บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

รอคุณเด็กผู้ชายมาเล่าต่อค่ะ ได้ประโยชน์มากเรยย ;41;aa42

 

ขอบคุณครับ... ผมเองก็พยายามจะใช้ภาษาเขียนให้เหมือนภาษาพูด
เพื่อให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนเรากำลังนั่งล้อมวงคุยกันอยู่น่ะครับผม..

ไปครับ.. ไปอินโดนีเซียกัน..

พี่โดม.. รุ่นพี่วิศวไฟฟ้าห้องข้างๆกัน
พี่เค้าก็มีครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถืออยู่ทางภาคเหนือ
และรุ่นพี่ที่มีญาณสมาธิสูงๆ..พบปะพูดคุยเป็นระยะๆ

ตอนนั้นก็ช่วงต้นปี 55
พี่โดมเล่าให้ฟังว่า.. อาจารย์ได้อัญเชิญสิ่งศักสิทธิ์ที่อยู่ในเจดีย์บูโรพุทโธขึ้นไปไว้ทางเหนือแล้วนะ !!!

" อ้าว!!... ทำไมล่ะพี่ ???"....... ผมถาม

" ก็อีกหน่อยแถวนั้น.. มันจะจมทะเลงัย !!! " ...... พี่โดมตอบกลับมา

ว่าแล้วพี่โดมก็เล่าให้ฟังต่อ..
" ทางใต้เราก็เหมือนกัน.. สิ่งศักสิทธิ์ต่างๆทางใต้
อาจารย์ก็ไปอัญเชิญขึ้นมาเก็บรักษาเอาไว้ที่ทางเหนือแล้วเช่นกัน!!! "

"พวกรุกขเทวดา.. พวกยักษ์.. พวกคนธรรพ์
พวกนี้... ก็อพยบขึ้นมากันก็หลายปีแล้วนะ..!!! "

ไอ้ผมเองนั้น.. โดยส่วนตัวที่เคยได้ศึกษามาบ้าง ก็พอจะเข้าใจอยู่บ้างว่า
สเกลเวลาของคนแต่ละกลุ่มมันไม่เท่ากัน..!!!

ดังนั้น.. สเกลเวลาของกลุ่มผู้อพยบเหล่านั้น คงจะเหลือเวลาอีกไม่นานมากเท่าไร
พื้นที่ที่พวกตนใช้อยู่อาศัยอยู่นั้น ก็จะจมลงทะเลจนแทบไม่เหลืออะไร
แต่ถ้าเทียบเป็นสเกลเวลาของมนุษย์แล้ว...มันหลายๆปีมากเลยยังไม่เห็นมันเกิดอะไรขึ้นซะที ???

.... เจดีย์ บูโรพุทโธ ( Borobudur )
ผมเองจำได้ว่าตั้งอยู่บนเกาะชวากลาง ก็เกาะเดียวกันกับ จากาตาร์ เมืองหลวงของอินโดนีเซียนั่นแหละครับ !!!

ตอนนั้น.. นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานของพี่เค้านี่ computer ก็มี!!
ว่าแล้ว... ผมก็ชวนให้พี่เค้าเปิด Google map ลองเช็คดูว่าอยู่ที่เกาะชวากลางใช่มั๊ย ???

...... ใช่ครับ.. เจดีย์บูโรพุทโะ ตั้งอยู่ที่เกาะชวากลาง

ว่าแล้วพี่โดมก็ปรับ mode google map ไปที่ตำแหน่ง.. "ภาพจากดาวเทียม"

ก็ดูภาพมุมสูงของโบราณสถานทางพุทธศาสนาไปเรื่อยๆ..
ว่าแล้ว.. ก็ Zoom out ออกมาดูเรื่อยๆ..เรื่อยๆ...

" เอ้ย !!!" ...... พี่โดมอุทานขึ้นมา

" อะไรเหรอพี่ ??? " ....... ผมถาม

" ก็ดูซิ!!.... แถวๆรอบๆที่ตั้งบูโรพุโธ มีแต่ภูเขาที่เป็นภูเขาไฟที่ดับไปแล้วทั้งนั้นเลย !!! "

" ดูซิ!!... เพียบเลย
ตรงโน้นก็มี... ตรงด้านนี้ก็มี...
โอ้โห !!!.... เกาะนี้ทำไมมันมีแต่ภูเขาไฟเต็มไปหมด ทั่วทั้งเกาะเยอะขนาดนี้นี่ ??? "

...... " ผมเข้าใจแหละ!!.... ที่คนโบราณเขาสร้างเจดีย์บูโรพุทโธขึ้น
ก็เพื่ออาศัยอำนาจของพุทธคุณ มาสยบพวกภูเขาไฟพวกนี้นั่นเอง..!!! "

พี่โดม..สรุปจากความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมา..
ผมเอง.. ฟังพี่เค้าแล้วก็มองเรื่องของเหตุผลและปัจจัยแวดล้อมก็โอเคเลยล่ะครับ..!!!

เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ...
ถ้าคุณได้ลองเปิด google map เข้าไปดูสภาพโดยรอบของ Borobudur..

คุณคิดว่าอย่างไรล่ะครับ..... ???

