จริงหรือ? การแสดงมายากล เป็น อภิญญา

อภิญญา กำกับควบคู่ด้วยธรรมะ ไม่อวดอ้างเพื่อหวังลาภสักการะ


กล การแสดงเพื่อหวังผลตอบแทนทางโลก


จัดระบบโครงสร้างในรูปคัมพานี ประกอบการเป็นธุรกิจ


แน่หรือคือ อภิญญา?

 

เปนการแสดงที่สุดยอด จนตะลึง เหมือนกัน เหมือนภาพสดๆ ฉากสดๆให้ดูเรย ต้องรอดุความจืง กันหล่ะ

 

มายากลที่เป็นมายากลก็มีไม่ได้เถียง แต่ไม่ทั้งหมด
ไม่ได้หมายรวมทุกคน
ท่านที่วิจารณ์กันนี่เคยดูคิริวหรือยัง ถ้ายังก็แสดงว่าเขียนมั่วๆตามใจชอบ
ลองไปดูให้ละเอียดก่อนว่าเขาทำได้อย่างไร ลองไปดูคิริวนะ ถ้าท่านไหนได้มโนก็ไปดูในมโนด้วยจะได้รู้กันไปว่าจริงหรือไม่

จริงอยู่บางอันมันเป็นกลที่มีอุปกรณ์ อธิบายได้ แต่บางอันมันไม่มีทางอธิบายได้ อย่างที่บอกไปนั่นไม่เห็นมีใครมาอธิบายเฉลยได้
- โยนปลาเป็นๆเข้าไปในขวดน้ำดื่มที่ปิดสนิท ทำอย่างไร
- โยน เหรียญใหญ่กว่าปากขวดเข้าไปในขวดทางก้นขวด
- ดึงแฮมเบอร์เกอร์ออกมาจากป้าย
- ทำกระเทียมลอยได้ ลอยไปลอยมา ตอนที่คิริวเขามาเชียงใหม่
- เอาโทรศัพท์ ฝังลงไปในน้ำแข็ง
- เอาจรเข้ ออกมาจากเสื้อ
- ทำปลาแห้งกลายเป็นปลาเป็นๆ
- ถือลูกโป่งสวรรค์สามลูกแล้วลอยไปลอยมารอบงานวัด
- ย้ายหลุม กอล์ฟ
อื่นๆอีกมากมายที่หาข้อจับผิดไม่ได้

 

ไม่เกี่ยวกัน คนที่ได้เขาจะคู่ธรรมหรือไม่นั้นแล้วแต่อย่างพระเทวทัต ได้แล้วใช้ในทางที่ผิดก็เสื่อมไป นี่ถ้าคนที่ได้เขาใช้ถูกก็ไม่เสื่อม

เขาอาจจะหารายไปไปทำการกุศลต่อก็ได้ อย่างคิริวนี่ก็มีการช่วยเหลือผู้คนมากมายเท่าที่รู้มา

 

สุดแท้แต่ วิจารณญาณและรากฐานแห่งความเชื่อเถิด


เราไม่ขอหักล้างผู้ใด ด้วยมิใช่สาระสำคัญ


เราเองนั้น พิมพ์ถ้อยกระทงด้วยปัญญาญาณแห่งตน


ที่มีเสรีในการพินิจสิ่งต่างๆ โดยมิต้องแสดงออกอย่างเสแสร้งว่าเห็นด้วย

MAYA-JID@hotmail.com

นักมายาจิต วิน เอี่ยมอ่อง เคยกล่าวว่า ยินดีไขปัญหาในสายอาชีพเท่าที่สามารถ หากจะสนทนากับเขา

 

เชื่อคนไม่ใช่พระ
เชื่อพระไม่ใช่คน
...
ตอบได้เข้าใจเอง

 

