ถ้าภัยพิบัติมาถึง

วันนี้ลองแพ็คของ
แค่เสื้อกันหิมะห้าตัว ผ้าเช็ดตัวห้าผืน ก็เต็มกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แล้ว
ถ้าจะแพ้คอาหารให้กิน ๕๐ วัน และน้ำดื่มที่ปลอดภัยอีกเล่า ใส่เป้หลังไม่หมดหรอก
อากาศมีฝุ่นรังสี สูดหรือโดนก็ตาย น้ำในหนองเป็นพิษ กินก็ตาย มีกินไม่พอก็ตาย หอบของบ้าพะรุพะรังใส่รถไป น้ำมันหมดขนของใส่หลังไปได้นิดเดียว จะเดินไปได้เท่าไหร่กันชาวออฟฟิซ
ลองไปคุยกับหลวงพ่อได้แล้ว ลองหอบสมบัติไปฝากหลวงพ่อไว้บ้างดีไหม เอาที่จำเป็นนะ จำเป็นจริงๆ ขอให้ท่านมีปัญญาเลือกให้เป็นเทอญ
ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นไป ชีวิตไม่ดิ้นก็สิ้นใจ

..If the world would stops revolving and spinning slowlydown to die.
I'd share the end with you.
And when the world was thru,
And one by one the star would all go out.
Then you and I would simply fly away.
(Bread)
เป็นเพลงที่ทำนองเพราะมาก ฟังตอนนี้แล้วเยือกเพราะไม่รู้จะตกภพภูมิไหน
ดิ้นไปก่อนดีกว่านะ อย่างน้อยก็ได้สร้างกุศลนานขึ้นอีกนิดนึง

 

-------------------------------------------------------------
เห็นด้วยค่ะ อย่างยิ่ง

- มีพ่อหลวง
- ประเทศไทยเป็นพุทธบูชา
- มีพระอริยสงฆ์เจ้า
- และได้รับการพยากรณ์ว่าจะดำรงพระพุทธศาสนาอยู่จนครบตลอดพุทธกาล


แต่ถึงแม้จะเชื่อและยึดถือตามนี้ด้วยความตั้งมั่น เพื่อความไม่ประมาท
ก็จะรักษาศีล และมั่นภาวนา และจะขยันทำทานให้มากๆๆค่ะ

 

อาจารย์ หายไปไหนแล้วครับ เงียบไปนาน มีข่าวสารใหม่ๆก็บอกกันบ้างนะครับ
ฝากความระลึกถึงไปให้ครับ

(ping)

 

อาจารย์ไปเข้ากรรมฐาน 7 วันครับ...วันนี้วันสุดท้าย

 

วันนี้อ.สุธาทิพได้ออกจากกรรมฐาน และได้เดินทางไปที่ปรียนันท์ธรรมสถาน รวมทั้งที่วัดท่าซุงและวัดสังกัสเพื่อดูสถานที่จัดงานครับ

แว่วๆมาว่า อ.ได้พอทราบเรื่องในอดีตกาลที่เกี่ยวข้องกัน ทำให้มาพบเจอกันสร้างบารมีร่วมกันในปัจจุบันนี้แล้วครับ ขอโมทนาสาธุด้วยเพื่อที่กำลังใจในการทำความดีจะได้เต็ม ในการทำคุณประโยชน์ให้กับส่วนรวมครับ

 

ไปเจริญกรรมฐานที่วัดอัมพวัน ๗ วันค่ะ เอาบุญมาฝาก แต่วันหลังๆจิตไม่ค่อยนิ่ง เรื่องทางโลกและภัยพิบัติมันคืบคลานเข้ามาให้ฟุ้ง

เพิ่งสอนเดินนะคะ อย่าเข้าใจผิด ขอบารมีหลวงพ่อจรัญเป็นที่ตั้ง บุญน้อยท่านเทศน์ให้ศีลเรากินยาแก้แพ้ไปเลยหลับ (อ้างกับคนข้างๆว่าเข้าฌานฟัง)

วันออกศีลไปปรียานันท์ธรรมสถานมาให้ที่บ้านเอาถังน้ำมาให้อีกใบ คนขับรถเก็บใบไม้ใหญ่เอากลับบ้านจะมาจิ้มน้ำพริก เขาบอกให้เอาข้าวเหนียวมาหุงทำเป็นแผ่นตากแห้ง อมในปากก็กินได้เลย วิธีอีสานโบราณ เดี๋ยวไปหัดทำก่อนแล้วจะมาบอกตำรานะคะ

