คำทำนายภัยพิบัติ อ.ทิพากร รินไธสงค์ จากปัจจุบัน ไปจนหลังสิ้นปี 2561

ลุงมหา ชัยภูมิแตกแล้ว วันนี้

สุรินทร์ยังอ่วม

 

มุ่งสร้างพระพุทธอลังการ เราจึงไม่มีเวลาไปช่วยใคร

ขออนุญาตครับ

ผมก็บอกล่วงหน้าแล้วครับว่า

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เปิดบุญบารมี ณ เจริญปุระนคร บ้านโนนศรีทอง
ตำบลท่าใหญ่ อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ

เปิดบุญเวลา 12.09 น.
.......................................................................................

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

**เทรัตนบัลลังก์ 105 บัลลังก์***

เปิดบุญบารมี ณ พุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ
ตำบลนาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
เปิดบุญเวลา 12.09 น.

เพราะเรากำลังมุ่งสร้างพระใหญ่ เราจึงไม่มีเวลาไปช่วยใคร

เพราะถ้าเสียเวลาไปช่วยแล้ว เขาจะเชื่อหรือไม่ เขาจะร่วมมือหรือไม่

เพราะถ้าพระใหญ่สร้างไม่เสร็จทันปี ๒๕๖๑ จะเสียหายมหาศาลมาก

ดูเมืองอยุธยา และน้ำท่วมใหญ่เป็นตัวอย่าง


ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

http://palungjit.org/threads/มูลนิธ...ือน-พ-ศ-2555-2556-a.373756/page-2#post8385222

 

ภาพงานเปิดบุญ ทอดผ้าป่า สร้างพระพุทธอลังการ (พระใหญ่ชัยภูมิ)

ขออนุญาตครับ

ขอเชิญชมภาพงานกันนะครับ

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา


เวลาที่ถ่ายภาพ 11:30-11:33 น.

 

เราสร้างพระกันอย่างไร เราป้องกัน เราแก้ไขภัยพิบัติกันอย่างไร

ขออนุญาตครับ

ขอเชิญชมภาพงาน วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา


เวลาที่ถ่ายภาพ 12:28-12:32 น.

 

เราสร้างพระกันอย่างไร เราป้องกัน เราแก้ไขภัยพิบัติกันอย่างไร (เพิ่มเติม 1)

ขออนุญาตครับ

ขอเชิญชมภาพงาน วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556 (เพิ่มเติม 1)

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา


เวลาที่ถ่ายภาพ 12:32-12:35 น.

 

เป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่เท่าที่รับทราบจากโพสต์ลุงมหา๑
จัดกิจกรรมได้ยิ่งใหญ่จะเป็นรองก็แค่วัดจานบินเท่านั้น
แต่เจตนาและเป้าหมายไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง

****เรื่องบุญและความศรัทธาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
การทำบุญจะได้ผลบุญมากหรือน้อย
ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ศักยภาพในการ
สละปัจจัย(ทรัพย์สินเงินทอง)เพียงประการเดียว

หากประกอบไปด้วยความบริสุทธิ์ของทรัพย์และเจตนา
ที่จะชำระหรือขจัดความตระหนี่ และความโลภออกจากจิตใจตนเอง
กล่าวคือ เมื่อครอบครอง
ทรัพย์ที่ได้มาโดยสุจริตยุติธรรมจำนวนหนึ่ง และมีสติปัญญา
ในการพิจารณาไตร่ตรอง
ตามวิสัยของพุทธชนที่เคารพ
เลื่อมใสในคำสั่งคำสอนขององค์สมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วมีปัญญาเห็นควรปันส่วนทรัพย์นั้นบางส่วน
เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม เช่น
เพื่อทำนุบำรุงพระศาสนา การศึกษา หรือสาธารณะประโยชน์อื่นใด
โดยที่ไม่ได้ทำให้ตัวเองต้องขาดแคลนเดือดร้อน ก็สามารถทำได้
โดยพิจารณาถึงเหตุและผล ในประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นทั้งกับตนเอง
และผู้อื่น(ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน)ดีกว่าคิดไม่ออกบอกไม่ฟัง

