สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• หิมะตกหนักทั่วโปแลนด์

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">[ 01-12-2553 ]

</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%">
</td> <td width="93%"> สาธารณรัฐโปแลนด์ยังคงเผชิญหิมะตกหนัก มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 คน นับตั้งแต่พายุหิมะพัดถล่มยุโรปกลางเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


อุณหภูมิช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาลดต่ำถึง - 9 องศาเซลเซียส ในเมืองเบีย ลีสต็อค ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโปแลนด์ ใกล้ชายแดนสาธารณรัฐ เบลารุส สื่อมวลชนโปแลนด์รายงานว่า ประชาชนในเมืองเบียลีสต็อค 3 คนเสียชีวิต เนื่องจากร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ โดย 2 คน เป็นชายคนจรจัด อายุ 35 ปี และ 53 ปี คนที่ 3 เป็นหญิงชราวัย 75 ปี


สภาพอากาศเลวร้ายเช่นนี้ทำให้สภาพถนนอันตรายอย่างมาก เนื่องจาก หิมะจำนวนมากสะสมตัวกันเร็วเกินกว่ารถกวาดหิมะ จะกวาดออกจากถนนได้ทัน


อุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นหลายครั้ง ผู้คนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ ตำรวจต้องทำงานหนักในการรับมือกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปีนี้ การกู้ภัยและช่วยเหลือจะใช้เวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง



ในกรุงวอร์ซอ พนักงานเก็บกวาดหิมะพร้อมพลั่วและรถกวาดหิมะ จำนวนมากมารวมตัวกันตามท้องถนน รถแทร็คเตอร์และรถบรรทุกเล็ก ต้องติดตั้งไถพิเศษขนาดใหญ่เพื่อเคลียร์หิมะปริมาณมาก เพื่อทำให้ กรุงวอร์ซอ ที่มีประชากรกว่า 1.7 ล้านคน กลับคืนสู่ภาวะปกติได้ จากการพยากรณ์ของหน่วยอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติโปแลนด์ คาดว่า อุณหภูมิทั้งในและโดยรอบกรุงวอร์ซอจะลดต่ำลงถึง -20 องศาเซลเซียส ภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

หลายประเทศอากาศแปรปรวน ยุโรปหนาวตาย 60 คน

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทั่วยุโรป ล่าสุดได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 60 คน และหิมะทำให้การคมนาคมขนส่งในอังกฤษเป็นอัมพาต โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 17 คน จากอากาศหนาวเย็นทางตอนกลางของยุโรปใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในสัปดาห์นี้เพิ่มเป็น 45 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิต 11 คนในรัสเซีย ในฝรั่งเศส 3 คนและ 1 คนที่เยอรมนี ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จากจำนวน 30 คน เป็นผู้ไร้บ้านในโปแลนด์ ซึ่งต้องหนาวตายเพราะอุณหภูมิติดลบ 15 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน

ที่ประเทศสกอตแลนด์ อุณหภูมิได้ลดลงติดลบ 20 องศาเซลเซียส ส่วนหิมะที่ตกหนักในอังกฤษ ทำให้ประชาชนต้องสัญจรด้วยเท้า เนื่องจากการคมนาคมขนส่งเป็นอัมพาต และแม้ว่าท่าอากาศยานแกตวิค ของกรุงลอนดอนได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากปิดเนื่องจากหิมะ แต่ยังคงมีคำเตือนการยกเลิกเที่ยวบิน และความล่าช้าของเที่ยวบิน เช่นเดียวกับสนามบินอื่น ๆ เช่น ฮีทโรว์ในกรุงลอนดอนและกลาสโกว์ในสกอตแลนด์ ส่วนรถไฟหลายขบวนถูกยกเลิกการเดินทางเนื่องจากหิมะ ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นไปอย่างเชื่องช้า

ส่วนที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย อุณหภูมิลดต่ำลงติดลบ 24 องศาเซลเซียส ต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี ส่วน ที่เขตห่างไกลในไซบีเรียมีรายงานว่าอุณหภูมิติดลบ 51 องศาเซลเซียส รวมถึงที่ประเทศจีน มณฑลไฮหลงเจียง และเขตมองโกเลียใน เผชิญกับหิมะตกหนัก เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรของประชาชน ส่งผลให้ทัศนวิสัยเลวร้าย อุณหภูมิติดลบ 22 องศาเซลเซียส

แต่ ในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ และผู้เชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก สหประชาชาติ ที่เมืองแคนคูนของเม็กซิโก พบว่าทศวรรษนี้เป็นทศวรรษที่ร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา นับตั้งแต่ปี 2393 และพบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงเดือนตุลาคม อาจสูงที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 หลักฐานจากอากาศที่ร้อนระอุ ในช่วงฤดูร้อนของรัสเซีย และฤดูหนาวที่เบาบางในเขตอาร์คติค

​

อย่างไรก็ตาม แม้พื้นที่ส่วนใหญ่ในยุโรปมีสภาพอากาศหนาวเย็น แต่ทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน เกิดอุทกภัยที่เกิดจากฝนตกหนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน ประชาชนหลายพันคนในแอลเบเนีย บอสเนีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร อพยพละทิ้งบ้านเรือนไปอยู่ในที่ปลอดภัย และรัฐนิวเซาท์เวลล์ของออสเตรเลีย และออสเตรเลีย แคปปิตอล แทริทอรี บ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำ หลังฝนตกหนัก และนับเป็นสัปดาห์ที่มีฝนตกหนักที่สุด ในรอบ 50 ปี ของกรุงแคนเบอร์ร่า นอกจากกระทบกับประชาชนแล้ว สัตว์ในสวนสัตว์แห่งชาติ ก็ได้รับผลกระทบ เพราะน้ำท่วมกรง

ขณะเดียวกัน มีหลายประเทศก็เริ่มเจอสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดที่สุด ในรอบ 60 ปี เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไฟป่า ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล ที่เริ่มลุกไหม้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 ธันวาคม) และยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วถึง 41 คน



