กิจกรรมนอกสถานที่ ที่พวกเราชาวเวปพลังจิตได้นัดหมายขึ้น

อ่าพรุ่งนี้ สอบ กพ เสร็จ 11.30 คาดว่าน่าจะไปฟังบรรยายทันดีใจจัง

 

โอย ไม่ได้เข้ามาตอบซะนาน ประทับใจคุณ MEAD บอกว่าจะรอไปหา อ.เทพนมด้วยกัน ซึ้ง น้ำลาย เอ๊ย น้ำตาจะไหล

ตกลงพรุ่งนี้ใครไปฟัง อ.ปริญญาบ้างคะ ชุดเดิมที่ไปกันครั้งที่แล้วรึป่าว ยังงัยไปแล้วอย่าลืมกลับมารายงานข่าวกันบ้างนะคะ

 

เอ๊ะ ตกลงวันที่ 21-22 ตุลา จะไปไหนกันเหรอคะ ตกข่าวจริง ๆ เลยเรา แต่ความจริงโปรแกรมที่คุณ MEAD เสนอมาก็น่าสนใจเพราะยังไม่เคยไปทั้งนั้นเลย อยากไปทั้งวัดท่าซุงและก็วัดมะขามเฒ่าด้วยล่ะ แต่ถ้าไป เสนอว่าไปรถตู้ดีกว่านะคะ ไปรถกระบะนั่งกันหลาย ๆ คน เหนื่อยกันตายเลย

ไม่แน่ช่วงนั้นเอ๋อาจจะได้ไปด้วยเพราะตั้งใจจะไปกรุงเทพช่วงนั้นพอดี อ้อ 23 ตุลาวันหยุดนี่เนอะ

 

เอาผ้าเช็ดหน้าสักผืนมั้ยครับ คุณเอ๋ (จะซึ้งอาไรปานนั้น!..)

คุณเอ๋ หรือใครที่จะมีเวลาก็เขิญได้นะครับ 21-22 ตุลา หวังว่าช่วงนั้นจะไม่มีอุปสรรคจากน้ำท่วมครับ..(เพื้ยงๆๆ ไม่งั้นเดี๋ยวอดไปทอดกฐินกันอีก...)

ดูจากเวลาที่มีอยู่เช้าว้นเสาร์ คณะที่ออกจากกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ
จะถึงอุทัยราวๆ 12.00 น.และคงไปที่อื่นๆไหนได้ไม่เกินรัศมี 40 กม.ครับ
ต้อง stand by ในเมือง เพราะช่วงเช้าวันอาทิตย์ ไปทอดกฐินวัดท่าซุงเป็นงานหลักครับ จะนั่งคุยกันหรือกิจกรรมด้านสมาธิ ที่นั่นสักพัก จากนั้นก็แวะนมัสการหลวงปู่สุขใก้ลๆกัน เสร็จคงไม่เกินบ่ายโมงครับ ที่นี่ก็แล้วแต่ว่าจะไปไกล้-ไกล หรือจบที่ไหนอักสักที่ได้ครับ ถ้ามีเวลากัน..ลองเสนอกันดูนะครับ

 

ใครที่รอฟังบรรยายอาจารย์ปริญญา ตันสกุล
เตรียมอ่านต่อได้แล้วครับ..​

ก่อนอื่นต้องบอกว่า เมืองไทยเราเป็นดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์ครับ มีสิ่งดึๆที่น่าอัศจรรย์ใจมากมายเกิดขี้นที่นี่ แต่ก็มีคนอีกมากมายที่ไม่ได้ตระหนักถึงแผ่นดินเกิดและความเป็น "อะเมสซิ่งไทยแลนด์" บนดินแดนนี้กันเลย..

หัวข้อบรรยายครั้งที่ 121 ตวามรู้แจ้งในโลกทั้งปวง ​

"โลกวิทู" และ "ปัญญาวิมุติ"​

คราวนี้เป็นเรื่องที่มนุษย์ควรรู้ นอกจาก เรื่องใกล้ต้ว *การรู้จักตัวเองและผู้อื่น *ร่างกายเครื่องยนต์แห่งกรรม *เรื่องจิตวิญญาณแล้ว ยังได้กล่าวถึงเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ แม้จะเป็น เรื่องไกลตัว ด้วย เรียกว่าเรียนรู้ให้ไกลที่สุดในสนามพลังงานสากล เพื่อให้รู้จริง-รู้แจ้งถึงที่สุด อย่างเช่นเรื่อง...

