อาจารย์ชุม ไชยคีรี (พระรอด พิธีเสด็จกลับ น.6 , ขุนแผน น.7)

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย Supakiti, 16 สิงหาคม 2013.

  1. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  2. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รับทราบการจองพระรอด รายการที่ 1 ขอบคุณมากครับ
     
  3. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 96

    พระขุนแผนเสด็จกลับ เนื้อเหลือง พิมพ์เล็ก หลังเรียบ ปี 2506


    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  4. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 97

    ขุนแผนเสด็จกลับ พิมพ์ใหญ่หลังเรียบ เนื้อเหลือง ปิดทองเดิม ปี 2506 หายากครับ


    วัตถุประสงค์ในการสร้างพระเสด็จกลับ

    เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า หลวงปู่สุภา กันตสีโล ได้สร้างวัดที่เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ตเสร็จตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 พร้อมทั้งได้สร้างพระพุทธไสยาสน์ ประดิษฐานไว้บนยอดเขาเกาะสิเหร่ และท่านได้ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานแววพระเนตร จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานให้ตามความปรารถนา หากแต่พระพุทธไสยาสน์องค์นั้นยังมิได้มีวิหารครอบคลุม เป็นเพียงแต่ใช้สังกะสีมุงไว้เท่านั้น หลวงปู่สุภาจึงมีความประสงค์ที่จะสร้างพระวิหารครอบคลุมพระพุทธไสยาสน์เป็น การโดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อให้สมพระเกียรติ แต่ยังขาดปัจจัยในการสร้างอีกมาก หลวงปู่จึงได้ทำการสร้างพระเสด็จกลับ เพื่อหาปัจจัยทำการดังกล่าว[/B]

    การสร้างพระเสด็จกลับที่วัดสารอด เขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพ

    หลวงปู่สุภา กันตสีโล ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อพบอาจารย์ชุม ไชยคีรี ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถ และมีความชำนาญในการสร้างพระมาเป็นเวลานาน ท่านได้ขอความร่วมมือจากอาจารย์ชุม เพื่อนำเอาว่านยา แร่ธาตุ ที่ท่านสะสมไว้ตั้งแต่ครั้งเมื่อท่านเดินธุดงค์ สร้างรูปพระและวัตถุมงคลเพื่อสมนาคุณแก่ศิษยานุศิษย์ และผู้มีจิตศรัทธา ที่บริจาคปัจจัยร่วมทุนสร้างพระวิหารในครั้งนี้ อาจารย์ชุมมีความยินดีและอนุโมทนาในกุศลครั้งนี้ พร้อมกันนั้นได้มอบแร่ธาตุ ว่านยา ผงวิเศษกว่า 1000 ชนิด ที่อาจารย์ได้สะสมไว้เพื่อนำมาประสมกับว่านยาของหลวงปู่สุภา อาจารย์ชุม ได้อัญเชิญวิญญาณขุนแผน ซึ่งท่านเคารพนับถือเป็นอย่างสูงในชีวิตของท่าน โดยที่ถือว่าเป็นวิญญาณวิเศษ เป็นเทพชั้นสูง เข้าประทับทรงเชิญเข้าร่วมการกุศล วิญญาณขุนแผนผู้ปรารถนาพระโพธิญาณก็ยินดีอนุโมทนาอนุญาตให้ทำพระเป็นรูปทรง ขุนแผนเรือนแก้ว พร้อมทั้งบอกตำราและวิธีการสร้างพระตามตำราอาจารย์คง ผู้เป็นอาจารย์ของท่าน อาจารย์คงเป็นผู้สร้างพระขุนแผนซุ้มเรือนแก้วให้แก่ขุนแผนตั้งแต่ครั้งต้น สมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งขุนแผนเป็นแม่ทัพ ท่านรับเข้าประทับทรงเป็นประธานทำพิธีปลุกเสก บรรจุคุณให้มีคุณครบถ้วนตามคุณวิเศษของท่านเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิต ต่อจากนั้นอาจารย์ชุม ได้ไปเชิญอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นผู้ทรงความรู้ทางคุณพระและทางไสยศาสตร์เป็นพิเศษอีกท่านหนึ่งมาร่วม ด้วย อาจารย์อุทัยก็ยินดีอนุโมทนาและท่านยังได้อุทิศว่านยา แร่ธาตุ ผงวิเศษ ทำผ้ายันต์เสือ ผ้ายันต์สิงห์ ซึ่งเป็นผ้ายันต์ที่ท่านเคยใช้ได้ผลดีมาแล้วเข้าสมทบในการกุศล และได้อุทิศตัวเข้าร่วมปลุกเสกตลอดพิธี ต่อจากนั้นก็พิจารณาหาสถานที่ทำพิธี เฒ่าแก่ยู่ลิ้น แซ่เฮง ได้ขอร้องให้ไปทำพิธีที่วัดสารอด เขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพ โดยให้เหตุผลว่าวัดสารอดเป็นวัดที่เก่าชำรุดทรุดโทรม และกำลังทำการบูรณะปฏิสังขรณ์อยู่ หลวงพ่อสุภา และอาจารย์ชุม จึงได้ไปพบอธิการชนาง เอี่ยมอุดม เจ้าอาวาสและกรรมการวัด ทุกคนเมื่อทราบเรื่องราวต่างก็ยินดีและให้ความสะดวกทุกประการ พิธีสร้างพระเสด็จกลับจึงกำหนดทำขึ้นที่วัดสารอด เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2506 การพิมพ์พระเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2506 และพิมพ์ครบ 84000 องค์เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2506

    เริ่มทำพิธีปลุกเสกเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2506 และพิธีสมโภชได้ทำเสร็จเรียบร้อยในวันที่ 24 มกราคม 2507 เวลา 6.00 นาฬิกา รวมเวลาทั้งสิ้นสองเดือนเศษ พระเสด็จกลับหรือพระผงวิเศษจำนวน 84000 องค์ เป็นพระทรงขุนแผนเรือนแก้ว ทรงพระรอด รูปและลูกประคำหลวงปู่คงของอาจารย์ชุม รูปเหรียญหลวงปู่สุภา กันตสีโล ที่สร้างด้วยว่านยาแร่ธาตุ พญาว่าน มหาว่าน น้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ รวม 2000 กว่าชนิด ผ้ายันต์เสือ ผ้ายันต์สิงห์ ของอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ น้ำมันมหานิยมเลิกรบของอาจารย์ชุม ไชยคีรี ที่ทำพิธีสร้างและพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถวัดสารอด เขตราษฏร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี(ในสมัยนั้น)

    พิธีพุทธาภิเษก

    วันที่ 23 ธันวาคม 2506 เวลา 6.30 นาฬิกา ถือเป็นอุดมฤกษ์พุทธาภิเษกและปลุกเศก อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ เป็นผู้ทำพิธีบวงสรวงสังเวย เวลา 9.00 น.หลวงปู่สุภาเจิมเทียนชัย และอาจารย์ทั้งสามท่านร่วมกันอธิษฐานเชิญครูอาจารย์และวิญญาณเทพเข้าประจำใน มณฑลพิธี วิญญาณขุนแผนเข้าประทับตรวจความเรียบร้อยของพิธี อาจารย์อุทัยเข้าบริกรรมเริ่มตั้งธาตุ บรรจุธาตุเป็นเวลา 8 ชั่วโมงพร้อมกันนั้นอาจารย์ชุม นำพระผงวิเศษที่สร้างพร้อมกันรวม 108 องค์ ไปโดยเรือยนต์พร้อมด้วยพระสงฆ์ 5 รูป ไปทำพิธีบวงสรวงสังเวยกลางแม่น้ำแล้วกลับมาทำพิธีที่ศาลเทพารักษ์ที่ได้ สร้างไว้ที่แม่น้ำหน้าวัดสารอด เวลา 19.00น. พระเถระผู้ใหญ่ 9 รูปจากพระอารามหลวงต่างๆ มีสมเด็จพระวันรัตน์วัดพระเชตุพนเป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์ เวลา 20.30น. เชิญวิญญาณอาจารย์คงผู้เป็นอาจารย์ของขุนแผนเข้าประทับทรง จุดเทียนชัย พระสงฆ์ชุดพุทธาภิเษก 4 รูป สวดคาถาจุดเทียนชัย หลวงพ่อสุภานั่งปรกฯ วิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรง อาจารย์ชุม อาจารย์อุทัย เข้าทำการปลุกเสกพระสวดพุทธาภิเษก

    เวลา 21.00น. หยุดพัก เปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ที่มาในพิธีเข้าพบวิญญาณขุนแผนที่ประทับทรงถึงเวลา 22.00 เวลา 24.00น. ขุนแผนพร้อมด้วยวิญญาณเทพ ทำพิธีปลุกเสกตลอดพิธี มีพุทธาภิเษกและบรรจุคุณโดยพระอาจารย์ผู้ทรงคุณชุดละ 9 อาจารย์และเชิญวิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรง บรรจุคุณตลอดพิธี โดยแบ่งเวลาออกเป็น 5 ระยะ ดังนี้

    ระยะที่1 ก. เสกตั้งธาตุ บรรจุธาตุ แต่งธาตุ เสกพระคาถาจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตลงสู่พระครรภ์พระพุทธมารดา เสกพระคาถาประสูติจากพระครรภ์ เสกพระคาถาเสด็จย่าง 7 ก้าว พระอาการ 32 พระคาถาบำเพ็ญพระบารมีจนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าเป็นเวลา 3 วัน

    ข. เสกธาตุ 4 อาการ 32 อักขระ 16 หัวใจของ 5 หัวใจ 108 อย่าง 108 จบ เป็นเวลา 3 วัน

    ค. เสกธาตุ 4 อาการ 32 อักขระ 16 หัวใจของ 5 หัวใจ 108 อย่าง คาถาชุดคงกระพัน อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 2 เสกกันปืน มหาอุด กันวัตถุระเบิด ห้ามดิน น้ำ ลม ไฟ เสกผูก เสกกัน เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 3 เสกแคล้วคลาด เสกศักดิ์สิทธิ์ 1 ไปกลับ เสกแปลงรูปหุ่นพยนต์ เสกกำแพงเพชรเจ็ดชั้น เสกมงกุฏพระพุทธเจ้า เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 4 เสกมหานิยม มหาเสน่ห์ มหาละลวย มหาลาภ เลิกรบ เลิกเบียดเบียน เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 5 เสกรวม เสกผูก เสกกัน 4 วัน รวมเป็นเวลาพุทธาภิเษกและปลุกเสก 30 วัน วันละ 3 เวลา คือ 5.00น. 9.00น. 21.00 น.

