ขอเชิญร่วมอนุโมทนาบุญโรงทาน วัดหลวงปู่สิน วัดระหารใหญ่

รายการที่16 เหรียญหมื่นคาถาแสนยันต์ เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ขอปิดรายการนี้สำหรับร่วมสร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี กับวัดศรีมงคลหินกลิ้งครับ แล้วแต่ศรัทธาครับ

สามารถร่วมทำบุญได้ในLink ข้างล่างนี้ครับ

http://palungjit.org/threads/ร่วมสร...้ง-เหรียญหลวงปู่หมุนหมดแล้วครับ.211884/page-7

 

สำหรับเหรียญหมื่นคาถาแสนยันต์ เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ที่นำมาให้ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี กับวัดศรีมงคลหินกลิ้ง นี้จริงๆ แล้วบูชามา 1000 บาทจากท่านหนึ่งครับ แต่เนื่องจากตั้งแต่ได้มาก็เอาขึ้นไว้บนหิ้งครับ ยังไม่เคยเอามาใช้เลย ก็ต้องขอบอกตามตรงครับสำหรับเหรียญหมื่นคาถาแสนยันต์ชุดนี้ จะว่าเป็นเหรียญที่เปิดตัวหลวงพ่อชำนาญก็ว่าได้ และพระของหลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทองที่ท่านสร้างทุกอย่างขอยืนยันครับว่าถ้าไม่ดีท่านไม่สร้างออกมาให้ลูกศิษท่านบูชา ของจริงพิสูจน์ได้ครับ ถ้าใครได้เคยไปกราบท่านมาแล้วะรู้ว่าท่านเมตตามากครับ
ได้ของดีไปใช้ตามแต่ศรัทธาที่จะทำบุญไม่ได้กำหนดว่าต้องบูชาเท่าไหร่ เป็นกุศลที่บริสุทธิ์ครับ หากท่านใดยังไม่เคยสัมผัสพระสายนี้ขอแนะนำเหรียญนี้ครับ

 

Update รายการจอง


<TABLE style="WIDTH: 564pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=752 border=0 x:str><COLGROUP><COL style="WIDTH: 319pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 15542" width=425><COL style="WIDTH: 67pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3254" width=89><COL style="WIDTH: 53pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 2596" width=71><COL style="WIDTH: 77pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3766" width=103><COL style="WIDTH: 48pt" width=64><TBODY><TR style="HEIGHT: 12.75pt; mso-height-source: userset" height=17><TD class=xl31 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext 0.5pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 0.5pt solid; WIDTH: 319pt; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; HEIGHT: 25.5pt; BACKGROUND-COLOR: #ffff99" width=425 height=34 rowSpan=2>

<SUP>รายการ</SUP>​

</TD><TD class=xl31 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext 0.5pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 0.5pt solid; WIDTH: 67pt; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: #ffff99" width=89 rowSpan=2>

<SUP>รายชื่อ</SUP>​

</TD><TD class=xl28 style="BORDER-RIGHT: black 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext 0.5pt solid; BORDER-LEFT: windowtext; WIDTH: 178pt; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: #ffff99" width=238 colSpan=3>

สถานะการส่ง​

</TD></TR><TR style="HEIGHT: 12.75pt; mso-height-source: userset" height=17><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; HEIGHT: 12.75pt; BACKGROUND-COLOR: #ffff99" height=17>

วันที่ส่ง​

</TD><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: #ffff99">

หมายเลข​

</TD><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: #ffff99">

วันที่รับ​

</TD></TR><TR style="HEIGHT: 12.75pt" height=17><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; HEIGHT: 12.75pt; BACKGROUND-COLOR: #ffff99" height=17>

รายการที่2 ผ้ายันต์พระสีวลี หลวงปู่กาหลง เบอร์ 1990​

</TD><TD class=xl25 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: lime">

ต้นน้ำธรรม​

</TD><TD class=xl26 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: lime" x:num="40144">

27/11/2009​

</TD><TD class=xl25 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: lime">

EG888086385TH​

</TD><TD class=xl27 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: #ff9900">

Wait​

</TD></TR><TR style="HEIGHT: 12.75pt" height=17><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; HEIGHT: 12.75pt; BACKGROUND-COLOR: #ffff99" height=17 x:str="รายการที่12 รูปหล่อฤาษีปู่เสือ หลวงปู่กาหลง ">

รายการที่12 รูปหล่อฤาษีปู่เสือ หลวงปู่กาหลง ​

</TD><TD class=xl25 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: lime">

jeenus​

</TD><TD class=xl26 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: lime" x:num="40144">

27/11/2009​

</TD><TD class=xl25 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: lime">

EG888086371TH​

</TD><TD class=xl27 style="BORDER-RIGHT: windowtext 0.5pt solid; BORDER-TOP: windowtext; BORDER-LEFT: windowtext; BORDER-BOTTOM: windowtext 0.5pt solid; BACKGROUND-COLOR: #ff9900">

Wait​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

หากได้รับแล้วกรุณาแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ หรือหากของที่ส่งไปมีปัญหาสามารถแจ้งได้ทันทีครับ ขอบคุณมากครับ

 

สำหรับงานบุญ ร่วมสร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี กับวัดศรีมงคลหินกลิ้งครับ ก็อยากจะให้ช่วยๆ กันครับจะทำบุญ 1 บาทหรือเท่าไหร่ก็ได้ไม่ต้องคิดมากครับ ทำด้วยใจบริสุทธิ์ อย่ากังวล อย่าสงสัย และช่วยในส่วนไหนที่เราสามารถช่วยได้ ด้วยความเต็มใจและสบายใจ ไม่เบียนเบียนปัจจัยหรือทำไปแล้วเกิดปัญหาในภายหลัง
ในส่วนของผมเองก็คงจะช่วยในการนำเหรียญหมื่นคาถาแสนยันต์ เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง มาร่วมทำบุญในครั้งนี้ โดยให้ท่านที่สนใจที่จะร่วมทำบุญและได้ของดีไปใช้ด้วยโดยไม่มีการกำหนดว่าต้องทำบุญเท่าไหร่ ขอแค่ทำแล้วสบายใจท่านก็พอครับ เพื่ออานิสงค์ที่บริสุทธิ์

อานิสงส์ในการสร้างกุศลโดยการ...

ถวายฉัตรยอดพระเจดีย์ ----> ได้รับการเคารพยกย่อง เกิดในชาติตระกูลสูง มีสง่าราศี

ถวายทองคำ ----> ผิวพรรณงาม เปล่งปลั่ง อุดมมั่งคั่ง

ถวายเงิน ----> ใจสว่างไสว อยู่เย็นเป็นสุข

ถวายอัญมณี ----> รัศมีกายทิพย์สว่าง มีราศี มักประสบโชคดี

ถวาย, บรรจุพระเครื่อง ----> มีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรค มักมีคนช่วยเหลือเวลามีปัญหา

ถวายแผ่นทองคำเปลวปิดองค์พระเจดีย์ ----> มีราศีผิวพรรณงาม ใจสว่าง อบอุ่นใจ

ถวายอิฐ หิน ปูน ทราย ----> มีแต่ความมั่นคงในชีวิต ใจคอหนักแน่น ไม่โลเล

สร้างองค์พระเจดีย์ ----> มักได้สิ่งอันพึงปรารถนา สุขภาพดี ไม่มีวันอดตาย

ถวายธงหลากสีประดับองค์พระธาตุ ----> มีสง่าราศี กายทิพย์สว่าง

ถวายโคมไฟให้แสงสว่าง ,เทียน ----> ใจสว่าง ชีวิตสะดวกสบาย มีอุปสรรคน้อยลง มีปัญญาธรรมสูงขึ้น เบิกทางสู่ทิพยเนตร

ถวายดอกไม้อันบริสุทธิ์ต่างๆ ----> สุขสงบใจ ใจสะอาดสดชื่นผ่องแผ้ว

ถวายธูป เครื่องหอมต่างๆ ----> อบอุ่นมั่นคงในใจ ใจสว่างมีอุปสรรคน้อยลง มีกลิ่นกายสะอาด รู้สึกสดชื่นเสมอ

ถวายแผ่นหินปูพื้นพระเจดีย์ ----> มีบริวารดี มีสมาธิดีขึ้น มีเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้น

ถวายกระจกสีประดับองค์พระเจดีย์ ----> กายทิพย์สว่าง มีสง่าราศี มีคนศรัทธา เห็นความดีในตัว

ถวายผ้าเหลืองครอง(หุ้ม)องค์พระเจดีย์ ----> เพิ่มเนกขัมมบารมี ใจสงบขึ้น มีโอกาสได้วิมุตติธรรมเร็วขึ้น

สรงน้ำพระธาตุ ----> ใจสะอาดสงบสว่างขึ้น กายและใจชุ่มชื่นแจ่มใส สุขภาพดี

ถวายข้าว อาหาร เวรข้าวบูชาพระธาตุ ----> อุดมสมบูรณ์ อิ่มอกอิ่มใจ สุขภาพดี

เวียนเทียนรององค์พระเจดีย์ ----> เพิ่มวิสัยปัจจัยแห่งกุศลธรรม เป็นสิริมงคล ช่วยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น สะอาดขึ้น

แสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อพระธาตุจากใจจริง ----> เป็นที่เคารพยกย่อง มักไม่มีใครเข้าใจผิดหรือมองอะไรผิดๆ ได้บารมีวิมุตติรรมจากพระบรมธาตุ พาไปสู่วิสุทธิมรรค ผล นิพพานได้เร็วยิ่งขึ้น

เป็นเจ้าภาพหรือมีส่วนช่วยจัดงานฉลองพระธาตุ ----> ประสบสุขในชีวิตโดยทั่วไปแทบทุกด้านอุดมมั่งคั่ง มีคนเคารพยกย่องช่วยเหลือเสมอ

บูรณซ่อมแซมเจดีย์พระธาตุ ----> สุขภาพดี อายุยืน รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดี มีฐานะมั่นคง

สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ ----> ชีวิตมั่นคงสุขสมปรารถนาทุกด้าน เป็นที่เคารพยกย่อง ได้มรรคผล นิพพาน เร็วขึ้น

ถวายพระบรมธาตุเพื่อบรรจุในเจดีย์ ----> เป็นที่เคารพยกย่อง สุขสมปรารถนาในชีวิต ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม ได้อริยมรรคผลนิพพานเร็วขึ้น

ถวายภาชนะบรรจุพระบรมธาตุในเจดีย์ ----> มีชีวิตมั่งคง ปลอดภัย มั่งคั่ง มีบริวารดี มีเกียรติ เป็นที่ยกย่อง

ถวายบทสวด เทปสวดมนต์สวดบูชาพระธาตุ ----> เป็นที่ยกย่องสรรเสริญจากคนทุกหมู่เหล่า ได้ยินได้พบแต่สิ่งที่ดีงาม เสียงใสไพเราะ มีวาจางดงาม มีสมาธิดีขึ้น

ที่มาข้อมูล โดย: วิทย์ www.pantown.com

 

ทำบุญ 1 บาท ย่อมดีกว่าทำบาป 1 ครั้ง

 

คำคม ได้ใจครับ ติดตามกระทู้อยู่มีของที่อยากได้ 2-3 อย่างรอเครียร์ ของค้างกระทู้ อานพเสร็จเดียวมาเอา โน๊ะ

 

อะไรนะที่อยากได้ ฮิๆๆ
ถ้าของที่อยากได้ยังอยู่ถึงปีใหม่ให้เป็นของขวัญ 1 ชิ้น
ยกเว้นตะกรุดมหาละลวยกับรูปหล่อฤาษีปู่เสือนะ อันนี้หวงเล็กน้อย ฮิๆๆๆ

 

ตะกรุดเทพรำจวน-คชสีห์-ประคำโทน หลวงปู่ครูบาสิงโต​

พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงปู่ครูบาสิงโต” วัดอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันอายุ 90 ปี ท่านเป็นศิษย์ครูบาศรีวิชัย ครูบาพรหมจักร และหลวงปู่แหวน ซึ่งปัจจุบันวัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้เป็นที่นิยมของนักสะสมอย่างมาก​

หลวงปู่ครูบาสิงโต เกิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2492 ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อตอน 10 ขวบ ได้มีโอกาสอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ซึ่งขณะนั้นได้มาอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่แก้ว ณ ดอยโมคคัลลาน์ อ.จอมทอง หลวงปู่แหวนได้เมตตาอบรมสั่งสอนการปฏิบัติกรรมฐานให้

