ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
    สวัสดียามเช้าๆและยามสายๆครับบ คุณลุงง
     
  2. COFFEEMAX

    COFFEEMAX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,318
    ค่าพลัง:
    +9,085
    เข้ามาทักทายคุณลุงหลังจากวันที่เลวร้ายผ่านไปครับ
     
  3. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..ขอบคุณครับ..คุณSareem..ที่ติดตาม..ผลงานผม..ความจริง..กระทู้..พระสมุห์ทองดี วัดบางด้วนนอก..เปิดก่อน..กระทู้นี้..ตอนนี้ผมเขียนอยู่..กระทู้เดียว..เขียนทุกวัน..กระทู้เดียว..ก็อ้วกแล้ว..กะว่าจะเขียนไปข้ามปีเลย..
    ไม่รู้จะไหว..รึ..เปล่า
     
  4. smilelunar

    smilelunar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    846
    ค่าพลัง:
    +964
    เขียนต่อเถอะค่ะคุณพี่ (เรียกลุงเดี๋ยวจะแก่ไป อิอิ)
    มีแฟนคลับติดตามและให้กำลังใจมากมายค่ะ
     
  5. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ช่วงนี้ตามอ่านกระทู้ไม่ค่อยทันเลยครับ..เพราะมีแต่กระทู้ดีๆทั้งนั้นเลยอ่ะ....แต่ก็จะยังติดตามเหมือนเดิมนะครับ..(^_^)..
     