 

อ่านข้อความคุณเด็กผู้ชายแล้วอดสงสัยไว้หลายประเด็น

ประเด็นแรก

ทำให้เข้าใจว่า เมื่อถูกอัญเชิญขึ้นไปแล้ว บูโรพุทโธ จะไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักษ์รักษา

กราบขออภัยในข้อสงสัย ดิฉันไม่ได้ลบหลู่ ด้วยสัจจริง

การอัญเชิญย้ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปประทับ ณ แห่งใหม่ ฟังดูแล้ว "ง่าย" เอ.. ทำได้ด้วยหรอ จริงรึปล่าวนะ

ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งศักดิ์ที่ปกปักษ์รักษาภพสภานที่นั้นๆ ท่านจะคงปกปักษ์รักษาตรงนั้นตลอดไป

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น โดนน้ำท่วม โดนเผา จะล่มสลาย หักพังไปแล้ว ท่านจะยังคงรักษาอยู่ ดั่งเช่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถูป เจดีย์ พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

และเท่าที่อ่านดูประวัติเจดีย์ มีประวัติเคยชำรุด น้ำท่วม ดินทรุด ในอดีตก็เคยเกิดมีมาก่อนนี้

จนมีการซ่อมแซมบูรณะมาก็หลายยุคสมัย ก่อนจะมีการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทางเหนือ ตามที่ท่านกล่าวถึง

ช่วยอัตถาธิบายไขข้อกังขาคนชอบสงสัยสักนิด ข้อแรกจ้า ^^

 

ขอบคุณคุณเอ้...กลุ่มไลน์BTG
อนุญาตเอาข้อมูลมาลงครับ...

....................................



รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก
3 hours ago
รังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.56 ได้ถึงฝั่งตะวันตกของสหรัฐแล้ว

การคาดการณ์ว่าเศษละอองที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีในทะเล จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ จะเข้าสู่ชายฝั่งตะวันตก ของสหรัฐ ในปี 2014 ได้มาถึงแล้ว ที่ชายหาดในซานฟรานซิสโก ซึ่งหน่วยงานใช้เครื่องวัดกัมมันตภาพรังสี ปรากฏว่าค่ามาตรฐานระดับรังสีสูงกว่าปกติ 5 เท่า จากระดับที่ปลอดภัย

" ในวันต่อมา มือสมัครเล่นคนอื่น ๆ ที่มีเครื่องวัดกัมมันตภาพรังสีเริ่มโพสต์วิดีโอ ที่คล้ายกันลงออนไลน์ " วิดีโอตามข่าว ที่น่ากลัว อื่น ๆ ในเดือนที่แล้วว่า ได้แจ้งว่าปลาดาวและสัตว์ทะเลอื่นๆได้ถูกพบเกยตื้นตายกระจัดกระจายอย่างลึกลับไปตามชายฝั่งตะวันตก ซึ่งมีแนวโน้มว่าเป็นการเชื่อมโยงกับสาเหตุการรั่วไหลของรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ

ในขณะกำลังตรวจสอบสาเหตุของรังสีและ หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของการปล่อยรังสี ในสัปดาห์นี้ TEPCO และ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ถูกจับโกหกซ้ำแล้วซ้ำอีก ในความพยายามที่ จะกลบเกลื่อน วิกฤตการณ์ภัยพิบัติ Fukushima ว่าไม่รุนแรง ในเดือนกันยายน การปล่อยรังสีรอบโรงไฟฟ้าก็ได้ถูกยืนยันรังสีที่อ่านได้ รอบโรงไฟฟ้าเป็น 18 เท่าสูงกว่า รายงานก่อนหน้านี้ โดย TEPCO

Has Fukushima radiation already reached the U.S. West Coast? | The Extinction Protocol

@Sukit Chongchokdie
.........................................................

ข้อสงสัยของคุณน้ำใสไหลเย็น..
ติดเอาไว้ก่อนนะครับ.. เดี๋ยวมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันครับ

 

กรรมมันซับซ้อนครับ
พิจารณาบางเรื่อง เหมือนด้ายพันกันเป็นปมเป็นขดมากมาย แก้ให้เข้าใจได้ยาก
เมื่อมีหน้าที่ก็เฝ้า เมื่อหมดหน้าที่ก็เปลี่ยน เมื่อไม่มีธุระก็ไม่ต้องทำธุระ เมื่อยึดอยู่ก็ต้องดูแล เมื่อไม่ยึดก็ไม่ต้องดูแล
ท่านใดทำหน้าที่ใดๆ ก็เป็นไปตามหน้าที่ พิจารณาแล้วยืดยาว เข้าใจยาก แต่ดูดีๆก็เป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีอะไร
เอาปัญญากันดีกว่าว่า"ทุกสิ่งอย่างไม่มีอะไรเลย ที่จะให้ผลเกินไปกว่าเหตุ มันสมบูรณ์ในตัวมันเองทุกคราวไป" ...

ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ

^_^
_/\_

 

ความเห็นส่วนตัว นะครับ

ไม่ต้องไปอัญเชิญท่านหรอก ครับ
เพราะท่านรู้สถานการณ์ดีกว่าพวกเราเดินดินมากมาย
เหล่าอทิสมานกาย ไป/มา รวดเร็วเท่าลัดนิ้วมือ

เราควรแผ่เมตตาให้ผู้คนแถวนั้นซึ่งไม่มีที่จะไปดีกว่า ครับ

 

มาว่ากันต่อครับ...

ก่อนอื่นเลย.. ผมต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับ.. ว่า
การปฏิบัติตนเองและการทำสมาธิของผม.. ช่วงหลังมานี่
เป็นประเภทลักปิดลักเปิด.. ว่างอยากทำก็ทำ.. คิดได้ก็ทำ

ดังนั้น.. ให้วิจาณตนเองก็ต้องบอกได้เลยว่าระดับ.. "หางอึ่ง" ครับ

ผมจะพูดก็เฉพาะที่ผมรู้เท่านั้น.. ไม่รู้ก็จะบอกว่าไม่รู้
ไม่มีมากลัวจะเสียฟอร์ม.. เพราะว่าผมไม่มีฟอร์มอะไรมาให้เสียครับ..!!!

มาเล่นกระทู้ที่นี่.. เพราะว่าอยากจะหาเพื่อนพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติกัน..!!!
ไม่ได้มาเป็นเจ้าสำนัก.. หรือมาเป็น Someone... Somebody อะไรทั้งนั้นนะครับ..!!!

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ขอยกตัวอย่าง.. เอาแบบจากประวัติศาสตร์ที่เราร่ำเรียนกันมานะครับ..

ร.1 ท่านขออัญเชิญพระแก้วมรกต จากวัดพระแก้ว นครเวียงจันทร์
เพื่อมาประดิษฐานที่วัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร...
พระแก้วมรกต.. ท่านยังไม่ยอมลงมากรุงเทพเลยในขณะนั้น
แต่ท่านกลับไปประดิษฐานอยู่ที่เชียงใหม่เสียตั้งหลายปี..
ก่อนที่จะอัญเชิญท่านลงมาประดิษฐานที่วัดพระแก้ว ในกรุงเทพมหานครของเราจนถึงปัจจุบัน..

ผมว่าท่านทราบดีว่าท่านจะต้องประดิษฐาน ณ. ที่แห่งใด
ตามกาลเวลาและเหตุปัจจัยต่างๆ....

เรื่องพวกนี้.. เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ
ท่านที่มีภูมิธรรมสูงๆ.. น่าจะอธิบายเรื่องเหล่านี้ได้กว่าผมมากๆนะครับ
แต่ผมก็เชื่อว่าท่านก็คงไม่มานั่งอธิบายในกระทู้แบบนี้หรอกครับ..???

ด้วย.. คนที่เข้ามาอ่านกระทู้เปิดแบบนี้
มีความแตกต่างทางภูมิธรรมการประพฤติปฏิบัติตนเองที่แตกต่างกันมากๆ...

มีตั้งแต่.. ผู้ที่เคร่งปฏิบัติเข้าออกฌาณได้คล่องเป็นว่าเล่น...
ยันผู้ที่ไม่เคยฝึกนั่งสมาธิมาเลยสักครั้งในชีวิต...
อาจจะรวมไปถึงยังผู้ที่ไม่เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรมด้วยซ้ำที่เข้ามาอ่านกันอยู่ในขณะนี้..

การพูดอธิบายอะไรบางอย่างลงไป..
คนกลุ่มหนึ่ง.. สามารถรับรู้รับทราบและเข้าใจได้ชัดแจ้งในทันที
ขณะที่คนอีกกลุ่มนึง.. ลังเลสงสัยไปในทางไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง รวมทั้งพาลไปหลบหลู่ดูหมิ่นเข้าไปโน้น...!!!

มันจะก่อเป็น"มโนกรรม"กับคนกลุ่มหลังนั้นเปล่าๆนะครับ..!!!

การอธิบายข้อธรรมหรือเรื่องราวที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง
ท่านเหล่านั้น.. มักจะหาโอกาสและใช้สถานที่สงบ
โดยเลือกระดับขั้นในการอธิบาย เพื่อลดการเกิดมโนกรรมที่อาจะเกิดขึ้นกับคู่สนทนาได้

เพราะมโนกรรมที่ถ้ามันได้เกิดขึ้น.. กรรมที่เกิดจากมโนกรรมนั้น..
มันก็จะไปขัดขวางการเจริญธรรมของบุคคลผู้นั้นเองในอนาคต ซึ่งก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อผู้นั้นเลยจริงๆครับ...

 

กำลังพิมพ์เรื่องบูโรพุทโธต่อซะหน่อย..
พิมพ์ไปได้เยอะพอประมาณ.. จู่ๆเวปก็มาแฮงค์ไปซะงั้น ???

ลองเปิดเวปอื่นก็เปิดได้ปกตินี่หน่า... !!!
ชะรอยจะให้เบรคเรื่องนี้เอาไว้ก่อนซะละมั๊งครับนี่ ???

