ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ขอบคุณครับ..คุณTrirut..คุณ โอ ท่าซุง..คุณSpecialized..คุณ น้ำดี๑
    คุณ๑๕ค่ำ..คุณLynn&nice..คุณOrKaR..ที่ชม..ให้กำลังใจ..และ..รอ
    คอย..รวมทั้งผู้ติดตามอ่านทุกท่าน...............................
    ............กรุงเทพ ยุค คลาสสิค.........................................
    ถนนสาธร
    ยุคนั้น..ถึงแม้..จะคล้าย..ถนนที่ประกบข้าง..คลองหลอด..ทั้ง
    ๒สาย...แต่ภาพรวมต่างกันมาก...นอกจาก..ต้นขนุนที่ปลูกริมคลองเป็น..
    ระยะ..ส่วนด้านข้างของ..ถนน สาธรเหนือ และ ถนน สาธรใต้..สวยงาม
    ..เพราะ..ส่วนใหญ่..จะเต็มไปด้วยต้นไม้..ใหญ่ยักษ์..สลับกับ..บ้านหลัง
    ใหญ่..ที่สร้างไว้อย่างสวยงาม..ถึงแม้..จะมีหน่วยงานตั้งอยู่บ้าง..แต่ต้นไม้
    จะคลุมหุ้มไปหมด...ทำให้..ถนนสาธรดู..รื่นตา..ยามเย็น..จะมีชาวบ้าน
    ..พาูลูกหลาน..มานั่งป้อนข้าวมั่ง..บางคนก็มานั่งคุยกัน..กินไป..ก็ดูเรือ.
    แล่นไป-มา..อากาศ..ก็สดชื่น..เพราะต้นไม้เยอะ..มันช่างน่าอภิรมย์จริง
    ...กรุงเทพมหานคร..ไม่น่าปล้น..สิ่งดังกล่าว ไปจากคน สาธร..เลย...
    ...ด้านใต้..ของ..ถนนสาธร..ทั้งหมด..เดิมเป็น..สวน..ทั้ง..สวนผัก..สวน
    ผลไม้...สังเกตจาก..ชื่อ..ซอยที่แยกไปจาก..ถนนสาธรใต้...ที่ใหญ่..
    ..และมีคนรู้จักมาก..ก็คือ..ซอยสวนพลู...ที่มีบ้านของ..หม่อมคึกฤทธิ์
    ..ตั้งอยู่้ข้างใน..ชื่อก็..บอกอยู่แล้ว..ว่าเป็น..สวนพลู..แถวนี้จะเป็น..สวน
    ใหญ่..ที่ปลูก.พลู(กินกับ..หมาก)...แหล่งใหญ่..ของฝั่งพระนคร..โดยจะ
    ลำเลียงไปตลาด..ตามคลองสาธรนี่แหละ..สมัยโน้น(ก่อนยุคที่ผมเล่า..)
    ใครก็กินหมาก..ฉะนั้นใบพลู..นับว่า..เป็น..ผักเศรษฐกิจ....
    ....จากท้ายซอยสวนพลู..ก็จะไปต่อเชื่อมกับ..ซอยนางลิ้นจี่(เดี่ยวนี้เป็น
    ถนนแล้ว)...ชื่อก็บอกเหมือนกัน..ที่นี่คือ..แหล่งปลูกลิ้นจี่..ใหญ่ที่สุด..ของ
    ..ภาคกลาง..และอร่อยที่สุดด้วย..ยุคโน้น..ลิ้นจี่อร่อยที่สุด..คือ..ลิ้นจี่...
    กรุงเทพ..หวานอมเปรี้ยว..อาณาเขตสวนลิ้นจี่กว้างขวางมาก..กินไปถึง
    ..ตรอกจันท์(ถนนจันท์)เลย.....
    .........ฉะน้น..ขอบเมืองด้านใต้...จึงร่มรื่นมาก..เพราะมีสวนล้อมไปหมด
    ....ยุคโน้น..ยังไม่มี..ถนนพระราม ๓ นะครับ...
    ........ด้าน..ถนนสาธรเหนือ.....ก็มี..ซอยไปเชื่อมสีลม ได้ทั้ง..ซอย
    ศาลาแดง...และอีกซอย..ที่ตั้งแต่ยุคโน้น..รถจะติดเช้า..กับ ตอนเย็น...
    ..แล้ว..รถที่เข้าซอยแต่ละคันนี่..แพงๆทั้งนั้น..ที่ซอยนี้เป็นที่ตั้ง..โรงเรียน
    ไป-กลับ..เฉพาะสตรี...ซอยนี้คือ..ซอยคอนแวนต์..ที่ปากซอยจะมีโบสถ์
    คริสต์..หลังโบสถ์..เป็น..ที่ตั้งของ..โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์..ที่
    เป็นที่..หมายตาของเด็กนักเรียนชายต่างๆ..เพราะขึ้นชื่อว่า..เด็กนักเรียน
    ที่นี่..สวยๆทั้งนั้น(ไม่นับเรื่อง..ชาติตระกูล..ฐานะ..เรียกว่าไม่มี..เด็กฐานะ
    ธรรมดาเรียนเลย)......เลยไปทางท้าย..ถนน..ก็จะเจอโรงเรียนชาย..
    ขนาดใหญ่อีกแห่ง..คือ..กรุงเทพคริสเตียน....แล้วปลายถนน..จะไปบรรจบ
    ที่...ถนนเจริญกรุง..ยุคโน้น..ยังไม่มีสะพานสาธรครับ.................
    ...ตอนหน้า..เราจะเลียวซ้าย..ไปตามถนนเจริญกรุง..ลงไปทางทิศใต้...
    ...................................................................................
    ....................................................................................
    ....คนหัวใสที่ผมพูดถึง..ต้องเป็นคนที่อยู่ทันสมเด็จโต..ผมว่าน่าจะเป็น
    ..เด็กวัด..ที่เคยพายเรือ..ติดตาม..ที่ต้องคอยถ่าย..ข้าว..กับข้าว..ต่างๆ
    ..จากเรือท่าน..ที่ชาวบ้าน..เอามาใส่บาตร..และถวายท่าน..ซึ่งรู้เส้นทาง
    ..การบิณฑบาทของ..สมเด็จโตดี..แต่ก็ไม่แน่..เพราะเส้นทางของท่าน..จะ
    ไม่เปลี่ยน..เหมือนเดิม..ชาวบ้านแถบวัดระฆัง..หรือ..ที่อยู่ตามเส้นทางจะ
    ทราบ..แต่ลองตามรื่องไปก่อนแล้วจะทราบว่าทำไม..ผมถึงสันนิษฐานเช่น
    นั้น..เส้นทางการบิณฑบาท..ของท่าน..เริ่มจาก..วัด..แล้วเลาะ..รับบาตร
    ไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นไปทางเหนือ..ทางฝั่งธนบุรี(พายเรือไปนะครับ
    ...ไม่ใช่เดิน)โดย..จะมีเรือตามไปด้วย..เพราะท่านมีผู้ศรัทธาใส่บาตรท่าน
    มากทุกวัน..ลำพังเรือลำเดียวไม่พอ(เรือที่ว่านี่..เป็นเรือพายขนาดเล็ก..เรือ
    อีแปะ)..ต้องมีเรือไว้ถ่ายของใส่บาตรด้วย...เรือท่านจะตัดข้าม..เจ้าพระยา
