เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

กระทู้ศาสตร์วิชาฝันให้คมชัด ไม่มีเรื่องบัญเอิญ นะครับคุณ mead
ลืมแล้วหรือครับ อิอิ(eek)

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ mead
เมื่อวันก่อนเพิ่งเล่าเรื่องผีอำไปหยกๆ.. เปิดมาเจอคำตอบในหนังสือที่เพิ่งซื้อล่าสุดพอดีเลยครับ "โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ"(ภาคต้น) พอเปิดหนังสือไปที่สารบัญเจอ บทที่ 6 การเผชิญภูตผี-ปีศาจหรืออสูรกาย ในขณะจิตวิญญาณจากร่าง แถมพนักงานที่ร้านก็เสียบที่คั่นหนังสือไว้ตรงบทที่ 6 พอดิบพอดี..อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น..(เหมือนรู้ใจยังไงไม่รู้ครับ)
เสียดายจังที่คุณแก้วตา77 พิมพ์เรื่องผีอำตั้งยาวแต่หายหมด เลยอดอ่านกันเลยครับคงมีแบบนี้กันแทบทุกคน ผมว่าเป็นประสบการณ์ที่รู้สึกน่ากลัวยิ่งกว่าความฝันหลายเท่าทีเดียวครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
สำหรับขจรวรรณพึ่งตอบกระทู้คุณ Mead ไปเมื่อวานนี้เองว่า อาการดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเรื่องผีอำ คืนที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์ให้ตื่นเต้นอีกเหมือนกัน ..สงสัยต้องขอความรู้จากพี่นักเขียนซะแล้ว ..
คืนที่แล้วไม่รู้เป็นอะไร ตัวเองนอนหลับอยู่ดี ๆ จิตก็ตื่นขึ้นมาทันที แล้วมองเห็นแสงสว่างดวงใหญ่มากพุ่งเข้ามาและอยู่บริเวณหน้าอกด้านขวา ทันทีที่แสงดังกล่าวพุ่งมาถึงตัวเอง ความรู้สึกคล้ายคล้ายกระแสไฟฟ้าในร่างกายของเราดับวูบไป จนเกือบหมดความรู้สึก แต่เพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะหมดสติไปก่อนก็สามารถรวบรวมสติมาได้ จึงรวบรวบความรู้สึกทั้งหมดไปที่แสงนั้นเพื่อจะผลักออกไปจากร่างกาย ก็ปรากฏว่าแสงดังกล่าวก็ไหลลงไปที่ปลายเท้า แล้วก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นจริง ๆ ....
(b-no)

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ yutkanlaya
(b-ping) (b-ping) (b-ping) (b-ping) ^-^ ^-^ ^-^

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ยินดีต้อนรับ...นักสู้...ผู้รู้แจ้ง

สงสัยจะเป็นลูกศิษย์อาจารย์คนเดียวกันแน่ ๆ เลย

" นักสู้เพื่อการรู้แจ้ง " นิยามของฆราวาสอย่างเรา ๆ ที่จะต้องเรียนรู้บททดสอบ ไม่ต่อสู้.. ตอบโต้.. หรือต่อต้าน จากผู้ที่อยู่รอบข้างตัวเราซึ่งคอยหยิบยื่นบททดสอบให้ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว.. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณYutkanlya...
<!-- / message -->

 

Ohhhhh..มีเรื่องตื่นเต้นกันแทบทุกวัน
คุณขจรวรรณรวบรวมสติได้เร็วทีเดียวครับ จดจ่อไปที่แสงประหลาดได้รวดเร็วมาก สงสัยใช้วิชาที่เรียนมาล่ะสิครับ [รับรู้-ไม่รับเอา] ไม่ทันได้เจรจาอะไรก็ผลักพรวดออกไปเลยนะครับ