*โลก สรรพสิ่งในระบบสุริยะจักรวาล กาแลคซี่ และเอกภพ
*รวมถึงเรื่องดาวพลูโต (ที่เป็นข่าว)
*สามเหลิ่ยมเบอมิวด้า
*วันมหาสุญญตา ในอนาคต?
*เรื่องการทำสมาธิ สมถะกรรมฐาน ที่แท้คืออย่างไร? การกำหนดจิต การอบรมจิต ความบริสุทธิ์

อดใจรอครับ..เกริ่นนำไว้ก่อน ว่างๆจะมาเล่าให้อ่านต่อครับ..

 

ได้ไปร่วมฟังด้วยครับ คนแน่นห้องเลย เมื่อภัยจะปรากฎ เรามีวิธีรับมือ ในขณะที่เรากำลังขัดเกลาจิตใจ ฝึกตน เราต้องบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ เพื่อเป็นการแบ่งปันความรักให้แก่กันและกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน ทุกครั้งที่คิด อย่ารีบกระทำเพราะเกิดจากจิตใต้สำนึก ต้องพิจารณาไต่ตรองเสียก่อน เมื่อไต่ตรองดีแล้วค่อยกระทำหรือไม่กระทำ ซึ่งเกิดจากจิตเหนือสำนึก(รู้เท่าทัน ความคิด ให้เป็นนายของจิต บังคับบัญชามันได้โดยฝึกกำหนดจิต อบรมจิต )

 

เราน่ามีเสื้อพลังจิตนะครับ เวลาไปรวมกลุ่มกันที่ไหนจะได้ทราบเลยว่านี่มาจาก พลังจิต.com เข้าใจว่าน่าจะมีชาวพลังจิตอยู่ในห้องนั้นหลายคน แต่ผมไม่รู้จักใครเลย ไม่ได้ทักทายใครเลยครับ

หลังจากที่ อ.บรรยายจบแล้ว ไม่คราบใครอยู่ต่อบ้างครับ ช่วยเล่าหน่อยว่าได้คุยหรือสอบถามอะไรจาก อาจารย์ต่อบ้างครับ ผมรีบกลับไม่ได้อยู่ร่วมด้วยครับ

อันนี้สอบถามเรื่องตัวเองหน่อยครับ ในชั่วโมงแรกที่ฟัง อ. บรรยาย ผมรู้สึกอึดอัดมาก หายใจไม่ค่อยออก เป็นๆหายๆ เป็นช่วงๆครับ หลังจากผ่านชั่วโมงแรกไปแล้วก็เป็นปรกติดี ไม่รู้เกิดจากอะไรหรือเป็นอะไรครับ

 

งานนี้ถ้าจะมีไปกันหลายคนนะครับ..ผมเองอยู่สักพักแล้วก็ออกมาสูดอากาศข้างนอกครับ พอดีเหลือบไปเห็นข้างๆมีสระน้ำพุ เพื่อนเลยชวนไปนั่งคุยแถวนั้นครับ..

ผู้ที่ไปฟังใหม่ๆมักจะพูดคล้ายๆกันครับ มักจะมีอาการปวดศรีษะบ้าง หายใจขัดๆบ้าง เกิดจากสมองซีกซ้ายยังไม่ค่อยชินในการรับรู้เรื่องนามธรรมแนวนี้ คงต้องปรับสมดุลของมันเอง พอสักพักก็จะเข้าที่เอง อาจารย์เคยบอกไว้ทำนองนี้ครับ เรื่องเสื้อพลังจิต.com ก็น่าสนใจดีครับ

 

เออ..แฮะ...ไอเดียเจ๋งเลยครับ เพราะผมไปครั้งที่แล้วก็เหมือนกันครับ ไม่รู้จักใครเลย ก็เลยไม่กล้าทักใครเลยเหมือนกัน

ถ้ามีเสื้อพลังจิตก็น่าจะพอดูออก...ว่าไหม๊

ว่าแต่ว่าจะเอาโลโก้อะไรดีหละครับ..

เอ๊า..ใครมีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ หรือรู้จักร้านทำอะไรแบบนี้ ก็ออก ไอเดียมาหน่อยครับ..