    มาที่..ป้อมพระอาทิตย์ซึ่งอยู่ปากคลองบางลำภู(หรือ..คลองโอ่งอ่าง)
    ...คลองบางลำภู..คือ..คลองคูเมืองชั้นกลาง...(คลองคูเมืองชั้นใน..คือ
    คลองหลอด...คลองูเมืองชั้นนอก..คือ..คลองผดุงกรุงเกษม)..ท่านก็จะเริ่ม
    รับบาตรไล่มาจาก..แถบบางลำภู..ผ่านหน้าวัดบวร..แล้วล่องมาเรื่อยๆ..
    จน..มาถึง..วัดสระเกศ..ภูเขาทอง..รับบาตรมาเรื่อยๆ..จากชาวบ้านที่.
    บ้านหม้อ..ลงมาถึง..ย่านแถบ..สะพานเหล็ก..สะพานหัน..ซึ่งชุมชนหนา
    แน่น..ผ่านพาหุรัด..ตรอกหัวเม็ด(ตรอกนี้..เดินตรงไปเรื่อย..ไปต่อเชื่อม
    กับ..สำเพ็ง..)..วัดเชิงเลน(วัดบพิตรภิมุข)...แล้วมา..ทะลุออกเจ้าพระยา
    ตัดข้ามเจ้าพระยา...มาแถบบ้านสมเด็จฯ..และก็รับบาตร..มาเรื่อยๆ..ผ่าน
    พระราชวังเดิม..วัดแจ้ง(วัดอรุณฯ)..แล้วกลับมาเข้าวัดระฆัง...เวลาท่าน
    รับบาตร...(ถ้าท่านทำพระเสร็จ..ท่านจะเอาพระสมเด็จของท่านมาด้วย
    เวลาออกบิณฑบาท)..่ทานก็จะแจกพระ..ในสมัยท่านยังอยู่..ใครๆก็ทราบ
    ..ว่า..พระสมเด็จส่วนใหญ่..จะตกอยู่กับ..ชาวบ้าน..สองฝั่งคลองโอ่งอ่าง
    ที่มาใส่บาตรท่าน...จุดนี้ละครับ..ที่จุดประกาย...ลักษณะบ้านที่อยู่ริม
    คลอง..ก็จะปลูกยึ่นเข้ามาในคลอง..โดยปักเสาอยู่ติดตลิ่ง..และอีกส่วนก็..
    เข้ามาในคลอง..เขาก็จะทำท่าน้ำลงไปเพื่อ..อาบน้ำ..ตักน้ำ..และใส่บาตร
    ด้วย..พื้นบ้าน..จะเป็นไม้กระดานตีห่าง..ก็คือ..มีการเว้นร่องไว้..(นี่..ภูมิ
    ปัญญาไทยเลย..ไม่ต้องใช้พัดลม..เพราะอากาศหมุนเวียน..ลมเย็นจาก
    พื้นน้ำด้านล่างจะผ่านร่องขึ้นมา..แล้วไล่ลมร้อนออกไป..ผมเคยนอนบ้าน
    แบบนี้ที่..ดำเนินสะดวก..เมื่อ ๔๐ ปีที่แล้ว..อยู่..๒ เดีอน..เย็นสบาย..มาก
    ..ช่วงหน้าร้อน..ไม่ต้องใช้พัดลมเลย(ตอนนั้น..ดำเนินฯ..ยังไม่มีถนนสัก
    เส้น..ไปไหน..ใช้เรือ)..ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือ...เมื่ิอไม้กระดานเปียก
    ..ไม้จะบวม..แล้วไม่เบียดกัน..ไม่โก่ง..และที่แน่ๆคือ..กวาดบ้าน..ไม่ต้อง
    ใช้ถังโกยขยะ..เพราะ..ขี้ฝุ่นมันจะลงร่องหมด..เป็นไงครับ..อย่าดูถูก...
    คนโบราณ..เขาอยู่กับธรรมชาติ..สังเกตธรรมชาติ..และเข้าใจธรรมชาติ)
    ...ร่องส่วนใหญ่..ก็..เรียกว่า..ใหญ่..พอที่จะทำให้..ของหลาย
    อย่าง..ร่วงลงไปได้..รวมทั้ง..พระสมเด็จ..ด้วย...อย่าลืมนะครับ..พระเขา
    ไม่ได้คล้องสร้อยกัน..อย่าไปนึกถึง..ละครย้อนยุค..ทั้งหลายที่ทำกัน...
    เจ้าคุณ..ห้อยสร้อยทอง..คล้อง..พระเลี่ยมทอง..คุณหญิง..ก็เหมือนกัน..
    ของจริง..ไม่ใช่..เขาเอา..ผ้ามาห่อ..พระ..แล้วกลัด..ไว้ด้านในเสื้อ..เวลา
    จะไปไหน..ถึงจะเอาพระไปด้วย..ฉะนั้น..โอกาศที่..พระจะ่ร่วง..ลอด....
    กระดาน..ก็มีสูง......
    ................คนช่างสังเกต..มีทุกยุคทุกสมัย..ไม่งั้นโลกคงไม่เจริญ
    อย่างทุกวันนี้...ของที่หล่นลงน้ำ..และจมลงไป..จะค่อยๆไหลลง..ใกล้ๆ
    กลางคลอง..เพราะบ้านตั้งอยู่ที่ลาดตลิ่งคลองที่..มีความชัน..คลองโอ่ง
    อ่างสมัยต้น..ยุค ร.๔..ต่อ..ร.๕..กว้างกว่า..ยุคปัจจุบัน..เป็นเท่าตัว...
    เพราะเป็นคลองคูเมือง..ที่ขุดขึ้นมาเพื่อ..ป้องกันการโจมตี..ของข้าศึก..
    ..พื้นที่ตรงกลางคลองจึงมีมาก..มีเรือสัญจรกันไปมา...ส่วนที่กลางคลอง
    ถีอเป็นพื้นที่..สาธารณะใครจะทำอะไรก็ได้..ถ้าไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
    .............นั่นแหละครับ..ที่เกิดการงม..พระสมเด็จในคลอง..
    โอ่งอ่าง..เกิดขึ้น..ตามประวัติ..ว่า..ระยะแรก..ก็ได้เรื่อยๆ..จะมีคน
    มาซื้อกัน..ที่จุดขึ้นพระเลย..คนที่ซื้อก็เป็นคนมีฐานะ..ทั้งข้าราช
    การเอง..ก็คหบดี..พวกมีฐานะแถวชานเมือง..หรือจังหวัดใกล้
    เคียง..ก็..มากัน..ทำให้มี..หลายคน..ยึด อาชีพนี้..ตลอดแนวย่าน
    ชุมชนที่..ติดคลองโอ่งอ่าง...
    พอนึกออกแล้วนะครับ..ที่ผมวิเคราะห์ไว้
    ..ว่า..น่าจะเป็น..คนที่ตามท่าน..ตอนบิณฑบาท..เพราะจะรู้..ว่าแถบไหน
    ..ในช่วง..ตลอดแนวที่ท่านแจกพระ..ที่แน่ๆ..ต้องเป็นที่คนหนาแน่น...
    ..แต่เขาอาจจะรู้ตำแหน่งโดยละเอียดไปเลยก็ได้..ไม่ใช่ว่าทุกบ้านจะใส่
    บาตรกันหมด
    .................เอาละครับ..นี่เพิ่งเริ่ม..การปลอมพระ..ยังไม่มา..ไว้ตอน
    หน้า..มาแน่..........ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน...............
    ............................ขอบคุณ..ครับ....................
    ...........................สวัสดี............................................
     
