WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ต้องขออภัย catt26

ช่วงนี้ อาจจะ อัฟเดทข่าวสาร ได้ไม่ทันใจ ทุกท่าน เพราะงานยุ่งจริง ๆ

แต่ทุกท่าน ติดตามอ่านข่าว จากทาง เพจเฟสบุ๊ค ของ Warroom Falkman ได้อีกหนึ่งช่องทางนะจ้ะ

คลิกเลยที่นี่ --> War Room Falkman | Facebook

 

siamblogza: 300 ปียูเอฟโอในเบลเยี่ยม

 

ไฟป่าออสเตรเลียยังลามหนักคุมไม่อยู่ จนท.ระบุสภาพการณ์เข้าขั้น "หายนะ"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มกราคม 2556 17:58 น.

เอเอฟพี - ไฟป่าลุกลามมากกว่า 130 จุดทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์จนไม่สามารถควบคุมได้ วันนี้ (8) ขณะที่สภาพอากาศร้อนจัด และกระแสลมแรงทำให้สถานการณ์ครั้งนี้เข้าขั้น "หายนะ" ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อบ้านเรือนจำนวนมาก และจำเป็นต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

เชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงกล่าวกับผู้สื่อข่าวในนครซิดนีย์ว่า ไฟป่ามากกว่า 130 จุดโหมลุกลามไปทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยในจำนวนนั้น 40 จุดยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้

"คุณจะไม่เห็นสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ เรากำลังอยู่ในขั้นหายนะแล้ว" เขาระบุ

หลังเกิดไฟป่าแบล็ก แซตเทอร์เดย์ ในรัฐวิกตอเรีย เมื่อปี 2009 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปร่วม 173 ราย ระดับหายนะหมายถึงไฟป่าที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ และลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยการอพยพเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยเพียงอย่างเดียว

รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นที่สุด กำลังเผชิญวิกฤตไฟไหม้ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย ซึ่งโหมกระหน่ำด้วยกระแสลมรุนแรง และอุณหภูมิที่พุ่งถึง 45 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ของรัฐ

ฟิตซ์ซิมมอนส์เสริมว่า โชคดีที่ยังไม่มีรายงานบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากไฟป่าในขณะนี้ รวมถึงไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ทว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเตือนภัย โดยเฉพาะในเขตโชลฮาเวน อิลลาวาร์รา และเซาเทิร์น เรนเจส ทางใต้ของซิดนีย์ ซึ่งล้วนเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมในฤดูร้อน

ด้าน โจแอนนา แกช นายกเทศมนตรีเมืองโชลฮาเวนกล่าวว่า สถานการณ์ของเมืองไม่ค่อยดีนัก และอาจเลวร้ายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

พื้นที่หลายส่วนทางใต้ของออสเตรเลียกำลังเจอคลื่นความร้อน ในช่วงซัมเมอร์ โดยอุณหภูมิในซิดนีย์สูงสุดแตะ 42 องศา ขณะที่ฝั่งตะวันตกของรัฐพุ่งถึง 45 องศา และคาดว่าอุณหภูมิยังจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการไฟป่ารุนแรงในรัฐวิกตอเรีย โดยจุดหนึ่งในเมืองเคนต์บรูค ทางตะวันตกเฉียงใต้ ต้องใช้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 400 นาย และใช้เครื่องบินกว่า 10 ลำ ในการฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง

ส่วนรัฐแทสเมเนีย ไฟป่าได้เผาผลาญบ้านเรือนไปกว่า 100 หลังเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังมีรายงานการไฟป่าลุกลามอยู่อีก 40 จุดทั่วรัฐ ซึ่งเชื่อว่าระดับที่เป็นอันตรายต่อบ้านเรือนนั้นผ่านพ้นไปแล้ว เจ้าหน้าที่ยังคงลงพื้นที่ตรวจค้นทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย โดยยังไม่พบผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

 

จีนหนาวจัด ปลาแข็งตายกลายเป็นน้ำแข็ง

9 ม.ค. 56 14.17 น. |



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่า เกิดเหตุอุณหภูมิหนาวจัดในเมืองซีอาน ในมณฑลชานซี ประเทศจีน ทำให้แม่น้ำหลายสายมีอุณหภูมิหนาวจัด และทำให้ปลาจำนวนหลายร้อยตัวแข็งตาย

โดยปรากฎภาพสายน้ำบางแห่งเหือดและกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งหลังจากมีการก่อสร้างถนน ทำให้เห็นปลาแข็งตายในสภาพต้องเผชิญอุณหภูมิหนาวจัดจนถึงจุดเยือกแข็ง และผู้คนสามารถจับมากินได้ ซึ่งถือเป็นภาพที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับภาพที่ผู้คนต้องลงทุนตกปลาเพื่อนำมาเป็นอาหารเย็น