เพิ่งรุ้ว่ามี แฟนคลับ แล้ว ขอเคลียงานทางโลกก่อนเดี๋ยววันสองวันมาโพสต์ใหม่ค่ะ

แนะนำให้ทุกคนเดินจงกรมวันละครึ่งชม. สมาธิครึ่งชม. หัดอดข้าวเย็นกินแต่นมถั่วเหลืองหลังเที่ยง ขวดเดียวพอ ๗ วันน้ำหนักหายไปหนึ่งกก ค่ะ ถ้าวันแรกๆไม่ซื้อขนมอาจผอมได้มากกว่านี้ เวลาภัยมาถ้ากินแค่สองมื้อชีวิตมันง่ายเข้าแยะค่ะ

ไม่ได้บอกให้ถือศีลแปดนะคะเดี่ยวคู่ใครเขาทิ้งหมดแล้วจะมาว่าดิฉัน

 

[b-wai]

สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนาบุญค่ะอาจารย์ sutatip_b<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_737005", true); </SCRIPT>
สถานธรรมมีคนดี มีคนมีบุญบารมี ที่มาช่วยกัน
ทำช่วยกันสร้าง ด้วยแรงใจแรงศรัทธา และสายสัญญา
ต่อไปจะเป็นที่ให้ ทั้งร่มเงา ความสุขสงบ ทางโลกและทางธรรม
แก่พุทธบุตร และญาติธรรมทั้งหลาย

อนุโมทนา สาธุ

 

อนุโมทนา สาธุ กับการถือศีล ครับ พี่ไก่
หลังจากออกมาแล้วคงมีโอกาสอีกครั้งตอนที่อยู่ในห้องหลบภัย
ตอนนั้นของจริงต้องวัดกันว่าใครจะทนได้แค่ไหน อิอิ

 

สองอาทิตย์ก่อนไปวัดเพื่อนให้คาถามาท่องบทหนึ่ง อาจารย์เพื่อนบอกว่าอยากดูว่าใครท่องแล้วอะไรผุดขึ้นมา

เพื่อนท่องแล้วได้คำว่ามายา อะไรๆในโลกก็ไม่เที่ยงไม่มีตัวตนที่แท้จริง
ตัวเองท่องไปท่องมา ได้คำว่าวิกิจฉา ในลักษณะที่ว่าให้เลิกสงสัย

หลังจากนั้นก็มาเจอพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

เจอกันได้รวมแล้วยังไม่ถึงสองอาทิตย์เลย ลงไปทำงานกับเขาเหมือนรู้จักกันมาสักยี่สิบปี แล้วทุกคนก็ต้อนรับดีมากด้วย ยอมทนกับยายปรูดปร๊าดคนนี้

ฮ่าฮ่า สมัยเรียนหนังสือเป็นเจ้าแม่ร้อยสิบ (อาคารอรชร รร. เตรียม) เจ้าแม่วิดยามหิดล (คุณเทพรู้จักดี) ตอนงานสึนามิฝรั่งเรียก Dr. Wellyboot (มันคือรองเท้าบู๊ตยาง) และ tsunamisue

เรื่องภัยพิบัตินี้ต้องใช้ thin slicing ถ้าใครอ่านหนังสือฝรั่งเรื่อง Blink (ไปดูได้ที่เอเชียบุ๊ค) เขาจะอธิบายว่าคนส่วนใหญ่ใช้ปัญญาจากสมอง ต้องมีเอกสารยืนยัน เพราะเรียนกันมาอย่างนี้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทย) คำว่า thin slicing คงเป็นการใช้สติแบบมหาสติปัฏฐานสี่ แต่ต้องฝึกที่จะเชื่อและมั่นใจกับการผุดรู้นั้นๆ

ฝรั่งมีคำว่า "gut feeling" ดิฉันบอกว่า "พุงบอก " เจอกันกับอาจารย์คลิก อ.คลิกบอกว่า "พุงบอกก็ดีแล้วนี่ จิตมันอยู่ที่พุง

