กินของเซ่นไหว้ของ...กุมารทอง..

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย แม่จิงโจ้, 23 เมษายน 2009.

  1. แม่จิงโจ้

    แม่จิงโจ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +195
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเราเองเมื่อประมาณ 20 ปีกว่าเห็นจะได้ ตอนนั้นยังนับถือศาสนาคริสต์อยู่ เราเป็นเด็กต่างจังหวัด ได้เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่กับพี่ที่นับถือกันมากรู้จักกันในโบสถ์ ชื่อพี่เล็ก พี่เล็กก็เป็นคนเดียวในครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์เช่นกัน บ้านพี่เล็กเป็นบ้านไม้สองชั้นค่อนข้างเก่า (ถึงบ้านเก่าแต่คนในบ้านมีความสุขมากกกกก) ห้องนอนของเรากับพี่เล็กอยู่ชั้นบน และถัดออกไปเป็นห้องโถง ซึ่งมียายของพี่เล็กที่อายุมากแล้วนอนคนเดียว โดยกางมุ้งนอน ใกล้กับที่ที่นอนของยายมีหิ้งพระอยู่ เราอดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมมีสองหิ้ง หิ้งบนสุดมีพระพุทธรูปอยู่ รองลงมาเยื้องกันเป็นหิ้งซึ่งไม่มีพระพุทธรูป เห็นมีแต่น้ำเขียว บางวันเป็นน้ำแดง บางวันมีขนมด้วย แต่เราก็ไม่ได้ถามใคร คืนแรกที่นอนห้องพี่เล็ก เราตกใจตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะได้ยินเสียงคนเดินอยู่นอกห้องนอน และเดินวนไปมานานมาก และเดินเสียงดังมาก เรารีบปลุกพี่เล็ก บอกว่า "พี่เล็กขโมยขึ้นบ้านหรือเปล่าไม่รู้ มันเดินอยู่ข้างนอก ไม่น่าใช่คนในบ้านเรานะพี่ " พี่เล็กบอก "ไม่มีอะไร นอนเถอะ" เราเป็นห่วงยายของพี่เล็กที่นอนอยู่ข้างนอกคนเดียว หรือมันทำอะไรยาย จึงไม่ได้ยินเสียงยายเลย เราถามพี่เล็กว่า "พี่เล็กให้หนูปีนลงหน้าต่างไปเรียกคนมาช่วยไหม" พี่เล็กยังคงบอกว่า"ไม่มีอะไร นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน" เราอดแปลกใจไม่ได้ว่าอะไรกันเนี่ย จะให้อธิบายตอนนี้คงไม่ได้แน่ท่าทางพี่เล็กง่วงสุดสุด เราทำได้แค่เอื้อมมือไปหยิบกรรไกรมาถือไว้ให้อุ่นใจไว้ก่อน จนหลับไปกับกรรไกร พอรุ่งเช้าเรารีบถามถึงเรื่องมือคืน แต่พี่เล็กกลับบอกว่า อย่ารู้เลย แน๊ นี่มันเป็นการเชิญชวนให้อยากรู้หนักขึ้นไปอีก พอสายสาย คุณแม่พี่เล็กทำขนมตาลไปขาย และแบ่งไว้ให้กินกันคนละ 2 ชิ้น โอ้พระเจ้า เป็นขนมตาลที่ไม่เคยกินที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อนเลย อยากกินอีกจัง จนตอนเย็นสายตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นจานขนมตาลอยู่บนหิ้ง สงสัยเขาเอามาไหว้พระแน่เลย นี่มันก็เย็นแล้ว ถ้าทิ้งไว้ก็เสียของเปล่าๆ เราเลยโอกาสหยิบมากิน แต่ก่อนหยิบก็นึกในใจว่า พระท่านคงฉันเสร็จแล้ว แต่เราไหว้พระไม่ได้ พอกินเสร็จก็เอาจานลงมาเก็บ และบอกพี่เล็กว่า เรากินขนมบนหิ้งแล้วนะ "ฉิ.. หายแล้ว" พี่เล็กอุทาน และพูดต่อไปว่า "เดี๋ยวค่อยบอกแม่ตอนแม่กลับมา" ท่าทางเธอตกใจ เราเลยคิดว่าเขาหวงหรือเปล่า หรือผิดหลักศาสนาคริสต์ซึ่งเราไม่รู้จริงๆ แต่จนแล้วจนรอดพี่เล็กก็ยังไม่ได้บอกแม่เสียทีเพราะท่านกลับจากขายของดึก พอดึกหน่อยเราอาบน้ำกำลังจะเข้านอน จึงจัดเตรียมที่นอน และหันหลังให้พี่เล็กซึ่งกำลังอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่พอเราทำท่าจะขึ้นที่นอน เท่านั้นแหละ .. "เพี๊ยะ ..." โอย นอกจากเสียงดังแสบเข้าไปในหูแล้ว เรายังเจ็บที่ก้นมากกกก จนน้ำตาแทบหยด หันไปถามพี่เล็กว่า "พี่เล็กทำอะไรหนูเนี่ย เจ็บนะ" งง พี่เล็กไม่รู้เรื่องด้วยเลย เรางี้แทบจะถลกก้นให้ดู เพราะคิดว่าเจ็บขนาดนี้คงมีรอยแดงบ้างละวะ เมื่อเราเล่าให้ฟังแกก็หัวเราะใหญ่ บอกว่า "เป็นไงล่ะ เอาขนมเขากิน เขามาลงโทษนะซี่ .. กุมารทองของแม่พี่เองแหละ เขาอยู่ที่หิ้งที่รองจากพระลงมานั่นแหละ แต่ร่างเขาเล็กและนอนอยู่เราเลยมองไม่เห็น เออ เดี๊ยวแม่กลับมาจะให้แม่จุดธูปบอกให้นะ หลับซะ ไอ้ตะกละ" ตอนนั้นเราไม่เชื่ออย่างเดียว และงงว่าพี่เล็กเชื่อได้อย่างไรกับเรื่องแบบนี้ จนเหตุการณ์ผ่านไปนาน นานจนเราเมื่อยที่จะพิมพ์ เอ้ยไม่ใช่ !! จนเราหันมานับถือศาสนาพุทธ และที่สำคัญเราได้เลี้ยงกุมารทองของเราเอง จนได้พบกับเหตุการณ์ที่เหนือการพิสูจน์ จึงเชื่อเรื่องกุมารทอง 100 % ไว้หายเมื่อย จะพิมพ์มาให้อ่านอีกค่ะ
     