  2. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
    แฟนคลับมาติดตามครับ ได้สาระข้อมูลที่ยังไม่เคยรู้แถมสนุกอีกต่างหาก ขอบคุณครับ ^^
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    รอเหมือนเดิมครับผม
     
  4. วีรวัช

    วีรวัช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,622
    ค่าพลัง:
    +5,029
    อ่านถึงลิ้นจี่แล้วก็น้ำลายสอ อิอิ หวานๆเปรี้ยวๆ :cool:
     
  5. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,533
    ค่าพลัง:
    +19,462
    กำลังตื่นเต้นเลยค่ะ มารอและมาเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมค่ะ
     
  6. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    ขอบคุณครับ...ติดตามครับ
     
  7. takon

    takon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +3,231
    สนุก และได้ความรู้ความบันเทิงครบเลยครับ
    เหมือนฟังนิยายจากวิทยุตอนเด็กๆ เมื่อซัก30ปีที่แล้ว
     
  8. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
    สวัสดียามสายๆ............ครับลุง
     
  9. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    อยากเป็นชาวบ้าน

    ที่สมเด็จท่านเอาพระมาแจกจังเลยครับ

    55+
     
  10. วีรวัช

    วีรวัช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,622
    ค่าพลัง:
    +5,029
    สมัยนี้ก็มีเยอะแยะ พระที่แจกฟรี แต่จะมีสักกี่คนที่นำไปเลี่ยมทองห้อยคอทำประดุจดังของมีค่า ใครจะไปรู้อนาคตอีกสักร้อยปีข้างหน้าจะมีค่าแบบพระสมเด็จโตก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ คงไม่มีใครอยู่รอดู 555
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    <o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 28.3pt 72.0pt 63.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} </style> ขอบคุณครับ..คุณTrirut..คุณSpecialized..คุณ วีรวัช..คุณ<st1:city w:st="on"><st1>Lynn</st1>></st1:city>&nice..คุณ โอ ท่าซุง..<o></o>
    คุณTakon..คุณ๑๕ค่ำ..คุณOrkar..ที่ติดตาม..ชม..และให้กำลังใจ..รวมทั้งทุกท่านที่ติดตาม<o></o>
    อ่านกัน....................................................................................................<o></o>
    ..........................กรุงเทพ ยุค คลาสสิค...................................................<o></o>
    ..............เมื่อเลี้ยวซ้าย..ออกจากถนนสาธร..เข้าสู่ถนน เจริญกรุง..ด้านใต้...ขอบเมือง<o></o>
    จะไป..ตามถนนเจริญกรุง..ทั้งสองฝากถนน..ส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว ๒ ชั้น..โดยฝั่งตะวัน<o></o>
    ออก..ส่วนลึกจากถนน..ก็จะเป็นชุมชนหนาแน่นมาตั้งแต่ยุคโน้น..ต้นไม้ไม่ค่อยมี..เว้นแต่<o></o>
    ในสถานที่ราชการ...เมื่อเลี้ยว..เข้าเจริญกรุงไม่นาน..ขวามือฝั่งที่ติดเจ้าพระยา..ก็จะเจอ<o></o>
    วัดใหญ่มากในละแวกนี้..ก็..คือ..วัดยานนาวา..สมัยโน้น..ต้นไม้แน่นกว่า..นี้..ถ้าไม่สังเกต<o></o>
    ให้ดี..จะมองไม่เห็น..เจดีย์สำเภา..(..ตามชื่อวัด)..สัญญลักษณ์..ของการค้าขาย..สำเภา<o></o>
    ที่รุ่งเรือง..ในสมัย ร.๓ ...หน้าวัดจริงๆ..ก็ที่แม่น้ำครับ..ถนนเจริญกรุง..ตัดผ่านด้านหลังวัด<o></o>
    ...เลยไปเรื่อยๆ..ฝั่งตะวันออก..จะพบ..อาคารสีเหลืองขนาดใหญ่..ในสมัยนั้น..เพราะตึก<o></o>
    แถวเตี้ย...เป็น..สถานศึกษาที่มีชื่อเสียง..ผลิตบุคคลากร..และตำรา..ที่เป็นหลักใช้..แม้ใน<o></o>
    ปัจจุบัน...การช่างสตรีพระนครใต้(มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล..วิทยาเขตพระนคร<o></o>
    ใต้)..ที่นี่คือ..ตักกศิลา..แห่ง..การครัว..และ..ออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า..ในยุคนั้น..บุคลากร<o></o>
    จากที่นี่..ได้ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญ..เฉพาะทาง..ตำราการทำอาหารที่..เขียนโดยคณาจารย์ที่นี่<o></o>
    ..ใช้อ้างอิง..ไปทั่วประเทศ..โดยเฉพาะ..การทำอาหารไทย..ที่นี่จะมีคู่แฝด..ที่สอนเหมือน<o></o>
    กันคือ..การช่างสตรีโชติเวส..ที่อยู่แถวๆเทเวสม์...ทั้งสองแห่ง..รับเฉพาะสตรีแท้..เท่านั้น<o></o>
    ...เลยไปอีกหน่อย..ก็เป็นโรงเรียนวัดขนาดใหญ่ที่สุดในด้านใต้..ก็คือ..โรงเรียนวัดสุทธิ<o></o>
    วราราม..ซึ่งเก่าแก่.(แต่ไม่เท่า..กรุงเทพคริสเตียน)..ผลิต..นายพล..รัฐมนตรี..ปลัดกระ<o></o>
    ทรวง...ไปมากมายหลายคน..แต่สมัยนั้น..ตึกไม่ได้มากหรือใหญ่โตอย่างทุกวันนี้..แต่ถ้า<o></o>
    ในยุคโน้นเทียบ..กับโรงเรียนวัดด้วยกัน..ก็ไม่เป็นสองรองใคร...เลยไปอีกสักพัก..ฝั่งเดียว<o></o>
    กัน..คุณจะพบ..กับ..ตรอก..ที่ใหญ่..และยาวที่สุด..ในประเทศไทย..ยุคนั้น..ตรอกจันท์<o></o>
    หรือ..ถนนจันท์..ตรอกจันท์มีชุมชน..อยู่มาก..ตลอดความยาว..ตรอกจันท์..จะตัดเข้าไปใน<o></o>
    สวน..ผลไม้ในยุคนั้น..และเป็นที่..ลำเลียงผลไม้..และผัก..ตรอกจันท์จะวิ่งยาว..ล้อๆไปกับ<o></o>
    ..ถนนสาธรใต้..และจะตัดกับทุกซอยใหญ่ๆ..จากสาธร..ไม่ว่า..ซอยสวนพลู..ซอยนางลิ้นจี่<o></o>
    ..เละเชื่อมไปถึง..ซอยงามดูพลี..ซอยเย็นอากาศ..เรียกว่า..คุณเข้าที่ปากตรอกจันท์..ย่าน<o></o>
    ยานนาวา..วิ่งไปตามตรอกเรื่อยๆ..ชมสวนผลไม้ข้างทาง..เดี๋ยวคุณจะเข้าก้นซอยงามดูพลี<o></o>
    ..แล้วไปโผล่ที่ถนนพระราม๔..ที่ตรงข้ามเป็นชุมชนบ่อนไก่ได้............<o></o>