    ในการเสกนี้พระอาจารย์ที่เป็นภิกษุต้องแสดง อาบัติทุกครั้งแล้วจึงเข้าปริมณฑลพิธี อาจารย์ที่เป็นฆราวาสต้องนุ่งขาวห่มขาวสมาทานศีลห้าโดยถือพรหมจรรย์เป็นวัตร อยู่ประจำในบริเวณพิธี และบริเวณวัดตลอดพิธี เมื่อเสกจบลงระยะหนึ่งๆก็ทำการพิสูจน์ทดลองต่อหน้าประชาชนให้ผู้สนใจชม เป็นการอบรมศึกษาวิธีทำจิตให้เข้าถึงคุณพระไปในตัว การทดลองนี้เป็นการชี้ให้เห็นว่าคุณพระพุทธมีอยู่จริงแม้นท่านจะเสด็จเข้า สู่นิพพานไปแล้วก็ตาม ถ้าผู้ใดเข้าถึงพระพุทธคุณ เอาพระพุทธคุณเป็นที่พึ่ง พระพุทธคุณก็สามารถเป็นที่พึ่งที่ระลึกและกำจัดภัยแก่ผู้นั้นได้จริง

    วันที่ 23 มกราคม 2507 เวลา 20.00น. ได้นิมนต์พระเถระผู้ทรงคุณทางวิปัสสนากรรมฐาน 9 รูป สวดพระธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร พระมหาสมัยสูตร สวดพุทธาภิเษกและปลุกเสกด้วยอาจารย์ชุดเดิม ถึงเวลา 23.30 น.

    วันที่ 24 มกราคม 2507 เวลา 03.00น. ได้นิมนต์พระเถระผู้ทรงคุณทางวิปัสสนากรรมฐาน 9 รูป เข้านั่งปรกสงบเสียงอื่นๆจนหมดจนถึงเวลา 04.00น. ต่อจากนั้นสวดพุทธาภิเษกบทสุดท้าย พระอาจารย์และอาจารย์ชุดเดิมจุดเทียมมงคลเจิมเวียนเป็นทักษิณาวัตร 3 รอบ พระเถระ 9 รูปสวดชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้อง ย่ำกลองจนถึงเวลา 06.00น. พระสวดคาถาดับเทียนชัย พระอาจารย์และอาจารย์ชุดเดิมดับเทียนชัยและเทียนเจิมพร้อมกัน พระอาจารย์ - อาจารย์ และคณะกรรมการนำพระผงวิเศษทุกพิมพ์ที่สร้างขึ้นพร้อมกันในพิธี และพระผงทุกรุ่นทุกพิมพ์ของอาจารย์ชุมที่เคยสร้างมาเมื่อครั้งก่อนๆพร้อม ด้วยแบบพิมพ์ อธิษฐานบรรจุเข้าไปในกรุใต้ฐานพระประธานในอุโบสถวัดสารอด เสร็จแล้วถวายอาหารบิณฑบาตแด่พระสงฆ์ในวัดจำนวนประมาณ 50 รูป

    เวลา 08.00น. พระเถระ 9 รูปสวดชัยมงคลคาถา พระเถระอาวุโสนั่งเป็นประธาน พระอาจารย์และอาจารย์รวม 10 รูปบริกรรมนับองค์พระให้คะแนนร้อน คะแนนพัน คะแนนหมื่น เมื่อตรวจนับเสร็จแล้วมอบองค์พระให้คณะกรรมการ

    เวลา 10.30น. ได้นิมนต์พระ 9 รูป มีสมเด็จพระวันรัตน์วัดพระเชตุพนฯเป็นประธานทำพิธีสมโภชน์ พระอาจารย์และอาจารย์พร้อมคณะกรรมการและผู้พิมพ์พระทำบุญตักบาตรถวายเครื่อง ไทยทาน

    วันที่ 25 มกราคม 2507 เวลา 06.00-12.00น. อาจารย์ชุมได้เปิดปฐมฤกษ์แจกพระให้แก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจในเครื่องแบบ วิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ หลวงพ่อสุภา กันตสีโล และอาจารย์อุทัย แจกพระและผ้ายันต์แก่ทหารตำรวจและประชาชนผู้บริจาคปัจจัย ไปจนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507

    วันที่ 13-19 กุมภาพันธ์ 2507 ทำพิธีแจกพระที่วัดเกาะสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
    วันที่ 23-29 กุมภาพันธ์ 2507 ทำพิธีแจกพระที่สำนักวิหารธรรมขุนแผนอุทิศ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

    วันที่ 1-7 มีนาคม 2507 ทำพิธีแจกพระที่สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต

    ส่วนผสมในการสร้างพระเสด็จกลับประกอบด้วยว่ายยา แร่ธาตุวิเศษ 9 ประเภทดังนี้

    1.ว่านวิเศษ 108 ชนิด เจาะจงเอาแต่ละชนิดที่มีคุณวิเศษแต่ละอย่างไม่ซ้ำกัน ซึ่งรวมทั้งว่านทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวถึงแล้วข้างต้นด้วย

    2.ดอกไม้ต่างชื่อต่างสี 108 ชนิด เฉพาะมีซื่อไม่ซ้ำกัน และจะขาดเสียไม่ได้จะต้องมีดอกว่านขันหมากเงินขันหมากทอง

    3.ดินสังเวชนียสถานทั้งสี่

    4.ดอกไม้ที่พระสงฆ์ขอขมาโทษซึ่งกันและกัน ในวันเข้าพรรษา เฉพาะวัดที่มีชื่อป็นมงคลทั่วประเทศวันเดียว 108 วัด

    5.ดอกไม้ที่ประชาชนนำไปบูชาพระประธานในพระอุโบสถ ในสันจาตุรงคสันนิบาต 108วัด เริ่มตั้งแต่อาทิตย์ตกจนถึงเที่ยงคืน นำมาให้ถึงพร้อมกันในคืนนั้น

    6.แม่น้ำในมหานที 9 สาย และพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์อายุ 1,000 กว่าปี

    7.ตะไคร้น้ำที่พระบรมมหาเจดีย์ 9 แห่ง

    8.ดินโป่ง 9 แห่ง 9.แร่ธาตุ 9 ชนิด คือ แร่จักรนารายณ์ แร่สังฆวาณรณ์ แร่ดีบุก แร่ตะกั่วเถื่อน แร่พลวง แร่เหล็กไหล แร่หงอนไก่เหลือง แร่วิเศษ 400 กว่าปี ผงวิเศษก้นกรุวัดขวิด สุพรรณบุรี