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 02-12-2553 | 11:56 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">อังกฤษ โปแลนด์ สก็อตแลนด์ และอีกหลายประเทศทางตอนเหนือของทวีปยุโรป ยังคงเผชิญกับสภาพอากาศหนาวจัด หิมะตกหนักปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ส่งผลให้การจราจรทั้งทางบกและอากาศเป็นอัมพาตในหลายจุด โดยที่โปแลนด์ สภาพอากาศเลวร้าย อุณหภูมิติดลบ 22 องศาเซลเซียส มีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นจัดนี้แล้วอย่างน้อย 8 คน ระบบการคมนาคมขนส่งเป็นอัมพาต ประชาชนไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ ติดค้างอยู่ตามสถานีรถโดยสารและรถไฟเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับสนามบิน "เอดินเบิร์ก" ของสก็อตแลนด์ ที่ต้องปิดสนามบินยาวจนถึงวันนี้ เนื่องจากไม่สามารถให้เครื่องบินขึ้นทำการบินได้
ส่วนที่อังกฤษ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และประชาชนทั่วไป ต้องติดอยู่กลางถนนท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาปกคลุมหนา โรงเรียนและสถานประกอบการนับพันแห่ง ในหลายพื้นที่ต้องปิดทำการ

อย่างไรก็ดี มีเพียงกรีซ เท่านั้นที่ยังรอดพ้นจากอากาศหนาว โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ มีอุณหภูมิสูงอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียสในตอนกลางวัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวแถบยุโรป หรือแม้แต่ชาวกรีกเอง ต่างพากันเดินทางไปยังชายหาดเพื่อพักผ่อน

ขณะเดียวกัน รัฐจอร์เจีย ของสหรัฐฯ เจอกับพายุทอร์นาโด พัดเข้าถล่ม ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 50 หลังได้รับความเสียหาย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อากาศหนาวจัดในยุโรป

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 02-12-2553 | 01:49 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">อากาศที่หนาวจัดส่งผลให้หิมะตกหนักในหลายพื้นที่ทั่วยุโรป ที่โปแลนด์พบคนจรจัดเสียชีวิตจากอากาศหนาวแล้ว 8 คน หลังจากอุณภูมิเมื่อคืนที่ผ่านมาลดลงต่ำกว่าลบ 20 องศาเซลเซียส และมีรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกหลายร้อยครั้ง ทั้งในโปแลนด์และเยอรมนี ส่วนที่อังกฤษ ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ สนามบินหลายแห่งต้องปิดลง ในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามกำจัดหิมะจากรันเวย์ และเที่ยวบินอีกจำนวนมากที่สเปน เยอรมนีและออสเตรียต้องล่าช้าออกไปหลายชั่วโมงเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่สนามบินต่างแนะนำให้ผู้ที่จะเดินทาง ตรวจสอบสถานะเที่ยวบินของตนก่อนออกจากบ้าน ทั้งนี้ สถาบันอุตุนิยมวิทยาของสวิตเซอร์แลนด์ได้คาดการณ์ว่า จะยังคงมีหิมะตกอย่างต่อเนื่อง และอุณภูมิหนาวจัดในเวลากลางคืน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ยุโรป หนาวจัดตาย 8 สนามบินปิดเพียบ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 02-12-2553 | 10:39:03 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ยุโรป หนาวหนัก ตายแล้ว 8 ในโปแลนด์ ขณะที่สนามบินใหญ่ ในอังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส หลายแห่งปิดให้บริการ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หลายพื้นที่ในยุโรป กำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมีหิมะ ปกคลุมอย่างหนัก เป็นเหตุให้ต้องปิดสนามบินหลัก ในสหราชอาณาจักร และ สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนทางหลวง อีกนับร้อยครั้ง

โดยสนามบินแกตวิก สนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกรุงลอนดอน และสนามบินกรุงเจนีวา ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางหลักของสายการบินต้นทุนต่ำ ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ในวันพุธ ที่ผ่านมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บกวาดหิมะ ออกจากรันเวย์ เช่นเดียวกับ สนามบินเอดินเบอระ ในสกอตแลนด์, สนามบินลีดส์ ทางภาคเหนือของอังกฤษ, สนามบินแชมเบอรี และสนามบินเกรโนเบอ ในทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่สามารถหาห้องพักในตัวเมืองได้

ขณะเดียวกัน สนามบินอีกหลายแห่ง อาทิ บรัสเซลส์, แฟรงเฟิร์ต, มิวนิค, เวียนนา, ปราก และ ปารีส ซึ่งเปิดให้บริการ แต่เกิดปัญหาความล่าช้าของเที่ยวบินต่างๆ เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจของโปแลนด์ เปิดเผยด้วยว่า มีผู้เสียชีวิต 8 ราย หลังจากอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงประมาณติดลบ 20 องศาเซลเซียส
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ดินไหว ปาปัว นิวกินี 6.9 ริกเตอร์/strong>
• 
  

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 02-12-2553 | 11:47:20 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.9 ริกเตอร์ ทางตะวันออกของปาปัว นิวกินี เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวทางฝั่งตะวันออกของปาปัว นิวกินี ซึ่งสามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 6.9 ริกเตอร์ โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ลึกลงไปใต้ผิวดิน 32.1 กิโลเมตร ห่างจากเมืองกันเดรียน บนเกาะนิวบริเทน ของปาปัว นิวกินี ประมาณ 35 ก.ม. และห่างจากรัฐควีนส์แลนด์ ของออสเตรเลียถึง 2,385 ก.ม.

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานของความเสียหาย จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ทอร์นาโดถล่มจอร์เจียสหรัฐ เสียหาย 5ล้าน$

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 02-12-2553 | 10:40:27 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ทอร์นาโดถล่มรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายกว่า 50 หลัง โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ คาดเสียหายกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ รายงานว่า พายุทอร์นาโด ซึ่งมีความแรงลม 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้พัดถล่มรัฐจอร์เจีย ส่งผลให้มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 50 หลัง ได้รับความเสียหาย แต่เคราะห์ดี ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากพายุลูกดังกล่าว