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นเต้นให้แก่ชาวเมืองนี้เป็นอย่างมาก และเพราะพวกเขาสามารถเก็บปลาในสภาพแข็งตายจากสายน้ำที่แข็งเป็นน้ำแข็งได้ฟรี ๆ

จีนหนาวจัด ปลาแข็งตายกลายเป็นน้ำแข็ง

 

สวัสดีครับ ผมยอมรับว่า มีคนบ้าชอบทำนายไปทั่ว อ้างโน่นอ้างนี่ แต่ไม่มีสิ่งที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของคนบ้ามาค้ำประกันคำที่ตัวเองประกาศทำนายออกไปสร้างให้คนอื่นเชื่อจนถึงขั้นเสียทรัพย์ และผมก็ยอมรับอีกอย่างว่า มีพวกแสวงหาผลประโยชน์แอบแฝง โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมาก อาศัยคนบ้าสร้างกระแส

 

จากประเด็น การกล่าวหากัน ในสิ่งที่ได้เคยเสนอข่าวสารไว้ในห้วงอดีตนั้น
ทำไมไม่ออกมาท้วง มาแย้งกันในตอนนั้นเลย พอผลลัพธ์ออกมาเป็นอีกอย่าง
ก็ออกมากล่าวหากันไปมาไม่มีที่สิ้นสุด อ่านแล้วล่ะเบื่อหน่ายจริงๆ

...ก็ปล่อยไปเหอะครับ พูดเพื่อหวังให้เขาสำนึกได้นั้นคงจะมีไม่
กรรมใครก่อก็รับไป อย่าเอาตัวเราไปกระทบกรรมของใครเลยครับ...

...ก็อยากให้เพื่อนๆก้าวเดินต่อไปข้างหน้า เพราะอดีตนั้นเราก็รับรู้รับทราบพอๆกันอยู่แล้ว
จึงไม่มีประโยชน์ที่จะออกมากล่าวหาอะไรกันอีก สู้นำสิ่งที่ดีกว่ามาเสนอให้รับรู้กันดีกว่าครับ
ส่วนการตัดสินใจนั้น ขึ้นกับสติปัญญาของตัวท่านเองทั้งนั้น...

"เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ" (เซื่อ = เชื่อ, เฮ็ด = ทำ)

...แล้วท่านอยากเป็นคนประเภทไหนล่ะ ระหว่าง

- คนโง่
- คนฉลาด
- คนเจ้าปัญญา

อุปนิสัยของคนโง่นั้น ก็ต้องเคยประพฤติปฏิบัติมาบ้างแหล่ะ โง่ย่อมมาก่อนฉลาด
อุปนิสัยของคนฉลาด ทำแล้วเพื่อนๆ มักไม่กล้าคบหากันอย่างจริงใจ ฉลาดมี ปัญญาเกิด

อุปนิสัยของคนเจ้าปัญญา คือ

ไม่กล่าวหาใคร
ด้วยแท้จริงไม่มีใครอยากผิด
แต่พลาดไป เพราะไม่เห็นความผิด
หรือเห็น แต่ไม่มีโอกาสเลือกสิ่งที่ถูก
หรือมีโอกาส แต่ไม่มีกำลังพอที่จะตัดสินใจเลือก
เขาจึงให้กำลังใจทุกคนสู่ความแกล้วกล้า
ทุกคนจึงเป็นหนี้บุญคุณเขา และยอมรับเขาดั่งมิตรผู้ประเสริฐ

เอาธุรกิจเป็นธารณะ
จัดระบบเกื้อกูลมหาชน
เมื่อเกื้อกูลแล้วก็เก็บเกี่ยวเพื่อการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่
เมื่อโลกเปลี่ยนความต้องการก็เปลี่ยนการเกื้อกูล
เมื่อโลกหยุดต้องการก็หยุดเกื้อกูล
แต่เนื่องจากโลกไม่เคยสิ้นสุดในความต้องการ
เขาจึงมีงานธุรกิจเสมอตราบที่เขาประสงค์เกื้อกูล

เอาสันโดษเป็นมาตรการปล่อยวาง
จึงได้บุญมากและสำเร็จได้ด้วยบุญฤทธิ์

บริโภคคุณค่าแห่งทรัพย์
เป็นสุขกับการสร้าง รักษา สละ
และพัฒนาค่าของทรัพย์เป็นคุณสมบัติอื่นที่ยิ่งกว่า