    1. ว่านวิเศษ 108 ชนิด

    1.ว่านจักรนารายณ์ 55.ว่านพระฉิมพ์

    2.ว่านกระจายหัวควาย (พระยาว่าน) 56.ว่านสามหวายไม่แตก

    3.ว่านท้าวมหาพรหม 57.ว่านเณรแก้ว

    4.ว่านพระตะบะ 58.ว่านนางพญา

    .ว่านมหานิยม 59.ว่านพิชัยดาบหัก

    6.ว่านเพชรกลับ 60.ว่านอีโต้ดาบหัก

    7.ว่านเสน่ห์จันทร์ทอง 61.ว่านกริ่งกลางดง

    8.ว่านเสือโคร่ง 62.ว่านพระยาหงส์ทอง

    9.ว่านเพชรสังฆาต 63.ว่านสบู่เลือดอย่างขาว

    10.ว่านหนุมานยกทัพ 64.ว่านจอมมฤคา

    11.ว่านหนุมาน 65.ว่านสบู่หยวก

    12.ว่านหนุมานนั่งแท่น 66.ว่านแร้งคอดำ

    13.ว่านดาบหัก 67.ว่านขันหมากเงิน

    14.ว่านม้าเหาะ 68.ว่านขันหมากทอง

    15.ว่านร่อนทอง 69.ว่านทองห้ามทัพ

    16.ว่านพระยาช้างเผือก 70.ว่านฉัตรพระพรหม

    17.ว่านทิพยเนตร 71.ว่านช้างงาอ่อน

    18.ว่านสามพันตึง 72.ว่านสารพัดพิษ

    19.ว่านกระบี่ทอง 73.ว่านพระเจ้าห้าองค์

    20.ว่านพระยาไม้ผุ 74.ว่านหน้าทั่งตัวผู้

    21.ว่านนางคำ 75.ว่านหนุมานเดินดง

    22.ว่านมหาระงับ 76.ว่านแมวเซา

    23.ว่านปราบสี่ทิศ 77.ว่านตาลปัตรฤษี

    24.ว่านแม่โพสพ 78.ว่านเพชรน้อย

    25.ว่านเสือร้องไห้ 79.ว่านเพชรหึง

    26.ว่านนโมพุทธายะ 80.ว่านหนังแห้งตัวเมีย

    27.ว่านพังพอนไฟ 81.ว่านเขียวมรกต

    28.ว่านลูกล้อมแม่ 82.ว่านปราบพระนคร

    29.ว่านครอบจักรวาล 83.ว่านคันธมาลา

    30.ว่านกุมารทอง 84.ว่านขามเครือ

    31.ว่านเพชรหลีก 85.ว่านพระยาลิ้นดำ

    32.ว่านนารายณ์แปลงรูป 86.ว่านหอกหัก

    33.ว่านหอมดำ 87.ว่านขุนแผนสะกดทัพ

    34.ว่านทองคำ 88.ว่านสมเด็จนางพญา

    35.ว่านขุนแผน 89.ว่านมหาเสน่ห์

    36.ว่านขอทอง 90.ว่านหนังแห้ง

    37.ว่านหอมเสน่ห์จันทร์ 91.ว่านนางคุ้ม

    38.ว่านพระยาลิ้นงู 92.ว่านแสงอาทิตย์

    39.ว่านช้างประสมโขลง 93.ว่านนิลภัตร

    40.ว่านพฤหัสบดี 94.ว่านพระจันทร์

    41.ว่านพระยาหน้าศึก 95.ว่านกระชายดำ

    42.ว่านนางล้อมฯ 96.ว่านชัยมงคล

    43.ว่านเสน่ห์จันทร์ก้านแดง 97.ว่านคางคกเหล็ก

    44.ว่านนางกวัก 98.ว่านหน้าทั่งตัวเมีย

    45.ว่านกะทู้เจ็ดแบก 99.ว่านรางจืด

    46.ว่านขมิ้นขาว 100.ว่านขาใหญ่

    47.ว่านมหาเมฆ 101.ว่านหนังเหนียว

    48.ว่านสีหมอกม้า 102.ว่านพนักทอง

    49.ว่านน้ำแห้งตัวเมีย 103.ว่านไพลดำ

    50.ว่านเสน่ห์จันทร์ก้านเขียว 104.ว่านห้าเดียว

    51.ว่านดอกทอง 105.ว่านลิ้นมังกร

    52.ว่านลิงดำ 106.ว่านสบู่ต้น

    3.ว่านพระอาทิตย์ 107.ว่านกงจักรพระอินทร์

    54.ว่านสบู่ทอง 108.ว่านนางรำ

    2. ดอกไม้ต่างชื่อต่างสี 108 ชนิด

    1.ดอกว่านขันหมากเงิน 55.ดอกเฟื้องฟ้า

    2.ดอกว่านขันหมากทอง 56.ดอกเสี่ยงทาย

    3.ดอกประทุมบัวหลวง 57.ดอกจันทร์แจ่ม

    4.ดอกชัยพฤกษ์ 58.ดอกมะเขือพวง

    5.ดอกพิกุล 59.ดอกกระถินพิมาน

    6.ดอกบุนนาค 60.ดอกแจง

    7.ดอกสารภี 61.ดอกทุ้งฟ้า

    8.ดอกกาหลง 62.ดอกจานแดง

    9.ดอกจำปา 63.ดอกบานบุรี

    10.ดอกจำปี 64.ดอกแพงพวยฝรั่ง

    11.ดอกบัวสวรรค์ 65.ดอกกล้ายไม้ดิน

    12.ดอกเสือหมอบ 66.ดอกเฟื้องชมพู

    13.ดอกยูงทอง 67.ดอกรักแดง

    14.ดอกราชาวดี 68.ดอกว่านหางกระรอก

    15.ดอกราตรี 69.ดอกทองอุไร

    16.ดอกพิกุลทอง 70.ดอกเข็มขาว

    17.ดอกหญ้าเจ้าชู้ 71.ดอกสุคนธรส

    18.ดอกยี่โถ 72.ดอกเข็มแดง

    19.ดอกทองกวาว 73.ดอกรักแร่

    20.ดอกมลิวัลย์ 74.ดอกดาวเรือง

    21.ดอกผกามาศ 75.ดอกบานชื่น

    22.ดอกซ่อนกลิ่น 76.ดอกดาวกระจาย

    23.ดอกว่านลิ้นมังกร 77.ดอกเข็มชมพู

    24.ดอกลั่นทม 78.ดอกนางแย้ม

    25.ดอกชงโค 79.ดอกเการัก

    26.ดอกเบญจมาศ 80.ดอกแพงพวยบก

    27.ดอกทรงบาดาล 81.ดอกอโศก

    28.ดอกกระดังงา 82.ดอกแคทราย

    29.ดอกพุทธรักษา 83.ดอกคนธีสอ

    30.ดอกเข็มเหลือง 84ดอกผกากรอง

    31.ดอกบานไม่รู้โรย 85.ดอกทองพันชั่ง

    32.ดอกชบา 86.ดอกมะลิซ้อน

    33.ดอกแก้ว 87.ดอกพุดซาซ้อน

    34.ดอกคัดเค้า 88.ดอกการะเกด

    35.ดอกสายหยุด 89.ดอกชุมเรียง

    36.ดอกพุทธชาด 90.ดอกทับทิมทอง

    37.ดอกพุดซ้อน 91.ดอกถั่วหนัง

    38.ดอกหงอนไก่ 92.ดอกกรรณิการ์

    39.ดอกรัก 93.ดอกว่านเศรษฐี

    40.ดอกรักซ้อน 94.ดอกฝ้าย

    41.ดอกว่านเสี่ยงโชค 95.ดอกดาบนารายณ์

    42.ดอกกล้วยไม้เขา 96.ดอกลำเจียก

    43.ดอกประทุมบัวขาว 97.ดอกทองหลางน้ำ

    44.ดอกยูงเล็ก 98.ดอกปีกนกกระทา

    45.ดอกชำมะนาด 99.ดอกฤาษีผสม

    46.ดอกสร้อยทอง 100.ดอกฉัตรมงคล

    47.ดอกมะลิลา 101.ดอกทานตะวัน

    48.ดอกมหาหงษ์ 102.ดอกกระถินบ้าน

    49.ดอกชวนชม 103.ดอกอินทะนิล

    50.ดอกว่านงาช้าง 104.ดอกเข็มเศรษฐี

    51.ดอกกุหลาบ 105.ดอกราชพฤกษ์

    52.ดอกกันติ 106.ดอกนางตามชู้

    53.ดอกเขี้ยวแตก 107.ดอกอย่าลืมฉัน

    54.ดอกแคฝรั่ง 108.ดอกรักไม่ลืม

    3. ดอกไม้วันจาตุรงคสันนิบาต 108 วัด คือ

    1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 55.วัดราชโอรสฯ

    2.วัดบวรนิเวศวิหาร 56.วัดนางนองฯ

    3.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 57.วัดหนังฯ

    4.วัดมกุฏกษัตริยาราม 58.วัดอัปสรสวรรค์ฯ

    5.วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม 59.วัดจันทารามฯ

    6.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 60.วัดสุขารามฯ

    7.วัดสระเกศวรวิหาร 61.วัดใหญ่ศรีสุพรรณฯ

    8.วัดโสมนัสวิหาร 62.วัดอินทารามฯ

    9.วัดราษฎร์บูรณะฯ 63.วัดบางไส้ไก่

    10.วัดบพิตรพิมุขฯ 64.วัดสังข์กระจายฯ

    11.วัดชัยชนะสงครามฯ 65.วัดราชสิทธารามฯ

    12.วัดสิตารามฯ 66.วัดหงส์รัตนารามฯ

    13.วัดปรินายกฯ 67.วัดอรุณราชวรารามฯ

    14.วัดสุนทรธรรมทานฯ 68.วัดเครือวัลย์วรวิหารฯ

    15.วัดตรีทศเทพฯ 69.วัดนาคกลางฯ

    16.วัดราขนัดดาฯ 70.วัดพระยาทำฯ

    17.วัดเทพธิดารามฯ 71.วัดอัมรินทร์ฯ

    18.อมหรรณพารามฯ 72.วัดฉิมฯ