..เผื่อเสื้อจะได้เสร็จทันใส่ไปงานทอดกฐินที่วัดท่าซุง ในนามเวปพลังจิต วันที่ 21-22 ตุลาคม 2549 นี้ครับ

..ถ้าให้ใส่ไปวัดได้นี่ น่าจะเป็นเสื้อพื้นสีขาวนะ..ว่าไหม๊..แล้วเอาโลโก้ของเวป ที่อยู่มุมบนซ้ายมือนั่น+รูปเศียรพระสีขาวๆนั่นก็ดูดีนะครับ ผมว่า ราคาตัวละประมาณ 200 หรือใกล้เคียงนี่จะได้ไหมเนี่ย..

 

มาเข้าเรื่องต่อกันครับ..

ถ้าจะนิพพาน (ต้องรู้)
- ต้องรู้ว่าแดนสุญญตาอยู่ไหน?
- โลกอยู่ส่วนใดของเอกภพ?

เพื่อพ้นการเวียนว่ายตายเกิด
เส้นทางสู่"นิพพาน"เป็นเส้นตรงและมีจุดสิ้นสุด ไม่ได้เป็นวงกลม แบบวัฐฎะสงสาร

โดยรวมๆอาจารย์กล่าวว่า พระบิดากำหนดสร้างทรงกลมเอกภพ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ"พระอุระ"ของท่าน โดยกำหนดให้มีกาแลคซี่จำนวนถึง 12,500 ล้านกาแลคซี่ โดยมีอยู่ 5ระบบกาแลคซี่สำคัญ อยู่ตรงกลางของเอกภพ และมี 7ระบบสุริยะจักรวาล อยู่ในนั้น

โดยที่มีกาแลคซี่ทางช้างเผือกของเรามีขนาดใหญ่ที่สุด กาแลคซี่ทางช้างเผือกนี้ สร้างได้ขึ้นเมื่อ 8ล้าน1แสนล้านปี หลังจากพระบิดาอุบัติขึ้นก่อนหน้านี้ราว 60 ล้านล้านปี มีขนาด 9999 ยกกำลัง2ช่องเท่าๆกัน แต่ละช่อง=1ล้าน1หมื่นล้านไมล์ (คูณกัน=?)

​

ให้มีระบบสุริยะตั้งอยู่ด้านตรงข้ามกันสองระบบ
- นับเข้ามาจากขอบนอกสุด ช่องที่ 696 เป็นพิกัดระบบสุริยะด้านตรงข้าม มีดวงอาทิตย์ใหญ่กว่าโลกถึง 20 เท่า 3ใน5ดวง มีสิ่งมีชิวิตเหมือนมนุษย์
- นับเข้ามาจากขอบนอกสุด ช่องที่ 99 เป็น ระบบสุริยะของเรา ที่มีดาวเคราะห์ทั้ง9ดวง โดยมีดาวเคราะห์โลกแห่งทางเลือกเสรีดวงนี้ เป็นผู้นำระบบ

ส่วนอื่นๆที่อยู่ในระบบกาแล็คซี่นั้น จะมีดวงอาทิตย์ราว 40 ดวงในแต่ละช่อง สลับกับช่องที่เป็น ดาวมวลแข็ง ที่ประกอบขึ้นด้วยลิกไนท์ ที่มีรูพรุนและ น้ำหนักเบา (ที่มนุษย์เข้าใจว่าเป็นดาวฤกษ์) เอาไว้ดูดซับความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ในช่องข้างเคียง

ที่ปลายปีกของแต่ละกาแลคซี่กำหนดให้เป็นที่ตั้งของ "ด่านนภาลัย"เพื่อรอคอยจิตวิญญาณมนุษย์ที่นิพพานได้แล้ว เมื่อพ้นจากแรงดึงดูดของระบบโลก ระบบสุริยะ รวมทั้งระบบแกแลคซี่ออกมา ได้มุ่งหน้าตามแสงของดวงอาทิตย์บนปลายแขนกาแลคซี่มาถึงสถานที่แห่งนี้ โดยจะมี่จิตของพระอรหันต์สาวก และบรรดาเซียนทั้งหลาย ที่จะคอยช่วยถอดรหัสสุดท้ายให้ ณ.ที่นี่...