ทั้งนี้ อิทธิพลของทอร์นาโด ลูกนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ลมกระโชกแรง เป็นเฟตุให้มีต้นไม้หักโค่นล้มทับสายไฟ จนทำไฟดับ เป็นสวงกว้าง และโรงเรียนต้องเลื่อนกำหนดการเปิดเรียนออกไป คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีการเตือนภัยทอร์นาโด ในรัฐเวอร์จิเนีย ด้วย ส่วนในกรุงวอชิงตัน ได้มีการแจกจ่ายกระสอบทราย เพื่อเตรียมป้องกันน้ำท่วมด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ความสูญเสียจากเหตุหิมะตกหนักในอังกฤษ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 03-12-2553 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ขณะที่อังกฤษกำลังเผชิญกับสภาพอากาศฤดูหนาวก่อนกำหนดที่เลวร้ายที่สุด ในรอบเกือบ 2 ทศวรรษนั้น บริษัทประกัน RSA ของอังกฤษระบุว่า หิมะที่ตกทั่วประเทศ อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่าถึงวันละ 1,200 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท

ผู้ค้าปลีกต้องพึ่งพาลูกค้าที่ออกมาช็อปปิงในเดือนแห่งการเฉลิมฉลองคริสต์มาส และปีใหม่ แต่สภาพอากาศอาจทำให้ผู้คนออกมาจับจ่ายน้อยลง

รัฐบาลอังกฤษของนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า ขาดความสามารถ ที่จะรับมือกับสภาพอากาศที่เลวร้ายเช่นนี้ หากสภาพอากาศยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ภาคก่อสร้างอาจเป็นรายต่อไปที่ได้รับผลกระทบ และอาจส่งผลกระทบต่อตัวเลข GDP ของไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางคนมองว่า สภาพอากาศเช่นนี้น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับธุรกิจเสื้อผ้า เพราะเมื่ออากาศหนาว ผู้คนจะซื้อเสื้อกันหนาวกันมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะซื้ออาหาร เพื่อเตรียมรับอากาศหนาว แต่กลุ่มที่เสียประโยชน์ น่าจะเป็นร้านอาหารและภัตตาคารต่างๆ เพราะอากาศหนาวเช่นนี้ คงไม่มีใครอยากออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สภาพอากาศหนาวเย็นจัด หิมะตก ในทวีปยุโรป

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 03-12-2553 | 04:59 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวเย็นจัดถึงขั้นอุณหภูมิติดลบ และหิมะที่ตกหนัก ในหลายประเทศ ของทวีปยุโรป ยังคงส่งผลกระทบต่อการคมนาคม ทั้งทางบกและทางอากาศ โดยในกรุงปารีส ของฝรั่งเศสเที่ยวบิน ราว 25 เปอร์เซนต์ ต้องยกเลิกให้บริการ ส่วนในกรุง"บรัสเซล" ของเบลเยียม ผลกระทบจากหิมะตกหนัก ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรอย่างหนัก เช่นเดียวกับในเยอรมนี พบว่าหิมะที่ตกหนัก ทำให้เกิดปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุบนถนนหลายสาย และยังส่งผลกระทบ ต่อการให้บริการเที่ยวรถไฟ รวมทั้งทำให้หลายเที่ยวบินในสนามบินกรุง"เบอร์ลิน" ต้องเลื่อนให้บริการ ขณะที่บรรดาสัตว์ในสวนสัตว์กรุงเบอร์ลิน ต่างไม่ปรากฏโฉมออกมาให้เห็น เนื่องจากต้องหลบภัยหนาว อยู่ในร่ม /ในอังกฤษ สนามบิน"แกตวิค" กรุงลอนดอนต้องปิดบริการต่อเนื่อง เป็นวันที่ 2 ทำให้เที่ยวบิน กว่า 600 เที่ยวต้องยกเลิก ส่วนที่โปแลนด์ สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด และเต็มไปด้วยหิมะตก ก็ส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินและรถไฟ รวมทั้งทำให้เกิดปัญหากระแสไฟฟ้าดับ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนหลายพันหลัง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ไฟป่าอิสราเอลเสียชีวิต 40 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 03-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">อิสราเอลต้องเผชิญกับไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 คน ทางการอิสราเอลต้องร้องขอองให้นานาชาติเข้าช่วยดับไฟป่า

ไฟป่าดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้เมืองไฮฟา ทางเหนือของอิสราเอลเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ยืนยันพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้คุมนักโทษ ซึ่งถูกเพลิงเผาไหม้ขณะอยู่บนรถบัส ระหว่างทางที่จะเข้าไปช่วยอพยพนักโทษออกจากเรือนจำดาม่อน ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติคาร์เมล คาดว่าผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ในจำนวนนี้ 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเชื่อว่า เสียชีวิตแล้ว ไฟป่าครั้งนี้นับว่าเลวร้ายที่สุดในรอบ 62 ปีนับตั้งแต่ที่มีการบันทึก

ทางการต้องระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยควบคุมไฟป่าหลายร้อยคน ขณะที่ทหารอีกหลายร้อยนายก็ระดมกำลังเข้าช่วยด้วย

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนธัยาฮู ของอิสราเอลได้ร้องขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ เพื่อดับไฟป่าครั้งนี้แล้ว ซึ่งกรีซเตรียมส่งเครื่องบินดับเพลิง 4 ลำมาช่วย ขณะที่ไซปรัสจะส่งเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินดับเพลิงอย่างละ 1 ลำมาช่วย ส่วนบัลแกเรียจัดส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 90 คนมายังอิสราเอล นอกจากนี้ยังมีโรมาเนีย ฝรั่งเศส รัสเซีย โครเอเชียและตุรกีที่จะให้ความช่วยเหลือด้วย

สาเหตุของไฟป่าครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ ซึ่งในเบื้องต้นเพลิงเริ่มขึ้นอยางน้อย 3 จุด ตั้งแต่เที่ยงวานนี้ และลมที่แรงจัดทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว เข้าเผาผลาญพื้นที่ป่าสนที่ขึ้นปกคลุมแนวสัน อุทยานแห่งชาติคาร์เมล ซึ่งในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศสวยงาม และขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งในอิสราเอล ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่า เกิดจากการลอบวางเพลิงหรือไม่ ขณะที่อีกสาเหตุหนึ่งเชื่อว่า อาจเกิดจากอุบัติเหตุจากเผาขยะ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำท่วมภาคตะวันออกของบอสเนีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 03-12-2553 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วภาคตะวันออกของบอสเนีย เฮอร์เซโกวีนา และอพยพประชาชนจำนวนมากไปยังที่ปลอดภัย หลังแม่น้ำดรีนา มีระดับน้ำเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่า 100 ปี

