ถ้าภัยพิบัติมาถึง

เอ......หากเปลี่ยนจากการแจ้งผลเป็นการส่งมาลองชิม จะเป็นพระคุณยิ่ง

อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ความรู้ที่เป็นนักกินสมัยนี้แหละ แหะๆ อย่าทึกทักให้หรูนักเลย พี่ตั้มจ๋า

เมื่อก่อนเวลาอ่านเจอ สำรับกับข้าวแปลกๆในวรรณคดี หรือประวัติศาสตร์ มีโอกาสก็เกณฑ์คนนั้นคนนี้ลองทำให้กิน เพลินพุงดี พริกกับเกลือแบบโบราณนี่ก็เคยให้เขาลองทำให้กิน

ที่หรูหราที่สุดเห็นจะเป็นครั้งที่เจอ... ดูเหมือนในกาพย์เห่เรือห่อโคลงชมเครื่องคาวหวาน พบว่าชาววังท่านเสวยน้อยหน่าไร้เมล็ด คือยกมาวางให้ทั้งลูกทั้งเปลือกโดยสมบูรณ์นี่แหละ แต่เวลาแกะกินจะไม่พบเมล็ดเลย เพราะห้องเครื่องจะนำเมล็ดออกก่อนโดยแกะเฉพาะจุกเล็กๆที่หัวให้เป็นรู ค่อยๆแคะเมล็ดออกจนหมดทั้งลูก แล้วปิดจุกไว้เหมือนเดิมอย่างแนบเนียน

มีความแตกต่างระหว่างข้าวตาก กับข้าวพองนะครับ ที่ว่ากลุ่มแม่บ้านทำขายนั้นเคยเห็นแต่ประเภทที่นำไปทอดให้พองกรอบ

ซึ่งถ้านำไปทอด จะมีประเภทข้าวแต๋นของทางเหนือ หรือขนมนางเล็ดของภาคกลาง ซึ่งเป็นเพียงของกินเล่น และเนื่องจากใช้น้ำมัน พอกินไปได้หน่อยก็จะเลี่ยนจนกินต่อไม่ได้ ทำให้อิ่มท้องไม่นานนัก ทั้งยังเปลืองที่เก็บเพราะน้ำหนักต่อปริมาตรน้อย จึงอาจไม่เหมาะเป็นเสบียงได้อย่างจริงจัง

ประเภทที่น่าใช้เป็นเสบียง คือ ข้าวตาก หรือข้าวตัง ที่ไม่ผ่านกระบวนการทอด หรือใช้น้ำมันนะครับ เนื้อจะแน่น คงทนไม่ป่นเป็นผงง่าย เหมาะสำหรับเป็นเสบียงเดินทางมากกว่า

 

เอ......ท่าทางกระทู้นี้จะเปลี่ยนเป็น "ถ้าเนื้อเจอกี้ มาถึง" แล้วมั้ง ครับ...อิๆๆๆๆๆ

พูดไป หิวไป น่ะ ไหงเปลี่ยนไปเร็วจัง.....หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ให้รางวัลที่ละเว้นไม่แซว ด้วยเมนูของหวาน

ทุเรียนทอดกับลำไยอบแห้ง ก็ไม่เลวนะครับสำหรับการเป็นเสบียง ให้ทั้งไฟเบอร์และพลังงานสูง

 

เสาร์อาทิตยืนี้ไปเชียงใหม่กับแม่ค่ะ
จะลองทำเนื้ออาทิตย์หน้า ถ้าออกมาแล้วใช้ได้จะเอาไปให้ชิมที่งานพุทธภูมิ
คุณคนเก่าจะเอาอะไรไปให้เราชิมไหมคะ อยากหม่ำพริกขิงค่ะฝีมือทหารเก่าใช่ไหมคะ...

