สมมติโลกวิบัติ ต้องมาสังคยานาพระไตรปิฏก ใครคือตัวแทน

เนื่องจากติดตามเว็บนี้มานาน หลักการใหญ่นั้นคงยืนอยู่ที่การธำรงค์ไว้ซึ่ง พระพุทธศาสนา ก็ด้วยเหตุปัจจัยเกี่ยวกับกึ่งพุทธกาล ตามคำพยากรณ์ ทำให้เกิดกลุ่มความคิดหลากหลาย เป็นที่น่ายินดี ที่หลากหลายกลุ่มนั้นล้วนมีความคาบเกี่ยวกับการรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา แม้จะคาบเกี่ยวในบางส่วน อย่าง อภิญญา พลังจิต แล้วแต่ความศรัทธาของกลุ่ม


แต่เราอยากมาสมมติ ว่าถ้าหลังจากโลกเกิดภัยพิบัติไปแล้ว พระไตรปิฏกฉบับเดิมสูญสิ้น หาหลักฐานไม่ได้ ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด แน่นอนประการหนึ่งว่า กลุ่มความคิดทั้งหลายนั้น จะมาประชุมกัน เพื่อรักษาไว้ซึ่ง พระพุทธศาสนา นั้นก็คือการ การทำสังคยานา


ท่านคิดว่า กลุ่มของท่าน ควรเป็นตัวแทนในการเข้าประชุมสังคยานาหรือไม่

ท่านคิดว่า หลักการความคิดรวบยอดใดของกลุ่ม ที่จะควรไปปรากฏใน พระไตรปิฏก ฉบับใหม่ เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ แห่งพระสัทธรรม เช่น ธรรมกาย เมืองนิพพาน ผู้วิเศษอคันตุกะมหามิตรนอกจักวาล พลังจักรวาล ตาที่สามสาธารณะ

และถ้าหากว่า หลักการความคิดรวบยอดของกลุ่มใด ไม่ควรปรากฏใน พระไตรปิฏก ฉบับใหม่ แล้ว เพราะเหตุใด และควรหรือไม่ที่จะรวบรวมลงไปใน ฉบับที่ 4 นอกเหนือจาก 3 ฉบับ(ไตรปิฏก) ดั้งเดิม เพื่อความบริบูรณ์ ไม่ควรปล่อยให้สูญหาย

 

ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าปัจจุบันมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของพระไตรปิฏกลงในคอมพิวเตอร์แล้ว สามารถทำสำเนาเก็บไว้ได้มากมายรวมถึงวิธีการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ก็มีวิวัฒนาการการเก็บได้อีกหลากหลายรูปแบบ ไม่ได้ใช้การจดจำหรือจดบันทึกต่อๆ กันมาแบบสมัยก่อนอีกแล้ว ผมจึงเห็นว่าไม่น่าจะมีการสังคายนากันอีกนานมากทีเดียว และพระไตรปิฎกไม่ควรที่จะถูกเพิ่มเติมหรือตัดทอนไปแม้แต่คำเดียว

หากเกิดภัยพิบัติขึ้นจริง อย่างดีก็เขียนเป็นตำนานไว้ต่างหากเพื่อเล่าขานเอาไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ศึกษากันเพิ่มเติมในเหตุการที่เกิดขึ้นเท่านั้นครับ

 

สอึก,,,,,,,,,,,,,,เอาเวลาไปคิดหย่างอื่นดีใหม เห็นด้วยกับคุญ NO.9

 

ขออภัยที่ทำให้บางท่านอาจจะสะอึก เสมือนดวงจิตไปจุกที่ลำคอ เพราะไม่อาจให้นามเข้าสัมปยุตกับรูป(สัญญา)ใดๆ ที่มีอยู่ได้ นั้นแหละ ทุกข์ อย่างหนึ่ง และความ ว่าง อีกอย่างหนึ่ง


สำหรับ นักคอมพิวเตอร์ ผมขอสมมติเพิ่มไปยังปี 2012 อันเห็นจะเป็นปีขั้วโลกพลิกกระมัง เมื่อขั้วโลกพลิกแล้ว Chip - Transiter ที่ประกอบด้วย Silicon จะไม่สามารถให้ข้อมูลได้ดังเดิม เพราะมันทำงานด้วยการอาศัยขั้วแม่เหล็กในทิศทางปัจจุบัน ดังนั้น ต่อให้มีไฟฟ้าใช้ ต่อให้มีสื่อบันทึกใด ก็ไร้ประโยชน์ เอามาส่องแสงสื่อสารกันคงจะเหมาะสมที่สุด

