เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

อยากจะบอกคุณเฉลยว่าคุณเฉลยเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ขจรวรรณฝันอยากจะเป็น แต่ไม่ได้เป็นคือ
1. อยากจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี
2. อยากจะเป็นผู้บริหารที่มากความสามารถ
3. อยากจะทานอาหารมังสวิรัติตลอดชีวิตแต่ทำไม่ได้ด้วยเหตุหลายปัจจัย แต่คาดหวังว่าวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาจะทานตลอดไปเช่นกัน สังเกตุจากที่เล่าให้ฟังว่าตอนเด็กได้ออกไปเดินธุดงค์กับพระในป่า โดยไปพร้อมกับแม่ครัวมังสวิรัตินั่นเอง

ถ้าเป็นไปได้อยากขอเชิญชวนคุณเฉลยไปร่วมฟังบรรยายของ อ.ปริญญา ตันสกุล ที่ท่านจัดขึ้นในกรุงเทพฯ นะคะ ขจรวรรณจะได้มีโอกาสทำความรู้จักสังเกตุบุคคลิกภาพของคุณเฉลยตัวเป็นเป็นเลยค่ะ แต่การบรรยายในครั้งต่อไปของ อ.ปริญญา รู้สึกจะเป็นวันที่ 22 ตุลาคม 2550 เวลา 13.00 น. - 18.00 น. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ฯ แต่วันเวลาดังกล่าวเป็นวันจันทร์ค่ะ.. อ.ปริญญา ท่านก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เกี่ยวพันธ์กับองค์สมเด็จพระนเรศวรมาก่อน โดยส่วนตัวแล้วขจรวรรณก็นับถือท่านในฐานะที่เป็นผู้มีภูมิรู้ภูมิธรรมอีกท่านหนึ่งเช่นกัน หวังว่าเราคงจะได้มีโอกาสได้เจอกันในโอกาสต่อไปนะคะ...
[b-hi]

 

เอ่อ....ตอนแรกๆก็ฟังดูดีมีสาระนะ .... -.-" ....แต่ทำไมหลังๆมันเริ่มฟังดูเรื้อนๆอ่ะ แล้วที่พูดมาทั้งหมดจะเชื่อได้ไม๊เนี่ย รูปนี้พึ่งปั่นมาส่งเมื่อวาน ขอบอกใช้เวลาแค่....นาที หุหุหุ วาดออกมาโดยไม่ได้ผ่านสมองเลย ขอบอก จินตนาการผ่านอารมณ์ตอนนั้นล้วนๆ แล้วที่โผล่ออกมาตรงหัวเนี่ยไม่ใช่หูนะ!!! >< ผมแกละต่างหาก ดูยังงัยเนี่ยตามี้ท .....ฮื้อ....แต่ก็ช่างเต๊อะๆ ยังไงก็จะวาดให้มันดูไม่ค่อยออกว่าเป็นอะไรอยู่แล้วล่ะ แล้วรูปคุณชายอ่ะ เอามาลงๆเลย วาดเสร็จยัง

แล้วไอ

งามกว่าแสงตะวันที่ส่องหล่า
งามยิ่งกว่าแสงเดือนที่ส่องดิน
งามสิ้นทั้งโลกาฟ้าจรดทราย

......-"-.......
นี่เริ่มไม่ใช่แล้วนะ ไปจูนคลื่นก่อนจะดีไม๊เนี่ยพี่เรา นอนน้อยก็งี้แหละก๊ง!

 

อ๋อ..ตะ ตะแปลว่า"แต่"นี่เอง 5555++
เพิ่งรู้เหมือนกันคร๊าบ..คุณเฉลยมีพวกแระ
ไปประชุมธรรมที่ไหนล่ะครับ อยากไปด้วย

(b-smile)

ที่น้องมายด์วาดเนี่ยนะ เค้าเรียกอัจฉริยะเสี้ยวนาที อิอิ
วาดแบบไม่ต้องใช้สมอง ข้ามขั้นไปเลยนับถือๆ
กว่าพี่จะวาดได้ ต้องไปสร้างจินตนาการอีกนานคับ (คงส่งหลังสุดจ๊ะ..)




เห็นสัตว์เลี้ยงคุณซิปเปอร์แล้ว ใช้ความง่ายbasic ตัวกลมๆน่ารักท่าจะมาแรงแซงทางโค้งอีกคน (เหมือนเกมส์ packman)



สัตว์เลี้ยงในฝันคุณแก้วทิพย์สดสวยมากเกี่ยวพันกับทะเล
คุณแก้วทิพย์ชอบปลาโลมาเหมือนผมนะครับ น่ารักและแสนรู้จริงๆ
ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เค้าพาเราไปเที่ยวใต้ละเลลึกๆเหมือนกันครับ

 

คุณขจรวรรณไม่เอารูปมาลงล่ะคะ หายไปนานเลยคิดถึง >< แหมๆชวนไปงาน อ.ปริญญา ทั้งทีชวนตาเหลยคนเดียวเลยอ่ะ (แล้วหล่อนไปเกี่ยวไรด้วยเนี่ย -.-") แหะๆ อยากมีส่วนร่วมค่ะ ~

