วิถีโยคะแก้หมอนรองกระดูกกดทับ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 17 พฤศจิกายน 2007.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    <table class="text_normal" border="0" cellpadding="5" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr valign="bottom"><td class="line_x" align="left" valign="top">นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 219</td> <td class="line_x" align="right" valign="bottom"> <select name="d_name" class="ms8"> <option value="">ค้นหาตามชื่อโรค</option> <option value="46">MS</option> <option value="43">ข้อเสื่อม</option> <option value="38">คอเรสเตอรอลสูง</option> <option value="44">ฉี่หนู</option> <option value="41">ซีสต์</option> <option value="40">ไทรอยด์</option> <option value="15">นอนไม่หลับ</option> <option value="3">น้ำในช่องหูไม่เท่ากัน</option> <option value="42">เนื้องอก</option> <option value="25">เบาหวาน</option> <option value="45">ประสาทหูเสื่อม</option> <option value="10">โฟเบีย (Phobia) หรือโรคหวาดกลัว</option> <option value="13">ภูมิแพ้</option> <option value="22"> มะเร็ง</option> <option value="5">มีเสียงในหู</option> <option value="34">ไมเกรน</option> <option value="8">รูมาตอยด์</option> <option value="20">โรคเครียด, เส้นเลือดในสมองแตก</option> <option value="27">โรคถุงลมโป่งพอง</option> <option value="21">โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE</option> <option value="47">ไวรัสตับอักเสบ</option> <option value="29">หน่วยไตบกพร่อง</option> <option value="37">หินปูนจับที่รูก้านสมอง</option> </select> <input name="Submit" value="Go!" class="verdana9" type="submit"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td colspan="2">
    ชื่อเรื่อง : วิถีโยคะแก้หมอนรองกระดูกกดทับ

    [​IMG]
    รองศาสตราจารย์ ดร. สาลี่ สุภาภรณ์ หรือ ครูสาลี่ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ วัย 48 ปี หากย้อนไปเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ชื่อของ คุณสาลี่ สุภาภรณ์ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักกรีฑาระดับเขตและระดับชาติต่อเนื่องมายาวนานกว่าสิบปี แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด "ตอนนั้นกำลังเรียนปริญญาตรี เริ่มมีอาการเจ็บแปลบที่เอวและปวดร้าวลงขา มีอาการเป็นๆ หายๆ คงเป็นเพราะอายุยังน้อย เลยทำให้คิดว่าไม่รุนแรงมากนัก จึงไม่ใส่ใจและไม่ไปรักษา"

    สาเหตุของการบาดเจ็บครั้งนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกีฬากระโดดไกลที่ต้องอาศัยการแอ่นตัวและการเหวี่ยงขาทั้งสองเพื่อให้เหยียดไปได้ไกลที่สุด ถ้าไม่แข็งแรงจริงและไม่รู้จังหวะ ก็อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้น นอกจากนี้ การต้องฝึกซ้อมหนักถึง 6 วันต่อสัปดาห์ โดยยังไม่รู้วิธีการคลายกล้ามเนื้อที่ถูกต้อง ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่บั่นทอนสุขภาพของเธอตามมาอย่างต่อเนื่องอีกหลายสิบปี
    ฝ่าวิกฤติสุขภาพ

    หลังจากเลิกแข่งกีฬาเมื่ออายุ 26 ปี เธอก็ไม่ค่อยได้ออกแรงมากนัก อาการเจ็บแปลบที่หลังจึงดูทุเลาลง จนกระทั่งได้ทุนไปเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนและเรียนต่อระดับปริญญาเอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อาการเจ็บหลังและปวดร้าวที่ขาก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง

    "พอไปอยู่ต่างประเทศได้สามสี่ปีก็เริ่มเป็นมาก เพราะอากาศหนาวเย็นและเล่นกีฬาเยอะขึ้น ทั้งสอนทั้งซ้อมเองด้วย บางทีเล่นแบดห้าเกมสิบเกม ตอนหลังปวดเอวมากขึ้นเลยลองไปว่ายน้ำและทำกายภาพบำบัดที่ศูนย์แพทย์ แม้จะดีขึ้นบ้าง แต่ไม่นาน อาการปวดก็กลับมาอีก จากเจ็บน้อยๆ ก็ค่อยๆ กำเริบมากขึ้น ชาบ้าง ปวดบ้าง จนในที่สุดช่วงหลังปวดมาก ถึงขั้นที่ว่าทุกๆ เช้าก่อนลุกขึ้นจากเตียง ต้องคิดแล้วว่าวันนี้จะยืนขึ้นไหวไหม เพราะรู้ว่าขยับเอวลำบากมาก ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนแก่ ทั้งๆ ที่อายุจริงแค่ 30 ต้นๆ เท่านั้น"

    เธอจึงเริ่มมองหาหนทางที่ช่วยเยียวยาอาการดังกล่าว และหนทางสุดท้ายที่เธอคิดไว้ก็คือต้องกลับมาผ่าตัดที่เมืองไทย ซึ่งนั่นก็หมายถึงชีวิตการเรียนปริญญาเอกของเธอจะต้องสิ้นสุดลงด้วย
    ฝึกโยคะบำบัดโรค

    แต่แล้วเหมือนโชคเข้าข้างที่ทำให้เธอได้รู้จักกับ "โยคะ" วิถีเพื่อสุขภาพ เมื่อเพื่อนชาวศรีลังกาที่เล่นแบดมินตันด้วยกันเป็นประจำแนะนำให้เธอเล่นโยคะ โดยเริ่มต้นจากลงเรียนโยคะในหลักสูตรของปริญญาตรี และเธอได้ลองทำตามคำแนะนำ แล้วเรียนโยคะที่ศูนย์โยคะนอกมหาวิทยาลัยอีกหลายหลักสูตรเพิ่มเติม จากแรกที่ไม่เคยคิดสนใจโยคะ กลับหันมาชื่นชอบ เมื่อพบว่า

    "ตอนนั้นลงเรียนโยคะสัปดาห์ละสองครั้ง และคอยฟังว่าอาจารย์บอกว่าท่าไหนช่วยแก้ปวดเอว เราก็จดๆ และลองมาทำก่อนนอนทุกคืนอีก 15-30 นาที ทำแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก ร่างกายของเรารู้สึกเบาขึ้นเหมือนไปนวดมา จากที่เคยเจ็บหลังเพราะหมอนรองกระดูกกดทับ ก็รู้สึกว่ากระดูกสันหลังของเราได้ยืดได้เหยียด อาการปวดมากๆ ค่อยๆ น้อยลง จนในที่สุดไม่ถึงหนึ่งปีก็หายสนิท"

    ครูสาลี่ ซึ่งปัจจุบันเป็นครูสอนโยคะอธิบายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมทำท่าโยคะต่างๆ ประกอบอย่างตั้งใจ เริ่มตั้งแต่ท่างู ท่าครึ่งสะพานโค้ง ท่าคันไถเต็มตัว ท่ากดเข่า ท่านอนหงายบิดตัว ท่านั่งบิดตัว ท่านั่งก้มตัว ท่าเปิดสะโพก และท่าสำคัญที่สุดซึ่งขาดไม่ได้ก็คือ ท่าแมว รวมทั้งท่าสุนัขยืดขึ้นและยืดลง ซึ่งเธอเล่าว่า

    "ท่าเหล่านี้จะช่วยแก้ไขอาการปวดเมื่อยหลังและเอว อย่างท่าแมวจะช่วยบริหารและเพิ่มความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะส่วนเอว เริ่มต้นจากนั่งคุกเข่า โน้มตัวไปข้างหน้า วางมือบนพื้น แขนตั้งฉาก ระยะห่างของมือทั้งสองเท่ากับช่วงไหล่ กดฝ่ามือให้แนบกับพื้น ต่อจากนั้น หายใจเข้า เงยศีรษะขึ้น แอ่นเอวให้มากที่สุด คงท่าไว้ชั่วขณะ แล้วจึงหายใจออก ก้มศีรษะจนคางติดหน้าอก พร้อมกับโก่งหลังขึ้นให้มากที่สุด แล้วกลับมาในท่าหลังตรง
    </td></tr></tbody></table>
     