 

ไปตลอนๆเป็นหนุ่มโฉดเหมือนพี่ตั๊มไม่ได้หรอกครับ ผมมีหลายบ้าน เอ๊ย มีภารกิจแยะครับ ท่านอ.ดร.ไก่

สารภาพว่าในชีวิต มีโอกาสได้ทำอาหารน้อยมาก เพียงแต่ทะลึ่งรู้เป็นเรื่องๆ เคยไปนอนล้อคเคบินกลางป่ากับเพื่อนๆสมัยเรียน ทำบาบีคิวกินกัน พวกคว้าชิ้นเนื้อไปย่างเลย ส่วนของผม จับโน่น คว้านี้ คลุกไปเรื่อย ย่างเสร็จ พวกมาเลือกจะกิน ถามผมใส่อะไรมั่ง บอกไม่รู้ ไม่ได้รวน แต่ไม่ได้จำจริงๆ เลยหนีไปจิ้มของเพื่อนอีกคนที่ไม่คลุกไม่หมักอะไรเลยกินกัน พักเดียวย่องมากลับมาลองกินของผม คราวนี้ หายวับทั้งกองในพริบตา

แหะๆ คงมีสักชาติมั้งครับที่ได้เป็น ท.ทหารอดทน คนสมัยโบราณถูกเกณฑ์ไปรบไม่ได้หยุดอยู่แล้ว แต่อย่าไปรับลูกอีตาพี่ตั้มตัวดีเลย ยอมแกครั้ง เดี๋ยวได้ upgrade เป็นอะไรพิลึกขึ้นไปเรื่อยๆ จะขึ้นหน้าหนึ่งเป็นหมอเผ่า 2 และ 3 พร้อมๆกัน

 

เสน่ห์ปลายจวักนี่เอง
รู้เคล็ดละทีนี้

 

ข้อมูลเรื่องข้าวสวยกระป๋องครับ
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เรียนคุณคณานันท์

ผมไปพบข้าวสวยกระป๋อง300กรัมราคา 27 บาทที่ Lotus และคิดว่าน่าจะเป็นเสบียงหลักได้ดี เพราะเปิดแล้วกินได้เลย กระป๋องที่ผมซื้อเก็บได้ถึงปี 2009 ผมอยากฝากให้คุณคณานันท์และทีมงานช่วยประสานการซื้อเพื่อที่ว่าจะได้ใช้จำนวนต่อรองราคา ตัวผมเองเรื่องการพูดจาไม่ได้ความ อาจทำให้เสียเรื่องครับ เข้าไปดู web ของสินค้าได้ที่ www.khunperm.com บริษัท อัลบาทรอส จำกัด ลาดพร้าว 122 02-9340061-4
หากมีใครแจ้งข้อมูลตุณคณานันท์แล้ว ผมก็ขอโทษด้วยครับที่รบกวน

นิติ
<!-- / message --><!-- sig -->

____________________________________________________________

 

หมูเจอร์กี้

สำเร็จแล้วจ้าวานนี้เอง เป็นหมูเจอร์กี้นะ ไม่ทันทำไปงานพุทธภูมิเพราะก่อนเดินทางยุ่งตลอด
สะโพกหมูเขาลดราคา เห็นเนื้อมันสวยเลยซื้อมาวานนี้
ไม่มีผงหอมใหญ่ ก็เลยใส่เฉพาะผงกระเทียม พริกไทย ซ๊อสไก่งวง แม้กกี้ กะซ๊อสตราภูเขาหน่อยนึง เคล้าให้เข้ากันในชามใหญ่ ปิดฝาไว้ข้างนอกตู้เย็นครึ่งชั่วโมง
เอาใส่ dehydrator ที่มีอยู่ (ซื้อจากวีรสุนานแล้วเอาไว้อบกล้วย) ที่เป็นถาดกลมๆซ้อนกัน เปิดฮีตเตอร์เบอร์สอง เปิดไทม์เมอร์แปดชม. มันตัดไฟเอง
อร่อยค่ะ ต้องเก็บไว้ให้พ้นมือสามี ไม่งั้นหมดในพริบตา
ขอที่อยู่คุณนิวารนาและพี่คนเก่าทาง PM ด้วยจะส่งตัวอย่างไปกำนัลค่ะ