ไม่ต้องเศร้าหรอกนะคะคุณขจรวรรณ ตอนนี้เป็นโอกาสดีแล้วค่ะ ที่ได้เจอจิตวิญญาณต่างร่างร่วมวัตถุประสงค์ดูดจิตวิญญาณตาเหลยมาเลยค่ะ เอามาเป็นของเรา หุหุหุ อย่าลืมจิค่ะว่าปัจจุบันเปลี่ยนก็กระเทือนไปถึงอดีตด้วยนะ @o@~

 

(b-ng)(b-ng)(b-ng)

 

จริง ๆ แล้วขจวรรณอ่านข้อความของพี่นักเขียนตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว อ่านแล้วตัวเองรู้สึกเจ็บปวดลึกเข้าไปถึงจิตใจ อย่างที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ มือก็ไม่สามารถที่จะพิมพ์ข้อความใด ๆ เพื่อส่งข้อความไปถึงพี่นักเขียน วันที่ผ่านมาจมอยู่กับอารมณ์ของตัวเอง เพื่อนที่สนิทถามก็ไม่สามารถจะอธิบายได้ว่าเราเสียใจเรื่องอะไร เมื่ออ่านข้อความของพี่นักเขียนแล้วทำให้จินตนาการต่าง ๆ ที่เคยใฝ่ฝันไว้ในอดีตก็ผุดขึ้นมาและพบว่าความต้องการที่เราต้องการในอดีตไปปรากฏอยู่ใน พี่ ๆ น้อง ๆ ที่อยู่ในห้องวิทย์นี้ 3 - 4 คน ดังนี้

1. เมื่อตอนที่เรียนปริญญาตรี ใฝ่ฝันว่าจะมีโอกาสไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา และทำงานหาประสบการณ์ในต่างประเทศ เมื่อมีสตังค์พอสมควรก็จะเดินทางศึกษาหาประสบการณ์กับสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ความฝันนั้นก็ไม่เป็นจริง และพบว่าความฝันต่าง ๆ ที่กล่าวมา เป็นความจริงในชีวิตของพี่นักเขียนแทน อยากทราบว่าเมื่อไปเที่ยวที่ภูเขาในสวิตเซอร์แลนด์แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างคะ อีกที่นึงที่ฝันอยากจะไปหลังจากเรียนพลังจักรวาลแล้วก็คือภูเขา Alyer Rock ประเทศออสเตรเลีย เมื่อพี่นักเขียนไปที่นั่นแล้วรู้สึกถึงพลังอำนาจของสมองมนุษย์โบราณหรือไม่? อย่างไร?

2.เมื่อทำงานด้านการเงินแล้วมีความใฝ่ฝันอยากจะทำงานด้านการตลาดเหมือนที่น้อง Leogirl99 กำลังทำอยู่ เนื่องจากการทำงานด้านนี้ได้แสดงออกถึงความมั่นใจในตัวเองออกมา

3. เมื่อเรียนหนังสือจนถึงปัจจุบัน มีความอยากที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ เหมือนน้อง Aimmy แต่ในชีวิตจริงกลับเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้เพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ ต้องมีเหตุที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินไปถึงเป้าหมายได้

จึงทำให้ตระหนักได้ว่า " ความคิดของเราไม่เคยสูญสลายแต่กลายเป็นความจริงเสมอ ๆ ในรูปกายตัวตนอื่น ๆ อีกมากมาย " ขอบคุณพี่นักเขียนที่ทำให้ขจรวรรณ เข้าใจถึงสภาวะความเป็นไปของจิตวิญญาณมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ..
(f)

 

ก๊งพอๆกันเลย ทั้งตาเหลยตามิ้ท -.-" เฮ้อ~ ไม่ไหวๆ แบบนี้จะไปดูแลน้องในห้องวิทย์ได้ไง ไม่รู้ใครดูแลใครกันแน่ (แซวพี่เหลยไปซะอื้อเลยอ่ะพี่มิ้ท ป่านนี้จามจนไปรู้จะจามยังไงและ) หุหุหุหุ เดี๋ยวกลับมาจากประชุมธรรมคงมีเฮๆๆ

ว่ะฮ่ะฮ่าๆๆๆ.....อ้ะ เห็นตาปาสงอีกคน มาโน่นและ การบ้านๆๆๆๆ ทวงๆๆๆ เอามาส่งซะดีๆ การบ้านเก่าเอาไว้ก่อง พี่ขจรวรรณด้วย พี่penpilai ด้วยยย อย่าโมทนาอย่างเดียวจิคะ >< ~!!!