    19.วัดบูรณศิริมาตยารามฯ 73.วัดวิเศษการฯ

    20.วัดสุทัศเทพวนารามฯ 74.วัดระฆังโฆสิตารามฯ

    21.วัดราชประดิษฐ์ฯ 75.วัดช่องลมฯ

    22.วัดราชผาติการามฯ 76.วัดลครทำฯ

    23.วัดยรมนิวาสน์ฯ 77.วัดชิโนรสฯ

    24.วัดปทุมคงคาฯ 78.วัดชนะสงครามฯ

    25.วัดสัมพันธวงศ์ฯ 79.วัดอินทรวิหารฯ

    26.วัดกันมาตุยารามฯ 80.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ฯ

    27.วัดไตรมิตรฯ 81.วัดประยุรวงศาวาสฯ

    28.วัดดวงแขฯ 82.วัดกัลยาณนิมิตรฯ

    29.วัดชัยมงคลฯ 83.วัดดงมูลเหล็กฯ

    30.วัดชำนิหัตถการฯ 84.วัดเสน่หาฯ นครปฐม

    31วัดสระบัวฯ 85.วัดพระปฐมเจดีย์ฯ

    32.วัดราชาธิวาสฯ 86.วัดไผ่ล้อมฯ

    33.วัดนรนารถสุนทริการามฯ 87.วัดพระงามฯ

    34.วัดเทวราชกุญชรฯ 88.วัดท่าตำหนักฯ

    35.วัดพลับพลาไชยฯ 89.วัดทัพหลวงฯ

    36.วัดคณิกาผลฯ 90.วัดธรรมศาลาฯ

    37.วัดมหาพฤฒารามฯ 91.วัดคลองบางแก้วฯ

    38.วัดแก้วฟ้าล่างฯ 92.วัดพระประโทนฯ

    39.วัดสังเวชวิศยารามฯ 93.วัดสรรเพ็ชรฯ

    40.วัดหัวลำโพงฯ 94.วัดพระนางฯ เพชรบุรี

    41.วัดสามพระยาฯ 95.วัดมหาสมณารามฯ

    42.วัดอนงคารามฯ 96.วัดสนามพราหมณ์ฯ

    43.วัดบุปผารามฯ 97.วัดลาดฯ

    44.วัดพิชัยญาติการามฯ 98.วัดคงคารามฯ

    45.วัดหิรัญรูจีวรวิหารฯ 99.วัดป้อมฯ

    46.วัดทองนพคุณฯ 100.วัดยางฯ

    47.วัดทองธรรมชาติฯ 101.วัดซ่อยฯ

    48.วัดขุนจันทร์ฯ 102.วัดสัตตนาถปริวัติฯ

    49.วัดนวลนรดิศฯ 103.วัดสีชมภูฯ

    50.วัดภาษีเจริญฯ 104.วัดพลับฯ เพชรบุรี

    51.วัดเวฬุราชิณฯ 105.วัดห้วยจระเข้

    52.วัดราชคฤห์ฯ 106.วัดตุ๊กตา

    53.วัดเศวตฉัตรฯ 107.วัดชีประเสริฐฯ

    54.วัดโพธิ์นิมิตรฯ 108.วัดศรีสุริวงศ์ฯ

    4. น้ำในมหานที 9 สายคือ

    1.แม่น้ำโขง 2.แม่น้ำเจ้าพระยา 3.แม่น้ำปิง

    4.แม่น้ำวัง 5.แม่น้ำยม 6.แม่น้ำน่าน

    7.แม่น้ำมูล 8.แม่น้ำท่าจีน 9.แม่น้ำตานี

    5. ตะไคร่น้ำที่พระบรมธาตุมหาเจดีย์ 9 แห่ง

    1.พระบรมธาตุนครปฐม 2.พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช 3.พระบรมธาตุนครพนม

    4.พระบรมธาตุดอยสุเทพ 5.พระบรมธาตุลำปาง 6.พระบรมธาตุสุโขทัย

    7.พระบรมธาตุจอมทอง 8.พระบรมธาตุชะเวดากอง 9.พระบรมธาตุหงษารามัญ

    6. ดินโป่ง 9 แห่ง คือ

    1.ดินโป่งรางกระถิน 2.ดินโป่งหน้าเขาพิศดง 3.ดินโป่งมักเม้า

    4.ดินโป่งใหญ่ในป่าลึกเมืองกายจน์ 5.ดินโป่งพุล้อ 6.ดินโป่งหลังเขาพิศดง

    7.ดินโป่งท่าโข่ง 8.ดินโป่งไมยราพ 9.ดินโป่งชุมนุมตาโหงพราย


    7. น้ำพระพุทธมนต์และน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาประสมว่านยา

    1. น้ำมนต์ หลวงพ่อวัดสามแก้ว จ.ชุมพร

    2. น้ำมนต์ พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช

    3. น้ำมนต์หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช

    4. น้ำมนต์บนเขาสมเด็จปู่เจ้าเกาะไชโย สงขลา

    5. น้ำมนต์ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปัตตานี

    6. น้ำมนต์ ในสระศักดิ์สิทธิ์ เพชรบุรี

    7. น้ำพระพุทธมนต์ 25 ศตวรรษ ท้องสนามหลวง

    8. น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร

    9. น้ำพระพุทธมนต์ พระบรมธาตุนครพนม

    10. น้ำพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถ วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ

    11 .น้ำในสะศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั่วประเทศมี สระแก้ว สระยมนา สระคา สระเกศ ตระพังเงิน ตระพังทอง สุพรรณบุรี สระน้ำจันทร์ นครปฐม เป็นต้น

    12. น้ำพระพุทธมนต์ ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

    13. น้ำพระพุทธมนต์ ในพระบรมมหาราชวัง วังหลวง 170 ปี

    14. น้ำพระพุทธมนต์ ในวันทำสังคยานาประเทศพม่า ซึ่งพระเถระทั่วโลก 2 , 500 องค์ประชมกัน

    8. ขี้เถ้าธูปศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง

    1. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์หินช้าง ชุมพร

    2. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์เขาพับผ้า พัทลุง

    3. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์หลักเมือง สงขลา

    4. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์หลักเมือง ปัตตานี

    5. ขี้เถ้าธูปศาลสมเด็จปู่เจ้าเกาะไชโย สงขลา

    6. ขี้เถ้าธูปหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปัตตานี

    7. ขี้เถ้าธูปที่บูชาพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช

    8. ขี้เถ้าธูปศาลเจ้าพ่อ ปราสาททอง องค์พระปฐมเจดีย์

    9. ขี้เถ้าธูปศาลเจ้าพ่อเขางู ราชบุรี (พระฤษีสมาธิคุปต์)


    9. ผงวิเศษต่างๆ ได้จากที่ต่างๆ ดังนี้

    1. ผงว่านวิเศษของหลวงพ่อวัดสามแก้ว จ.ชุมพร

    2. ผมของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม ผงพระพุทธคุณ 1 ผงอิทธิเจ 1 ผงปถมัง 1 ผงมหาราช 1 ผงตรีนิสิงเห 1

    3. ผงว่านวิเศษของท่านพระครูรักขิตวันมุนี วัดป่าเลไลย์ให้มา

    4. ผงวิเศษในถ้ำพระยาแร้งสมัยศรีวิชัย ท่านเจ้าคุณพระศีลสารโสภณ จ.ตรัง ให้มา

    5. ผงพระป่นสมัยทวาราวดีที่องค์พระประโทน

    6. สะเก็ดระบรมธาตุนครพนม ท่านเจ้าคุณพระเทพรัตนโมฬี ให้มา

    7. ผงพระหักป่นสมัยทวาราวดี นายณรงค์ สุปัญญรักษ์ ให้มา

    8. ผงกระกันกรุ สมัยทวาราวดี นายอุทับฯ ให้มา

    9. ผงผสมของพระอาจารย์ 108 องค์ของพระครู รักขิตวัน ให้มา

    10. ผงพระธราราชกับผงพระคาถาชินบัญชรของพระเทพปิยวัฑฒโน ให้มา

    11. ผงผสมของหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ ชลบุรี ท่านเจ้าคุณพระวรพรตคณาจารย์ให้มา

    ดินสังเวชนียสถาน 4 ตำบลคือ

    1)ที่ประสูติ

    2)ที่ตรัสรู้

    3)ที่แสงพระธัมมจักรกัปปวัตนสูตร

    4)ที่ปรินิพพาน

    **จากท่านอาจารย์คง วัดบ้านวาน จ.พัทลุง ซึ่งไปนำมาจากประเทศอินเดีย
    ผงวิเศษ 108 กรุ ที่อาจารย์ชุม ไชยศิริ จัดหาด้วยตัวท่านเอง