ที่ว่างทั้งหมดในสนามพลังงานสากล ก็คือ"แดนสุญญตา" นั่นเอง

 

ปรากฎการณ์สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า


เมื่อใดก็ตาม ที่วงโคจรดาวเคราะห์ดวงที่2 ของกาแลคซี่ตรงข้าม (นับจากดวงอาทิตย์) และดวงใดดวงหนึ่งใน 3 ดวง ของวงโคจรรอบนอกตรงกันเล็งเป็นเส้นตรง ผ่ามาที่โลกและดวงอาทิตย์ จะเกิดพายุสริยะหรือ "กรวยพลังงาน"หมุนด้วยความเร็วเหนือแสง จากขอบระบบสุริยะนั้นมาที่โลกของเรา คล้ายๆกับหลุมดำ วัตถุที่อยู่บริเวณนั้นในมหาสมุทร พวกเครื่องบิน หรือเรือโดยสาร นั้นๆจะถูกย่อยสลายมวลสาร และถูกดูดกลับไปสู่ดาวเคราะห์ดวงที่ 2 นั้น และค่อยควบแน่นกลับมาเป็นรูปร่างเช่นเดิมอีกครั้ง ส่วนมนุษย์นั้นจะกลายเป็นคน"เอ๋อเหรอ"ไม่รู้ว่าตนนั้นเป็นใครมาจากไหน? แต่ก็อาศัยอยู่ที่นั้นได้ เพราะสภาพเหมือนโลกทุกประการ


พระบิดายอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ เพื่อสร้างเงี่อนไขกับมนุษย์ที่อยากรู้อยากเห็น ว่ายังมีเรื่องมิติที่ทับซ้อนกันอยู่ นับเป็นร้อยๆมิติ จะได้ไม่คิดว่ามีแต่เพียงสิ่งที่ตามองเห็นอยู่เท่านั้น...

 

"ดาวพูลโต" ที่โดนข้อหาจากนักวิทยาศาสตร์โลกว่า...
- เป็นดาวแคระ
- วงโคจรไม่สม่ำเสมอ
- ไม่อยู่ในระนาบเดียวกับดาวเคราะห์อื่นๆ

จริงๆแล้วดาวพูลโต มีฉายาว่า "ทูตแห่งสองระบบสุริยะ"

เป็นดาวเคราะห์น้ำแข็ง -99 องศา
ใกล้โลกที่สุด 6900 ไมล์ --- ห่างโลกที่สุด 7200 ล้านไมล์

เป็นดวงที่ 9 ของระบบสุริยะ
เป็นดวงที่ 6 ของอีกระบบสุริยะนึง --- ช่วยค้ำจุนทั้งสองระบบ

1.เป็นเศษส่วนของเมริเดี้ยน (ไม่ได้เป็นจำนวนเต็ม อยู่ได้ทั้งสองระบบ)
2.ในหนึ่งรอบ จะโคจรห่างจากระบบสุริยะ ทุกๆ 3 ปี และหายไปอยู่กับอีกระบบสุริยะนึงอีก 12 เดือน

จะหายไปตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ของรอบ 3 ปีนั้นเสมอ
นักดาราศาสตร์เองก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน?
ที่เห็นว่าระนาบเอียง เพราะระบบสุริยะเองต่างหากที่เสียสมดุลจึงเห็นเช่นนั้น

บทบาทที่ควรเรียนรู้จากดาวพูลโต
1.อย่าทำตนเป็นส่วนเกินที่ผู้อื่นไม่พึงประสงค์
2.เป็นบทบาทของผู้ที่ไม่ทำลายระบบอื่นๆ
3.การไม่ปฎิเสธการเติมเต็มของผู้อื่น

 

โลก
โลกใบเล็กๆของเรานี้ นับว่ามีความสำคัญกับเอกภพอย่างมาก เกินที่มนุษย์จะคาดคิดได้ ตำแหน่งระนาบโคจรต่างๆได้ถูกจัดวางไว้เป็นอย่างดี ทั้งระยะห่าง น้ำหนักมวลสาร รวมถึงแรงกระทำต่างๆ ผิวโลก กำหนดให้มีน้ำทะเลถึง3ใน4 ส่วน เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นจากน้ำเค็มที่มีแรงตึงผิวน้อยกว่าน้ำจืด (เหตุที่น้ำทะเลต้องเค็ม) เพื่อลดความร้อนและแรงเสียดทานจากอีเทอร์ในบรรยากาศให้ลดน้อยลง และจัดวางน้ำหนักให้สมดุลทั้งสองซีกโลก ให้โลกหมุนรอบตัวเองเกิดกลางวัน-กลางคืน ให้มนุษย์สลับกันทำหน้าที่บนสองด้านของโลก (เหมือนสมองสองซีกของมนุษย์) แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน เป็นพรสวรรค์ของมนุษย์ที่แตกต่างกัน