ไปที่ปรียานันท์ธรรมสถาน ขึ้นไปบนเขา อ. คลิกถามว่าพุงว่าไง พุงดิฉัน happy ตอนจะลงพุงบอกว่าให้สร้างเจดีย์โปร่งๆแบบโบโรบุดัวในอินโดนีเซีย มีพระบรมสารีริกธาตุตรงกลาง มีพระหินทรายแบบทวาราวดีอยู่หน้าเจดีย์

ไปกรรมฐานพุงบอกว่า ในอดีตดิฉันก็เคยสั่งการอยู่ฉอดๆแถวนี้แหละ วันไปปรียานันท์ธรรมสถานสามีอยู่ๆก็บอกว่าให้สร้างสถานปฏิบัติธรรมทรงกลม จะได้มีเจดีย์บนยอด แล้วฝรั่งมาบอกให้สร้างเจดีย์ ?!?

คุณคณานันท์ยิ้มน้อยๆ บอกว่าดิฉันเพิ่งตื่น

ตัวเองไม่เคยเห็นอะไรเลย ไร้นิมิต ไร้อภิญญา ใช้ปัญญาแล้วหมดนี่ไม่ค่อยเม๊คเซ้นซ์ โลกจะแตก สถานปฏิบัติธรรม สันนิบาตพุทธภูมิที่รับมาทำโดยเอาใจออกวาง คนพลังจิตพิชิตภัยพิบัติที่รับเราเหมือนรู้จักกันมายี่สิบปีในสองวัน แต่ถ้าใช้พุงหรือจิตผุดรู้ ก็จะทุ่มให้หมดใจ เพราะตอนนี้พุงเห็นมณฑปวัดสังกัสแล้วพุงบอกอยากกลับบ้าน มีความรู้สึกว่าอะไรๆที่เรียนรู้มาในภพนี้เป็น blind lesson เตรียมสำหรับงานภัยพิบัตินี้ หมดงานนี้ก็จะขอ early retirement แล้วเพราะขอไว้ตั้งแต่ก่อนเจอกัน

ที่พูดมาไม่ได้แอบอ้างอะไร แต่คุณสนั่นถามเมื่อวันอาทิตย์ที่สวนลุมว่า "อ.บอกหน่อยครับมันจะแย่กว่าสึนามิไหม" ดิฉันบอกได้คำเดียวว่า "ร้อยเท่าพันทวี"

สึนามิเละหมด แต่ข้างนอกส่งของ น้ำ อาหาร ไฟฟ้า ฯลฯ เข้าไปได้ ถ้าภัยพิบัตินี้เกิดจริง น้ำก็มีรังสีนิวเคลียร์ ต้นไม้ก็สังเคราะห์แสงไม่ได้ ประมาณว่าฝุ่นภูเขาไฟ ๔๙ วันน่ะเป็นไปได้

จำได้ไหมตอนต้มยำกุ้งทุกคนถอนเงินจากไฟแน้นซ์แต่เงินสดไม่พอถอน ถ้าสิ้นปีเกิดสงครามทุกคนวิ่งตุนข้าวสาร คุณคิดว่าจะซื้อได้คนละกี่กระสอบ จะเติมน้ำมันรถได้ไหม

ใครดู War of the world หรือยังคะ ที่เขาทุบรถ Tom Cruise แล้วฆ่ากันเองแย่งรถน่ะ ของเราคนมีนิมิตเห็นคนฆ่ากันแย่งทีนั่งบนรถเมล์

ตายเร็วไม่กลัว กลัวตายช้าๆ แล้วเสียใจที่ไม่ได้เตรียมทั้งที่มีคนบอกด้วยความหวังดีน่ะซิ

พุงไม่แฮปปี้แล้ว พุงเขาเศร้าใจค่ะไม่อยากให้เกิดเหตุ อย่าไปทุกข์กับอนาคตให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

วันนี้คณะภัยพิบัติเขาจะสร้างสถานปฏิบัติธรรมที่หลบภัยธรรมชาติ-สงครามได้ด้วย พุงขออนุโมทนาบุญกับคณะพิชิตภัยพิบัติ และชาวพลังจิตที่เป็นสัมมาทิษฐิทุกท่าน

ถ้าไม่มีเว็ปนี้ก็คงไม่ได้พบพา ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไป (ตาย)