ดังนั้น บุคคลใดทำบุญอย่างมีสติปัญญาก็ต้องได้รับผลของบุญ
เต็มกำลังนั้น
แม้จะมีกำลังในการสละทรัพย์ไม่ได้มากมาย
แต่ก็สละเท่าที่สามารถจัดสรรได้
เพื่อขจัดความตระหนี่และลดความโลภในจิตใจตนเอง
เช่นนี้
ย่อมได้ผลบุญมากกว่าการสละทรัพย์มากเพื่อแลกกับสิ่งที่
ยิ่งใหญ่กว่า
เพราะนั่นเป็นการเพิ่มความโลภ ผลบุญที่ได้รับ
จึงไม่ใช่เป็นการขัดจิตใจให้ลดความโลภ ความตระหนี่
กล่าวได้ว่าได้บุญไม่คุ้มกับที่ลงทุนไป

อนึ่ง หากมีการทำบุญแบบผิดบ้างถูกบ้างไประยะหนึ่ง
ก็สามารถได้รับผลบุญ หนุนส่งให้เข้าถึงสัมมาทิฐิ และเข้าใจ
ถูกต้องได้ในที่สุดถ้าไม่เลิกไปเสียก่อน.....

 

เบื้องบนส่งใครมาบ้าง ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้

ขออนุญาตครับ

เนื่องด้วยชาวพุทธในยุคปัจจุบัน ขาดการปฏิบัติธรรม จนถึงขั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้

หรือ แม้แต่พระเจ้าพระสงฆ์ ท่านก็ไม่เข้าใจว่า ยุคกึ่งพุทธกาลคืออะไร
ท่านต้องปรับบทบาทอะไรกันบ้าง

ท่านก็เลยอยู่ของท่านไปแบบเดิมๆ แบบที่เป็นมา เป็น ๒๕๐๐ กว่าปีแล้ว

เบื้องบนส่งใครมาบ้าง ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้

๑ พระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล

๒ พระโพธิ์สัตว์ยุคพุทธกาล ที่องค์ท่านจุติลงมาอีกครั้งในยุคนี้

๓ มหาฤๅษีผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า

ท่านทั้งสามต่างปรากฎตัวออกมาแล้วครบถ้วน

ส่วนความเกี่ยวข้องกันของท่านทั้งสาม ที่ดูเหมือนว่าต่างคนต่างอยู่

แต่กลับมีท่านผู้หนึ่ง โผล่ขึ้นมาระหว่างกลางของท่านทั้งสาม

ผมก็ขอฝากทิ้งท้ายว่า

“พระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์นั้น โกหกหลอกลวงกันไม่ได้”
“ไม่ว่าใครรู้ ไม่ว่าใครเห็น ล้วนเข้าใจทั้งหมดทั้งสิ้นด้วยตนเอง”

ที่น่าสงสารกลับเป็นชาวพุทธกลุ่มใหญ่ ที่ขาดการพิจารณา ในสภาวะรอบๆตัวในปัจจุบัน
หลงเข้าใจว่า คำสอนใดๆ ธรรมใดๆ ที่ตน ทีกลุ่มของตน เข้าใจนั้น ทั้งถูกต้อง ทั้งดีที่สุดแล้ว

ก็ขอให้พิจารณากันว่า ถ้าความเข้าใจของท่านถูกต้อง

แล้วทำไมเบื้องบน จึงต้องส่ง ท่านทั้งสามลงมา ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้

กาลเวลาจึงเป็นสิ่งที่แน่นอนและมั่นคง
ความอดทน จึงเป็น ธรรมที่ดีที่สุด สำหรับทุกๆท่าน

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
ลุงมหา

ไม่ต้องเดาให้เมื่อยว่าท่านทั้งสามเป็นท่านผู้ใดบ้าง เพราะแน่นอนว่า
ชาวพุทธส่วนใหญ่ ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้ฟังเรื่องราวของท่านเลย

 

เราสร้างพระกันอย่างไร เราป้องกัน เราแก้ไขภัยพิบัติกันอย่างไร (เพิ่มเติม 2)

ขออนุญาตครับ

ขอเชิญชมภาพงาน วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556 (เพิ่มเติม 2)

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา


ถ่ายภาพเวลา 11:08-11:18 น.