ยึดประโยชน์สุขสำหรับทุกฝ่ายในทุกกาลเวลาเป็นสำคัญ
เขาจึงได้รับศรัทธาและมหามิตรเป็นกำนัล

อาสาสละ
เขาจึงเอาชนะใจคนทั้งหลาย
ได้รับความรักและความนับถือเป็นผลตอบแทน

ไม่เอาแต่ใจตนเอง ไม่เอาใจคนอื่น
เพราะรู้ชัดว่าคือกิเลสหรือตัณหาทั้งคู่
แต่เอาสัจจะที่ก่อให้เกิดประโยชน์สุขแท้ สำหรับทุกฝ่ายเป็นที่ตั้ง
จึงได้รับคุณค่าเป็นผล และได้รับความสุขสบายเป็นรางวัล

บ้าความสงบ
จึงพบสติเต็มตื่นรู้อยู่
เป็นหลักให้ตนและคนอื่นได้

มั่นใจตน แต่ไม่นิยมแสดงตัว
ไม่ยกตนและไม่ถ่อมตัว แต่บริหารสัมพันธภาพเพียงเพื่อผล
วางตนและสำแดงบทบาทตามหน้าที่
เขาจึงได้รับความเคารพและความเชื่อถือเป็นรางวัล

ชวนทุกคนที่เกี่ยวข้อง ร่วมพันธสัญญา
จึงได้พลังร่วมของส่วนรวม
ที่จะขับเคลื่อนภารกิจไปสู่ความสำเร็จ

มองทั้งความดีและความชั่วในตัวทุกคน
พยายามควบคุมโทษแม้เล็กน้อยที่อาจเกิดระหว่างกัน
แล้วหยิบยื่นคุณค่าให้เพื่อการพัฒนาร่วมกัน
ปฏิสัมพันธ์ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
จึงได้รับความเจริญและความอบอุ่น อันยั่งยืนเป็นของกำนัล

จัดระบบการรับและการให้ ให้สมดุลกัน
โดยคุณค่าแห่งความแตกต่าง
จึงพอดีและเป็นที่พอใจ

ชอบบริหารประโยชน์สุขทุกฝ่าย
จึงเป็นสุขใจ ได้ความรัก ความศรัทธา
และสถาปนาระบบประโยชน์อันยั่งยืน

ยกระดับผู้มีบุญคุณให้สูงส่งขึ้น
จึงทดแทนบุญคุณกับได้หมด
ผู้มีพระคุณกลายเป็นหนี้บุญคุณ
และพร้อมที่จะให้พระคุณทียิ่งกว่า
เกิดวงจรการให้และการรับที่พัฒนาต่อเนื่อง
ทุกฝ่ายจึงได้ประโยชน์อย่างยิ่ง

หลงสภาวะอันเป็นที่สุด
จึงได้สัมผัสสัจจะแท้ที่ยิ่ง ๆ ขึ้นโดยลำดับ
ได้ดูดซับคุณค่าทุกระดับวิวัฒนาการอย่างเต็มเปี่ยม

ชื่นชมส่วนดีในชนชาติของตนเอง
ทั้งชื่นชมส่วนดีในชนชาติอื่น แล้วนำมาใช้
จิตใจเขาจึงเป็นสากล รุ่งเรืองในโลกกว้างอย่างไร้ศัตรู

อยู่เหนือธรรมชาติ
จึงบริหารตนบนกระแสธรรมชาติได้
และบริหารพลังธรรมชาติสัมพัทธ์ได้ตามปรารถนา
ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งจากชีวิตและธรรมชาติ

บริโภคธรรมชาติอย่างเหนือชั้น
อิสระไม่พัวพันแม้ในธรรมชาติ บริโภคอย่างพอดีแล้วละวาง
จึงคงทุกอย่างไว้ให้สมบูรณ์ได้อย่างที่มันเป็น

เห็นอะไรที่ทำสืบๆ กันมาและสืบๆ กันไป
ก็พยายามพัฒนาต่อเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
จึงได้ความเจริญโดยลำดับ และเป็นผู้บริหารวัฒนธรรม

ยืนอยู่บนปัจจุบัน
แล้วยืดอดีต ปัจจุบัน อนาคต ให้เป็นเส้นตรงเดียวกัน
เอาพลังแห่งอดีต มาสร้างปัจจุบันให้สมบูรณ์ เพื่อสานสร้างอนาคตที่งดงาม
จึงดำรงอยู่อย่างมีความหมาย มีความหวัง และมีโอกาสสำเร็จใหญ่ยิ่ง