เรื่องผีอำ ตามความรู้สึกแล้วเหมือนจิตปรุงแต่งจากการนอนทับแขนจนชา-ขยับตัวไม่ได้เหมือนกันครับ..แต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธไม่ได้ว่าเราไม่ได้พบเจอสิ่งนั้น เพราะมัน..บรื๊อมากๆ!!.ตอนเด็กๆเคยเจอขนาดขยับเขยี้อนตัวไม่ได้เลย เค้าถือมีดจะมาเสียบด้วย..มันเหมือนของจริงมากครับ

 

ไม่มีความบังเอิญจริงๆครับ..
ทุกอย่างถูกจัดสรรไว้อย่างเหมาะเจาะ จนเราเองก็คาดไม่ถึงนะครับพี่เม้าส์

 

แต่ละคนไปเจอโน่นเจอนี่ ได้อะไรมากันเยอะจัง ไอ้เรายังอยู่ระหว่างการฝึกให้มีสติในฝันอยู่เลย และก็อาจจะเพราะว่านอนดึกด้วยมั๊ง เวลาหัวถึงหมอนซักพักก็หลับซะแล้ว ไม่ได้ตั้งสติอะไรมากเลย

วันนี้ก็ได้ไปซื้อหนังสือมาเพิ่มอีก 4 เล่ม ซื้อมาเก็บๆ ไว้ก่อนเดี๋ยวไล่ตามอ่านทีหลัง

วันนี้คิดไปเรื่อง six sense ที่ว่าความรู้สึกของตัวเอง นั่นแหละเป็นตัวบอกความจริงถึงสิ่งต่างๆ เลยนึกไปถึงว่า เอ... แล้วความรู้สึกแบบรักแรกพบ แบบที่ว่ามองแว่บแรกแล้วปิ๊งเลยล่ะ อย่างนี้จะเป็นการทำงานของ six sense ด้วยหรือเปล่าเนี่ย หรือเป็นแค่การทำงานของสัญชาตญาณเฉยๆ

 

เป็น Point of Purchase ที่ดึงดูดลูกค้าที่เผลอตัวให้ซื้อหรือเปล่าฮะ?
แบบว่ารูปเล่มสวยงาม เห็นแล้วไม่ทันคิด เลยเสียเงินให้คนขายเลย อิๆๆ

 

ส่วนตัวก็ชอบอ่านหนังสือประเภทนี้อยู่แล้วล่ะคับ เห็นที่ไรก็ชอบหยิบมาอ่าน หนังสือแนวนี้ต่างประเทศจะมีเยอะกว่าแฮะ มีแปลมาไทยไม่เยอะเท่าไหร่

 

ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์น่ากลัวหรือน่าตื้นเต้นแบบพี่ๆเลย แต่ครั้งนึงเคยฝันว่านั่งอยู่ในบ้าน แล้วมีเด็กผู้ชายผมจุกไม่ใส่เสื้อนุ่งกางเกงแดง ตอนนั้นรู้ล่ะว่าเป็นกุมารที่อยู่ศาลตรงข้ามหน้าบ้าน เค้ามายืนเกาะประตูแล้วพูดว่า พี่ๆขออยู่ด้วยนะ เราก็เลยบอกไปว่าคงไม่ได้หรอกเพราะว่ามีเจ้าที่อยู่แล้ว เดี๋ยวเจ้าที่ว่าเอา เราก็พูดไปแบบเกรงใจเจ้าที่ พอตื่นขึ้นมาก็ยังคิดอยู่เลยว่าใช่กุมารเค้ามาหาเราแน่หรือเปล่า ศาลที่ว่าเป็นศาลไม้มีตากับยายและกุมาร แต่ก่อนหน้าบ้านมีคนอยู่คอยเปิดไฟที่ศาล คอยดูแลเช็ดถูทุกวัน ตอนนี้บ้านนั้นย้ายไปแล้วก็เลยดูร้างๆไปไฟก็มืดไม่ได้เปิด บรรดาคอหวยที่เคยมาขอเลขมาขูดตรงต้นโพธิ์หลังศาลพอไม่ถูกหวยก็ไม่ได้เอาอะไรมาไหว้ ศาลยิ่งดูเงียบเหงาไปใหญ่ แต่ที่นกกับแม่เคยไหว้ยังไงก็ยังไหว้อยู่ประจำ