 

อนุโมทนา....สาธุ

วันนี้นึกๆอยู่แล้วว่าวันนี้จะมีลาบทางปาก....เอ๊ย หมูเจอร์กี้ น่ะ

ขอบคุณเจ๊ ครับ......ขอให้ร่ำ ขอให้รวย ไปไหนไปด้วย .....แต่ช่วย 2 บาท

อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

มีหนุ่มๆแนะนำมา เกี่ยวกับแค่บควาย ชิ้นเท้านิวก้อย แต่กินได้นาน คือชิ้นเดียวกว่าจะเปื่อยเคี้ยวได้ ก็อมไปครึ่งวัน 55555

เอาเบอร์ OTOP ข้าวตากมาให้ เค้าขายแบบตากแล้วแต่ยังไม่ทอดจ้า สามารถเอาไปแช่น้ำต้มเป็นข้าวต้ม อมให้เปื่อยสำหรับการเดินทางแบบถึกๆ หรือสะดวกจะทอด ย่าง ปิ้ง แล้วแต่สันทัด
http://www.thaitambon.com/tambon/to...=sProduct&sProvCode=&showimg=&c1v1p=&sCatCode=

และอีกที http://www.mkl-foods.com/ จำหน่ายข้าวตังตากแห้งสำเร็จ เอาไปทอดได้อีกที
หจก.เมฆขลา ฟู้ด
89/131 หมู่6 ต.บางครุ อ.พระประแดง สมุทรปราการ 10130 ไทย
โทรศัพท์: 02-8177531 แฟกซ์: 02-8177531 มือถือ: 08-39807353

กำลังคิดจะตั้งกองทุนข้าวตาก เกลือป่นอยู่เหมือนกัน

"ตัวอย่างต่างๆ ก็มีทั่วๆไป ที่แสดงให้เห็นว่า ค่านิยมหรือคุณค่าต่างๆในสังคมนี้เป็นตัวกำหนดราคา ซึ่งเศรษฐศาสตร์ก็เอามาใช้ ดังจะเห็นได้ในตัวอย่างง่าย ๆ สมมุติว่ามีคนสองคนเรือแตก ไปติดอยู่บนเกาะหนึ่ง คนหนึ่งมีข้าวตาก 1 กระสอบ อีกคนหนึ่งมีสายสร้อยทองคำ 100 สาย ตามปกติ ในสังคมทั่วไปคนที่มีสายสร้อยทองคำ 1 สาย อาจจะซื้อข้าวตังหรือข้าวตากได้หมดทั้งกระสอบ หรือว่าข้าวตากทั้งกระสอบนั้น อาจจะไม่พอกับราคาค่าสายสร้อยทองคำสายเดียวด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขาไปติดอยู่บนเกาะ มองไม่เห็นทางว่าจะรอด ไม่เห็นว่าจะมีเรืออะไรมาช่วยเหลือ ตอนนี้มูลค่าจะต่างไป ผิดจากเดิมแล้ว ตอนนี้คนที่มีข้าวตากหนึ่งกระสอบอาจจะใช้ข้าวตากเพียง 1 ชิ้น แลกเอาสายสร้อยทองคำทั้ง 100 สายก็ได้ บางทีไม่ยอมรับด้วยซ้ำไป คุณค่าจึงเป็นไปตามความต้องการ"

