เจอบทความเก่าๆน่าสนใจ :d จับพลังพระเครื่องและวัตถุมงคล... อำนาจพุทธคุณและพลังวิเศษของพระเครื่อง พระบูชา รวมทั้งเครื่องรางของขลัง ถือว่าเป็นปัญหาโลกแตก ไม่มีคำอธิบายเป็นที่สิ้นสุด ผู้มีประสบการณ์เชื่อว่า มีจริง ส่วนผู้ยังไม่มีประสบการณ์ก็หวังเพียงว่า สักวันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง และความสงสัยนี้เองจึงเป็นที่มาของการ "รับตรวจพุทธคุณและพลังวิเศษขององค์พระ" นายอาชาวิน จิรจินดา ตามนามบัตรระบุไว้ว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญแสงออร่าและกายทิพย์ (วศ.บ เครื่องกล จุฬาฯ) รับวิเคราะห์ ออร่า กายทิพย์ และรักษาโรคกายทิพย์ ซึ่งได้เปิดรับตรวจพุทธคุณและพลังวิเศษขององค์พระ อยู่ที่ร้านค้าบริเวณของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชร ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาด อ.ต.ก.ทุกวันอาทิตย์ สำหรับความเป็นมาของการรับตรวจพุทธคุณและพลังวิเศษขององค์พระ นายอาชาวิน บอกว่า การจับพลังเกิดจากการฝึกจิตที่เป็นสมาธิ เป็นความสามารถและพรสวรรค์เฉพาะตัว โดยเอาจิตจับที่โคนก้านสมอง เมื่อพลังเข้าจะรู้สึกชา จากนั้นจะรู้สึกว่า ตัวเองเรืองแสง เมื่อมองใครจะเห็นเป็นคลื่น คนเราเมื่อจิตเป็นสมาธิจะมีพลังพิเศษ ซึ่งเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง เมื่อถ่ายภาพด้วยออร่าจะปรากฏเป็นสีต่างๆ เช่น แดง เขียว เหลือง เป็นต้น สีแดง เป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี สีเหลือง แคล้วคลาด สีม่วง ป้องกันคุณไสย นอกจากนี้แล้วอำนาจพุทธคุณยังมีระยะคุ้มครองด้วย ในขณะที่พระเครื่องบางองค์มีพุทธคุณในระยะอินฟินิตี้ ทั้งนี้พลังขององค์พระจะเป็นการคุ้มครองเฉพาะตัว ซ้อนกันอยู่เป็นเกราะใครเกราะมัน เขาบอกด้วยว่า ถ้าเป็นพระกรุที่สร้างสมัยโบราณส่วนใหญ่จะมีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี ส่วนพระที่ปั๊มออกมาก็มีพุทธคุณ แต่จะมีเพียงระยะ ๑-๒ เมตรเท่านั้น พระแท้ราคาแพงเป็นการเล่นทางพุทธพาณิชย์ พุทธคุณอาจจะเท่ากับพระองค์ละไม่กี่บาท พลังอำนาจพุทธคุณไม่ได้มีมากหรือน้อยตามราคาพระ การเช่าซื้อพระราคาแพงเป็นการโอ้อวดทางพุทธพาณิชย์ ผู้ที่จะแขวนพระให้มีพุทธคุณนั้น ต้องประกอบด้วย ๓ ปัจจัย คือ ๑.กายทิพย์ของผู้แขวน ๒.แสงแห่งความรู้สึกนึกคิด และ ๓.