ประชาชนหลายร้อยคนถูกอพยพออกจากหมู่บ้านและเมืองต่างๆ ที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม โรงเรียนจำนวนมากถูกปิด หลายเมืองไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่น้ำจากท่อประปาหลักของเมืองกอรัซเดใช้ดื่มไม่ได้

ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้น้ำในแม่น้ำไหลท้นฝั่ง และเกิดน้ำท่วมขึ้นในเขตต่างๆ ของบอสเนีย แอลเบเนีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• โปแลนด์ หิมะท่วมเมือง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 03-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">โปแลนด์กับเบลเยียม ยังคงเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย ขณะที่หิมะและน้ำแข็งปกคลุมหลายประเทศในยุโรป

ในโปแลนด์ มีผู้เสียชีวิต 18 คนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย การจราจรทางถนน ทางรถไฟ และทางอากาศ และสนามบินต่างๆถูกปิด

กระทรวงมหาดไทยโปแลนด์ ออกแถลงการณ์ว่าประชาชน 10 คน ถูกพบแข็งตายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และอีก 8 คนเสียชีวิต เนื่องจากสภาพอากาศเย็นจัดเมื่อวานนี้

ภาคกลางของโปแลนด์ ซึ่งก็รวมถึงกรุงวอร์ซอ นครหลวง และภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ใกล้พรมแดนเยอรมนี เป็นเขตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
สนามบินปอซนัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ ถูกปิดและเครื่องบินถูกห้ามขึ้นบิน ผู้โดยสารถูกบังคับให้นอนในห้องใหญ่ในสนามบิน ขณะยานพาหนะกวาดหิมะพยายามที่จะเคลียร์หิมะออกจากรันเวย์ แต่ไม่สำเร็จ เที่ยวบินบางเที่ยวที่จะลงหรือขึ้นจากกรุงวอร์ซอถูกยกเลิก แต่สนามบินยังเปิด ขณะพนักงานเร่งเคลียร์หิมะใหม่ออกจากรันเวย์

ในเมืองล็อดซ์ ทางตะวันตก รถรางหลายขบวนตกรางและการขนส่งสาธารณะ หยุดชะงัก สภาพในกรุงวอร์ซอก็ไม่ต่างกันนัก ขณะที่หิมะกองสูงขึ้นทุกขณะ ผู้คนหลายร้อยคนไม่สามารถไปทำงาน หรือไปเรียนได้

ทุกปีสภาพอากาศหนาวจัดในฤดูหนาวคร่าชีวิตคนจรจัดหรือคนเมาไปหลายสิบคน ในโปแลนด์ สำนักข่าวแห่งชาติ PAP ของโปแลนด์ รายงานว่า ตำรวจขอร้องไม่ให้ประชาชนนิ่งดูดาย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากเห็นใครตกอยู่ในอันตรายตามท้องถนน หรือสวนสาธารณะ

โรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งเกิดเครื่องเสียในเมืองเลซโน ใกล้กรุงวอร์ซอเมื่อวานนี้ ทำให้ประชาชนประมาณ 20,000 คน ขาดเครื่องทำความร้อน และไม่มีน้ำร้อนใช้ชั่วคราว

ขณะเดียวกัน ในกรุงบรัสเซลส์ นครหลวงของเบลเยียม ก็มีหิมะท่วมสูง ทำให้ทั่วกรุงขาวโพลนไปด้วยหิมะ หลังหิมะตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ใจกลางกรุงบรัสเซลส์ ผู้คนต่างสนุกสนานกับกิจกรรมฤดูหนาวต่างๆ การจราจรตามท้องถนนเป็นไปอย่างเชื่องช้า เมื่อเวลา การจราจรติดขัดยาวเหยียดตามท้องถนนของกรุงบรัสเซลส์ ที่มีประชากรกว่า 1.75 ล้านคน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• รวมภัยน้ำท่วมหลายประเทศ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 04-12-2553 | 05:16 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">กรุง "แคนเบอรา" ของออสเตรเลีย เผชิญภาวะฝนตกหนักที่สุดในรอบ 50 ปี เป็นเหตุให้หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมขัง รวมถึงในสวนสัตว์ ซึ่งน้ำได้ท่วมขังกรง และที่อยู่ของสัตว์หลายชนิด ขณะที่ในรัฐนิวเซาท์ เวลส์ เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนในหลายพื้นที่ ซึ่งทางหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้จัดเตรียมเสบียงอาหาร และเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยประจำการคอยให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว

ส่วนในคาบสมุทรบอลข่าน หลายประเทศเผชิญภัยน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ โดยในโครเอเชีย ระดับน้ำในแม่น้ำ "เนเรตวา" แม่น้ำสายสำคัญของโครเอเชียได้เพิ่มสูงกว่า 4 เมตร ทำให้บ้านเรือนใกล้แม่น้ำหลายร้อยหลังถูกน้ำท่วม

ส่วนที่บอสเนีย ประชาชนหลายร้อยคนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ "ดรินา" ซึ่งไหลผ่านบอสเนีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโก ต้องอพยพออกจากพื้นที่ หลังน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกลงมาหนักและมีผู้เสียชีวิตในยุโรป

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 03-12-2553 | 16:55 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หิมะที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป ส่งผลให้เที่ยวบินจำนวนมาก ทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอีกหลายประเทศในยุโรป ต้องล่าช้า ผู้โดยสารรถยนต์ และรถไฟหลายพันคน ต้องติดอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก จนรถยนต์ และรถไฟไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ส่วนที่โปแลนด์ บ้านเรือนหลายพันแห่งไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่อุณภูมิหนาวจัดต่ำกว่าลบ 10 องศาเซลเซียส

ขณะเดียวกัน ในบริเวณคาบสมุทรบอลข่านทางยุโรปตะวันออก เกิดอุทกภัยรุนแรงที่สุดในรอบ 104 ปี โดยรัฐบาลของบอสเนีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และเร่งอพยพประชาชนจำนวนมาก ออกจากพื้นที่เสี่ยง หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนน้ำเอ่อล้นแม่น้ำ"ดรีน่า" สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน นอกจากนี้ ยังเกิดอุทกภัยในโครเอเชีย และอัลบาเนีย เนื่องจากมีฝนตกหนักเช่นกัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หลายประเทศ เผชิญสภาพอากาศแปรปรวน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 04-12-2553 | 07:35:26 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">การประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เผย ปี 53 ติดอันดับ 1 ใน 3 ของปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่มีการจดบันทึกสถิติไว้ ขณะที่ หลายประเทศ เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน ทั้ง หิมะตกหนัก น้ำท่วม และไฟป่า
จากสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดที่สุด ในรอบ 60 ปี เป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล ที่เริ่มลุกไหม้ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้ว ถึง 41 คน
ขณะที่ นานาชาติ เร่งส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องบินดับเพลิง เข้าช่วยควบคุมไฟป่า หลัง รัฐบาลอิสราเอล ร้องขอ แต่ที่ รัฐนิวเซาท์เวลล์ของออสเตรเลีย และออสเตรเลีย