 

ตามหาพี่นักเขียนอยู่ครับ

 

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175> WebSnow<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
เว็ปมาสเตอร์ (วีระชัย)
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 01:17 PM
วันที่สมัคร: Sep 2004
สถานที่: London, England
อายุ: 32 ปี
ข้อความ: 6,218 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1,013 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 24,987 ครั้ง ใน 3,325 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 50000




</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ได้ทำเป็นกระทู้แนะนำ (sticky)
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->Hi mead,

The following thread that you created has been made sticky

-----
Thread: เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]
Forum: วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ
-----


</TD></TR></TBODY></TABLE>


ขอขอบคุณคุณเวปหิมะเป็นอย่างมากครับ!

(b-smile)(b-smile)(b-smile)

 

ผ่านแถวนี้+ระวังถูกสอยร่วงนะคับ!

 

สงสัยคุณซิปกำลัง..Q+Q
มันคงมีรหัสที่บันทึกลงในจิตแบบข้ามภพชาตินะครับ.. อิอิ

 

ได้ทำเป็นกระทู้แนะนำ (sticky)

ไชโย.....หาสะดวกขึ้นเยอะเลย

 

รอ ร้อ รอ พี่นักเขียนเมื่อไหร่จะกลับ......'_'

 

แหม ก็แค่คิดว่าอาจจะมีคนอยากรู้เรื่องนี้แน่เลย เลยชิงถามให้ อิอิ

 

คุณ ผู้เขียน นับว่ามีวิธีคิดวิเคราะห์ที่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนาที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ศึกษาพิจารณามา(ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผม) ซึ่งมีความเคารพหลักเหตุผลอย่างเด่นชัด ไม่ยึดมั่นตามความเชื่อหรือตำราใดๆจนเกินไปซึ่งอาจทำให้ขาดวิจารณญาณต่อข้อเท็จจริงอื่นๆในธรรมชาติได้ และลึกๆแล้วเชื่อว่าท่านวิเคราะห์อธิบายโดยเคารพอ้างอิงหลักพระไตรลักษณ์,พระปฏิจจสมุปบาท ฯลฯ คล้ายๆผมนะ แต่มีความคิดหลายอย่างละเอียดกว่า อธิบายได้คล่องกว่า

ขอแสดงความนับถือว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่เหมาะสมในการเผยแพร่แนวคิดวิเคราะห์ข้อเท็จจริงในธรรมที่สอดคล้องสู่วิวัฒนาการทางแนวคิดของมนุษย์อนุชนรุ่นต่อๆไป

ถ้าหากผมมีปัญหาข้อสงสัยหรือการต้องการข้อวิจารณ์ใด แล้วจะเข้ามาถามในกระทู้ที่เกี่ยวกับท่านนะครับ ลำพังตั้งกระทู้เอง(ไม่ว่าที่เว็บบอร์ดไหน)รู้สึกว่าเรตติ้งย่ำแย่เหลือเกิน

และขอขอบคุณ คุณ Mead , คุณ Websnow ฯลฯ ที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้อ่านได้รู้จักนักคิดอีกท่านหนึ่ง และได้ศึกษาแนวคิดที่น่าพิจารณานะครับ

 