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...ขอบคุณครับ..คุณLynn@nice(ผมเข้าใจว่า..เดี๋ยวนี้เขาจะเรียกแบบนั้น
    ครับ)..คุณ น้ำดี๑..คุณ โอ ท่าซุง..คุณ๑๕ค่ำ..คุณSareem..คุณTrirut
    คุณStep&time..คณNu_wa..คุณCoffeeMax..คุณSmileLunar..
    คุณNorragate..ที่ชม..ให้กำลังใจ..และติดตามอ่าน..รวมทั้งท่านผู้อ่าน
    ทุกท่านด้วย.......เริ่มที่..กรุงเทพ..ยุค..คลาสสิค..เลยครับ.......
    .................................................................................
    ......พอเลย..วัดธาตุทองไป...ซักไม่นาน..ขอบกรุงเทพ..ก็วกลงใต้ที่
    ..ซอยกล้วยน้ำไท..ผมไม่ยืดไปถึง..ซอยสุขุมวิท๗๑..ที่ไปเชื่อมคลองตัน
    ..ถึงแม้จะมีคนอยู่มาก(สุเหร่า..มากด้วย)..เพราะวิถีชีวิต..คนแถบนั้น(ใน
    ยุคนั้น)เป็น..ชาวบ้าน..ไม่ใช่ชาวกรุง..เหมือนปัจจุบัน...
    ...พูดถึง..ซอยกล้วยน้ำไท..คนรุ่นใหม่อาจจะ..งง..ก็..ปัจจุบัน..ถูกรวบหัว
    รวบหาง..กลายเป็น..พระราม๔..ไปแล้ว..ซอยกล้วยน้ำไท...............
    มีสถาบันการศึกษาขึ้นชื่อ..อยู่คือ วิทยาลัยกรุงเทพ(ม.กรุงเทพ..ปัจจุบัน
    )...นี่คือที่กำเนิดเดิม...สมัยก่อน..ถ้าพูดถึง..สาวๆจาก..กล้วยน้ำไท..ก็คือ
    นักศึกษาหญิง..จาก..วิทยาลัยกรุงเทพ..เมื่อ ๓๐กว่า ปี..ก่อนนี้ขึ้นชื่อเรื่อง
    ความสวย..และทันสมัย(นุ่งกระโปรง..คืบกว่าๆ..งามหยด)...ที่มาของชื่อ
    ซอยนี่..เป็น..พันธุ์กล้วยชนิดหนึ่งจริงๆ..แต่ผมว่าคงสูญพันธุ์ไปแล้ว...
    ซอยกล้วยน้ำไทย..จะวกกลับไปทางทิศตะวันตก..ขอบเมืองก็จะเลาะไป
    กับซอย..โดยฝั่งซอยด้านทิศใต้จะเป็นขอบเมือง...ก้นซอยกล้วยน้ำไท
    ..คือจุดบรรจบ..กับถนนเลียบทางรถไฟสายเก่า..ที่มีต้นทางมาจาก..
    ปากน้ำ.สมุทรปราการโน่น..สมัยนั้น..จะเห็นรางรถไฟ..แยกออกอย่างชัด
    เจน..รางรถไฟทั้งเส้นยังไม่ได้รื้อ..ไปจนถึง..ปากน้ำ..หน้าโรงเรียนนาย
    เรือ..ยุคนั้น..ยังมีราง..และไม้หมอนอยู่..ครบ..ทางรถไฟ..สายนี้..ไปจบ
    ที่บริเวณ..คลองเตย..ซึ่งเป็นสิ่งที่อำนวย..ความสะดวก..กับคนปากน้ำ..ที่
    ..จะเข้า..มา..เรียน..ทำงาน..ค้าขาย..ในกรุงเทพ..มาตั้งแต่สมัย..ร.๕
    .........ถนนพระราม๔..จริงๆ..ก็มีุจุดสิ้นสุด..ที่มา..บรรจบ..กับ..ถนนเลียบ
    ทางรถไฟสายเก่านี่เอง...ขอบเมือง..ก็เลาะไป..กับ..ถนนพระราม๔..
    ..ซึ่งฝั่งใต้ของถนนไปหน่อย..จะเป็น..ชานเมือง..มีต้นไม้หนาแน่นสลับ
    กับ..พวกตึกแถวไม้บ้าง..ปูนบ้าง..จนข้ามทางรถไฟ(ก็เส้นเดียวกับที่ตัด
    กับ..ถนนสุขุมวิท..)..เมื่อข้ามแล้ว..ฝั่งด้านเหนือ..นับจากทางรถไฟ..ไป
    ..ยัน..สนามมวยลุมพีนี..นั่นคือ..ชุมชนบ่อนไก่..สมัยนั้น..ยังไม่มีแฟลต
    ที่เป็นของอาคารสงเคราะห์..เป็น..บ้านไม้อยู่ติดๆกันเต็มไปหมด..และมี
    ..บ่อนไก่ถูกกฏหมาย..ขนาดใหญ่..ของกรุงเทพ..คนอยู่กันหนาแน่นมาก
    ..คล้ายๆชุมชนคลองเตย.......
    .........เอาละครับ...วันนี้จบที่..บ่อนไก่....ไว้ตามต่อ..ตอนหน้า........
    ..................................................................................