ผมว่านักมายากลเก่งมากๆระดับโลก ต้องมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากนักมายากลธรรมดาบ้างหล่ะ แต่ที่แตกต่างของแต่ละคนนั้นจะเป็นอะไรที่ไม่เหมือนกันก็ได้ บางส่วนอาจเป็นอภิญญา บางส่วนเป็นเทคนิคการแสดง


เชื่อมากก็งมงาย ไม่เชื่อเลยก็งมงายเหมือนกัน

 

การรู้แจ้ง เห็นจริง ระหว่างผู้ปฎิบัติจนรู้ กับ
การไม่รู้แจ้ง เห็นจริง ของผู้ไม่ปฎิบัติ และไม่รู้

ความคิดย่อมไม่เหมือนกัน สุดแล้วแต่ จะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ
เพราะชีวิต แต่ละคน จะให้ใครไป จูงความคิดของคนนั้น
ย่อมทำไม่ได้หรอก สุดแล้วแต่ กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

ระดับการรู้ ระดับปัญญา แต่ละ ท่านย่อมต่างกัน
ต่อให้เอาเรื่อง ไม่จริง มาทำให้ดูว่าจริง เขาก็ยอมยังมีความคิด
เดิมๆๆอยู่ว่า จริง

ต่อให้เอาเรื่อง จริง มาบอกไม่จริง เขาก็ย่อมมีความคิดเดิมๆๆอยู่ว่า
ไม่จริง

สุดแล้วแต่ว่าใครจะเลือกทางไหน

ส่วนเรื่องใครเอา มายากล แบบนั้น ทำแบบนี้มาบอกกล่าวว่า
ทำได้ไง มายากลไม่มีทางทำได้แน่ๆๆ ผมก็คงจะไม่ตอบ
เพราะถ้าจะให้บอก เทคนิค ไปยังไง ก็ ยังมีความคิด ยึดติดแต่
ของเดิมๆๆ

การที่รู้ไม่แจ้งรู้ไม่จริง แล้วไปค้าน คนที่เขาปฎิบัติ จนรู้จริง
แบบนี้ บาปจะเป็นเช่นไรคงไม่ขอกล่าว

สวัสดี

 

ผู้ที่ศึกษา พระธรรม จริงๆๆจะทราบว่า
การ อวด ฤทธิ์ ต่างๆๆ ถือเป็นการ อวดอุตตริ ต่อให้มี
อภิญญาเก่งระดับไหน ก็ย่อมเสื่อม ไม่มีโอกาสที่ จะเอา
อภิญญามาหากินได้แน่นอน

ผู้ใด ปฎิบัติ คงจะทราบว่า แค่เอา อภิญญา มาหากิน
ผลจะเป็นเช่นไร ผู้ปฎิบัติย่อมทราบดี

ผมมิขอกล่าวอะไรมากไปกว่านี้

 

เขาไม่ได้มาอวดว่าตัวเองเก่งอย่างที่คุณกล่าวนะอย่าเข้าใจผิด
เขาก็บอกว่าเป็นการแสดงไม่ได้บอกว่าเป็นผู้วิเศษ
รู้ได้อย่างไรว่าเขาใช้ในทางที่ไม่ดี เขาอาจจะแค่บอกว่ามันคือมายากลนะ ไม่ได้บอกว่า เขาวิเศษอะไร แต่ใช้เป็นการแสดงเพื่อความบันเทิงไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองแน่ ตัวเองเจ๋ง บอกคนว่ามายากล แล้วก็เอาไปทำการกุศล
อย่างคิริวเขา ไปบ้านเด็กกำพร้าสร้างความสนุกสนานให้เด็กๆและบอกว่าคือ magic เท่านั้น ตัวเขาเองก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ แต่ก็กลับบอกว่ามันคือ เมจิก เท่านั้น
ผมไม่ได้ว่า อภิญญามันจะดีเลิศอะไรแต่ก็เห็นว่า ตัวอย่างนักมายากลอย่างคิริวก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรใช้ความสามารถเพื่อหากินและช่วยเหลือผู้อื่นแบบกลมกลืนไปกับมายากลทั่วๆไป และตัวเขาเองก็ไม่ได้บอกว่าเขาวิเศษอะไร พวกเราเองมาวิเคราะห์กันเท่านั้นว่า มันไม่ธรรมดาทั่วไป