  2. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    <table class="text_normal" border="0" cellpadding="5" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr valign="bottom"><td class="line_x" align="left" valign="top">นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 219</td> <td class="line_x" align="right" valign="bottom"> <select name="d_name" class="ms8"> <option value="">ค้นหาตามชื่อโรค</option> <option value="46">MS</option> <option value="43">ข้อเสื่อม</option> <option value="38">คอเรสเตอรอลสูง</option> <option value="44">ฉี่หนู</option> <option value="41">ซีสต์</option> <option value="40">ไทรอยด์</option> <option value="15">นอนไม่หลับ</option> <option value="3">น้ำในช่องหูไม่เท่ากัน</option> <option value="42">เนื้องอก</option> <option value="25">เบาหวาน</option> <option value="45">ประสาทหูเสื่อม</option> <option value="10">โฟเบีย (Phobia) หรือโรคหวาดกลัว</option> <option value="13">ภูมิแพ้</option> <option value="22">มะเร็ง</option> <option value="5">มีเสียงในหู</option> <option value="34">ไมเกรน</option> <option value="8">รูมาตอยด์</option> <option value="20">โรคเครียด, เส้นเลือดในสมองแตก</option> <option value="27">โรคถุงลมโป่งพอง</option> <option value="21">โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE</option> <option value="47">ไวรัสตับอักเสบ</option> <option value="29">หน่วยไตบกพร่อง</option> <option value="37">หินปูนจับที่รูก้านสมอง</option> </select> <input name="Submit" value="Go!" class="verdana9" type="submit"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td colspan="2">
    ชื่อเรื่อง : วิถีโยคะแก้หมอนรองกระดูกกดทับ