    ...เมื่อถึง..ปี๒๕๐๘..ครอบครัว..เราก็..ย้ายไปอยู่บ้านของตัวเองที่สร้าง
    ใหม่..ในซอย..ที่อยู่ใกล้ๆปากทางลาดพร้าว..ก็เขยิบใกล้ขอบเมืองเข้ามา
    หน่อย..ผมยามว่าง(พ่อ..แม่..ไม่อยู่)..ก็รื้อ..กล่องพระเหมือนเดิม....
    ...เจอเหรียญ..แปลกมากอยู่เหรียญหนึ่ง..ความจริงจะว่าเหรียญ..ก็ไม่ใช่
    ...เพราะ..เป็น..พลาสติก..สีขาว..มีรูปพระ..อยู่ด้านหนึ่ง..ไม่มีตัวหนังสือ
    ด้วย..ด้านหลัง..มีแต่เครื่องหมาย..กากะบาทหาง..งอ..ผม..งง..ว่าจะห้อย
    ได้ยังไง(ผมคงไม่ต้องบอก..นะครับ..ว่า..เหรียญอะไร..เดี๋ยวจะดูถูกกัน..
    เกินไป)..ห่วงก็ไม่มี..ก็เลยไม่คิดจะใส่..สีขาวแหงแก๋..แ่ต่..ณ..ขณะนี้..
    ..ผมกำลังพิมพ์อยู่นี้..ผมห้อยอยู่ครับ...เพราะ..ผมมาประจักษ์จริงๆกับ
    คาถา..ของท่าน..ตอนไฟลุกท่วมมือผม..เหมือน..นักกีฬาโอลิมปิค..วิ่งคบ
    เพลิง..แต่ที่ไฟลุกโชตืช่วง..ไม่ใช่คบเพลิง..แต่เป็น..มือผมเอง..ทั้งมือ
    เลย..
    อันนี้ผมขอเล่าหน่อย..เพราะเป็นอันเนื่อง..มาจากตอนนั้น..คือการพบ
    เหรียญนี้ครั้งแรก..แต่จุดปลี่ยนความคิด..เป็น..เหตุการณ์..เมื่อ ๗-๘ ปี..
    ก่อนเอง..ไอ้ตัวต้นเหตุคือ..ไฟแช็ค..จุด..ยาเส้น..ของพ่อผม..ที่ต้องเติม
    น้ำมันไฟแช็ค(กระป๋องเหลือง-น้ำเงิน..สมัยนี้คนไม่ค่อยได้ใช้)..ไอ้ไฟแช็ค
    นี่..ก็จะเรียกแบบนั้น..ก็ไม่ได้..เพราะความจริง..มันเป็น..ไม้ขีดไฟแบบ..
    เติมน้ำัมัน..ของจีน..มันจะไม่มีตัว..สำลีอุ้มน้ำมันแบบ..ZiPPo(ขออภัย..
    สำหรับ..คนที่ไม่รู้จัก)..มันจะต้องเอาน้ำมันเติมลงในรู..แต่..ความซวย
    ..เป็นของผม..โชคดี(หรือ..พระเขาดีกว่าผมก็ไม่ทราบ)..พ่อเติมน้ำมัน
    ไปเยอะมาก..และปิดเกลียวสนิท..พี่ชายผม..ซึ่งวันนั้นไปเยี่ยมพ่อ......
    เหมือนกับผม..นั่งอยู่ที่โต๊ะ..เขาหาไฟแช็คเขาไม่เจอ..พอดี..ผมนั่งอยู่ใกล้
    ..ไอ้ไม้ขีดตัวดีนี่..ผมก็ยื่นให้..แต่พี่ชายผมไม่เคยใช้ก็..งง..ก็ถามผม..
    ..เฮ้ย..มันใช้ยังไงวะ..ผมก็ขี้เกียจ..อธิบาย..ก็เลยจะเอามาจุดให้...
    ...วิธีการคืิอ..ต้องคลายเกลียว..เอาก้านจุดออกมา..ไอ้ตรงนี้แหละครับ..
    ที่ไม่ได้สังเกต..ว่าน้ำมันๆปริ่มรูอยู่..ก็เอาปลายก้านมาขีดกับ..ด้านข้างที่
    ตัวกล่อง..มันเป็นตัวทำให้เิกิด..ประกายไฟ..จังหวะที่จุด(นึกถึงแบบเดียว
    กับ..จุดไม้ขีดนั่นแหละครับ)..น้ำมันที่ตัวมันกระฉอกมาราดมือผม....จังหวะ
    เีดียวกับที่ไฟติด..มันก็..พรึ่บเลย(..ผมก็..งง.ว่าทำไม..พ่อถึง..เติมเยอะ
    ขนาดนั้น)..น้ำมันๆเลอะทั้ง..ฝ่ามือ..ข้ามไปหลังมืด้วย..ผมเอง..ก็ตะลึง..
    ยกมือขึ้นดู..เหมือนคบเพลิงเลย..เปลวไฟ..หุ้มทั้งมือ..ผมแต่ก็ยังมีสติที่ไม่
    สะบัด..ถ้าสะบัด..พ่อผมอยู่ใกล้ๆ..ผมยืน..พ่อนั่ง..เปลวไฟที่ไปกับ..น้ำมัน
    ต้องไปโดน..หน้าพ่อแน่..ผมก็ยกมือซ้ายที่ติดไฟ..วิ่งไปที่โซฟานอนเล่นที่
    ..มีหมอนอยู่..ถึงผมจะมองหาหมอน..แต่หางตาผมก็เห็นเปลวไฟที่มือ...ลู่
    ไปกับลม..แบบนักวิ่งคบเพลิง..ผมเอามือวางที่โซฟา..แล้วเอาหมอนทับ