อนุโมทนากองทัพบกสหรัฐที่เริ่มทำ arpanet ที่กลายเป็นอินเตอร์เน็ตด้วยค่ะ ทำให้เราติดต่อกันง่าย ทั้งที่เขานั่นแหละอาจเป็นชนวนจุดสงคราม

วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ

ไปงานบวงสรวงพระปางเปิดโลก เสาร์ ๒๗ ตุลา ๕๐ กันนะคะ ไปอธิษฐานจิตร่วมกัน เผื่อจะยืดอะไรๆไปได้บ้าง ทางหลวงสายเอเชียไปนครสวรรค์ เลยแยกเข้าอุทัยไปสัก ๕๐๐ เมตรทางขวามือ มีป้ายค่ะจะติดสุดสัปดาห์นี้

 

ตลอดเวลาที่มีคนแอด หรือ แอดเพื่อนห้องเอ็มผมก็จะเล่า เรื่องภัยธรรมชาติ ให้เพื่อนใหม่ๆทราบ ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 50เป็นต้นมา


การที่หลายคนตื่น นับว่าเป็นเรื่องน่าแปลก
และการที่หลายคนกว่านั้นยังไม่ตื่นก็เป็นเรื่องน่าแปลก
แต่ละวันที่ได้คุยกับเพื่อนๆใหม่ที่แอดกันในห้องเอ็ม ก็จะเจอเพื่อนๆที่ไม่ตื่นซะส่วนใหญ่ มองเรื่องภัยพิบัติเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ต้องไปเตรียมอะไร ปล่อยไปตามธรรมชาติ และก็ยังบอกว่ากลุ่มพวกเราเป็น พวกบ้า
กรรมของมนุษย์ เราไม่มีทางไปบอกเขาให้เชื่อหรอก
ดังนั้นคนที่ไม่เชื่อยังคงต้องมีจำนวนมากเหมือนเดิม
นี่ขนาดว่าคุยกันเล่นๆไม่ได้เล่าอะไรลึกๆก็ยังโดนด่า
อุเบกขาธรรมคงจะถึงเวลาที่พวกเราต้องใช้ อย่างที่ควรจะทำ
ไม่บอก ไม่พูด เรื่องนี้ ถ้าท่านไม่ถาม อะไรอย่างนั้น

 

ผมจะบอกเฉพาะผู้ปฏิบัติธรรมสมาธิ เพราะคิดว่าเขาจะยอมรับฟังว่า อาจจะเกิดเหตุภัยพิบัติในอนาคตอันใกล้นี้ ผมบอกเขาว่า กลุ่มพลังจิต นี้ได้เตรียมหลายอย่างแล้ว ถ้าเขาสงสัยอาจจะไปถามครูอาจารย์ของเขา ตอนสังคมเราแตกแยกทางความคิดมาก และแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองมาก จนไม่สนใจเรื่องทางธรรมะ การไปบอกเรื่องนี้กับเขา มันจึงอาจจะกลายเรื่องเหลือเชื่อสำหรับพวกเขา เราเองจะกลายเป็นพวกแปลกประหลาด

 

*** ลองพิจารณา...ความจริงในธรรมชาติ ****

จิตวิญญาณของเรา...มีตัวตน ไม่ตาย ไม่สูญสลาย
สิ่งที่เราทำได้จริง....ก็มีตัวตน ไม่ตาย ไม่สูญสลาย...ส่งผลย้อนกลับมาเป็นกรรม
การกระทำดีที่ทำได้....ก็ไม่ตาย ไม่สูญสลาย มีตัวตน...เป็นบารมี ติดตัวเราไปตลอดกาล
ผลการกระทำ... ก็ไม่ตาย ไม่สูญสลาย....พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เรียกว่า "ตัวกระทำ"

รูปสังขาร บนโลก...มีก่อเกิด มีผุผัง มีเปลี่ยนแปลง
แต่....ก็ไม่สลายไปจากโลก...เป็นละอองธาตุต่างๆ

การกำเนิดทุกสิ่ง
เป็นผลมาจาก "ตัวกระทำ" จัดสรร
การเกิดของเราในชาตินี้...เป็นใคร เป็นอะไร เพศอะไร สมบูรณ์หรือไม่ อยู่ในครอบครัวใด มีพ่อแม่เป็นอย่างไร อยู่ในถิ่นฐานแห่งใด ความเป็นอยู่เรื่องปากท้องเป็นอย่างไร
ทั้งหมด...ล้วนเป็นการจัดสรรจาก "ตัวกระทำ" ของตัวเราเอง