 

เราสร้างพระกันอย่างไร เราป้องกัน เราแก้ไขภัยพิบัติกันอย่างไร (เพิ่มเติม 3)

ขออนุญาตครับ

ขอเชิญชมภาพงาน วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556 (เพิ่มเติม 3)



ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

เวลาที่ถ่ายภาพ 11:18-11:26 น.

 

เราสร้างพระกันอย่างไร เราป้องกัน เราแก้ไขภัยพิบัติกันอย่างไร (เพิ่มเติม 4)

ขออนุญาตครับ

ขอเชิญชมภาพงาน วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556 (เพิ่มเติม 4)



ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

เวลาที่ถ่ายภาพ 11:26-11:45 น.

 

เราสร้างพระกันอย่างไร เราป้องกัน เราแก้ไขภัยพิบัติกันอย่างไร (เพิ่มเติม 5)

ขออนุญาตครับ

ขอเชิญชมภาพงาน วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556 (เพิ่มเติม 5)



ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา


เวลาที่ถ่ายภาพ 11:45-11:54 น.

 

งานก่อสร้างพระพุทธอลังการ (พระใหญ่ชัยภูมิ) 7 ตุลาคม 2556


ขออนุญาตครับ

ขอนำวีดีโอ งานก่อสร้างพระพุทธอลังการ (พระใหญ่ชัยภูมิ) 7 ตุลาคม 2556 (เวลา 10:58 น.)

มาให้ดูว่า สร้างไปถึงใหน สร้างอย่างไร?


สร้างไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง และ แน่นอน

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=ZAgSe_qI0VU&feature=c4-overview&list=UUzWVKyK7LkF1_X2O8glKomQ]20131007 01 มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ สถานที่ก่อสร้างพระพุทธอลังการ พระใหญ่ชัยภูมิ] 7 ตุลาคม 2556 - YouTube[/ame]

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

เบื้องบนส่งใครมาบ้าง ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ (ต่อ ๑)

ขออนุญาตครับ
มีญาติธรรมบางท่านติดต่อมาเพื่อขอทราบเรื่องราวบางเรื่อง
ก็ขอตอบในมุมมองของ

ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ ที่ท่านบอกเล่าว่า

๑. การบอกเล่าใดๆถึงเรื่องอดีตชาติเป็นเรื่องไม่สมควร เช่น
การบอกเล่าว่า การเคยเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ ลูกศิษย์ อาจารย์ ....
เพราะถ้าพูดได้ ผมก็จะไปหาคนนั้น คนนี้ บอกเล่าว่า
เราเคยเกิดเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ ลูกศิษย์ อาจารย์ ....
อยากได้เงิน บริจาค เท่าไร เขาก็ช่วยกันบริจาคให้ได้
แม้จะรู้ แม้จะเห็น แม้จะเป็น ก็ไม่สมควรบอกเล่าออกมา

๒. ให้เป็นตัวของตัวเอง อย่าได้ยึดติดกับสิ่งใดๆ
ไม่ว่าใครจะบอกว่า ท่านเคยเกิดเป็นใคร เคยเกิดเป็นอะไร
ก็ให้ฟังหูไว้หู อย่าได้ยิดติดกับสิ่งเหล่านั้น

ให้ปล่อยวาง ให้เป็นตัวของตัวเอง ให้อยู่กับปัจจุบัน

ให้สร้างกุศลผลบุญตามทำนองครองธรรม

๓. เมื่อทำการทำงาน หาเงินหาทอง หาทรัพย์สินมาได้
ให้เสียภาษี เพื่อบำรุงชาติบ้านเมืองให้ถูกต้อง
แล้วก็ให้ดูแลช่วยเหลือเกื้อกูลเลี้ยงดู
บิดา มารดา บุตร ภรรยา สามี ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง
ทำบุญกับสมณะ ชี พราหม ทำบุญช่วยเหลือสังคม