    1. ผงกระดูกอาจารย์เกตุ วัดขวิด

    2. ผงอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน วัดตาลฯ

    3. ผงแดงหุ่นพยนต์ อาจารย์เกตุ วัดขวิด

    4. ผงดำหุ่นพยนต์ อาจารย์เกตุ วัดขวิด

    5. ผงเขียว เนื้อชิน อาจารย์เกตุ วัดขวิด

    6. ผงผสมแร่ธาตุก้นกรุ อาจารย์เกตุ วัดขวิด

    7.ผงพระประธาน อาจารย์คลิ้ง วัดโสภา

    8.ผงพระมหานิยม ในเจดีย์วัดโลกา

    9.ผงยาวัดดอนไก่เตี้ย

    10.ผงพระเนื้อชิน วัดกุฎีสงฆ์

    11.ผงขุนแผนเนื้อดินเผา วัดบ้านกลาง

    12.ผงพระพลายเพ็ชร์ พลายบัว วัดบ้านกลาง

    13.ผงขุนแผนไข่ผ่าซีก วัดสุวรรณภูมิ

    14.ผงเนื้อชิน วัดพระธาตุ

    15.ผงก้น กรุ วัดอาจารย์คง วัดตาล

    16.ผงกระดูกอาจารย์คง วัดตาล

    17.ผงไม้มะกอก อาจารย์คง วัดตาล

    18.ผงพระหักป่น วัดตาล

    19.ผงพระดินก้นกรุ วัดไทร

    20.ผงพระเนื้อชิน วัดมหาธาตุฯ

    21.ผงพระดินเผานาคปรก วัดมหาธาตุฯ

    22.ผงพระดินเผาแบบโมคคัลลาน์ สารีบุตร วัดมหาธาตุฯ

    23.ผงพระดินเผาแบบพระ 55 วัดมหาธาตุ

    24.ผงอิฐคนโบราณในเจดีย์ วัดมหาธาตุฯ

    25.ผงพระหักป่น กรุวัดสีชุม

    26.ผงพระหักป่น กรุวัดพายหลวง

    27.ผงพระหักป่น กรุวัดมังกร

    28.ผงพระเนื้อชินเนื้อดิน วัดหินทั้ง

    29.ผงพระเนื้อชินเนื้อดิน วัดปากทัง

    30.ผงพระเนื้อชินเนื้อดิน หลวงพ่อโต วัดป่าม่วง

    31.ผงพระเนื้อชินเนื้อดิน วัดเขาตะพานหิน

    32.ผงพระเนื้อดิน วัดช้างล้อม

    33.ผงพระเนื้อดิน วัดป่ากล้วย

    34.ผงพระเนื้อดิน วัดโป่งมะขาม

    35.ผงพระเนื้อดิน วัดป่าหญ้ากร่อน

    36.ผงพระอัฐพราหมณ์ วัดศรีสวายได้จาก จ.พิษณุโลก 17 กรุ

    37.ผงพระเนื้อชินเนื้อดิน วัดโพธิ์

    38.ผงพระเนื้อชินเนื้อดิน วัดดินดำ

    39.ผงพระดินเผา วัดดอนลาม

    40.ผงพระดินเผา วัดโป่งพยอม

    41.ผงพระดินเผาชินราช วัดโบสถ์

    42.ผงพระเนื้อชินเผาแบบนางพญา วัดต้นจันทร์

    43.ผงพระเนื้อชินเนื้อดินเผา เนื้อทองเหลือง วัดปากน้ำ

    44.ผงพระเนื้อดินเผา วัดสตือ

    45.ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณีฯ

    46.ผงพระเนื้อดินเผา วัดปราง

    47.ผงพระเนื้อดินเผา

    48.ผงพระเนื้อชินดินเผา วัดตาปะขาวหาย

    49.ผงพระเนื้อดิน วัดวิหารทอง

    50.ผงพระสมเด็จนางพญาสีขาว วัดนางพญา

    51.ผงพระเศียรพระหัก วัดพระพุทธชินราช

    52.ผงพระเนื้อดินเผา วัดเจดีย์ทอง

    53.ผงพระเนื้อดินเผา วัดประตูชัย

    54.ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินเผา วัดอรัญญิกาวาส

    55.ผงพระเนื้อชินอ่อน วัดหูช้าง

    56.ผงพระเนื้อชินอ่อน วัดคลองเปิด

    57.ผงพระหักป่นวิหารพระร่วง

    58.ผงสมเด็จนางพญาสีดำ วัดนางพระยา

    59.ผงพระเนื้อดิน เนื้อชินวัดลั่นทม ได้มาจากนครศรีธรรมราช 10 กรุ

    60.ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฏก วัดพระมหาธาตุฯ

    61.ผงพระพระพวย วัดพระมหาธาตุฯ

    62.ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกพระองค์ วัดพระมหาธาตุฯ

    63.ผงตะไคร่พระด้านทุกพระองค์ วัดพระมหาธาตุฯ

    64.ผงตะไคร่วัดพระศรีมหาโพธิ์ วัดพระมหาธาตุฯ

    65.ผงพระหักป่น วัดท่าเรือ

    66.ผงพระดินเผา วัดนางเกรา

    67.ผงอิฐพระเจดีย์ วัดท่าเรือ

    68.ผงวัดท้าวโครต

    69.ผงว่าน 108 ของ พลตำรวจตรีขุนพันฒ์รักษ์ราชเดช ได้จากกรุเพชรบูรณ์ 7 กรุ

    70.ผงดินพระหักป่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

    71.ผงดินพระหักป่น วัดเสือ

    72.ผงดินพระหักป่น วัดช้างเผือก

    73.ผงดินพระหักป่น วัดพระแก้ว

    74.ผงดินพระหักป่น วัดหลวงพ่อกบ

    75.ผงดินพระหักป่น วัดมหาธาตุฯ

    76.ผงดินพระหักป่น วัดสิงห์ฯ ได้จากกรุจังหวัดพัทลุง 7 กรุ

    77.ผงพระดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์

    78.ผงอิทธิเจของท่านพระครูสิทธิยาภิรัตน์ วัดดอนศาลา อาจารย์เฒ่าวัดเขาค้อ

    79.ผงดินพระหักป่น วัดเขาเจียก

    80.ผงดินทองถ้ำ เขาไชยสน

    81.ผงกระดูกคนโบราณ ในถ้ำเขาไชยสน

    82.ผงดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำอกทะลุ

    83.ผงถ้ำยายหอม เขาไชยสน ได้จากกรุจังหวัดลำพูน 5 กรุ

    84.ผงพระรอด วัดพระรอด

    85.ผงพระสิบสอง วัดมหาธาตุฯ

    86.ผงพระสาม วัดมหาธาตุฯ

    87.ผงพระเปิ่ม วัดมหาธาตุฯ

    88.ผงพระหักป่น วัดทับยืน และจังหวัดต่างๆ 18 กรุ รวม 180 กรุ

    89.ผงพระสมัยทวาราวดีวัดพระประโทน นครปฐม

    90.ผงเนื้อชิน วัดพระประโทน

    91.ผงโทนพราหมณ์ สมัยทวาราวดี นครปฐม

    92.ผงพระดินดิบ สมัยศรีวิชัย ถ้ำคีรีวิหาร จ.ตรัง

    93.ผงพระดินดิบ สมัยศรีวิชัย ถ้ำเขาสาย จ.ตรัง

    94.ผงสมเด็จวัดระฆัง ธนบุรี

    95.ผงอิทธิเจ วัดหิรัญรูจี ธนบุรี

    96.ผงเนื้อดิน เนื้อชิน วัดบึงสัมพันธ์ อุตรดิตถ์

    97.ผงทองแท่นวัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์

    98.ผงในเจดีย์ดอยสุเทพ เชียงใหม่

    99.ผงดินพระหักป่น วัดพระปราง สวรรคโลก

    100.ผงดินเผากำแพงเพชร

    101.ผงดินเนื้อชิน วัดมะละกอ พิจิตร

    102.ผงพระหูยานหน้ายักษ์ หลวงพ่อจุก ลพบุรี

    103.ผงสมเด็จวัดอินทร์ พระนคร

    104.ผงนะปะถะมัง วัดหงษ์แพรก นนทบุรี

    105.ผงดอกไม้ 108 ชนิด

    106.ผงพญาว่านมหาว่าน ของ อาจารย์เฒ่า วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง

    107.ผงพระเทพนิมิต ของอาจารย์ชุม ไชยศิริ

    108................ไม่ได้ระบุไว้ .................................
    *********************************************************************

    สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมเมื่อจะทำพิธีบวงสรวงสังเวย
    วันเริ่มต้นพิมพ์พระและวันเริ่มต้นพุทธาภิเษก

    1.ราชวัตรแผงทาสีขาว ยาว 1-2 เมตร

    2.ฉัตรระบายขาว 9 ชั้น สูง 2 เมตรครึ่ง ส่วนล่างยาว 1.20 เมตร

    3.เทียนชัยขี้ผึ้งดี หนัก 801 บาท ไส้เทียน 80 เส้น สูงเสมอศีรษะประธาน

    4.เทียนขี้ผึ้งดีหนัก 1 บาท ยาว 1 คืบ 50 เล่ม

    5.ธูปหอม 1 , 000 กรัม

    6.เทียนมงคลยาวรอบศีรษะ ไส้เท่าอายุประธาน 32 เล่ม

    7.เทียนเงิน เทียนทอง 4 คู่ ขี้ผึ้งหนัก 1 บาท ไส้ 6 เส้น ยาว 12 นิ้ว

    8.เทียนขี้ผึ้งธรรมดาขาดเล็ก 220 เล่ม

    9.ผ้าขาวนุ่งห่ม 2 ชุด

    10.ตู้เทียนชัย 1 ตู้

    11.ผ้าขาวยาวประมาณ 2 ตารางเมตรครึ่ง 2 ผืน สำหรับปูโต๊ะบูชา

    12.หัวหมู 2 หัว

    13.ไก่ 2 ตัว

    14.เป็ด 2 ตัว

    15.ปลาช่อนแป๊ะซะ 2 ตัว

    16.กล้วยน้ำไท 4 หวี

    17.มะพร้าวอ่อน 2 ลูก

    18.ขนมต้มขาว ต้มแดง อย่างละชามใหญ่

    19.ไข่ไก่ต้ม 10 ฟอง

    20.ปูทะเล 2 ตัว

    21.อ้อยเอาทั้งใบ 12 ต้น

    22.ถั่วงา คั่วอย่างละจาน

    23.ข้าวปากหม้อ 1 ชามใหญ่
    24.ข้าวเหนียว 1 ชามใหญ่

    25.ส้มโอ 2 ผล

    26.ส้มเขียวหวาน 2 จาน

    27.น้ำจิ้มหัวหมู 1 ถ้วย

    28.น้ำพริกเผา 6 ถ้วย

    29.หมาก พลู บุหรี่ อย่าง 9 รวม 2พาน

    30.ต้นกล้วยต้นงามๆ สูงเสมอหัวขุดทั้งหัว 12 ต้น

    31.หญ้าคา 3 กำ

    32.สายสิญจน์ซื้อใหม่ 2 กลุ่ม

    33.น้ำชาจีนอย่างดี 1 กาใหญ่

    34.น้ำดื่ม 2 ขวด ถ้วยแก้ว 2 ใบ ช้อนส้อม 1 คู่

    35.ดอกไม้ประดับแจกัน 2 คู่

    36.ดอกมะลิ 2 ลิตร

    37.บายศรีใหญ่ 5 ชั้น 1 คู่

    38.บายศรีกลาง 1 ชั้น 1 คู่

    39.บายศรีปากชาม 1 คู่

    ***สิ่งของทั้งหมดต้องนำมาส่งพร้อมและจัดเสร็จก่อนฤกษ์ประมาณ 30 นาที ***

    ตามตำรากล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีพระว่านวิเศษนี้อยู่ที่ตัว มีความเลื่อมใสจริงๆ เมื่อถึงคราวคับขันหมดที่พึ่งอย่างอื่น เช่น ออกรบศึก ถูกข้าศึกจับเป็นเชลย ถูกจองจำไว้ด้วยเครื่องพันธนาการ ให้ตั้งใจนึกถึงบ้าน และระลึกถึงคุณบิดามารดา เครื่องพันธนาการต่างๆ จะหลุดออกหมดกลับมาบ้านไหว้บิดามารดาได้ หรือเมื่อเราเป็นหัวหน้านำทัพ ลูกน้องถูกจับเป็นเชลย เพื่อนหรือญาติถูกจับเป็นเชลย หรือคนที่เรารักสูญหายไปจากบ้าน ตั้งใจภาวนาเรียกให้กลับ เมื่อเรามีพระชนิดนี้อยู่ที่ตัวเรา และพระอยู่ที่ตัวผู้ที่หายไปเรียกให้กลับมาได้ และยังเป็นมหาเสน่ห์มหานิยมอย่างยิ่ง