พุทธคุณในองค์พระ ถ้าคนไหนเป็นคนดี เมื่อแขวนพระอำนาจพุทธคุณขององค์พระจะคุ้มครอง แต่ถ้าเป็นคนไม่มีศีลธรรม ต่อให้แขวนพระมีพุทธคุณทุกด้านพระก็ไม่คุ้มครอง "รายได้จากการจับพลังนั้น ๗๐% จะถวายวัดทำบุญ ส่วนอีก ๓๐% เป็นค่าเช่าแผง ค่าน้ำ และค่าไฟ รายได้ประมาณวันละ ๗,๐๐๐ บาท นอกจากนี้แล้วรายได้ส่วนหนึ่งยังมาจากการให้เช่าพระเครื่องซึ่งได้มาจากผู้ที่มาจับพลัง โดยจะให้เช่าในราคา ๕๐-๑๐๐ บาท แต่ละสัปดาห์จะขายได้ประมาณ ๗,๐๐๐-๘,๐๐๐ บาท รายได้ส่วนนี้จะทำบุญถวายวัดทั้งหมด" นายอาชาวิน กล่าว อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะมองเรื่องการจับพลังพระเครื่อง และวัตถุมงคลเป็นเรื่องเหลวไหลนั้น นายอาชาวิน ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล พระเครื่องทุกองค์แม้ไม่ปลุกเสกก็มีพุทธคุณอยู่ในตัว เพราะเป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้า แต่จะมีพลังพุทธคุณออกมาให้เห็นหรือไม่นั้นอยู่ที่บุญบารมีของผู้แขวนด้วย นอกจากนี้แล้วรูปภาพของพระเครื่องยังแสดงพุทธคุณได้เช่นกัน มีพลังพุทธคุณเท่ากับพระแท้องค์ละเป็นล้านบาท เพื่อความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว "คม ชัด ลึก" ได้นำพระเครื่องและวัตถุมงคล ๗ ชนิด ไปทดสอบการจับพลัง โดยไม่ได้บอกว่ามีอะไรบ้าง และเกจิรูปใดเป็นผู้สร้าง ปรากฏว่ายางรัดผมธรรมดาๆ ซึ่งมีลักษณะเหมือกำไลมือประคำ มีพุทธคุณสามารถป้องกันผีได้ แคล้วคลาด และประสบความสำเร็จ มีรัศมีพลังถึง ๑๒ เมตร ในขณะที่ดินธรรมดาซึ่งคลุกกับผงทองคำเปลวปั้นเป็นลูกกลม กลับมีพุทธคุณด้านรักษาโรคและทำน้ำมนต์ โดยมีรัศมีพลังถึง ๑๐ เมตร <TABLE cellSpacing=10 cellPadding=5 width=450 align=center border=1><TBODY><TR vAlign=top bgColor=#ebebeb><TD> ความเห็นของสมาคมพระเครื่องฯ นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ ต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พูดไว้อย่างน่าคิดว่า การจับพลังเปรียบเหมือนเต่าเอาเรื่องที่เห็นบนบกไปคุยกับปลา เต่าก็เปรียบเหมือนคนจับพลังได้ ส่วนปลาก็เปรียบได้กับคนทั่วๆ ไป เต่าจะพูดเกินจริงปลาก็ไม่มีสิทธิที่จะรู้ว่าความจริงหรือเท็จคืออะไร ถ้าปลาหัวอ่อนเต่าพูดอะไรก็จะเชื่อหมด เรื่องการจับพลังอาจจะเป็นทั้งเรื่องจริงและเรื่องโกหกหลอกลวง ผู้เชื่อส่วนใหญ่จะประสบมาด้วยตัวเอง แต่คนส่วนใหญ่จะไม่เชื่อ เพราะเคยมีการทดสอบด้วยการเอาอิฐธรรมดารูปสี่เหลี่ยมห่อกระดาษไปทดสอบจับพลังดู ปรากฏว่า อิฐก้อนนั้นกลับมีพลังเช่นเดียวกับพระเครื่อง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย ต้อย เมืองนนท์ แนะนำด้วยว่า "การจะทำอะไรก็ตามต้องดูว่ามหาชนหรือคนส่วนใหญ่ให้การยอมรับหรือไม่ การจับพลังเป็นการเล่นกันในหมู่แคบๆ เท่านั้น วงการพระเครื่องไม่มีใครยอมรับ เพราะไม่มีเครื่องพิสูจน์ ในขณะที่พระแท้พระปลอมสามารถพิสูจน์กันได้" ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ ศกุนตนาฏ ผู้อำนวยการสำนักพิมพ์คเณศ์พร