 

ชวนกันไปสิครับ จะชวนพี่เหลยตัวเป็นๆไปด้วย ท่านอื่นๆที่สนใจครับ เชิญมาพบกันหน่อยแต่เป็นวันจันทร์ งานสัปดาห์หนังสือนะครับ ไม่รู้จะก่งก๊งหากันไม่เจอรึป่าว..เข้ามาแต่ละทีน้องมายด์เล่นเอากระทู้สั่นสะเทือนยับเยิน ตั้งหลักแทบไม่ทัน สงสัยต้องไปทานยาลดความก๊งแล้วครับ

 

พี่เล่นทำล่วงหน้าพวกเราเป็น 10 ปีแล้ว เก็บผลงานด้วยเทคนิคยุคนั้นไว้ให้ลูกหลานดู..นึกถึงสมัยนั้นที่ใช้ปากกา Rotting ,Staedtler 0.3 เขียนแบบ ทำร่วงพังไปหลายด้าม พ่นสีสเปรย์ติด pantone perspective ต้องใช้ฝีมือล้วนๆ เดี๋ยวนี้ไม้ต้องล้างพู่กัน ไม่ต้องซื้อสีหมึกมาใช้แล้วนะครับ ใช้คอมล้วนเลยครับ
จะเป็นพวก beamer หรือเป็น metrix กันไปหมดแล้ว..ว่าแต่ beamer นี่ออกแนวไหนครับ? แหะๆ ไม่คุ้นเท่าไหร่ พวกลำแสงอะไรแบบนั้นรึป่าวครับ

 

ไม่ใช่ว่าพี่นักเขียนไม่มีความเชื่อว่ากรรมมีจริงนะคะ หากแต่ว่าเมื่อได้สื่อสารกับท่านอาจารย์อนาลัยแล้ว ทำให้เข้าใจความหมายของคำว่ากรรมแตกต่างไปจากที่เคยเข้าใจ เดิมเข้าใจว่ากรรมคือผลลัพธ์ซึ่งมีเหตุอันเนื่องมาจากการกระทำในอดีตชาติ

ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า ธรรมชาติของจิตวิญญาณอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของช่องว่าง ระยะทางและกาลเวลา และการกระทำทั้งหลายในอดึึต-ปัจจุบันและอนาคตชาติเป็นไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน และล่าวว่า การกระทำทุกชาติภพส่งผลกระทบถึงกันหมดเป็นปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่ากรรมหรือการกระทำในชาติภพหนึ่งๆส่งผลลัพธ์ไปสู่อีกชาติภพหนึ่งอย่างเป็นป้จจุบันทันด่วน ไม่ต้องคอยรับผลข้ามชาติภพตามเส้นทางแห่งกาลเวลา (โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ)

นอกจากนี้ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวย้ำเสมอๆถึงการเป็นระบบเครือข่ายของจิตวิญญาณว่า จิตวิญญาณเต็มเปี่ยมไปด้วยความร้กและช่วยเหลือเกื้อกูลซึงกันและกัน ไม่มีจิตวิญญาณหน่วยใดๆขัดขวางความก้าวหน้าของจิตวิญญาณหน่วยอื่นๆ

มุมมองใหม่นี้ทำให้พี่นักเขียนเข้าใจว่า กรรมชั่วคือความเชื่อในแง่ลบที่ติดอยู่ในอารมณ์จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราข้ามชาติภพ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า กรรมชั่วคือความเชื่อในทางที่ผิดที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นความรู้ ที่ปรากฏอยู่ในหลายชาติภพ และส่งผลในแง่ลบมาสู่เราในเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นนี้ ที่เราเรียกว่าเส้นทางแห่งความเป็นจริง

หากเราสามารถเปลี่ยนความเชื่อในแง่ลบให้เป็นความเชื่อในแง่บวกได้ หมายถึงว่าเราได้สร้างอารมณ์จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดให้เป็นไปในแง่บวก ซึ่่งยังอาจจะคงเป็นความเชื่อ ไม่ใช่ความรู้เสียทั้งหมด แต่มันก็จะส่งผลในแง่บวกให้กับชาติภพทั้งหลายของเรา เมื่อเราศึกษาหาความรู้ในธรรมชาติความเป็นจริงได้พบ จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนความเชื่อในแง่บวกให้กลายเป็นความรู้ได้ในที่สุด

ที่เราเรียกกันว่าเจ้ากรรมนายเวรในนัยนี้ หากเราตระหนักในธรรมชาติความเป็นจริงที่ว่า เราสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง พลังอำนาจในการสร้างสรรค์ชีวิตหรือทำให้ชีวิตเป็นไปจึงอยู่ที่อารมณ์ จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่เป็นไปตามความเชื่อของเรา เจ้ากรรมนายเวรที่แท้จริง จึงหมายถึงภาวะจิตของตนเอง ดังนั้นเราจึงเป็นผู้ที่มีอำนาจที่จะแก้กรรมหรือแก้ไขสถานการณ์ต่างๆได้ด้วยตนเอง

ไม่ว่าเราจะไปหาหมอดูหรือผู้วิเศษท่านใดที่กล่าวว่า เขาแก้กรรมให้เราได้ หากเราปราศจากความเชื่อว่าเขาจะแก้ไขสถานการณ์ชีวิต สุขภาพร่างกาย ของเราได้ เราจะพบว่าหมอดูนั้นดูไม่แม่น และผู้วิเศษท่านนั้นก็ไม่อาจสร้างปาฏิหารย์ให้เราได้