    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2013
  5. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 98

    ขุนแผนเสด็จกลับ พิมพ์เล็ก เนื้อดำ หลังเรียบ ปี 2506


    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  6. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 99

    พระขุนแผนเสด็จกลับ พิมพ์ใหญ่ เนื้อดำ ปี 2506


    *** ปิดรายการ ****
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2013
  7. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 100

    พระผงเทพนิมิตร หลังยันต์ห้า เนื้อแดง หายากครับ

    ประวัติพระผงเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2496

    ครั้งหนึ่งเคยมีคนสอบถามท่านอาจารย์ชุมว่า พระรุ่นไหนดีที่สุด? ท่านกล่าว ว่า พระเทพนิมิตร โดยให้เหตุผลว่าอัศจรรย์ตั้งแต่ก่อนสร้าง ระหว่างสร้าง และเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ขนาดว่าตายแล้วเกิดอีกๆๆๆยังไม่แน่ว่าจะทำได้แบบ ครั้งนั้น จึงเป็นเหตุให้ศิษย์สายตรงต่างก็จะต้องมีพระรุ่นนี้ติดตัว หรือมีไว้ในครอบครองอย่างน้อยสักองค์หนึ่ง

    เหตุที่ให้ชื่อว่าเทพนิมิตร เพราะได้ตำราจากความฝัน ว่ามีอาจารย์ผู้เฒ่ารูปหนึ่งมาบอกว่า ต่อไปเมื่อหน้าความสุขความสบายจะไม่มีแก่มนุษย์ผู้ไร้ศีลธรรม จะประสพภัย อันเกิดจากศาสตราอาวุธนาๆชนิดซึ่งไม่เคยพบเห็น ภัยจากโจรผู้ร้ายที่มีใจดำ อำมหิตเยี่ยงสัตว์ป่า และภัยจากภูผีปีศาจ เพื่อให้พ้นจากภัยนี้ท่านบอกว่าให้หาดอกไม้ที่พระสงฆ์เถรานุเถระทำวัตรขอขมา โทษซึ่งกันและกันก่อนเข้าพรรษา และดอกไม้หน้าพระประธานวันเข้าพรรษาวันเดียวให้ได้ 108 วัด กับให้เอาตะไคร่พระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุ ตะไคร่พระศรีมหาโพธิ์ มาทำเป็นรูปพระเข้าพิธีปลุกเสกแล้วแจกให้ทั่วถึงกัน พร้อมด้วยการขอร้องผู้ที่มาขอรับพระ ให้ละบาป บำเพ็ญบุญ มั่นอยู่ในศีลธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระจะรักษาให้พ้นภัยทั้งปวงดังกล่าวแล้ว

    ข้าพเจ้า (อ.ชุม) ตื่นขึ้นรู้สึกปลื้มใจ จึงประกาศให้บรรดาศิษย์ทั่วทุกจังหวัดช่วยกันจัดหา โดยกำหนดเอาดอกไม้บูชาพระจากพระอารามหลวง และอารามราษฎรที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทย อาศัยความพร้อมเพรียงของศิษย์ทั้งหลายจึงจัดหามาได้ตามปรารถนา ซ้ำยังได้ผงของอาจารย์ต่างๆ หลายสำนัก เช่น ผงวิเศษของอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน ซึ่งมีศิษย์นำมามอบให้พร้อมด้วยประวัติ ปรากฎว่าผง ศักดิ์สิทธิ์นี้ ขุดพบจากโคกโบสถ์เก่าใต้ฐานพระเจดีย์ ณ บ้านศรีประจันต์ ตำบลศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    ด้วยความร่วมมือร่วมใจของบรรดาศิษย์หลายร้อยคน พร้อมด้วยการเสียสละทั้งกำลังทรัพย์และกำลังกาย จึงได้สิ่งที่ต้องการมาครบ ตามปรารถนา ข้าพเจ้าจึงเข้าพิธีทำและปลุกเสกตลอด 3 เดือน พร้อมด้วยการทดลองคุณภาพ เห็นเป็นที่ไว้วางใจได้ และเริ่มแจกแก่บรรดาศิษยืที่เข้าพิธียกครูประจำปี 2496 แล้วเก็บไว้แจกผู้ที่สมัครเข้าเป็นศิษย์ใหม่เพื่อเป็นที่ระลึก พร้อมด้วยการขอร้องให้ละบาปบำเพ็ญบุญ ประพฤติตนเป็นพลเมืองดีของชาติ

    อาจารย์ชุมท่านว่า ดีทางกันศาสตราวุธทุกชนิด ตลอดถึงกันโจรและสัตว์ร้าย หนักไปทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ใช้ได้ทั้งหญิงชายเด็กผู้ใหญ่ พระรุ่นนี้ลูกศิษย์อาจารย์ชุมจึงนิยมบูชาติดตัวกันมากครับ
    พระเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี สร้างและปลุกเสกเมื่อปี 2496 มีพระ 6 พิมพ์ด้วยกัน

    1. พระนาคปรกเทพนิมิตร หลังยันต์ห้า (แทนตัวอ.ชุม ซึ่งเกิดวันเสาร์) สำหรับแจกผู้ชาย

    2. พระกลีบบัวเทพนิมิตร หรือเทพนิมิตรพิมพ์เล็ก (แทนตัวคุณแม่บุญสืบ ภรรยา อ.ชุม ซึ่งเกิดวันพฤหัสบดี) สำหรับแจกผู้หญิง

    3. พระสาม (พิมพ์พระลำพูน)

    4. พระโคนสมอ (พิมพ์พระอยุธยา)

    5. พระขุนแผนทรงพล (พิมพ์พระสุพรรณ)

    6. พระขุนแผนเทพนิมิตร พิมพ์ฐานบัว

    สองพิมพ์แรก จะเป็นพระพิมพ์ที่จัดสร้างและแจกจำหน่ายออกไปมาก จนคนรู้จักเล่นหากันจนเป็นมาตรฐานดีแล้ว แต่นอกจากนี้ยังมีพระพิมพ์พิเศษ ที่หาชมได้ยากอีกหลายๆพิมพ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่หวงแหนของลูกศิษย์ลูกหาที่เก็บกันไว้ พระพิมพ์พิเศษ โดยมากจะเป็นพิมพ์ที่ทำตามอย่างพระกรุโบราณ หรือพระเกจิรุ่นเก่าๆ มีทั้งแบบหลังปั๊มยันต์ห้าและหลังเรียบ เนื้อหาของพระพระเป็นแบบเดียวกับ พระนาคปรกเทพนิมิตรทุกประการ มีทั้งสีดำและแดง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เผา

    บูชา 2,400 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1017356.jpg
      P1017356.jpg
      ขนาดไฟล์:
      243 KB
      เปิดดู:
      396
    • P1017357.jpg
      P1017357.jpg
      ขนาดไฟล์:
      229.9 KB
      เปิดดู:
      599
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  8. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 101

    พระผงเทพนิมิตร หลังยันต์ห้า ปี 2496

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2013
  9. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 102

    ขุนแผนเสด็จกลับ พิมพ์ใหญ่ หลังเรียบ เนื้อผงแก่ว่านสบู่เลือด ปี 2511 พระคัดสวยครับ มีหน้ามีตา มีคราบน้ำทะเลติด

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  10. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 103

    ขุนแแผนเสด็จกลับ พิมพ์ใหญ่ หลังเรียบ เนื้อผงแก่ว่านสบู่เลือด ปี 2511 พระคัดสวย มีหน้ามีตา มีคราบน้ำทะเลติดครับ

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  11. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 104

    ปรกนางตราท่าเรือ ปี 2497 มีคราบปลวก


    ประวัติการสร้างพระขุนแผน-พระชินราชท่าเรือ และพระพิมพ์ปรกนางตรา ปีพ.ศ.2497

    พระเครื่องจากวัดพระบรมธาตุ จ. นครศรีธรรมราช รุ่นที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2497 ในพิธีเดียวกันนี้จริงๆแล้วมีด้วยกันหลายพิมพ์ แต่อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้นำพิมพ์พระนางตราและท่าเรือขนาดใหญ่-เล็ก ออกแจกด้วยตัวท่านเอง พร้อมสมุดอุปเท่ห์การบูชาพระ ผู้คนจึงรู้จักกันว่าเป็นพระของอาจารย์ชุม จำนวนการสร้างนั้นมีพิมพ์ละ 84,000 องค์ พระมีจำนวนมาก ท่านจึงได้นำบรรจุเก็บไว้ในถัง 200 ลิตร ต่อมาปลวกมาทำรัง พระที่พบจึงมีทั้งแบบมีคราบปลวกและที่ไม่มีคราบ