จวบจนอายุ 12 ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง จากนั้นได้ติดตามครูบาคันธา ไปร่วมสร้างทางและปฏิบัติธรรมกับครูบาศรีวิชัยที่ดอยสุเทพ ต่อมาได้อุปสมบทที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง พร้อมกับได้เดินทางไปฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับครูบาพรหมา (พรหมจักร) วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน

น้ำมันดอกรักซ้อน-คชสีห์ระหว่างที่หลวงปู่ครูบาสิงโต ฝึกปฏิบัติธรรมอยู่นั้นได้ทำการศึกษาค้นคว้าพับสา (คัมภีร์) พระเวทย์โบราณต่างๆ รวมถึงได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากพ่อหนาน ซึ่งเป็นอาจารย์ฆราวาสอีกหลายคนจนเชี่ยวชาญ และเมื่อนำมาประกอบกับกรรมฐานที่ได้ฝึกฝนมาทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์เป็น ที่ประจักษ์กับสายตาญาติโยมนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นรู้จิตรู้ใจผู้อื่น มีหูทิพย์ ตาทิพย์ วาจาสิทธิ์ วัตถุมงคลเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์

ประคำโทน-ตะกรุดเทพรำจวนโดยเฉพาะ เครื่องรางของขลัง “ลูกอมชานเมี่ยง” ลือกันว่า ผู้พกติดตัวสุนัขกัดไม่เข้า “ประคำโทน” ปืนยิงไม่ออก ถ้าออกปืนก็แตก “สีผึ้ง”นำไปใช้ผู้ใหญ่เมตตา “ตะกรุดเทพรำจวน” มีมหาเสน่ห์ใครเห็นใครรัก โดยมีเคล็ดให้เขียนชื่อ-นามสกุลเขา ม้วนสอดไว้ในแกนกลางแล้วภาวนา 8 คืน ผู้นั้นจะรักใคร่เมตตา “คชสีห์” เป็นมหาอำนาจ ผู้คนนับถือ เคารพเกรงใจ “สิงห์” เป็นมหาอำนาจ ผู้หญิงพกติดตัวไม่มีใครกล้ารังแก “น้ำมันดอกรักซ้อน” ใช้จุนเจิมที่หน้าผากลงทองเป็นมงคลอย่างสูงมีโชคลาภ เมตตามหานิยม ค้าขายดี งานเข้าตลอด

ส่วนผู้ใดมีเคราะห์ให้จุดเทียนสืบชะตาหนุนดวงของท่านไปบูชาพระหรือพระธาตุ เพื่อสะเดาะเคราะห์จะได้เจริญก้าวหน้ามีสวัสดิมงคล ส่วนผู้ใดเจ็บไข้ได้ป่วยหรือญาติพี่น้องพ่อแม่เจ็บไข้ได้ป่วยมานานให้นำไม้ ก๊ำ (ค้ำ) ของท่านไปบูชาพิงค้ำพระ หิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชาหรือเสาเอกของเรือน ความเจ็บไข้ก็จะทุเลาและหายในเวลาอันสั้น บูชาแล้วเกิดสวัสดิมงคลกับบ้านเรือน ลาภ ยศ สรรเสริญ เจริญตลอด “พัดโบกสีวลีเรียกลาภ” (ที่ด้ามลงหัวใจอิทธิฤทธิ์ ที่ใบลงหัวใจพระสีวลี) สุดยอดในทางเรียกลาภ ค้าขายดี พ่อค้าแม่ขายชอบใช้เพราะเห็นผล

วัตถุมงคลเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ครูบาสิงโต, ลูกอมชานเมี่ยง, คชสีห์, สิงห์, น้ำมันดอกรักซ้อน, อิ่นคู่, สีผึ้ง, ตะกรุดเทพรำจวน ปัจจุบันนักสะสมนิยมอย่างมาก ล่าสุดเมื่อวันวิสาขบูชาที่ 8 พฤษภาคม 2552 ทางวัดอโยธยา โดยหลวงปู่ครูบาสิงโต ได้จัด พิธีไหว้ครูและครอบเศียรบรมครูปู่ฤๅษี และถวายตุงชัย ปัจจัยไทยธรรม พิธีสืบชะตาหลวง บูชาเทียนแบบล้านนา และเวียนเทียนย้อนยุค (ไม่ใช้ไฟฟ้าส่องสว่าง ใช้ตะเกียงน้ำมันนับพันดวง) ตั้งแต่เวลา 17.00 น. พร้อมกันนี้ได้มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังมากมายมาร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล พร้อมนำวัตถุมงคลมาแจก

สำหรับผู้สนใจร่วมบุญบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาสิงโต ตรงไปที่วัดอโยธยา ซอยอุโมงค์หันตรา หมู่ที่ 5 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด




ถ้ากล่าวถึงพระอดีตอริยสงฆ์แห่งล้านนาแล้วคงไม่มีใครไม่รู้จักครูบาเจ้าศรี วิชัยผู้นำการก่อสร้างทางขึ้นดอยสุเทพและพัฒนาวัดวาอารามอีกเป็นจำนวนมาก และในยุคถัดมาก็มีหลวงปู่แหวน สุจินโณ วัดดอยแม่ปั๋งเป็นที่พึ่งทางใจของคนไทยทั่วประเทศ แทบคาบเกี่ยวในยุคเดียวกันก็มีพระวิปํสสนาจารย์ใหญ่นาม หลวงปู่ครูบาพรหม หรือที่หลายคนเรียกท่านว่าครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ผู้สร้างหน่อเนื้อนาบุญไว้อย่างมากมาย จวบจนกระทั่งปัจจุบันใครเลยจะรู้เล่าว่ามีพระอริยสงค์รูปหนึ่งช่างมีบุญ เหนือบุญที่ได้เป็นศิษย์สืบทอดบุญญาบารมีของอริยสงฆ์ทั้งสามท่านนี้ไว้... พระสงฆ์รูปนั้นก็คือหลวงปู่ครูบาสิงห์โต สุธมฺโม อริยสงฆ์ลงดอยยุคปัจจุบัน........

ชาติกำเนิดการบวช ปฏิบัติและศึกษาพระเวทย์

หลวงปู่สิงห์โตปัจจุบันอายุ ๙๐ ปีเกิดที่ ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๒ เป็นบุตรชายคนโตและคนเดียวในพี่น้อง๕ คน ของพ่อคำ แม่ปุ้ด ทิพย์พรหมา บ้านของท่านมีอาชีพทำนา และโยมพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้าน ต่อมาเมื่อท่านอายุ ๑๐ขวบ หลวงปู่แก้ว หลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ ได้รุกขมูลมาจากอีสานแล้วมาปักหลักปฏิบัติธรรม ณ.ดอยโมคคัลลาน์ ซึ่งไม่ห่างไปจากบ้านของหลวงปู่มากนัก เป็นเหตุให้โยมพ่อของท่านได้มีโอกาสรู้จักกับหลวงปู่แก้ว หลวงปู่แก้วจึงขอเด็กชายสิงห์โตไปอยู่อุปฐากหลวงปู่แหวน เมื่อไปอยู่แล้ว หลวงปู่แหวนท่านก็สอนให้นั่งปฏิบัติธรรมอยู่กว่าขวบปีจนทำให้เด็กชายสิงห์โต เกิดความชอบ ปฏิบัติรุดหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะเด็กนั้นยังมีใจที่บริสุทธิ์สะอาดปราศจากอกุศลจิต ต่อมาเมื่อหลวงปู่แหวนได้จาริกไปที่อื่น หลวงปู่จึงขอให้โยมพ่อพาไปบวชเณรที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง เมื่ออายุ ๑๒ ปีโดยมีพระครูพุทธศาสตร์สุประดิษฐ์ วัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นผู้บรรพชา บวชแล้วก็อยู่ปฏิบัติ กับครูบาคันธา ณ.วัดดอยแก้ว กระทั่ง๒ปีถัดมาครูบาคันธา( เจ้าอาวาสวัดดอยแก้วภายหลังไปปกครองวัดวังจำปา) ก็พาท่านขึ้นไปสร้างทางขึ้นดอยสุเทพและปฏิบัติธรรมร่วมกับครูบาเจ้าศรี วิชัย ทำให้ท่านได้มีโอกาสเรียนปฏิบัติตามแนวทางของครูบาเจ้า จนกระทั่งแล้วเสร็จจึงกลับมาเรียนอักขระล้านนา ค้นคว้าปั๊ปสา(คัมภีร์พระเวทย์)ก่อนเดินทางไปเรียนอาคมอีสานกับหลวงปู่แก้ว เรียนอาคมสายเหนือไทยใหญ่กับครูบาจินา วัดท่าข้ามใต้ ที่ อ.ฮอด พอกลับมาพ่อหนานตันฆราวาสเรืองเวทย์แห่งดอยแก้วซึ่งเฝ้าดูสามเณรสิงห์โตอยู่ นานแล้วก็ได้ตัดสินใจถ่ายทอดสรรพวิชาทางเสน่ห์เมตตามหานิยมให้ทั้งหมด ส่วนวิชามหาอำนาจหลวงปู่ฯได้รับการถ่ายทอดวิชาเสือเยน(เสือสมิง)มาจากพราน กระเหรี่ยงสบเตี๊ยะ ต่อมาจึงได้อุปสมบทที่วัดพระธาตุศรีจอมทองโดยมีพระสุวรรณโมลี เป็นอุปํชฌาย์ จากนั้นก็ได้ไปเรียนปฏิบัติวิปํสสนาชั้นสูงกับครูบาพรหม วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ. ลำพูน สำเร็จแล้วได้ออกปฏิบัติธรรม ณ.ดอยอินทนนท์ โปรดชาวเขาให้เลิกนับถือผีมานับถือพุทธศาสนาเป็นเวลา ๔ ปี พอกลับมาก็ได้เป็นเจ้าอาวาสและพัฒนาวัดดอยแก้วจนบริบูรณ์ดังปัจจุบัน

พระผู้นำในการพัฒนา

สร้างโรงพยาบาลประจำอ.จอมทอง สมัยที่ท่านได้รับการแต่งตั้ง เป็นพระอธิการสิงห์โต เจ้าอาวาสวัดดอยแก้ว ขณะนั้นทางราชการกำลังพัฒนาสถานีอนามัยให้เป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอ หลวงปู่ครูบาสิงห์โตได้เห็นความสำคัญดังกล่าวเช่นกัน จึงได้รวบรวมศรัทธาประชาชนวัดดอยแก้วร่วมจัดหาสถานที่เพื่อสร้างโรงพยาบาลอ. จอมทองจนสำเร็จ

สร้างถนนขึ้นดอย ท่านริเริ่มก่อสร้างถนนไปสู่หมู่บ้านแม่เตี้ยะ เพื่อให้ชาวเขาได้มีโอกาสลงมาทำมาค้าขาย และรักษาพยาบาลตอนเจ็บป่วย รวมทั้งเด็กๆนั้นจะได้รับการศึกษา เป็นผลงานที่ทำจากหมู่บ้านสู่หมู่บ้าน หมู่บ้านสู่ตำบล จนทางราชการเข้าร่วมช่วยเหลือให้เป็นถนนลาดยาง

สร้างสะพานคอนกรีต ข้ามแม่น้ำแม่กลางสู่ตัวอำเภอจอมทอง

สร้างเตาเผาศพ โดยเปลี่ยนจากการเผากลางแจ้งแบบชาวบ้านเป็นเตาเผาไฟฟ้า
การพัฒนาดังกล่าวข้างต้น นับว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ทางราชการและคณะสงฆ์ ร่วมกันถวายสมณศักดิ์ให้ท่านเป็น พระครูสีหธรรมจารี และขอให้ท่านเป็นเจ้าคณะตำบลดอยแก้วแต่ท่านปฏิเสธ