    .....................................................................................................................<o></o>
    .....................................................................................................................<o></o>
    ..............กิจการ..ของนักงม..นักร่อน(พระ)..ก็เป็นไปได้ด้วยดี..ซักพัก...บางวัน ก็ได้วซัก<o></o>
    ๒ องค์..หรือ..องค์เดียว..คือ..คนมางมมากขึ้น..จำนวนพระที่จมอยู่..ก็ลดน้อยไปเรื่อยๆ...<o></o>
    รายได้ก็เริ่มลด..แต่จะเปลี่ยนไปทำมาหากินแบบเดิม..ก็คงไม่มีทางหาเงินเม็ดเต็มหน่วยเท่า<o></o>
    นี้..เพราะพระแต่ละองค์..ราคาสูง..ขณะที่ความต้องการของลูกค้ายังไม่ลด...แต่พระเริ่มจะ<o></o>
    หาไม่เจอแล้ว...ก็ต้องหาหนทางกันละที่นี้..ฝรั่งเองมันยังยอมรับ..ว่าคนไทยนี่..เอาตัว<o></o>
    รอดเก่ง..มาตั้งแต่สมัยโบราณ...แล้วไอ้ปัญหาแค่นี้..มันจะไปเหลือกว่าบ่าแรง..พี่ไทย<o></o>
    ได้ยังไง........ก็ของจะไม่มีอยู่แล้ว..ทำให้มันมีซะซิ..ไม่มีใครแยกแยะออก..ลูกค้าก็<o></o>
    รู้แต่..เพียงว่า..เป็นพระผงเนื้อขาว..ปางสมาธิ..นั่งบนฐาน..สามชั้น....ส่วนใหญ่เลย<o></o>
    ทราบมาจาก..คำบอกเล่า..ถึงเคยเห็นมาบ้าง..ก็คงแยกไม่ออก..และนึกไม่ถึง(ว่าจะ<o></o>
    ไม่ใช่ของจริง)..เพราะ..งมขึ้นมาจากคลอง..จะจะ................................<o></o>
    ..............เมื่อไอเดียบรรเจิด..พระปลอมหรือ..สมเด็จปลอม..ก็อุบัติขึ้น..ในสมัย ร.๕<o></o>
    ตอนกลาง..ถึงตอนปลาย..นั่นเอง...<o></o>
    ..........วิธีการก็..แสนง่าย..เอาพระปลอมใส่ไปกับผ้านุ่งที่ใส่ไว้เวลา..งม..ตอนตักขี้เลนก็<o></o>
    แอบเอาพระปลอม..ยัดลงไปใน..กระชุ..หรือ..บุ้งกี๋..ที่ใช้ตัก..เอาขึ้นมาที่ตลิ่ง..ทำคุ้ยๆ..ซัก<o></o>
    ๔-๕..รอบ..อุ้ย !..เจอแล้ว..หยิบขึ้นมา..แกว่งๆกับน้ำใสๆหน่อย..ออกมาเช้งกระเด้ะ..<o></o>
    .....ขนมกรุบ..แท้ๆ..เท่านี้ก็ได้เงิน...งมเป็นปี..ก็ยังได้มา..เรื่อยๆ.......<o></o>
    ...........ครับนั่นเข้าใจว่าเป็นจุดเริ่มต้น..ของการปลอมพระ..แต่..สำหรับ..พระอื่นๆ..ที่ตาม<o></o>
    มาเรื่อยๆ..ก็มีสาเหตุมาดังนี้....................................<o></o>
    ............หลังจากวิกฤต..ร.ศ.๑๑๒..ทาง..หัวเมือง..ใกล้เคียง..หรือที่อยู่..ห่างๆไป..ก็เริ่ม..<o></o>
    ทราบเรื่อง..และก็มีการกล่าวขวัญ..กัน..และก็มี..บางส่วนที่..อยากมีของไว้คุ้มครองเช่นกัน<o></o>
    ..ไมนับ..พวกที่ขุดกรุเพื่อเอา..ของมีค่า..ไปขาย..และนั่น..ทำให้การแตกกรุ..ของพระยิ่ง<o></o>
    ง่าย..โดยเฉพาะ..แถบ..อยุธยา..ลพบุรี..เพราะพวกนี้เอาแต่ของมีค่า..เจอพระ..อย่างเก่ง<o></o>
    ก็หยิบไป..องค์๒องค์..พระที่เหลือ..ก็อยู่ในกรุ..พวกที่อยากไปหาพระที่เจดีย์..เจอโพรงเข้า<o></o>
    ..ก็..ง่าย..แต่ยุค..นั้น..ก็คงเอามาบ้างบางส่วน..เผื่อญาติเพื่อนฝูง..พอเอาไปติดตัวแล้วมีประ<o></o>
    สพการณ์..ก็อาจไปขุดเพิ่ม..พอพูดกันว่าพระดี..ก็กรุแตกจนได้..ในยุคนั้น..ผมว่าเจตนาเพื่อ<o></o>
    จะไปหาพระจริงๆ..ขุดเจอ..ก็คงเอาไปไม่มาก..แต่ถ้าพระดี..ก็กลับไปขุดใหม่..จน..ผลการ<o></o>
    ทำลายเห็นได้ชัด..ยกตัวอย่างที่สุพรรณ..ที่ทางการทนไม่ได้ต้องเปิดกรุเองเพราะกลัวพระ<o></o>
    ปรางค์พัง...เริ่มมีพระที่แตกกรุมา..เรื่อยๆ..เช่นพระนางพญา..เป็นต้น...พระท่ามะปราง..<o></o>
    พิษณุโลก..ส่วน..กริ่งคลองตะเคียน..แตกมาก่อนหน้านี้......พระพิจรทั้งหลังผ้า..และเม็ด<o></o>
    ข้าวเม่า..แตกออกมานานแล้ว..แต่มีเยอะ..และอีกหลาย..กรุยังไม่แตก............<o></o>
    .....................พอ..ถึงปี..๒๔๔๔-๒๔๔๙..คราวนี้มีแต่..เหตุการณ์ไม่ดี..ทั้ง..กบฎเงี้ยว<o></o>
    ..ผีบุญ..ที่อุบล..กบฎแขกที่ปัตตานี...ไอ้ฝรั่งเศษ..มารุกราน..ยึดจันทบุรี..แล้วไทยต้อง<o></o>
    เสียดินแดนอีก..๒-๓..รอบ.....ชาวบ้านทั่วไปทั้งในเมือง..และตามหัวเมืองรู้สึกชีวิตไม่มั่น<o></o>
    คง..ก็เลยต้องหาพระมาติดตัว....การขุดกรุ..ก็เกิดขึ้นทั่วไป...ที่ตามมา..ก็คือ..พระ...<o></o>
    ..ซึ่งมีทั้ง..พระกำแพงต่างๆ..พระกรุลำพูน(พระรอด..พระคง)...พระกรุวัดบ้านกร่าง..<o></o>
    พระหูยาน..กรุวัดพระศรีมหาธาตุ..ลพบุรี..พระเมืองสรรค์..ขุนแผนไข่ผ่าซีกวัดพระรูป..ก็<o></o>
    มีการพบอยู่เรื่อยๆ..เพราะพระทะลักออกมาจากกรุ..โผล่ตามดิน...พระผงสุพรรณก็เริ่ม<o></o>
    ปรากฎ..แต่..ยังไม่มาก..ทะยอยๆออกมา(มาเปิดเป็นทางการเพราะ..ขุดกันจนเละ..ในยุค<o></o>
    ต้น..ร.๖..ซึ่งเป็นการเปิดกรุเป็นทางการใน..องค์สุดท้ายของเบญจภาคี..ผงสุพรรณ)..พระ<o></o>
    มเหศวร..ก็เริ่มออกมาแล้ว..พร้อมๆกับผงสุพรรณ........แต่เหตุการณ์..สำคัญ..ต้นแบบ<o></o>
    ของทหารผีในรุ่นหลัง(..เกาหลี..เวียตนาม..)..เป็นจุดที่ทำให้การปลอมพระเริ่มมีความ<o></o>
    หลากหลาย..และเฟื่องฟูขึ้น.....................................................<o></o>
    ..................................เอาละครับ..ก็พอท้วมๆ...ต้องไปต่อตอนหน้าครับ.......<o></o>
    ........................ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกัน......ขอบคุณครับ.......<o></o>
    ............................................สวัสดี..................................................<o></o><o></o><o>
    </o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2010
  12. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    ขอบคุณครับ...
     