    มวลสารที่รวบรวมมามีพระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระชินราชท่าเรือนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ

    การประกอบพิธีพุทธาภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497 ครบ 84,000 องค์ วันที่ 1 กันยายน 2497

    ทำพิธีปลุกเสกวันที่ 14 กันยายน 2497
    ออกพิธีวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา

    โดยพิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี, หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

    การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้น

    บูชา 3,450 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1017351.jpg
      P1017351.jpg
      ขนาดไฟล์:
      252.4 KB
      เปิดดู:
      494
    • P1017352.jpg
      P1017352.jpg
      ขนาดไฟล์:
      242.4 KB
      เปิดดู:
      594
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  12. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 105

    กลีบบัวเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี พิธีเสด็จกลับ ปี 2506

    พระเทพนิมิต "พิธีเสด็จกลับ" ปี 2506 พิมพ์กลีบบัว เป็นพระที่นำพิมพ์พระเทพนิมิตปี 2496 ของ อาจารย์ชุม ไชยคีรี มาตกแต่งพิมพ์ใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม และได้กดพระพิมพ์ที่ได้ตกแต่งใหม่นี้ในพิธีปลุกเสก ปี 2506 ขึ้นมาใหม่ด้วย จึงเกิดความสับสนเข้าใจผิดในหมู่คณะศิษย์ยุคหลังของ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ว่า เป็นพระนอกพิธี และต่างว่า เป็นการนำพระปี 2496 เข้าไปปนกับพระในพิธี ปี 2506 หรือไม่ก็ว่า เป็นพระเทพนิมิตปลอมไปเลยก็มี เพราะเนื้อหาผิดพิมพ์ ปี 2496 แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระเทพนิมิต "พิธีเสด็จกลับ" ปี 2506 พิมพ์กลีบบัวสามเหลี่ยมนี้ เป็นพระส่วนหนึ่งที่ได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ในพิธี พ.ศ. 2506 และอาจารย์ชุม ได้นำออกแจกจ่ายแก่คณะศิษย์รุ่นแรกๆ ที่มาช่วยงานในพิธี พ.ศ. 2506 ในยุคนั้นด้วยตัวของท่านเอง และบางส่วนได้เก็บบรรจุกรุไว้ที่วัดสารอดด้วย)

    พระเทพนิมิต "พิธีเสด็จกลับ" ปี 2506 พิมพ์กลีบบัวสามเหลี่ยมนี้ ได้มีพิธีมหาพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ และเต็มรูปแบบพิธีมากที่สุดเลยก็ว่าได้
    (หาพิธีใดๆ เทียบเสมอเหมือนไม่ได้อีกแล้วจนกระทั่งถึงปัจจุบัน)

    พิธีมหาพุทธาภิเษก และบรรจุคุณ บรรจุฤทธินี้ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2506 เวลา 24.00 น. โดยได้นมัสการพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณ ทรงฤทธิ์ สายเขาอ้อ ชุดละ 9 ท่าน จำนวน 9 ชุด สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดพิธี และได้อัญเชิญดวงวิญญาณของ "ขุนแผน" เข้าประทับทรงในร่างของ "อาจารย์ชุม" พร้อมด้วยวิญญาณของเหล่าเทพยดาต่างๆ ใน 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ได้เดินทางมาเข้าร่วม เพื่อบรรจุคุณ บรรจุฤทธิ์ ตลอดพิธีด้วย

    โดยแบ่งการบรรจุคุณ บรรจุฤทธิ์ ออกเป็น 5 ระยะ ดังนี้ กล่าวคือ
    ระยะที่ 1

    ก. เสกพระคาถาตั้งธาตุ เสกพระคาถาบรรจุธาตุ เสกพระคาถาแต่งธาตุ เสกพระคาถาหนุนธาตุ เสกพระคาถาจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตลงสู่พระครรภ์พระพุทธมารดา เสกพระคาถาประสูติจากพระครรภ์มารดา เสกพระคาถาเสด็จย่าง 7 ก้าว เสกพระคาถาอาการ 32 เสกพระคาถาบำเพ็ญพระบารมีจนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า เป็นเวลา 3 วัน

    ข. เสกพระคาถาธาตุ 4 เสกพระคาถาอาการ 32 เสกพระคาถาอักขระ 16 เสกพระคาถาหัวใจ 108 หัวใจ อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 3 วัน

    ค. เสกพระคาถาชุดคงกระพัน อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 2

    เสกพระคาถากันปืน เสกพระคาถามหาอุด เสกพระคาถากันวัตถุระเบิด เสกพระคาถาห้ามดิน น้ำ ลม ไฟ เสกพระคาถาผูก เสกพระคาถากัน เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 3

    เสกพระคาถาแคล้วคลาด เสกพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ไปกลับ เสกพระคาถาแปลงรูปหุ่นพยนต์ เสกพระคาถากำแพงแก้วเพชรเหล็กเจ็ดชั้น เสกพระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 4

    เสกพระคาถามหานิยม เสกพระคาถามหาเสน่ห์ เสกพระคาถามหาระรวย เสกพระคาถามหาลาภ เสกพระคาถาเลิกรบ เลิกเบียดเบียน อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 5

    เสกพระคาถารวม เสกพระคาถาผูก อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 4 วัน
    รวมเป็นเวลาในการมหาพุทธาภิเษกและปลุกเสกพระคาถาต่างๆ 30 วัน วันละ 3 เวลา คือ 5.00 น. 9.00 น. 21.00 น.

    ในการปลุกเสกพระคาถานี้ พระคณาจารย์ที่เป็นพระภิกษุต้องแสดงอาบัติทุกครั้งแล้วจึงเข้าปริมณฑลพิธี
    อาจารย์ที่เป็นฆราวาสต้องนุ่งขาวห่มขาว สมาทานศีลห้า โดยถือพรหมจรรย์เป็นวัตร อยู่ประจำในบริเวณพิธี และบริเวณวัดตลอดพิธี

    เมื่อเสกพระคาถาต่างๆ จบลงในระยะหนึ่งๆ ก็จะทำการพิสูจน์ทดลองคุณ ทดลองฤทธิ์ (ยิง-ฟัน-แทง-เชือด-เฉือน-กรีด-สับ) ต่อหน้าประชาชนผู้ที่สนใจชม
    เป็นการอบรมศึกษาวิธีทำจิตให้เข้าถึงคุณพระไปในตัว
    การทดลองนี้เป็นการชี้ให้เห็นว่าคุณพระพุทธมีอยู่จริง แม้ท่านจะเสด็จเข้าสู่นิพพานไปแล้วก็ตาม
    ถ้าผู้ใดเข้าถึงพระพุทธคุณ เอาพระพุทธคุณเป็นที่พึ่ง พระพุทธคุณก็สามารถเป็นที่พึ่งที่ระลึกและกำจัดภัยแก่ผู้นั้นได้จริง

    หลังจากทำการปลุกเสกพระคาถาบรรจุคุณ บรรจุฤทธิ์ ระยะต่างๆ 5 ระยะแล้ว ก็เริ่มทำ "พิธีเสด็จกลับ" โดยพระรุ่นนี้ (ปี 2506)กระทำพิธีเสด็จกลับถึง 2 ครั้ง 2 หนด้วยกัน ตามตำรับ "หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า" เต็มรูปแบบทุกประการ

    โดยครั้งที่ 1 ได้นำพระไปอาราธนาทิ้งลงในกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากหน้าวัดสารอด ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร แล้วบริกรรมพระคาถา เรียกพระให้ "เสด็จกลับ" มาที่ วัดสารอด เขตราชบูรณะ กรุงเทพฯ โดยเริ่มจากการบวงสรวง สร้างศาลเทพารักษ์ คาดด้วยผ้าขาว แล้วจึงอาราธนาพระนำไปทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเรือชื่อมงคล "กอบลาภ" แล้วให้พระเกจิผู้ทรงคุณ ทรงฤทธิ์ รวมตลอดถึงเกจิฆราวาสต่างๆ เช่น อาจารย์ชุม ฯลฯ เป็นต้น นั่งบริกรรมพระคาถาเรียกพระกลับมาที่วัด ด้วยอำนาจ "พลังจิต" จนพระ "เสด็จกลับ" มาตกที่ศาลเทพารักษ์ วัดสารอด เขตราชบูรณะ กรุงเทพฯ จนหมด จึงเป็นอันเสร็จพิธี

    การทำพิธีเสด็จกลับดังกล่าว มีหลักฐานเป็นรูปถ่ายตลอดพิธี และมีประชาชนผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในพิธีนี้มากมายนับหมื่นคน ทั้งคราวทำพิธีที่ วัดสารอด และที่สำนักสงฆ์ เกาะสิเหร่ โดยประชาชนผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างเล่าตรงกันว่า ขณะที่พระกำลัง "เสด็จกลับ" นั้น ตอนที่เห็น เป็นเวลากลางวัน แต่เห็น "สายรุ้ง" พาดผ่านมายังศาลเทพารักษ์อยู่ตลอดเวลา และเป็นเวลานาน และที่เพดานคาดด้วยผ้าขาว เริ่มมีน้ำหยด และผ้าขาวเริ่มหย่อนตัวลงทีละนิดๆ เหมือนมีวัตถุหนักชิ้นเล็กๆ บางอย่าง ตกลงมารวมตัวกันอยู่ตรงกลาง จนผ้าขาวหย่อนตกท้องช้างลงมา ตามน้ำหนักของวัตถุเล็กๆ เหล่านั้น