ซีกตะวันตก ให้มีหน้าที่มาสร้างโลกทางกายภาพ เป็นผู้นำด้านกายภาพ
ซีกตะวันออก ให้มีหน้าที่สร้างสติทางวิญญาณ มาค้ำจุนด้านพลังงาน

แต่ปรากฎว่าผู้ค้ำจุนทางพลังงาน กลับยินยอมให้มนุษย์อีกซีกโลกหนึ่งเป็นผู้กุมอำนาจ ไปยอมรับด้านวัตถุของชาวตะวันตก และละเลยหน้าที่ด้านจิตวิญญาณ ส่วนคนตะวันตกก็หันมาสนใจศึกษาจิตวิญญาณ ทำให้โลกเกิดความสับสนไปหมด

วันมหาสุญตา
อาจารย์ได้กล่าวถึง วินาทีแรกที่โลกจะออกเดินทางในระบบครั้งแรก โดยมีโลกเป็นผู้นำระบบอยู่จุดศูนย์กลางฉุดดึงเหนี่ยวรั้งดาวนพเคราะห์อีก 8 ดวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งมีรายละเอียดมากครับ ไปหาอ่านได้ในเล่ม สหพันธ์ทางจิตกับพฤติกรรมมนุษย์

การจัดเรียงตัวของโลกและตำแหน่งดาวนพเคราะห์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นทุกๆ 360 ปีต่อครั้ง และนับจากนี้ไปไม่ถึง 80 ปี คือในวันที่ 29 กัยยายน พ.ศ.2628 ตั้งแต่เวลา 9โมงเช้า สิ้นสุดวันที่ 1ตุลาคม รวม 3 วัน (อาจารย์ย้ำให้บันทึกไว้เพื่อการพิสูจน์) จะเป็นวันหนึ่งในยุคพลังงานใหม่ที่ทั่วโลกจะเกิดปรากฎการณ์ดังกล่าว คือจิตใจมนุษย์และสรรพสัตว์โลกทั้งโลกจะได้สัมผัสความเป็นสุญญตาที่เกิดขึ้นบนโลก ในช่วงนั้นจะไม่มีมนุษย์ทำผิด คิดชั่ว จิตวิมุติไปหมด มนุษย์จะรักกันด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ และได้การ "ต่ออายุให้ยืนยาวขึ้น"

โดยถูกเพิ่ม เส้นใยเกลียวแม่เหล็ก (DIGITALIS) ที่เร้นอยู่ในแท่ง DNA ของแต่ละเซลล์ ซึ่งเป็นตัวกำหนดอายุขัยมนุษย์ (1 รอบ=6ปี มนุษย์ปัจจุบันมีสูงสุดข้างละ 50 รอบ) จากอำนาจของสนามแม่เหล็กโลกที่คอยกำกับและป้อนข้อมูลใหม่ให้กับเซลล์ร่างกาย สภาวะความเป็นหนุ่ม-สาวจะฟี้นฟูขึ้นใหม่

อีก 79 ปี แต่ในความจริงอาจไม่ถึงเพราะอาจารย์ เคยบอกว่าโลกจะหมุนเร็วขึ้น จาก 24 ชั่วโมง เป็น 22 ชั่งโมงต่อรอบ คือเร็วกว่าปัจจุบันนี้ครับ

และยังพูดถึง"แรงดึงดูดโลก"ว่าจริงๆแล้วโลกไม่ได้มีแรงดึงดูดโดยตรง แต่ล้วนเกิดจาก...
Gg แรงกระทำของกาแลคซี่ทางช้างเผือก (40 หน่วยต่อ 1เอเคอร์)
Gs แรงจากดวงอาทิตย์ที่กระทำต่อโลก (70 หน่วยต่อ 1เอเคอร์)
Gt แรงลัพธ์ที่โลกกระทำต่อดาวเคราะห์ทุกดวง (80 หน่วยต่อ 1เอเคอร์)
Ge ผลรวมของแรงดึงดูดทั้งหมดที่โลกกระทำต่อระบบสุริยะ