แคปปิตอล แทริทอรี บ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำ หลัง ฝนตกหนัก และนับเป็นสัปดาห์ที่มีฝนตกหนักที่สุด ในรอบ 50 ปี ของกรุงแคนเบอร์ร่า นอกจาก กระทบกับประชาชนแล้ว สัตว์ในสวนสัตว์แห่งชาติ ก็ได้รับผลกระทบ เพราะน้ำท่วมกรง

ส่วนที่ ประเทศจีน มณฑลไฮหลงเจียง และเขตมองโกเลียใน เผชิญกับหิมะตกหนัก เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรของประชาชน ส่งผลให้ทัศนวิสัยเลวร้าย อุณหภูมิติดลบ 22 องศาเซลเซียส แต่ในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก สหประชาชาติ ที่เมืองแคนคูนของเม็กซิโก พบว่าทศวรรษนี้ เป็นทศวรรษที่ร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา นับตั้งแต่ปี 2393 และพบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงเดือนตุลาคม อาจสูงที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 หลักฐานจากอากาศที่ร้อนระอุ ในช่วงฤดูร้อนของรัสเซีย และฤดูหนาวที่เบาบาง ในเขตอาร์คติค ส่วน นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมและสมาชิกกลุ่มเอ็นจีโอ รวมตัวจัดกิจกรรมสนับสนุนการต่ออายุพิธีสารเกียวโต หลัง ญี่ปุ่น แสดงท่าทีว่า จะไม่ร่วมในเป้าหมายปรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังสิ้นสุดการบังคับใช้พิธีสารเกียวโต ในอีก 2 ปีข้างหน้า หากสหรัฐและจีน ยังคงไม่ลงนามรับรองเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ประเทศในบอลข่านเผชิญน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 04-12-2553 ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">3 ประเทศในคาบสมุทรบอลข่านเผชิญอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่าศตวรรษ แต่ล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

บอสเนีย, เซอร์เบียและมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักหลายวันติดต่อกัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมครั้งรุนแรง ตามพื้นที่ชายฝั่งแม่น้ำดรีน่า ซึ่งไหลผ่านประเทศเหล่านี้ โดยที่มอนเตเนโกร หมู่บ้านหลายแห่งได้จมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่โทรทัศน์เซอร์เบียรายงานว่าบ้านเรือนประชาชน ราว 300 หลังและชาวบ้านกว่า 1,400 คน ในหลายเมืองอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วม หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำดรีน่าเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับปกติถึง 11 เท่า

ขณะที่แม่น้ำลิมซึ่งอยู่ในเซอร์เบียก็ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 50 หลังและพื้นที่ราว 625 ไร่ ขณะที่ทางการบอสเนียได้สั่งอพยพประชาชนหลายร้อยคน ออกจากชายฝั่งแม่น้ำดรีน่า เจ้าหน้าที่ของทั้ง 3 ประเทศต้องใช้เรือยางเข้าช่วยเหลือชาวบ้านออกจากอพาร์ทเม้นต์ นอกจากนี้ก็สั่งปิดโรงเรียน ขณะที่กระแสไฟฟ้า และประปาถูกตัดขาด นับเป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 104 ปีของประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน

ส่วนโครเอเชีย แม้จะไม่รุนแรงเท่า แต่หลายพื้นที่ก็ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะเขตเมตโควิช และลิก้า หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำเนเร็ตว่าเพิ่มสูงขึ้น 412 เซนติเมตร สูงที่สุดในรอบ 50 ปี ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเช่นกัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุหิมะยังส่งผลกระทบทั่วยุโรป

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 04-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พายุหิมะยังคงส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วยุโรป แม้สนามบินหลายแห่ง จะเปิดให้บริการแล้ว

โดยกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีและกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยี่ยมยังคงถูกปกคลุม ไปด้วยหิมะ ทั่วทั้งเมือง ขณะที่อุณหภูมิได้ลดต่ำลงถึงติดลบ 18 องศาเซลเซียสในช่วงกลางคืน ส่วนหลายพื้นที่ทั่วอังกฤษ ก็ยังหนาวจัด โดยอุณหภูมิติดลบ 22 องศา แม้สนามบินหลายแห่ง จะเริ่มเปิดแล้ว โดยสนามบินแก๊ตวิค, เอดินเบรอะ ที่แคว้นสก๊อตแลนด์และฮีทโทร ที่กรุงลอนดอนได้เปิดให้บริการอีกครั้ง เมื่อวานนี้หลังปิดไป 48 ชั่วโมง แต่เที่ยวบินจำนวนมาก ยังคงถูกสั่งระงับหรือล่าช้า ส่วนที่โปแลนด์ ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 30 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไร้ที่อยู่
และทางเหนือสเปนก็เผชิญกับสภาพการจราจรที่ปั่นป่วนหลังเกิดหิมะตกลงมา อย่างหนัก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาต้องประกาศเตือนภัยใน 35 พื้นที่ จากทั้งสิ้น 51 เขต ทางการต้องส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถเก็บกวาดหิมะเร่งเก็บกวาดหิมะ ออกจากท้องถนน และทางหลวง เนื่องจากหิมะละลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้ถนนลื่น และเป็นอันตรายอย่างมาก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ยอดผู้เสียชีวิตเหตุน้ำท่วมในเวเนซุเอลาเพิ่มเป็น 32 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 04-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">การากัส 4 ธ.ค. - รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของเวเนซุเอลากล่าววานนี้ว่า เหตุน้ำท่วมและดินถล่มในเวเนซุเอลา เพราะอิทธิพลของฝนที่ตกลงมาในช่วง 2 สัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 32 คน และทำให้ประชาชนมากกว่า 5,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

นอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกกว่า 60,000 คน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง ถูกนำตัวไปยัง ที่พักชั่วคราวหลายร้อยแห่ง รวมทั้งหน่วยงานของรัฐ หรือแม้แต่ทำเนียบประธานาธิบดี แต่ความพยายามในการช่วยเหลือ และจัดหาที่พักชั่วคราวให้แก่ชาวเวเนซุเอลา หลายพันคนที่ไร้บ้าน กลับกลายเป็นการต่อสู้ทางการเมือง ระหว่างฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายค้านของประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ
แกนนำฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งกล่าวอ้างว่า รัฐบาลตอบสนองต่อเหตุน้ำท่วม อย่างไร้ประสิทธิภาพ และไม่มีการเตรียมการมาก่อน ในขณะที่ประธานาธิบดีชาเวซ กล่าวหาว่า ฝ่ายค้านพยายามฉวยโอกาสนำปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะฝนมาเป็นประเด็นทางการเมือง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อากาศเลวร้ายทั่วโลก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 04-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายทั้งพายุหิมะ, น้ำท่วมและไฟป่า

เริ่มจากมณฑลซินเจียงของจีนที่กำลังเผชิญกับหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะที่ เมืองต่าเฉิง ซึ่งเป็นเมืองพรมแดนติดกับคาซัคสถาน อุณหภูมิ ลดต่ำลงถึงติดลบ 30 องศาเซลเซียส พายุหิมะยังทำให้การจราจรบนท้องถนน ต้องกลายเป็นอัมพาต และตัดขาดกระแสไฟฟ้าในบางพื้นที่ด้วย คาดหิมะจะตกต่อเนื่องถึงวันจันทร์

ส่วนออสเตรเลียก็ประกาศเขตภัยพิบัติในหลายพื้นที่ทั่วรัฐนิวเซาธ์เวลส์ พร้อมส่งอาสาสมัคร และตำรวจ ออกเคาะตามประตูบ้าน เตือนประชาชน ให้เร่งอพยพออกจากพื้นที่ หลังกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนน้ำท่วม ตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังเกิดฝนตกลงอย่างหนัก


ขณะที่ประเทศในคาบสมุทรบอลข่านรวมทั้งบอสเนีย, เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร ก็ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก หลายวันติดต่อกัน ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งรุนแรงตามพื้นที่ชายฝั่งแม่น้ำดรีน่า หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น กว่าระดับปกติถึง 11 เท่าทำให้หมู่บ้านหลายแห่ง ที่มอนเตเนโกร และเซอร์เบีย ต้องจมอยู่ใต้น้ำ บอสเนียได้สั่งอพยพประชาชน หลายร้อยคน ออกจากชายฝั่งแม่น้ำดรีน่า และสั่งปิดโรงเรียนหลายแห่ง นับเป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 104 ปีของคาบสมุทรบอลข่าน ส่วนสถานการณ์ไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ยังน่าวิตก เนื่องจากจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิง ที่ลุกไหม้ ใกล้เมืองท่าไฮฟาเอาไว้ได้ แม้นานาชาติจะระดมความช่วยเหลือ มายังอิสราเอล อย่างต่อเนื่อง ทั้งเครื่องบินบรรทุกน้ำและอุปกรณ์ ในการดับไฟ จำนวนมาก โดยไฟได้เผาผลาญบ้านเรือน และพื้นที่ป่าไปแล้ว กว่า 17,500 ไร่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 42 คน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนธันยาฮู ผู้นำอิสราเอลได้เรียกประชุมฉุกเฉิน และสั่งอพยพประชาชนกว่า 15,000 คนแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แอลเบเนียน้ำท่วมหนักกระทบ ปชช.

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 05-12-2553 | 09:04:21 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ชาวแอลเบเนียหลายพันคนได้รับผลกระทบน้ำท่วมหนัก เพราะเขื่อนปล่อยน้ำมาก
ชาวบ้านหลายพันคนในพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของแอลเบเนีย ได้รับการช่วยเหลือ อพยพไปพักพิงชั่วคราว ตามโรงแรมเอกชน และสถานที่สาธารณะหลายแห่ง เหตุเกิดจากฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมรุนแรง ทั้งยังมีการปล่อยน้ำเหนือเขื่อนปริมาณมาก เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนทั้งประเทศ ทั้งนี้ แอลเบเนีย ยังต้องพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อน ผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งบ่อยครั้งไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และต้องซื้อพลังงานไฟฟ้าจากต่างประเทศ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภัยน้ำท่วมร้ายแรงในคาบสมุทรบอลข่าน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 05-12-2553 | 05:12 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">หลายประเทศในคาบสมุทรบอลข่านยังต้องเผชิญภาวะน้ำท่วมร้ายแรง โดยทางการ บอสเนีย และอัลบาเนีย ต้องอพยพประชาชนนับหมื่นคน ออกจากพื้นที่น้ำท่วม พร้อมนำปศุสัตว์ไปยังที่ที่ปลอดภัย ในขณะที่ผู้คน อีกจำนวนมากไม่มีน้ำดื่มและไฟฟ้าใช้ ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากทหาร ตำรวจและองค์กรอาสาอื่นๆ หลังจาก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาระดับน้ำ ในแม่น้ำหลายสายในบอสเนีย ได้เอ่อล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือน จนในบางพื้นที่ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร และทางการต้องใช้เรือยาง เพื่อเข้าถึงประชาชนที่ติดอยู่ตามบ้านเรือนของตน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ฝนจะตกเพิ่มซ้ำเติมน้ำท่วมในเวเนซุเอลา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 06-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">นักอุตุนิยมวิทยาคาดว่า จะมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ ของเวเนซุเอลา ที่น้ำท่วมและโคลนถล่มตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา คร่าชีวิตประชาชนไป 34 คน และทำให้ประชาชนอีกกว่า 5,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
นายมาร์กอส ดูรัน แห่งสถาบันอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติเวเนซุเอลา กล่าวว่า คาดว่าพายุนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาจะนำฝนเข้ามาตกในหลายรัฐริมชายฝั่ง ตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่เผชิญกับน้ำท่วมหนักอยู่แล้ว