  2. kanetheripper

    kanetheripper สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +17
    สนุกดีครับ

    ดีที่เขาทำแค่นี่
     
  3. 5047

    5047 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +116
    หลานผมชอบเอานม เอาน้ำแดงมากิน ผมห้าม ก็บอกว่ากุมารกินอิ่มแล้วแหละ
    จนหลานผมมาฟ้องว่านอนไม่หลับ โดนกวนทั้งคืน กระโดดโซฟาบ้าง ที่นอนบ้าง
    ข้ามตัวไปมา หลานผมเป็นผู้หญิงแต่เขาไม่กลัวนะ เขาบอกรำคาญ จะเป็นทุกครั้ง
    ที่ผมไม่อยู่บ้าน
     
  4. นักรบเเห่งสยาม

    นักรบเเห่งสยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +607
    ผมให้เขากินเเล้วเอามากินต่อ555555
     
  5. mozard002

    mozard002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +433
    ดีที่เขาไม่ลงโทษแรงนะครับ

    ว่าแต่ทำไมถึงเปลี่ยนมานับถือพุทธละครับอยากรู้ เพราะเมื่อก่อนผมก็นับถือคริสต์เหมือนกัน
     
  6. HS6GIN

    HS6GIN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +98
    แล้วตกลงกินของที่ไหว้กุมารแล้วได้ป่าวคะ อยากรู้
     