และประธานชมรมผู้สื่อข่าวและช่างภาพพระเครื่อง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้จะรู้ว่าพุทธคุณในองค์พระมีจริง แต่ยากเกินจะพิสูจน์ ผู้ที่พิสูจน์ก็ไม่อาจจะบอกได้ว่า รู้จริงหรือไม่ โดยส่วนตัวแล้วไม่เชื่อเลยว่าอำนาจพุทธคุณในองค์พระสามารถพิสูจน์ได้ด้วยการจับพลัง ไม่ว่าผู้จับพลังนั้นจะเป็นพระหรือฆราวาสก็ตาม ในช่วงที่ยังเปิดแผงพระอยู่ที่ตลาดท่าพระจันทร์ ได้มีคนมาหาซื้อพระด้วยการจับพลัง ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากว่า เมื่อเอาพระแท้ให้ทดสอบจับพลังดูกลับมีพุทธคุณนิดเดียว แต่เมื่อเอาพระปลอมให้ทดลองจับดูกลับมีพุทธคุณล้นเหลือ แล้วจะให้เชื่อได้อย่างไรว่า ผู้ที่จับพลังนั้นพูดจริง "เราไม่สามารถพิสูจน์ได้เลยว่า ผู้ที่ตั้งตนเป็นผู้จับพลังได้นั้นมีความสามารถตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ ถ้าเราหลงเช่าพระเพราะมีพลังพุทธคุณสูงก็มีแต่จะเจอของปลอม ที่สำคัญคืออาจจะต้องซื้อพระปลอมในราคาแพงกว่าพระแท้" นายสมศักดิ์ กล่าวยืนยัน ทางด้าน นายราม วัชรประดิษฐ์ อาจารย์สาขาวิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และเลขานุการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย บอกว่า การจับพลังนั้นถือว่าเป็นการเล่นพระคนละแนวกับสมาคม พระเครื่องนั้นปกติแล้วจะมีพุทธคุณ ๒ อย่าง คือ ดีนอก และดีใน ดีในคือมวลสารและวัตถุมงคลที่นำมาทำเป็นองค์พระ ดีนอก คือ พิธีพุทธาภิเษก เปรียบเสมือนเป็นการปลุกมวลสาร พุทธคุณในองค์พระมีจริง แต่พุทธคุณในองค์พระนั้นไม่ได้มีเครื่องวัด พุทธคุณขององค์พระดีด้านใดนั้นเกิดจากคำบอกเล่าของผู้มีประสบการณ์จริงในอดีต โดยมีการเล่าถ่ายทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็เกิดจากเกจิอาจารย์ผู้สร้างพระด้วย นอกจากนี้แล้วยังเกิดจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาผสม ในที่สุดจึงกลายเป็นความเชื่อ อาจารย์รามได้ให้คำแนะนำไว้อย่างน่าคิดว่า "ขนาดเราลืมตาดูพระเรายังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพระเลย แล้วยิ่งหลับตาดูพระจะเชื่อได้อย่างไร มันพิสูจน์ไม่ได้เลยว่าผู้ที่จับพลังนั้นมีความสามารถจริงๆ ซึ่งต้องระวังด้วยว่า อาจจะมีการแอบอ้างขายพระก็ได้" </TD></TR></TBODY></TABLE> จาก http://www.komchadluek.net/column/pra/2004/08/19/01.php
จับได้จริงด้วยหรือ ว่างๆต้องเข้ากรุงเทพไปพิสูจน์ซะหน่อย คนมันอยากจะลองจะทำไงได้ หวังว่าอย่าเป็นเหมือนท่าน้ำวัดระฆัง
มันเป็นเรื่องของคนที่ดูพระไม่เป็นในสมัยก่อน และหาทางออกโดยวิธีการอื่นๆ หลายคนที่เล่นพระแบบนี้เข้าข่ายหมาหางด้วน จะให้คนอื่นเชื่อในแบบที่ตัวเองคิดว่า(หลง)ว่าทำได้ พระจะเก๊จะแท้อยู่ที่การเรียนรู้ศึกษา ไม่ใช่จับพลังเพ้อเจ้อ