ประชาชนกว่า 74,000 คน ต้องไปหลบภัยตามศูนย์พักพิงชั่วคราว หลายร้อยแห่ง ที่ทางการจัดเตรียมไว้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เอกวาดอร์สั่งอพยพปชช.พ้นเขตภูเขาไฟระเบิด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 06-12-2553 | 07:44:09 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ทางการเอกวาดอร์ ยังคงเฝ้าระวังภูเขาไฟ ในภาคกลางอย่างต่อเนื่อง หลังปะทุเมื่อวานนี้ ทำให้ต้องอพยพชาวบ้านจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย

แม้จะมีคำสั่งให้ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้าน รัศมี 8 กิโลเมตร รอบภูเขาไฟ ตันกุราฮัว ทางภาคกลางของประเทศเอกวาดอร์ อพยพจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย หลังเมื่อวานนี้ เกิดการปะทุของภูเขาไฟ ส่งเถ้าถ่าน ลอยสูง ปกคลุมพื้นที่ แต่ในเมืองท่องเที่ยว ที่อยู่ห่างออกไปจากรัศมี 8 กิโลเมตร ยังคงมีชาวบ้านอาศัยตามปกติ และมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหล เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมถ่ายภาพภูเขาไฟ ที่กำลังปะทุไว้เป็นที่ระลึก

แม้ว่าต้องสวมหน้ากากป้องกันเถ้าถ่านภูเขาไฟอยู่ตลอดเวลา ปฏิกิริยาการปะทุ ของภูเขาไฟ เริ่มลดน้อยลงแต่เจ้าหน้าที่ยังคงประกาศเตือนภัย และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง พร้อมตระเตรียมที่พักชั่วคราวเพิ่มเติม ภูเขาไฟตันกุราฮัว เป็นภูเขาไฟหนึ่งใน 8 ลูก ของเอกวาดอร์ที่ยังคงคุกรุ่น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ดินถล่มที่โคลอมเบียและบอสเนีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 06-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เหตุแผ่นดินถล่มที่โคลอมเบีย คาดว่าจะมีผู้ติดอยู่ใต้โคลนราว 200 คน ขณะที่บอสเนียเฮอร์เซโกวิน่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดแผ่นดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตและไร้ที่อยู่อาศัย

เจ้าหน้าที่กาชาดสากล เปิดเผยรายงานเบื้องต้นระบุว่าแผ่นดินถล่มในเขต ลา กาเบรียล่า ในเมือง เบโย่ ทางเหนือของเมืองเมเดยิน เมืองใหญ่อันดับ 2 ของโคลอมเบีย เมื่อวานนี้ ทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกฝังไปกว่า 10 หลัง และคาดว่าจะมีคนติดอยู่ใต้โคลนราว 150-200 คน เพราะบ้านแต่ละหลังมี 3 ชั้น และมีประชาชนมารวมตัวเพื่อรับประทานอาหารกลางวันบ้านละ 15-20 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ขณะที่ประชาชนที่อาศัย อยู่ใกล้เคียงราว 300 คน ก็รุดมายังที่เกิดเหตุเพื่อค้นหาเพื้อนพ้อง ที่อยู่ใต้โคลนเช่นกัน

ด้านประธานาธิบดี ฮวน มานูเอล ซานโตส ของโคลอมเบีย หลังจาก ได้รับทราบข่าวร้ายก็บินด่วนกลับประเทศจากการประชุมสุดยอด อีเบอโร่-อเมริกัน ที่อาร์เจนติน่า ทันที ขณะที่รัฐบาลเตรียมพิจารณา ประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อระดมเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้เมื่อสัปดาที่แล้ว รัฐบาลโคลอมเบียได้ประมาณการความเสียหาย จากภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งไม่รวมกับเหตุโคลนถล่ม ล่าสุดมีมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์

และที่เวเนซูเอลาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านก็อ่วมเช่นเดียวกัน จากฝนที่กระหน่ำลงมา อย่างหนักและอุทกภัยครั้งรุนแรง ทางการต้องเร่งอพยพประชาชน หลายร้อยคน ออกจากบ้านเรือน และต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ 4 รัฐ ประชาชนหลายพันคนต้องไปอาศัยในที่พักชั่วคราวของทางการ

ด้านประธานาธิบดีฮูโก้ ชาเบซ ของเวเนซูเอลา ประกาศจะยึดที่ดินของเอกชน และจัดพื้นที่สวนสาธารณะแห่งชาติ เพื่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประสบ อุทกภัย หลายพันคน โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว รัฐบาลได้จัดสร้างบ้านใหม่ จำนวน 9,000 หลัง ให้กับผู้ประสบอุทกภัยในกรุงคาราคัส
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำท่วมหนักในโคลอมเบียและเวเนซูเอลา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 06-12-2553 | 09:55 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">โคลอมเบียยังคงเผชิญกับภาวะฝนตกหนัก เป็นเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก และดินถล่มในหลายพื้นที่ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 170 คน และมีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศ ล่าสุดมีรายงานว่า เกิดเหตุดินถล่มในเมือง "เมเดลลิน" ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ มีบ้านเรือนเสียหายนับ 10 หลังชาวเมืองกว่า 200 คน ถูกฝังทั้งเป็น ซึ่งทีมกู้ภัย และหน่วยกาชาดกำลังเร่งช่วยเหลือและค้นหาผู้รอดชีวิตอยู่ ล่าสุดสามารถช่วยผู้รอดชีวิตออกมาได้ 3 คนแล้ว ขณะที่หน่วยกาชาดสากล กล่าวว่า สถานการณ์ในโคลอมเบียจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีก เนื่องจากยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปอีกจนถึงต้นปีหน้า

ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวเนซูเอลา ก็กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ และโคลนถล่มในหลายรัฐ ต่อเนื่องมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว เป็นเหตุให้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 34 คน ประชาชนกว่า 5 พันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ชาวเมืองกว่า 75,000 คน ต้องหนีน้ำท่วมไปหลบภัยตามศูนย์ช่วยเหลือต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะที่ปัญหาอุทกภัยครั้งนี้ สร้างความวิตกกังวลว่า อาจส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถเดินทางไปลงคะแนนเลือกตั้งครั้งสำคัญใน 11 เมือง และอีกสองรัฐ ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สภาพอากาศแปรปรวนในหลายประเทศ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 06-12-2553 | 17:40 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ที่ทวีปออสเตรเลีย ทางการต้องสั่งปิดถนนหลายสาย และพื้นที่ที่กว่า 30 เขต ทั่วรัฐ นิวเซาท์เวลส์ หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้เกิดอุทกภัย เป็นบริเวณกว้างกินพื้นที่กว่าครึ่งของรัฐ พืชผลทางการเกษตรเสียหาย เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพ ออกจากบ้านเรือน ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย เตือนว่าระดับน้ำในแม่น้ำ 13 สาย อาจเอ่อท้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนอีก

ที่ละตินอเมริกา ทั้งโคลอมเบีย และเวเนซูเอล่า ต้องเผชิญกับฝนตกหนัก และดินถล่มในหลายพื้นที่ โดยที่โคลอมเบียมีผู้เสียชีวิตกว่า 170 คน ประชาชนกว่า 2 ล้านคนได้รับผลกระทบ ส่วนที่เวเนซูเอลา มีผู้เสียชีวิต 34 คน ประชาชน ต้องอพยพหนีภัยน้ำท่วมกว่า 75,000 คน

ส่วนที่ยุโรป รัฐบาลโปรตุเกสต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน บนเกาะท่องเที่ยว มาไดร่า และ อาซอเรส เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วม และดินถล่ม ท่าเรือ และสนามบิน ต้องงดให้บริการชั่วคราว ทำให้มีผู้โดยสาร ตกค้างอยู่กว่า 7 พันคน ที่บอสเนีย เกิดดินถล่มอันเนื่องจากฝนตกหนัก ในเมืองทุซล่า ทางตอนเหนือ มีผู้เสียชีวิต 3 คน และประชาชน หลายครัวเรือน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งนับเป็น อุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุด ในประวัติศาสตร์บอสเนีย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ดินถล่มในโคลอมเบียคาดมีคนติดใต้ดิน50คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 07-12-2553 | 07:59:58 น. ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดดินถล่มในโคลอมเบีย ซึ่งเป็นผลมาจากฝนที่ตกหนักที่สุดในรอบ 40 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยประเมิน น่าจะมีคนติดอยู่ใต้ดินถล่ม อย่างน้อย 50 คน ตอนนี้ภารกิจเร่งด่วน คือ การช่วยผู้รอดชีวิตขึ้นมาให้เร็วที่สุด

นายฮวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีของโคลอมเบีย คาดว่า ภัยธรรมชาติในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 2 ล้านคน และหากยังมีฝนตกหนักอีก อาจจะต้องประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ทั้งนี้ตลอดปีที่ผ่านมา ในโคลอมเบียมีผู้เสียชีวิต ซึ่งมีสาเหตุจากฝนตกหนัก 176 คน และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันคน

เช่นเดียวกับ เวเนซูเอลา ที่ตอนนี้เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่และดินถล่ม เนื่องจากฝนตกหนัก ประชาชนราว 70,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้าน เพื่อหนีน้ำท่วม รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงคาราคัสและอีก 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมิแรนด้า, จังหวัดวาร์กัส และจังหวัดฟัลคอน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หลายประเทศเผชิญอุทกภัยครั้งเลวร้าย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">[ 07-12-2553 ]

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">โคลอมเบียเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่ ขณะที่ผู้นำเวเนซูเอล่าสั่งปรับโรงแรม และศูนย์การค้า เป็นศูนย์ประสบภัยช่วยเหยื่อน้ำท่วม

เจ้าหน้าที่กุ้ภัยโคลอมเบียเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่ ที่เมืองเบโย่ หลังเกิดฝนตกหนัก ติดต่อกันนานหลายวัน ซึ่งล่าสุดพบศพ ผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ แต่ยังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากโคลนอีกกว่าร้อยคน ซึ่งนายเจอร์มัน วาร์กาส เยราส รัฐมนตรีมหาดไทยโคลอมเบีย ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ ใช้ความระมัดระวัง โดยให้ใช้เฉพาะคนและสุนัข ในการค้นหาเท่านั้น ห้ามใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ เพราะเชื่อว่า อาจจะยังมีผู้รอดชีวิตติดอยู่ด้านใน ทั้งนี้คาดว่าอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุด ในประวัติศาสตร์โคลอมเบียทำให้มีคนไร้ที่อยู่แล้วกว่า 2 ล้านคน
ส่วนที่เวเนซูเอล่า ประธานาธิบดีฮูโก้ ชาเวซได้สั่งปรับเปลี่ยนโรงแรมเอกชน และศูนย์การค้า เป็นศุนย์ประสบภัยชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
จำนวนหลายหมื่นคนที่ต้องอพยพหนีตายจากเหตุน้ำท่วม และโคลนถล่ม ครั้งเลวร้าย ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 32 คน ทั้งนี้ชาเวซรับปากจะจ่ายเงิน ค่าโรงแรมให้ทั้งหมด จนกว่าระดับน้ำจะลดลง ขณะที่ทางการ ได้ประกาศ ภาวะฉุกเฉินในกรุงคาราคัส และอีก 3 รัฐรวมทั้งมิรันด้า, วาร์กัส และฟัลคอน หลังจากที่เหตุน้ำท่วมครั้งนี้ ได้ทำให้ทางหลวงหลายสาย ต้องจมอยู่ใต้น้ำ

และสถานการณ์น้ำท่วมที่แอลเบเนีย องค์กานาโต้ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์จากตุรกี และกรีซ เข้ามาช่วยอพยพผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน รวมทั้ง ได้นำน้ำ และอาหาร เข้าไปส่งตามพื้นที่ห่างไกลที่ถูกตัดขาด ขณะที่อิตาลี ได้ส่งรถบรรทุก 5 คัน พร้อมอาหาร และยารวมทั้งสิ่งของบรรเทาทุกข์ ตลอดจนทหารเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตชโกด้า ทางเหนือของ แอลเบเนีย หลังเกิดน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของแอลเบเนีย ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินที่เขตชโกด้า, เลซาและดูเรส พร้อมเร่งฉีดยาฆ่าเชื้อโรค ในหลายพื้นที่ ท่ามกลางความวิตกว่า จะเกิดโรคระบาดตามมาหลังมีสิ่งปฎิกูล ลอยปะปนมากับน้ำจำนวนมาก คาดว่าความเสียหายจากไม่ต่ำกว่า 80 ล้านยูโร

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>