การเกิดใหม่...ในแต่ละครั้ง แต่ละชาติ
จึงเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่
.......หาก... " เกิดเป็นสัตว์ หรือ ต้นไม้ " ....ก็คือ การชดใช้กรรม
ต้องยอมรับ...ผลการกระทำที่เคยทำมาในอดีต
.......หาก.... "เกิดเป็นมนุษย์"...คือ โชคดีที่สุด
สามารถเลือกทางเดินตัวเองได้...ว่าจะทำดี ทำในสิ่งไม่ดี....ทำบุญทำกุศลได้
แต่ สิ่งสำคัญ....ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ....คือ " นิสัยสันดาน "

"นิสัยสันดาน" ...ส่งผลให้เกิด.... การกระทำแบบเดิมๆ
ผลการกระทำ...จึงซ้ำๆ เหมือนเดิม เหมือนในชาติก่อน ๆ
กรรม...จึงเป็นเป็นแบบเดิมๆ....วนเวียนซ้ำๆ อยู่บนโลกแห่งนี้

หาก...ปรารถนาที่จะพ้นทุกข์อย่างแท้จริง
คือ...การไม่กลับมาเกิดใหม่
คือ....การหลุดพ้น
หลุดพ้นไปจากโลก
หลุดพ้นสู่นิพพาน...ที่มีอยู่จริงในธรรมชาติ

การจะหลุดพ้นได้...เราจึงต้อง.... "ขจัดกิเลศนิสัย" ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ
การจะทำให้หมดไปได้...ต้องฝึกตนเอง
"นิสัยขี้โมโห"...จะหมดไปได้จริง
เราจะต้อง.... "ฝึก ไม่โกรธ ไม่โมโห" ...ทุกๆ วัน
เราฝึกตนเองทุกวัน...นิสัย อารมณ์โกรธโมโห จะลดลง เหลือน้อยลง
พอรู้ตัว ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
จนในที่สุด...นิสัย อารมณ์โกรธโมโห....จะหมดไปจากจิตใจเราเอง
ในช่วงเวลาที่...ตัวเรา ไม่มีอารมณ์โกรธโมโห...การกระทำของเราก็จะดีขึ้น

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์....จึงสอนให้ ตั้งใจทำความดี
ตั้งใจละเว้นความชั่ว...ตั้งใจทำจิตใจอารมณ์ไม่ขุ่นมัว
ด้วย "สัจจะ"
โดยกำหนด ..."สัจจะเป็นหัวข้อปฏิบัติ" ให้กับตนเองทุกวัน

เมื่อ...เราอยู่ในความสงบ ทำ "สติว่าง"
เราพิจารณาตนเอง...เราจะรู้ว่านิสัยไม่ดีของตัวเรา คืออะไร
แล้วเราจึงนำมากำหนดเป็น "สัจจะหัวข้อปฏิบัติของตนเอง"

ฝึกทุกวัน...กิเลส นิสัย จะหมดไปได้จริง
เราต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง
เราจึงจะพบว่า...สิ่งที่กล่าวมา คือ ความจริง
คือ "สัจจะธรรม"
ผลการกระทำที่ทำได้ จะเป็นบารมีติดตัวเราไป
....... ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน .......
สิ่งนี้คือ................หลักสัจจะธรรม................

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

​

ที่พุงหรือศูนย์กลางกายของคนเรา มีพระธรรมกายอยู่แล้วด้วยกันทุกๆ คนครับ อาจารย์สุธาทิพย์เป็นผู้ที่มีจิตใจสะอาดผ่องใส จึงสามารถสัมผัส และสื่อสารกับพระธรรมกายในตัวเองได้ครับ

 

ขอบคุณคุณหนุมานผู้นำสารและคุณเกษมค่ะ คุณหนุมานเขียนยาวกว่าปรกติ เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณคุณเกษมที่อธิบายเรื่องพุงค่ะ

ขอคารวะท่านพี่ตั้มศักดิ์ ล่วงเกินไป โปรดไว้ชีวิตด้วย ท่านพี่อยู่ร้อยสิบพศ. ไหน ท่านน้องอยู่ปี ๒๕๒๓ จ้า