ขออนุญาตคัดมาบางส่วน: ไชย ณ พล, "The Foolish The Clever The Wise"
(คนโง่ คนฉลาด คนเจ้าปัญญา), กรุงเทพฯ : เคล็ดไทย

ขอบคุณครับ

 

คนส่วนใหญ่มักจะมองเรื่องราวเรื่องหนึ่งๆในเพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะด้านที่เป็นความผิด แถมติเตียนซ้ำแล้วซ้ำอีก(อันเกิดจากแรงโทสะ)

ความมืดบอดของจิตใจจะเกิดชึ้นก็ตรงจุดนี้แหละ แล้วมันก็จะพัฒนาเพิ่มขึ้นจนมันกุมหรือควบคุมจิตเราได้ทั้งหมด ก็ไม่แปลกที่คนยุคนี้มีโทสะกันง่ายมากเพราะความมีตัวตนมีหน้าตาของตัวเราเองทำให้โทสะเกิดง่ายเป็นแบบออโตเมติก

สักกายะทิฏฐิหากไม่พยายามลดลงแล้วก็เชื่อได้ว่าโทสะก็ไม่มีทางลดลงได้เลย แถมมีแต่เพิ่มขึ้นแรงขึ้น อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยครับที่เห็นความสำคัญของการลดสักกายะทิฏฐิ สาธุ สาธุ

 

เรือข้ามฟากนิวยอร์กชนท่าเจ็บระนาว

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2556 เวลา 00:20 น.



วันนี้ (9 ม.ค.) สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า เกิดอุบัติเหตุเรือโดยสารข้ามฟาก “ซีสทรีค วอลล์สตรีท” พุ่งชนราวสะพานท่าจอดเรือในนครนิวยอร์ก ช่วงเวโมงเร่งเวนเช้าวันพุธ ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเกือบ 60 คน

นายชาร์ลส์ โรว์ โฆษกหน่วยเรือลาดตระเวนยามฝั่ง เผยว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณก่อน 9.00 น. เล็กน้อย (21.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) เรือโดยสารข้ามฟากลำดังกล่าว ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารแน่นขนัด 326 คน คนขับและลูกเรืออีก 5คน เดินทางจากนิวเจอร์ซีไปยังเกาะแมนฮัตตัน แต่เรือพุ่งชนสะพานท่าจอดหมายเลข 11 ในแม่น้ำอีสต์ ริเวอร์ ของย่านโลเวอร์ แมนฮัตตัน ไม่ไกลจากย่านวอลล์สตรีท อย่างเต็มแรง ทำให้ผู้ที่อยู่บนเรือ และบนโป๊ะที่เตรียมจะลงเรือ ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 58 คน โดย 2 คนอาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล

ผู้ที่เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เผยว่า เรือซีสทรีค วอลล์สตรีท ลำดังกล่าวแล่นมาด้วยความเร็ว และพุ่งชนราวสะพานเต็มแรง ทำให้ผู้โดยสารบนเรือ และบนโป๊ะ กระเด็นไปคนละทิศทาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติในครั้งนี้



เรือข้ามฟากนิวยอร์กชนท่าเจ็บระนาว | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 

ภูมิภาคตะวันออกกลางเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2556 เวลา 09:00 น.



ประชาชนในแถบตะวันออกกลางกำลังได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งฝนตก พายุหิมะ และพายุลูกเห็บ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ศพ

วันนี้ ( 10 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองรามัลเลาะห์ รัฐปาเลสไตน์ว่า สภาพอากาศผิดปกติและแปรปรวน ทั้งฝนที่ตกหนัก พายุลูกเห็บและหิมะ ที่ถล่มพื้นที่ตะวันออกกลางมานานกว่า 4 วันติดต่อกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ศพ

รายงานของทางการปาเลสไตน์เมื่อวันพุธ ระบุว่า เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 ศพ ติดอยู่ภายในรถยนต์คันหนึ่ง หลังถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดพาหายไปจนมาขึ้นฝั่งในเขตเวสต์ แบงก์ ขณะที่โรงเรียนในเมืองเยรูซาเลมประกาศปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด หลังเกิดฝนตกหนัก และพายุลูกเห็บอย่างต่อเนื่อง จนทำให้อุณหภูมิลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบหญิง 2 ราย เสียชีวิตในเมืองทูลคาเร็ม ทางตอนเหนือของเขตเวสต์ แบงก์ ตามด้วยเหตุดินถล่มในเมืองเจนิน ทางตอนเหนือของเขตเวสต์ แบงก์เช่นกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ

ขณะที่ทางการเลบานอนรายงานว่า มีประชาชนเสียชีวิตจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บแล้ว 6 ศพ ในจำนวนนี้เป็นชายอายุราว 30 ปี เสียชีวิตขณะนอนหลับเนื่องจากอาการมึนเมา อยู่ภายในรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ในเขตจังหวัดเบกา ทั้งนี้ หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในเลบานอนมีความหนาถึง 5.5 เซนติเมตรแล้ว เช่นเดียวกับชาวอียิปต์ในตอนใต้ ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวจัด สาเหตุจากคลื่นความเย็นที่เคลื่อนตัวลงมาจากรัสเซีย และมีรายงานการเร่งค้นหาชาวประมง 10 คนที่สูญหายระหว่างการออกเรือจากท่าในเมืองอเล็กซานเดรีย

สภาพอากาศที่เลวร้ายที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบการจราจร และกระบวนการให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะทางเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากสภาพทัศนะวิสัยอยู่ในขั้นย่ำแย่ ส่งผลให้ทางการจอร์แดนออกประกาศเตือนประชาชน พร้อมกับขอร้องให้เดินทางออกนอกเคหะสถานเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น หลังมีรายงานการเกิดอุบัติเหตุแล้วกว่า 700 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมง

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอชซีอาร์ ) เร่งอพยพผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจำนวนมาก ที่อาศัยอยู่ในค่ายอพยพตามแนวชายแดนเลบานอน ให้ไปพำนักในสถานที่อื่นแล้ว

ภูมิภาคตะวันออกกลางเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 

ไฟป่ายังโหมกระหน่ำต่อเนื่องในออสเตรเลีย

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2556 เวลา 09:31 น.



หน่วยดับเพลิงออสเตรเลียเร่งดับไฟป่าที่ยังคงโหมกระหน่ำในหลายพื้นที่ โดยมีอุปสรรคสำคัญคือลมกระโชกแรง และอุณหภูมิที่ร้อนจัดกว่า 40 องศาเซลเซียส

วันนี้ ( 10 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแยส ประเทศออสเตรเลียว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออสเตรเลียเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพื่อควบคุมไฟป่าที่กำลังโหมกระหน่ำในหลายพื้นที่ของประเทศให้ได้เร็วที่สุด ท่ามกลางสภาพอากาศที่แห้งแล้งและร้อนจัด จนทำให้เกิดความหวั่นเกรงว่า อาจก่อให้เกิดไฟป่าปะทุขึ้นอีก

นายเชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงรัฐนิวเซาท์เวลส์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีวิทยุ เอบีซี ในวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าส่วนใหญ่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้แล้ว แต่ยังมีอีก 126 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ในจำนวนนี้ 15 จุดมีความรุนแรงมากจนเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าใกล้ได้

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคใหญ่หลวงของเจ้าหน้าที่ หนีไม่พ้นกระแสลมแรง และอุณหภูมิที่แม้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อวันพุธ แต่รายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหว่า 40 องศาเซลเซียสอีกครั้ง

ทั้งนี้ ไฟป่าที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ เผาผลาญพื้นที่เฉพาะในรัฐนิวเซาท์เวลส์ไปแล้วกว่า 350,000 เฮคเตอร์ ส่วนไฟป่าในรัฐแทสเมเนีย สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนประชาชนไม่ต่ำกว่า 100 หลัง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด อยู่ที่เมืองแยส ทางตะวันตกของกรุงแคนเบอร์รา ในดินแดนออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอร์รี ซึ่งไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 16,000 เฮคเตอร์ คร่าชีวิตแกะไปกว่า 10,000 ตัว

นอกจากรัฐนิวเซาท์เวลส์แล้ว ยังมีรายงานการเกิดไฟป่าอีกหลายพื้นที่ทั้งในรัฐควีนส์แลนด์ วิกตอเรีย และแทสเมเนีย ซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้ของออสเตรเลีย

ไฟป่ายังโหมกระหน่ำต่อเนื่องในออสเตรเลีย | เดลินิวส์


นาทีชีวิตหนีตายจากไฟป่า

10 มกราคม 2556 เวลา 09:49 น.