  13. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .....ขอบคุณครับ..คณ โอ ท่าซุง..ที่ติดตาม..ตลอด..รวมทั้งผู้ที่ติดตามอ่านทุกท่าน......<o:p></o:p>
    ................................กรุงเทพ..ยุค..คลาสสิค.................................................<o:p></o:p>
    .............ผมมาพูดถึง...เรื่อง..การคมนาคม..ในยุคนั้น...โดยทั่วไป...กรุงเทพรอบนอก..<o:p></o:p>
    ที่ไม่ใช่ย่านธุรกิจ..รถราไม่ติด..ไม่ว่า..วันธรรมดา..หรือ..เสาร์..อาทิตย์...เพราะรถมีไม่มาก<o:p></o:p>
    ..ไม่มีเต้นท์รถ...ไม่มีไฟแนนซ์..หรือดาวน์อย่างโคตรถูก..อย่างปัจจุบัน..ส่วนใหญ่..จะซื้อ<o:p></o:p>
    เงินสดกัน..หรือไม่งั้น..ก็ผ่อน..๓-๔..งวด..ฉะนั้น..คนฐานะไม่ดี..หรือ..ทำงานธรรมดามา<o:p></o:p>
    ซัก ๑๐ ปี..ไม่มีปัญญาซื้อรถใหม่..แน่นอน..ถ้าไม่มีมรดก..เจ้าคุณพ่อมาช่วย..หรือพ่อรวย<o:p></o:p>
    ถึงจะซื้อรถให้..ลูกได้..ยุคนั้น..ถ้า..เห็นคนรุ่นหนุ่มขับรถดีๆ..ไม่ต้องหรู..ก็แสดงว่าพ่อแม่<o:p></o:p>
    รวยแน่..ผู้จัดการ..หรือผู้บริหาร..ไม่มีคนหนุ่ม..ต้องร่วม ๕๐ ขึ้นไปทั้งนั้น...นั่นแหละครับ<o:p></o:p>
    รถจึงไม่เยอะ..ถ้าเสาร์ อาทิตย์..รถโล่งเลย..เพราะ..บริษัทก็ไม่..ทำงาน..วันเสาร์..เป็นวัน<o:p></o:p>
    พักผ่อนจริงๆ..เด็กๆทั่วไป..ก็ไม่ต้องเรียนกวดวิชากัน..ผู้ปกครองก็ไม่ต้องไปส่ง..โรงเรียน<o:p></o:p>
    กวดวิชา..มีเฉพาะ..พวกจะเข้าเตรียมทหาร..เตรียมอุดม..เข้ามหาวิทยาลัย..ซึ่งมีไม่มาก<o:p></o:p>
    ....รถยนต์..เกือบทั้งหมด..เป็น..รถอเมริกัน..กับ..ยุโรป..รถญี่ปุ่น..มีน้อย..แถมขับไปไหน<o:p></o:p>
    ก็ดู..ต่ำต้อย..ดีไซน์โคตรเฉิ่ม..ชื่อยิ่งไปกันใหญ่ TOYOPET..ชาวบ้านก็เรียกันว่า..ไอ้รถ<o:p></o:p>
    เป็ด..มอเตอร์ไซค์..น้อยกว่ายุคนี้มหาศาล..ส่วนใหญ่จะเป็น ..สกู๊ตเตอร์..พวก เว้สป้า..<o:p></o:p>
    ..แลมแบรตต้า..เดี่ยวนี้..เหลือมีแต่พวกซิกซ์ขายผ้า..ใช้วิ่งกันอยู่แถวสำเพ็ง............<o:p></o:p>
    ...รถยนต์นั่งมาตรฐาน..ก็จะมี..FIAT ..PEUGEOUT..FORD..MORRIS..AUSTIN……..<o:p></o:p>
    ..HILLMAN..VOLKSWAGEN……TAUNUS……BMW……………………………….<o:p></o:p>
    ..............ตอนหน้า..จะมาว่า..ถึง..รถ..ที่ขึ้นมาอีกระดับ...................................<o:p></o:p>
    ................................................................................................................<o:p></o:p>
    .........เหตุการณ์นั้นก็คือ..การไปปราบ..กบฎเงี้ยวในปี..๒๔๔๕...ทหารเดินทัพไปจากภาค<o:p></o:p>
    กลางเป็นส่วนใหญ่..เมื่อเดินทัพไปถึง..พิษณุโลก..ทหารส่วนใหญ่..ได้รับแจก..พระท่า<o:p></o:p>
    มะปราง..ซึ่งพึ่งแตกกรุมาไม่นาน...เมื่อไปเข้ารบปรากฎว่า..ทหารที่ได้รับพระท่ามะปราง..<o:p></o:p>
    ..ก็ได้กลาย..เป็นต้นตระกูลของ..ทหารผี..หรือ..อีกนัยหนึ่ง..คือ..ทหารผีรุ่นแรก..ประเภท<o:p></o:p>
    ..ถูก..ยิง..ถูก..ฟัน..ล้มไป..แล้วเด้งขึ้นมาใหม่..มารับ..กระสุน..อีดาบ..ล้มๆลุกๆ..ฆ่ายังไงก็<o:p></o:p>
    ไม่ตาย..ว่างั้นเหอะ..ไอ้พวกเงี้ยว..ก็เลย..ทิ้งปืน..ทิ้งดาบ..โกยกันแน๊บ....หลังทหารปราบ<o:p></o:p>
    กบฎเงี้ยว..เสร็จกลับมาพระนคร..คราวนี้..เรื่องราวดังกล่าว..นำมาเล่าขานกัน...พระท่ามะ<o:p></o:p>
    ปราง..ก็เลยได้ฉายา..เงี้ยวทิ้งปืน..นี่เป็นปากฎการณ์เกี่ยวกับ..พุทธคุณที่มีบันทึกเป็นหลัก<o:p></o:p>