 

ทำไมไม่ลองตอบหน่อยละ อย่างโยนเหรียญเข้าไปในขวดจากด้านก้นขวดทำไง ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาบอกว่าคืออะไร
เรื่องที่ยกมามากมายก็ไม่ยอมตอบ ตอนแรกไหนบอกว่าสงสัยก็ถามได้พอถามหลายคำถามกลับไม่ตอบ แปลกแฮะ

 

นี่ไงไหนบอกว่าสงสัยถามได้
ถามได้เฉยๆแต่ไม่ตอบเหรอครับ

 

นิดนึงนะครับ

การที่ไม่มีใครอธิบายเหตุผลได้ ไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นๆไม่จริง














ยกตัวอย่างครับ ลองตอบดูสิครับ ว่า ทำไม1+1ถึงเท่ากับสอง?













อธิบายเหตุผลกลไกไม่ได้ใช่ใหมครับ .....แต่ 1+1 ก็เท่ากับสองอยู่ดี





กรณีนี้ เพียงแค่ไม่มีใครอธิบายวิธีการเล่นกลเหล่านั้นได้ ก็ไม่สามารถสรุปว่าว่า"มันไม่ใช่มายากล"อยู่ดีครับ


ผมยังไม่เคยเห็นทั้ง"คิริว"และคริส ออกมายืนยันต่อสาธารณะชนอย่างเป็นทางการ ว่าพวกเขาใช้พลังจิตอยู่ดี ...มีแต่คนอื่นบอกทั้งนั้น

และไม่ว่ายังไง ผมชอบดูมายากลครับ

 

ช่วยหา คลิป ที่ว่า มาให้ผมดูทีนะครับ
อยากชม จะได้ตอบให้ว่า ทำอย่างไร
จะไปถามผู้รู้ให้ ว่าเขาทำอย่างไร อีกอย่าง
ผมไม่เคย บ่ายเบี่ยง อะไรเลย แต่ที่ไม่เข้ามาตอบ
เพราะ ยอมรับว่า อ่านแป็บๆๆ แล้วมีงานเข้ามา ก็ต้องปิด
แล้วไปทำงานอีก จะว่างก็ดึกๆๆ บางทีพอตอบซะยึดยาว
พอกด OK ก็ ERROR อีก บางทีก็ไม่ตอบอีกเลย

ช่วยหาคลิปที่ว่ามาให้ชมทีนะ จะไปถามผู้รู้มาให้ว่า ใช้เทคนิค
อย่างไร

โยนปลาเป็นๆเข้าไปในขวดน้ำดื่มที่ปิดสนิท ทำอย่างไร
- โยน เหรียญใหญ่กว่าปากขวดเข้าไปในขวดทางก้นขวด
- ดึงแฮมเบอร์เกอร์ออกมาจากป้าย
- ทำกระเทียมลอยได้ ลอยไปลอยมา ตอนที่คิริวเขามาเชียงใหม่
- เอาโทรศัพท์ ฝังลงไปในน้ำแข็ง
- เอาจรเข้ ออกมาจากเสื้อ
- ทำปลาแห้งกลายเป็นปลาเป็นๆ
- ถือลูกโป่งสวรรค์สามลูกแล้วลอยไปลอยมารอบงานวัด
- ย้ายหลุม กอล์ฟ
อื่นๆอีกมากมายที่หาข้อจับผิดไม่ได้

 