ข้าวตัง<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O> </O>
ข้าวตัง แปลว่า ข้าวที่ติดตังอยู่ หมายถึงข้าวสุกที่ติดอยู่ก้นหม้อ การหุงข้าวแต่ก่อนไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าซึ่งตั้งกำหนดเวลาหุงข้าวสุกไว้พอดี และเมื่อข้าวสุกแล้ว ไฟสำหรับหุงก็จะดับโดยอัตโนมัติ แต่ก่อน ผู้ที่หุงข้าวไม่ชำนาญอาจหุงนานไปทำให้ข้าวแฉะ และเมื่อเช็ดเอาน้ำออก อาจเช็ดไม่สะเด็ดน้ำ ทำให้มีน้ำในข้าวมากเกินไป ต้องดงคืออังไฟนาน เมื่อดงนานข้าวที่ก้นหม้ออาจเกรียมติดก้นหม้อเป็นแผ่น คดออกไม่ได้ กลายเป็นแผ่นข้าวแข็ง เรียกว่า ข้าวตัง<O> </O>
คนไทยไม่ได้ขูดข้าวตังทิ้ง แต่แกะออกมาเป็นแผ่น แล้วนำไปประกอบเป็นของกินได้อีกหลายอย่าง เช่น ปิ้งไฟให้หอมชงน้ำร้อนเป็นเครื่องดื่ม ปิ้งไฟพอเหลืองกรอบแล้วชุบน้ำกะทิที่ผสมน้ำตาล กินเป็นขนม เรียกว่า ข้าวตังปิ้ง ข้าวตังอาจนำมาทอดน้ำมันมากๆ ร้อนๆ ทำให้พองกรอบ กินกับมะพร้าวทึนทึกขูดโรยน้ำตาล หรือกินกับเมี่ยงลาว เรียกว่า ข้าวตังเมี่ยงลาว ถ้ากินกับหน้าตั้ง ก็เรียกว่า ข้าวตังหน้าตั้ง นอกจากนี้ยังมีการนำข้าวตังมาปิ้งให้เหลืองกรอบแล้วโรยหน้าด้วยเครื่องปรุงมีรสหวานเค็ม โรยกุ้งแห้ง ผักชี เรียกกันว่า ข้าวตังทรงเครื่อง หรือข้าวตังทิพย์ ได้อีกด้วย<O> </O>
<O> </O>
ข้าวตาก<O> </O>
ข้าวตาก เป็นข้าวสุกที่เหลือรับประทาน นำมาตากให้แห้ง ใช้สำหรับปรุงเป็นอาหารต่างๆ ในสมัยที่ยังไม่มีตู้เย็นที่จะใช้เก็บอาหารสด การถนอมอาหารไว้ให้กินได้หลายๆ วัน ใช้วิธี ตากแดดให้แห้ง ผึ่งลม หมักหรือดองด้วยเกลือ แล้วแต่ชนิดของอาหาร ข้าวตากเป็นวิธีการเก็บข้าวสุกวิธีหนึ่ง ข้าวที่ตากแห้งแล้วจะเก็บไว้ได้นาน เมื่อจะกินอีกก็นำมาต้มน้ำ ข้าวจะคืนสภาพเป็นข้าวนิ่มกินเป็นอาหารได้ แต่คนไทยมักจะมีวิธีพลิกแพลง ทำให้ข้าวตากมีรสอร่อยขึ้นด้วยการนำมาคั่วให้หอม เรียกว่า ข้าวคั่ว ใช้ปรุงแต่งขนม เช่น โรยหน้าขนมเหนียว หรือคั่วแล้วคลุกกับน้ำตาลปึกมะพร้าวทึนทึกขูดกินเป็นขนม เรียกว่า ข้าวหัวโขน หรือคั่วแล้วตำให้ละเอียด คลุกกับมะพร้าวขูดและน้ำตาล ปั้นเป็นก้อน เรียกว่า ข้าวตู

 

สรุปได้ว่าเมื่อเมื่อภัยพิบัติมาถึง พวกเราเน้นอาหารเป็นหลัก ไม่กลัวตายแต่กลัวอดเป็นสำคัญ

 

อะอะ เข้าใจละครับบบบบบบบบ

 

แฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ก็อดอาหารมันก็ต้องตายเหมือนกันล่ะ ครับ จะไม่ให้กลัวได้งัย
ฉะนั้นวันนี้ต้องอิ่มก่อนซิดี มีชัยไปกว่าครึ่ง....อ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รอดธรรมชาติพิบัติ มาเจอทุกภิกภัยเป็นเด้งที่สอง
เราว่างานนี้ต้องมีตายกันเยอะเหมือนกันนั่นแหละ