วัตรปฏิบัติและปฏิปทา

วัตรปฏิบัตร แม้ วัยจะล่วงเลยเข้าอายุ ๙๐ ปีแล้วก็ตามหลวงปู่ยังเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ ตื่นตีสามทำวัตรสวดมนต์ปฏิบัติสมาธิสม่ำเสมอ ออกเดินบิณฑบาตรทุกเช้าแม้กระทั่งมาอยู่จ.อยุธยาก็ยังเดินบิณฑบาตรทุกวัน ชาวบ้านเห็นแล้วศรัทธาใส่บาตรกันมาก มีแม่ค้าปลาดุกในตลาดเจ้าพรหมใส่บาตรหลวงปู่เสร็จร้องไห้โฮเลย คนก็หันไปมองนึกว่าแกถูกปลาดุกยัก แกเห็นคนมองกันมาก ก็เลยบอกว่าปลื้มใจที่มีพระอริยสงฆ์อายุพรรษาสูงขนาดนี้มาบิณฑบาตรโปรดถึง ที่ และอีกอย่างที่หลวงปู่ไม่เคยขาดคือท่านไปที่ใดหากเห็นรูปเคารพพระพุทธเจ้า เป็นอันต้องยกมือไหว้และสวดงึมงำทุกครั้ง การขบฉันของท่านปกติจะฉันอาหารอ่อนๆมื้อเช้ามื้อเดียวแล้วฉันน้ำผึ้งกับนมสด มะนาวแต่ถ้าต้องไปงานก็อนุโลมฉันเพลด้วย บางครั้งท่านฉันน้ำผึ้งนมสดแก้วเดียวอยู่ไป๕ วันโดยไม่ฉันอะไรอีกเลย และร่างกายก็ยังสดชื่นเหมือนเดิม มีคนเคยถามท่านว่าไม่ฉันข้าวเพิ่มหรือ ท่านบอกร่างกายมันไม่รับ รับแค่นี้

ปฏิปทา ใครก็ตามที่ได้กราบหลวงปู่ครูบาสิงห์โตต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าท่าน เป็นพระที่ความชุ่มเย็น มากเมตตา ตามใจลูกศิษย์ทุกประการไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่เลือกยากดีมีจน ใครขออะไรหลวงปู่ให้หมด ให้จนบางครั้งบรรดาลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดปฏิบัติท่านเดือดร้อนไปตามๆกัน แต่ท่านก็ยังมีเมตตาต่อไปดังสายน้ำที่ไหลชุ่มฉ่ำตลอดปี อย่างเช่นหลายกรณีที่เล่าต่อไปนี้

พระขี้ขอ ครั้งหนึ่งที่หลวงปู่ลงรถไฟมาที่สถานีอยุธยา มีพระที่ไม่รู้จักการสมควร เข้าไปขอย่ามท่านเป็นที่ระฤก หลวงปู่ท่านก็มอบให้ จากนั้นพระอุปฐากก็ต้องเดือดร้อนไปซื้อเป้แบบของโยมจากร้านค้าใกล้ๆแถวนั้น มาใส่สิ่งของของท่านแทนย่าม เรื่องราวก็น่าจะจบลงแล้ว แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น พระองค์เดิมเดินกลับมาขอเงินอีก ถ้าเป็นเราพระรูปนั้นคงโดน....แล้ว แต่นี่อะไรหลวงปู่ก็เมตตาถวายปัจจัยให้ไป หลังจากได้ปัจจัยแล้วพระองค์นั้นก็ขอประคำในคอหลวงปู่ท่านอีก หลวงปู่ท่านก็ถอดถวายให้ พระอุปฐากของหลวงปู่ที่ไปด้วยท่านเล่าให้ญาติโยมฟังอย่างมีอารมณ์ว่าภาพที่ เห็นในวันนั้นคล้ายๆกับหลวงปู่ถูกปล้นมากกว่า....แต่หลวงปู่บอกว่าเขาอยาก ได้ก็จะถวายให้เขาไป เหล่าบรรดาสานุศิษย์ที่ได้ฟังเรื่องนี้ต่างกล่าวตรงกันว่าท่านคือหลวงปู่ สิงห์โตหรือพระเวสสันดรกันแน่

โยมขี้ขอ ด้วยว่าคณะศิษยานุศิษย์ได้สร้างพระขุนแผนหลังติดจีวรเอาไว้สำหรับแจกตอบแทน หัวหน้าคณะผู้นำบุญที่จะสร้างหอบูรพาจารย์ในภายภาคหน้าและได้นำเอาไปไว้ใน ห้องท่าน ให้ท่านค่อยๆลงยันต์หัวใจขุนแผนไว้ที่หลังจีวรไปที่ละองค์และก็เรียนกำชับ หลวงปู่ไว้ว่าห้ามแจกไปก่อน เพราะเจตนาสร้างไว้เป็นพิเศษกับผู้นำบุญเท่านั้น เวลาผ่านไปหลายวัน ปรากฏว่าหลวงปู่เพิ่งเขียนไปได้ไม่เท่าไรก็มีคนผู้ไม่รู้การอันสมควรบุกเข้า ไปกราบหลวงปู่ถึงในห้องให้หลวงปู่ทำโน่นทำนี่ให้เสร็จแล้วก็ขอโน่นขอนี่จน กระทั่งจะลากลับก็เหลือบไปเห็นพระขุนแผนนี้เข้าก็ขอ ทีแรกก็ขอองค์เดียวพอได้แล้วก็ขออีก๓ องค์หลวงปู่ท่านก็ให้ไป ทั้งๆที่คณะศิษย์ย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าแจกท่านก็แจก และในวันนั้นปัจจัยที่มีคนถวายให้หลวงปู่ก็หายไปด้วยแต่ท่านกลับไม่อาทรร้อน ใจอะไร ทำให้ศิษย์ใกล้ชิดเดือดร้อนต้องคอยระแวดระวังและหามาตรการจัดระบบป้องกัน ปัญหาเหล่านี้

ชาวเขาขอหม้อ ที่วัดดอยแก้วนั้นมักจะมีชาวเขาลงมาขออาหารสิ่งของเครื่องใช้ในถังสังฆทาน กับหลวงปู่เป็นประจำแต่มีรายหนึ่งมาขอเครื่องครัวที่เป็นหม้อ กระทะชุดใหม่ๆยังไม่ได้ใช้ (มีคนซื้อมาถวายหลวงปู่) แทนที่หลวงปู่จะอิดออดบอกว่าให้ไม่ได้จะไว้ใช้ในกิจการของวัด หลวงปู่กลับบอกชาวเขาผู้นั้นให้รีบนำกลับไปเร็วๆก่อนที่ลูกศิษย์ท่านจะกลับ มาเห็น เดี๋ยวจะอด

ขอทานตลาดเจ้าพรหม ตอนที่หลวงปู่ไปบิณฑบาตที่ตลาดเจ้าพรหมมีแม่ค้าประชาชนใส่บาตรกันมากมาย มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านเดินผ่านขอทาน ขอทานพนมมือขอตังค์ท่าน หลวงปู่ก็หยุดคุ้ยเขี่ยหาปัจจัยในย่ามท่าน พวกพ่อค้าแม่ค้าที่เห็นเหตุการณนี้คงเฝ้าดูด้วยความลุ้นระทึกและต่างนึกในใจ ว่าหลวงปู่คงจะหาเหรียญหรือแบงก์ ๒๐อยู่เป็นแน่แท้ แต่ที่ไหนได้หลวงปู่เขี่ยหาจนเจอแบงก์ร้อยส่งให้ขอทานไป เท่านั้นหล่ะเสียงสาธุดังลั่นตลาดทีเดียว ส่วนขอทานถึงกับน้ำตาซึม

ขอให้ตามลูกตามผัวตามเมีย หลาย คนที่ประสบเคราะห์กรรมครอบครัวมีปัญหาลูกหนี ผัวทิ้ง เมียจาก เดือดเนื้อร้อนใจกินไม่ได้นอนไม่หลับมาขอให้หลวงปู่ช่วย ท่านก็สงเคราะห์ให้ถ้วนทั่วทุกรายไปจนกระทั่งปัจจุบันอายุท่าน ๙๐ ปี สุขภาพร่างกายท่านเริ่มอ่อนล้าทำมากไม่ค่อยไหวแล้ว ท่านจึงนำวิชาที่เรียนมาทำตะกรุดเทพรำจวนเป็นสื่อให้ไปเรียกกันเอง ตะกรุดนี้โด่งดังมากมีคนเอาไปเรียกแม้กระทั่งลูกหนี้ให้มาชำระหนี้

ขอให้ครอบหัวบรมครูปู่ฤๅษี ๑๐๘ หัวบรมครูปู่ฤๅษีนี้เป็นหัวศักดิ์สิทธิ์ได้รับการปลุกเสกประสาทพรจาก๑๐๘เกจิ อาจารย์สายหลักของเมืองไทยผู้ใดได้ครอบแล้วราวกับว่าได้รับการครอบจากเกจิ อาจารย์ ๑๐๘ รูปในเวลาเดียวกัน ดังนั้นระหว่างครอบตั้งใจอธิษฐานให้ดีประสพความสำเร็จทุกราย ทำให้วันหนึ่งๆมีผู้เดินทางมาขอให้ท่านครอบเป็นจำนวนมาก เวลาหลวงปู่ท่านครอบต้องเอื้อมมือยืดหลังเป็นเหตุให้ร่างกายวัย ๙๐ปีของท่านเมื่อยล้า แต่หลวงปู่ก็ยังคงอดทนทำให้กับทุกคนอยู่ตลอด ทำให้คณะศิษย์ขอร้องหลวงปู่ให้เมตตาทำเฉพาะพิธีสำคัญเท่านั้นเพื่อเป็นการ รักษาสุขภาพ ปรากฏว่าหลวงปู่ยืนยันว่ายังทำไหวและจะทำทุกวันจนกว่าจะไม่ไหว

​

ขอให้นั่งหนัก ด้วยว่าพระเก๋ผู้อุปฐากหลวงปู่เป็น ชาวอยุธยารู้จักเชื่อมโยงกับวัดอโยธยาผ่านโยมคนหนึ่ง ไวยาวัจกร วัดนี้ต้องการพระอริยสงฆ์มาจำพรรษาเพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาดึงดูดญาติ โยมเข้ามาร่วมสร้างบุญกับวัดจึงอาราธนาหลวงปู่มาจำพรรษา หลวงปู่ก็ได้มีความเมตตาตอบตกลงมานั่งหนัก(นั่งเป็นประธานพัฒนา)ที่วัดอโยธยา จ.อยุธยา

ความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิปาฏิหารย์ในหลวงปู่ฯ

ตาทิพย์ พระ เก๋ผู้อุปฐากหลวงปู่เล่าว่า เห็นคนมาขอเกศาหลวงปู่กันมาก ตนเองจึงอยากได้บ้าง จึงวางแผนจะยักเก็บขึ้นไว้ขณะที่ปลงผมหลวงปู่ พอถึงวันโกณ จึงทำตามที่คิดไว้คือยืนข้างหลังหลวงปู่แล้วปลงจากนั้นทำทีเป็นเอามีดโกน เคาะขันน้ำ เพื่อล้างเอาผมออกแต่ความจริงแอบเอากระดาษชำระห่อไว้ ปรากฏว่าหลวงปู่ท่านพูดขึ้นมาโยมเขาขอเอาไว้ ให้โยมเขาไปก่อน จึงสรุปว่าท่านนั่งหันหลังอยู่จะรู้ได้อย่างไรถ้าไม่มีตาทิพย์ ส่วนเหตุการณ์อีกทำนองหนึ่งที่พบเป็นประจำคือหลวงปู่บอกใบ้ เช่นนัดญาติโยมที่มาขอของศักดิ์สิทธิ์นัดให้มารับวันไหน เลขวันนั้นหล่ะถูกแน่นอน หรือการให้วัตถุมงคลโยม บางทีตอนแรกให้ ๒ ชิ้น เดี๋ยวเรียกมารับอีก ๓ ชิ้น นั่นหล่ะเลขสองหลัก บางทีใครมาถวายปัจจัยให้ท่าน ท่านก็ทอนคืนฝากไปทำบุญให้วัดอื่น ตัวเลขที่ฝากไปทำบุญนี่หล่ะ สำคัญนักได้กันมามากแล้ว ที่ดินบางแห่งทำมาค้าขายไม่ดีหลวงปู่ไปสวดมนต์แก้ให้ พอขึ้นรถกลับหลวงปู่จะเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า ที่นั้นมีอะไร แล้วหลวงปู่แก้อย่างไร......

หูทิพย์ ปัจจุบัน ด้วยวัยอันชราภาพของหลวงปู่ หูของท่านเริ่มตึง ถ้าใครสนทนากับท่านด้วยน้ำเสียงปกติท่านจะไม่ได้ยิน แต่เกือบทุกครั้งที่พวกศิษย์ใกล้ชิดจับกลุ่มคุยกันอยู่ห่างๆแต่มีเรื่องไป พาดพิงถึงท่านปรากฏว่าท่านกลับได้ยิน แล้วพูดตอบโต้ออกมาพวกศิษย์จึงไม่กล้านินทาหลวงปู่ เพราะท่านใช้หูทิพย์ฟัง....