ไม่ทราบครับ อาจจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่ แต่ตามความคิดผมนะครับ
ต่อให้เป็นอภิญญาแต่เอามาแสดงเพื่อแลกเงินก็ไม่ใช่ความผิดของเค้าหรอกครับถ้าเค้าไม่ไปทำร้ายใครหรือว่าไม่ไปรบกวนใคร และถึงอย่างไรก็ชอบดูครับ
แต่ถึงเป็นผมถ้าผมได้ก็ไม่เอาไปแลกกับเงินหรอก เพราะคิดว่ามันคงดูไม่ดีน่ะครับ

 

อีกกระทู้

 

ลองดูลิ้ง

 

Cyill นักมายาจิต สุดยอดเหมือนกันครับ

http://palungjit.org/showthread.php?p=823530#post823530

 

วิน เอี่ยมอ่อง ( นักมายาจิต )

http://www.magicmania.net/special/win.html

ผมเป็นคนไทยครับ มาจากอุบลราชธานี แต่ผมไปโตที่อเมริกา สำเนียงเลยเพี้ยนไป และอาจจะดูหน้าแปลกไปนิดนึงด้วยครับ ไปอเมริกาตั้งแต่อายุ 4 ขวบพออายุ 11 ค่อยกลับมาเมืองไทย เรียนที่โรงเรียนนานาชาติแล้วไปจบที่อังกฤษนะครับ

ผมจบด้านศิลปะและจิตวิทยา เป็นจิตวิทยาในการบำบัดและสะกดจิตคน เป็นมาสเตอร์ ดีกรีจากเบอร์มิ่งแฮมครับ คือผม majorด้านศิลปะ ส่วน minor ด้านจิตวิทยา

จิตวิทยาเป็นงานอดิเรกผมมากกว่าครับ ผมชอบดูพฤติกรรมมนุษย์หนะครับว่าทำไมเค้าถึงทำอย่างงี้ และพวกความคิดของมนุษย์ เพราะว่าถ้าเรารู้ความคิดของมนุษย์ ทำไมเค้าถึงคิดอย่างนี้ เราก็เริ่มจะควบคุมเค้าได้ ผมก็เลยสนใจด้านนั้นมากกว่า

เริ่มสนใจด้านมายากลตั้งแต่ประมาณ 12-13 ครับตอนแรกผมก็เริ่มจากไพ่ เล่นกลไพ่ไปเรื่อยๆ พอสักพักผมได้เห็นหนังสือด้านจิตวิทยาและเริ่มอ่านหนังสือแนวนี้ผมก็ทิ้งกลไพ่ไปเลยครับ

เพราะว่าเราเห็นกลเนี้ยอาจจะดีขนาดไหนก็ตาม เช่นอาจจะทำให้ตึกหายไป หรือทำให้ไพ่หายจากสำรับแล้วไปเจอในกระเป๋าคนดู ลึกๆ ในใจของเรายังไงก็รู้สึกว่ามันเป็นกล แต่ผมมาทางจิตวิทยาทุกคนก็รู้ว่าเป็นจริงเพราะมันคือวิทยาศาสตร์ใช่ไหมครับ

แต่บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นพลังจิต มันอาจจะมีหรือไม่มีจริงก็ได้พลังจิตเนี่ย แต่ถ้าถามผม ผมไม่เชิ่อว่าจะมีพลังจิต เพราะตัวผมเองก็ไม่ได้มีพลังจิตในตัวเองเลย แล้วผมไม่เคยเห็นหลักฐานคนที่มีพลังจิตจริงๆ

คือมันไม่เชิงเป็นกลนะครับ คือผมเรียกมันว่ามายาจิตครับ เป็นคำที่ผมคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้เรียกการแสดงแนวนี้ มันเป็นการควบคุมความคิดของคนดู เป็นการแสดงแนวพลังจิตไม่ใช่แสดงพลังจิต และทุกอย่างที่ผมทำเป็นวิทยาศาสตร์หมด