แล้วเด้งที่สามตามมาก็คือ โรคภัยไข้เจ็บนานาชนิดที่ต้องผจญ

เตรียมตัวเตรียมใจ ผจญภัยพิบัติกันให้ดี เถิดครับ

 

long live the king of thailand
อัพไฟล์ฝากเวปไว้แล้ว คำร้อง คำแปล และที่มา
รอให้นับถอยหลังเสร็จ กดดาวน์โหลด
http://www.uploadtoday.com/download/?618e379722377d7da865d5f2f86a7ccf
ลิ้งสำรอง
http://www.uploadtoday.com/download/?653575d535d66434bd3946511fa2c1b0
http://www.up2box.com/download.php?file=0711058db0575e5ca6cc58c6337a5f133d7d76
เพลงที่คนต่างชาติแต่งให้ในหลวง สมควรแก่การเก็บ และฟัง ไพเราะมาก...
หม่อมหลวงปริยดา ดิศกุล ประธานมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมได้นำเยาวชนในเครือข่ายเยาวชนพัฒนาศักยภาพประมาณ 20 คน ร่วมร้องเพลงถวายพระพร โดยมี นางเคลลี นิลตั้น (Kelly Newton) นักร้องนักแต่งเพลงชาวออสเตรเลียซึ่งได้เดินทางร้องเพลงมาแล้วทั่วโลกเป็นต้นเสียงในการร้องนำ ในเพลง Long live The King of Thailand ซึ่งนางเคลลี เป็นผู้เขียนเนื้อเพลง และทำนองด้วยตนเอง
สำหรับเนื้อหาในเพลงนางเคลลีกล่าวว่า ตนเป็นชาวต่างชาติแต่ได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและรู้สึกประหลาดใจว่า ผู้ชายคนนี้ได้ทำให้ประเทศชาติมากมายขนาดนี้ ทรงเป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงมีพระอัจฉริยะภาพหลายด้าน ทางด้านการแต่งเพลงดนตรี หรือการเกษตร พระองค์ทรงเป็นนักแต่งเพลงและดนตรีที่แต่งเพลงและทรงดนตรีได้เยี่ยมยอดมาก ซึ่งตนก็ชื่นชอบเพลง ที่พระองค์แต่งทุกเพลง
นางเคลลีกล่าวอีกว่า แรงบันดาลใจสำคัญที่นำมาซึ่งเนื้อหาในบทเพลงนี้เริ่มต้นมาจาก ตนได้นั่งเครื่งบินของการบินไทยและได้เห็นวีทีอาร์พระราชกรณียกิจในหลวง ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นพระองค์ท่าน ก็ประหลาดใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้ทำอะไรมากมายขนาดนี้ เมื่อลงจากเครื่อง จึงได้สอบถามเพื่อนและทราบว่าเป็นพระองค์ท่าน แรงบันดาลใจสำคัญจึงมาจากพระองค์เอง
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ทรงมีความรัก ความเมตตาให้แก่ประชาชนของพระองค์ทุกคน ซึ่งตนสามารถเห็นและสัมผัสได้ พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างของผู้นำที่ดีของโลกนี้ ที่ผู้นำทุกคนควรจะเป็น
นางเคลลีกล่าวด้วยว่า ตนกับสามีทำฟาร์มอยู่ที่ออสเตรเลีย โดยไม่ใช้สารเคมี มา 20 ปีแล้ว ซึ่งพอทราบว่าพระองค์ท่านมีพระราชดำริเกี่ยวกับการเกษตร ให้ใช้ปุ๋ยชีวภาพ ปลูกพืชปลอดสารพิษ ก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในพระองค์ท่าน คิดว่าเป็นบุคคลที่หาได้อยากที่สุดในโลกแล้ว และเมื่อได้มาประเทศไทย ก็ถามคนที่นี่ว่า ทุกคนรู้สึกอย่างไรกับในหลวง ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เรารักในหลวง ซึ่งตนไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนในโลกว่า ความรักที่ประชาชนมีต่อผู้นำประเทศจะมากมายขนาดนี้ และเมื่อทราบว่า พระองค์ประชวรจากเพื่อนจึงได้เดินทางมาถวายพระพร ด้วยการร้องเพลงที่แต่งเอง ซึ่งได้แต่งเพลงนี้เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2550 ใช้เวลา 15 นาที ก็ได้เพลงนี้ออกมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นางเคลลีได้นำเด็กๆในเครือข่ายร้องเพลงนี้บริเวณด้านหน้าศาลา 100 ปี ศิริราช ก็มีประชาชนให้ความสนใจ โดยเมื่อถึงท่อนฮุก Long live the king Long live of Siam ประชาชนที่อยู่ในบริเวณก็ร่วมร้องท่อนฮุกนี้ไปพร้อมๆ