    ฐานทางประวัติศาสตร์..กันเลย..เมื่อพระท่ามะปราง..มีพุทธคุณขนาดนี้..ใครๆ..ก็อยากได้<o:p></o:p>
    กันทั้งนัน..บางคนโดยเฉพาะพวกทหารที่ชีวิต..ต้องเสี่ยง..ไม่รู้ว่าจะต้อง..รบกับ..ฝรั่งเศษ<o:p></o:p>
    เมื่อไหร่..ก็ขึ้นไปหากันถึงพิษณุโลกเลย...บางคนก็ได้..ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้..เพราะเรื่อง..เงี้ยว<o:p></o:p>
    ทิ้งปืน..นี่ดังไปทั่ว..ปากต่อปาก..คนแถวโน่น..ก็เริ่มหวงแหนกัน............................<o:p></o:p>
    ...............ฉะนั้น..ก็..เข้าทางพวกทำพระปลอม...สนองความต้องการที่มีมาก..พระท่ามะ<o:p></o:p>
    ปรางปลอม..เริ่มออกกันมา..แถม..กระจายไปตามหัวเมืองใหญ่ด้วย...คนเริ่มสนใจหาพระ<o:p></o:p>
    มาติดตัวมากขึ้น..พระสมเด็จ..พระท่ามะปราง..ก็เหมือนบีบตัวเองไป..คนทำพระปลอม.ก็<o:p></o:p>
    เริ่ม..หาพระแบบอื่นที่.เป็นที่ขึ้นชือ่โดยเน้น..เหนียว..อุด..แคล้วคลาด.....พระที่ขึ้นชื่อเรื่อง<o:p></o:p>
    นี้..ก็เรียงลำดับ..ไปอยู่ในบัญชีทำพระปลอมกัน..เพียงแต่จะไม่ผลิตมามากเหมือน..พระสม<o:p></o:p>
    เด็จฯ..กับพระท่ามะปราง(เนื้อชินเงิน).......<o:p></o:p>
    ........กริ่งคลองตะเคียน....................โคตรเหนียวของอยุธยา..แตกกรุมานาน<o:p></o:p>
    ........พระพิจิตรหลังผ้า(พิมพ์สามเหลี่ยมองค์ใหญ่..กว่าเม็ดข้าวเม่า)..ที่ผมบอกว่า<o:p></o:p>
    แตกกรุ..มานานแล้ว..แต่..ออกมา..เรื่อยๆ..สร้างชื่อมาเรื่อยๆ......................<o:p></o:p>
    ........พระนางพญา..ซึ่งพึ่งแตกกรุใหญ่มา...ไม่นาน..แต่เรื่อง.แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม..<o:p></o:p>
    ที่...ผมบอกไปตอนที่แล้ว...เหตุการณ์บ้านเมือง..พาไป........................................<o:p></o:p>
    ......คนสมัยก่อน..สามารถทำให้พระมีชื่อเสียงกันได้เร็ว...เพราะ..ทะเลาะกัน..ก็เล่นอีดาบ<o:p></o:p>
    กันแล้ว....โจร..ก็ชุมมาก..ทั้งตำรวจ..โจร..ก็ต้องหาที่พึ่งกัน................หลังจากที่เปิดกรุ<o:p></o:p>
    ใหญ่ที่วัดมหาธาตุสุพรรณบุรี..เมื่อต้นยุค..ร.๖..แล้ว..คราวนี้..พระเก่า..ก็ทยอย..กรุแตกกัน<o:p></o:p>
    เรื่อยๆ..พระไหนที่มีประสพการณ์..เป็นเยี่ยมเด่นชัด..เป็นที่ไฝ่หา..คนทำพระปลอม..ก็ทำ<o:p></o:p>
    มาเรื่อยๆ...เพราะฉะนั้น..คนรุ่นเก่าบางท่าน..ตั้งแต่ยุค..ร.๕-ร.๗...ก็อาจมีพระปลอมกัน..<o:p></o:p>
    โดยไม่รู้ตัว..ไอ้พวกรุ่นเหลน..บางคนนึกไม่ถึง..พอเห็นว่าเป็นของทวด..ไม่พิจารณาให้ดี<o:p></o:p>
    ..ใจนะเชื่อไปเต็มร้อย..เพราะไม่เชื่อว่ายุคนั้นจะมี..พระปลอม..เวลา..เอาไปโชว์..คนอื่น..<o:p></o:p>
    เขาดูแล้ว..บอกไม่ใช่..ก็โกรธเขาอีก..บอกของทวดกูใช้อยู่..จะปลอมได้ยังไงวะ...<o:p></o:p>
    ........อ่านเรื่องของผม..ก็..คงจะนึกออก..ว่า..ปลอมมาตั้งแต่ทวดเอ็งแล้ว....<o:p></o:p>
    ..............................................................................................................<o:p></o:p>
    ....................เอาละครับ.....ไว้ต่อตอนหน้า....................................................<o:p></o:p>
    .......................ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกัน....ขอบคุณ..ครับ....................<o:p></o:p>
    ............................................สวัสดี........................................................<o:p></o:p>