อย่างเช่น เวลาผมขยับสิ่งของ เคยเห็นผมขยับสิ่งของไปมาใช่ไหมครับ อันนี้ไม่ใช่สายเส้นลวดหรือว่าอะไรอย่างนี้ มันเป็นการควบคุมร่างกายของเรา อย่างที่เรารู้กันสมองและตัวของเรามันจะ generate กระแสไฟฟ้าใช่ไหมครับ ความคิดของเราก็เป็นกระแสไฟฟ้า

อย่างถ้าเราอยากขยับนิ้วขยับนู้นขยับนี่สมองเราจะส่งกระแสไฟฟ้าไปจุดๆ นั้นแล้วเราจะขยับมันได้ใช่ไหมครับ และก็อย่างที่รู้กัน กระแสไฟฟ้าเหล่านั้นจะขยับของได้ อย่างเช่นลูกโป่ง เคยเห็นลูกโป่งใช่ไหมครับพอเราเอามันมาถูๆ มันจะขยับ

ผมได้แต่นี้มันแค่เล็กน้อย ถ้าแระแสไฟฟ้ามันใหญ่ขึ้นไปอีกมันก็สามารถขยับของได้ใหญ่ขึ้น เคยเห็นผมอ่านใจคนใช่ไหมครับ แต่จริงๆ ผมไม่ได้อ่านใจคนอะไรหรอกครับ ผมจะพูดสิ่งที่ตรงกับทุกคนโดยที่เค้าไม่รู้ แต่ผมจะทำให้เค้าคิดว่าผมคุยกับเค้าคนเดียว

อย่างเช่น ภายนอกคุณอาจจะไม่คิดอะไรมากใช่ไหมครับ แต่บางครั้งคุณจะเก็บเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปคิดอีกที่บ้าน ทำอยู่ใช่ไหมครับใครๆ ก็ทำใช่ไหมครับ นี่เป็นพฤติกรรมของพี่เลยใช่ไหมครับ จริงๆ มันตรงกับทุกคน ถ้าผมคุยอย่างนี้กับพี่มันจะดูเหมือนผมอ่านใจพี่

เรามาประยุกต์เป็นการแสดง การศึกษาการสะกดจิตที่ผมทำเป็นวิทยาศาสตร์จริงๆ แต่ว่าต้องศึกษาเยอะครับ ผมชอบนักมายากลผมรักกลมาก และผมศึกษามายาวนานอย่างมาก แต่ว่าสิ่งที่ผมไม่ชอบเกี่ยวกับกลมันทำให้นักแสดงคิดว่าเค้าเป็นพระเจ้าได้

มันจะแบบมี Psycho ของเค้าก็คือ ผมเสกให้เรียญหายไป ผมเก่งกว่าคุณ มันจะมี Psycho แบบนี้ ผมไม่ได้อยากเป็นพระเจ้า แต่อยากเป็น Hero มากกว่าคนจะได้เชียร์ ประมาณนี้ครับ แล้วอีกอย่างนึงที่ผมอยากทำมากเลยก็คือ อยากให้คนที่เชื่อเรื่องหมอดู พวกพลังจิตพวกนู้นพวกนี้ว่ามีจริง

ผมอยากให้เค้ารู้ว่าผมก็ทำได้แต่ผมไม่มีพลังจิต เค้าอาจจะได้คิดอีกครั้งเค้าอาจจะเชื่อต่อก็ได้ ผมไม่อยากเปลี่ยนความเชื่อของเค้า แต่อยากให้เค้าคิดอีกครั้งว่าคนธรรมดาก็ทำได้มันไม่ใช่พลังจิต อย่าโดนหลอกลวง คนพวกนี้เป็นหมอดู ผมต้องจ่าย 500 บาทกว่าจะดูได้

ผมอาจจะบอกแบบที่พูดกับพี่เมื่อกี้ผมอาจจะดูมือพี่แล้วก็ พี่คิดมากใช่ไหมครับหรือว่าดื้อหรือว่าอะไร ผมแค่เดา แล้วถ้าพี่มี Re-act ยังไงมีโต้ตอบ ผมก็จะค่อยๆ ไปเรื่อยๆ มันเป็นการแสดง