............................555

 

มานั่งรออ่านเลยค่า เอาใจช่วยพี่เด็กผู้ชาย พิมพ์ใหม่ ๆ สู้ ๆ (f)

 

ไม่ทราบมีไครนำมาลงให้อ่านกันหรือยังครับ.???
งั้นขอโพสรายงานข่าวจากคุณเอ้.. ที่โพสให้อ่านกันในกลุ่ม Line BTG ครับ
ขอบคุณครับ..
...................................................

รายงานภัยพิบัติประจำวันที่ 8 มกราคม 2557
Posted on 08/01/2014

เหตุการณ์วันนี้

คำอธิบายเรื่องอากาศเย็นผิดปกติเวลานี้ในอเมริกา
ปกติ โลกจะทีลมหมุนเย็นเหนือเส้นอาร์คติคที่ขั้วโลก (ผมเรียกลมมงกุฏ) ฝรั่งเรียก Polar Vortex อยู่แล้ว ลมนี้ปกติจะ “ถูกกัก” ไว้ด้วยลมหมุนอีกสายหนึ่ง (เส้นสีดำ) ที่เรียกว่าเจ็ทสตรีม ความผิดปกติระยะแรกคือ

(1) ปีนี้ลมเจ็ทสตรีมแรงมาก กักลม Polar Vortex ไว้จนเย็นจัดและหนักมาก โดยในปีอื่นๆนั้น ลมเจ็ทสตรีมไม่แรงเท่านี้ ลม Polar Vortex ก็มีโอกาสหลุดรั่วออกมาบ้าง ไม่อัดอั้น

(2) แต่ปีนี้ลมเจ็ทสตรีมแรงและกักไว้ไม่ให้รั่ว สุดท้ายลม Polar Vortex ก็หนักจนดันลมเจ็ทสตรีมให้โค้งลงมา ประกอบกับลมร้อนศูนย์สูตรปีนี้ก็ร้อนมาก ลมร้อนก็พยายามต่อสู้

(3) ผลก็คือส่วนที่โค้งที่ลงมาจาก Polar Votex โดนลมร้อนจากมหามุทร 2 สายดันขึ้น ส่วนโค้งที่เย็นก็โป่ง ลงมาในอเมริกาพอดี..

 

ขออนุญาตคุณ baiyanang นำเอาคำถามจาก IM
ซึ่งผมเห็นว่าเป็นข้อมูลน่ารู้แก่ท่านอื่นด้วย
มาลงตอบคำถามในกระทู้พระคุณลุงนี้นะครับ.. ขอบคุณครับ
..............................................................


เรียนคุณเด็กผู้ชายค่ะ

---------------------------------------
อยากรบกวนคุณเด็กผู้ชายเรียนถามคุณหมอพรานให้หน่อย
กรณีตัวยาโปตัสเซี่ยมไอโอไดน์นี้ ถ้าคนที่เป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ
และทำการรักษาด้วยสารกัมมันตภาพรังสี( i131 ) เพื่อทำลายต่อมไทรอยด์ไป กินthiroxin อยู่วันละเม็ด

ตัวโปตัสเซี่ยม ไอโอไดน์ เราจะกินอย่างไรในเคสนี้คะ..???

...................................................

ตอบคำถามจากคุณหมอพราน..

ปกติ.. ต่อมไทรอยด์ มีหน้าที่ผลิตไทร๊อคซิน ( Thiroxin )
เพื่อให้ร่างการเราเอาไปใช้งานในระบบเมตาบอลิซึม ( Metabolism : ระบบย่อยสลายและดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ระบบร่างกาย )

ซึ่งในการผลิตสารไทร๊อคซินนี้..
จำเป็นต้องใช้สารไอโอดีนเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต

ในสภาวะเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ..
ก็คือการที่ไทรอยด์สร้างสารไทร๊อคซินมากเกินความจำเป็น..!!!

ดังนั้น.. วิธีการรักษาจึงใช้วิธีฉายรังสี
เพื่อทำลายต่อมไทรอยด์ทิ้งไป..!!!

เมื่อไม่มีต่อมไทรอยด์แล้ว..
แต่ร่างกายยังจำเป็นต้องใช้สารไทร๊อคซินอยู่ตลอดเวลา
จึงจำเป็นต้องทานไทร๊อคซินเม็ดเข้าไปทุกวันตามที่คุณใบหญ้านางแจ้งมาครับ..!!!

คุณหมอพรานอธิบายต่อว่า..
ใช่อยู่.. การฉายรังสีเพื่อทำลายต่อมไทรอยด์
สามารถกำจัดได้จริง... แต่แน่ใจได้อย่างไรว่า..

ในระดับอนุภาค ( Microscope )
มันได้โดนทำลายจนหมดสิ้นแล้วจริงๆหรือ..???

ซึ่งถ้าในระดับอนุภาคไม่ได้โดนทำลายจนหมดสิ้น
ยังคงมีเซลต่อมไทรอยด์เหลืออยู่เพียง 1 หรือ 2 เซลเท่านั้น..