แต่ถ้าหากเราเชื่อว่าหมอดูผู้นั้นแม่น สิ่งที่เขาบอกเราเป็นความจริง และเชื่อว่าผู้วิเศษท่านนั้นแก้กรรมให้เราได้จริง เราก็จะพบว่าหมอดูผู้นั้นทำนายชะตาชีวิตเราถูกต้องหมด และผู้วิเศษท่านนั้นก็แก้กรรมให้เราได้ด้วย ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า อำนาจลึกลับที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปนั้นคือความเชื่อของเราเอง

พี่นักเขียนเชื่อว่าคุณเฉลยรักษาตนเองได้ด้วยความคิด-ความเชื่อที่ว่า เราได้แก้ไขการกระทำที่ทำให้รู้สึกผิดด้วยการขอขมา และก็เชื่อด้วยว่าการขอขมาทำให้ได้รับการยกโทษ พี่นักเขียนกับสามีเคยเคร่งครัดรับประทานเจมาตลอดเวลากว่า 10 ปี ไม่แตะเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่ดื่ม ไม่เที่่่่่ยวกลางคืน เปิดบ้านเป็นที่ชุมนุมทำสมาธิ แต่งขาวร่วมกัน สัปดาห์ละอย่างน้อย 3 วัน เป็นเวลากว่า 2 ปี

วันหนึ่งได้เดินทางไปต่างประเทศกับพระอาจารย์ผู้สอนสมาธิให้กับพี่นักเขียน การเดินทางทำให้เราไม่สามารถรับประทานอาหารอย่างที่เคยได้ พระอาจารย์ปกติท่านก็เลี่ยงไม่ฉันท์เนื้อสัตว์ทุกชนิดหากจำวัดอยู่เมืองไทย แต่เมื่อไปต่างประเทศ ฝร่ังที่ศรัทธาท่านต่างก็ถวายสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นของดีที่สุดของเขา พวกเขาจึงถวาย Steak และเนื้อสัตว์อื่นๆ พวกลูกศิษย์ลูกหาคนไทยก็เป็นวิตกกังวลกันไปต่างๆนานา จะไม่จัดใส่ภาชนะถวายก็ดูจะไม่สมควร เอาไปถวายก็รู้สึกผิด พระอาจารย์ท่านรู้ใจ ท่านเดินผ่านไปทีห้องเตรียมอาหารแล้วก็พูดขึ้นลอยๆว่า อย่าวุ่นวายใจ ตามศรัทธาให้เสมอกัน อย่าแยกเขาแยกเรา

ลูกศิษย์คนไทยและฝรั่งก็ช่วยกันจัดสำรับถวาย ท่านก็ฉันท์โดยไม่แสดงอาการหรือปฏิเสธแต่อย่างใด นอกจากนี้ อยู่เมืองไทยหมอก็ห้ามไม่ให้ฉันท์อาหารที่มีน้ำตาลสูง ฯลฯ เพราะท่านมีอายุมากกว่า 80 ปี เกรงว่าจะเป็นเบาหวาน พวกฝรั่งนอกจากถวาย steak แล้วก็ตามด้วย chocolate cake และ cookies ท่านก็ฉันท์อีกเป็นปกติ

เมื่อฝรั่งไปกันหมด พี่นักเขียนก็อดถามท่านตรงๆไม่ได้ว่า การฉันท์เนื้อนั้นผิดหรือไม่ อย่างไร ท่านก็กล่าวว่า หลวงปู่มั่นซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านกล่าวไว้ว่า ตราบใดที่จิตของเธอไม่เปลี่ยน การเปลี่ยนอาหารหรือเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็ไม่อาจเปลี่ยนจิตของเธอได้ ต่อเมื่อจิตของเธอเปลี่ยน การเปลี่ยนอาหารและเสื้อผ้าก็เปลี่ยนจิตของเธอไม่ได้

แล้วท่านก็กล่าวด้วยอารมณ์ขันว่า เอ้อ ที่หมอห้ามไม่ให้หลวงพ่อฉันท์น้ำตาลนี่ วันนี้ไม่เชื่อหมอหลวงพ่อเลยได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก คือคำว่า delicious ว่าแล้วท่านก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี พวกลูกศิษย์ที่วิตกวิจารณ์กันไปต่างๆนานา ก็อดเฝ้าดูอาการท่านไม่ได้ด้วยคววมเป็นห่วงต่อไปอีกหลายวันว่า ท่านฉันท์เนื้อ-ย่อยยาก ฉันท์น้ำตาล-เบาหวานจะขึ้น ฯลฯ แต่ท่านก็เป็นปกติสุขทั้งกายและใจไม่แตกต่างไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อยนิด

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา พี่นักเขียนและสามีก็เลิกรับประทานเจ สิ่งที่เราค้นพบคือ การเลิกรับประทานเจทำให้เราเดินทางรอบโลกด้วยความสะดวกง่ายดายกว่าเก่าหลายร้อยเท่า ซึ่งไม่เคยตระหนักมาก่อนว่า ชีวิตจะง่ายลงมากเมื่อเลิกเข้มงวดทางกายกับตนเอง และการเลิกเข้มงวดทางกายกลับทำให้การเข้มงวดทางจิตเป็นไปได้ง่ายขึ้นไปอีก เพราะไม่ว่าจะไปที่ใดในโลก ทุกมื้อเป็นเรื่องง่าย ใครเขาทานอะไร ก็ทานอย่างนั้น จะนั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับใครก็ได้ทั้งนั้น ไม่มีการแบ่งแยก ที่ไหนเขามีอะไรก็ทานอย่างนั้นไร้กังวล