เอ แล้วรู้ได้ไงอาคะ ว่าเป็นสมเด็จโต เห็นส้มตำแล้วชักจะงงๆ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ leogirlw99
ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์น่ากลัวหรือน่าตื้นเต้นแบบพี่ๆเลย แต่ครั้งนึงเคยฝันว่านั่งอยู่ในบ้าน แล้วมีเด็กผู้ชายผมจุกไม่ใส่เสื้อนุ่งกางเกงแดง ตอนนั้นรู้ล่ะว่าเป็นกุมารที่อยู่ศาลตรงข้ามหน้าบ้าน เค้ามายืนเกาะประตูแล้วพูดว่า พี่ๆขออยู่ด้วยนะ เราก็เลยบอกไปว่าคงไม่ได้หรอกเพราะว่ามีเจ้าที่อยู่แล้ว เดี๋ยวเจ้าที่ว่าเอา เราก็พูดไปแบบเกรงใจเจ้าที่ พอตื่นขึ้นมาก็ยังคิดอยู่เลยว่าใช่กุมารเค้ามาหาเราแน่หรือเปล่า ศาลที่ว่าเป็นศาลไม้มีตากับยายและกุมาร แต่ก่อนหน้าบ้านมีคนอยู่คอยเปิดไฟที่ศาล คอยดูแลเช็ดถูทุกวัน ตอนนี้บ้านนั้นย้ายไปแล้วก็เลยดูร้างๆไปไฟก็มืดไม่ได้เปิด บรรดาคอหวยที่เคยมาขอเลขมาขูดตรงต้นโพธิ์หลังศาลพอไม่ถูกหวยก็ไม่ได้เอาอะไรมาไหว้ ศาลยิ่งดูเงียบเหงาไปใหญ่ แต่ที่นกกับแม่เคยไหว้ยังไงก็ยังไหว้อยู่ประจำ

</TD></TR></TBODY></TABLE>จากที่เคยศึกษามาจากผู้รู้หลาย ๆ ท่าน ทุกท่านมีความคิดเห็นตรงกันว่าการฝึกของแต่ละคนมักจะไม่เหมือนกันค่ะ เนื่องจากจิตวิญญาณของเราจะสะสมความรู้มาต่าง ๆ กัน อย่างเช่นขจรวรรณบางครั้งเข้าไปอยู่ในกลุ่มพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่มีความรู้ด้านการมองเห็น เค้าก็จะคุยกันเกี่ยวกับเทพ, เทวดา หรือสิ่งเร้นลับที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ก็จะมีอาการ เอ๋อเหรอ.. รับประทานเหมือนกันค่ะ หรือบางคนมีความสามารถเกี่ยวกับการอ่านจิต แค่มองดูเค้าก็จะสามารถเล่าให้ฟังเป็นฉาก ๆ เหมือนกันว่าคนนี้คิดยังไงกับเราอยู่ แต่เค้าก็เล่าให้ฟังว่าบางครั้งการที่คนเราไปรู้ทันความคิดของคนอื่นโดยที่ตั้งสติไม่ทันก็จะเครียดเหมือนกันนะคะ เพราะว่าจิตของแต่ละคนบางครั้งเราก็ไม่คาดคิดว่าจะคิดไม่ดีขนาดนั้น
สรุปคือไม่ว่าจะเกิดอารมณ์ใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเรา เราต้องตั้งสติรับรู้ แต่ไม่ต้องรับเอามาเป็นอารมณ์ เพราะจะทำให้จิตของเราไม่สงบเปล่า ๆ..นะจ๊ะ ขอเป็นกำลังใจในการฝึกฝนค่ะ.. สู้..สู้..
(b-2love)

 

เคล็ดลับในการอ่านหนังสือของอาจารย์อนาลัย ผมเห็นว่าต้องทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ให้ดีก่อนครับ แล้วจะพบโลกแห่งความจริงที่เราคาดไม่ถึง

1-เรื่องของความเชื่อเดิม การเปิดใจ

ต้องกำจัด ความเชื่อ และความคิดแคบๆเกี่ยวกับชาติภพ และการเป็นตัวตนที่ว่า เราดำเนินชีวิตไปในร่างเดียว มิตืเดียวออกไปเสียก่อน..แล้วจะพบกับความรู้ใหม่หลากหลายมิติ อันเป็นธรรมชาติของความเป็นจริง

2-ควรรู้ว่าฐานความรู้และความทรงจำเดิมของเราได้มาจากไหน?