การจับพลังพระเครื่อง เท่าที่เคยเจอร้อยละ99เก๊ทั้งนั้น แต่คนที่ฝึกนั่งสมาธิ อย่างเช่นที่วัดสะแก เหล่านี้เขาไม่ได้เอาวิชามาจับพลังพระ แต่พวกที่จับพลังพระ อย่างที่บอก เพื่อการพาณิชทั้งนั้น และที่หลงตัวเองก็มีอีกเยอะ คนที่เขาฝึกสมาธิได้จริงเขาไม่ได้เอาสมาธิมาปะปนกับการจับพลัง
<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">อ.ตาที่สามนี่ผมยอมรับว่ามีบารมีสัมผัสพลังวัตถุมงคลได้ชัดเจน การผิดพลาดโดยส่วนตัวคิดว่าเกิดจากพลังสะสมในตัวเองจากการสัมผัสติดต่อกันหลายองค์ความสามารถพิเศษเหล่านี้เป็นผลจากการปฏิบัติธรรมและบารมีเก่าเป็นปัจจัตตังครับ </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on"> </TD></TR></TBODY></TABLE>
พลังพระเครื่อง ผู้ที่ไม่รู้ก็จงไม่รู้อยู่ต่อไป ผู้ที่รู้แล้ว HA HA HA คิดเอาเองครับ(555) (555) (555) 555+5 คนโง่แล้วอวดฉลาดมีมากเหลือเกินครับ
เคยนำพระไปให้ อ อาชวิน ตรวจให้ มีพระหลวงปู่ชื้นวัดญาณเสน พลัง12เมตร เด่นด้านพุทธบารมี เมตามหานิยม โชคลาภค้าขาย พระสมเด็จรุ่นเก่าหลวงปู่ดู่ พลัง 9 เมตร เด่นด้านแค้วคลาด กันคุณไสย และสมเด็จวัดระฆัง (นอกพิมพ์นิยม) พลัง 7เมตร เด่นด้านแคล้วคลาด และพุทธบารมี โดยส่วนตัวก็เคารพทุกองค์แต่เท่าที่ดูข้อมูลที่อาจารย์ตรวจ ก็น่าจะจริงเพราะทั้ง 3 องค์นี้จะเด่นออกตามแนวของแต่ละท่านจริงๆ โดยเฉพาะพระรัตนจักรของหลวงปู่ชื้น คิดว่าตรงสุด ไม่มีเจตนาอะไรกะใคร มาร่วมแลกเปลี่ยนเฉยๆ ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=95519 ไม่รู้ว่าเมื่อวานเวปล่ม เพราะกระทู้นี้หรือเปล่า
การจับพุทธคุณนั้นอยู่ที่สมาธิของผู้จับเป็นสำคัญเลยครับ แต่เนื่องจากผู้ที่จับนั้นถ้ายังมีกิเลสอยู่มากนั้นทำให้จับได้ เพียงผิวเพินหรือไม่สามารถบอกได้ตรงตามความจริงเสียทีเดียว เพราะหลายคนมีอุปทานเจืออยู่มาก... สำหรับผู้ที่ได้สมาบัติแล้วนั้นเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องเด็กๆไปเลยครับ เพราะเคยถามพระผู้ปฏิบัติดีนั้นเพียงแค่ท่านสัมผัสดูก็รู้ว่าใครเป็นผู้สร้าง, สร้างเมื่อไหร่เสียด้วยซ้ำ หุ..หุ.. หากใครได้ไปกราบเกจิอาจารย์ที่ท่านสร้าง,เสก วัตถุมงคลก็ลองไปถาม ขอความรู้จากท่านเหล่านั้นดูสิครับ...ไม่แน่ท่านอาจได้วิชาความรู้กลับ บ้านบ้างก็ได้น้า...ใครจะรู้ ฮึ..ฮึ...