สองตายาย หอบหลาน5 คนหนีไฟป่าลอยคอในน้ำกว่า 2 ชั่วโมง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เขตดูแนลลี่ย์ ทางตะวันออกของเกาะแทสเมเนีย ออสเตรเลีย โดย 2ตายายและหลานอีก 5คนต้องหนีเอาตัวรอดจากไฟป่าที่เผาบ้านของพวกเขา ทั้งนี้ สองตายาย ต้องหอบหลานทั้ง 5 คน วิ่งลงแม่น้ำหลังบ้านและลอยคออยู่ใต้สะพานไม้ท่าเรือ เพื่อรอคอยความช่วยเหลือ และลอยคอรอความช่วยเหลือราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะดิ้นรนหาเรือในแม่น้ำและพากันออกมาจากพื้นที่ไฟป่าได้อย่างปลอดภัย ในขณะที่บ้านของพวกเขาไหม้วอดหมดทั้งหลัง

http://www.posttoday.com/รอบโลก/197934/นาทีชีวิตหนีตายจากไฟป่า


B5 - War Room Falkman

 

จับตาดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส เฉียดโลกใกล้สุด 10 ม.ค. นี้



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก blastr.com

เว็บไซต์ยูเอสเอทูเดย์ รายงานเมื่อวันที่ 9 มกราคมว่า ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส กำลังโคจรเฉียดโลกในระยะใกล้ที่สุดในวันที่ 10 มกราคมนี้ เผยมีโอกาสชนโลกในปี 2036 แต่เปอร์เซ็นต์ยังน้อยอยู่

รายงานระบุว่า ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส (Apophis) เป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 270 เมตร จะโคจรเฉียดโลกในระยะที่ใกล้ที่สุดในวันที่ 10 มกราคมนี้ แต่จะไม่โคจรเข้ามาใกล้โลกเกินระยะ 14 ล้านกิโลเมตรอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี เมื่อถามถึงอันตรายของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสแล้ว นักดาราศาสตร์ได้เปิดเผยว่า มีโอกาสที่จะโคจรมาใกล้โลกถึงขั้นเฉี่ยวหรือชนอยู่เหมือนกัน โดยจากการคาดคะเนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ พบว่า ในปี 2029 (พ.ศ. 2572) มันอาจจะโคจรมาใกล้โลกแบบเฉียดมาก ที่ระยะทาง 30,000 กิโลเมตร หรืออยู่ใกล้กว่าวงโคจรของดาวเทียมสื่อสารเลย และยิ่งไปกว่านั้น ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ยังมีโอกาสชนโลกในปี 2036 (พ.ศ. 2579) แต่ก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก

ทั้งนี้ สำหรับดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส ถูกค้นพบเมื่อปี 2004 เป็นดาวเคราะห์ที่มีวงโคจรที่ไม่แน่นอน คาดคะเนได้ยาก และครั้งหนึ่งเคยมีการคาดคะเนว่า มีโอกาสถึง 1 ใน 45 ที่มันจะชนโลกในปี 2029 ก่อนที่ต่อมาจะมีการประเมินความเสี่ยงใหม่แล้วพบว่ามันไม่ได้มีอันตรายขนาดนั้น และไม่ถึงขนาดชนโลกในปี 2029 แน่นอน ขณะที่หลายปีที่ผ่านมา ก็มีการสร้างกระแสเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ออกมาตลอด ส่วนทางด้านนาซาก็ได้มีการประเมินความเสี่ยงที่ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจะชนโลกว่า อยู่ที่ 1 ใน 250,000 ซึ่งก็พอจะโล่งใจได้บ้างแล้ว

B5 - War Room Falkman

 

เชียงใหม่ หนาวอีกระลอก - หมอกปกคลุม

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ.2556 8:25น.



จังหวัดเชียงใหม่ อากาศหนาวเย็นอีกระลอก หมอกปกคลุมทัศนวิสัยมองเห็นไม่ถึง 1 กิโลเมตร ขณะที่ประกาศภัยแล้งแล้ว 18 อำเภอ

สภาพอากาศกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง ทำให้ตัวเมืองเชียงใหม่ ถูกปกคลุมด้วยหมอก บางจุดทัศนวิสัยไม่ถึง 1 ก.ม. นายจรูญ เลาหเลิศชัย ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้อุณหภูมิลดลงอีก 2 - 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบเฉลี่ย 12 - 16 องศาเซลเซียส ยอดดอยมีอุณหภูมิหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังสุขภาพจากอากาศหนาว

ขณะที่ จ.เชียงใหม่ ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยภิบัติหนาวอีก 2 อำเภอ คือ อ.พร้าว และ อ.แม่แตง ทำให้มีพื้นที่ประสบภัยหนาวแล้วขณะนี้ 18 อำเภอ ผู้เดือดร้อนกว่า 200,000 รายทางจังหวัดได้ระดมแจกผ้าห่ม รวมทั้งของภาคเอกชนไปประมาณ 30,000 ผืน และได้ทำเรื่องของบประมาณจากส่วนกลาง เพื่อจัดซื้อเครื่องกันหนาวเพิ่มเติมอีก 42 ล้านบาท

เชียงใหม่ หนาวอีกระลอก - หมอกปกคลุม : INN News

B5 - War Room Falkman

 

ปภ.ประกาศภัยหนาว8จว.ภัยแล้ง24จว.