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->
     
  14. 5000

    5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,491
    ค่าพลัง:
    +7,121
    เด๋วนี้กลายเป็น "ปลอมซ้อนปลอม" หุหุหุ

    นั่งเฝ้าหน้าจอต่อครับ.
     
  15. วีรวัช

    วีรวัช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,622
    ค่าพลัง:
    +5,029
    เคยได้ยินเหมือนกัน เรื่องที่บอกว่า มันปลอมมาตั้งแต่รุ่นปู่แล้ว

    มาเจอรุ่นทวดหนักกว่าเดิม 555
     
  16. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    ขอบคุณครับ...เป็นเรื่องราวที่คลาสสิกจริงๆเลยครับ
     
  17. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" name="City"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" name="place"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:44.95pt 28.3pt 72.0pt 54.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอบคุณครับ..คุณวีรวัช..คุณโอ ท่าซุง..คุณ๕๐๐๐(ยินดีต้อนรับครับ)......<o:p></o:p>
    ที่ให้คำชม..และ ติดตามรออ่านกัน...รวมทั้งผู้ติดตามอ่านทุกๆท่าน...............<o:p></o:p>
    ...................................................................................................................<o:p></o:p>
    ............................กรุงเทพ..ยุค..คลาสสิค................................................<o:p></o:p>
    ......รถยนต์..มีระดับขึ้นมา..มีทั้ง..รถนั่งทั่วไป..และรถนั่งขนาดใหญ่..อย่างรถนั่งทั่วไป..ก็มี<o:p></o:p>
    ..ALFA-ROMEO..ถ้าใหญ่หน่อยจะเป็น..CHEVROLETTE..DODGE..BUICK..CHRYSLER..<o:p></o:p>
    DESOTO…..BENZ…….หรูๆก็นี่เลย..ROLLS-ROYCE…..BENTLEY….CADILLAC..JAGUAR<o:p></o:p>
    ...รถสปอรต์..ก็นี่..FORD MUSTANG….MG…CORVETTE STINGRAY..PORSCHE…..<o:p></o:p>
    แค่..นี้ที่ผมยกมา..เป็นแค่ SAMPLE....แต่มีข้อสังเกต๒อย่าง..คือ..จะมีรถเปิดประทุน(หลัง<o:p></o:p>
    คาผ้าใบ..ยืด-หด..ได้..ไม่ใช่แบบ..SUN-ROOF)แท้ๆ..ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนไม่น้อยกว่า ๑๐ <o:p></o:p>
    %....เกือบทั้งหมด..ถ้าไม่ใช่..รถสปอร์ต...จะเป็น..เกียร์พวงมาลัย(คันเกียร์อยู่ที่..ก้านพวง<o:p></o:p>
    มาลัย)......แต่ที่แปลกมากในยุคนั้น...รถTAXI...จะมีสีเดียว..และรถบ้านจะไม่ใช้สีนี้..เพราะ<o:p></o:p>
    จะถูกโบกเรียก..ไม่รู้ตัว...สีนั้นคือ..สีเทา..และรถTAXI..ทั้งหมด..จะเป็น..รถยนต์ ๕ ประตู<o:p></o:p>
    หรือจะเรียกว่า..รถVANก็ได้...และเกือบทั้งหมด(ประมาณ๙๕%)..จะเป็นรถยี่ห้อ..<st1:city w:st="on"><st1:place w:st="on">AUSTIN</st1:place></st1:city><o:p></o:p>
    แบบVAN...ที่เหลือจะเป็นยี่ห้อ FORD <st1:place w:st="on">THAMES</st1:place>..ที่มีลักษณะคล้ายกัน...มอร์เตอร์ไซค์..<o:p></o:p>
    ขนาดใหญ่..ก็นีเลยครับ..HARLEY-DAVIDSON..มี TRIUMPH..รองลงมา..แล้วก็ BMW..<o:p></o:p>
    ...รถบรรทุก..รถญี่ปุ่นกำลังมา..HINO...รถจักรยาน..ก็..RALEIGH..HUMBER.......<o:p></o:p>
    .......ส่วน..รถขับเคลื่อนสี่ล้อ..คู่แข่งแทบไม่มี..LAND-ROVER..รองลงมาเป็น JEEP<o:p></o:p>
    ...........เอาละครับ...ว่าเรื่องรถกัน..พอหอมปากหอมคอ........ต่อเรื่องอื่น..ตอนหน้าครับ<o:p></o:p>
    ...................................................................................................................<o:p></o:p>
    ...................................................................................................................<o:p></o:p>
    .......พอเข้ายุค..ร.๖...กลางๆ...ก็เริ่มมี..พระปลอม...หลาย..วัดขึ้น......เริ่มจาก..<o:p></o:p>
    ...........เบญจภาคี..ครบชุด....<o:p></o:p>
    ...........หูยาน..กรุวัดมหาธาตุ..ลพบุรี<o:p></o:p>
    ...........ท่ามะปรางค์ชินเงิน...พิษณุโลก<o:p></o:p>
    ...........พิจตรหลังผ้า..เม็ดข้าวเม่า(ส่วนน้อย..องค์เล็กจัด)<o:p></o:p>
    ...........กริ่งคลองตะเคียน...อยุธยา<o:p></o:p>
    ...........พระสรรค์นั่งไหล่ยก..(..แตกกรุมา..ร่วมกับ..พระลีลาวัดส่องคบชินเงิน..พระสรรค์นั่ง<o:p></o:p>
    ดังกว่า..เหนียวๆๆ..สุดๆๆ)<o:p></o:p>
    ...........ขุนแผนวัดบ้านกร่าง<o:p></o:p>