ผมไม่บอกว่าพลังจิตไม่มีจริงนะครับ ผมบอกว่าอาจจะมีซึ่งผมไม่รู้ แต่ว่าถ้าเค้ามีจริง O.K.เค้ามีจริง แต่ถ้าไม่มีก็อย่าหลอกคนอื่น

นักแสดงแนวพลังจิตที่ชื่นชอบ มี Banecheck คนนึง แล้วก็อีกคนคือ Derren Brown เค้าแสดงได้เก่งมากเลยครับ คนนี้เป็นเพื่อนของผมเอง เคยแลกเปลี่ยนเทคนิคกันด้วย

การแสดงของ Derren Brown จากซี่รี่ย์ Trick of Mind , Mind Control ดูแล้วน่าทึ่งมาก ในนั้นมีเทคนิคของผมด้วย 2-3 อย่าง ชุด Dead and Alive ที่เค้ามีภาพคนตายกับคนไม่ตาย

อันนี้เค้าแปลงมาจากของผม ที่ผมทำเนี้ยจะใช้โปสการ์ดของบริษัทที่ผมไปออกงาน Trad Show โดยจะมีโปสการ์ดของจริงผสมกับของปลอม แล้วให้คนดูเลือก อะไรประมาณนี้ครับ

กับเรื่องที่คนส่วนใหญ่มักคิดว่ากลแนวมายาจิต อาจต้องมีการเตรียมหน้าม้าเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ อาจจะมีคนใช้ก็ได้แต่ผมไม่เคยใช้เลยครับ นักมายากลบางคนอาจจะมีใช้บ้าง แต่ผมว่าไม่จำเป็นเพราะบางที่การใช้หน้าม้าอาจทำให้ความลับของเรารั่วไหลและไปเผยแพร่กับคนอื่น

ไม่ใช่ว่าผมหวงวิชา ผมสามารถสอนได้แต่ต้องเลือกคนดีๆ ก่อน อย่างถ้าสอนให้คนไม่ดีเค้าอาจเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูก อาจไปเป็นหมอดูได้เป็นหมอดูที่เก่งมากหลอกคนอื่นได้

เพระมายาจิตเป็นการแสดงไม่ใช่การรู้อนาคต ที่อาจทำให้คนเชื่อว่าเราเป็นอะไรก็ได้ ผมจึงยังไม่เผยแพร่ อยากขอศึกษาพฤติกรรมของคนไทยก่อน ดังนั้นผมจึงต้องเลือกคนดีๆ ครับ

การฝึกกลแนวมายาจิต มีความแตกต่างจากการฝึกกลแบบอื่น ต่างกันตรงที่กลอื่นเช่นกลไพ่กลเหรียญจะต้องฝึกทักษะกับตัวเอง แต่มายาจิตนี้จะฝึกคนเดียวไม่ได้เราต้องออกไปเล่นกับคนอื่น

สำหรับผมไปที่บาร์บ่อย ได้เจอคนใหม่ๆ ก็ฝึกไปเรื่อย เป็นการสร้างเพื่อนได้ดี และเราก็ได้ฝึกฝนการแสดงไปในตัว เคยเล่นพลาดก็มีบ้างครับ เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าพลาดผมจะรู้ว่าผมพลาด

ก็บอกว่าโอเค.พลาดเพราะเทคนิคของผมไม่ได้ 100 % อาจแก้ไขโดยเล่นอย่างอื่นโชว์ไปเรื่อยๆ บางทีโชว์ 3 อย่างก็ไม่ได้เลยทั้ง 3 อย่างก็มี

แต่ที่ผมชอบคือตรง Process ของมันคนดูจะเห็นตลอดว่าจะเกิดจากตรงนี้ไปตรงนี้มันเป็นการ Entertain ด้วย คนดูก็เข้าใจนะครับว่าโอเค.เราพยายามแล้ว อยากที่บอกว่าทุกอย่างมันเป็นการแสดง แม้ว่าจะพลาดเราก็จะมีวิธีทำให้เค้าสนุกกับเราไปด้วย เค้าอาจจะไม่เห็น Effect เลยแต่ก็จะสนุกไปด้วยได้