ครูอาจารย์ที่เก่งๆ เช่นหลวงปุ่ดู่ หลวงพ่อชา ท่านเล่นพระ ดูเนื้อหาทรงพิมพ์เป็นซะที่ไหน ท่านมองปร๊าด ดุออกว่าองค์ไหนแรงหรือไม่แรง ทั้งที่ท่านไม่เคยรู้จักผู้ที่เสกด้วยนั้นๆ ด้วยซ้ำ ท่านที่จิตเป็นทิพย์แล้วไม่ต้องสัมผัส แต่โน้มจิตที่องค์พระเบื้องหน้ากำหนดจิตเป็นผู้รับนิมิตให้เห็นรังสี และแยกรังสีได้ด้วยว่าดีทางไหน หมูมากสำหรับพระอริยเจ้าเหล่านี้ พวกฆราวาสที่ถือศีลเป็นนิจ นั่งกัมมัฏฐานเป็นประจำ ประกอบอาชีพด้วยสุจริตชน มึใจอยู่ในกุศลกรรมทั้ง 10 มิได้มีอาชีพในการขายพระกิน ทำได้เช่นกัน หากฝึกมานาน หรือมีความรู้เดิมแต่ปางก่อนเยอะ ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุงที่ได้มโนฯ มีถมไป ไอ้พวกที่ขายพระกินต่างหากที่จ้องแต่จะหลอกลวงตลบแตลง แหกตาราคาพระ ชักแม่น้ำทั้ง 5 มาหลอกล่อ ศีลข้อ 2 และ ข้อ 4 มีไม่มีในดวงจิต ไม่มีทางรู้หรอกว่า ความนิ่งแห่งจิต ความสงบแห่งอารมณ์ฌาณ เป็นเช่นใด คงได้แต่ทับถมคนอื่น หรือดูถูกวิชชาความสามารถทางจิตของผู้อื่น นับว่าเสียชาติเกิดโดยแท้ ไม่สมเลยที่เกิดเป็นชาวพุทธ ไม่มีโอกาสได้ก้าวถึงสติปัฏฐาน 4 ดูหน้าดูตาแล้วบ่งบอกการมักมากในกามารมณ์มากกว่า อย่าปรามาสผู้ที่ได้ฌาณสมาธิให้มากเข้าล่ะ ท่านหลวงพ่อพุธ ฐานิโยท่านว่า บาปหนานา หลายกัปป์หลายกัลป์นา กว่าจะหลุดพ้นมฤตยูบ่วงนี้ รู้ไม่จริง ก็ให้นิ่งไว้ แล้วเพียรปฏิบัติเผื่อโทษหนักจะเป็นเบา สิ่งที่เจออาจปลอม แต่สิ่งไม่ปลอมน๊ะมีอยู่จริงนา จะบอกให้.....จะมากรุงเทพมาตรวจพระ ให้ไปวันเสาร์ที่บ้านสายลมนั่นแหละ ถามว่าใครได้มโนฯ บ้าง ยื่นพระให้ดู ถ้าเขาตอบถูก อย่าลืมกราบเท้าหลวงพ่อฤาษีฯ และกราบเท้าหรือนำเท้าเขามาแตะที่กระหม่อมด้วยล่ะ จะได้เป็นมงคลกับชีวิตเสียที หรือไปหาคนที่เรียนกรรมฐานที่วัดปากน้ำก็ได้ เอาพวกที่ได้ธรรมกายเป็นหนุ่มๆ สาวๆ ก็ได้ ไม่ต้องถึงระดับแม่ชีหรอก หรือจะไปคณะ 5 วัดมหาธาตุก็ได้ ผลก็เสมอกัน อ้อ..เกือบลืมอีกประเด็นหนึ่ง การจับพลังพระนับว่าเป็นผลพลอยได้แห่งจิต เพราะผุ้จับจะรุ้จักการวางจิตหนักเบา เช่นเดียวกันกับการวางจิตพิจารณาลม หรือพิจารณากาย หากวางหนักไป ร่างกายเมื่อยล้า อึดอัด ต้องผ่อนคลาย พอลมดี จิตนิ่ง ปิติ สุข จะเกิด ปัสสัทธิแห่งจิตจะตามมา นับว่าเป้นอุบายธรรมในการวางจิตทางหนึ่งเช่นกัน
ถามว่า จับพลังพระ มีไหม ผมเชื่อว่ามี พระที่เก่งจริงๆไม่ใช่เก่งเพราะศิษย์เชียร์ ผมเชื่อว่าท่านจับพลังได้ แต่พวกมาอ้างว่าตนจับพลังได้ มันต้องพิสูจน์ เหมือนนายอาชวินที่โดนเอาพระเก๊ไปให้จับพลัง ผลเป็นไง 5555
อันนี้ข้อพูดจากประสบการณ์ส่วนตัว คือ ผมมีรูปพระแม่กวนอิม ซึ่งเป็นกระดาษ และมิได้ผ่านการปลุกเสก แต่อย่างใด แต่ผมนั้น กราบไหว้ สวดมนต์ เคารพบูชา ด้วยใจศรัทธาบริสุทธิ์ มีอยู่หลายครั้งที่ ผมสัมผัสได้ถึงกระแส ที่พระแม่ท่านเมตตาส่งออกมาจากรูปภาพของท่าน ทำให้เกิดสัมผัสในลักษณะที่ว่านี้ ขึ้นกับ รูปปั้น ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่าง