดี เราก็อาจกลายเป็นคนเจ้าชู้ หลอกคนนี้ให้รัก คนนั้นให้หลง สุดท้ายก็ทะเลาะตบตีกัน และไปนรกกันทั้งหมู่

    "การขอให้พบความดี" จึงถือเป็นพรอันสำคัญที่สุด เพราะผู้ที่จะทำความดี ต้องมีปัญญาพอที่จะรู้ว่าความดีมีประโยชน์เช่นใด ดังนั้นเมื่อมีปัญญา แม้จะเกิดมาจน ก็ใช้ปัญญาหาเงินจนรวยได้ แม้จะเกิดมาต่ำต้อย ก็ใช้ปัญญาทำงานหายศตำแหน่งมาได้ไม่ยาก แม้เกิืดมาไม่มีใครรัก แต่หากมีปัญญารู้จักพูดจา ใครๆก็จะหันมารัก ที่สำคัญคือเมื่อมีปัญญา ก็รู้ว่าความชั่วไม่มีประโญชน์ ไม่ควรทำ ความดี มีแต่ประโยชน์และควรทำ ดังนั้นจึุงเป็นผู้มีความสุขทั้งโลกนี้ และโลกหน้า มีแต่สุคติเป็นที่ไป นรกไม่ได้เยี่ยมเยีน ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข

    ดังนั้น เวลาทำบุญครั้งใด อธิษฐานง่ายๆก็ได้เช้นกันว่า "ขอให้พบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์..."

    หลวงปู่สอนเรื่องการจบของทำบุญ - อธิษฐานรับพร

    พวกเราในเพจวัดถ้ำเมืองนะล้วนแล้วแต่ชอบการทำบุญและไปทำบุญตามที่ต่างๆกันบ่อยมาก บางคนสงสัยว่าควรจะอธิษฐานอย่างไรในการทำบุญ เลยขอนำข้อมูลที่หลวงปู่ดู่ท่านเคยสอนลูกศิษย์มาเป็นแนวทางให้กับทุกคนลองนำไปใช้ดู

    ก่อนที่ท่านมีศรัทธาทั้งหลาย จะถวายของแก่พระภิกษุสงฆ์ มักจะมีการอฐิษฐานหรือที่เรียกว่า จบของ บางคนจบนาน บางคนจบช้า หลวงพ่อท่านให้ข้อคิดว่า "ก่อนที่เราจะถวาย ให้จบมาเสียก่อนจากบ้าน เนื่องจากพอมาถึงวัด มักจะจบไม่ได้เรื่อง คนมากมายเดินไปเดินมา จะหาสมาธิมาจากไหน เราจะทำอะไรก็ตามอธิษฐานไว้เลย เวลาถวายจะได้ไม่ช้า เสียเวลาคนอื่นเขาอีกด้วย บางคนก็ขอไม่รู้จบให้ตัวเองไม่พอให้ลูกให้หลาน จิตเลยส่ายหาบุญไม่ได้"

    การที่หลวงพ่อให้จบก่อนนั้น มีความประสงค์ให้ตั้งเจตนาให้ดี บุญที่ได้รับจะมีผลมาก ญาติโยมจึงกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า "ควรอธิษฐานอย่างไร" หลวงพ่อตอบว่า "อธิษฐานให้พ้นทุกข์ หรือขอให้พบแต่ความดีตลอดไปจนพ้นทุกข์ ถ้าเป็นภาษาบาลี ก็ว่า สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสวะขะ ยาวะหัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ คนเราจะพ้นทุกข์ได้ ต้องพบกับความดี มีความสุขใช่ไหม ไม่ต้องอธิษฐานยืดยาวหรอก"

    เมื่อทำบุญแล้ว มักจะมีการรับพรจากพระ มีการกรวดน้ำ บางทีไม่ได้เตรียมไว้ต้องวิ่งหากันวุ่นวาย หลวงพ่อบอกว่า "ใช้น้ำใจ น้ำจิต ของเรากรวดก็ได้ เขาเรียกกรวดแห้ง ไม่ต้องกรวดเปียก เรื่องการกรวดเปียก เขาเริ่มมาจากสมัยพระเจ้าพิมพิสาร เมื่อถวายของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านกรวดน้ำให้เปรต ญาติพี่น้องที่มาร้องขอบุญจากท่าน ตอนแรกท่านไม่รู้เลยทูลถามพระพุทธเจ้า ที่เขาเรียกว่า ทุสะนะโส คือ หัวใจเปรตนั่นแหละ" หลวงพ่อท่านตอบเพื่อให้คลายกังวล สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลากรวดน้ำเช่น คนที่รีบใส่บาตรก่อนจะไปทำงาน เป็นต้น