    และยังมีรูปถ่ายที่เป็นหลักฐานในคราวนั้นยืนยันด้วยว่า นอกจากพระเครื่องที่นำไปทำพิธีเสด็จกลับทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีประคำ 108 ทั้งเส้นซึ่งก็ "เสด็จกลับ" ตกลงมาด้วยทั้งเส้น ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่สายตาผู้อยู่ร่วมในพิธี และผู้สังเกตการณ์ยิ่งนัก

    และในครั้งที่สอง ได้ทำ "พิธีเสด็จกลับ" ที่สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต ด้วยเหตุผลที่ว่า มีผู้ไม่เชื่อว่า พระจะ "เสด็จกลับ" มาได้จริงๆๆ จึงต้องมีการทำ "พิธีเสด็จกลับ" ยืนยันเป็นครั้งที่สอง

    โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นทั้งที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต คุณแม่บุญสืบ ไชยคีรี ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของอาจารย์ชุม กรุณาเล่าให้ฟังว่า หากพระไม่เสด็จกลับมาจริงในเวลานั้นทั้งสองคราว ก็มีการเพ่งเล็งจากฝ่ายกฏหมายบ้านเมืองว่า อาจารย์ชุมแสดงกลโกหกหลอกลวงประชาชน โดยในส่วนของคณาจารย์ ผู้ประกอบพิธีที่เป็นฆราวาส จะถูกจับกุมคุมขัง รวมไปถึงพระสงฆ์ก็จะถูกนิมนต์ให้สึกด้วย ซึ่งในตอนแรก ตำรวจนับพันนาย ก็มาล้อมบริเวณพิธีให้เต็มกันไปหมด ดังนั้น ถ้าตามเวลาที่อาจารย์ชุมได้กำหนดไว้ หากพระยังไม่ "เสด็จกลับ" มา ท่านจะต้องถูกจับกุมทันที และ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ก็จะต้องถูกจับสึกทันทีด้วย
    ฐานหลอกลวงประชาชน

    แต่ก็ไม่มีใครได้จับกุมท่านแต่อย่างใด เพราะพระได้ "เสด็จกลับ" ตกลงมาต่อหน้าต่อตาคนร่วมนับหมื่นในพิธี ผู้ที่เคยทำการปรามาส และหมิ่นประมาท ท่านไว้ก่อนหน้านี้ ก็กลับตัวกลับใจมาขอขมา และขอเป็นลูกศิษย์ในภายหลังกันอย่างมากมาย


    บูชา 3,900 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1017366.jpg
      P1017366.jpg
      ขนาดไฟล์:
      256.8 KB
      เปิดดู:
      358
    • P1017367.jpg
      P1017367.jpg
      ขนาดไฟล์:
      246.4 KB
      เปิดดู:
      434
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2013
  13. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 106

    ขุนแผนพิมพ์เล็ก ปี 2497 องค์นี้ผ่านการแช่น้ำมันหนูกับแมว เป็นมหาอุตม์ มหานิยม มหาเสน่ห์ ศัตรูกลับกลายมาเป็นมิตร ใช้ได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชายครับ

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  14. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 107

    เหรียญพระคันธาราษฎร์ วัดเขาปฐวี อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ปี2516 เนื้อทองแดงรมดํา สภาพสวย ไม่ผ่านการใช้ ประสบการณ์ดีเยี่ยม

    โดยเมื่อปี พ.ศ.2516 ตรงกับวันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 โบราณถือว่าเป็นวันฤกษ์แข็ง เหมาะสำหรับการประกอบพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง ในครั้งนั้น นายอำเภอทัพทัน ได้มาขอให้หลวงพ่อโฉม เจ้าอาวาสวัดเขาปฐวี ประกอบพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลในวันดังกล่าว โดยเชิญนายไพฑูรย์ เก่งสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ในสมัยนั้น เป็นประธานในพิธี

    พระคณาจารย์ที่ร่วมนั่งปรกปลุกเสก อาทิ พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา, พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, อาจารย์ขาว วัดเขาอ้อ และอีกมากมาย ประกอบพิธีปลุกเสกในอุโบสถวัดเขาปฐวี ภายในถ้ำเขาปฐวี พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไปจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

    วัตถุมงคลรุ่นนี้ เรียกว่า "พระคันธารราษฎร์" เป็นพระศิลปะแบบอินเดีย จีวรริ้ว ยกพระหัตถ์ประทานพร ทำจากเนื้อทองเหลือง รมดำ มี 2 แบบ เป็นรูปลอยองค์มีกริ่ง สร้าง 8,000 องค์ และเป็นเหรียญรูปไข่ 30,000 เหรียญ สำหรับเหรียญพระคันธารราษฎร์ วัดเขาปฐวี ปี 2516 ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ เนื้อทองวรรณะเหลืองรมดำ ขนาด 1.5x2.6 เซนติเมตร ด้านหน้าเหรียญ มีขอบรอบวง ยกซุ้มห่วง มีพระคันธารราษฎร์ ยกพระหัตถ์ประทานพร นั่งอยู่กลางเหรียญ ด้านซ้ายมือขององค์พระ มีพระอาทิตย์กำลังส่องแสงมีเมฆลอยอยู่ด้านข้าง ด้านหลังเหรียญ มีขอบเพียงเล็กน้อย กลางเหรียญเป็นยันต์ห้า มีอักขระขอม "นะโม พุท ธายะ" กำกับด้วย อุณาโลม 3 ยอด ด้านล่างของยันต์ มีอักขระขอม "นะ อุ อะ มะ" อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ล่างสุดมีตัวหนังสือเขียนว่า "พุทธาภิเศก วัดเขาปฐวี ๒๕๑๖"

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ก็คือการปลุกเสกครั้งแรกเป็นเวลาหลายวันเลยครับ ปลุกเสกครบรอบด้าน แต่เนื่องจากมีวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก จะเข้ามาลองของเพราะในสมัยนั้นสายเขาอ้อเป็นที่เลื่องลือด้านคงกระพันชาตรีเป็นอย่างมาก อาจารย์ชุมได้ยินอย่างนั้น จึงได้ขอให้พระอาจารย์ทุก ๆ องค์ที่อยู่ในพิธีนั้น ปลุกเสกอัดพลังใหม่ เนื่องจากว่าถ้าเกิดมีการลองขึ้นมา แล้วมีการยิงก็ดี การฟันก็ดี เกิดเข้าขึ้นมา ชื่อเสียงสายเขาอ้อก็จะไม่เป็นที่เชื่อถือ ดังนั้นอาจารย์ชุมจึงขอให้มีการปลุกเสกที่หนักไปด้านคงกระพันชาตรี และ มหาอุดม์ เป็นเลิศอย่างเดียว ได้ปลุกเสกใหม่ตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงหกโมงเช้าในวันต่อมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่มีงาน ผลการทดสอบของวัยรุ่นในอุทัยธานีเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะฟันก็ดี จะยิงก็ดี ล้วนทำอะไรกับเหรียญหรือกับผู้ที่มีเหรียญติดตัวไม่ได้ และที่สำคัญตอนแจกเหรียญอาจารย์ชุมได้ประกาศว่า ใครอยากได้เหรียญนี้ ต้องให้ท่านเอามีดมาฟันหนึ่งที จึงจะได้รับแจกเหรียญนี้ไป นับว่าเป็นเหรียญที่ศักดิ์สิทธิ์มากเหรียญนึง และเป็นที่ต้องการของวัยรุ่นมาก ในยุคสมัยนั้นมีเหรียญนี้ติดตัวนับว่าไม่อายใครเลยครับ ป้องกันตัวได้เป็นอย่างดี อีกอย่างถือเป็นเหรียญที่เสกโดยสายเขาอ้อโดยตรง ซึ่งปกติสายเขาอ้อในยุคนั้นจะไม่ไปออกนอกพื้นที่ เพื่อไปปลุกเสกเป็นอันขาด นับว่าเป็นเหรียญแรก ๆ ที่ออกนอกพื้นที่เพื่อปลุกเสกครับ

    บูชาคู่ละ 950 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  15. nuns

    nuns เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +626
    พี่ครับขอโทษด้วยครับ ขอยกเลิกการจองพระรอด เสด็จกลับ องค์ 1 ก่อนครับ
     
  16. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รับทราบครับ
     
  17. tathang

    tathang สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    แจ้งโอนเงินครับ
    ตามที่จองรายการ 92 ไว้ 700 บาท ค่าส่ง 50 บาท รวม 750 บาท
    ที่อยู่ตาม PM
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 750.jpg
      750.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.7 KB
      เปิดดู:
      483
  18. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    ายการที่ 108

    แหวนมหานิยม มหาเสน่ห์ รุ่นเงียบเสียง อ.ชุม ไชยคีรี เนื้อทองขาว ปี 2524 มี 2 ขนาด คือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.6 ซม. และ 1.8 ซม.


    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2013
  19. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 109

    พระพุทธเนื้อผงว่าน ผสมชันนะโรง หลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า ยุคแรก สีช็อคโกแล็ต พระสวยหนา ตามซอกแขนและด้านหลังยังมีบรอนซ์ทองเก่าให้เห็นครับ

    บูชา 3,900 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  20. TOEFL_iBT

    TOEFL_iBT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +439
    จองขนาด 1.8 ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...