    เลย..ทับอยู่ ๒-๓ที..ไฟถึงดับ(น้ำมันไฟแช็ค.ดับยาก)..แล้วผมก็วิ่งไปที่
    ห้องน้ำ..เปิดก็อก..แล้วเอาน้ำรดมือ..ตอนนี้..ความปวดแสบปวดร้อนมันวิ่ง
    ไปทั่วมือ..ผมตะโกนบอก..คนใช้พ่อให้ไปตัด..ว่านหางจรเข้ที่แม่ปลูกไว้
    เอามา..เพื่อจะเอาวุ้นมาทา..ขณะนั้นในความคิดว่า..เรื่องใหญ่แล้ว...
    ความคิดก็แว็ป..ถึง..คาถาดับไฟ..ของหลวงพ่อโอภาสี..ในสมอง
    ...อิติสุคโต..อะระหัง..พุทโธ..นะโมพุทธายะ..ปะฐะวีคงคา..พระ
    ภุมมะเทวา..ขะมามิหัง..............................
    ...............ผมท่องไปสัก..๒๐..จบแล้วมั้ง...กว่า..จะได้วุ้น..ของใบหาง
    จรเข้..มาถู..พอไปสักจบที่๑๐..ผมก็รู้สึกได้เลย..อาการปวดแสบปวดร้อน
    ลดลง..แต่มันยังค้างข้างใน..เพราะเวลาที่..ไฟมันติดอยู่ที่มือจนดับเลย
    มากกว่า ๑๐วินาที..ขณะที่..ผมถูวุ้นหางจรเข้..ผมก็ว่าคาถาตลอดเวลา..
    ผมว่า..ผมท่องไปสัก..๒๐๐..จบได้..นึกถึงหน้า..หลวงพ่อโอภาสีไปด้วย
    ..ตอนนั้น..พี่ชาย..ผมจะพาไป..โรงพยาบาล..แต่..ผมบอกว่า..ค่อยยังชั่ว
    แล้ว..ทั้ง..พ่อ..และ..พี่..ก็บอกว่า..เดี๋ยวหนังมันจะเละนะ...
    ................ผมลืมบอกไปว่า..ผมแทบไม่กล้า..ดูมือตัวเอง..ตอนที่เปิด
    น้ำก็อกราด...มือมันแดงมากๆ....
    ............ผมคงไม่ถามว่า ..."เชื่อมั้ยครับ...."..แต่ผมจะบอกว่า....
    .."...เชื่อผมเถอะ...."...เพราะ..มือผม..ไม่มีร่องรอย..อะไร..เลย...
    ไม่พอง..ไม่เกรียม...อีก๑อาทิตย์..ผมไปเยี่ยมพ่ออีก...พ่อยัง..งง..ผมเลย
    ..เล่าให้ฟัง...สมัยตอนเด็ก..ผมห้อย..หลวงพ่อโอภาสี..เพราะสวย...
    แต่ปัจจุบัน..ผมกลับมาห้อย..เหรียญพลาสติก..ของท่าน..เพราะ..ศรัทธา
    (ผมขี้เกียจ..เลี่ยม..ผมก็เลย..เจาะรู..แล้วร้อย..เอ็น..ซะ)
    ............ความจริงผมเคยใช้สิ่งศักสิทธิ์อีก..อย่าง..ดับพิษร้อน..จาก..
    การที่..แม่เดินแล้วสะดุด..กาน้ำร้อนที่เพิ่งต้มเดือดๆลงจากเตา..หกรด
    ..เท้าแม่ผม..ผมอยู่ในเหตุการณ์พอดี..แต่แปลกตอนนั้น..คิดไม่เหมือนกัน
    ...ร้อนขนาด..ควันไอน้ำออกมาจากเท้าแม่เลย...ผมรีบเข้าไปห้องน้ำ..
    เอาน้ำใส่ขันใหญ๋..แล้วให้แม่เอาเท้าจุ่ม..สักพัก..แม่ก็บอกว่า..ปวดมาก
    ..ผมก็นึกขึ้นมาเอง..เอา..เหรียญหลวงพ่อสุข..วัดโตนดหลวง..ที่
    ด้านหลังมี..ชันนางโรงแปะอยู่..เอาด้านชันนางโรง..แปะกับหลัง
    เท้า..แม่แล้ว..อาราธนา..ขอ..ให้..หลวงพ่อสุข..ช่วย..ไม่นาน..แม่
    ก็..หายปวด..แล้ว..ก็เอา..วุ้นหางจรเข้..มาทาทีหลัง..แต่ตอนที่ทา
    ..แม่..หายปวดแสบปวดร้อนแล้ว..แม่ก็ไม่พอง..ไม่มี..ร่องรอย...
    อะไร..เช่นเดียวกัน....
    .........เรื่องก็ไม่ค่อย..จะไปไหน..เพราะชีวิตผม..๕๐กว่าปี..มันมี
    ..เรื่องไอ้โน่น..ไอ้นี่..เยอะ..ก็จะทยอยไป..เรื่อยๆ..ครับ......
    ..............ขอบคุณทุกท่านที่..ติดตามอ่านกัน..โดยตลอด.........
    ..............ขอบคุณ..จากใจ..........ครับ........
    .........................สว้สดี...............................................
     