ผมอยากให้หมายถึงสิ้นสื่อบันทึกทุกชนิด กระดาษน่าจะเอาไปทำฟืนจนหมด ไม่ได้อยากคิดให้เลวร้าย ให้หดหู่ แต่ถ้าจะรับรู้สภาพทุกข์ ขอให้ความทุกข์นั้นแปรเปลี่ยนเป็นตาธรรม ให้ท่านเห็นทางพ้นทุกข์ในปัจจุบันกาลนี้เถิด เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นกับตอนนี้ จริงๆก็เหมือนเกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่ไม่เกิด ไม่ดำเนินไป

 

ผมก็จะปฏิบัตให้ถึงพระอรหันต์ แล้วผมจะหาพระอรหันต์ และฝึกพระรุ่นหลังให้เป็นพระอรหันต์ แล้วก็ ร่วมมือกันสังคยนาพระไตรปิฎกอีกครั้ง

ไม่ควรให้กลุ่มบุคคล มาออกความเห็น เพราะยังไม่ถึงธรรม

สำหรับ คุณเล่าปัง คิดว่า มีข้อมูลอะไรดี ก็เอามาเผื่อแผ่ ผู้อื่นดูสิครับ ผมคิดว่คุณมีสัมมาทิฎฐินะ

 

สำหรับ บุคคลที่เป็นสมาชิกของกลุ่มทิฏฐิเหล่านั้น ถ้าได้เข้ามาอ่าน แล้วมีอาการยั้งไว้


ให้รู้ลงไปว่า

สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญาของท่านได้ทำงาน


ให้รู้ลงไปว่า

สงสัย


และความสงสัยนั้นกลับไม่ได้เกิดกับ สัทธรรม ในพระไตรปิฏก ดังนั้น ข้อธรรมที่ยังเจือความสงสัยให้เกิดขึ้น ย่อมพาท่านไปสู่ปรมัติเช่นนั้นได้ยาก เรากล่าวอย่างนี้ไม่ใช่จะชี้ว่าสิ่งที่ท่านศรัทธานั้นผิด เพียงแต่เราชี้ว่าท่านจะถึงภาวะเช่นนั้นได้ยาก เพราะลึกๆ ท่านสงสัย

แต่ถ้าท่านทิ้งสงสัยลงได้ ท่านอาจสำเร็จได้อย่างที่ศรัทธาไว้ แต่ทว่าเผอิญไม่ตรงกันโดยในรายละเอียดแล้ว ถ้าไม่ตรงทางมาทางพระไตรปิฏก ก็อาจจะเกิดเป็นความรู้ใหม่ไปได้อีก ในบางสำนักก็ปรากฏเช่นนั้น ลูกศิษย์ปฏิบัติได้ผลตรงอาจารย์บ้าง ได้ผลต่างไปจากอาจารย์บ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา

อาธิเช่น สำนักพลังจักรวาล บ้างก็บอกว่าส่งมาจากดาวพฤหัส บ้างก็ส่งมาจากดาวพลูโต(ที่ถูกถอนออกจากการเป็นดาวเคราะห์) บ้างก็ส่งมาจากนอกกาแล๊กซี่ เมื่อ ลูกศิษย์เข้ามาศึกษา ก็มีบ้างที่ประกาศว่ามาจากที่ใดก็ได้ เช่น อุปกรณ์ นี้ถ้าได้หมั่นศึกษาวิทยาการจาก NASA ก็คงกล่าวว่ามาจาก แสงมืด(ละอองดาวของ Big Bang) เป็นต้น

 

*** หลังรอดพ้นจากสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล ****

หาก ผู้หนึ่งผู้ใด...เข้าใจและอธิบาย "หลักสัจจะธรรม" ได้
สิ่งที่ดีที่สุดก็ไม่สูญหาย
เพราะ เขาผู้นั้นย่อมรู้ว่า...หนทางหลุดพ้น คืออะไร
เขาจะเป็น ....ผู้นำพาศาสนศาสตร์ เผยต่อสัตว์โลกต่อไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พี่ศรีขออ้างความรับผิดชอบ
ฉะเพราะกาลนี้ เราจะคัดแต่ของจริงๆ
ของหลอกลวงกันเอาไว้เข้าไม่ถึง
ตายไปหมดแล้วเวลามหันตภัยเกิด
หมดโอกาสได้รับความรอดหนี้ค่าไถ่
ของเค้าก็คือความตาย<!-- google_ad_section_end -->