ทำให้ครบถ้วนตามนี้ก่อน จึงให้ร่วมทำบุญ ตามปฏิภานที่ตั้งใจไว้
เช่น การร่วมทำบุญสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)
หรือ ทำบุญร่วมกับสายบุญที่ท่านเห็นสมควร

๔. การที่มีผู้ร่วมงานสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ) ไม่ว่ากลุ่มใหน หมู่ใหน ใกล้ชิด หรือ ห่างไกล
ทำมากทำน้อย ถี่ ห่าง อย่างไรก็ตาม
ก็ขึ้นอยู่กับ บุญ วาสนา บารมี ของท่านนั้นๆ ที่ได้สร้างสมเอาไว้แล้วว่า
มาก น้อย ผูกพัน กับ ท่าน อ.ทิพากร มาอย่างไร

ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ท่านก็มีสิทธิ์ ร่วมสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)
ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ท่านก็มีสิทธิ์ พบปะพูดคุยกับ ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ ได้สะดวก เหมือนกันหมด


๒ พระโพธิ์สัตว์ยุคพุทธกาล ที่องค์ท่านจุติลงมาอีกครั้งในยุคนี้

หลังจากที่ได้ พบปะพูดคุย กราบนมัสการท่านแล้ว จึงพอจะบอกเล่าได้ว่า

๑. ท่านมีแผนงานจะสร้าง "พระมหาเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี" สูง ๑๐๘ เมตร
โดยมีจะการเซ็นสัญญาว่าจ้าง ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง การควบคุมงาน เบ็ดเสร็จในคราวเดียว

๒. องค์ท่านสามารถหาเงิน ได้อย่างสะดวก ง่ายดาย โดยไม่ต้องอาศัยการร่วมบริจาคเป็นหลัก แต่อย่างใด

วันที่ ๒๖-๒๗-๒๘ ตุลาคมนี้ ท่านก็อยู่ที่ กทม นี่เอง

ไม่ต้องคิดจะตามหาท่านให้ยาก ให้ลำบาก เพราะท่านอยากพบใคร เขาก็จะมาหาท่านเอง

๓ มหาฤๅษีผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า

ท่านก็จะย้ายที่อยู่ไปตามชนบทที่ห่างไกลผู้คน คอยรอรับผู้มีบุญบารมีผูกพัน
คอยรับลูกศิษย์ คอยอบรมสั่งสอนลูกศิษย์
เพื่อสืบทอดสายใยบารมีของท่าน เพื่อให้ถึง พระพุทธศาสนายุคที่ ๓
คือยุคที่ พระพุทธศาสนาดูแลโดยผู้มีฤทธิ์(ไสยเวทย์ ภูตผีปีศาจ)คือ พ.ศ.๓๕๐๐ - พ.ศ.๕๐๐๐

ว่ากันว่า ท่านได้รับศิษย์ ผู้ที่จะสืบทอดต่อจากท่านเอาไว้แล้ว

แม้แต่ตัวผมเอง ที่รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหนในปัจจุบัน ก็เพราะว่า
มีผู้เอารูปของท่านมาให้ดู รูปนั้น ปั้มวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๕ นี่เอง

จึงขอสรุปให้ว่า
ครูบาอาจารย์ หรือ คนที่ท่านพบ คนที่ท่านเจอ ที่เขาบอกว่า เขาเป็นนั่นเป็นนี่ ก็ขอให้พิจารณาว่า

"ท่านผู้นั้น มีบุญบารมีอยู่เท่าไร"
"ท่านผู้นั้น มีญาติธรรมมากน้อยเท่าไร"
"ท่านผู้นั้น มีปฏิภาน มีโครงการอะไร เพื่อพระพุทธศาสนา"
"ท่านผู้นั้น มีโครงการยิ่งใหญ่ระดับใหน"
"ท่านผู้นั้น มีโครงการชัดเจนอย่างไร"

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
ลุงมหา

 

... ในความคิดเห็นของผมนะครับ ผมคิดว่าการสร้างพระก็ดีมีอานิสงส์มาก หากแต่มิใช่พระพุทธประสงค์ขององค์สมเด็จพระทศพลญาณเจ้าผู้เป็นที่พึ่งของโลก