    ส่วนการอธิษฐานรับพรนั้น ท่านแนะนำว่า ตั้งจิตว่า "ข้าพเจ้าขอรับพรที่ได้นี้ขอให้ติดตามข้าพเจ้าตลอดไปในชาตินี้ชาติหน้า" แล้วก็อธิษฐานเรียกพระเข้าตัว เวลาเขามีพิธีอะไร อย่างเช่น เวลาเขาปลุกเสกพระ เราก็สามารถรับพรจากพระองค์ไหน ๆ ก็ได้ทั้งนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.2 KB
      เปิดดู:
      5,082
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กรกฎาคม 2015
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    a.jpg


    อธิษฐานฝากชีวิตไว้กับพระ
    รวมบุญบารมี และความดีทั้งหมด ให้เป็นบุญต่อบุญ บารมีต่อบารมี
    นึกบ่อยๆ ทำบ่อยๆ

    เป็นความชิน เป็นวสี เป็นฌาณ เสวยบุญทุกลมหายใจเข้า-ออก

    จิตจะรับแต่เรื่องดี แม้กำลังทำประโยชน์อยู่ในโลก ในชีวิตประจำวัน

    แต่จิตใจ มีแต่บุญบารมีงอกงาม ทุกลมหายใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]




      “ชีวิตเธอและฉันอาจจะตายก่อนแสงจันทร์ที่มองเห็นในค่ำวันนี้ก็ได้ เรามีอันตรายรอบตัว อันตรายจากสัตว์ร้าย อันตรายจากคนพาล และอันตรายจากลมปราณที่มันอาจจะเกิดหยุดหมุนเวียนเสียเมื่อไรก็ได้ เมื่อมันหยุดเราก็ตาย ตายแล้วจะไปไหน ถ้ามีอารมณ์ฟุ้งซ่านอาจไปอบายภูมิได้

    ควรรักษาสมาธิ มีเมตตา และอารมณ์วิปัสสนาที่ไม่มีอารมณ์เกาะ ปล่อยชีวิต
    ปล่อยทรัพย์สิน ปล่อยญาติ พวกพ้อง บิดามารดา คิดว่าเราไม่มีอะไร แม้แต่ร่างกายมันก็กำลังจะพัง

    โลกนี้เป็นทุกข์ เทวโลก พรหมโลกก็ไม่สิ้นทุกข์ พระนิพพานเท่านั้นจะทำให้สิ้นทุกข์

    ปลดเสียให้หมด อยู่อย่างคนมีความสุข



    โน่น! ต้นไม้ใบไม้ที่กำลังร่วงโรยหรือสดใส จงไปพิจารณาให้เป็นวิปัสสนาญาณ

    วิปัสสนาไม่ใช่เกาะแต่ตำรา จงหาของจริงมาใคร่ครวญ

    วิปัสสนาท่านให้ดูของจริง ไม่ใช่มัวถ่างตาดูแต่ตำราแล้วก็ติดตำราแจ

    ของจริงไม่ใช้จะได้อะไรเป็นที่พึ่ง” 
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4_1.jpg
      4_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      311.4 KB
      เปิดดู:
      5,159
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กรกฎาคม 2015
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ธันวาคม 2015
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    คําสอนของท่านครูบาศรีวิชัย

    [​IMG]











    เครื่องประดับขัตติยะนารีทั้งหลาย มีแก้วแหวนเงินทอง เป็นตัณหากามคุณ

    เหมือนดั่งน้ำผึ้งแช่ยาพิษ สําหรับนําความทุกข์มาใส่ตัวบ่มีประโยชน์สิ่งใดเลย

    แม่น้ำคงคา ยมนา อิรวดี มหิ มหาสรพู ซึ่งเป็นแม่น้ำใหญ่ทั้ง 5 แม่น้ำนี้แม้นจัก

    เอามาอาบให้หมดทั้ง 5 แม่นี้ ก็บ่ อาจจะล้างบาป คือความเดือดร้อนภายในให้

    หายได้ ลมฝนลูกเห็บ แม้นจะตกลงมาหลายห่า เย็นและหนาวสักปานใด ก็บ่

    อาจเย็นเข้าไปถึงภายในให้หายจากความทุกขเวทนาได้
    ศีล 5 เป็นอริยทรัพย์ เป็นต้นเหตุแห่งความบริสุทธิ์ เป็นน้ำทิพย์สําหรับล้างบาป