แต่ละวันได้คิดรูปแบบกลใหม่ๆ ก็เกือบตลอดแต่จะพยายามไม่คิดมากเพราะการที่เราคิดอะไรตลอดเวลาจะทำให้เราคิดไม่ออก เราต้องพักต้องทำอย่างอื่นบ้างเช่น เล่นเกมส์หรือยู่กับกับเพื่อน แล้วสิ่งที่เราได้เจอหรือคำพูดบางอย่างจะปลุกความคิดเราให้ อ้อ !! ทำอย่างนี้ก็ได้ จะเป็นอย่างนั้นมากกว่า

นอกจากเป็นนักมายาจิตแล้ว งานประจำอย่างอื่นไม่มีครับ ผมเป็นนักมายาจิต คือใครจ้างผมไปที่ไหนผมก็ไปครับ ถือเป็นงานหลัก อาจสักอาทิตย์ละ 3 - 4 งาน ส่วนมากจะเป็นงานเวที งานเลี้ยงตามโต๊ะงานวันเกิด

แต่ระยะนี้จะเป็นงานรับน้องอย่างที่จุฬา ธรรมศาสตร์จะชอบจ้างผมไปเล่นพิธีเรียกผี ผมจะเล่าเกี่ยวกับเพื่อนผมมา 12 คนที่ตายไป แล้วให้คนดู 1 คนมามีส่วนร่วม แต่อย่างที่รู้ว่าไม่มีจริง

แต่คนดูจะคิดว่ามีวิญญาณในหัวของเขา เขาจะรู้สึกว่ามีจริง เหมือนดูหนังผี แม้เราจะไม่ได้เจ็บปวดอะไรแต่เราก็กลัวไปแล้ว มันเป็นEmotion ของเขาเอง

รับงานแสดงที่ต่างประเทศด้วยหลายที่ครับ ทั้งที่อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น ก็ไปทั่วโลกตามที่เค้าจ้างผม ปฏิกิริยาของคนดูชาวไทยกับต่างประเทศต่างกันครับ ต่างประเทศจะจะให้ความสนใจและมีส่วนร่วมมากกว่า

คนไทยนั้นจะเรียกขึ้นมาเวทียากกว่า ซึ่งในการแสดงของผมนี้จำเป็นต้องให้ผู้ชมมีส่วนร่วมต้องใช้สมองของคนๆหนึ่งมาร่วมแสดงเพราะผมอ่านใจตัวเองไม่ได้ ไม่สามารถเล่นคนเดียวได้เหมือนกลอื่นๆ จำเป็นมากที่ต้องใช้คนดู

รวมทั้งความคิดเห็นเกี่ยวกับการแสดงในต่างประเทศเขาจะทราบว่ามันเป็นการแสดงอย่างหนึ่ง แต่คนไทยมักจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงไม่ใช่การแสดง แต่ผมก็จะไม่ไปเถียงเขาว่า มันไม่จริงนะ คิดว่าไม่จำเป็น

เคยเจอคนดูประเภทก่อกวน ชอบจับผิดการแสดงเยอะเลยครับ แต่ว่ามายาจิตไม่ใช่กลเท่าไหร่ มันเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์มากกว่า เลยไม่มีอะไรให้จับผิด แต่ก็จะมีบางคนอยากจับผิดก็ปล่อยเขาไปเป็นเรื่องของเขา ไม่เป็นไรครับ

ที่คนไทยหันมาสนใจกลแนวมายาจิตมากขึ้น ก็ดีใจครับ แต่ผมไม่ทราบว่ามีใครเคยเล่นมาก่อนหรือเปล่า ไม่ทราบว่าผมเป็นคนแรกไหม ถ้าจริงผมก้ดีใจที่ช่วยปลุกกระแสของกลแนวนี้ ก็เป็นคนเชิดธงเลย แต่ผมก็ไม่ทราบแน่ชัดและไม่อยากจะเป่าแตรชมตัวเอง