... หากแต่องค์พระประทีปแก้วทรงมีพระทัยเปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาสอนพุทธเวไนยให้ยึดมั่นในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ รู้จักการให้ทานที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน การรักษาศีล ๕ และกรรมบถ ๑๐ ให้บริสุทธิ์ และการภาวนาคือเจริญสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานตามความสามารถ เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

... ถ้าหากพุทธบริษัท ๔ คือ ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ปฏิบัติได้ตามนี้ ภัยพิบัติทั้งหลายก็จะทุเลาเบาบางลงได้เป็นแม่นมั่นครับ

 

พิจารณาดูนะครับ

ขออนุญาตครับ

อ่านเรื่องราวใดๆ ก็ขอให้พิจารณาให้เข้าใจก่อนนะครับ
อย่าได้อ่านลวกๆ อย่าได้คิดเอาเองว่าตัวเองเข้าใจดีแล้ว

ผมก็เขียนไปมากแล้ว จะยกมาให้พิจารณาอีกก็ได้

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
ลุงมหา

 

... ผมยังไม่ได้ว่าไม่ดีแต่ประการใดเลยครับ แค่อยากให้พุทธบริษัททั้งหลายปฏิบัติตามพระธรรมอันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ ที่องสมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้ เพื่อหนีโทษภัยในวัฏฏะสงสารที่น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนักนี้ เข้าสู่แดนเกษม แดนเอกันตบรมสุขคือพระนิพพาน

... ภัยใดใดในโลกนี้ จะเป็นน้ำท่วม ไฟไหม้ วาตภัย หรือสารพัดภัยนานา ยังเทียบไม่ได้แม้เพียงเสี้ยวเดียวของภัยในวัฏฏะสงสารอันยาวนานนี้นะครับท่านลุงมหา

... องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงเคยตรัสไว้ว่า ที่ทรัพย์สมบัติของมนุษย์พินาศไปเพราะไฟ เพราะลม เพราะน้ำ เพราะลม โจร ขโมยลักไป ราชภัยก็ดี ล้วนเพราะมนุษย์ผู้นั้นเคยละเมิดศีลข้อ ๒ อทินนาทานมาก่อน เมื่อรู้ต้นเหตุฉะนี้แล้ว ใยไม่แก้ไขที่ต้นเหตุเล่าครับ

... สร้างพระใหญ่ผมก็อนุโมทนาด้วย ยิ่งเผยแพร่พระธรรมคำสอนของสมเด็จพระโลกนาถเจ้าด้วย ช่วยคนให้ไปพระนิพพานได้ยิ่งดีใหญ่ครับ สาธุ ฯ.

 

สร้างไปก็แค่นั้นล่ะลุง ไม่ทันการแล้วน่ะ อ่านดูนี่น่ะ

 

ท่านเข้าใจข้อคิด ข้อเขียนของตนเองหรือไม่?

ขออนุญาตครับ

ข้อคิด ข้อเขียน ของท่านเอง ท่านเข้าใจหรือไม่

คำพูด คำสอน ของพระพุทธองค์ ก็ คือ "พระธรรม"

แต่สิ่งที่ท่าน ธรรมสามี คิด สิ่งที่ท่านธรรมสามี พูด ไม่ใช่พระธรรม

แต่ท่านกำลังเอ่ยอ้างว่า

ท่านต้องพิจารณา ข้อคิด ข้อเขียนของท่านเอง ว่าคิดอะไร เขียนอะไรออกมา
ผลที่จะตามมาจะเป็นอย่างไร

ผมจะยกเหตุผลหลักการของการสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)
มาให้พิจารณาอีกทีก็ได้

ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

ท่านได้รับศิษย์ ผู้ที่จะสืบทอดต่อจากท่านเอาไว้แล้ว

แม้แต่ตัวผมเอง ที่รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหนในปัจจุบัน ก็เพราะว่า
มีผู้เอารูปของท่านมาให้ดู รูปนั้น ปั้มวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๕ นี่เอง



ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
ลุงมหา
[/COLOR][/QUOTE]