    [​IMG]
    "สำหรับท่าสุนัขยืดขึ้น ให้นอนคว่ำ เท้าชิด หลังเท้าแตะพื้น มือวางไว้ข้างลำตัวตรงระดับเอวในท่ายันพื้น หายใจเข้าช้าๆ เกร็งกล้ามเนื้อก้นแล้วเหยียดแขนเพื่อยกลำตัวและศีรษะขึ้น แอ่นลำตัวและเงยศีรษะไปด้านหลัง ขาพ้นพื้น เข่าตึง ส่วนฝ่ามือและหลังเท้าเป็นบริเวณที่รับน้ำหนัก ซึ่งท่านี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังและเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกสันหลัง
    "เช่นเดียวกับท่าสุดท้ายคือ ท่าสุนัขยืดลง เริ่มจากนอนคว่ำ ตั้งนิ้วเท้า เท้าแยกกว้างเท่าช่วงไหล่ มือวางชายโครงในท่าดันพื้น ต่อจากนั้น เหยียดแขนยกลำตัวขึ้น ก้มศีรษะลง หรือวางส่วนของศีรษะไว้ที่พื้น เหยียดแขนและลำตัว เข่าทั้งสองเหยียดตึง กดส้นเท้าลงให้ใกล้พื้นมากที่สุด"
    นอกจากการฝึกฝนโยคะเป็นประจำแล้ว การรู้จักเลือกท่าโยคะเพื่อบำบัดอาการหมอนรองกระดูกกดทับนั้นยังเป็นหัวใจสำคัญ ที่เธอย้ำว่า
    "ในการเลือกท่าควรมีทั้งท่าที่บริหารเพื่อช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณบั้นเอว ร่วมกับกล้ามเนื้อรอบๆ สะโพกและหน้าท้อง ซึ่งทำงานประสานกัน และที่สำคัญ ท่าอีกส่วนหนึ่งควรเป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อรอบๆ กระดูกสันหลังส่วนต่างๆ รวมทั้งท่าที่ช่วยจัดกระดูกสันหลังให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องอีกด้วย"
    เธอยกตัวอย่างประกอบต่อด้วยว่า "เช่นถ้าคุณปวดขา แล้วคุณเล่นท่ายืดเหยียดขาก็หายปวดเมื่อยได้ แต่ไม่ใช่วิธีแก้ที่ถาวร ถ้าหากขาของคุณยังไม่แข็งแรง เดี๋ยวคุณต้องปวดอีกได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีท่าอีกส่วนที่ทำให้ขาของคุณแข็งแรง เหมือนอาการปวดหลังก็เช่นเดียวกัน คุณอาจเลือกทำท่าสุนัขขึ้น ท่าตั๊กแตน ท่าคันธนู หรือท่าครึ่งสะพานโค้ง เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงให้กระดูกสันหลังได้" ครูสาลี่พูดพลางทำท่าโยคะประกอบให้ดูอีกครั้ง
    วิถีโยคะเปลี่ยนชีวิต
    สำหรับครูสาลี่แล้ว การฝึกโยคะไม่เป็นเพียงยาขนานเอกที่ใช้เยียวยาอาการปวดหลังจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเท่านั้น แต่สิ่งที่เธอได้กลับมาจากโยคะมีมากกว่านั้น
    "ถ้าหากถามว่าไม่มีโยคะ เราจะมีวันนี้ไหม แล้วเรียนจบไหม สุขภาพของเราจะแข็งแรงเช่นนี้หรือไม่ ไม่ได้เลย โยคะให้อะไรหลายอย่างกับชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆ ตั้งแต่ช่วยผ่อนคลายจากความเครียด ลดอาการปวดประจำเดือน บรรเทาอาการปวดเมื่อยต่างๆ ตลอดจนรักษาโรคที่เราเป็นอยู่ หรือที่เรียนจบเพราะได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมา เรียกว่าต้องขอบคุณความเจ็บป่วยที่ทำให้เราได้รู้จักโยคะ เพราะถ้าเราไม่ป่วย ไม่เจ็บ ก็อาจไม่คิดหาหนทางว่าทำอย่างไรเราจะหายจากโรคนี้"
    อีกทั้งความเป็นนักวิชาการ เธอได้แปรประสบการณ์จากการเรียนการสอนโยคะในช่วงเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาออกเป็นหนังสือเพื่อเผยแพร่หลายเล่ม และงานวิจัยเกี่ยวกับโยคะอีกหลายเรื่อง เช่น ผลกระทบของการฝึกตันเถียน-สาลี่โยคะที่มีต่อสุขภาวะของผู้สูงอายุ เป็นต้น
    "เราทำเพราะคิดว่าเราได้อะไรดีๆ จากโยคะมาก บางทีไปเป็นวิทยากรอบรม สิ่งที่เขาให้มา นอกจากจะเป็นเงินทองและอื่นๆ แล้วมันเยอะมาก เราคิดว่าเราน่าจะคืนอะไรกับสังคมบ้าง เราทำบุญไปส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็มานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรจะให้ออกไปทั่วถึง ให้คนมีโอกาสนำไปใช้ประโยชน์กันได้จริง" ครูสาลี่ทิ้งท้ายถึงโยคะด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแววตาแห่งความสุขใจ
    </td></tr></tbody></table>
     
  3. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    25
    ค่าพลัง:
    +29,754
    มีประโยชน์มากครับ
     
  4. BirdSoul

    BirdSoul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    4,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,020
    ขอบคุณสาระดีมีประโยชน์ค่ะ
     
  5. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,182
    ท่าแมวท่าหมาทำยังไงเหรอฮะ
     
  6. BirdSoul

    BirdSoul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    4,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,020
    ก็อ่านดูสิคะ อยู่ในบทความนั่นแหล่ะ
    แต่ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ดูตัวอย่างแถวๆบ้านก็ได้แล้วลองทำดู ไม่ยากหรอก หุหุ
     
  7. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,182
    นึกภาพมะออก ลุดวิกทำให้ดูทีจิ
     
  8. poom076

    poom076 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +689
    ช่วยได้มากครับ
    ฤาษีดัดตนของไทยก็ช่วยได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...