  7. ซึมดีจัง

    ซึมดีจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +67
    ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้กุมารน่าจะเข้าใจนะ
     
  8. minnyjo

    minnyjo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +46
    ที่ร้านก็มีกุมารนะ สถานที่ที่ไปบูชากุมารมา เขาก็บอกว่า เมื่อถวายช่วงเช้าแล้ว พอบ่ายๆ ก็เอามาทานได้นะ แต่บอกกุมารด้วยว่าลาขนมเอามาทานขอให้เป็นยาคะ
     
  9. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    สนุกดี เรื่องบางเรื่องที่พิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่เราก็รู้กันอยู่ว่ามันมีอยู่จริงๆ
     
  10. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    สนุกดี เรื่องบางเรื่องที่พิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่เราก็รู้กันอยู่ว่ามันมีอยู่จริงๆ
     
  11. ฆราวาสธรรม

    ฆราวาสธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมก็คนหนึ่งที่เป็นคาทอลิคตั้งแต่เกิด แต่มานับถือพระพุทธศาสนาด้วยความเคารพอย่างจริงใจครับ และได้มีโอกาสบวชเรียนทางธรรมด้วยครับ ผมคิดว่าเป็นบุญเก่าครับ
     
  12. jeeyuri

    jeeyuri สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +9
    ตาลกินทุกวันเลยค่ะ แบบว่าไหว้วันนี้พรุ่งนี้ก็ลาลงมาทานน่ะค่ะ ส่วนมากจะเป็นขนมขบเคี้ยวอ่ะค่ะ ลูกกินแล้วแม่กินต่อค่ะ ตามสภาพเศรษฐกิจค่ะ หารสอง
     
  13. pangbood

    pangbood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +69
    มีเรื่องแถมด้วย
     
  14. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    อืม
     
  15. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    อยากกินเเล้วสิเห็นกินกันทั้งนั้นเลย

    เก็บไว้พอใช้ได้เหมือนกันทิ้งก็ไม่กล้า
     
  16. แม่จิงโจ้

    แม่จิงโจ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +195
    ขอบคุณทุกๆ ความเห็นในกระทู้กินของเซ่นไหว้กุมารทองนะคะ และสำหรับคุณmozard002 ที่สงสัยว่าทำไมถึงเปลี่ยนศาสนามานับถือพุทธ ก็ขอเล่าให้ฟังคร่าวๆ นะคะ คือฝัน (แต่ความรู้สึกต่างจากฝันตามปกตินิดหน่อย) ในฝันนั้นได้เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งเดินเข้ามาในที่ทำงานซึ่งเรานั่งหน้าประตูคนเดียว เราก็ลังเลใจว่าจะไหว้ท่านได้หรือเปล่า ก็คิดในใจว่า เราไหว้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ไม่ได้ไหว้ผ้าเหลืองหรือนักบวชนี่น่า แล้วท่านก็โปรยพระเหรียญให้เต็มไปหมด เราก็บอกท่านว่าเรานับถือศาสนาคริสต์ คงรับไม่ได้ ท่านก็บอกว่า ของดีอยู่ที่ใครก็ดีทั้งนั้นแหละ ด้วยความเกรงใจเราจึงทำท่าจะเลือก (ไว้มอบต่อให้คนอื่น) ท่านก็พูดว่า ไม่ต้องเลือก ข้าให้หมดนี่เลย เราก็ไหว้ขอบพระคุณท่านและนึกสงสัยว่าทำไมท่านจึงให้เรา แต่ไม่ได้ถามท่านอย่างที่สงสัย กลับถามท่านว่า ท่านชื่ออะไรคะ ท่านตอบเรามาว่า "ข้าชื่อ..ศุข" เสียงนั้นก้องกังวาลในหู เราจำได้แม่น พอเช้าไปทำงาน เราเล่าเรื่องฝันแปลกๆ นี้ให้คนที่ทำงานฟัง เขาบอกว่าทำไมเราโง่อย่างงี้ ไม่รู้จักหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าหรือ อ้าว เราจะไปรู้ได้อย่างไร ในเมื่อเรานับถือศาสนาคริสต์มาตั้งเป็นสิบปี เอาเป็นว่า พี่ผู้แสนดีซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จึงได้นำหนังสือพระ เทปของหลวงพ่อมาให้เราเป็นการใหญ่ เราก็คิดว่า เอ๊าลองอ่านดูก็ได้ ทีตอนที่เราจะเข้ามานับถือคริสต์ เรายังลองอ่านพระคัมภีร์จนเกิดประจักษ์พยาน แล้วทำไมเราจะปิดโอกาสตัวเองในการที่จะลองอ่านหนังสือธรรมะ และศึกษาให้ถ่องแท้ล่ะ แต่ก่อนอ่านเราก็ใช้วิธีเดียวกับที่อ่านพระคัมภีร์ คืออธิฐานว่าขอพระประทานสติบัญญาให้เรา เพื่อให้เราอ่านแล้วเข้าใจถึงคำสอนที่แท้จริงและเข้าใจได้อย่างถูกต้อง พออ่านไปและคิดตามถึงเหตุผล และประกอบกับมีสิ่งเหนือการพิสูจน์เกิดขึ้นมากมายกับเรา และที่สำคัญที่สุด คือเราพบวิธีปฏิบัติที่จะทำใจให้พ้นทุกข์ได้ในโลกของความเป็นจริงนี้ เราจึงเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธอย่างมั่นใจว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และระลึกถึงความเมตตาของหลวงปู่ศุข ซึ่งเราเองเคยสงสัยว่า ทำไมในความฝัน เราถึงรู้สึกว่าชื่อของพระสงฆ์องค์นั้นสะกดด้วยตัวอักษรว่า "ศุข" ไม่ได้สะกดเป็นอย่างอื่นที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน และทำไมต้องเป็นหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าด้วย เราอดแคลงใจไม่ได้ ประกอบกับชอบพิสูจน์ จึงตั้งจิตอธิฐานในวันหนึ่งขณะที่กำลังเดินทางจะไปวัดท่าซุง ว่า "หลวงปู่เจ้าขา หากพระสงฆ์ที่ลูกฝันถึงเป็นหลวงปู่จริง ขอให้ลูกได้ไปกราบหลวงปู่ในวันนี้ด้วยเถิดเจ้าค่า" ทั้งๆ ที่เรารู้ว่าหลวงปู่อยู่วัดมะขามเฒ่า แต่ไม่รุ้เลยว่าวัดตั้งอยู่ที่ไหน แต่สรุปว่าเราได้ไปกราบท่านจริงๆ เรารู้ว่าเป็นวัดของท่านตั้งแต่รถยังไปไม่ถึงวัด แค่เรามองเห็นต้นโพธิ์ต้นหนึ่งซึ่งอยู่เยื้องๆ กับศาลาท่าน้ำ เราก็รับรู้ว่าพระสงฆ์ในความฝันของเราคือหลวงปู่ศุขจริง เรารีบบอกคนในรถว่า ใช่จริงๆ วัดนี้แหละ คนในรถซึ่งยังไม่รู้จักวัด ก็ถามเราว่า รู้ได้ไง เราบอกจอดรถที่ต้นโพธิ์ขวามือหน่อย พอลงจากรถ เราก็เห็นป้ายบอกว่า ต้นโพธิ์ต้นนี้คือต้นโพธิ์ที่หลวงปู่ศุขท่านเดินธุดงค์มาแล้วมาปักกลดที่ได้ต้นโพธิ์ต้นนี้ แล้วอยู่ที่นี่จนสร้างวัดปากคลองมะขามเฒ่าแห่งนี้ ทั้งหมดที่เล่ามานี้คือความสัตย์จริงทุกประการ ก็ลังเลใจอยู่หลายวันเหมือนกันว่าจะตอบข้อสงสัยของคุณmozard002 ดีหรือไม่ เพราะไม่มั่นใจว่าจะเกิดประโยชน์กับใครหรือเปล่าในความจริงที่เล่ามานี้ เอาเป็นว่า ใช้สติในการรับข้อมูลแล้วกันนะคะ
     
  17. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    ดีแล้วค่ะ ได้แลกเปลี่ยนความคิดและได้ทำความเข้าใจในด้านความเชื่อและศาสนาควบคู่กันไปค่ะ ขออนุโมทนาด้วยนะคะ
     
  18. mozard002

    mozard002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +433
    ตอบได้ครับ ^^ คงจะเป็นวาสนาเก่าที่มีกับหลวงปู่ศุขน่ะครับท่านเลยมาสงเคราะห์


    ส่วนเหตุผลของผมคือ เมื่อก่อนนั้นเรียนในโรงเรียนคาทอลิกแห่งหนึ่ง แล้วทุกเช้าก็จะมีซิสเตอร์มาสอนคำสอนในพระคัมภีไบเบิลทุกๆวัน แล้วด้วยความศรัทธาก็เลยคิดว่าชีวิตนี้ตายไปก็ขออยู่กับพระเจ้าตลอดไป พอคิดอย่างงั้นปิติมันก็เกิดน้ำตาซึมเริ่มคุมไม่อยู่เลยต้องเลิกคิดไป ไม่ั้งั้นเดี๋ยวเพื่อนจะตกใจ พอเวลาผ่านไปได้2-3อาทิตย์ก็กลับมาคิดว่าถ้าเราไปอยู่กับพระเจ้าจริงมันเหมือนเราเอาแต่ตัวของเรารอด เลยคิดไกลไปถึงพ่อแม่ ญาติ เพื่อน ไกลไปถึงคนเฒ่าตนแก่ ขอทาน เด็กกำพร้า คนรวยที่ยังหลงทรัพย์สินอยู่ คนจนที่ยังหวังได้เงินจากการพนัน เรียกได้ว่าคิดไปไกลมาก พอออกจากภวังค์ตรงนั้นได้รู้สึกชีวิตเปลี่ยน มีความสุขขึ้น เห็นคนด่อยโอกาสกว่าก็สงสารกว่าปกติ ก็คิดว่าเขาเกิดมาเพื่อรับคงามทุกข์นี้หรอ เกิดมาเพื่อรับความสุขอย่างนี้หรอ แล้วก็กลับมานั่งคิดอีกว่า เอ้.....คนเราเกิดมาก็ตาย ถ้าเราเกิดมาเพื่อตัวเราเองสู้เราอย่าได้เกิดมาเืพื่อเป็นความทุกข์ของคนอื่นดีกว่า แล้วแปลกนิดหน่อยคือ หลังจากคิดอย่างงั้นแล้วก็เหมือนมีเสียงในใจตอบกลับมาว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อตัวเองนิ เท่านั้นแหละ น้ำตาไหลอีกแล้วเพราะสงสารพ่อแม่ เพื่อนๆ แล้วก็คนอื่นอีก ประมาณว่าถ้าเราพ้นทุกข์จริงเราก็จะพาคนอื่นพ้นด้วย นี่คือคำตอบของชีวิตที่เหลือทั้งหมดแน่ๆ

    ผ่านไปหลายเดือน รู้สึกว่าตัวเองเริ่มสนใจเรื่องพลังจิต เรื่องเหนือธรรมชาติ ก็เลยค้นหาในเน็ต เข้าgoogleเลยครับ แล้วพิมพ์ลงไปว่า "พลังจิต" เว็บพลังจิตโผล่มาเป็นลิงค์แรกเลยครับ ก็เลยเข้าไปดู แรกๆก็แต่หัวข้อวิทยาศาสตร์ทางจิตกับผี หัวข้ออื่นที่เกี่ยวกับพุทธศาสนายังไม่แตะเลย ประมาณว่าอ่านเอาสนุกอย่างเดียว แล้วผมก็เจอจุดเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อตอน ม.ปลาย ต้องอ่านเรื่องพระเวสสันดรชาดก ตอนเริ่มอ่านก็รู้สึกน่าเบื่อนิดๆ พออ่านมาถึงตอนที่ท่านบริจาคลูกเมียเป็นทานรู้สึกว่าคนๆนี้นี่สุดยอดจริงๆ บริจาคของที่ตัดใจได้ยากที่สุด คิดเสร็จใจมันรู้สึกแปลกๆ มันเป็นความสุขแบบตั้งมั่นบอกไม่ถูกครับ เหมือนเราหยุดนิ่งในขณะที่สิ่งรอบตัวก็ดำเนินไปปกติ แต่เราไม่เป็นทุกข์ร้อนอะไรเหมือนใจมันอยากหยุดอยู่กับความสุขสงบนั้นไปนานๆ พออ่านต่อไปก็สะดุดกับคำว่าพระพุทธเจ้า นึกสงสัยว่าเอ้...ท่านเป็นใครนะ ทุกครั้งที่นึกถึงท่านจะรู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก(อีกแล้ว) กลับมาบ้านก็เข้าเวบพลังจิตเหมือนเดิม แต่คราวนี้ไปดูหัวข้ออภิญญา-สมาธิ แล้วก็เริ่มฝึกสมาธิ อ่านกระทู้เกี่ยวกับสมาธิก็เจอคำว่าพุทธภูมิ เกิดสงสัยขึ้นมาก็เลยเข้าไปดูในหัวข้อพุทธภูมิด้วย อ่านไปอ่านมาก็แปลกใจว่าปณิธานนั้นตรงกับเราเลย จากนั้นมาก็เริ่มศึกษาพระธรรมทั้งวิปัสสนาและกรรมฐานอย่างจริงจังละครับ

    เหตุที่เปลี่ยนศาสนาก็เป็นด้วยประการนี้แหละครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ ^^
     
  19. แม่จิงโจ้

    แม่จิงโจ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +195
    คุณmozard002 เป็นคนพื้นฐานจิตใจดีนะคะ สังเกตุได้จากข้อความของคุณที่ว่า "เราไม่ได้เกิดมาเพื่อตัวเองนิ เท่านั้นแหละ น้ำตาไหลอีกแล้วเพราะสงสารพ่อแม่ เพื่อนๆ แล้วก็คนอื่นอีก ประมาณว่าถ้าเราพ้นทุกข์จริงเราก็จะพาคนอื่นพ้นด้วย นี่คือคำตอบของชีวิตที่เหลือทั้งหมดแน่ๆ" ใจจึงรับพุทธคุณได้ง่ายๆ ขอให้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้สำเร็จโดยง่ายนะคะ อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  20. moopanda_kae

    moopanda_kae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2009
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,107
    จะบอกว่าอ่านแล้วขนลุกเลยค่ะ ตอนที่บอกว่า "ข้าชื่อ..ศุข" ความปลื้มปีติมันขึ้นมาในใจทันที ท่านเป็นพระที่เรานับถืออยู่ค่ะและเราก็เป็นคนชัยนาท เชื่อไหมว่าวัดหลวงปู่ (วัดปากคลองมะขามเฒ่า) อยู่ใกล้บ้านเราแค่เพียงขับรถไปนิดหนึงแล้วข้ามแม่น้ำก็ถึงแล้ว

    พูดไปก็เราเหมือนคนโง่ ของดีอยู่ใกล้ตัวตอนเด็กๆกับไม่สนใจ จนเรามาอยู่กรุงเทพได้สิบกว่าปีถึงได้เคยไปไหว้ท่านที่วัด แต่ตอนนั้นก็เอาหลวงปู่ไปเหลี่ยมทองมาคล้องคอแต่ก็มีเหตุให้หายไป เราจึงอธิษฐานขอให้หาเจอ แล้วจะนำเงินไปถวายทำบุญ 500 บาทที่วัด