อยากฝากถึงคนที่สนใจกลแนวมายาจิต คำว่า "มายาจิต" ก็คือการใช้สัมผัสทั้ง 5 ที่เรามีอยู่ให้เกิดภาพลวงตาในสัมผัสที่ 6 ตอนที่เราเห็นคนที่อ้างว่ามีพลังจิตให้คิด 2 ครั้ง ให้คิดดีๆ ว่าจริงหรือเปล่า

อย่างพี่มองผมตอนนี้พี่ก็รู้ว่าผมไม่มีพลังจิต หรืออาจจะคิดว่ามีก็ตามใจ แต่อยากให้ใช้วิจารณญาณดีๆ กรองดีๆ ก่อนตัดสินใจ และหวังว่าทุกคนคงชอบงานต่อๆ ไปของผม ขอบคุณครับ


( ต้องการข้อมูลมายาจิตเพิ่มเติม www.maya-jid.com )

การแสดงกลโดย Cyril Takayama

http://video.mthai.com/player.php?id=2M1177829007M366

 

ยังไง ก็มายากล 1000%
ขนาดเพื่อนของเพื่อนผม เคยอยู่ทีมงาน
นาย เดวิด เขาก็ยังบอกเลยว่า เป็นมายากล
ไม่ได้ใช้พลังจิต อะไรทั้งนั้น

แม้นแต่ การแสดงทางทีวี ผมถามคุณไปอยู่
ในเหตุการณ์หรือ? ไปยืนดูข้างๆๆเขาหรือ?

มีสิ่งใดบนโลกใบนี้ที่คอมพิวเตอร์กราฟฟิกทำไม่ได้?

แม้นแต่ คลิป ของ คริส ที่มีคนเอามาเฉลย ตอนหายตัว
แล้วมีคนดู บอกว่า พระเจ้าช่วย คริส เขาเอากระจก มาวาง
บังไว้ที่โต้ หน้าม้าคนที่พูดว่า พระเจ้าช่วย เขาก็ต้องเห็นกระจก
อันนั้นแน่นอน แต่ทำไม เขาจึงยังทำเหมือนว่า คริสหายไปจริงๆ
ก็เพราะ เขาถูกจ้างให้มาเป็นหน้าม้าไงครับ

อย่าว่าดูแต่ทางทีวี หรือ คลิปเลย ถ้าหนังเรื่อง
ซุปเปอร์แมน ไม่ได้บอกว่า ใช้เทคนิค คอมพิวเตอร์
แต่บอกว่า เขาบินจริง โดยใช้พลังจิต คนที่เอาแต่ ชม
ทางทีวี ก็ย่อมคิดว่า โอ้ มันใช้พลังจิต อภิญา บินได้จริงๆๆ
ด้วย เพราะที่เราดูหนัง มันแยกไม่ออกเลยว่า นี้คือกาฟฟิกคอมหรือ?
เพราะมันเหมือนมาก

อย่างที่ผมบอก นักมายากล เหล่านี้ พยามสร้าง คลิปส่วนตัว
หรือ หนังของตัวเองขึ้นมา เพื่อทำให้คนดู เชื่อว่า เขาเล่นจริง
เพื่อที่จะ ขายบัตรชม มายากล ของพวกเขาใน ทั่วโลกที่ต่างๆๆ

แม้นแต่ล่าสุด ที่ นักมายากล เดวิด ไม่สามารถมาเล่นที่ไทย และ ในเอเชีย ได้
เพราะติด คดีข่มขืน เดวิด เขายังกล่าวผ่านทาง ทีวีในประเทศเขาเลยว่า ทำให้เขา
เสียรายได้ไปอย่างมาก