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ.2556 10:38น.



อธิบดี ปภ. เผย ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยหนาวแล้ว 8 จว. 45 อำเภอ ส่วนภัยแล้ง 24 จว.

นายฉัตรชัย พรมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศสถานการณ์ภัยหนาว ซึ่งจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2555 - ปัจจุบัน มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) 8 จังหวัด 45 อำเภอ 252 ตำบล 3,219 หมู่บ้าน 672,838 ครัวเรือน 1,762,928 คน ได้แก่ จ.เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เลย แพร่ ลำพูน และ น่าน ดังนี้ จ.เชียงใหม่ 14 อำเภอ อุตรดิตถ์ 2 อำเภอ แม่ฮ่องสอน 3 อำเภอ เชียงราย 18 อำเภอ เลย 3 อำเภอ แพร่ 1 อำเภอ ลำพูน 2 อำเภอ และ น่าน 2 อำเภอ

ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นมา มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฝนทิ้งช่วง/ภัยแล้ง) 24 จังหวัด ปัจจุบัน จ.หนองคาย (ทั้งจังหวัด) จ.สกลนคร (อ.บ้านม่วง) ประกาศยุติภัยพิบัติฉุกเฉินกรณีฝนทิ้งช่วง คงเหลือจังหวัดที่ได้รับรับผลกระทบ 23 จังหวัด 244 อำเภอ 1,778 ตำบล 18,659 หมู่บ้าน

ปภ.ประกาศภัยหนาว8จว.ภัยแล้ง24จว. : INN News

B5 - War Room Falkman

 

ลำตะคอง น้ำแห้ง เมืองโคราช เริ่มขาดน้ำ

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ.2556 12:16น.



เขื่อนลำตะคอง เหลือน้ำเพียงร้อยละ 41 เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เริ่มขาดแคลนน้ำประปา ด้าน ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 เตรียมพร่องน้ำเพิ่ม

ภายหลังจากที่ ระดับน้ำในอ่างลำตะคองช่วงนี้ ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือประมาณ 41% ของความจุกักเก็บทั้งหมด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบทำให้การบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภคของชาวจังหวัดนครราชสีมา ใน 5 อำเภอ ใต้เขื่อนลำตะคอง เกิดปัญหาขึ้นมาได้ โดยเฉพาะ ชาวชุมชนเมือง ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งมีประชากรกว่า 2 แสนคน ขณะนี้ ก็เริ่มมีปัญหาขาดแคลนน้ำประปาแล้วบางพื้นที่

หม่อมหลวงอนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 กล่าวว่า ขณะนี้ น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง เหลืออยู่ประมาณ 135 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็น 41% ของความจุกักเก็บทั้งหมด หากหักปริมาณตะกอนก้นอ่างออกไปประมาณ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็จะเหลือน้ำอยู่จริง ๆ ประมาณ 115 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีการปล่อยน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค รวมทั้ง รักษาระบบนิเวศประมาณ วันละ 4 แสนลูกบาศก์เมตร หรือ เดือนละ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจากการคำนวณช่วงหน้าแล้งอีก 4 เดือน ระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน ก็จะใช้น้ำไปทั้งหมด 48 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้น จึงเหลือน้ำอยู่ในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อีกประมาณ 67 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงไม่น่าวิตก เรื่องของการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค แต่หากทางเทศบาลนครนครราชสีมา ยืนยันว่า น้ำดิบสำหรับทำน้ำประปาไม่พอ เพราะเกิดจากการทำนาปรังของพี่น้องเกษตรกรในเขต อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน และ อ.ขามทะเลสอ ทางชลประทานฯ ก็พร้อมที่จะปล่อยน้ำในปริมาณ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ให้ได้เป็นช่วง ๆ ตามที่ร้องขอ

ลำตะคอง น้ำแห้ง เมืองโคราช เริ่มขาดน้ำ : INN News

B5 - War Room Falkman

 

B5 - War Room Falkman

 

B5 - War Room Falkman

 

เกาหลีใต้ซ้อมรับมือไฟดับพร้อมกันทั่วประเทศ

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2556 เวลา 12:33 น.