 

ซ้อมรบ ด้วยสึนามิ

ลองดูรูปนะคะ 28 ธค 04 รถจากภูเก็ตไปตะกั่วป่า ติดเป็นแพ ใช้เวลาเดินทาง 5 ชม ถ่ายจากรถขาล่องไปภูเก็ต

รูปถัดมาคือ 29 ธค 04 ดุเอาก้แล้วกันว่าใคร happy ใคร care และ concern สั่งงานให้เราเป็นแม่งาน แต่แม่งานไม่เคยได้ออกทีวี ก็เลยไม่ดังไง ฮิฮิ

 

30 ธค นำฝรั่งประชุมที่ภูเก็ต พาฝรั่งขึ้น ฮ. มาดูสถานการณ์ที่พังงา คนขวาเป็น ศ. ทางforensic anthropology แปลว่านิติเวชศพโบราณ อาทิ มัมมี่ ค่ะ มาจากเนเธอร์แลนด์ ดิฉันเรียกพ่อจอร์จ คนซ้ายวันนี้จำชื่อไม่ได้ พูดน้อยลุยท่าเดียว เจอคุณสนั่นคงชอบใจ

 

31 ธค คืนก่อนคุณหญิงหน่อยจะให้ย้ายไปจัดการศพวัดอื่น จัดการคือบงการให้เอาศพเข้าคอนเทนเนอร์ ฯลฯ แต่มหาดไทยบอกว่าดิฉันเป็นแค่อาสาสมัคร ไม่มีเทียบเชิญห้ามทำ วันที่ 31 จึงไปลาวัดอีกสองวัดเพื่อกลับบ้าน และถ่ายรูปกับผู้ร่วมงานเพื่อบอกลา

ให้ดูจำนวนศพที่มหาดไทยอยากเป็นเจ้าภาพนอนบนสนามบาส คอนเทนเนอรืเสีบไฟเย็นฉ่ำแต่ไม่มีใครสั่งทหารเกณฑ์ย้ายศพ เพราะคนละกระทรวงกัน

ให้ดูเครื่องแต่งกายผู้ปฏิบัติงานพร้อมหน้ากาก ไม่รู้เขาเอามาจากไหน ใครรู้วิธีย่อภาพบอกด้วย

รูปซ้ายบนคนเสื้อเหลืองชื่อคุณสนิท เป็นมือขวาดิฉัน ตัวเป็นเจ่าของอินน์เล็กๆอยู่สาทร อีกสองคนเป็นตัวเป้งสุดของ disaster victim identification จากออสเตรเลีย เขาบอกว่าใครก่อปัญหาให้ดิฉันให้มาบอกเดี๋ยวจัดการให้ รูปกลางไม่รู้ชื่อ แต่แกเท่ยังกะนักบิน ข้างในเขาจะสวม กกน. ตัวเดียวเพราะมันร้อน ตอนเที่ยง ต้องปลดซิปบนเสื้อลงมาล้างมือกินข้าว แหม อยากหาให้คุณหนั่นกับคุณคลิกสักตัว

ขวาบนคือศพที่วัดลำแก่น เมื่อ 28 ธค มี 700 วันนี้ 31 ธค มี 1300 ค่ะ ขอให้โมทนาบุญของข้าพเจ้าและจงมีความสุข

ล่างซ้ายคือมร. ซิลวานัส มือซ้ายจ้าวคอนเทนเนอร์ แกไปปีนคอนเทนเนอร์สั่งเหยงๆว่าตัวไหนลงตรงไหน คอนเทนเนอร์ติดแอร์ตัวหนึ่งหนักสี่สิบตันมั้ง นิติเวชไทยสั่งคอนเทนเนอร์แต่ไม่สั่งเครน พวกไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างดิฉันก็ต้องรับใช้ ถึงบอกว่าแค่งานสโมสรสันนิบาตฯ แค่นี้ "เราทำได้"

ล่างขวาคือ"หม่อม"คิดว่าจากรพ.พระมงกุฏ ดูหน้ากากหม่อมแล้วอยากได้ให้คุณหนั่น (อีกแล้ว) สักอัน ตอนเอาขยะไปทิ้งข้างนอกไงคะ