 

โอม

ใครก็ได้ครับขออย่างเดียวอย่าให้เป็นพวกธรรมกรรม(ธรรมกาย)
พวกนี้เป็นนักปิดเบือนพระไตรปิฎกครับ บวชมา 7 พรรษา ผมรู้ดี สาเหตุที่สึกก็มีเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากเรื่องนี้ บัณฑิตตกยาก ปีศาสครองเมือง เซ็งครับ ปธ9 เต็มวัด แต่ไม่เห็นมีใครกล้าอ้าปาก ผมเองยังกลัวๆอยู่เลยนะครับว่าที่วัดธรรมกรรมมีพระไตรปิฎกฉบับธรรมกาย (บิดเบือนเรียบร้อยแล้ว)

 

เล่าปังมีเจ้ากรรมนายเวรตามอยู่ ตอนนี้คงไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้นแน่ ๆ5555555

สมมุติ.....มันนานไป เอาตอนนี้เลย ถ้าจะสังคายนาปีหน้า ..........คุณว่า ใครต้องเป็นประธานในงานนี้ ...........ลองทายดูซิเอ่ย???????????

 

*** ดูที่สัจจะ ดูที่การกระทำ ****

ดูที่ธุดงค์ พึ่งตนเอง
กิจของสงฆ์ ถือสัจจะธุดงค์ทุกปี

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คิดไปถึงโน่นเลยหรอค่ะ

 

ถ้าเทคโนโลยีล่มสลาย

สังคมล่มสลาย

อารยะธรรมล่มสลายจริง ไม่มีประโยชน์ที่จะสังคยานา

ชั่วโมงนั้น จิตใจคนคงนึกถึงปัจจัยสี่ อาหาร เสื้อผ้า ยา ที่อยู่ เป็นหลัก

ส่วนเรื่องธรรมะ ใครพอมีภูมิคงแยกไปบำเพ็ญ เป็นนักบวช เป็นผ้าขาว เกิดขึ้นหลายสำนัก

เขียนตำราของตนขึ้นมาใหม่ เป็นนิกายใหม่ ลักธิใหม่ๆ มาประลองกัน อะไรก็ว่ากันไป จนไม่เหลือเค้าเดิม

ตัวอย่างก่อนพุทธศาสนามีให้เห็น ศาสนาก่อนพระโคคมก็มีให้เห็นแล้ว

 

โคตมีสูตร
หลักว่าธรรมใดเป็นของแท้หรือเป็นของปลอม

หลักโคตมีสูตร

อีกประการหนึ่ง ในฐานะที่เราเป็นพุทธบริษัท
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้า
อะไรไม่ใช่ เรื่องนี้พระพุทธเจ้าท่านก็หวั่นวิตกอยู่
พระองค์จึงได้วางหลักไว้ให้เราตัดสิน ที่เรียกว่า
หลักโคตมีสูตร เป็นหลักซึ่งเราควรจะนำมาใช้
ที่สุดในสมัยนี้ ว่าอะไรเป็นของแท้อะไรเป็นของปลอม
หลักที่พระพุทธเจ้าวางไว้มี ๘ ข้อด้วยกัน คือ

ธรรมเหล่าใด

เป็นไปเพื่อความกำหนัดย้อมใจ
เป็นไปเพื่อสะสมกองกิเลส
เป็นไปเพื่อความอยากใหญ่
เป็นไปเพื่อความไม่สันโดษ
เป็นไปเพื่อความคลุกคลีกันเป็นหมู่เป็นคณะ
เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน
เป็นไปเพื่อความเลี้ยงยาก

นั่นไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า

แต่ถ้าหากว่าข้อปฏิบัติการกระทำ หรือคำสอนเหล่าใด
เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัดย้อมใจ
เป็นไปเพื่อคลายความทุกข์
เป็นไปเพื่อไม่สะสมกองกิเลส
เป็นไปเพื่อความไม่คลุกคลีกันเป็นหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อความขยันหมั่นเพียร
เป็นคนเลี้ยงง่าย

นั้นเป็นธรรมเป็นวินัยของพระพุทธเจ้า

หลักนี้เราควรจะจำทีเดียว ก็เก็บไปติดไว้ในใจแล้วก็ดู
การกระทำ การพูด การปฏิบัติ หนังสือที่เราอ่าน ว่าสิ่งนั้น
เป็นธรรมเป็นวินัยหรือไม่ เอาแว่นแปดอันนี้ใส่ตาเข้า
แล้วก็ส่องดูเราก็เห็นได้ ว่าอันนั้นใช่ อันนั้นไม่ใช่