===============================================
เนื้อเพลง + คำแปล
The king of Siam
--------------------------------------------------------
Ever since I saw the face of this man
หลังจากที่ฉันได้เห็นหน้าผู้ชายคนนั้น
The king of Thailand, The king of Siam
กษัตริย์ของประเทศไทย กษัตริย์ของประเทศสยาม
I felt in love with his soul loves this land
ฉันก็หลงรักในความรักที่ท่านมีให้แก่แผ่นดินของท่าน
It's in his eye, it's in his heart, it's in his hand
มันเห็นได้จากสายตาของท่าน จากหัวใจของท่าน และจากมือของท่าน
He is the husband, the father and the king
ท่านเป็นสามี เป็นพ่อ และเป็นกษัตริย์
A great photographer , musician so many things
เป็นช่างภาพผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักดนตรี และอีกหลายๆอย่าง
The way he lives his life is something to be hold
การดำเนินชีวิตของท่านมันเป็นสิ่งที่น่าถนุถนอมไว้
His grace, his wisdom , an example to the world
สติปัญญาและความสามารถของท่านเป็นตัวอย่างที่ดีแก่โลกนี้
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
And in the time when the rain came flooding down
และเมื่อถึงเวลาที่ฝนตกน้ำท่วม
He saved the city with a building of the dam
ท่านก็ช่วยเหลือจังหวัดนั้นไว้ด้วยการสร้างเขื่อน
In time of conflicts, he has always been there
เวลาเกิดความขัดแย้งกัน ท่านก็อยู่ตรงนั้นเสมอ
To stop the fighting just like the father who really cares
เพื่อช่วยหยุดการต่อสู้เหมือนกับพ่อที่ห่วงใยสนใจลูก
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
I'm watching wonder at the things he understands
ฉันเฝ้ามองท่านและพิสวงสงสัยในหลายๆอย่างที่ท่านทำ
His love for his people, his love for this land
ความรักของท่านต่อประชาชนของท่าน และต่อแผ่นดินของท่าน
His working a great culture, he is one of a kind
ท่านสร้างวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงาม ท่านเป็นหนึ่งในล้านจริงๆ
His vision for the future way ahead of their time
ท่านมองเห็นการณ์ไกลมาก
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam

 

[
-----------

ทางการแพทย์สรุปไว้ว่า อดน้ำตายภายใน 2 วัน อดข้าวตายภายใน 7 วัน

สุภาษิตบอกไว้ว่า "อดข้าวดอกเจ้าชีวาวาย มิตายเพระอดสิเน่หา"

พวกเรายึดหลัก "กองทัพเดินด้วยท้อง อิ่มก่อนได้เปรียบ(b-smile) "

ไม่อยากเห็นพวกโมโหหิว ตาลาย หูอื้อ ฆ่าใครก็ได้แบบกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่จ้า
อิ่มย่อมดีก่าอดน่ะ เรื่องข้าวปลาอาหาร ทำให้เกิดสงครามมานับไม่ถ้วนแล้วนะจ๊ะ เช่น สงครามของจูมง 5555 ที่แย่งเกลือกันไง จำได้บ่