พี่นักเขียนนับถือเจ้าแม่กวนอิม และมาพบฝรั่งในอเมริกาที่่นับถือเจ้าแม่กวนอิมมากมาย พิพิธภัณฑ์ชื่อ The Nelson-Atkins Museum of Art ที่ Kansas City http://www.nelson-atkins.org/art/CollectionDatabase.cfm?id=597&theme=china ห่างจากเมืองที่พี่นักเขียนอยู่ประมาณ 50 นาที เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มี collection เจ้าแม่กวนอิมใหญ่ที่สุดในโลก ร้านค้ามากมายใน Kansas City มีรูปปั้น เหรียญ เครื่องประดับ หินแกะสลัก ภาพวาดเจ้าแม่กวนอิมขายเกลื่อนกลาด

Kansas City เป็นเมืองฝาแฝด ฝั่งตะวันตกของเมืองอยู่ในรัฐ Kansas และ ฝั่งตะวันออกของเมืองอยู่ในรัฐ Missouri และอาหารเลื่องชื่อที่สุดของ Kansas City คือ Steak (KC Strip) บ้านเมืองสงบสุข รัฐ Kansas ตั้งงอยู่ ณ ใจกลางของทวิีปอเมริกาเหนือ และได้ชื่อว่าเป็น Heartland หรือหัวใจของประเทศ เป็นถิ่นที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวเสียส่วนมาก เป็นรัฐที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด สามารถผลิตอาหารทั้งทางด้านเกษตรกรรมและกสิกรรมเลี้ยงประชากรได้ทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็น Bible Belt ซึ่งหมายถึงอาณาบริเวณที่ผู้คนค่อนข้างเคร่งศาสนา? แต่มีโบสถ์ทุกศาสนาในโลกอยู่มากมาย (มีวัดไทยแต่อยู่เมือง Topeka ห่าง KC ไปประมาณชั่วโมงครึ่ง) ผู้คนถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน บ้านเมืองสงบสุข หากถามผู้คนที่พบเห็นว่านับถือเจ้าแม่กวนอิมเกี่ยวกับการห้ามรับประทานเนื้อ ฝรั่งจะบอกว่าไม่เคยทราบ แต่ก็เคารพบูชาเจ้าแม่กวนอิม มีฝรั่งจำนวนไม่น้อยที่ห้อยเหรียญเจ้าแม่กวนอิมคู่กับไม้กางเขน และยังรับประทาน KC Steak เป็นประจำ

พี่นักเขียนมีความเชื่ออย่างหมดใจว่า ความเชื่อที่เราพบในศาสนาหนึ่งๆ แต่ไม่พบในศาสนาอื่น เป็นความเชื่อที่เป็นไปตามวัฒนธรรมส่วนหนึ่ง และตามสภาพสังคมอีกส่วนหนึ่ง ประเทศจีนมีประชากรมาก จนกระทั่งผู้นำประเทศต้องออกกฏให้มีบุตรได้เพียงคนเดียวต่อครอบครัว ประเทศจีนผ่านวิกฤตการณ์ที่เรียกว่าแทบจะอดตายกันทั้งประเทศมาแล้ว ทำให้กฏเกณฑ์ต่างๆตลอดจนการรับประทานผักเป็นหลัก เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตเพือการอยู่รอดของส่วนรวม หากประชากรจำนวนมากบริโภคเน้ือตามอำเภอใจ ประเทศที่กำลังล่มสลายก็อาจจะเอาตัวไม่รอด ในทางตรงกันข้าม Kansas เป็นรัฐที่มีอากาศหนาว และฤดูหนาวยาวนาน ในฤดูหนาว ผักและผลไม่้มีราคาแพงหลายเท่าตัวฤดูร้อน วัว เป็นสัตว์ที่เลี่ยงง่ายและแพร่พันธุ์ได้มากที่สุด จึงเป็นอาหารหลักของประชากรที่นี่

ความเป็นไปในโลกอันได้แก่ปัจจัยสี่ มักเป็นไปตามธรรมชาติ ตามท้องถิ่นต่างๆของโลก เพื่อความสมดุลย์กับธรรมชาติ แต่เมื่อมนุษย์เรานำความเป็นไปและความสมดุลย์กับธรรมชาติไปจัดไว้ว่าเป็นความถูกต้องตามศาสนา มันจึงกลายเป็นความเชื่อที่นอกจากจะแบ่งแยกศาสนาทั้งหลายออกจากกันแล้ว ยังแบ่งแยกมนุษย์ออกจากกันอีกด้วย

ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า เราจะมองเห็นได้ไม่ยากว่าอะไรคือความเชื่อทางศาสนา และอะไรคือธรรมชาติความเป็นจริง เพราะความเชื่ออันจำกัดทางศาสนาที่มนุย์ผู้บริหารศาสนากำหนดขึ้น มักจะปรากฏในศาสนาหนึ่ง และไม่ปรากฏในอีกศาสนาหนึ่ง และมักก่อให้เกิดความขัดแย้ง แต่ธรรมชาติความเป็นจริงไม่เคยก่อให้เกิดความขัดแย้ง ก่อให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเสมอ


รูปไม้แกะสลักเจ้าแม่กวนอิมที่แนบมาให้ดูนี้ แสดงอยู่ที่ The Nelson-Atkins Museum of Art ที่ Kansas City สูงประมาณ 3 เมตรเศษ หน้าตักกว้าง 1.5 เมตร เป็นไม้แกะสลักทั้งหมดค่ะ ใครมาเที่ยว Kansas พี่นักเขียนจะพาไปชม ว่าแต่ว่าจะทาน steak ฝีมือพี่นักเขียนดัวยไหมคะ รับรองคุณภาพนะ (rose)

 

ก่อนอื่นก็อยากจะขอขอบคุณพี่นักเขียนที่ทำให้พวกเราเข้าใจถึงสัมพันธภาพอันเป็นหนึ่งเดียวกันของจิตวิญญาณ และพบว่าจิตวิญญาณของเราไม่ได้ถือกำเนิดอย่างโดดเดี่ยวแต่เปิดกว้างอย่างไร้พรมแดน ทำให้เรามีความสุขและชื่นชมยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นประสพความสำเร็จ ได้มี ได้ทำ ในสิ่งที่ปรารถนา ทำให้สัมผัสได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของจิตวิญญาณในร่างกายเนื้อหนังอื่น ๆ และรู้ซึ้งถึงความรักอันปราศจากเงื่อนไข ซึ่งก็คือรักโดยไม่หวังผลตอบแทน รักทั้ง ๆ ที่เค้าจะทำตัวไม่น่ารัก โดยเปรียบความรักดังกล่าวเสมือนพ่อ แม่ ที่รักลูกของตนเอง ความรักเช่นนี้คงไม่ต่างจากความรักของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดหรือพระบิดาแห่งจิตวิญญาณที่รักและห่วงใยลูก ๆ ของพระองค์ทุก ๆ คน อย่างเท่าเทียมกัน

อยากจะกล่าวกับพระบิดาว่า " ไม่เพียงแต่พระองค์เท่านั้นที่รักและห่วงใยลูก ๆ ของพระองค์ ลูก ๆ ทุกคนของพระองค์ก็รักและโหยหาอ้อมกอดของพระองค์เช่นกัน พวกเราจะพยายามจูงไม้จูงมือกันเพื่อเดินทางไปกราบพระบาทของพระองค์ยังถิ่นฐานบ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณที่พวกเราจากมาในแดนสูญญตา ที่ซึ่งพระองค์ทรงรอคอยการกลับไปของพวกเราอยู่เสมอทุกวันเวลา "
[b-hi]

 

ขอบคุณค่ะน้อง Mind ที่คอยให้กะลังใจพี่ เห็นด้วยค่ะเดี๋ยวพี่ไปเรียนรู้วิชามารจบแล้วจะดูดมาให้หมดเลยค่ะน้องมาย.. อิอิ.. สำหรับงาน อ.ปริญญา ก็ขอเชิญชวนทุก ๆ คนเลยค่ะถ้ามีโอกาส รักทุกคนอยู่แล้ววว..

สำหรับเรื่องรูปนี่พี่คงต้องขอออกตัวก่อนค่ะ ยอมรับจริง ๆ ว่างานด้านศิลปนี่ไม่ได้เรื่องเลย ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ อย่างถ้าวาดรูปนี่ก็ประมาณวาดวัวเป็นหมูอะไรทำนองเนี้ย.. ส่วนงานฝีมือทั้งหลายถ้าต้องส่งคุณครูก็ขอให้คุณแม่ช่วยด้วยและต้องนั่งเฝ้าคุณแม่ด้วยนะคะว่าอย่าทำให้สวยเกินไป เดี๋ยวคุณครูจะสงกะสัยจ้า.. 555...

(555)

 

แม้ว่าความฝันเก่าก่อนอาจกลายเป็นสิ่งที่เป็นจริง และเป็นไปในรูปกายตัวตนอื่นๆแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า ความฝันของคุณน้องขจรวรรณเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคุณน้อง

ณ วันนี้ เราทั้งหลายกำลังศึกษาและทำความเข้าใจในธรรมชาติของจิตวิญญาณ เมื่อเราเข้าใจได้ดีขึ้น เราจะตระหนักได้ว่า เราสามารถสร้างสรรค์ชีวิตของเราให้ดีกว่าเดิมได้ด้วยการตระหนักว่า จินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นจริงทั้งหมด (อิสระแห่งความปรารถนา) แต่เราจะไปถึงจินตนาการนั้นได้ด้วยปัจจัยหนุนเนืิ่องอืิ่นๆ อันได้แก่ อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดที่คล้องจองกับความปรารถนาที่แท้จริง