แหล่งที่1
จากจิตวิญญาณ ผ่านร่างบรรพบุรุษ ที่เป็นรหัสทางชีวภาพในรูปลักษณ์ของ โครโมโซม (chromosome)เราสามารถรับรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ของบรรพบุรูษของเราได้เช่นกัน

แหล่งที่2
จิตวิญญาณมนุษย์ที่ ร่วมกาลเวลา ซึ่งเกิดขึ้นตลอดวันระหว่างบุคคลทั้งหลายที่มีชิวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครับ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือคนแปลกหน้า แม้แต่คู่ชิวิต มีการให้+การรับเกิดขึ้นระหว่ากันทั้งทางตรงและทางอ้อม

แหล่งที่ 3
จากตัวเราในอดีตชาติ-ปัจจุบันชาติ จากจิตวิญญาณต่างภพชาติ-ต่างมิติ ซึ่ง้ป๋นรหัสทางชีวภาพในรูปลักษณ์ของ ยีน(genes) เป็นรหัสร่วม ที่กำหนดรูปลักษณ์และพันธุกรรมก่อนหน้าที่ที่เราจะมาถือกำเนิดในชาติภพนี้ ประสบการณ์ข้ามภพชาติถ่ายทอด แปลงสภาพ และถอดรหัสอีกครั้งเพื่แปลงสภาวะเป็นอ รมณ์และสติสัมปชัญญะอีกครั้งหนึ่ง


2-เรื่องของ เครื่องพราง ระยะทาง ช่องว่าง และกาลเวลา

เรามาอยู่ในมิติโลกที่มีเครื่องพรางเฉพาะตัว (ซึ่งแต่ละดวงดาวมีค่าไม่เหมือนกัน)ในความเป็นจริงนั้น เวลามีค่าเท่ากับหนึ่ง (มิติของเวลาสากล ที่ไม่อ้างอิงเวลาของโลก) เสมือนว่าเราเป็นจุดศูนย์กลางของกาลเวลาที่เป็นทรงกลม ทุกเรื่องราวล้วนพุ่งเข้าหาศูนย์กลางได้ทุกตำแหน่ง ไม่ต้องย้ายไปที่ใดๆ จาก A->B หรือ A->Dโดยใช้เวลาเท่าๆกัน อดีต-+ปัจจุบัน-อนาคต ล้วนเกิดขึ้นได้พร้อมกันหมด เหมือนกับต้นไม้ 1 ต้นที่ออกใบ ออกดอก ผลิดอก บาน และร่วงโรย และสามารถออกใบ+ออกดอกใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน

อนาคตคือสิ่งที่เป็นไปของมันเช่นนั้นเกิดขึ้นบนเส้นทางที่กำหนดไว้แล้ว..ปัจจุบันคือจุดยืนที่สามารถเปลื่ยนแปลงทางเลือกได้ อดีตคือเหตุปัจจัยทั้งหมดที่ส่งผลสู่ปัจจุบันและอนาคตชาติ

ลองนึกภาพเรายีนบนอยู่ยอดเขา..(ในหนังสือธรรมชาติของชาติภพ)
ยอดเขาที่เรายีนอยู่คือปัจจุบันชาติ
ชั้นหินใต้ภูเขา คืออดีตชาติ
ต้นหญ้า ต้นไม้..มวลอากาศด้านบนคืออนาคตชาติ

ถ้าปัจจุบันเรารดน้ำต้นไม้ พรวนดินให้ร่วนซุยทุกวี่วัน
น้ำที่เรารดลงไป ฝนที่ตกลงมา สามารถแทรกซึมลงสู่ใต้ดินได้
เท่ากับเราสามารถแก้ไขอดีต และสร้างอนาคตได้จากปัจจุบันชาตินี่เองครับ
เพราะเวลาที่แท้จริงของจิตวิญญาณ ไม่มีอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ผมทำความเข้าใจออกมาประมาณนี้ครับ หวังว่าคงเข้าใจถูกเจตนารมณ์ของนักเขียนนะครับ เผื่อใครที่ยังไม่เห็นภาพลองนึกตามดูง่ายๆครับ อาจเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ ตอนนี้ผมก็อ่านวันละ 2 บท ก่อนนอนทุกคืนๆ..คงอีกหลายเดือนกว่าจะอ่านหมดทุกเล่ม ติดขัดตรงไหนรอถามนักเขียนกันต่อครับคงใกล้จะกลับมาแล้วล่ะครับ