เพราะในสมัยนี้ครูมาก อาจารย์มาก แล้วครูอาจารย์
ส่วนมากก็มักจะชักนำลูกศิษย์ตามทางของตน
เพื่อประโยชน์อย่างโน้น เพื่อประโยชน์อย่างนี้

ถ้าหากว่าเราไม่มีแว่นกระจกไว้ส่องดูให้ดีๆ แล้ว
ความเข้าใจผิดก็อาจจะเกิดขึ้นแก่พี่น้องพุทธบริษัททั้งหลาย
ได้ง่ายเหลือเกิน จึงอยากจะขอฝากแนวคิดนี้ไว้ด้วย

*****
จากหน้า ๗๙ - ๘๐
หนังสือ
'๙๐ ปี ปัญญานันทะ ๔๐ ปี วัดชลประทานรังสฤษฏ์'
โดย มูลนิธิภิกขุปัญญานันทะ วัดชลประทานรังสฤษฏ์
พิมพ์เมื่อ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๓

 

ขอเป็นผู้ที่เป็นพหูสูตรเป็นเสขะเถิดแต่คงอีกซักระยะจึงจะถึงเวลากระมั้ง...

 

กรุ๊ก กรู๊ สาระดี สังคมดี

 

เป็นคำถามที่น่าสนใจครับ สำหรับเจ้าของกระทู้
เป็นเหมือนคำถามที่ให้ฉุกคิดในการเตรียมพร้อม

สำหรับผมมองว่าเราควรจะเก็บหลักฐานทางพระไตรปิฎกที่สมบูรณ์จริง ๆ ไว้ในหลาย ๆ ด้าน หลาย ๆ ที่ เช่น ใต้ดิน,อุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ นำใส่ไว้ในนั้นเวลาเกิดน้ำท่วม หรือที่อื่น ๆ ที่เราสามารถที่จะทำและนึกได้ ถ้าไม่โอเวอร์จนเกินไป ก็เก็บไว้บนยอดเขาที่สูง ๆ (ไม่ใช่ภูเขาไฟ) เพราะมีโอกาสรอดจากน้ำท่วมได้บ้าง พระไตรปิฎกเองควรทำไว้หลาย ๆ ชุดเท่าที่จะทำได้ (หลักหมื่น หลักแสนเลยยิ่งดี ถ้ามีงบและมีคนคิดจะทำนะ)และเผยแพร่ บันทึก จดจำไว้ว่าเก็บไว้ที่ใด ๆ บ้าง แล้วประกาศให้รู้กันทั่วทั้งประเทศ ถึงเวลานั้น(ภัยพิบัติ) อย่างน้อยเราก็มีข้อมูลแล้วว่าเราเก็บพระไตรปิฎกไว้ที่ใดบ้าง ที่นี้ก็สุดแล้วแต่เวรแต่กรรมว่าเราจะหาพระไตรปิฎกที่เราเก็บไว้เจอหรือไม่ (แน่นอนว่าเวลานั้นสถานที่ทุกอย่างจะพังทลายและเปลี่ยนรูปร่าง แต่อย่างน้อยก็ยังมีความหวัง)
ส่วนเรื่องการตั้งตัวแทน ผมมองว่ามันอาจจะดูยุ่งยากและเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในการตั้งตัวแทน ประเด็นหลักถ้าเราพบพระไตรปิฎกที่เก็บไว้จะช่วยเรื่องตัวแทนไปได้มาก

 

ถ้าบันทุกในคอมแล้วเกิดมารนอกศาสนา(หมายถึงผู้ร้ายบางกลุ่ม)คิดจะล้างศาสนาออกไปเพื่อทำให้เกิดยุคมืดนิรันด์ แต่ความดีไม่มีวันดับสูญ ด้วยการที่แอคเกอร์ระบบข้อมูลที่อยู่ในเน็ทโดยการลบข้อมูลที่เป็นธรรมะออกให้หมด แต่มันไม่อาจลบความมีเมตตาหรือความดีที่อยู่ในใจได้ ถึงมันจะครองโลกและสอนให้ลูกหลานเหลนโหลนของพวกเรากลายเป็นพวกมันตั้งแต่เกิดแต่มันจะต้องมีสัก1ในล้านต้องมีความเมตตาและมีปัญญาจากธรรมและสามารถลุกมาต่อต้านกับอธรรมที่ครองโลกนี้ได้แน่นอน ผมเชื่อว่าเขาผู้นั้นต้องทำได้ เบื้องบนคงไม่คิดที่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้หรอกจะต้องมีผู้มีบุญลงมาเกิดเพื่อกู้ศาสนา