จุดอ่อนของเราคือเมื่อเราปรารถนาสิ่งใด เรามักมีอารมณ์ จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ขัดกับความปรารถนาพ่วงมาด้วยเสมอ เช่น กลัวว่าจะไม่สมความปรารถนา กลัวว่าจะเผชิญกับอุปสรรค กลัวว่าจะไม่ประสพความสำเร็จ เป็นต้น แล้วเราก็มักจะไม่สมความปรารถนาจริงๆ

มาถึงวันนี้ พี่นักเขียนเชื่อว่า เราทั้งหลายได้เรียนรู้ร่วมกันมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะจับอารมณ์ จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดไม่ได้ไล่ไม่ทันเป็นบางครั้ง แต่เมื่อรู้ตัวเราก็แก้ไขได้เสมอ

พี่นักเขียนเอาภาพภูเขาใน Switzerland กับ Ayers Rock, Australia มาฝากให้น้องขจรวรรณจินตนาการสวมจิตวิญญาณของพี่นักเขียนว่า ได้ไปอยู่ ณ ที่นั้นด้วยตนเองแล้วรู้สึกอย่างไร

ธรรมชาติมีพลังที่น่าพิศวงเสมอ แม้แต่ต้นไม้เพียงต้นเดียวก็พลังอันน่าพิศวงที่เราทั้งหลายสัมผัสได้เสมอ เมื่อเรามองหามัน เห็นคุณค่าและความงดงามของมัน

พี่นักเขียนมีคุณครูสอนเปียโนซึ่งเลิกสอนและหันไปเป็นนักเต้นรำ ท่านเริ่มเรียนเต้นรำเมื่ออายุได้ 45 ปี ปัจจุบ้นนี้ท่านอายุ 75 เต้นระบำปลายเท้าและ Ballroom ทุกจังหวะ และได้เข้าแข่งขันชนะมากมายจนได้ลง Guinness World Record ว่าเป็นนักเต้นรำที่มีอายุสูงที่สุดในโลก ท่านบอกกับพี่นักเขียนว่า ความเป็นไปได้ทั้งหลายอยู่ที่ใจ และสอนพี่นักเขียนว่า หากหัวใจเราปรารถนาสิ่งใด อย่าฟังคำวินิจฉัยในแง่ลบของผู้อื่น และที่สำคัญที่สุดอย่าฟังคำวินิจฉัยในแง่ลบของตนเอง เพราะมันคืออุปสรรคที่ทำให้เราขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ท่านบอกว่าทุกวันนี้หากใครจะว่าครูว่า ทำไมไม่ทำตนให้สมอายุ ครูบอกว่าแม้ว่าจะถูกติถูกนินทาว่ากล่าว แต่อายุของคนเรายิ่งสูง ยิ่งสมควรที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้ดังใฝ่ฝัน ชีวิตมีความหมายก็ต่อเมื่อเอาชนะตนเองได้ ซึ่งหมายถึงเอาชนะได้ทั้งสิ่งที่ปรารถนาและสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา เห็นท่าเต้นของคุณครูแล้วอดถามท่านไม่ได้ว่าปวดเมื่อยบ้างไหมคะ ท่านบอกว่าก้มีเหมือนกันนะ ถ้าครูไม่ได้เต้นรำหลายๆวัน พอได้เต้นแล้วหายปวดเป็นปลิดทิ้ง

เอาภาพล่าสุดที่คุณครู อายุ 75 เต้นรำกับ Champion โลกอายุ 38 ซึ่งอ้อนวอนขอเต้นกับคุณครูมาลงให้ดูเป็นกำลังใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง-เป็นไปได้ หากหัวใจปรารถนา (rose)

 

คุณอำนาจครับ เข้าไปอ่านได้ที่กระทู้นี้เลย
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=89345

หลังจากนี้เค้าไปคุยแตกยอดกันหลายกระทู้อีก

 

เห็นด้วยกับพี่ขจรวรรณอย่างมากเลยค่ะ เพราะสิ่งที่ต่างคนต่างเป็นในห้องนี้กลับเหมือนเป็นความฝันของใครหลายๆคนที่เจ้าตัวยังไม่ได้ทำไม่ได้เป็น พวกเราเป็นเหมือนดั่งจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าส่วนต่างๆของชีวิตได้ถูกเติมเต็มไปเรื่อยๆเมื่อได้พูดคุยกัน

ตอนนี้เริ่มมีเพื่อนๆพี่ๆหลายคนเปิดตัวเป็นนักเรียนใหม่กันแล้ว ยินดีต้อนรับจ้า ต้องรีบจำชื่อให้หมดล่ะแต่สงสัยจะตามมายด์ไม่ทัน เล่นแซวหมดทั้งห้องล่ะนี่ อิอิ