เมื่อนำมาแทนค่าตามสูตร Gg+Gs หารด้วย Gt = Ge
40+70 หารด้วย 80 = 1.38 หน่วยต่อเอเคอร์ (เป็นค่าคงที่)
ต่อไปการคำนวณทางดาราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ จะต้องใช้สูตรเหล่านี้หาค่าจึงจะแม่นยำขึ้นกว่าในยุคนี้ ( นักวิทยาศาสตร์โลกยังไม่ทราบ)

หลายสิ่งต้องเฉลยออกมา เพราะเป็นช่วงปลายยุค เวลาเรียนรู้มีจำกัด
ตอนนี้รหัสเปลี่ยนใหม่แล้ว
จากนี้ไปมนุษย์จะไม่เกิดมาเพื่อการ ---"ชดใช้กรรม"
แต่เกิดมา --- เพื่อทำหน้าที่ "สร้างสมดุล และค้ำจุนระบบโลก"

ผู้ที่อยู่ต่างประเทศ และอยู่ต่างจังหวัด อย่างคุณจัสมิน9 และท่านอื่นๆ จะได้รู้ข่าวสาร กับความรู้ไปด้วยครับ..

ส่วนเรื่อง"การทำสมาธิ" ขอยกไปไว้ที่กระทู้คุณคนานันท์ นะครับ.....
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=44604&page=7
รายงานข่าว (เกือบจะสด) จาก พลังจิต.com

 

ขอคุณMead ช่วยเล่าให้เพื่อนๆที่ไม่ได้ไปฟังด้วยครับว่า อ.เล่าอะไรสอนอะไรบ้างครับ ติดตามอยู่ครับ และขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

อื้มม...คิดอยู่มานานเหมือนครับว่าทางเวปน่าจะทำเสื้อออกมา อยากได้มาก รออยู่ครับ ว่าจะมีใครทำ ตามจินตนาการของผมเหมือนคุณ Chayutt เลย สีขาว ฯ โลโก้ตามเวปเลย แต่เป็นเสื้อแบบคอโปโล ขอโหวตอย่างแรงครับ หรือบางทีน่าจะจัดให้มีประกวดออกแบบเสื้อก่อนแล้วก็โหวตกันเนอะ(อันนี้คิดเล่นๆนะครับ)

 

ผมว่าไม่น่าเป็นเสื้อคอปกนะครับ เพราะดูว่ามันจะ Basic เกินไป ไม่สมชื่อเวปพลังจิตเลย และผมไม่อยากให้ใช้รูปแบบเหมือนเสื้อสีเหลือง 60 ปีทรงครองราชนั้นด้วยครับ

..ผมว่า..
- อยากให้รูปแบบเสื้อเป็นผ้านุ่มๆ ใส่สบายๆ ซักแล้วไม่ยับยู่ยี่จนต้องมานั่งรีด
- สีขาว
- รูปแบบให้ดูแฝงๆความเป็นสมัยใหม่ หรือยุคอนาคตนิดๆ แต่ดูดี เรียบง่ายในรูปแบบ ให้เข้ากับคำว่า "พลังจิต" ใส่ได้ทั้งคนหนุ่มสาวและคนมีอายุ และทั้งหญิงและชาย
- ส่วนโลโก้นั้น นึกไม่ออกครับว่า อะไรที่มันจะสื่อถึง "พลังจิต" + "พุทธศาสนา" ได้ดีๆ หรือว่าภาพเศียรพระที่มีรัศมีแผ่ออกมานั้นหนะ จะดีอยู่แล้ว

 

แจ๋วครับ!! ชอบสีขาวครับดูเหมาะสมกับงานบุญ ไม่รู้ท่านอื่นๆว่าไง..

เป็นแบบที่ใส่ได้เอนกประสงค์ด้วย เอาเลยครับ..น่ามีกระเป๋าเสื้อเพิ่มตรง logo หรือไม่ครับ กะมีลายเซนต์คุณ Websnow แปะด้านหลัง..อิ..อิ..(จะได้รู้ว่าเป็นของแท้..)

คอปกอาจมีสีตัดเข้ามาเล็กน้อยครับ จะได้ดูไม่จืดเกินไป