  7. nut1663

    nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +2,691
    มาดึกเลยครับพี่ แว๊ปมาเจอพอดี ยิ่งอ่านยิ่งสนุก อ่านแล้ว ก็ ไปเปิดภาพ กรุงเทพ ครั้งอดีต ดูไปด้วย ได้ บรรยากาศจริงๆ ...
     
  8. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    สนุกดีค่ะ เล่าเรื่อย ๆ ค่ะคุณลุง ไม่ต้องรีบเร่ง จะได้ละเอียดครบถ้วน
     
  9. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,540
    ค่าพลัง:
    +19,462
    แวะมาดูก่อนไปไห้วพระ นอนหลับค่ะ เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะคะ
     
  10. sareem

    sareem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +434
    เขียนเลยครับน้าผมเชียร์เต็มที่ครับ...ค่อยๆเป็นค่อยๆ ไปก็ได้ครับไม่ต้องเร่งรีบวันไหนเหนื่อยก็เอาซักนิด...วันไหนสบายๆ ก็เอาเยอะๆ หน่อย...ก็พักผ่อนเยอะๆ ล่ะกันครับน้าน้องๆ พี่ๆ ในเว็บนี้เค้าเอาใจช่วยน้ากันเต็มที่เลยครับ
     
  11. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
    เข้ามาติดตามเหมือนเคยครับ สนุกดีมีสาระทุกตอนเลย ขอบคุณครับผม ^^
     
  12. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
    สวัสดียามเช้าครับลุง
     
  13. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    สวัสดียามเช้าเช่นกันครับคุณ 15 ค่ำ....(^_^)...

     
  14. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    สวัสดีตอนเช้าครับ ขอขอบคุณครับ....ยิ่งอ่านยิ่งติด(ตาม)ครับ
     
  15. takon

    takon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +3,231
    ติดตามอ่านอยู่ครับ คุณอา modpong สนุกมากๆ เห็นภาพเป็นฉากๆเลย

    ยังไงก็รักษาสุขภาพบ้างนะครับ จะได้มีอะไรดีๆมาเล่าให้ฟังนานๆ
     
  16. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    รออ่านเหมือนเดิมครับผม
     
  17. Step&Time

    Step&Time เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    792
    ค่าพลัง:
    +4,220
    มาปูเสื่อรออ่านเหมือนกันครับ
     
  18. COFFEEMAX

    COFFEEMAX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,318
    ค่าพลัง:
    +9,085
    โอย...ตื่นเต้นครับ.... ไฟลุกท่วมมือ....