ลุงมหาครับ ผมอยากเห็นรูปบ้างจังครับ และอยากรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน เผื่อมีบุญจะได้ไปกราบบ้างครับ เรื่องฤษีผมเชื่อลุงมหาครับ ผมเคยเจอครับ เช่นปู่ฤาษีวีระตะเทพนาคาศิล ครับ

 

... ทุกอย่างที่ผมเขียนผมเข้าใจ อีกทั้งยังมีสติดีเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และเขียนอิงพระธรรมขององค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

... ท่านลุงมหาเคยได้อ่านพระพุทธประวัติขององค์สมเด็จพระนราสภเมื่อครั้งแรกเริ่มปรารถนาพระโพธิญาณหรือเปล่า ครั้งนั้นพระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นคนยากจนเข็ญใจพ่อตายเหลือแต่มารดา ท่านไปขอเป็นลูกจ้างพ่อค้าสำเภา พอล่องสำเภาไปได้ ๗ วัน สำเภาเกิดอัปปาง ท่านพระโพธิสัตว์ให้มารดานั่งบนหลัง แล้วพาว่ายน้ำอยู่นานถึงเจ็ดวัน ในขณะที่ว่ายน้ำอยู่เกิดอ่อนแรงเมื่อยล้าจทลงน้ำหน่อยหนึ่งแล้วโผล่ขึ้นมา พระโพธิสัตว์จึงคิดว่า

... " ถ้าตัวเราถึง แก่ชีวิตพินาศขาดสูญลงไปในท้องมหาสมุทรทะเลใหญ่พร้อมกับมารดา ณ กาลบัดนี้ ขอกุศลที่เราแบกมารดาว่ายน้ำในมหาสมุทรมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยนักหนานี้ จงเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระโพธิญาณ ขอเราพึงอาจนำสัตว์ทั้งหลายที่เวียนว่ายในวัฏสงสารให้ข้ามพ้นลุถึงฝั่งโน้น คืออมตมหานิพพาน "

.. ครั้นคิดดังนี้แล้ว มาณพหนุ่มนั้นก็ตั้งปณิธานซ้ำลงไปอีกว่า

... " เมื่อ เราเปลื้องตนออกพ้นจากวัฏสงสารแล้ว ขอเราพึงนำสัตว์ทั้งหลายให้เปลื้องตนพ้นวัฏสงสารด้วยเถิด อนึ่งเมื่อเราข้ามจากวัฏสงสารได้แล้ว ขอให้เราพึงนำสัตว์ทั้งหลาย ข้ามพ้นจากวัฏสงสารได้ด้วยเถิด "

... มิใช่แต่องค์พระปัจจุบันเท่านั้นที่ปรารถนาให้ผู้คนทั้งหลายได้ไปพระนิพพาน แม้พระพุทธเจ้าในอดีต และพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่จักมาตรัสในอนาคตก็ล้วนแต่ปรารถนาให้ผู้คนทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน

... ใช่แต่เท่านี้แม้พระโพธิสัตว์ทั้งหลายทั้งอนิยตะและนิยตะโพธิสัตว์หลายล้านองค์ล้วนแต่ปรารถนาให้ผู้คนทั้งหลายพ้นทุกข์เข้าสู่พระนิพพานกันทั้งสิ้น

... ถ้าลุงมหาไม่เชื่อผม ลองถามอ.ทิพากร ดูว่าต้องการให้คนได้ไปพระนิพพานไหม ?

... ท่านลุงมหาเห็นน้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรหรือยังว่าพระองค์ทรงมีพระประสงค์อย่างไร พระองค์ทรงมีพระพุทธประสงค์ให้พุทธบริษัททั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน

... ในกาลเมื่อครั้งสมเด็จพระประทีปแก้วจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ทรงตรัสกับพระอานนท์มหาเถระว่า

... " ดูก่อนอานนท์ ตถาคตสร้างพระบารมีมา ๔ อสงไขย แสนกัป มิได้ปรารถนาซึ่งอามิสบูชา ดูก่อนอานนท์ บริษัททั้ง ๔ มีความยินดีจะบูชาแก่ตถาคตแล้ว จงบูชาด้วยปฏิปัตติบูชา คือ ยกพระศาสนาและปฏิบัติพระธรรมวินัย ให้บริบูรณ์เถิด "