เวลาที่เกิดไปโดนกัมตภาพรังสีจากแหล่งอื่นๆ ด้วยวิธีใดๆขึ้นมาละก็...???
เจ้าเซล..สองเซล..ที่ยังคงเหลืออยู่ของต่อมไทรอยด์
มันก็พร้อมจะพัฒนาตัวของมันเองเป็นเซลมะเร็งได้ในไม่ช้าครับ.. !!!

ดังนั้น.. คุณหมอพรานแนะนำว่า
ให้ทานไทร๊อคซินเม็ดไปตามปกติ
และแถมด้วยการทานโปตัสเซี่ยม ไอโอไดน์ ( KI ) เสริม.. ตามต้องการครับ !!!

...............................................................

ข่าวเสริมจากทางคุณหมอพรานและคุณหมอนก...
แจ้งมาว่า.. CME จากการระเบิดของจุดดับบนดวงอาทิตย์ เมื่อหลายวันก่อนนั้น..
ซึ่งมีความแรงระดับ Class X
จะเดินทางมาถึงโลกเราในช่วงบ่ายวันนี้.. !!!

ท่านใดที่ไม่มีเหตุจำเป็นอะไร..
ก็หลบแดดอยู่ในอาคารก็แล้วกันนะครับ..!!!
พลังงานกลุ่มนี้.. มันจะเริ่มมีผลกระทบตั้งแต่ราว.. บ่ายสองโมง
จนมีกำลังแรงสุด.. ตอนราวห้าโมงเย็นสำหรับเมืองไทยเรา..!!!

หลังจากนั้น.. โลกก็หมุนให้เมืองไทยเราไม่โดนแสงแดด
ทีนี้.. ก็เป็นคิวของซีกโลกอื่นที่จะหันหน้าเข้าดวงอาทิตย์แทนเรา..!!!

ขอบคุณครับ...

 

ได้รับการส่งต่อมาทางไลน์..
เห็นว่าน่าจะมีปนะโยชน์กับหลายๆท่าน..
จึงขออนุญาตเอาโพสให้ได้รับทราบกันครับ...!!!
.................................................

โรงพยาบาลธรรมชาติ(บำบัด)
แบ่งปันกันต่อ...

๑. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ ๑๐กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว

๒. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีดและกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้ค่ะ

๓. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกิน กระเทียม หอม พริกให้มากเข้าไว้

๔. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ ๕ ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี)

๕. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน

๖.โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่ หอมแดงต้นหอมและเอาหอมซุก ไว้ใต้หมอน

๘.ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย, ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง

๙.กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)

๑๐.ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ

๑๑.ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น

๑๒.โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก

๑๓.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิงหรือเต้าฮวย

๑๔.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์ปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือก็ได้

๑๕.หงุดหงิดง่าย..ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า

๑๖.กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมมาก) มะม่วงจิ้มกะปิ และ สับปะรด ซึ่งมีธาตุสมานกระดูดอยู่มาก( แมงกานีส)

๑๗.ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้

๑๘.มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด

๑๙.มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู่ที่ยังสูบบุหรี่อยู่

๒๐.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑-๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย

๒๑.เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน ผลอโวคาโดเพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย

๒๒.ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินและผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น

๒๓.เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และ กินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก
............................
โรงพยาบาลธรรมชาติ
หัวจรดเท้ารักษาเองได้ก่อนต้องไปหาแพทย์

 

คุณเด็กผู้ชายสบายดีนะครับ....ชอบเนื้อหาสาระที่แปลกแต่เป็นประโยชน์ เช่น เสื้อชุบสารส้มละลายน้ำ น่ะ ถ้ามีเรื่องอันเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสี อัพเดตมาเรื่อยๆนะครับเพราะผมกลัวลมมันเปลี่ยนทิศ...ชีวิตหลังความตายไม่ได้หวั่นกลัว แต่กลัวไอ้ตอนที่มันยังหายใจกันอยู่นี่หละ...

 

ขอบพระคุณทั้งคุณเด็กผู้ชาย และ คุณหมอพรานด้วยค่ะ ที่กรุณาตอบคำถาม

 

เมื่อวานวันที่9พนักงงานของเราหลายคนบ่น อึดอัด หายใจไม่สะดวก คล้ายอาการที่เกิดจากcmeที่มาถึงโลกไหมคะ

 

สวัสดีครับ.. คุณ DNA1126 และทุกๆท่าน

เอาเรื่อง CME ก่อนเลยแหละกันครับ..
จากเมื่อวานที่ 2 คุณหมอได้พูดเตือนเอาไว้ว่า..
ช่วง 5 โมงเย็นแสงแดดมันจะแรงที่สุด..!!!
หลบได้.. ให้หลบไม่โดนแสงแดดนั้น..

ไอ้ผมเองนั้น.. เลิกงาน 5 โมงเย็นพอดี
แล้วก็รีบเผ่นออกจากสนามบินกลับบ้านทางถนนวงแหวนตะวันออก

ผมว่าผมได้ได้คิดไปเอง.. หรือว่าวิตกจริตนะครับ..
แต่เมื่อวานระหว่างขับรถกลับบ้านนั้น
แสงแดดมันเข้าทางด้านซ้ายมือของผม
มันก็ส่องโดนหน้าทางซีกซ้าย..
มันร้อน.. แสบอย่างไรก็ไม่รู้

สรุปจากก่อนด่านทับช้าง - ลำลูกกา
ผมโดนแดดส่องอยู่ 20 นาทีกว่า..
มันทั้งร้อน..ทั้งแสบหน้าทางซีกซ้ายมากๆ

มันแสบจนพอถึงบ้านพรรคพวกที่คลองสี่..
ผมเดินไปที่อ่างล้างหน้า.. ขอตักเอาน้ำขึ้นมาลูบหน้าซีกซ้ายให้มันคลายแสบร้อน !!!

แล้วมานั่งคิดทบทวนตัวเอง..
... เอ!!... นี้เราคิดไปเองหรือป่าวหว่านี่ ???

ก็สรุปได้ว่า.. เราไม่ได้คิดหรือวิตกจริตไปเอง
แสงแดดตอนนั้น... มันแรงจริงๆครับ !!!

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ส่วนเรื่องการเตรียมตัวรับมือภัยจากกัมมันตรังสีนั้น..
ขอยอมรับเลยครับว่า... ผมเองก็มือใหม่หัดขับครับ..!!!

เดี่ยวไว้มีโอกาสจะสอบถามจากทั้งคุณหมอพรานและคุณหมอนก
รวมทั้งอาจจะคุณหมอท่านอื่นๆมาให้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมกันอีกนะครับ..

เห็นคุณหมอนกกำลังหา File ข้อมูลเรื่องอาการและการรักษาเบื้องต้นให้อยู่ครับ..

ส่วนวิธีการใช้สารส้มมาประยุกต์ใช้งานนั้น..
ผมว่า.. บุคคลที่จะสามารถแนะนำแนวแบบนี้ได้นั้นนะครับ..???

จะต้อง.. กำศึกมาอย่างโชกโชนเลยละครับ..
ยิ่งพอทราบว่ามาจากอิสราเอลด้วยแล้ว
ศัตรูพี่แกมีอยู่รอบประเทศไปหมด.. ความระวังภัยคนพวกนี้จะสูงมาก.!!!
และพี่แกมีเทคนิดการประยุกต์ใช้วัสดุอุปกรณ์พื้นบ้านได้อย่างสุดยอดจริงๆ.!!!

ผมว่า.. ดีไม่ดีนะครับ...???
คนที่มาเล่าให้ฟังเคยอยู่หน่วยมอสสาดมาก่อนด้วยหรือป่าวสิครับ.???

Note : มอสสาด ( Mossad ) หรือ องค์กรข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล ภาษาอาหรับเรียกว่า อัลมอสสา ลิ้ล อิสติคบารัต วั้ล มะฮ์อาม อัล อัซซะฮ์ ซึ่งถือเป็นสำนักข่าวกรองแห่งชาติอิสราเอล
มอสสาดมีหน้าที่เป็นหน่วยปฏิบัติการ ที่ทำการรวบรวมข่าวกรอง และประเมินข่าว ทุกข่าวที่เป็นที่น่าส่งสัย และรวมถึงเป็นหน่วยงานทางปทหารออกปฏิบัติการการสังหารและปฏิบัติการนอกเขตแดนอิสราเอล มีหน้าที่นำพาชาวยิวและคุ้มกันและปกป้องชาวยิวในการออกจากประเทศต่างๆ เป็นการปฏิบัติการลับ โดยขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลโดยตรง

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ตอนนี้คุณ DNA1126 คงจะฝึกกับพระอาจารย์ไปได้มากทีเดียว
มีข่าวคราวอะไร... ก็รบกวนส่งข่าวมาให้ทราบกันบ้างนะครับผม..!!!

 

จากคุณเสาวนีย์วร..
... " เมื่อวานวันที่9พนักงงานของเราหลายคนบ่น อึดอัด หายใจไม่สะดวก คล้ายอาการที่เกิดจากcmeที่มาถึงโลกไหมคะ ??? "

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ..
ผมว่าก็น่าจะมีส่วนครับ..

ระบบสื่อสารในร่างกายมนุษย์..
ทางการแพทย์เขาว่าสื่อสารกันโดยเป็นประจุไฟฟ้าเล็กๆ
( ถ้าผมเข้าใจผิดหรือสื่อสารผิด.. รบกวนคนที่ทราบช่วยแนะนำแก้ไขข้อมูลมาได้เลยนะครับ.. ขอบคุรครับ )

พอพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูงมากระทบกับระบบในร่างกายเราก็น่าจะมีผลกระทบโดยตรงนะครับ..

ผมเคยดูการทดลองของ ดร. ก้องภพ
ที่แสดงให้เห็นว่า.. พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังแรงสูงนั้น สามารถทำให้เกิด "ลม" ได้ !!!

ผมเองไม่เคยรับรู้รับทราบมาก่อน.. มันทำได้ด้วยเหรอ ???
จนการทดลองสิ้นสุดลง...
เออ!..... มันสามารถสร้าง"ลม"ได้จริงๆแฮะ !!!

ผมเลยเชื่อว่า.. พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูงที่เกิดจากการระบิดบนดวงอาทิตย์
มีผลกระทบกับระบบร่างกายเราแน่ๆครับ..!!!

ลำพังอาจจะทำให้ระบบสื่อสารระหว่างเซลในร่างกายเรารวนได้
แถมรวมทั้งอาจจะทำให้ระบบเลือดลมในร่างกายเราปั่นป่วนด้วยเช่นกันครับ..

เมื่อก่อนตอนเด็ก.. ที่บ้านยังใช้เสาอากาศทีวีแบบเสาอลูมิเนียมติดเอาไว้บนหลังคา
กำลังดูการืตูนทีวีมันส์อยู่เลย.. ภาพทีวีมันก็ล้ม..ไม่ชัดอยู่ไม่ถึงนาทีก็กลับมาชัดตามเดิม..

ถ้าเป็นคนช่างสังเกตหน่อย..
ก็จะทราบได้เลยว่า...
เครื่องบิน..มันเพิ่งจะบินผ่านหลังคาบ้านเราไปนั่นเอง !!!
มันบินอยู่ซะสูงโน้นเลย.. เห็นลำเล็กนิดเดียวเอง
แต่มีผลกระทบกับสัญญาณทีวีแบบที่เราสัมผัสได้..

ดังนั้น.. เมื่อก่อนทุกครั้งที่ภาพทีวีล้ม
ผมก็จะวิ่งออกมาดูว่าเครื่องบินมันบินผ่านหลังคาบ้านไปทางไหน ??
เพื่อทดสอบสมมุติฐานของผม... ซึ่งก็ถูกต้องตามที่ตั้งสมมุติฐานเอาไว้ทุกครั้งเลยครับ..!!!

ก็ที่จมูกหน้าเครื่องบินมันโดนติดตั้ง Weather Radar ( เรด้าร์ตรวจสภาพอากาศ )
เวลาบิน..นักบินเขาเปิด Weather Radar เอาไว้ตลอดเวลาที่ทำการบินซึ่งเป็นเครื่องที่ส่งคลื่นไมโครเวฟแรงสูงออกไป..

ความแรงสูงของมัน.. สามารถทำให้คุณเป็นหมันได้ง่ายๆในทันที โดยไม่ต้องพึ่งมีดผ่าตัดของคุณหมอ !!!

 

กำลังคุยกันเรื่องพลังงานจากคลื่นไมรโครเวฟ..
คุณหมอต้นก็เอาบทความเรื่องผลกระทบของคลื่นไมรโครเวฟมาโพสให้อ่านกันในกลุ่มไลน์พอดีเลยคับ..

ข้อมูลจากคุณหมอต้น.. คุณหมออีกท่านนึงในกลุ่มไลน์BTG
อนุญาตให้เอามาแชร์ข้อมูลกัน.... ขอบคุณครับ
................................................

การทดลองเล็ก ๆ ของเด็ก ๆ แต่เกิดผลสะเทือนโลก!!!

มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์โดยเด็กผู้หญิงมัธยมต้น 5 คนของโรงเรียน Hjallerup School ใน North Jutland ในเดนมาร์ก โดยทำการเพาะเมล็ดผัก garden cress ในสองถาด และแยกถาดทั้งสองอยู่คนละห้องแต่ปรับอุณหภูมิให้เท่ากัน ได้รับน้ำและแสงแดดในปริมาณเท่าๆกันเป็นเวลา 12 วัน

ถาดแรกนำไว้ในห้องที่ไม่มีคลื่น Wifi ใดๆ ปรากฏว่าเมล็ดผักเติบโตตามปกติ
ถาดที่สองนำถาดไปวางใกล้ๆกับ Wifi router 2 เครื่อง ปรากฏว่าเมล็ดผักแทบไม่เติบโต รากไม่งอก

ผลการทดลองของเด็ก ๆ นี่เองทำให้วงการวิทยาศาสตร์ตื่นตัวเพื่อทำการค้นหาสาเหตุว่า "คลื่นโทรศัพท์ เเละ ระบบไร้สายมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร ?" ทำไมถึงมีผลยับยั้งระงับการงอกของเมล็ดผักได้ Professor Olle Johansson แห่ง Karolinska Institute ในกรุง Stockholm สวีเดน จึงอาสาเข้ามาทำการศึกษาเพิ่มเติมต่ออย่างเป็นระบบเพื่อสรุปผลทางวิชาการในวงกว้างต่อไป

ศาสตราจารย์ Olle Johansson ได้กล่าวชมเชยการค้นพบของเด็กกลุ่มนี้ว่าเป็นตัวกระตุ้นให้คนตระหนักว่า "ไม่ควรนอนหลับไปพร้อม ๆกับเปิดระบบ Wifi และโทรศัพท์มือถือทิ้งเอาไว้"

แรงผลักดันที่ทำให้เด็กกลุ่มนี้ทดลองดังกล่าวก็เพราะว่า สงสัยว่าทำไมเวลานอนไปพร้อม ๆ กับโทรศัพท์มือถือใกล้หัวเตียงแล้ว ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วมีอาการปวดหัว ไม่มีสมาธิ

ย้อนหลังไปดุการทดลองในเนเธอร์แลนด์เมื่อ 3 ปีที่แล้วโดยนักวิทยาศาสตร์ของ Wageningen University โดยใช้ต้นไม้ (ash tree) 20 ต้นมาสัมผัสใกล้ชิดกับคลื่นต่างๆเปรียบเทียบกันตลอดเวลา3เดือน และพบว่าต้นที่อยู่ใกล้กับคลื่น WiFi แรงๆพบว่าใบมีสีน้ำตาลไหม้ ใบร่วง

 

ขอบพระคุณมากค่ะ คุณเด็กผู้ชาย สำหรับคำตอบ "บูโรพุทโธ"

เจ้าที่แรงจริง กระจ่างไปเลยค่ะ ทำเอาดิฉันกระดอนไปหลายวัน

.......................................................................