    รอติดตามอ่านต่อนะครับ
     
  19. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...ขอบคุณครับ..คุณNut1663..คุณLynn&nice..คุณSareem..
    คุณTrirut..คุณNorragate..คุณTakon..คุณSpecialiZed..คุณ น้ำดี๑
    คุณCoffeeMax..คุณ๑๕ค่ำ..คุณ โอ ท่าซุง...ที่..ชม..เชียร์..และติดตาม
    รอ..รวมถึงท่านผู้อ่านทุกท่าน......................................
    .................กรุงเทพ..ยุค..คลาสสิค...............................
    ....เลย..บ่อนไก่
    ..ไปนิดเดียว..ก็ถึง..สนามมวย..เวทีมวยสวนลุมพีนี...
    สถานที่..ที่เป็นทั้งที่..หย่อยใจ..บันเทิง..การพนัน..ชักดาบ..สนามกีฬา..
    ..ที่ทารุณกรรมมนุษย์..ฆาตกรรม..ปล้น...ฯลฯ..มันรวมหลายๆอย่างไว้ด้วย
    กัน..ชื่อเล่นก็คือ.."วิกสังกะสี"..เพราะ..หลังคาเป็น..สังกะสี..ที่นี่คือ....
    โรงละครแห่งชีวิต..ตัวจริง...ผมคุ้นเคย..ที่นี่..ตั้งแต่เล็ก..เพราะ..พ่อ..จะ
    สอน..ให้..ลูกชายทุกคน..เป็นนักสู้..ซื้อนวมให้ลูก..ต้งแต่เล็ก..มี..กระสอบ
    ทราย..แขวนไว้ที่บ้าน..สอนลูกต่อยมวย..แล้วก็..พาลูกมาดูมวย...พ่อผม
    เป็นคนชอบมวย..คือทั้งต่อยมวย..และดูมวย..วันไหนมี..โปรแกรมใหญ๋
    พอ..ก็จะพามาดู..ดูที่"ริงก์ไซด์"..คือติดขอบเวทีเลย..เพราะ..ดูฟรี..เนื่อง
    จาก..สนามมวยลุมพีนี..ดำเนินการโดย..ทหารบก..พ่อผม..ได้รับสิทธ์..
    พิเศษ..และพาคนอื่นเข้าไปดูได้ด้วย..ผมและพี่ๆโชคดี..ได้ไปดูกันบ่อย
    ..เพราะฉะนั้น..มวยดังๆในยุคนั้น..ผมก็ผ่านตาหมด..ตั้งแต่..แชมป์มงกุฎ
    เพชร อดุลย์ ศรีโสธร...สมเกียรติ เจริญเมือง..แดนชัย ยนตรกิจ.....
    ..อภิเดช..ศิษย์หิรัญ(จอมเตะแห่งบางนกแขวก)..ราวี เดชาชัย (คนนี้..
    พิเศษ..ฉายา..จรวดทัพฟ้า..เป็นที่มา..ของคำยอดฮิต..สำหรับบรรดา..
    ลูกผู้ชายทั้งหลาย..เป็น..คำเชียร์ให้เดินหน้า..แล้วฆ่ามัน..เริ่มที่สนามมวย
    ก่อน..เวลาที่ต้องให้..มวยที่เรา..เชียร์(ถือหาง..พนัน)ไว้..เดินหน้าบุก..
    ..ก็..จะตะโกน..พร้อมๆกันว่า..ราวี..ราวี..ราวี..เพราะมาจาก..ราวีเดชาชัย
    นี่..บ้าเสียงเชียร์..ก็เรียกชื่อแก..ดังๆพร้อมๆกันเมื่อไหร่..พอดีได้ยินปุ๊บ..
    พี่แก..ขนาดโดนยำอยู่..แกจะมีพลังฮึดเหมือนได้..ยาโด๊ป..เดินหน้า..ลุย
    ฟันศอก(..อาวุธทีเด็ด..ประจำตัว)..คู่ต่อสู้..จะเตะ..จะต่อย..แกไม่สน...
    ได้ผล..ประมาณ ๘๐ %...ตอนหลัง..ระบาด..ออกนอกสนามมวย...
    ...การกีฬา..ทุกชนิด..โดยเฉพาะ..ฟุตบอล..ถ้านักฟุตบอล..ฝ่ายเราโดน
    เจตนาเตะ..กองเชียร์สมัยก่อน..จะไม่โห่..แบบปัจจุบัน..แต่จะพร้อมใจกัน
    ..ตะโกน..ราวี..ราวี..ราวี..ความหมายง่ายๆ..คือให้ไอ้คนที่ถูกเตะ..ไปลุย
    ไอ้คนที่เตะ..ส่วนใหญ่ได้ผล..เกือบ ๑๐๐ %..ก็คือ..โดดถีบเลย..แล้ว..
    กองเชีย์ทั้งสองฝั่ง..ก็พร้อมใจกัน..ตะลุมบอน(สมัย..ผมเรียน..อำนวยศิลป์
    พระนคร..ใช้กันบ่อย)......
    ........มวยเมื่อ ๔๐ กว่าปีก่อน..ต่างจากสมัยนี้มาก..เพราะ..ตั้งแต่..เก๊ง
    ..ยก๑..ก็ลุยกันเลย..ไม่มีคำว่า..ถอยวน..หรือ..รอจังหวะสอง..ยก๑ถึง๕
    เดินหน้าซด..กันทั้งคู่..มันหยด..๓๐ปีหลังมานี่..ผมเลยเลิกดูมวย...เพราะ
    หาความมันไม่เจอ.........แหม..ผมเผลอตัวไปหน่อย..ล่อเรื่องมวยซะยาว
    ..................เลยจาก..สนามมวยลุมพีนี..ก็เป็นที่..ตั้งของ..โรงเรียน
    เตรียมทหาร..ที่มีอาณาเขตไปถึง..สี่แยกพระรามสี่..หรือ..สี่แยกวิทยุ
    (ถนนวิทยุ..มาตัด..ถนนพระรามสี่)..ปัจจุบันโรงเรียนเตรียมทหาร..ย้ายไป
    อยู่..นครนายก..ที่นี่..กลายเป็น..สวนลุมไนท์บาซาร์..ไปซะแล้ว...ยุคนั้น
    ตอนที่..ไรงเรียนเตรียมทหารอยู..ตรงหัวมุมแยก.จะมี..เครื่องบินไอพ่น..
    จอดเด่น..เป็นสง่า...พี่ชายคนโตผม..ก็เรียนที่นี่..รุ่น๙..ก่อน..ทักษิณ ๑
    รุ่น..........
    ........เอาละครับ..จะถึงสวนลุมฯ..แล้ว..ต้องไปรอ..ต่ิิอ..ตอนหน้า..ครับ
    ....................................................................................