    คือความเดือดร้อนภายในให้หายได้ เมื่อศีลบริสุทธิ์แล้ว สมาธิความตั้งมั่นก็จะ

    มีมา แล้วให้ปลุกปัญญา ปัญญาก็จักเกิดมีขึ้นได้ คือให้หมั่นรําลึกถึงตัวตนอยู่

    เสมอ ว่า บ่ใช่ตัว บ่ใช่ตน จนเห็นแจ้งด้วยปัญญาของตน

    จึงเป็นสมุทเฉทประหานกิเลส หมดแล้ว จึงเป็นวิมุตติหลุดพ้นจากความทุกข์

    ทั้งมวลได้.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    a.jpg



    เคยมีความสงสัยในการทำบุญ ได้ถามคำถามท่าน(หลวงปู่ ครูบาชัยวงศาฯ)ว่า ทำไมประเทศที่ไม่นับถือพระพุทธศาสนา หลายประเทศ แบบยุโรป อเมริกา คนถึงได้รวยกว่าเราทั้งๆ ที่เราเป็นประเทศพุทธ และมีหลวงพ่อหลวงปู่ที่เป็นเนื้อนาบุญหลายรูป
    ครูบาท่านตอบ...


    พวกนั้น ที่รวย เพราะฤทธิ์ของพญามาร มันหลอกเรา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 20_139.jpg
      20_139.jpg
      ขนาดไฟล์:
      123.1 KB
      เปิดดู:
      3,939
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    [​IMG]


    อย่าไปขัดคอกันนะ ถ้าคนที่เขามีวิสัยพุทธภูมิอยู่ก็พูดกันไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

    ผู้ปรารถนาพุทธภูมิไม่มีความเป็นพระอริยะ มีแต่ฌานโลกีย์เพื่อคุ้มครอง จะเป็นพระพุทธเจ้าต้องพิสูจน์ทุกอย่าง ตั้งแต่อเวจีขึ้นมาต้องรู้หมด

    หมายความว่า ถ้าบารมียังต่ำขั้นฌานโลกีย์ ยังคุมไม่ถึงฌานขั้นต้น ฌานก็ไม่มั่นคง ยังมีโอกาสพลาดลงอบายภูมิ ถ้ามีบารมีเป็นอุปบารมี ก็ปลอดบ้างไม่ปลอดบ้าง ถ้าเป็นปรมัตถบารมีนี่ปลอดหมด กว่าจะเลื้อยแต่ละบารมีนี่ โอ้โฮ ฉันลองดูแล้ว

    สำหรับท่านที่บำเพ็ญตนปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ ต้องสร้างกำลังใจให้ถูกต้อง มิฉะนั้นการก้าวเข้าสู่ฐานะพุทธภูมิจะไม่มีผล การปรารถนาพุทธภูมิเป็นของดี แต่จะต้องทำความรู้สึกไว้เสมอว่า เราปฏิบัตินี้เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เราต้องการซื้อสัตว์ขนสัตว์ที่มีความทุกข์ให้มีความสุข จิตจะต้องคิดอยู่เสมอว่า ทุกข์ของตนไม่มีความหมาย แต่ทุกข์ของชาวประชาทั้งหลายเป็นภาระของเรา เขาทำกำลังใจกันแบบนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • LP33.jpg
      LP33.jpg
      ขนาดไฟล์:
      146.8 KB
      เปิดดู:
      6,932
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กรกฎาคม 2015
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    ...........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ธันวาคม 2016
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    โอวาทธรรมหลวงปู่สด จนฺทสโร
    #การทดแทนคุณมารดาบิดาของบุตร#

    การบวชในธรรมวินัยน่ะ ได้ชื่อว่า สนองคุณมารดาบิดาจริงๆเชียว มารดาบิดาน่ะ ถ้าว่าเห็นลูกบวชแล้ว ปลาบปลื้ม เอิบอิ่ม เต็มตื้นนัก อะไรจะไปเท่าไม่มีล่ะ ร่าเริงบันเทิงใจ จะกินข้าวหรือไม่กินไม่รู้ละ อิ่มเอิบไปหมด บอกไม่ถูกทีเดียว ถ้าว่าลูกของใครบวชเข้าไปแล้ว ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายปลาบปลื้ม อิ่มเอิบ ตื้นเต็มอย่างนั้น บาลีท่านยืนยันในมงคลทีปนทีว่า