... อีกอย่างเรื่องการอุทิศส่วนกุศล พุทธบริษัททุกคนก็พากันอุทิศอย่างที่ลุงมหานำมาให้ผมดูทั้งนั้น ข้อนี้ก็ไม่เห็นแปลกแตกต่างแต่อย่างใด ใครๆเขาก็ทำกันเป็นปกติ ผมก็ทำของผมทุกวันเช้าเย็น

... แต่การขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรนี้ บางทีเขาก็ยอมบางทีเขาก็ไม่ยอม ท่านหลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโรท่านเคยตอบปัญหาแก่ลูกศิษย์ไว้ว่า

... " ถ้าคุณไปหยิบยืมเงินจากคนอื่นเขามาสัก 10 ราย แต่ยังไม่สามารถจะหาเงินมาใช้หนี้ ให้เขาได้เลยสักรายเดียว แล้วคุณใช้วิธีทำดีกับเขาด้วยวิธีอื่นในทุกวิถีทาง เช่น คอยรับใช้ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้เขาและลูกเมียที่เขารักบ้าง เอาอกเอาใจเขาด้วยการขวนขวายหาสิ่งของที่เขารัก เขาชอบ โดยคุณไม่ต้องใช้เงินใช้ทองมากนักมาให้บ้างหรือ เอาตัวของคุณเขาเสี่ยงภัยปกป้องคุ้มครองเขาบ้าง คุณคิดว่าเจ้าหนี้ทั้ง 10 ราย ของคุณนั้น เขาจะเห็นอกเห็นใจ เห็นในคุณงามความดีของคุณ แล้วยอมยกหนี้สินทั้งหมดให้คุณ โดยที่คุณไม่ต้องหาเงินมาชดใช้เขาเลยหรือไม่ล่ะ..?" หลวงพ่อย้อนถามยิ้ม ๆ เล่นเอาข้าพเจ้าต้องคิดหนักสักครู่หนึ่ง จึงตอบไปว่า

... "ก็คงมีเจ้าหนี้บางรายแหละครับ ที่มีจิตเมตตากรุณา แล้วเห็นในคุณงามความดีของผมบ้าง แล้วยอมยกหนี้สินให้ แต่ก็ต้องขึ้นกับจำนวนเงินที่ผมไปยืมเขามาว่า มากน้อยแค่ไหนด้วย ส่วนบรรดาเจ้าหนี้บางรายที่ทั้งงก ทั้งหน้าเลือดแล้ว ผมคิดว่าแม้ผมจะทำดีกับเขาสักเพียงไร เขาก็คงไม่ยกหนี้สินให้ผมหรอกครับ คงต้องตามทวงเช้าทวงเย็น เอาเงินของเขาคืนจากผมจนได้" "เออ..! ตอบตรงดีนี่ " หลวงพ่อชม แล้วพูดต่อว่า

... "บรรดาเจ้านายเวรทั้งหลาย ที่คุณไปก่อกรรมทำเข็ญกับเขาไว้ในอดีตชาติ ก็เหมือนเจ้าหนี้ที่คุณพูดมานั้นแหละนะ แม้คุณจะถือบวชบำเพ็ญ ศีล ภาวนา แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้เขาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เขาอยู่ดี มีสุขขึ้นก็ตามที เจ้ากรรมนายเวรบางรายที่เขารู้คุณ เขาก็อาจอภัยไม่คิดทวงหนี้กรรมจากคุณอีก แต่เจ้ากรรมนายเวรบางราย แม้คุณจะทำดีสักปานใด เขาก็ยังผูกพยาบาท อาฆาตจองเวรกับคุณ ติดตามจองล้างจองผลาญคุณไม่รู้จบสิ้นก็มีนะ แม้ตามทวงหนี้กรรมจากคุณไม่ได้ในชาตินี้ เขาก็จะติดตามทวงหนี้กรรมจากคุณต่อไปในชาติหน้า ภพหน้า ไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งคุณไปก่อบาปมหันต์ ด้วยการลบหลู่ดูหมิ่น หรือกระทำความชั่วร้ายต่อพระพุทธเจ้าก็ดี พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี พระอริยสงฆ์ก็ดี บิดา มารดาก็ดี ครูบาอาจารย์ ตลอดจนผู้มีพระคุณทั้งหลายก็ดี แม้ท่านจะอภัยให้ก็ตาม แต่กฎของกรรมจะไม่มีการอภัยให้เป็นอันขาดนะ คุณต้องชดใช้กรรมชั่วที่คุณได้กระทำมาอย่างแน่นอน หลบเลี่ยงไม่ได้เลยนะ แม้แต่พระโมคคัลลาน์ ซึ่งเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า ซึ่งได้รับสมญาว่า "เลิศด้วยอิทธิฤทธิ์" ท่านก็ยังต้องชดใช้กรรมที่ได้ก่อมาแล้วในอดีตชาติ โดยยอมให้โจรทุบตาย ในชาติสุดท้ายนั้นเอง" หลวงพ่ออธิบายอย่างละเอียดและกระจ่างชัดยิ่งนัก