กายทิพย์ มีอยู่ครอบครัวหนึ่งศรัทธาหลวงปู่เป็นอย่างมาก มากราบเกือบทุกวัน ศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่จึงสอบถามว่ารู้จักหลวงปู่ได้อย่างไร ตัวภรรยาเลยเล่าให้ฟังว่า ปกตินั่งสมาธิเป็นประจำอยู่ทุกวันแต่มีคืนหนึ่งเห็นหลวงปู่ในสมาธิ พอรุ่งขึ้นมีเพื่อนเอารูปภาพบูชาที่หลวงปู่แจกกับญาติโยมไปโชว์ให้ดู พอเห็นแล้วถึงกับขนลุกทีเดียวเพราะเพิ่งเห็นเมื่อวานในสมาธิ จึงรีบให้เพื่อนพามากราบหลวงปู่ จากนั้นก็มาเองเกือบทุกวัน นับถือหลวงปู่มากเพราะหลวงปู่มีกายทิพย์

วาจาสิทธิ์ หลาย ท่านเดินทางมาแสนไกลเพราะต้องการเพียงน้ำลายไอปากจากหลวงปู่ อยากได้ยินคำพรที่หลวงปู่บอกให้รวยๆๆกันทั้งนั้น บางคนไม่เคยถูกหวยพอฟังแล้วก็กลับไปถูกหวย บางคนกิจการไม่ดีพอฟังกลับไปแล้วก็ดี บางคนทำงานมานานขั้นไม่เคยได้เลื่อนกลับไปก็ได้เลื่อน ยิ่งโดยเฉพาะหลวงปู่ฯท่านให้พรเวลาครอบหัวบรมครูปู่ฤาษี๑๐๘ ด้วยแล้ว ยิ่งศักดิ์สิทธิ์นัก

หุงสีผึ้งเดือดโดยไม่ใช้ไฟ ทุก ครั้งที่หลวงปู่สิงห์โตจะเคี่ยวสีผึ้งหม้อใหญ่ท่านจะทำหัวสีผึ้ง ๑ ถ้วยตะไลไว้เป็นหัวเชื้อ โดยหุงอยู่บนฝ่ามือ ใช้นิ้วโป้ง ชี้ ก้อยเป็นสามเส้า ขาตั้งถ้วย พับงอนิ้วกลาง นาง มาเป็นฟืนแล้วเพ่งจนขี้ผึ้งในถ้วยละลาย บางครั้งท่านเผลอเพ่งนานไปหน่อยถ้วยแตกกระจายเป็นอันว่าต้องทำใหม่

สะเดาะห์กุญแจ ใน ช่วงหลังมานี้หลวงปู่เริ่มเกิดอาการหลงลืมบ้างตามวัย ท่านทำลูกกุญแจหายบ่อย แต่ทุกครั้งท่านก็เปิดเข้าห้องได้ไม่รู้ท่านทำอย่างไร มีคนเคยแอบดูบอกว่าท่านเป่าแม่กุญแจกระเด้งเลย

เลี้ยงสัตว์ประหลาด กุฏิหลวงปู่ที่ วัดดอยแก้ว มีสัตว์ประหลาดที่ท่านเลี้ยงไว้เช่นจิ้งจก(จั๊กกิ้ม) คางคก ตุ๊กแก(ตั๊กโตว) อ่านแล้วอาจจะรู้สึกพิกลแต่เป็นความจริง สัตว์เหล่านี้เวลาหลวงปู่ไม่อยู่มันจะหายไป แต่พอหลวงปู่กลับมา มันจะมาอยู่ให้เห็นอีกทันที ที่แปลกที่สุดคือพวกมันไม่รู้จักตายจากไป สอบถามลูกศิษย์ที่เฝ้ากุฏิอยู่บอกเห็นมานานนับสิบปีแล้ว เขาว่าเป็นหุ่นพยนต์ที่ท่านผูกขึ้น พิจราณาไปมาก็น่าจะจริงเพราะหลวงปู่มีวิชาจิ้งจก ที่แปลกไม่เหมือนใคร คาถาพิสดารเหลือเกิน ต้องใช้ไม้เป้าด้วย

​

เพ่งเหรียญรุ่นแรกละลาย พระลูกศิษย์เข้าไปเก็บของ ในห้องของหลวงปู่ แล้วท่านบังเอิญแอบเห็นเหรียญรุ่นแรกที่หลวงปู่ฯเสกไว้ละลายติดกับถุง พลาสติก เลยหยิบไปขายโยม ๑๐๐ บาทโดยนึกว่าหลวงปู่ไม่รู้ ที่ไหนได้พอกลับเข้าวัดเท่านั้นหล่ะ ถูกท่านยึดปัจจัยไปทำบุญและสั่งให้เข้ากรรม ๗ วัน พร้อมกับกำชับห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่พระองค์นี้ท่านก็อดเล่าไม่ได้ท่านบอกว่ามันตื่นเต้นที่ได้พบเห็นอำนาจจิต ขนาดนี้​

รู้วาระปาฏิหารย์ ในคืนหนึ่งเวลา ราว ๒ ทุ่มหลวงปู่นั่งชมสัตว์เลี้ยงประหลาดหน้ากุฏิของท่าน ​

อยู่ๆท่านก็ออกคำสั่งให้ลูกศิษย์นำรถไปวัดพระธาตุศรีจอมทอง ลูกศิษย์ถามว่าดึกป่านนี้ วัดก็ปิดแล้วจะไปทำไม ท่านก็ไม่ตอบ พอถามท่านหลายๆครั้งท่านก็บอกว่าเอากล้องไปด้วย พอไปถึงตำรวจป้อมยามหน้าวัดพระธาตุ พระเณรเจ้าหน้าที่วัดก็วิ่งมาเปิดประตูกันให้วุ่นไปหมด ราวกับหลวงปู่ฯเป็นเจ้าพ่อสิงห์โต พอประตูเปิดแล้วหลวงปู่ก็นำหน้าเข้าไปยังพระธาตุแล้วสั่งให้ลูกศิษย์ถ่ายรูป พระธาตุประเดี๋ยวนั้น ทันทีที่ภาพปรากฏบนจอกล้องดิจิตอลก็เห็นรังสีพุทธคุณเต็มภาพเลย เสร็จแล้วท่านก็สั่งให้ถ่ายรูปกระดานเขียนผ้าบริจาคห่มพระธาตุให้เอามาทำที่ อยุธยา​

​

หยุดรถไฟ ศิษย์รุ่นเก่าๆของท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่จะลงมากรุงเทพ แต่ไปขึ้นรถไฟที่สถานีไม่ทัน ลูกศิษย์ที่ไปส่งจะเบนเข็มมาขึ้นรถ บขส.แต่หลวงปู่บอกให้ไปที่สถานีรถไฟ หลวงปู่บอกว่าทัน เมื่อไปถึงสถานีปรากฏว่ารถไฟขบวนนั้นเกิดขัดข้องไปไม่ได้กระทั่งหลวงปู่ขึ้น ไปแล้วรถไฟจึงแก้ไขเสร็จ ราวกับว่าหลวงปู่หยุดรถไฟไว้ เพราะคงไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่ๆ เนื่องจากตอนหลวงปู่บอกว่าทันแล้วท่านก็นั่งชักประคำตลอดทางจนถึงสถานีรถไฟ​

โทรจิต ตั้งแต่หลวงปู่สิงห์โตท่านไปรู้จักกับ หลวงปู่ครูบาครอง ปรากฏว่ามีหลายครั้งที่หลวงปู่ทั้งสองพบกันแล้วคุยกันต่อเนื่องได้ไนเรื่อง ที่ไม่มีใครเริ่มหัวเรื่องมาก่อน พอลูกศิษย์เห็นพิรุธก็เริ่มสังเกตุดูพบว่าบางครั้งท่านเหมือนเข้าสมาธิคุย กันแต่ไม่รู้คุยกับใครทางครูบาครองก็เช่นกันท่านรู้หลายอย่างล่วงหน้าราวกับ
ว่าคุยกับหลวงปู่สิงห์โตมาก่อนทั้งที่หลวงปู่ทั้งสองไม่เคยคุยโทรศัพท์กัน เลย ​

ไล่ผีทางไกล ตอนที่หลวงปู่มาอยู่อยุธยา มีชาวบ้านหลังวัดพนันเชิงเข้ามากราบ เรียนว่าที่บ้านมีผีที่เกิดจากหมออาคมแถวบ้านผูกไม่อยู่ ทำหลุดมาสิงสู่อยู่บ้านตนทำให้เดือดร้อนไปหมด คนในบ้านป่วย มีอาการแบบโดนเข้า นอนไม่หลับวิญญาณเดินไปมาวูบวาบ นิมนต์พระไปปราบหลายรูปแล้วแต่พระโดนมันเล่นงานจนแย่ทุกองค์ จนไปเจอพระเกจิองค์หนึ่ง ท่านแนะนำให้มาหาหลวงปู่สิงห์โต เลยจะขอนิมนต์หลวงปู่ฯไปช่วยที่บ้าน พอหลวงปู่สิงห์โตพิจราณาเรื่องสักคู่ก็นั่งหลับตาชักประคำสักพักใหญ่พอท่าน ลืมตาขึ้นมา ท่านก็บอกว่าไม่มีอะไรแล้วให้กลับบ้านได้ พอกลับไปถึงบ้านพบชิ้นหน้าผากกระโหลกมนุษย์ตกอยู่กลางบ้าน จึงเอาไปบังสกุลไว้วัดตั้งแต่นั้นก็ไม่พบวิญญาณผีตนนั้นอีก​

ย่นระยะทาง คน ขับสามล้อและชาวตลาด อ.จอมทองทุกคนรู้จักหลวงปู่ดีเพราะทุกเช้าหลวงปู่จะไปบิณฑบาตองค์เดียวโดย ไม่มีพระและศิษย์ฆราวาสติดตาม(ท่านไม่ให้ตาม) พอมีคนใส่บาตรจนท่านถือไม่ไหว ท่านจะรวมกองไว้ ให้พวกสามล้อที่นับถือท่านขนไปให้ที่วัด แต่เกือบทุกครั้งที่หลวงปู่เดินบิณฑบาตรกลับถึงวัดก่อนสามล้อเสมอ เป็นไปได้อย่างไรที่พระอายุ ๙๐ เดินเร็วกว่า สามล้อ ถ้าไม่ใช่ย่นระยะทาง พวกคนขับสามล้อกล่าว​

เป็นผู้ให้โชคลาภ ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายชอบมานั่งคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันต่างเห็นตรงกัน ว่า ครั้งใดที่มากราบหลวงปู่กลับไปมักจะโชคดีมีลาภ ยิ่งหากได้อธิษฐานขณะหลวงปู่ครอบหัวบรมครูปู่ฤๅษี๑๐๘ด้วยแล้วยิ่งสัมฤทธิ์ผล ไว อย่างอาฉี (คุณ นิเวศน์ หอมคำมา) เจ้าของสถานีวิทยุดอยแดน มาครอบหัวบรมครูปู่ฤๅษี และขอรับพระธาตุจากหลวงปู่ฯไปประดิษฐานณ.วัดดอยแดนจำนวน ๑๖ องค์ เมื่อวันที่๑๑พค.๕๒ พอกลับไปขยายรูปพิมพ์วันที่ไว้ชัดเจนติดโชว์ในบ้าน แขกไปใครมาเห็นเลขเอาไปซื้อกันทั่ว ปรากฏว่างวดนั้นออกเต็มๆ๑๑ และงวดถัดไปออก ๖๑ ชาวดอยแดนรวยๆๆกันทั่วหน้า และอีกเรื่องที่พบประจำคือ ใครที่เอาธนบัตรขวัญถุงของหลวงปู่ใส่กระเป๋าสตางค์ก็มักจะรู้สึกว่าเงินทอง ไหลเข้ามากกว่าเดิม ราวกับว่าธนบัตรขวัญถุงเป็นสื่อโภคทรัพย์ ​

​

ช่วยให้ลูกศิษย์ร่ำรวยชีวิตดีขึ้น คุณโชคชัย รัมวุฒิชัย ผู้จัดการขายประกันวินาศภัย บจม.กรุงเทพประกันภัย ลูกศิษย์ที่มากราบบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ในช่วงยุคแรกๆ เมื่อเดือนเม.ย.และได้ครอบหัวบรมครูปู่ฤๅษี ๑๐๘ ไป ปรากฏว่าชีวิตดีขึ้นอย่างทันตาเห็น ขายประกันได้คอมมิสชั่นเป็นแสนๆ ปัจจุบันไม่ต้องออกไปหาลูกค้าแล้วแต่กลับเป็นลูกค้ามาหาเอง บ้างก็มาจากการแนะนำขอลูกค้าเก่าที่ผ่านมาลงทุนเปิดฟิตเนสคลับในหมู่บ้านคนไม่ค่อยเห็นไม่ค่อยทราบแต่อยู่ๆห้างสรรพสินค้าแอมโปรเปิดใหม่ก็มาชวนให้ย้ายไปเปิดในห้างโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่ขอแบ่งเปอร์เซ็นต์นิดหน่อย อะไรจะเฮงขนาดนั้น ตอนนี้คุณโชคชัย เลยวางแผนจะถอยแคมรี่ใหม่เอาไว้อาสามารับหลวงปู่ฯไปงาน ส่วนวันนี้มาบูชาวัตถุมงคลหลายอย่างรวมทั้งจิ้งจกตัวเล็กพร้อมกับจองตัวครูและ นิมนต์หลวงปู่ไปเปิดฟิตเนสคลับบนห้างตอนสิ้นเดือน (ปกติเอาโจ๊กมาถวายหลวงปู่บ่อยๆแต่ผมลืมถ่ายรูปเขามายืนยันทุกที วันนี้นึกได้พอดี) ประสบการณ์ในวัตถุมงคลของหลวงปู่ ของจริงมีตัวตนทั้งนั้นครับ มิได้อ้างลอยๆ โทรถามได้เลยลูกศิษย์ทุกคนพร้อมจะบอกเล่าให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจครับ​

​

ในบรรดาอาถรรพณ์เวทย์นั้นถ้าเป็นมนต์ดำคุณไสยทำให้เจ็บให้ตายเราคงต้องยกให้ สายวิชาเขมรเป็นเอก แต่ถ้าเป็นทางเสน่ห์ลุ่มหลงแล้วสายเขมรคงสู้ล้านนามิได้ อาจจะเป็นด้วยว่าวัฒนธรรมความเป็นอยู่ขอ​

ที่มา เว็บไซด์ตำนานสักยันต์​

 

วัตถุมงคลรุ่นต่างๆ หลวงปู่ครูบาสิงโต ​

​

วัตถุมงคลและประสบการณ์เหนือธรรมชาติ

เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ฯจัดสร้างเมื่อปลายพ.ศ.๒๕๔๘ เตรียมต้อนรับอายุ ๘๗ปีของท่าน ขณะนั้นหลวงปู่อยู่ วัดดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สร้างจำนวน ๑๐,๐๐๐เหรียญเป็นเนื้อทองแดงกะหลั่ยสีเงิน ทอง นาค อย่างละเท่าๆกัน จากนั้นท่านได้ทำการแจกไปเรื่อยๆ โดยแจกทีละสีจนกระทั่งเหรียญค่อยๆหมดลง คงเหลือเหรียญสีเงินประมาณ ๓๐๐ เหรียญและสีนาคประมาณ ๑,๐๐๐เหรียญเศษที่บรรจุในหีบหน้าหิ้งพระที่ท่านทำวัตรสวดมนต์ปลุกเสกมาเป็น เวลา ๓ ปี หลวงปู่ได้ให้คณะศิษย์เปิดหีบและนำมาตอกโค๊ด ส ย่อมาจากสิงห์โต และเลข ๙ ย่อมาจาก ๙๐ ปีตามอายุปัจจุบันขณะเปิดหีบ แล้วนำออกให้บูชาที่วัดอโยธยาเหรียญละ ๒๔๙ บาท ปรากฏว่าเหรียญชุดเสก ๓ ไตรมาสนี้มีประสพการณ์มากมายกว่าเหรียญที่แจกไปทีแรกนัก อาจเป็นเพราะว่าการเสกที่ยาวนานหรือปล่าวไม่ทราบ มีทั้งรถเครื่องล้ม รถปิคอัพคว่ำ ถูกเหนี่ยวแต่ไม่ออก ถูกหวยเพราะเห็นเลขจากหลังเหรียญ (รอยเหรียญถูกันขณะอยู่ในถุงรวม) คนถูกผีสิงเอาเหรียญคล้องแล้วผีออก เด็กวัยรุ่นกำเหรียญกระโดดตึกสองชั้นหนีคู่อริที่พาพวกมารุมทำร้ายแต่ไม่ เป็นอะไร คนงานถูกใบพัดเครื่องจักรฟันมือไม่แตกไม่หัก ป่วยไปฉีดยาหมอแทงจนเข็มงอ ต้องถอดพระออกจึงแทงเข้า

คชสีห์และสิงห์รุ่นแรก จำนวนอย่างละ ๑๐๘ ตัวทำจากไม่มะค่าแต้(เอาเคล็ดคำว่า ค่าเป็นฆ่าเหมาะกับของมหาอำนาจ)แกะด้วยคอม เหมือนกันหมดทุกตัว ตอกโค๊ด ส คชสีห์ออกให้บูชา ๔๙๙ บาท สิงห์ ๒๙๙ บาท คชสีห์และสิงห์มีประสพการณ์ทางมหาอุฒม์และมหาอำนาจพกไปไหนนักเลงเกรงใจ หมาวิ่งหนี ใส่ไปทวงหนี้ลูกหนี้รีบหาเงินมาใช้คืน ผู้หญิงแขวนแล้วผู้ชายไม่กล้าแซว

ประคำโทน รุ่นแรก สร้างจำนวน ๕๐๐ ลูก ออกให้บูชา ๙๙ บาททำจากแก่นไม้มะขามซึ่งเป็นวัตถุธนสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัว เป็นของหายากมะขามพันต้นจะมีแก่นเพียงต้นเดียว ลงอักขระล้านนา พระเจ้า ๕ พระองค์ ไม่มีโค๊ด ประสบการณ์ทางคงกระพันโดดเด่นแถมยังครอบจักรวาลเหมือนเหรียญรุ่นแรก

ประคำโทน รุ่นสอง สร้างจำนวน ๑,๐๐๐ ลูก ออกให้บูชา ๑๙๙ บาททำจากแก่นไม้มะขามตายพรายลงพระเจ้า ๕ พระองค์เหมือนรุ่นแรกแต่ลูกใหญ่กว่าเกือบเท่ามีโค๊ด ส ด้วย ประสบการณ์ล่าสุดฉีดยาไม่เข้า

อิ่นรุ่นแรก สร้างจำนวน ๕๐๐ คู่ ทำจากโลหะกะหลั่ยเงิน เลี่ยมพลาสติก บูชาคู่ละ ๑๔๙บาท ใช้สำหรับผู้ที่ได้คู่แล้วต้องการให้รักกันนานๆตลอดไป

คาถาบูชาอิ่น
โอม อิ่นเหย อิ่นนางฮัก อิ่นนางแปง อิ่นแป๋งใจฮัก แป๋งเมียแป๋งผัว กูกอดคอแยง แป๋งตั๋วจู้ฮัก
อิ่.....ฮักกู เออกู สุระปิยา ภะจิตตา ปิยังมะมะอมสวาหุมติ๊ด

สีผึ้งมหาเมตตา สร้างเป็น ระยะๆตามความต้องการ ออกให้บูชา ๙๙ บาทไม่มีโค๊ด เก่งทางเมตตาค้าขาย เจรจาอ่อนหวาน คนรักคนชอบ ประสบการณ์มากมายเป็นที่นิยมของหมู่ลูกศิษย์ อย่างรายหนึ่งเป็นนักเรียนแพทย์มากราบหลวงปู่ได้บูชาสีผึ้งไปให้เพื่อนนัก เรียนหญิงที่ชอบรุ่นพี่ของตนอยู่แต่รุ่นพี่ไม่ค่อยพูดดีด้วย กระทั่งวันหนึ่งเธอสบโอกาสได้เอาปลายหลอดจิ้มสีผึ้งคนลงในน้ำให้รุ่นพี่ผู้ นั้นดูดเข้าไป ปรากฏว่าปัจจุบันสองคนนี้ได้กลายเป็นแฟนกันแอบเพื่อนๆไปดูหนังกันสองต่อสอง เป็นประจำ จนเพื่อนๆล้อเรื่องนี้กันว่าเป็นมนต์รักสีผึ้ง ส่วนศิษย์อีกคนสีปากลองเล่นๆบังเอิญวันนั้นกินเหล้าเมาไปจีบโดนกระเทย กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นกระเทยก็เกือบเอาตัวไม่รอดซะแล้วเพราะเธอพาเพื่อนมานั่ง ล้อมอยู่ทั้งคืน และศิษย์คนเดียวกันนี้การงานก็ดีขึ้นทันตาเห็นเจรจากับลูกค้ารายใดก็ประสบ ความสำเร็จงานเข้ามากมายจนระยะหลังไม่ค่อยมีเวลามากราบหลวงปู่ฯก็เพราะสี ผึ้งนี่หล่ะ

คาถาบูชาสีผึ้ง
( บทสั้น )ปิโยมามา (ทาปากบน) ปิยังมะมะ (ทาปากล่าง) (บทยาว)ชิวหายัง มุทุรัง วาจันติ ผุสิตวา จะสุนทะรัง
ปิยาเยวะ ปิยันตุนาใช้ได้ผลเหมือนกันแล เพราะดีอยู่ที่สีผึ้ง มิได้ดีที่ไอปากผู้ใช้

น้ำมันดอกรักซ้อน สร้างเป็นระยะๆตามความต้องการ ออกให้บูชา ๑๔๙ บาทในขวดมีน้ำมันหอมและดอกรักซ้อน ๑ ดอก ไม่มีโค๊ด ใช้จุนเจิมตัวเราเป็นมหาเสน่ห์อย่างแรง ประสบการณ์มากมายแต่ไม่สามารถเล่าให้ฟังได้ เพราะไม่อยากสนับสนุนให้ผู้ใดไปกระทำการทางผิดทำนองครองธรรม บอกได้เพียงห้ามนำไปป้ายผู้อื่นเดี๋ยวผู้ที่ถูกป้ายจะเบลอๆไปจนถึงวิกลจริต

คาถาบูชาน้ำมันดอกรักซ้อน
(ตั้งนะโม ๓ จบ) นะกวนจิต โมกวนใจ พุทหลงไหล ธาท้าวพระยาเสน่หารักใคร่ ยะผู้คนทั้งหลายคลั่งไคล้ตัวกู เอหิพุทธังรักจนตาย เอหิธัมมังอย่าคลาย เอหิสังฆังตามมา สัพพะเมตตา สัพพะกรุณา สัพพะเสน่หา ประสิทธิเม

ตะกรุดสายคาดเอวมงคลจักรวาล ๑๐๘ ดอก จัดสร้างจำนวน ๕๐๐ ชุดออกให้บูชาชุดละ ๒๙๙ บาท ไม่มีโค๊ด พุทธคุณครอบจักรวาล เป็นที่นิยมของชาวสิงคโปร์ มาเลย์ เข้าใจว่าน่าจะไปมีประสบการณ์ที่นั่น เพราะมาบูชากันมาก

พญาเต่าเรือนรุ่นแรก จัดสร้างจำนวน ๓๖ ตัว ออกให้บูชาตัวละ ๒๙๙ บาท ไม่มีโค๊ด พุทธคุณ เมตตามหาลาภ ดีทางค้าขาย

พัดโบกสิวลีเรียกลาภ จัดสร้าง ๒รุ่น จำนวนรวม ๑๐๐ เล่ม ออกให้บูชาเล่มละ ๙๙๙ บาท หลวงปู่ลงจารอักขระและเซ็นต์เองทุกเล่ม รุ่นแรกขอบพัดเป็นด้ายเย็บ รุ่นสองเป็นผ้าโทเรสีน้ำตาลไหม้จับขอบ ดีทางเรียกโชคลาภทำมาหากิน พัดสิ่งดีๆเข้ามา พัดสิ่งไม่ดีออกไป ประสบการณ์มาก พัดลมฝนไม่ให้ตกก็ยังได้ ศิษย์ผู้หนึ่งชื่อกัณเอนกอยู่หาดเล็ก จ.ตราดเล่าให้ฟังว่า เขานำมาพัดเรียกลูกค้าได้มากแต่ทำให้ฝนแถวนั้นไม่ตกไปด้วย พัดทั้ง๒รุ่นนี้ลูกศิษย์ของหลวงปู่ฯที่ทำมาค้าขายบูชากันไปมาก แต่ภายหลังหลวงปู่ประกาศเลิกสร้าง เนื่องจากว่าได้สร้างฤๅษีพัดโบกแทนเพราะแรงกว่า

ไม้ค้ำดวง จัดสร้างจำนวน ๒๐๐ เล่มออกให้บูชาเล่มละ ๔๙๙ บาทหลวงปู่ลงจารเอง มีโค๊ดตะกั่วติดอยู่เป็นโค๊ดแบบเดียวกับตะกรุดเทพรำจวนรุ่น ๒ ไม้ค้ำดวงนี้ต้องนำไปค้ำโต๊ะหมู่บูชา หิ้งพระ หรือเสาเอกของบ้าน เพื่อป้องกันดวงตก

เทียนสืบชะตา จัดสร้างเป็นระยะๆตามต้องการ บุชา ๑๙๙ บาท ๑ ชุดมี ๓ เล่ม ประกอบด้วย เทียนลดเคราะห์ เทียนหนุนดวง เทียนรับโชค เอาไว้จุดบูชาพระเพื่อให้เกิดผลตามชื่อเทียนทั้งสาม โดยก่อนจุดให้เขียนชื่อ สกุล วันเดือน ปีเกิดของผู้จุดลงไปที่ข้างเทียนก่อน แลัวจึงอธิษฐานจากนั้นจุดบูชาพระพร้อมกันทั้ง ๓ เล่ม

ตะกรุดเทพรำจวน รุ่นแรก สร้างจำนวน ๑๐๘ ดอก ถักด้วยเชือกไนล่อนสีแดง ไม่มีโค๊ด ออกให้บูชาราคา ๓๙๙ บาท ๒ วันหมด ประสบการณ์ทางมหาเสน่ห์เรียกจิตดลใจได้ บางคนนำไปใช้เรียกลูกหนี้สำเร็จ จึงโด่งดังมาก

ตะกรุดเทพรำจวน รุ่นสอง สร้าง จำนวน ๘๐๑ ดอกแล้วหมดไม้พอดี จึงไม่มีการสร้างอีก ออกให้บูชา ๔๙๙ บาทมีแผ่นตะกั่วเล็กตอกโค๊ดแบบหลังเหรียญคล้องอยู่ด้วยเชือกไนล่อนสีเขียว ตัวตะกรุดถักเชือกไนล่อนสีบานเย็น (ชมพูอมม่วง)

คาถาบูชาตะกรุดเทพรำจวน
(ตั้งนะโม ๓ จบ) ปิโยมามา ปิยังมะมะ เอหิจิตตัง จิต..(ชื่อ-นามสกุล หรือคนทั้งหลาย )..ทนอยู่มิได้จงมาหากู มานิมามา

ตะกรุดเทพรำจวน (ตะกรุดดูดมือ)
ทั้ง๒รุ่นมีรายละเอียดขั้นตอนการสร้างและประสบการณ์ดังนี้

ชาวล้านนานั้นสุขสบาย ผู้คนไม่ค่อยชอบทะเลาะเบาะแว้ง มีแต่เรื่องเป็นมิตรเมตตารักใคร่ๆต่อกัน เลยทำให้วิชาทางเสน่ห์เมตตามหานิยมเฟื่องฟูเข้มขลังและมีประสิทธิผลกว่าสาย วิชาใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชา เทพรำจวน ที่หลวงปู่ครูบาสิงโตนำมาจัดสร้างตะกรุดนั้นน่าจะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของ วิชาทางเสน่ห์เมตตาก็มิผิด เพราะขนาดเทพเทวายังต้องรำจวนหลงใหลเรียกท่านเมื่อใดท่านยังต้องมา แล้วถ้าเรียกมนุษย์ธรรมดามันจะไม่มารึ ตำราระบุว่าครั้งใดที่ใช้ตะกรุดเทพรำจวนนี้เป็นสื่อ กำไว้ในมือแล้วเขียนชื่อผู้ที่เราต้องการเรียก สอดไว้ในแกนกลางตะกรุด ภาวนาคาถาข้างต้นจนตะกรุดดูดมือตุ้บๆ ไม่เกิน ๘ คืนผู้ที่เราเรียกจะทนอยู่มิได้ต้องมาหาเรา

ตะกรุดเทพรำจวนมีขั้นตอนการจัดสร้างที่ยุ่งยากมาก ตามปั๊ปสา ( คัมภีร์โบราณ ) ระบุว่าต้องใช้รากไม้จวงหอม ( ทางใต้เรียกว่าไม้เทพทาโร ) เลือกรากที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกด้วย ( เป็นทิศที่พระพุทธเจ้านั่งหันหน้าไปเมื่อยามตรัสรู้ จึงถือเป็นเคล็ดแห่งความสำเร็จ) และต้องตัดในเวลาจันทร์เพ็ญ ( พระจันทร์เต็มดวง ) เท่านั้นโดยก่อนตัดต้องตั้งเครื่องบวงสรวงบัดพลี ด้วยผลไม้หอม ๙ ผล ขนมหอม ๙ อย่าง น้ำหวานหอม ๙ แก้ว ดอกไม้หอม ๙ ชนิดและที่สำคัญต้องใช้สาวพรหมจรรย์หอมๆ ๙ คนผลัดกันไปนั่งคร่อมถูรากไม้จวงหอมนี้ (ในขณะที่ผู้ทำพิธีสวดมนตราเทพรำจวน ) จนกระทั่งเทวดาใจอ่อนรากไม้หอมนั้นแตกน้ำ ( มีน้ำมันหอมระเหยซึมออกมาจากเนื้อไม้ ) จึงทำการตัดได้ เมื่อตัดเสร็จต้องรีบร่ายเวทย์ว่ามนต์ผูกตรึงอาถรรพณ์ของไม้ไว้ จากนั้นนำมากลึงเป็นแท่งกลมยาว ๒ นิ้วและเจาะรูตรงกลางบรรจุแผ่นยันต์ที่ลงคาถาเทพรำจวน(หลวงปู่สิงห์โตลง ทุกดอก)แล้วเอาไปถักเชือกสีชมพูบานเย็น ปลุกเสกประจุเวทย์กลึงปิดมนตราอาถรรพณ์กันผู้มีวิชามาคัดออก สำเร็จเป็นตะกรุดเทพรำจวนอันโด่งดัง

การจัดสร้างตะกรุดของหลวงปู่ครูบาสิงห์โต มีความศักดิ์สิทธิ์ ครบทุกประการ เนื่องจากท่านได้ทำการพลีไม้ลงอักขระคาถาและปลุกเสกครบถ้วนตามตำรับที่ได้ เรียนจากหนานทางเสน่ห์ชื่อดัง ประกอบกับหลวงปู่ฯเป็นผู้มีสมาธิจิตสูงเนื่องจากได้เรียนปฏิบัติกับครูบา เจ้าศรีวิชัย หลวงปู่แก้ว หลวงปู่แหวน และครูบาพรหมจักรซึ่งล้วนแต่เป็นอาจารย์ใหญ่ทั้งสิ้น จึงทำให้ตะกรุดเทพรำจวนนี้มีประสบการณ์มากมายตามที่บรรดาศิษยานุศิษย์ทั้ง หลายนำกลับมาเล่าสู่กันฟังมีทั้งพวกแฟนทิ้งอยากให้แฟนกลับมา พวกยังไม่มีแฟนก็อยากมีแฟน พวกพ่อแม่ที่ลูกหนีไปก็อยากตามลูกกลับมา พวกค้าขายก็อยากเรียกลูกค้ามาซื้อของร้านตัวเองมากๆ พวกขับรถแท็กซี่ก็อยากมีแต่คนโบกเรียก พวกเหล่านี้ประสบความสำเร็จกันมาก บางคนเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจก็มีคนมาสนใจ มาทักทายซื้อของมาฝาก บางคนเจ้านายไม่ชอบขี้หน้า ทำอะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด พอบูชาตะกรุดไปวันแรกเจ้านายยิ้มให้ วันสองเจ้านายชวนคุย วันสามถึงกับชวนไปเลี้ยงข้าว บางคนนำไปใช้ทวงหนี้กับลูกหนี้ที่ตามยากเย็นแสนจะผัดผ่อน กลับต้องนำหนี้มาใช้คืนถึงที่บ้านไม่ต้องไปทวง

สาลิกาลิ้นทอง สร้าง จำนวน ๕,๐๐๐คู่ จากผงมหาเสน่ห์หลายอย่าง เป็นนกคู่อยู่ในรูปหัวใจสีดำกับสีแดง เก่งทางมธุรสวาจา บูชาแล้วคนรักใคร่เอ็นดูอุปถัมภ์ค้ำชู ผู้ใดได้ฟังคำก็ลุ่มหลง ทำการใดๆก็สำเร็จโดยง่ายแถมยังเรียกโชคเรียกลาภได้ด้วย

คาถาบูชาสาลิกา
(ตั้งนะโม ๓ จบ) พุทธังอาราธณานัง ธัมมังอาราธณานัง สังฆัง อาราธณานัง อานุภาเวนะ ประสิทธิเม แล้วให้ปลุกด้วยพระคาถา สาลิกา กิงกะระนัง ชิวหายัง มุทุรังวาจันติ ผุสิตะวา จะสุนทะรัง ปิยาเยวะ ปิยันตุนา

จิ้งจกจ้าวเสน่ห์ สร้างจำนวน ๙๙๙ ตัว เป็นจิ้งจกพยนต์สองหางแกะจากไม้พยุงตายพราย ตอกโค๊ด ส แล้วทับด้วยตัว นะ ลงอักขระหัวใจจิ้งจกแบบล้านนา ซึ่งตรงกับวิชาหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่าที่หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง จ.อยุธยา ใช้ลงจิ้งจกมาจนโด่งดังต่างกันเพียงของหลวงพ่อหน่ายนั้นเป็นภาษาขอม เข้าใจว่า หลวงปู่ศุขคงได้วิชานี้มาจากทางเหนือในระหว่างการเดินธุดงค์ เพราะเท่าที่ค้นคัมภีร์โบราณแล้ว ทางล้านนา มีการจารึกมานานกว่าภาคกลางหลายร้อยปี เรียกจั๊กกิ้มสองหาง ตำราระบุว่าใช้ดีไปทางทำมาหากิน เจ้าชู้ โชคลาภ การพนัน มีคาถาเสกดังนี้ จั๊กกิ้มสองหาง แม่นางไม้เป้า กระเด้าแด๊กๆ คนที่ถือวิชานี้ขึ้นตอนเสกจิ้งจกจะมากันมากมาย พอเสกได้ที่พวกมันจะลงทับกับจิ้งจกพยนต์ที่สร้างขึ้น หากวิเคราะห์ให้ดีแล้วก็พอจะเห็นความสัมพันธ์ของคาถาและอิทธิคุณตามตำรับ วิชากับข้อเท็จจริง เพราะถ้าเราสังเกตุดูจะพบว่าจิ้งจกนั้น วันๆชีวิตของมันไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกจากคอยปรับสีตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อม รอให้เหยื่อเข้ามาใกล้ๆแล้วก็ฮุบกิน มันก็คล้ายๆกับคนเราว่าหากินง่ายๆสบายๆเหมือนคนค้าขายอยู่ๆก็มีลูกค้าเข้ามา ซื้อของอย่างไรอย่างนั้น หรือถ้าเป็นคนชอบเสี่ยงโชคก็ราวกับว่า อยู่ๆก็มีโชคลาภลอยเข้ามาหา พอกินอิ่มจิ้งจกทำอะไร? จิ้งจกตัวผู้ก็ฟาดหางปั๊บๆประเดี๋ยวเดียวตัวเมียก็มาให้ผสมพันธ์ถึงที่แถม ไม่ซ้ำตัวกันสักวัน และอีกอย่างจิ้งจกนั้นมีประสาทสัมผัสที่ประหลาดเวลาร้องทักมักมีเรื่องราว แปลกๆจนคนโบราณสังเกตูเห็นพฤติกรรมต่างๆของมันจึงมาผูกเป็นวิชาพยนต์จิ้งจก สืบทอดกันมาถึงยุคปัจจุบัน

คาถาบูชาจิ้งจกจ้าวเสน่ห์
จั๊กกิ้มสองหาง แม่นางไม้เป้า มาเด้า แด็ก แด็ก

บรมครูปู่ฤๅษีพัดโบกขนาดบูชา จัดสร้าง ๑๐๘ องค์ปลุกเสกในวันงานไหว้ครูและเทในพิธีพิเศษ ๑๙ องค์(มีสิงห์หล่อที่ฐาน) ทั้งหมดนี้ใต้ฐานบรรจุเหรียญรุ่นแรกตอกโค๊ด ส และเลข ๙ ที่ไหล่หลวงปู่ฯ ปู่ฤาษีองค์นี้ตามตำนานกล่าวว่าท่านเกิดขึ้นในปลายสมัยพุทธกาล เป็นผู้รักษาพัดของพระสิวลีมหาเถร พระอรหันต์องค์หนึ่งที่นิพพานตามพระพุทธองค์ และเป็นผู้รจนาหัวใจคาถาพระสิวลีรวมถึงวิชาพัดโบก ที่หลวงปู่ครูบาสิงห์โตใช้วิชาของท่านลงพัดใบตาล(พัดครูบา) ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังในความศักดิ์สิทธิ์มาตลอด กระทั่งถึงคราวไหว้ครูในปีพ.ศ.๒๕๕๒ วันที่๕ กค. บรรดาศิษยานุศิษย์ที่เคารพในหลวงปู่สิงห์โตเรียกร้องให้มีการสร้างวัตถุมงคล เป็นที่ระฤกวันไหว้ครู หลวงปู่สิงห์โตจึงเห็นสมควรให้สร้างรูปหล่อโลหะบรมครูปู่ฤๅษีพัดโบกขนาดบูชา สูง ๑๔ นิ้วขึ้นและได้ปลุกเสกพร้อมทั้งเททองพระฤๅษีทันใจขนาดเท่าคนจริงในวันดัง กล่าวโดยบังเกิดความอัศจรรย์หลายประการ อาทิ ขณะกล่าวอัญเชิญครูเกิดกระแสลมกรรโชคแรงจนแจกันสแตนเลสล้ม แต่เทียนไม่ดับ อิฐบนเตาสุมหุ่นฤๅษีทันใจระเบิดดัง มีกลิ่นหอมตลอดพิธี ท้องฟ้าครึ้มแต่ฝนไม่ตก ร่มเย็นตลอดพิธี พอเสกเสร็จหลวงปู่ประกาศเลิกสร้างพัดโบกใบตาลเพราะท่านบอกว่าไม่สามารถทำ ได้แรงเท่าบรมครูปู่ฤๅษีพัดโบกได้เนื่องจากญาณปู่ฤๅษีท่านมาลงเองด้วย แรงกว่าหลวงปู่ฯลงพัดองค์เดียวมาก ต่อไปท่านจึงจะสร้างเป็นรูปฤๅษีพัดโบกเท่านั้น

คาถาบูชาบรมครูปู่ฤๅษีพัดโบก
(ตั้งนะโม ๓ จบ) โอมฤๅษี มุนีนุโกตะมังโมหัง หันตะวาโพเธสิปัง กัชฌะชะนังสะธัมมะรังสีหิ โสสัมปาเลตุมังชิโน สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิวาจัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโชชะโยนิญจัง สิทธิลาโภนิรัญตะรัง สัพพะกัมมังประสิทธิเม สัพพะสิทธิ ภะวันตุเม...

ธนบัตรกวักทรัพย์ สร้าง จำนวน ๓๐,๐๐๐ ใบเอาไว้แจกเป็นที่ระฤกในวันไหว้ครูและให้บูชาต่อไป ธนบัตรนี้เป็นสื่อโภคทรัพย์ หลวงปู่บอกว่าเอาไว้ดูดทรัพย์ กำลังเป็นที่นิยมของศิษย์ทุกสาขาอาชีพ อนาคตน่าจะโด่งดังเหมือนของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว

ขุนแผนหลังจีวรเขียนยันต์ลายมือ สร้างเป็นรุ่นพิเศษ จำนวน ๒๐๐ องค์ เพื่อตอบแทนเป็นที่ระฤกของผู้ร่วมสละทรัพย์ร่วมเททองปู่ฤๅษีทันใจ ขุนแผนนี้หลวงปู่ลงอักขระล้านนา สุ นะ โม โล สิงห์โต บนจีวรของท่านที่ปิดหลังพระ ด้วยมือท่านเองทุกองค์

ผ้ายันต์รอยมือ สร้างจำนวน ๓๒ ผืนโดยพระอ.จ่อยเป็นผู้ตัดผ้ามาให้หลวงปู่ฯปั๊มและถวายให้หลวงปู่แจกเป็นที่ ระฤกกับผู้ที่สละทรัพย์ร่วมเททองปู่ฤๅษีทันใจ

ทรายจินดามณี สร้างเป็นระยะๆ แล้วแต่ว่าชาวกะเหรี่ยงบนดอยจะหามาถวายได้ ใช้โรยในกระถางธูปเป็นสื่อโภคทรัพย์ ต้องตามตำราจินดามณี

กุมารทองพรายจินดา สร้าง ๙๙๙ ตน เนื่องจากศิษยานุศิษย์ที่เดินทางมากราบหลวงปู่ฯ เห็นกุมารทองใหญ่ตนหนึ่งถูกเลี้ยงไว้ที่หอสวดมนต์ บริเวณที่ท่านนั่งรับแขกอยู่ ทำให้หลายๆคนรู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ฯจึงเลี้ยงกุมารทอง เรื่องราวเป็นมาอย่างไร? ความจริงแต่เดิมนั้นก่อนที่หลวงปู่ฯจะมาอยู่วัดอโยธยา ท่านเจ้าอาวาสได้ไปเก็บกุมารทองตนนี้มาจากวัดใหญ่ชัยมงคลเข้าใจว่าเดิมเขาคงซนมากไปหน่อย เจ้าของเก่าเลยนำมาปล่อยทิ้งไว้ เมื่อเก็บมาแล้วก็ได้ตั้งไว้หน้าพระบนหอสวดมนต์ พอหลวงปู่เข้ามาอยู่จำวัดที่นี่ ลูกศิษย์จึงได้ย้ายกุมารขึ้นไปไว้บนหลังตู้ข้างๆ ปรากฏว่าคืนแรก กุมารได้มาร้องไห้จนพระอุปฐากที่นอนอยู่ข้างหน้าต้องสะดุ้งตื่นมาค้นหาที่มาของเสียง แต่ไม่พบใคร ท่านจึงนอนหลับต่อ สักพักท่านก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเสียงร้อง ท่านถูกดึงขาต้องขึ้นมาลุกสวดมนต์ด้วยความกลัว หลังจากนั้นรุ่งเช้าหลวงปู่ฯ ทราบจึงได้ทำพิธีผูกและเลี้ยงเขามาถึงปัจจุบัน โดยตั้งชื่อให้ว่า พรายจินดา พร้อมกับลองเรียกไปช่วยบิณฑบาตรให้ญาติโยมใส่บาตรให้มากหน่อย ปรากฏว่าวันถัดไปพระอุปฐากรูปนี้ไม่ชวนเจ้าพรายจินดากุมารทองตัวเก่งไปอีกเลย เพราะคนใส่บาตรมากจริงๆจนท่านถือไม่ไหว กว่าจะกลับถึงวัดเมื่อยแขนมาก ตรงนี้ทำเชื่อมั่นได้ว่าพรายจินดานั้นเก่งทางเรียกลาภ ความศักดิ์สิทธิ์และเก่งกล้าของกุมารทองพรายจินดานั้นหาใช่มีเพียงแค่นี้ อย่างในคราวปลุกเสกพระฤๅษีพระลูกศิษย์ของหลวงปู่รูปหนึ่งที่นั่งร่วมปลุกเสกอยู่ด้วยก็เห็นพรายจินดาพาเพื่อนๆมาวิ่งเล่นรอบมณฑล พิธีหลังจากที่ญาณปู่ฤๅษีพัดโบกท่านกลับขึ้นไปแล้ว แสดงว่าพรายจินดานั้นไม่ใช่เป็นกุมารทองระดับธรรมดาแต่เป็นกุมารทองหัวโจก..แรงจริงๆ

พอลูกศิษย์หลายคนทราบประวัติของพรายจินดาจึงอยากขอไปบูชาที่บ้าน แต่หลวงปู่ไม่สามารถให้คนหนึ่งคนใดได้ ท่านจึงต้องผูกพยนต์ถ่ายทอดจิตวิญญาณสร้างกุมารทองพรายจินดาขึ้น ๙๙๙ ตน โดยพระอ.ครรชิต วัดโขดทิม อ.เมือง จ.ระยอง ศิษย์หมอหลาบ สัปเหร่อผู้ไปนำกะโหลกพรายมาตำให้หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ได้นำผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมที่ได้ตกทอดกันมา ถวายให้หลวงปู่ครูบาสิงห์โต พร้อมกันกับหลวงพ่อสัญญาและหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้วได้ถวายผงยาจินดามณีที่หลวงปู่เจือบดเองอย่างเต็มพิธี มาร่วมผสมบรรจุ ทำให้พรายจินดา กลายเป็นกุมารทองที่เข้มขลังสุดๆในยุคปัจจุบันและน่าจะเก่งมากในด้านเรียกโชคลาภ ค้าขาย

เพราะผงทั้งสองรวมทั้งประวัติของเจ้าพรายจินดาก็เก่งทางนี้อยู่แล้ว อีกอย่างมนต์จินดามณีนั้นเป็นมนต์ที่นางยักษ์พันธุรัตน์มอบให้พระสังข์ทอง(ขณะที่ยังเป็นเด็กน้อย) ใช้เรียกเนื้อเรียกปลา ก็เหมาะจะนำมาใช้เรียกโชคลาภให้แก่ผู้ที่เลี้ยงกุมารทองนี้

คาถาปลุกกุมารทอง
จิเจรุนิ จิตตัง เจตะสิกกัง รูปัง นิมิตตัง กุมาโรวา เจ้าพรายจินดา อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ
เอหิ เอหิ นะมะพะทะ กะจะพะสะ โสสะอะนิ ใช้เป็นคาถาต้นปลุกก่อนว่าคาถาอื่นๆ

คาถาเรียกกุมารไปด้วย
เอหิตาตะปิยะปุตตะ ปุเรถะมะมะปาระมิง หัทยังเมภิสิญเจ ถะกะโรถะวะจะนังมะมะ ให้ว่าก่อนเรียกพรายจินดาไปไหนกับเรา
บอกให้คุ้มครองระวังเราให้ด้วย หรือ จะพาไปช่วยทำอะไรก็บอกไป.................

คาถาเรียกกินข้าว
โสสะอะนิ สะอะนิโส มะมะปริภุญชันตุ มะมะมามา อะนิโสสะ พรายจินดามากินข้าวกับพ่อ/แม่..........
กินให้อิ่มแล้วช่วยพ่อ/แม่......ทำ.........
ใช้เวลาเรากินข้าวควรเรียกเขากินข้าวด้วย ถ้าลืมเรียกไม่เป็นไร
การเรียกบ่อยๆเป็นการกระตุ้นให้จิตเจตสิกของเขาตื่นตัวอยู่เสมอ

คาถาใช้ในทางเรียกทรัพย์สินโชคลาภหรือทำการใดๆให้สำเร็จ
จินดามณี สหัสสะโกฏิเทวานัง มะนุสสะเทวานัง สมณะจิตตัง มหาสมัยจิตตัง สรรพจิตตัง
เอหิ อาคัจฉาหิ ปะริเทวันติ ปิยังมะมะมามา เจ้าพรายจินดาจงไปเรียก...โชค/หาลาภ/หาลูกค้าหรือทำการ
.... ใดๆก็กล่าวไป.......ให้สำเร็จ มาให้ พ่อ/แม่.........ไว ไว
ใช้ภาวนาเวลาให้พรายจินดาไปเรียกโชคลาภ หรือเรียกลูกค้าให้มาซื้อของ...

ข้อมูลจาก เว็บไซด์ตำนานสักยันต์

 

ปัจจุบันหลวงปู่ครูบาสิงห์โตประกาศสัจจะอธิษฐานเลิกสร้างและเสกวัตถุมงคลรวมทั้งประกอบพิธีกรรมใดๆ
​

​

​

 

พระครูปทุมวรกิจ (หลวงพ่อชำนาญ อุตตมปัญโญ) วัดบางกุฎีทอง ปทุมธานี ​

​

​

​

​

​

ที่มา: นิตยสารพุทธามหาเวท ฉบับที่ 36
ขอขอบคุณและขออนุญาต คุณMANCITY จากเว็บนี้ครับ http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=luangporchamnan&id=398​

 

เหรียญพ่อแก่บูชาครู หลวงพ่อชำนาญ ​

​

เหรียญพ่อแก่บูชาครู หลวงพ่อชำนาญ

พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองปทุมธานี "หลวงพ่อชำนาญ" วัดบางกุฎีทอง ได้สร้าง "เหรียญที่ระลึกบูชาครู-พ่อแก่" ในวาระที่ท่านมอบเครื่องปี่พาทย์มอญ ให้นักเรียน เหรียญนี้ด้านหน้าเป็นรูปเศียรพ่อแก่ ที่เป็นครูของศิลปกรรมทั้งปวง มีข้อความว่า "ไหว้ครู ศิลปจารย์ ดนตรี นาฏยศิลป์ ดุริยางคศาสตร์" ด้านหลังมีรูปหลวงพ่อชำนาญนั่งอยู่หน้าดอกบัวที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปทุม และมีรูป "ตะโพน" เป็นปฐมดนตรีที่มีความศักดิ์สิทธิ์

เป็นองค์แทนของพระประโคนธรรพ บรมครูทางดุริยางค์ศิลปะ มียันต์มอญที่หลวงพ่อชำนาญบอกว่า "ทำให้เจริญ ถ้าไม่ทิ้งครู" เหรียญนี้ "หลวงพ่อชำนาญ" ให้สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกของการให้กำเนิดวงปี่พาทย์มอญชื่อ "กังวาน วรกิจ" และเป็นเครื่องระลึกถึงครูของทุกคน ส่วนเงินได้จากการให้บูชาเหรียญจะนำมาซื้อเครื่องดนตรี ปี่พาทย์มอญดังกล่าว

​

"เหรียญพ่อแก่บูชาครู" หลวงพ่อชำนาญปลุกเสกเข้ม เพื่อให้ผู้ที่ได้ไปมีครูคุ้มครองตัวให้มีความเจริญ รุ่งเรือง ก้าวหน้า แก้อาถรรพ์ อัปมงคล ทุกอย่าง ตามแต่จะปรารถนา
ในอดีตประมาณปี 2544 หลวงพ่อชำนาญเคยให้เศียรพ่อแก่กับหัวหน้าคณะลิเกไป เขากลับมาบอกว่าเจอปาฏิหาริย์เยอะเลย ขนาดเปิดวิกกลางทุ่ง ไม่มีบ้านคนเลยโหมโรงแล้วมีคนดู 8 คน พอจุดธูปบอกพ่อแก่เท่านั้น มีคนดูเกือบ 200 คน เก็บเงินได้หลายหมื่นบาท มีวันหนึ่งไปเล่นประชันกับคณะลิเกใหญ่ชื่อดัง พอเริ่มโหมโรงคนไปดูคณะใหญ่หมด ทั้งเวที ทั้งระบบเสียงก็ดีกว่า เล่นไปแค่ 5 นาที คณะใหญ่ไฟดับ คนแห่มาดูคณะนี้หมด คณะใหญ่แก้ยังไงก็ไม่หายจนลิเกคณะนี้เลิกไฟฟ้าจึงมา เวลานั้นคนก็กลับบ้านหมดแล้ว แสดงว่าพ่อแก่ ของหลวงพ่อชำนาญช่วยได้จริงๆ
ลูกศิษย์หลวงพ่อชำนาญใช้เศียรครูฤๅษีของท่าน ตั้งแต่ตอนเรียน สมองไม่เอาไหน แต่ผลสอบออกมาดีทุกครั้ง จนเรียนจบ ได้งานดีกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ซึ่งต่างเชื่อว่าเศียรครูฤๅษีของหลวงพ่อชำนาญช่วย เมื่อปี 2542 มีนักเลงหนุ่มมาครอบครูกับหลวงพ่อชำนาญ ตั่งแต่วันนั้นที่เป็นนักเลงคุมมอเตอร์ไซค์วิน ปี 2549 ได้เป็นเจ้าของโรงกลึงเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าโลตัส จ.ปทุมธานี ในสายรับราชการทหารก็มีเช่นมียศเป็นพันเอกอยู่ 8 ปี พอหลวงพ่อชำนาญครอบครูเท่านั้น ขึ้นพลตรีเลย ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วได้ครองยศพลโท ทั้งหมดทั้งมวล
จึงมีความเชื่อว่าอานุภาพครูฤๅษี หรือพ่อแก่ของหลวงพ่อชำนาญ ทำให้คนได้ดิบได้ดีเจริญขึ้น เหรียญพ่อแก่ ไหว้ครูศิลปกรรมดนตรีนาฏศิลปะดุริยางคศาสตร์ ครั้งที่ 1 สร้างเนื้อทองแดง จำนวน 9,999 เหรียญ, เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง สร้างจำนวน 4,999 เหรียญ, เนื้อเงิน สร้างจำนวน 207 เหรียญ, เนื้อทองคำ สร้างจำนวน 9 เหรียญ

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด

 

รายการที่19 เหรียญพ่อแก่ หลวงพ่อชำนาญ เนื้อทองแดง​

หลวงพ่อให้สร้างเหรียญที่ระลึกบูชาครูพ่อแก่ในวาระที่ หลวงพ่อมอบเครื่องปี่พาทย์มอญให้นักเรียนด้านหน้าเป็นรูปเศียรพ่อแก่ที่เป็นครูของศิลปกรรมทั้งปวง ด้านหลังมีองค์หลวงพ่อนั่งอยู่หน้าดอกบัวที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปทุมและมีรูปตะโพนเป็นปฐมดนตรีที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นองค์แทนของพระประโคนธรรพ บรมครูทางดุริยางค์ศิลปะมียันต์มอญที่หลวงพ่อบอกว่าทำให้เจริญถ้าไม่ทิ้งครู

เหรียญนี้หลวงพ่อให้ทำเป็นที่ระลึกของการให้กำเนิด วงปี่พาทย์มอญ ชื่อ กังวานวรกิจและเป็นเครื่องระลึกถึงครูของทุกคนส่วนเงินได้จากการให้บูชาเหรียญ จะนำมาซื้อเครื่องดนตรีปี่พาทย์มอญดังกล่าว

เหรียญพ่อแก่นี้หลวงพ่อปลุกเสกให้อย่างดีให้ผู้ที่ได้ไปมีครูคุ้มครองตัวให้มีความเจริญ รุ่งเรือง ก้าวหน้า แก้อาถรรพ์ อัปมงคลทุกอย่างตามแต่จะปรารภนา ในอดีตประมาณปี 2544 หลวงพ่อเคยให้เศียรพ่อแก่กับหัวหน้าคณะลิเกไป เขากลับมาบอกหลวงพ่อว่าเจอปฏิหาริย์เยอะเลยขนาดเปิดวิกกลางทุ่ง ไม่มีบ้านคนเลยโหมโรงแล้วมีคนดู 8 คน พอจุดธูปบอกพ่อแก่เท่านั้น มีคนดูเกือบ 200 คน เก็บเงินได้หลายหมื่นบาท มีวันหนึ่งไปเล่นประชันกับคณะลิเกใหญ่ชื่อดัง พอเริ่มโหมโรงคนไปดูคณะใหญ่หมดทั้งเวทีทั้งระบบเสียงก็ดีกว่า เล่นไปแค่ 5 นาทีคณะใหญ่ไฟดับไม่รู้เป็นไงคนแห่มาดูคณะนี้หมด คณะใหญ่แก้ยังไงก็ไม่หายจนลิเกคณะนี้เลิกไฟเขาจึงมาเวลานั้นคนก็กลับบ้านหมดแล้วแสดงว่าพ่อแก่ ของหลวงพ่อช่วยได้จริงๆ ลูกศิษย์หลวงพ่อใช้เศียรครูฤษีของหลวงพ่อตั้งแต่ตอนเรียนเรียนไม่เอาไหนแต่ผลสอบออกมาดีทุกครั้งจนเรียนจบได้งานดีกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ได้เงินเดือน 15,000.- คนนี้ได้ 22,000 แปลกหรือไม่ละ ! เศียรครู ฤษีของหลวงพ่อยังช่วยคนจบแค่ปวส แต่มีเงินเดือนเท่าคนจบวิศวะ มาแล้ว เมื่อ ปี 2542 มีนักเลงหนุ่มมาครอบครูกับหลวงพ่อ ตั่งแต่วันนั้นที่เป็น นักเลงคุมมอเตอร์ไซร์วินปี 2549 ได้เป็นเจ้าของโรงกลึงเล็กๆ ในสายรับราชการทหารก็มีเช่น เป็นพันเอกอยู่ 8 ปี พอหลวงพ่อครอบครูเท่านั้นขึ้น พลตรี เลยปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วได้ครองยศ พลโท นี่แหละเป็น อานุภาพครูฤษี หรือพ่อแก่ของหลวงพ่อที่ทำให้คนได้ดิบได้ดี เจริญ ขึ้น

แปลกแต่จริง พระของหลวงพ่อชำนาญหากบูชามาแล้วไม่แน่ว่าเป็นของจริงหรือไม่ ท่านไม่ต้องไปซื้อหนังสือพระ หรือถามเซียนที่ไหน เพียงแค่นำพระที่ไม่มั่นใจไปให้หลวงพ่อชำนาญท่านจารให้เท่านั้น หากหลวงพ่อท่านจารให้รับรองแท้ล้านเปอร์เซ็นต์ หากองค์ไหนหลวงพอ่ท่านไม่จารก็บอกได้เลยว่าปลอม ซึ่งในแต่ละวันจะมีลูกศิษจำนวนมากนำพระรุ่นเก่า หรือใหม่มาให้ท่านจารทุกวัน

หลวงพ่อชำนาญรู้ได้อย่างไรองค์ไหนแท้ องค์ไหนปลอม ตำหนิแต่ละรุ่นบางองค์ก็มี บางองค์ก็ไม่มี นั่นก็เพราะท่านเป็นพระที่เก่งจริง ไม่ได้แรงเพราะการปั่นราคา และท่านเมตตามาก และช่วยเหลือลูกศิษทุกคน ซึ่งพระแต่ละองค์ที่ท่านปลุกเสกเพียงแค่ท่านจับก็รู้แล้วว่าแท้หรือไม่ หรือในบางครั้งห่อกระดาษไปท่านก็บอกได้เลยว่าพระอะไร นี่แหละพระจริง เก่งจริง

พระชุดนี้ได้ให้หลวงพ่อชำนาญท่านจารให้อีกครั้ง เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าพระองค์นี้แท้แน่นอน และรอยจารก็ยังเป็นศิริมงคลยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

บูชาองค์ละ 300 บาท พร้อมส่งEMS​

 

รายการที่20 เหรียญพ่อแก่ หลวงพ่อชำนาญ เนื้อทองแดง​

องค์ที่ 2 พระชุดนี้ได้ให้หลวงพ่อชำนาญท่านจารให้อีกครั้ง เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าพระองค์นี้แท้แน่นอน และรอยจารก็ยังเป็นศิริมงคลยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

บูชาองค์ละ 300 บาท พร้อมส่งEMS

 

กระทู้นี้มีความหลากหลายและมีของดีเยอะๆเลยครับ เข้ามาครั้งใดก็ตื่นตาตื่นใจ

 

รายการที่21 เหรียญพ่อแก่ หลวงพ่อชำนาญ เนื้อกะไหล่ทอง​

พระชุดนี้ได้ให้หลวงพ่อชำนาญท่านจารให้อีกครั้ง เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าพระองค์นี้แท้แน่นอน และรอยจารก็ยังเป็นศิริมงคลยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
เนื้อกะไหล่ทองสวยมากครับ

บูชาองค์ละ 500 บาท พร้อมส่งEMS<!-- google_ad_section_end -->

 

แค่แวะมาทักทายก็ดีใจแล้วครับ

 

ปิดเหรียญหมื่นคาถาแสนยันต์ เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ให้คุณ ครองธรรม ในการร่วมทำบุญร่วมสร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี กับวัดศรีมงคลหินกลิ้ง อนุโมทนาด้วยครับ

 

แวะมาเยี่ยมครับ

 

ได้รับปู่เสือ แล้ว ครับ
ขอบคุณมาก มาพร้อม ลาภก้อนโตเลย