    #มารดาบิดาไม่มีศรัทธา ไม่เชื่อในพระรัตนตรัย เชื่อในพระรัตนตรัยขึ้น นี่เป็นแทนคุณข้อที่ ๑

    #มารดาบิดาไม่มีศีล ให้มีศีลขึ้น นี่เป็นแทนคุณข้อที่ ๒

    #มารดาบิดาไม่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ให้เลื่อมใสหนักขึ้น นี่เป็นแทนคุณข้อที่ ๓

    #มารดาไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ แก้ไขมารดาบิดา ให้รู้จักประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ขึ้น

    เหมือนกับตนผู้บวชในวันนี้ มารดาบิดาไม่เลื่อมใส ทำให้เลื่อมใสหนักขึ้น หรือเลื่อมใสน้อย ทำให้เลื่อมใสมากขึ้น มารดาบิดาไม่มีศีล เข้าใกล้พระรับศีล เมื่อเข้าก็รับศีลแล้ว เมื่อตอนก่อนก็รับศีลเหมือนกัน นี่เขาเคยรับศีลมาบ้างแล้ว รับศีลแน่นหนาหนักขึ้น ให้ทั่วไปกับพระภิกษุอื่น เมื่อลูกบวชเช่นนี้ เห็นพระภิกษุอื่น สามเณรอื่น ก็เหมือนอย่างกับลูกเรา รักใคร่ภิกษุสามเณรขึ้นทีเดียว สมเพชเวทนา มีข้าวปลาอาหารก็เอามาเลี้ยงดูทีเดียว นี่เป็นต้นเป็นตัวอย่าง

    เมื่อมารดาบิดา ไม่เชื่อแท้แน่นอน ลงไปในพระพุทธศาสนา ก็ให้มีธรรมกายเสีย เชื่อแท้แน่นอนแล้ว ลูกน่ะแก้ไขให้มีธรรมกายแท้แน่นอนแล้ว มารดาบิดาไม้รู้จักสูงต่ำ เมื่อรู้จักพุทธศาสนาแล้ว รู้จักสูงต่ำทีเดียว นี่มันชั้นสูง อ้อ!เมื่อก่อนเราเล่นมีลูกมีเต้ามาเดิมน่ะ มันเล่นอย่างเด็กๆนี่ นี่พระท่านไม่เล่นด้วย ท่านไปไกลอย่างนี้ มาเป็นธรรมกายพระอรหัตเข้าแล้ว ไปไกลหนักขึ้นไป ก็ดีอกดีใจ ชอบอกชอบใจ อย่านี้ได้ชื่อว่า ได้แทนคุณมารดาบิดาจริงๆทีเดียว

    ถ้าว่าจะแทนคุณมารดาบิดาน่ะ ให้เอาทองคำมาทั้งแผ่นนั่นแหละ เป็นเจ้าจักรพรรดิ นิมิตแผ่นปฐพีให้เป็นทองคำทั้งแผ่น มอบให้บิดามารดา มอบให้เป็นสมบัติพรรดิตราธิราช ให้บิดาเป็นเจ้าจักรพรรดิตราธิราช ให้มารดาเป็นพระมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิตราธิราช เป็นแต่กตัญญูต่อมารดาบิดา ไม่ใช่ว่าตอบแทนคุณ แม้ว่าจะเอามารดาขึ้นนั่ง ให้มารดาขึ้นนั่งบ่าขวา บิดาขึ้นนั่งบ่าซ้าย ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ บนนั้น เสร็จจนหมดอายุของลูกนั่นแหละ จะชื่อว่าแทนคุณบิดามารดาก็หาไม่ ได้ชื่อว่าเป็น กตัญญูกตเวทีต่อมาดาบิดาเท่านั้น ชื่อว่าแทนคุณแท้ๆ ดังกล่าวแล้ว #มารดาบิดาไม่มีศรัทธาให้มีศรัทธาขึ้น #ไม่มีศีลให้มีศีลขึ้น #ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใสขึ้น #ไม่รู้บาปบุญคุณโทษให้รู้จักบาปบุญคุณโทษขึ้น ๔ ประการนี้ วางหลักไว้

    .......................
    พระมงคลเทพมุนี
    หลวงปู่สด จนฺทสโร
    .......................
    จากเทศนาธรรมเรื่อง
    รัตนะ
    ๒๓ พฤษภาคม ๒๔๙๗
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...