ๆ บางครั้งพี่สาวผมนั่งสวดมนต์อยู่ด้านหลังของผม (ผมกำลังนั่งใช้คอมพิวเตอร์อยู่) ปรากฎว่า รู้สึกเหมือนมีพลังมาสัมผัสโดนที่ด้านหลัง พอหันไปมอง ก็รู้สึกว่า มีกระแสถ่ายทอดไป-มา ระหว่างตัวพี่สาวผม กับหิ้งพระที่บ้าน ซึ่งพอถามพี่สาว พี่สาวบอกว่า ตัวพี่สาวเองไม่รู้สึกอะไร อันนี้ก็เพียงแต่เล่าประสบการณ์สู่กันฟัง (b-deejai)
สนุกดีครับ จับพลังพระ วัดกันเป็นเมตร เมตร พระบางองค์สัมผัสแล้วขนลุกซู่เลย จากสันหลังถึงขนหัวลุก แถมลมยังพัดประกอบอีก อย่างนี้เรียกว่าอะไรดี จริงๆ แล้วดินธรรมดา น้ำธรรมดา ก็น่าจะมีพลังเยอะ ถ้าเพ่งลึกจริงๆ เพราะดินคือส่วนของพระแม่ธรณี และน้ำก็เป็นส่วนของพระแม่คงคา ครับ
ขอแสดงความคิดด้วยคน ๑ ถ้าไม่เชื่อว่าจับพลังพระได้ ก็ต้องไม่เชื่อ อภิญา ใส่พระเอาแค่นุสติ ระลึกพระพุทธก็พอ๒ ถ้าเชื่อว่าจับพลังพระได้ ต้องพยามจับให้ได้ด้วยตนเอง และต้องไม่มีอุปาทานหลอกด้วย ส่วนผมจับพลังพระได้โดยบังเอิน เวลาทำสมาธิตัวชอบสั่น เหมือนของขึ้น ต่อมาจึงรู้ นั้นเขาเรียกว่า การปลุกตัว ปลุกตัวมี๒แบบ ๑ เชื่อมั่นในสิ่งที่เราเคารพ จนขนลุกตัวสั่น ที่เรียกว่าของขึ้น ๒ การทำสมาธิ ได้แค่ระดับ ขะนิกะสมาธิ ก็เกิดการตัวสั่น คนโบราณใช้การปลุกตัว ต่อสู้กับสัตรู ได้เป็นนานๆแรงไม่หมด หนังเหนียวก็มี หลวงปู่ดู่บอกว่า แค่ทำขนลุก ขนฟองก็คงกระพันแล้ว มีดีอย่าอวดใคร่ไม่เชื่อช่างเขา ก็ไม่จำเป็นต้องให้ใครเชื่อ เห็นหลายรายแล้ว เซียนโดนไข้ โป้ง คาที่ พระแท้เต็มคอ การจับพลังพระของผม เวลาจับเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้จับเท่านั้น ไม่ต้องสวดคาถาใดๆ มือที่จับจะหมุนแล้วยกขึ้นสูงเหนือหัว บอกว่าพระเป็นของสูง แล้ววนใบหน้า วนท้อง หรือวนหัวแล้วแต่ นี้แค่จับพลังพระขั้นตน จับพลังพระขั้น๒ โดยหากลอ่งอะไรก็ได้เหมือนกัน ๒ อัน ใส่พระหนึ่งอัน อีกอันใส่ก้อนหิน อย่าให้จิตรู้ว่าพระอยู่อันไหน ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้จิตรู้พระอยู่อันไหน เอามือวางที่กล่องข้างละมือ แล้วตอบให้ถูกพระอยู่อันไหน เรียกว่า สดุดจิต ๓กล่องก็ได้๕กล่องก็ได้ ต้องตอบถูกโดยไม่ผิด แค่ยากบอกให้รู้ว่าพลังพระจับได้จริง แต่ไม่คิดจับอวดโชด์ใคร ครูอาจารย์ท่านห้าม ใดรไม่เชื่อช่างเขา มีไหมคนที่มีวิชาจริงๆ เขาตายโหง มีแต่แก่ตายกันทั้งนั้น พระมีพลังคุ้มครองได้จริง แม้นถึง ฆาตก็รอดได้ จะเช่าพระราคาเป็นแสนแล้วแต่ท่านอย่างน้อยขายออกได้วงการยอมรับ แต่จะมีพลังหรือไม่ สุดแต่ คิด ผมใช้พระหลวงพ่อเงิน๖รอบ ใส่คอประจำ เช่ามาแสนถูก 150บาท แผงแบกับดิน พลังสูงเกินคาด เมตราเป็นยอด อธิฐานเป็นได้ไม่ข้ามวัน จับพลังครั้งใด ทั้งหมุนทั้งสั่น