    เชื่อไหมอ่ะเราเจอสร้อยทองกับพระหลวงปู่จริงๆ แบบไม่น่าเชื่อว่าจะเจอตรงนี้ และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปกราบท่าน
    ล่าสุดไปมาเมื่อตอนปีใหม่ วัดเปลี่ยนไปเยอะเลยไม่มีจุดประทัดถวายเสด็จเตี่ยแล้ว เราผิดหวังมากกะจะไปจุดประทัดขอพร ไปถามเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลจุดดอกไม้ ธูปเทียน เค้าบอกว่าทางกรรมการวัดชุดใหม่นี้ให้เอาออก...เฮ้อ..เราอ่ะเซ็งเลย


    และอีกอย่างหนึงที่เราเสียดาย คือ..
    เราเสียดายที่ไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตอนที่ท่านยังอยู่ ยอมรับว่าตอนนั้นโง่มากอีกเหมือนกัน บ้านเราอยู่ อ.มโนรมย์ ข้ามโป๊ะ ข้ามแม่น้ำไปคือ จ.อุทัยธานี ทุกปีเราจะเห็นรถติดรอข้ามโป๊ะเยอะมาก เราก็สงสัยว่าคนมาวัดท่าซุงทำไมเยอะแยะ(ผู้ใหญ่บอกว่าว่าเค้าไปวัดท่าซุงกัน)

    ตอนนั้นเด็กมากเราแอนตี้วัดนี้มาก คิดว่าวัดใหญ่มีแต่วัตถุมีแต่ธุรกิจ แต่กับตอนนี้เราคิดผิดมากๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากจะกลับไปไหว้หลวงพ่อตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
    และก็แปลก ตอนนี้เราอยากไปวัดท่าซุงก็ไม่มีโอกาสได้ไปเลย ในชีวิตจำได้ว่าเคยไปครั้งเดียวตอนนั้นก็ยังเฉยๆเพราะเด็กมากค่ะ


    อีกเรื่องสุดท้ายคือ หลวงพ่อจรัญ เราก็นับถือมาก ไปวัดท่านบ่อยแต่ไม่เคยได้พบท่าน
    ตอนเด็กๆอีกแล้ว เรางงว่าคนมารอพบท่านอะไรเยอะขนาดนี้ เราก็ขึ้เกียจรอก็รบเร้าให้ผู้ใหญ่พากลับบ้าน
    มานึกถึงตอนนั้นก็เสียดาย ตอนนั้นท่ายังแข็งแรงอยู่มากยังลงพบ พูดคุยกับญาติธรรมได้นานไม่เหมือนตอนนี้ท่าน ชราภาพลงร่างกายเริ่มไม่ไหวแต่ก็ยังลงมาพบญาติธรรมทั้งหลาย

    เฮ้อ..เรานิเสียดาย สงสัยว่าเกิดมามีกรรมเสียล่ะมั้ง ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดพระคุณเจ้าทั้งหลายที่สอนธรรมให้เราเป็นคนดี มีดวงตาเห็นธรรมตั้งแต่ยังเด็กๆ

    มาคิดได้ก็อายุปาไปเกือบสามสิบ จนตอนนี้ก็สามสิบสองปี ตอนนี้เราก็หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวัน และเริ่มฝึกมโนมยิทธิเป็นครั้งแรกคือวันนี้ ยังไงอยากจะประสบความสำเร็จในการฝึกนี้เหลือเกิน จะมีบุญไหมนะ

    ปล.จะบอกว่าคุณมาบุญมากเลยค่ะ ตอนแรกนะเราคิดไว้แล้วเชียวว่าท่านที่คุรเจอจะต้องเป็นพระเกจิอะไรสักองค์นี่ล่ะ แต่พออ่านว่าเป็นหลวงปู่ศุข ก็อึ้งเหมือนกันขนลุกและรู้สึกปลื้มปีติมากๆ ^______^
     

แชร์หน้านี้

Loading...