    ....แล้ววงการพระ..ที่เป็นส่วนของกลุ่มคนที่มี..รสนิยมเดียวกัน..คนนอก
    จะไม่เคย..รู้ความเคลื่อนไหวใดๆ...คนทั่วไปที่ไม่เล่นพระ..จะรูจักพระสงฆ์
    รุ่นเ่กาๆ..ถึงเวลานั้น..อยู่ไม่กี่องค์(หมายถึง..ตั้งแต่ปี ๒๕๐๙ ย้อนกลับ
    ขึ้นไป)..สมเด็จโต..หลวงปู่ทวด..พ่อท่านคล้าย..(สำหรับ พ่อท่านคล้าย
    เป็น..พระองค์เดียวที่มีชีวิต..อยู่ตอนนั้น..ท่านมีเรื่องลงหนังสือพิมพ์บ่อยๆ
    .เกี่ยวกับปาฎิหารย์..ของท่าน)..หลวงพ่อโอภาสีท่านก็..ลงหนังสือพิมพ์
    เหมือนกัน..แต่(ผมว่า)ท่านดังน้อยกว่า..พ่อท่า่นคล้าย วาจาสิทธื์....
    ........ตอนนั้น..สนามพระที่..พระนคร(..เราเรียกกันว่า..ฝั่งพระนคร..คือ
    ตะวันออกของเจ้าพระยา..ฝั่งธนฯ..คือตะวันตกฯ)..คือที่..วัดมหาธาตุ..ที่
    เป็น..สนามพระเป็นทางการแห่งแรก..ของไทย...คือมีการซื้อขาย..จริงๆ
    จังๆ..แต่ยังไม่เฟื่อง..คนนอกไม่รู้จัก..(ตอน..สมัย ป๓-ป๔..เดินเล่น....
    สนามหลวง..แล้วเดินเลาะไปข้างกำแพงวัดมหาธาตุ..เห็น..คนเอาพระมา
    ใส่กาละมัง..นั่งพิงกำแพง..ผมก็ดูไป..เรื่อยๆจนถึง..ประตูทางเข้า..
    เห็น..คน..ข้างใน..ถือพระ..ส่องพระอยู่..แต่ก็ไม่ได้เข้าไป..เดินเล่นดีกว่า)
    ....สนามฯของฝั่งธนฯ..อยู่ที่..วงเวียนใหญ่..แต่ไม่ค่อยเป็นทางการ..
    อยู่ในตลาด..กลุ่มเล็ก..กว่าวัดมหาธาตุ..ส่วนหนึ่งก็นั่งกินไป..ดูพระไป...
    ....คล้ายๆกับ..ตามต่างจังหวัด...ส่วนใหญ่..ก็ร้านกาแฟ..ที่เจ้าของร้านคอ
    เดียวกัน..คนเล่นส่วนใหญ่..ก็..คนสูงวัย(แก่)..นั่งแช่..คุยกันไป..ส่องพระไป..แลกกันมั่ง..ซึ้อกันมั่ง..จิบกาแฟ..กับ..ปาท่องโก๋.....บางจังหวัดก็ไป
    อยู่..ร้านกาแฟตาม..ตลาดสด..สำหรับต่างจังหวัด..หลังจากวงการพระ
    เริ่มเฟื่องฟูแล้ว..ก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยน.......
    ..................วงการเริ่มเปลี่ยนแปลง..คึกคัก..จริงๆ..เมื่อปี..๒๕๑๐...
    .....เมื่อรัฐบาล..ได้รับคำขอร้อง..จาก..อมริกา..ให้ส่งหน่วยทหารไปร่วม
    รบ..กับทหารอเมริกัน..ที่..ประเทศเวียตนาม..ทางส่ง..หน่วยทหารไป..
    ๑ กองพัน(ขนาดกำลังพล..มากกว่า..กองพันปกติทั่วไป)..ลักษณะเป็น
    กองพันผสม...ที่ทุกคน..รู้จักกันว่า..กองพันจงอางศึก..(ตอนไปเกาหลี
    ..เรียกว่า..กองพันพยัคฆ์น้อย)..ทหารที่ไปทุกคน..ก็จะมีการได้รับแจก..
    พระเครื่อง..ก็ได้..จาก..หลายแห่ง..ยกตัวอย่างคือ..พระอู่ทองออกศึก..
    (พระพิมพ์แบบ..พระผงสุพรรณแต่..นั่งสมาธิ..ด้านหลังปั๊มพ์..เป็นรูปเจดีย์)
    ที่ได้รับการพุทธาภิเษก..จากยอดอาจารย์..หลายท่านในยุคนั้น.....พระอู่
    ทองออกศึก..ยังมีทำออกมาอีกหลายรุ่น..ก็เอาไว้แจก..ทหารที่ไปเวียต
    นาม..ในนามของ..กองพล อสส.(กองพลทหารอาสาสมัคร)กองพลเสือ
    ดำ
    ...ที่มีหลาย..ผลัด..ด้วย.............................
    เหล่าจงอางศึก..บางท่าน..ก็..ได้รับแจกเป็น..การส่วนตัว..หรือ..เป็นหมู่
    คณะ(..อย่างพวกที่เป็นนายทหาร..)..ที่เอาไปเอง..ก็..เยอะ.......
    ........เมื่อกาลเวลาผ่านไป..หนังสือพิมพ์..จะคอยรายงานผลการรบ...
    ..อยู่ตลอด..พวกนี้ก็จะได้รับ..การยกย่อง..จากไอ้กัน..พอลง..หนังสือพิมพ์
    เวียตนามใต้ที..เขาก็จะส่งมากรุงเทพ..ทางหนังสือพิมพ์ไทย..ก็เอามาแปล
    ..แล้วใส่ไข่..เพิ่มเติม..อีกนิด..จนกลายเป็น.ทหารเทพ...คนไหน..เหนียว
    ก็..ส่งข่าวมา..ห้อยพระอะไร.....แต่ที่ีดังจริงๆตอนนั้น(..ถ้าบางท่านได้
    ข้อมูลบางอย่างมา..ไม่ตรงกับผม..ก็ไม่ว่ากัน...แต่ผมนี่..เป็นคนที่
    ไม่มีพุทธพาณิชย์มาเกี่ยว..และผมอยู่ในยุคนั้น..จริง..บางท่าน..เพิ่ง
    เดินได้..หรือ..ยังไม่เกิด..แต่รับทราบข้อมูลใดมา..ก็เชื่อของท่าน..
    เถอะ..ครับ..แต่ผมบอกแล้ว..ว่า..นั่งเทียน..ไม่ใช่คนอย่างผม..)
    .........เหรียญหลวงพ่อแดงรุ่นแรก..ปี๒๕๐๓...และ..เหรียญหลัง
    เต่า(รุ่นแรกที่เป็นรูปท่าน)..เจ้าคุณนรรัตนราชมานิตย์.ปี.๒๕๑๐