เห็นกำลังคุยกันเรื่องประจุไฟฟ้า พลังงานสุริยะ รวมถึงคลื่นแม่เหล็กต่างๆ ที่เรากำลังได้รับผลกระทบ

อาจมีทั้งคุณประโยชน์และโทษ วันนี้ดิฉันได้พยายามค้นคว้าในส่วนคุณประโยชน์ของพลังธรรมชาติ ที่มีในร่างกายคนเรารวมถึงสรรพสิ่งบนโลก

และนำมาแบ่งปัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสมาชิกที่สนใจ ค่ะ

เนื้อหาค่อนข้างเป็นเชิงวิชาการ จึงขออนุญาตหยิบยกมาบางส่วน

...............................................................

วงการวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์สายเมตาฟิสิกส์ได้พยายามศึกษาค้นคว้า

เพื่อพิสูจน์ถึงความมีอยู่ของพลังธรรมชาติตามนัยยะนี้ จนทำให้มีความเข้าใจและยอมรับในความมีอยู่จริงของพลังธรรมชาติที่มองไม่เห็นเหล่านี้

นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า พลังธรรมชาติหรือพลังชีวิตตามนัยยะนี้มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ละเอียด

บางส่วนมีความถี่ในช่วงของคลื่นความร้อนหรือรังสีอินฟาเรด และบางส่วนก็ละเอียดมากจนเครื่องมือในปัจจุบันไม่สามารถตรวจจับได้

แต่สามารถเห็นผลจากการกระทำของพลังธรรมชาติที่ละเอียดนี้ได้ และได้อธิบายว่า

พลังธรรมชาติที่ว่านี้ ก็คือพลังงานรอบๆ ตัวเราที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สุดในการก่อรูปและประคองรักษาความมีอยู่ของสรรพสิ่ง

ทุกสรรพสิ่งในจักวาลจะมีการถ่ายโอนแลกเปลี่ยนพลังธรรมชาติระหว่างกันอยู่เสมอ

และการเปลี่ยนแปลงของพลังธรรมชาตินี้เองที่ก่อให้เกิดสรรพสิ่งในจักรวาลและปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้งหลาย

ฤดูกาลต่างๆ ก็เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของพลังธรรมชาติตามนัยยะนี้

และโดยธรรมชาติแล้ว ถ้าพลังชีวิตของสิ่งหนึ่งสมดุล ก็จะทำให้พลังชีวิตของสิ่งอื่นๆ ดีไปด้วย

แต่ถ้าพลังชีวิตของสิ่งหนึ่งไม่สมดุล ก็จะส่งผลต่อพลังชีวิตของสิ่งอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

ถ้าสรรพสิ่งมีความสมดุล พืชพันธุ์ไม้ก็เจริญงอกงาม ฝนฟ้าก็ตกตามฤดูกาล ผู้คนก็จะไม่เจ็บป่วย

ดังนั้นความมีสุขภาพดีของทุกชีวิตในจักรวาล จึงขึ้นอยู่กับความสมดุล ความผสมผสานกลมกลืน และการแลกเปลี่ยนกันอย่างพอดี

ระหว่างพลังชีวิตของตัวเองกับพลังชีวิตของสิ่งแวดล้อมนั่นเอง
..................................................


ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติม และดาวน์โหลดไฟล์ PDF ได้ที่ :

www.navachione.org/2012/10/29/science-or-not

หากตามลิงค์ไม่ได้ สามารถ search ที่ " พลังธรรมชาติกับการเพิ่มผลผลิต : งมงายหรือวิทยาศาสตร์ "

(ต้องขออภัยค่ะ ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้น ปรับแต่งfont อัพโหลดภาพไม่ได้ copyวางลิงค์ไม่ได้ ต้องใช้วิธีพิมพ์เอา )

 

จากคุณเอ้.. สมาชิกกลุ่มไสน์
ให้เอาเรื่อง Tsunami ภาคการ์ตูน
อ่านสนุก.. เข้าใจง่าย.. มาร่วมแชร์ข้อมูลครับ..!!!
.....................................................


@MrVop: การ์ตูนความรู้ ชุด
การรับมือกับสึนามิ
(UNESCO-ICO)

การ์ตูน ชุด การรับมือกับสึนามิ (UNESCO-ICO) | Mr.Vop's Blog

ขอบคุณ.. ข้อมูลจากต้นทางด้วยคับ..!!!