    ...........ขุนแผนไข่ผ่าซีกวัดพระรูป(ทยอยโผล่ดิน..ออกมาเรื่อยๆ..แต่ได้รับความนิยมสูง....)<o:p></o:p>
    ...........................เป็นต้น.............................<o:p></o:p>
    .......ยุคนั้น..พอหลัง..สงครามโลกครั้งที่๑...เศรษฐกิจ...ตกต่ำทั่วโลก..ไม่เว้นเมืองไทย....<o:p></o:p>
    ...การแตกกรุ..ก็ทยอยมากขึ้น..เจตนาจริงๆก็ไม่เอาพระเป็นหลัก..แต่เอาทอง..หรือเงิน.....<o:p></o:p>
    คนขุด..ก็กะหวังจะได้..พระทอง..พระเงิน...เพราะตามกรุที่เป็นวัดหลวง..ตามหัวเมือง..หลักๆ<o:p></o:p>
    มักจะมีปนอยู่..กับ..พระทั่วไปด้วย...หรือ..ไม่งั้น..ก็เป็น..พระพุทธรูปบุทอง..บุเงิน(หุ้มด้วย<o:p></o:p>
    แผ่นทอง..หรือ..แผ่นเงิน)...อีกประเภทก็เป็น..พระหน้าทอง...พระหน้าเงิน................<o:p></o:p>
    .....แค่นี้เอา..ทอง..หรือ..เงินไปขาย..ก็..รวยแล้ว...ยิ่ง..วัดมหาธาตุ..ของทุกจังหวัด...จะถูก<o:p></o:p>
    ขุด..กันไม่เหลือ..คราวนี้..พระต่างๆก็ตามมาด้วย..เพราะมีการเปิดทางไว้ให้แล้ว.......<o:p></o:p>
    .......พระปลอมยุคนั้น..ก็..ไม่ได้ทำกันมากมาย..เพราะไม่ได้เฟื่องแบบยุคนี้...คนทำก็แค่มี<o:p></o:p>
    ความเป็นอยู่พอดี..ไม่จนยาก........................................<o:p></o:p>
    ....................แต่คนที่ชอบพระจริงๆ..ก็ไขว่คว้าแสวงหา..เหมือนยุคนี้เช่นกัน....ผมจะเล่า<o:p></o:p>
    เรื่องให้ฟัง...เพื่อให้หลายท่าน..ที่เคยฟังเรื่องมาว่า..พระชุดเบญจภาคีที่ไม่ใช่สมเด็จวัด<o:p></o:p>
    ระฆัง...เมื่อ..๗๐-๘๐ ปีก่อน..ไม่มีราคาอะไร..หาง่าย......มันไม่ใช่ครับ................<o:p></o:p>
    ...........เรื่องมัน..เริ่มเมื่อ..ประมาณปี..๒๔๘๓(..ก่อนสงครามอินโดจีน)...พ่อผมยังเป็น<o:p></o:p>
    นายทหารหนุ่ม..ยศ..ร้อยตรี..(พ่อผมจบจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก(ก่อนยุค..นายร้อย<o:p></o:p>
    ..จ.ป.ร. )เมื่อปี..๒๔๘๒)..หลังจากไปรับราชการที่..เชียงใหม่..มาเกือบ ๑ ปี..ท่านก็..ถูก<o:p></o:p>
    ย้ายให้มารับราชการที่..พิษณุโลก...ผู้บังคับบัญชาพ่อ..ท่านเป็น..ผ.บ.พัน..มีบรรดาศักดิ์<o:p></o:p>
    ด้วย..เป็นท่านขุน..แต่ผมจำไม่ได้..ว่าเป็นขุน..อะไร..ในยุคนั้น..ผ.บ.พันทหารบก..ก็มี<o:p></o:p>
    อำนาจยิ่งใหญ่..คับจังหวัดแล้ว..ขนาด..ผู้ว่า..ยังไม่มีบรรดาศักดิ์....ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มี<o:p></o:p>
    อัธยาศัยดี..คนนับถือทั่วไป..สิ่งที่ท่านชื่นชอบคือ..พระ...ตกเย็นๆ..สมัยนั้น..พ่อผมชอบ<o:p></o:p>
    ตี..บิลเลียด..ก็จะอยู่ที่..สโมสรนายทหาร(ทหารประทวน..พวกจ่า..หรือ..นายสิบ..ขึ้นมา<o:p></o:p>
    ใช้บริการ..ไม่ได้)...ท่านขุน..ท่านก็จะอยู่สโมสรเหมือนกัน..ก็จะคุยเรื่องพระ..กับบางคน<o:p></o:p>
    ที่พอรู้เรื่อง..แต่พ่อเคยได้ยินท่าน..พูดว่า..อยากได้พระนางพญาซักองค์..พ่อผมไม่รู้ด้วย<o:p></o:p>
    ซ้ำ..ว่าพระนางพญาหน้าตาเป็นยังไงทำด้วยอะไร..เพราะไม่สนใจ..ผมเคยถามพ่อ..ว่า<o:p></o:p>
    หนุ่มๆ..พ่อเคยรู้จักพระ..อะไรมั่ง..พ่อบอกว่า..เคยได้ยินผู้ใหญ่..เขาคุยกัน..ว่าพระพิจิตร<o:p></o:p>
    เม็ดข้าวเม่า..นี่แหละเหนียวจริงๆ..พ่อรู้แต่ว่าเป็นองค์เล็กๆเป็นโลหะ..แค่นั้น..นอกนั้น<o:p></o:p>
    ไม่รู้.......................................................<o:p></o:p>
    .................................เอาละครับ....ไว้ต่อตอนหน้า..เรื่องของท่านขุน..ยังไม่จบ....<o:p></o:p>
    ...................................ขอบคุณครับทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกันตลอด...........<o:p></o:p>
    .................................................ขอบคุณ....ครับ.....................<o:p></o:p>
    ...................................................สวัสดี..................................................<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  18. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    มารอชมและติดตามครับ
     
  19. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ยังติดตามอ่านเหมือนเดิมครับคุณลุง.......(^_^)...
     
  20. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    ขอบคุณครับ....เหมือนได้ติดตามประวัติกรุงเทพ และพระเครื่องไปพร้อมๆกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...