ทางการเกาหลีใต้จัดให้มีการฝึกซ้อมในสถานการณ์จำลอง เพื่อรับมือกรณีการเกิดกระแสไฟฟ้าดับทั่วประเทศ

วันนี้ ( 10 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ว่า ทางการเกาหลีใต้จัดให้มีการฝึกซ้อมในสถานการณ์จำลอง เพื่อรับมือกรณีการเกิดกระแสไฟฟ้าดับทั่วประเทศในวันนี้

ทันทีที่เสียงไซเรนเตือนภัยดังขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องต่างกล่าวกระตุ้นให้ประชาชนปิด และถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องทำความร้อน ขณะที่หน่วยงานราชการ และบริษัทเอกชนสามารถยังคงการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นไว้ได้

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงโซลใช้โอกาสเดียวกันนี้ ที่ทำให้ต้องมีการระงับการให้บริการชั่วขณะ ทำการฝึกซ้อมเคลื่อนย้ายผู้โดยสารที่ติดอยู่ขบวนรถ และลิฟต์ด้วย

การฝึกซ้อมดังกล่าวที่กินเวลานานประมาณ 20 นาที มีขึ้นหลังรัฐบาลเกาหลีใต้ออกประกาศแจ้งประชาชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธ.ค. ให้เตรียมพร้อมรับมือการฝึกซ้อมพร้อมกันทั่วประเทศ ในกรณีหากต้องตกอยู่ในภาวะมีกระแสไฟฟ้าน้อยกว่า 4.0 ล้านกิโลวัตต์

แต่นายฮอง ซุค-วู รมว.กระทรวงพลังงาน แถลงว่าในสถานการณ์สมมติที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการจำลองเหตุการณ์ว่า ประเทศตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้าอย่างรุนแรงจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ทั้งประเทศมีกระแสไฟฟ้าใช้ต่ำกว่า 2.0 ล้านกิโลวัตต์ เพื่อให้ประชาชนตระหนักว่า สถานการณ์ในลักษณะนี้จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประเทศชาติเพียงใด

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพ.ย. ฮองประกาศเตือนว่า เกาหลีใต้อาจต้องประสบปัญหาขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากรัฐบาลจำเป็นต้องปิดเตาปฏิกรณ์หลายแห่งเพื่อตรวจสอบสภาพ ขณะที่อุณหภูมิช่วงฤดูหนาวปีนี้ของประเทศลดต่ำลงเป็นสถิติในรอบหลายทศวรรษ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยในเวลากลางคืนทางตอนเหนือของประเทศอยู่ที่ -26 องศาเซลเซียส

เกาหลีใต้ซ้อมรับมือไฟดับพร้อมกันทั่วประเทศ | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 

แคนาดาเร่งช่วยฝูงวาฬเพชฌฆาตติดแอ่งธารน้ำแข็ง

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2556 เวลา 11:35 น.



วันนี้ ( 10 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดาว่า ชาวเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในรัฐควิเบกของแคนาดา พยายามยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้มีการช่วยเหลือวาฬเพชฌฆาตหลายสิบตัว ที่ติดอยู่ท่ามกลางแอ่งธารน้ำแข็ง

นายปีเตอร์ ไอนุคพุค นายกเทศมนตรีเมืองไอนุคจูแอค ส่งหนังสือไปยังรัฐบาลกลางแคนาดา เพื่อขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องเจาะน้ำแข็งเข้ามาขุดทำลายธารน้ำแข็งในบริเวณดังกล่าว เพื่อเปิดทางให้ฝูงวาฬเหล่านี้กระจายตัวกันออกไปสู่ธารน้ำตามธรรมชาติโดยเร็ว เนื่องจากชาวบ้านต่างเกรงว่า วาฬเหล่านี้จะเสียชีวิตจากการขาดออกซิเจนเสียก่อน เนื่องจากพวกมันพยายามดำผุดดำว่ายขึ้นหลายครั้งเพื่อสูดอากาศหายใจ

ด้านนายแฟรงค์ สตาเน็ค โฆษกกระทรวงประมงและมหาสมุทร แถลงว่า ทางหน่วยงานได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือแล้ว และจะส่งเจ้าหน้าที่ไปยังพื้นที่เกิดเหตุทันที

ทั้งนี้ ฝูงวาฬเพชฌฆาตว่ายมารวมตัวกัน และติดอยู่ในธารน้ำแข็งบริเวณชายฝั่งตะวันออกของอ่าวฮัดสัน ในเมืองไอนุคจูแอค ห่างจากเมืองมอนทรีออลไปทางตอนเหนือราว 1,500 กิโลเมตร ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งนักล่าสัตว์คนหนึ่งที่กำลังออกตระเวนล่าสัตว์ในแถบนั้นไปพบเข้า และเป็นผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน





B5 - War Room Falkman