เมื่อวานไปไหว้หลวงพ่อเปิ่นที่วัดบางพระ นครปฐม ไปแบบไม่รู้ทางเลยแต่พี่สาวอยากไปทั้งๆที่ตัวเค้าก็ไม่รู้ทางเหมือนกัน ตอนกลางคืนก่อนนอนพี่สาวอธิษฐานขอกับรูปหลวงพ่อเปิ่นว่าขอให้ได้มีโอกาสไปไหว้ท่านและทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่น ขอยังไงก็ได้อย่างงั้นจริงๆค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่น ตอนไปถึงวัดก็มีไกด์(จำเป็น)แกชื่อพี่กล้วยเป็นลูกศิษย์ในวัดนี่แหล่ะ เหมือนเค้าถูกชะตากับพี่สาวนก เพราะตอนแรกเจอแกก็เค้าไปถามทาง แกแนะนำแล้วก็พาไปรอบวัดเลยแถมยังเอาองค์จตุคามมาให้นกกับพี่สาวคนละองค์โดยที่แกไม่เอาเงินเลย แต่พี่สาวให้แกไปบอกว่าช่วยทำบุญ อนุโมทนากับพี่กล้วยคนนี้ด้วยรู้สึกได้เลยว่าแกช่วยด้วยน้ำใจมากๆไม่ได้หวังผลอะไรเลย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู อากาศมันร้อนๆเหงื่อตกก็เลยขี้เกียจถ่ายรูป

 

โห คุณ mead สวยๆทั้งนั้นเลย หลานมายด์ไม่เอามั่งเหรอ แนะนำใบล่างนะมีรูปกระโหลกไขว้ด้วย ภาษาเคมีหมายถึงวัตถุอันตราย มีตัวอะไรอยู่ด้วย เอเลี่ยน มั้ง ถ้าหลานมีไว้ประจำตัวปลอดภัยยิ่งกว่ามีเหล็กไหลนะ รับรอง

 

ขอส่งการบ้านหน่อยครับ สัตว์เลี่ยงในจินตนาการ มีหลายตัวครับ อาทิเช่น เมียมน่าจะเป็นเพื่อนมากกว่าน่ะ จำกันได่ไม้ครับ ที่มีการ์ตูน มาเราไปดูอวกาส ดูในร่างกายคนอ่ะครับ เมียม ที่ตัวเป็นตุกตาตัวเล็กๆ เหาะได้ มีผมสี ฟ้ากะ สีชมพู น่ารักมากๆ(เป็นเวตาลของฝรั่ง) อีกตัวนี่เลย ยูนิคอน ม้าสีขาวบริสุทธิ์ มีเขา เคยเห็นในฝันครั้งนึง การบ้านขอส่งเป็นตัวอักษร น่ะครับ ส่งมาจากใจเลย

 

อยากเห็นบุคลิกเหรอ ลองจินตนาการคนหัวล้านแบบชะโดตีแปลง ตัวเล็กๆผอมๆอายุ 50 ฮะ กลัวผิดหวังจัง เห็นแล้วอาจไม่อยากเป็นนักเคมีเลยก็ได้ผมมีเพื่อนเป็นนายทหารอยู่กรมวิทย์ นั่นหนะผมกระหรอมกระแหรมเหมือนกัน สารเคมีก็ทำให้เราเป็นไปได้นะ แต่ตอนนี้ได้ศึกษาเรื่องจิตวิญญาณของอาจารย์อนาลัยแล้วเราสามารถเปลี่ยนบุคคลิกได้ แต่ต้องรอสักระยะรอเซลล์เก่าความจำเก่าๆที่อยู่ในเซลล์เปลี่ยนเป็นเซลล์ใหม่ความจำใหม่
ฟังการบรรยายของอาจารย์ปริญญา ผมชอบนะ ผมติดตามอ่านหนังสือของท่านมาหลายเล่มเหมือกัน ที่ศูนย์ประชุมอยู่ห้องไหนครับ คงได้เจอกันครับ คุณ mead ด้วยผมจะจูนคลื่นหาครับ

 

หลังๆในห้องนี้ แบค ทู สคูล ในเยอะน่ะครับ ตอนเด็กๆนี่อะไรก้มีความสุข

 

ผมเห็นด้วยกับคุณ mead ครับ น้องมายด์สุดยอดอยู่แล้ว รีบๆอ่านหนังสือของอาจารย์อนาลัยให้ตรบครับ น้องมายด์จะต้องยอมรับคำชม
อาจารย์สอนว่า ขณะที่ฝนตก ถ้าเราคิดว่าฝนไม่ตกก็ได้(ไม่ทราบว่าอยู่เล่มไหนฮะ)เพราะฝนมันก็ไม่ได้ตกทั้งปีเมื่อไหร่
รูปที่น้องมายด์จินตนาการ เราต้องบอกว่าของเราหรู นะ เรายิ่งใหญ่กว่าที่เราคิด อย่างที่ผมวาดส่งความจริงผมใช้เวลา 5 นาทีเองพอดีเห็นรูปองค์จุตคามที่ผมนับถือ ผมเลยลองวาดดู โอ๊ใช้ได้แฮะ(สำหรับผมนะ คือผมไม่ได้วาดรูปตั้งแต่ผมเถียงพี่ชายผมไม่ได้ตอนอายุ 7ขวบ แล้ว) แต่ถ้าแข่งกับคนอื่นแล้วก็ขอหลบโดยเฉพาะน้องมายด์ ของน้องมายด็สวยกว่า