    (บางคนไปเข้าใจผิด..ว่าเป็นสมเด็จหลัง..จงอางศึก..เรียกกันซะ
    ดิบดี..ว่า..สมเด็จจงอางศึก..แล้วไป..ผนวก(ปั้น)เอาเองว่า..แจก
    ทหารไป..จงอางศึก...สมเด็จรุ่นนี้..สร้างปี..๒๕๑๒..จงอางศึกเขา
    กลับ..มาเมืองไทย..เป็นปีแล้ว..ตอนนั้นที่เวียตนาม..เป็น..กองพล
    เสือดำ..ผลัดที่๑..แล้วพระรุ่นนี้..ที่เป็นรูป..งู..เพราะเป็น..ปีเกืด..
    ของ..ผู้สร้างที่..เกิดปี..มะเส็ง..ท่านไป..หาอ่านประวัติของจริงได้
    ...จาก..WEB..ที่เป็นสายเจ้าคุณนรฯ..แท้ๆได้............

    ..................................................................................
    .............นั่นแหละครับ..เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าว..วงการก็ตื่นตัว..ทันที
    ...บางคนที่ไม่เคย..สนใจพระเครื่อง..ก็หันมาสนใจ...พวกเสี่ยๆหลายคน
    ที่ชีวิตอาจมีการเสี่ยงภัย..ก็เริ่มสนใจ...ตามหลักเศรษฐศาสตร์..เมื่อมี
    DEMAND(ความต้องการในสิ่งหนึ่ง).....ย่อมต้องมีSUPPLY(การเสนอ
    สิ่งนั้นเพื่อรองรับ..ความต้องการ)มาสนอง..กลไกทางเศรษฐกิจของแวด
    วงพระเครื่อง..ก็เริ่มหมุน(เดิน)ทันที...เกิด..อะไร..หลา่ยๆอย่างขึ้นมา..
    ..และเกืด..การเปลี่ยนแปลงใน..หลายๆอย่าง..........................
    .....................เอาละครับ...วันนี้พอแค่นี้..ก่อน...ไว้ต่อกัน..ตอนหน้า..
    ...............ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน..ขอบคุณ..ครับ....
    ..................................สวัสดี...................................
     
  20. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
    ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องดีๆๆมีสาระยิ่งอ่านยิ่งมันส์ รอตอนต่อไปครับผม ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...