ถึงคัมภีร์เดิมจะถูกลบ ถึงคัมภีร์ใหม่จะถูกขัดขวางแต่มันไม่สำคัญเท่าใจของเรา

คัมภีร์อมตะที่แท้จริงอยู่ที่ใจเราทุกคนเพียงแต่ใครจะเปิดอ่านก็เท่านี้เอง ไม่มีใครมาลบคัมภีร์ในใจเราได้หรอก

แล้วที่ว่า

ไม่ควรให้กลุ่มบุคคล มาออกความเห็น เพราะยังไม่ถึงธรรม

ของ ขันธ์

ทำไมไม่ลองให้เขาออกความคิดเห็นแล้วนำมาแก้ไข

เราควรเป็นกลาง ไม่ลำเอียงข้างใดข้างหนึ่ง ผมรู้ว่าคุณขันธ์ ไม่มีเจตนาที่จะพูดแบบนั้น

ผมมีวิทยาการอีกมากที่ให้ชาวโลกได้รับรู้ หรืออะไรที่ฉุดคิด

http://palungjit.org/threads/สมการที่จะทำให้นิวเคลียร์ที่น่ากลัวกลายเป็นแมวที่เชื่อง.246923/

http://palungjit.org/threads/วิทยาการ-น้ำท่วมแก้ภัยแล้งได้-ถ้าร่วมมือกัน.245713/

http://palungjit.org/threads/ใครที่มีพลังจิตที่สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้-ขอเชิญอ่านครับ.245741/

http://palungjit.org/threads/เหล่าท...กจะรอดไปกับคนที่เรารัก-เชิญอ่านทางนี้.244612/

http://palungjit.org/threads/ภัยหาย...ปีหน้า-ปี-วัวบ้า-2552-ที่กำลังจะมาถึง.155658/

ตอบ ถึงไม่ใช่2552แต่ถ้าเกิดขึ้นคงกลับตัวเหมือนดังคำทำนายที่ว่างมงายน่ะคือบุคคลที่ไม่ชอบใช้สันติวิธี ใช่ผมงมงายในคำทำนายแต่ผมไม่ได้สื่อถึงสิ่งนั้นแต่ผมกำลังสื่อให้เห็นว่าผู้ร้ายก็สามารถกลับตัวได้

http://palungjit.org/threads/สวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก-ทุกวันอังคาร-เพื่อ.165812/

ตอบ ถึงจะผ่านมาแล้วก็ควรสวดทุกวัน พักหลังๆผมสวดยอดพระกันฑ์และบทอื่นๆเกือบทั้งเล่มพอหมดแล้วผมก็ยังรู้สึกอยากจะสวดอีก แต่บางบทต้องใช้ธูปบูชาผมก็เลยข้ามไป ถ้าสวดเพื่อให้ได้เรียนรู้ถึงผิดก็ดีกว่าไม่ได้แตะ เพราะผิดนี่แหละทำให้ผมได้สวดทั้งเล่ม แรกๆก็ผิดๆถูกๆ พักหลังๆนั่งเล่นว่างๆก็สามารถท่องได้ทั้งหมด แต่แบบสั้นๆ อย่างบทมหาจักวาล โดยไม่ต้องดูตัวหนังสือ

http://palungjit.org/threads/พวกคุณเชื่อไหมบางหายนะ-บางเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะซาตาน.150014/

ตอบ เพราะถ้าซาตานมีอยู่จริง มันต้องการทำลายโลกนี้โดยการสร้างพรรคพวก แต่มันจะให้แค่หายนะเล็กๆน้อยๆ เพราะต้องการให้ความชั่วยั่งยืนต่อ แต่ฝ่ายเทพต้องการแตกหักเพราะต้องการให้ความชั่วหมดไปโดยเร็ว

ยังมีอีก แต่หาไม่เจอ

เทพสังหรณ์

 

ถ้าไม่มีคอม ไม่มีเครื่องอ่านซีดี ดีวีดี แล้วจะทำยังไง

สมัยก่อนเวลาสวดมนต์ก็พนมมือถือตับจากแล้วก็สวดมนต์ อนาคตถ้าเป็นอย่างที่ว่าพนมมือถือซีดีไว้ในมือแล้วจะสวดได้เหรอ? 555