... และในบทอภิณหะปัจจะเวกขณะ บทสุดท้ายท่านว่า

... " เรามีกรรมเป็นของๆตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติดตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมอันใดไว้ จะเป็นบุญหรือเป็นบาป เราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นๆแน่นอน "

... พระพุทธานุภาพ พระปัจเจกพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พรหมานุภาพ เทวานุภาพ ท่านช่วยคนดี มีบุญ มีศีล มีธรรมในใจ และไม่เกินกฎแห่งกรรม

... และอีกอย่างหนึ่ง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยจะเกิดมีแก่มนุษย์ ก็ด้วยเคยทำบุญให้ทานมาในกาลก่อนทั้งสิ้น ทำบุญน้อยก็รวยน้อย ทำบุญมามากก็รวยมาก ทรัพย์สินทุกอย่างเกิดมีขึ้นตามเหตุคือปุพเพกตปุญญตา บุญกุศลที่เคยทำมาแต่ปางก่อน

... จะว่าไปแล้วภัยพิบัติที่เขาพากันเขียนไว้ในหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้นั้นจะไม่เกิดมีแก่ประเทศไทยเราแน่นอน พากันตื่นตูมไปกันเอง จะมีก็แต่น้ำท่วมในบางที่ ภัยจากพวกผู้ร้ายโจรขโมย ยาบ้ายาเสพย์ติด ความขัดแย้งแย่งอำนาจกันทางการเมืองเป็นต้น ภัยพวกนี้จะบีบให้คนเห็นความทุกข์ แล้วจะพากันยึดเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาประพฤติปฏิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริง พระพุทธศาสนาต่อจากนี้ไปจนเกือบสิ้นพระศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก ผู้คนในโลกส่วนใหญ่จะนับถือพระพุทธศาสนา และในกาลครั้งนั้นทั้งพระสงฆ์สามเณรและคฤหัสถ์จะเป็นพระอริยเจ้ามากมายนับเป็นโกฏิๆ ทีเดียว

... ผมก็ยังคลางแคลงใจอยู่นะครับ สร้างพระใหญ่ป้องกันภัยพิบัติ ผมเคยได้ยินแต่สร้างไว้เป็นที่กราบไหว้บูชาแก่เทวดาและมนุษย์ และเป็นพุทธานุสสติระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า อย่างนี้เป็นต้น หรือผมเรียนไม่ถึงก็ไม่รู้ แต่อย่างไรสร้างพระพุทธรูปไว้ในพระพุทธศาสนาผมก็ขออนุโมทนากับกุศลเจตนาในครั้งนี้ด้วยครับ

... ถ้าลุงมหาไม่เชื่อผมว่าต่อไปจะมีพระอริยเจ้ามากมาย ก็อย่าเพิ่งด่วนจากโลกนี้ไปก็แล้วกัน แล้วจะได้เห็นด้วยสองตา แต่ผมขอบายก่อนยังต้องสร้างบารมีอีกหลายอสงไขยผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณครับฯ.