เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

จากข้อความนี้


<TABLE id=post2166485 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->atidtarn<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2166485", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Mar 2005
สถานที่: Bangkok, Thailand
อายุ: 33
ข้อความ: 244
Groans: 2
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 425
ได้รับอนุโมทนา 1,524 ครั้ง ใน 193 โพส
พลังการให้คะแนน: 133










</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2166485 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ดาวทะเลทราย
ผมจะให้ยาคุณอีกชุดหนึ่ง
ใช้เถาเพชรสังฆาตสด ตัดจากต้น ยาว ๑ ข้อนิ้วมือหั่นเป็นแว่นบางๆ
แล้วเอามะขามเปียก มาแกะเม็ดออก เอาเพชรสังฆาตที่หั่นไว้ ใส่ลงไปแทนเม็ดมะขาม หุ้มให้มิด แล้วจิ้มเกลือ ใส่ปากกลืนเลย (ห้ามเคี้ยวเด็จขาด-เพราะยางจากเพชรสังฆาตจะทำให้ปากบวมเจ่อ แต่ไม่มีผลกับ กระเพาะ ลำใส้)

ทดสอบ
กิน ครั้ง ละ 3 เม็ด วันละ 2 เวลา
รู้ สึกว่า
ปวดท้อง กินไป สัก ระยะหนึ่ง สองสามวัน มีผล กับ ขา และเข่า

ยานี้ กิน แก้ อะไร ครับ ชักสงสัย ....... หุหุ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

เรียนคุณดาวฯ

ยานี้มันแก้ริสซี่หนะคะ ที่มันงอกที่ลำไส้ใหญ่ไงคะ ตกลงยานี้ไม่เวิร์คหรือคะ กำลังว่าจะไปหาซื้อเถาเพชรสังฆาตอยู่เลย เอาไงดีหว่า
หรือจะต้องใช้แต่กระดูกปลาฉลามจริงๆ จึงจะหาย
หลายตังค์นะคะ กระเป๋าแฟบเลย

ไม่เอาแล้วค่ะเรื่องปวดท้อง ทรมานมาก<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นิพพานในโลกมนุษย์นี้เขาเรียกว่า
ปฏิบัติ"จิต"ให้ว่างที่สุด นานเท่านาน
ผู้นั้นถึงนิพพานแห่งการเป็นมนุษย์ คือ สุญญัง
นี้แหละเขาเรียกว่าสูญจากอาสวกิเลส
สูญจากการเป็นทาสอารมณ์แห่งการเป็นมนุษย์
--สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)--


</TD></TR></TBODY></TABLE>


จากข้อความทั้งหมด

มะขามเปียก จิ้มเกลือ เป็นยาระบายท้อง อย่างดี ทำให้อุจาระเหลว ซึ่งเป็นคุณต่ออาการริดสีดวงทวาร

แล้วจะเห็นว่า เถาเพชรสังฆาต มียางที่เป็นอันตรายต่อเยื่อบุในปาก เวลากินต้องไม่ให้สัมผัสเยื่อบุในปาก
การเอามะขามเปียกมาห่อ จึงได้ผลสองต่อ(ยิงนกครั้งเดียวได้นกสองตัว คือ การระบายท้อง และกันยางไม่ให้ถูกเยื่อบุในปาก)

ในยางของเพชรสังฆาต มีผลึกรูปเข็มของสารอ็อกซาเลส บางชนิด
ผลึกนึ้เมื่อตำเข้าใปในเยื่ออ่อน จะทำให้บริเวรนั้นอักเสพ
การอักเสพนี้เหมือนกับ การตกผลึกของยูริก ในข้อกระดูก ซึ่งทำให้ป็นโรคเก้าส์

ในร่างกายคนปกติ จะมีขบวนการจัดสมดุลย์ กรดด่างในร่างกาย ให้เป็นกลาง
สภาพของยูริก จะไม่สามารถตกตะกอนเป็นผลึกรูปเข็มในไขข้อได้
ผลึกอ็อกซาเลส ในเถาเพชรสังฆาตก็เช่นกัน เมื่อเข้าไปในคนปกติ ก็จะไม่สามารถตกผลึก ให้เกิดการอักเสพได้

แต่ในคนที่ ไม่สามารถควบคุม สภาพกรดด่างในร่างกายให้เป็นกลางได้
หรื่อเริ่มควาบคุมไม่ได้
ผลึกเหล่านี้จะเริ่มก่อตัวในข้อกระดูก

การใช้จิตเข้าสำรวจสิ่งใดก็ตามเราจะทำอยู่สองแบบใหญ่
๑. Copy อาการความรู้สึก จากผู้ที่เข้าไปสัมผัสกับเหตุการนั้นๆ (Copy จากหนูตะเภา)
๒.กรณีที่ไม่มีหนูตะเภา ผู้ทดสอบจะนำตัวเองเข้าไปเป็นหนูแทน และสัมผัสอาการที่เกิดขึ้น

อาการที่ ดาวทะเลทรายสัมผ้ส
เข้าใจว่าใช้ตัวเองเป็นหนูทดลองยา(ไม่ได้เป็นริดสีดวงทวาร ซะด้วย)

"ทดสอบ
กิน ครั้ง ละ 3 เม็ด วันละ 2 เวลา
รู้ สึกว่า
ปวดท้อง กินไป สัก ระยะหนึ่ง สองสามวัน มีผล กับ ขา และเข่า"

อาการปวดท้องถ่าย เป็นเรื่องปกติ
แต่อาการที่ขากับเข่า ....
ฮี่ๆๆๆๆๆ.....มีแนวโน้มเป็น.....
เห็นชอบกินเป็ด กินห่าน หลาย

 

วันนี้ ได้ ความรู้ อีก หลายๆ จาก ท่าน อ.สุวิ

ที่ อ.สุวิ บอกมา ถูกต้องแล้วครับ
ทีแรก ผม ไม่รู้ ว่า เป็นยา อะไร จึง เอา ตัวเอง เป็นหนุทดลอง
สอดจิต เข้าไป ว่า กิน เอง
จึง ได้ อาการ ดัง ที่ อาจารย์ กล่าวมา..... อิอิ

ผม เอง มิได้ เป็นริดสิดวงทวาร
กรดยูริด เก้า ก้ไม่ได้เป็น แต่ เป็นไปได้ อาจมี ภาวะ ยูริค สู งเป็นบางขณะ

คืนนี้ พรุ่งนี้ คงต้อง ปรับธาตุ เสียหน่อย แล้ว

ขอคุณ อาจารย์ ที่ได้ แนะนำ ครับ

 

เรื่อขี้สงสัยเป็นเรื่องดี ถ้าตั้งคำถามเป็น
เราจะได้คำตอบที่แท้จริงทุกอย่าง

แต่ถ้าตั้งคำถามมั่วๆ คำตอบที่ได้ก็มั่วเช่นกัน
เช่น เรายืนอยู่ในสถานที่หนึ่ง ตั้งคำถามขึ้นว่า "ฝนจะตกหรือเปล่าเนี่ย"
แล้วตั้งจิตเข้าไปรับรู้ ว่าฝนจะตกหรือไม่

แน่นอนคำตอบย่อมมั่ว
มั่วอย่างไร
มันมั่วตั้งแต่คำถามแล้ว

๑.ฝนตกที่ใหน
๒.ฝนตกเมือไหร
๓.ฝนตกมากน้อยแค่ใหน (โปรยมาหน่อเดียวก็ถืว่าตกแล้ว แต่ละอองฝนยังไม่ถึงพื้นเลย)
๔. ฯ
๕. ล
๖. ฯ

สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูล เป็นเหตุ ในคำตอบทั้งสิน

ดาวทะเลทราย ลองพิจารณา คำตอบที่เคยตอบไว้ดู
นอกจากสงสัยแล้ว ยังมีอะไร ผิดปกติให้สังเกตุได้หรือไม่

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ดาวทะเลทราย
ตอบ อ.สุวิ ครับ

ยาสูตรแรก
ของสุวิทำไว้เป็นแบบแคปซูล แยกกัน
ใช้ผลาธิกะ (๕๐๐ mg) ๒-๓ เม็ด + กราวเครือ(แดง/ขาว) ๒-๓ เม็ด(เม็ดพริกไทย)
กินวันละครั้งก่อนนอน
ได้ผล ครับ ทำให้ ปึ๋งปั๋ง ....แน่ มีผลด้านบำรุงสายตา
แต่ เรื่องผม ดกดำ นี่ ไม่แน่ใจ

ยาสูตรสอง
ผลาธิกะ + ยาอายุวัฒนะพระนารายณ์ทรงจักร + กระชายทองนพคุณ แทน
ได้ ผล ปึ๋งปั้ง นำหน้า มาเลย
บำรุงรากผม ด้วย แต่ เรื่องสายตา เป็นรอง ลูตร แรก


อ้อ เรื่อง เป็น นะ ผม ชอบ เป็ด พะโล้ หรือ เป็นห่าน ก็ ยิ่งดี อร่อย ครับ...ผม


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Hello.ooooo...... Anybody out there.rrrr........?

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>xanadu, visnu </TD></TR></TBODY></TABLE>
Hey - visnu - young man, how's it going?
I was busy and away for awhile, back again and this page advanced to 105, WOW!!!! Enjoy all the stories, pictures and conversations. Thank you.
;38:z11;aa7

 

เรื่องฤทธิ์ กับเรื่องปัญญา
เมื่อก่อนก็รู้สึกว่าควรจะศึกษาพุทธศาสนาให้ได้ปัญญา ไม่ใช่แสวงหาฤทธิ์ พระพุทธเจ้าไม่ทรงยินดี

แต่ไม่ทราบเพราะอะไร ทำให้รู้ขึ้นได้ว่า วิญญานแต่ละดวงเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ
วิญญานที่เกิดมาบางดวงไม่มีโอกาศได้ศึกษา เล่าเรียนเขียนอ่าน ก็คงเพราะเหตุผลของกรรม
ทำให้คนบางคนเกิดมาไม่เคยได้เล่าเรียน เขียนอ่าน ทำให้ ท่องพระเวทย์ สวดมนต์ ไม่ได้
เพราะอ่านหนังสือไม่ออก แต่ทำได้คือการทำ ภาวนา

ตัวอย่างสาวกที่ท่านถูกเข้าใจว่าไม่สามารถเข้าสู่ทางนิพพานได้เพราะท่านท่องพระคาถาก็จำไม่ได้
จนพระพี่ชายคือท่านมหาบัณถกกล่าวว่าชาตินี้คงหมดทางที่พระน้องชายจะสำเร็จนิพพาน ท่านผู้ที่ถูกกล่าวปรามาศคือท่านจูฬบัณถก

พระพุทธเจ้าท่านทรงเห็นถึงวาสนาของจูฬบัณถก ว่าสามารถสำเร็จนิพพานได้
แต่กรรมของท่านที่เคยไปดูถูกคนด้อยปัญญาว่าโง่ ส่งผลให้ท่านไม่เข้าใจอยู่อย่างนั้น
ท่านเคยเกิดในชั้นพรหมและเคยเกิดเป็นพระมหากษัตริย์ ครั้งหนึ่งกษัตริย์องค์นี้เคยสลดสังเวชใจ
ที่เห็นผ้าขาวๆพอซับพระพักตร์ ก็กลายเป็นผ้าดำๆ ตอนนั้นยังไม่มีพระพุทธเจ้า
จึงยังไม่มีใครมาแก้ปริศนาธรรม ให้พระมหากษัตริย์องค์นั้นได้บรรลุธรรมได้ นี่เป็นเรื่องในอดีตชาติของพระจูฬบัณถก

พระพุทธเจ้าจึงใช้อุบายธรรมเดิมตามวาสนาเดิมของพระจูฬบัณถกคือ ให้ผ้าขาวไปพิจารณาผืนหนึ่ง
พอท่านจูฬบัณถก เช็ดเหงื่อไคล ผ้านั้นก็สกปรก ท่านจูฬบัณถกจึงเกิดสังเวชใจ
ว่าร่างกายนี้ช่างสกปรกจริงหนอ จึงทำให้ท่านบรรลุธรรมขั้นสูงสุด เป็นพระอรหันต์ได้
เมื่อบรรลุแล้วท่านเป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์มาก สามารถทำให้เห็นองค์ท่านมีเป็นพันๆองค์ได้เป็นต้น

ดังนั้น การที่บางคนปฎิบัติธรรมแล้วเกิดเป็นฤทธิ์ คงเป็นไปตามวาสนาเดิมมากกว่า
ได้ยินพระท่านสอนว่า อยากได้มักไม่ได้ ไม่อยากได้จึงจะได้ พระท่านสอนชอบแล้ว

http://palungjit.org/threads/พระจูฬปันถก-เอตทัคคะในทาง-ผู้มีมโนยิทธิ-มีฤทธิ์ทางใจ.191850/

 

คุณดาวทะเลทราย หาเรืองมาเล่าต่อสิคะ กำลังรอฟังอยู่ค่ะ

 

ก็ เห็น กำลังคุยกัน เพลินๆ
เลย ยังไม่ ได้ เขียน เรื่องใหม่

รับทราบ ครับผม ขอ เตรียม ภาพประกอบ นิดหนึ่ง ครับ

 

เมื่อเดือนที่แล้ว ผมได้ไปเที่ยว แม่กลองมา 3 ครั้ง ติดๆกัน

มันไป ทำไม่ ของมัน .............. คง ต้องมีคน สงสัย แน่

มันก็น่าสงสัย อยู่หรอก มีอะไร ไปทุกอาทิตย์ ติดๆ กัน
จน แม่อีหนู ที่บ้าน ยัง เอ่ย ปาก ออกมา
ไปทำไม กัน บ่อยๆ สงสัย แอบไป เลี้ยงอีหนุ ไว้ แถวแม่กลองหรือเปล่า...

อ้าว....... จะโดน ข้อหา ใหญ่ เสีย อีกเรา......

ผมไป ไหว้ พระ ไปเที่ยววัด ... ครับ จะมีใคร เชื่อผม ไหม นี่

 

คนทั่วไป ไปเที่ยวแม่กลอง ก็ แวะกินอาหาร ที่ดอนหอยหลอด
เข้าแม่กลอง เที่ยว ตลาดน้ำ ชมอุทยาน ร.2 ขับรถข้ามฝากไป ชมโบสถปรกโพธิ์ วัดบางกุ้ง อะไรทำนองนี้
วันเดียว ก็คงทั่วแล้ว ละมั้ง


ผมไปเที่ยว วัด จริงๆ ครับ
ที่ต้อง ไป ติดต่อกัน ถึง สามครั้ง ก็เพราะ ที่แม่กลอง มี พระดีๆ วัด ดีๆ
อยู่ มากที่เดียว

เราไป ไปไม่ได้ แค่ เดิน ชม วัด เฉย เข้าไปเจาะ เข้าไปขุด
ข้อมมูลนะครับ
ไม่ได้ไป ขุด เจดีย์ โขมยวัตถุโบราณ อย่าเข้าใจผิด







วัดแรกเลย ที่ต้องไป
วัดพวงมาลับ หลวงพ่อแก้ว
ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ ในยุค รัชกาลที่ 5
มีชื่อเสียง เป็นที่นับถือ ของชาวบ้าน แม้น ในหลวงรัชกาลที่ 5 ก็ ยังทรงมาที่วัดพวงมาลัยนี้
เชื้อพระวงศ์ อีกหลาย ท่านก็เคยมา ที่วัดนี้ เช่น กรมพระยาดำรงค์ราชานุภาพ

สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เคยเสด็จมา เมื่อ 25 พ.ย. 2458 มีบันทึกไว้ ว่าได้ ประทานย่าม ตรามหาสมณุตมาภิเศก แก่เจ้าอธิการแก้ว (หลวงพ่อแก้ว)

ยังมี เจ้านาย ขั้นสูง อีกพระองค์ หนึ่ง
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ( เจ้าวังบูรพา )
ที่ทรง คุ้นเคย จนสร้างตำหนัง "ภาโณทยาน" ไว้ ที่ข้างวัดพวงมาลัย


ถ้าพูด เป็นภาษาชาวบ้าน ท่านมา เรียนวิชา กับ หลวงพ่อแก้ว เป็นประจำ ละครับ

 

หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย แม่กลอง



วิหาร ประดิษฐาน รูปปั้น หลวงพ่อแก้ว หลวงพ่อแขก หลวงพ่อพุฒ
เจ้าอาวาสองค์ แรกและอดึตเจ้าอาวาส องค์ ที่ 2 และที่3

ยังมีเจดีย์ หงสา เป็นเจดีย์ เก่าแก่ ที่ หลวงพ่อแก้ว ท่านสร้างไว้ ในยุคนั้น

ประวัติ ผม ไม่ต้องเขียน ถ่ายเป็นรูป มาให้ เลย ..........55
ใช้วิทยาศาสตร์ เข้าช่วย หน่อย

 

พระเครื่อง และ เครื่องรางของขลัง ที่ หลวงพ่อแก้วท่านได้ สร้างไว้

มี หลายแบบ ครับ เช่น


เหรียญหล่อ ใบสาเกเล็ก เหรียญหล่อรูปพระพุทธ
เหรียญปั้มรูปหลวงพ่อแก้ว ด้านหลังรูปพระพุทธ พ.ศ. 2459
นับเป็นเหรีญปั้ม รูปพระสงฆ์ ที่เก่าแก่ เป็นเหรียญที่ 2 ของประเทศไทย

เหรียญแรก น่าจะเป้นหลวงพ่ออยู่ สร้างปีเดียวกัน ก่อน สักไม่กี่เดือน (เป็นอาจารย์ ของหลวงพ่อแก้ว ด้วย)



ส่วนเครื่องราง ของขลัง ที่ หลวงพ่อแก้ว ท่านได้สร้างไว้

เช่น ตะกุด พิสมร ทำจากใบลาน บังปืน นำมาลงอักขระเลขยันต์ ม้วนกลมๆ เล็กๆ แล้ว พันเชือก ไว้ จุ่มลัก เพื่อ รักษา ให้ คงทน

ที่ไม่จุ่มลัก ก็ มีเหมือนกัน ผม ยังไม่มา ตั้ง สาม ลูก ........ อิอิ




ตะกุดใบลานบับปืน ที่กว้างหน่อย สัก 2 นิ้ว หรือ 2.5 นิ้ว
ก็มี




ตะกุด ทำจากสังกะสี มุงหลังคาเก่า
ท่านทำไว้ แจก คนที่มาร่วมทำบุญ ออกแรง ขนดินมาถมวัด สร้างพระอุโบสถ
มีขนาด เล็ก 1 นิ้ว 2 นิ้ว หรือ 2.5 นิ้ว ก็ มีให้เห็น
ตะกุดแบบ นี้ ผม พูดได้ เต็มปากเต็มคำ เพราะ ตั้งแต่ สืบค้นมา ใช้เวลาเป็นปีๆๆ จน รู้แน่แก่ใจ จดจำลักษณะ ได้ ชัดเจน
เก็บรวบรวม ไว้ จากคนรอบๆวัด ได้ หลายดอก
วันก่อน ที่ไปวัด dumdum ก็ไปด้วย พี่เล็ก เพือนอีกคน ที่ไปด้วยกัน
แวะ ไป ทวงหนี้ คนข้างวัด เงินไม่ได้ กลายเป็นตะกุด มา สองสามดอก.....
ก็ ดีไปอย่าง ไม่ได้เงิน แต่ได้ ของดีมาแทน เป็นยุทธวิธี หาของดีๆ
บางคน เค้ามี ของดี แต่ หวง ไม่ยอมขาย ให้ยืมเงินไป ดอกเบี้ย ก็ไม่คิด ถึงเวลา เอาคืน แค่เงินต้น เงินไม่มี ก็ จ่ายเป็น ตะกุด ดีไปอย่าง นิ



ลุกอม กันไฟ ............ อีกแบบ



ทั้งพระเครื่อง และครื่องราง ที่ เล่ามานี้ มีอายุ นับ ร้อยปี ทั้ง น้าน ละครับ
ช่วง ปี 2456 ถึง 2460 เป็นช่วงที่สร้างพระอุโบสถ ต้องอาศัยแรงชาวบ้าน
มาช่วยกัน ตั้งแต่ ขนดินถมวัด จนถึงสร้างโบสถ กันจนสำเหร็จ
หลวงพ่อ ท่านจึง สร้างพระและเครื่องราง ไว้แจก ผุ้มาทำบุญ

หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ท่านมรณะภาพ เมื่อ พ.ศ. 2461

ทีนี้ คง เชื่อผม แล้ว นะ ว่า ไป ไหว้พระ ไปเที่ยวัด จริงๆ

( แถมยังได้ ของดี ด้วย ........... )

 

หาก อยากจะรู้ ว่า พระเครื่องและ ของขลัง ดังที่กล่าวมาแล้ว
มีพลัง และพุทธ คุณ ระดับไหน
ก็ คง ตั้ง ลอง วัดพลัง ......... กันเอง นะครับ

เพราะ ค่าน้ำแข็งใส งวดที่แล้ว ผมยังไม่ ได้ จ่าย เลย............. อิอิ

 

สอง-สามวัน ผม จึงจะเข้ามาอ่านทีหนึง
เพราะที่บ้าน อินเตอร์เน็ท มีปัญหา
ต้องใช้ร้านบริการตามปากซอย หรือ ศูนย์การค้า แบบหยอดเหรียญ
.......................................................................
วันนี้แวะเข้าอ่าน สำนวนชมวัด และ สาธยายพลังอิทธิฤทธิ์ พระเครื่อง
ของคุณดาวทะเลทราย...พร้อมภาพประกอบ
เป็นการบรรยายแบบ ตาเนื้อๆๆเห็นได้ เลย...ไม่ต้อง จินตนาการแต่อย่างใด
ก็เบาสมองไปอีกแบบ
........................................................................
คุณ atidtarn กับ คุณ สายธาตุ..มีคำถามเบาๆๆ
......................................................................
.การสวดมนต์ ขอพลังพระพุทธ กำแพง แก้ว7 ชั้น ป้องกันตัว
ก็จะได้ กำแพงแก้ว ที่มี 7 สีหุ้มตัวโดยรอบ แบบ เปลือกไข่ หุ้มไข่
โดยมีตัวเรา เป็นไข่แดง
.....................................................................
การสร้างกำแพงมนตรา..ต้องใช้จิต สร้าง
สามารถ สร้างกำแพง เป็นรูป ทรงเรขาคณิต ได้ ทุกรูปแบบ
เช่น สามเหลี่ยม/ปีรามิด/สี่เหลี่ยม/กลม/วงรี..ฯลฯ
เป้าหมายคือให้ครอบคลุมพื้นที่..โดยรอบ เช่นตัวบ้าน ตัวตึก ห้อง หับ
รูปแบบกำแพงมนตราจึงต้องแปรไปตาม รูปทรงอาคารจริง
เมื่อกำหนดสร้างขึ้นมา แล้ว...สามารถกำหนดให้พลังนั้นอยู่ชั่วคราว 1-2 ชม.
หรือ อยู่ถาวรตลอดไป..ทำโดยการสั่งด้วยจิต
การใช้กำแพง ปิด ไม่ให้เห็นบ้าน เช่นเรื่องเล่า "เรือน มยุรา" นั้น เป้น ไปได้
และหุ้มคนให้หายตัวก็ได้ เช่นกัน...แต่จะมีประโยชน์อะไร...ปล้นธนาคารหรือ ???
.......................................................................................

 

หลังจากที่กลุ่มคนที่มีพลังจิตสูงๆๆ
ช่วยกันยกแผ่นดินประเทศไทยให้สูงขึ้น
เป็น จังหวัดๆๆไป จนครบ 76 จังหวัด
เป็นการยกระดับ จิตใจ/ความเป็นสุข โดยเฉลี่ยให้สูง ขึ้น
เท่าที่จะเป็นไปได้.
..............................................................
การปฏิบัติการต่อไป คือ
สร้างกำแพงแก้ว หนา 500 เมตร สูง 200 เมตร
เป็นกำแพงที่ ล้อมรอบประเทศไทย จากเหนือ จรดใต้
ตะวันตก ไป ตะวันออก โดยตัวกำแพง อยู่ด้านในของ เขตดินแดน
เพื่อป้องกันปัญหา การลุกล้ำพื้นที่ เขตแดน
..............................................................
รวมทั้งกำแพง ปิด อ่าวไทย ตั้งแต่ สุดแดน จังหวัดตราด
ตรงลงไป สุดแดนที่ จังหวัด นราธิวาส...
ตลอดชายฝั่งด้าน ทะเลอันดามันและหมู่เกาะ ทั้งหลายที่เป็น ของ ไทย.
.......................................................................
เสร็จแล้วก็ ปิด ด้วยกำแพงแก้ว หนา 100 เมตร ตลอดใต้แผ่นดินทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้มีอะไร ดันโผล่ขึ้นมาบนดินได้ ทั่วประเทศไทย.
.............................................................................
กำแพงแก้วที่ กว้าง 500 เมตร และสูง 200 เมตร รอบประเทศ
ก็เหมือนทำให้ แผ่นดินไทย เป็นอ่างเก็บน้ำได้ อย่างดี
.................................................................................
ก็กำหนดจิตให้เสมือนมีน้ำวุ้นใส ที่ มีพลังสูง สุด ของ องค์พระศรีอริยเมตไตร
ผสมอยู่เยี่ยงน้ำมนต์...ท่วมท้น ทุกชีวิต และทุกสิ่งบรรดามี
ให้จมอยู่ในน้ำที่มีพลังพุทธ อันเมตตาสูงสุด แห่ง พระศรีอาริย์
เพื่อ ทุกชีวิต จะได้ ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น.
คนที่คิดไม่ดี จะทำสิ่งที่ไม่ดี.ไม่ได้ตามที่เขาอยากจะทำ
เชาจะถูกทดรอน บั่นทอน ลงไป
........................................................................
เท่ากับแปลว่า เมื่อ ยกแผ่นดินไทยให้สูงขึ้นแล้ว
ก็เอาแผ่นดิน มาเข้าตู้แช่เย็น เพื่อให้คงสภาพนั้นได้ นานที่ สุด
ไม่ว่า จะเกิด ภัยธรรมชาติที่ ร้ายแรงเท่าใด..เราจะรอด
ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ จะ ลำบาก
.............................................................
พลังพุทธ ที่เป็นวุ้นน้ำใส ท่วมท้น ทุกชืวิตแล้ว
ทุกคนปลอดภัยในระดับหนึ่ง...ยกเว้นคนที่ มีกรรมหนัก ก็ต้องทนไป
..........................................................................
อยากรู้ว่า มีพลังน้ำใส ท่วมตัวเรา หรือไม่
ลองยกเอามือขึ้นสูง เหนือ ศรีษะ
แล้วโบกไป - มา..ดูว่า มันหนืดกว่า ปกติ
ไม่หมือนเมื่อ อาทิตย์ ที่แล้ว หรือไม่
จิตใจเรา วาง และสบายใจขึ้นบ้างหรือไม่
.................................................
ลองสังเกตดู
คนที่มีพลังจิต หรือ กำลังภายในสูง จะรู้ได้ อย่างชัดเจน
..............................................................
จึงเล่ามาสู่กันฟัง
เป็นส่วนหนึ่งของ "เรื่องเล่าก่อนอนคืนนี้ของผู้มีตาทิพย์
......................................................................

 

เฮ่ๆๆๆๆ เรื่องน้ำแข็งไสน่ะล้อเล่นนะคะ เพราะตอนไปบูธ042เดี๋ยวได้กินมากกว่านั้นอยู่แล้ว5555
ขอบคุณมากค่ะพี่ดาวทะเลทราย ที่หารูปมาประกอบ ดูเจดีย์หงสา เก่าๆแบบน่ากลัว แต่ก็น่าไปดู
ตะกรุดที่มาโชว์นี่ เห็นก็ชอบเลย แต่ลองค้นราคาแล้ว ร้องเจี๊ยกเลยเจ้าค่า ไม่มีปัญญาเอามาชื่นชม
ยิ่งบอกว่า ทำสังกะสีมุงหลังคา ยิ่งหาดูของจริงได้ยาก ได้ดูรูปก็บุญแล้วหนา

อาจารย์สามตามาแว้ววววว ปิดทองหลังพระอีกตามเคย สาธุ แสดงว่าอยู่ประเทศไทยนี่ปลอดภัย
กว่าประเทศเพื่อนบ้านแล้วใช่มั้ยคะอาจารย์ (มีหมายเหตุว่า คนดี ไม่มีกรรมหนัก เอ..คิดว่าเรา
คงพออยู่ได้น้าาา) คราวที่แล้วอาจารย์เล่าว่า ทำกำแพงกั้นเอาไว้ เขาก็มุดใต้กำแพงมาจนได้
ตอนนี้เลยปิดใต้พื้นเสียเลย หุๆ ดูซิว่าจะเจาะได้อีกไหม ขอบพระคุณอาจารย์สามตากับคณะค่ะ

 

น้องซิน เค้า ส่ง ภาพนี้มาให้ ผม ดู
มาปลอบใจ........................

เห็น แล้ว ยิ้มแก้ม บานไปเลย.............55

เออ จริง .... วะ.....
ทำอะไร ไป ไม่ว่าจะถูฏ หรือ ผิด
ถ้าคนจะติ มันก็หาที่ติจนได้ .............. ลา เน้อ....

 

ปัญหาของผู้ดูแลบอร์ด คือ ระวังไม่ให้มีการ ทะเลาะ ระหว่างกัน/
โจมตีกัน/ ขัดแย้งกันในแง่ศาสนา/...ที่สำคัญคือการพาณิชย์
........................................................................
การใดที่เหมือนจะเป็นการชายของ
/ชักชวนคนให้มาร่วมกิจกรรม ที่ ต้องเสียเงิน
เขาคงจะห้ามไว้
การชักชวนคนไปเรียนพลังยูเรอัส
กำหนดทั้งสถานที่/เวลา/ค่าใช้จ่าย
คงจะอยู่ในข่ายที่ ว่า
...............................................
ผู้ที่ไม่เข้าใจประโยชน์ ของ พลังยูเรอัส..
ว่า แท้จริงแล้วเป็น ของ ดี เป็น การทำสมาธิ เพิ่มพลังจิตที่ดีมากแบบหนึ่ง
ทำให้ผู้คนมีพลังจิต รักษาความเจ็บป่วยได้
ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้เป็นอย่างดี แก่ รัฐ
................................................................

 

คุณตัวกลมจ๊ะ

ชอบตะกรุดไหน ก็ไป print สี ได้เลยจ้า ไม่ต้องไปหาซื้อหรอก คุณดาวฯ เขาเอาของแท้มาขึ้นให้แล้ว แค่เรา print ออกมาพกไว้ หรือจะบูชาก็แล้วแต่ มีพลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนะคะ ใครจะเชื่อว่าแค่รูปภาพ ก็มีพลังเท่าของจริงๆ ประหยัดในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ด

 

แหะ.......... แหะ...........แหะ


อ.สามตา คง รู้ทัน เรา ..... เข้าใจพวกเราแหละ

มาถึงตอนนี้ ก็ ไม่ได้โกรธ ไม่เคือง อะไร แล้ว แหละ
คิดเสียว่า มันเป็น บุญ กรรม ของชาวโลก
รวม ถึง ตัว กระผม เอง ด้วย แหละ ครับ ...........55

คุณ อธิฐาน .. เอา เคล็ดวิชา ก๊อปปี้ พลังงาน มา เปิดเผย
เค้า ก็ รู้ กันหมด นะซิ................. 55

จะ ก๊อบปี้ รูป ของจริง ไป ใช้
ไม่ต้อง หา ตะกุด ตัวจริง........ ราคา แพง แถม หายากเสียด้วย

ขอเติม อีกหน่อย นะครับ
การ ก๊อปปี้ พลัง นี่ จะก๊อป ได้ มากน้อย หรือเหมือนต้นฉบับ
ยัง ขึ้น อยู่ กับ เครื่องสแกน ด้วย นะครับ
เครืองสแกน ที่ ดี มีคุณภาพ ก๊อปได้ ละเอียด เหมือนได้ หมดจด

ก็ เอามาพริ้นได้ ด้วยเครื่องพริ้น ชั้นดี ได้ เหมือนต้นฉบับ ทุกประการ

ฉันใด ก็ฉันนั้น นะครับ

ละการ ที่ จะ ให้พลังงาน นั้น ๆ อยู่คงทน
ก็ ต้องมี กรรมวิธี ผูก รัด มัด ตรึง ให้ แน่นหนา

อย่าง อ.ชุม ไชยคีรี เคยสอนไว้ว่า
ที่ เสก พระ กัน นานๆ นะ
เสก ให้ ขลัง ไม่ยาก
แต่ ที่ต้องเสียเวลา นานๆ ก็เพราะว่า
ต้อง ตรึงให้ แน่น กาสลักไว้ หลายๆชั้นที่เดียว
ให้ แน่นหนา
จะได้ ไม่เสื่อม คงทน ไม่ถูก เขา คัด ออกได้ง่าย