หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จังหวัดนครปฐม

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย sophon_ka, 12 มกราคม 2009.

  1. sophon_ka

    sophon_ka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +84
    [​IMG]
    หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม


    ประวัติและเกียติคุณ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม

    หลวงพ่อเต๋ คงทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน 2434
    ณ บ้านสามง่าม หมู่4 โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ บู่ นามสกุล สามง่ามน้อย ท่านมีพี่น้อง 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 5 เมื่ออายุครบ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่กับหลวงลุงแดงซึ่งเป็นลุงของท่าน พร้อมกับร่วมกันจัดสร้างวัดใหม่ไปพร้อมกัน รวมทั้งได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงลุงแดงไปด้วย เมื่อ พ.ศ.2454 ท่านมีอายุครบ 21 ปี จึงได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี พระครูอุตตรการบดี ( หลวงพ่อทา) วัดพระเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์เทศ วัดทุ่งผักกูด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการจอม วัดลำเหย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า คงทอง เมื่ออุปสมบทแล้วได้ไปศึกษาเล่า เรียนทั้งทางธรรมและวิชาอาคมกับหลวงพ่อทา วัดเพียงแตก ต่อมาเมื่อหลวงลุงแดง ก่อนมรณภาพลงได้ฝากฝังวัดสามง่ามให้หลวงพ่อเต๋ ดูแล

    หลวงพ่อเต๋ เริ่มออกธุดงค์ระหว่าง พ.ศ.2455-2477 รวมเป็น 17 ปี รวมทั้งการศึกษาอาคมเพิ่มเติ่มนอกเหลือจากการศึกษาจากหลวงลุงแดงและหลวงพ่อทาวัดพะเนียงแตก ต่อมาได้ไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องจากนั้นก็ธุดงค์ไปเรื่อยๆ ในสถานที่ต่างๆและได้ไปเรียนเพิ่มกับพระอาจารย์รูปอื่นๆรวมทั้งอาจารย์ฆราวาสที่เป็นชาวเขมร ซึ่งเคยเป็นอดีตแม่ทัพเขมร และเป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ให้ความนับถือมาก ( ในสมัยท่านมีชีวิตหลวงพ่อเต๋จะทำการไหว้ครูเขมรมิขาด) ภายหลังที่กลับมาพำนักได้ 3 ปีท่านได้ทำการปฏิสังขรณ์วัดสามง่าม อย่างมานะอันแรงกล้าอย่างหาที่สุดเปรียบมิได้ รวมทั้งการพัฒนา โรงพยาบาล สถานีอนามัย โรงเรียน สถานีตำรวจ ฯลฯ

    หลวงพ่อเต๋ เป็นผู้กอปรด้วยความเมตตาปราณี ท่านจะให้ความรักแก่ศิษย์ทุกคนโดยไม่เลือกที่รักที่ชัง นอกจากนี้ท่านยังให้ความเมตตาแก่สัตว์เลี้ยง ก่อนท่านจะฉันภัตตาหาร ท่านจะต้องให้ข้าวสัตว์เหล่านี้เป็นนิล เมื่อ พ.ศ.2475 กรรมการสงฆ์จังหวัดได้พิจารณาแต่งตั้งให้หลวงพ่อเต๋เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่าม และปี พ.ศ.2476 แต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าคณะตำบล ปกครอง 5 วัด

    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋
    ท่านจะสร้างไว้หลายแบบหลายชนิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้ วัตถุมงคลของท่านไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามแต่เน้นเรื่องพุทธคุณเพราะท่านตั้งใจสร้างเพื่อให้บูชาพกติดตัวป้องกันภัยต่างๆ ส่วนมากเป็นเนื้อ ดินผสมผงป่นว่าน เนื้อดินอาถรรพณ์ที่นำมาเป็นมวลสารนั้นได้แก่ ดิน 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น ด้านหลังพระทุกพิมพ์จะประทับชื่อ หลวงพ่อเต๋ กดลึกลงเนื้อพระ ส่วนวัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านจนทุกวันนี้คือ ตุ๊กตาทอง ( กุมารทอง) ตำราการสร้างได้จากหลวงลุงแดง นำดิน7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้นมาปั้นแจกชาวบ้าน นำไปเพื่อคุ้มครอง การปลุกเสกนั้นหลวงพ่อเต๋ จะปั้นแล้วเอาวางนอนไว้แล้วทำการปลุกเสกให้ลุกขึ้นมาเองตามตำรา ผู้ที่ได้รับไปบูชามักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นมี่อัศจรรย์ทางต่างๆ หลวงพ่อเต๋ คงทอง มรณะภาพลงโดยอาการสงบเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2524 รวมสิริอายุได้ 80 ปี 6 เดือน10วัน พรรษาที่ 59 ปัจจุบันทางวัดเก็บรักษาสังขารท่านไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งผู้เคารพศรัทธาไปกราบไหว้จนทุกวันนี้



    แหล่งที่มา นิตยสารคเณศ์พร ฉบับอมตวัตถุมงคลยอดนิยมหลวงพ่อเต๋ ...ขอบคุณครับ
     
  2. sophon_ka

    sophon_ka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +84
    <TABLE class=bodystyle borderColor=#333366 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=600 border=1><TBODY><TR align=middle bgColor=#26273c><TD colSpan=3>[​IMG] </TD></TR><TR vAlign=top><TD align=middle bgColor=#003399>ข้อความ :</TD><TD bgColor=#006699 colSpan=2>บทความให้สัมภาษณ์ของหลวงปู่เเย้ม วัดสามง่าม (ศิษย์หลวงพ่อเต๋) ครับ

    หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม สืบทอด "กุมารทอง" ตำรับ "หลวงพ่อเต๋ คงทอง"

    พระครูประยุตนวการ หรือ หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต เจ้าอาวาส วัดสามง่าม (วัดอรัญญิการาม) อ.ดอนตูม จ.นครปฐม นับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเด่นดังอีกรูปหนึ่งใน จ.นครปฐม ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมีงานพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล ณ ที่แห่งใด ก็มักจะต้องปรากฏชื่อหลวงพ่อแย้มร่วมพิธีปลุกเสกด้วยเสมอ

    หลวงพ่อแย้มมีลูกศิษย์มากมายอยู่ทั้งใน และนอกประเทศ ด้วยความเคารพศรัทธาในบารมีธรรมของท่าน โดยเฉพาะการสร้าง และปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ รวมทั้ง ตะกรุด ๓ หู และกุมารทอง ที่ท่านได้เล่าเรียนสืบทอด วิชามาจาก "เทพเจ้าแห่งดอนตูม" นาม "หลวงพ่อเต๋ คงทอง" อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ขมังเวทแห่ง วัดสามง่าม ซึ่งหลวงพ่อเต๋นั้น ท่านเป็นลูกศิษย์ ของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก และหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อดีต ๒ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองนครปฐมในอดีต

    หลวงพ่อแย้ม ในวัย ๘๗ ปี พรรษาที่ ๖๓ ได้เมตตาให้สัมภาษณ์ พิเศษแก่ทีมข่าวคม ชัด ลึก ถึงเรื่องการเล่าเรียนวิชา คาถาอาคม จากหลวงพ่อเต๋ รวมทั้ง การสร้างของขลังต่างๆ ตามตำรับ "หลวงพ่อเต๋" องค์อาจารย์ ขอเชิญท่านทั้งหลาย ติดตามอ่านกันได้อย่างเต็มอิ่มจุใจ ณ บัดนี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sophon_ka

    sophon_ka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +84
    <TABLE class=bodystyle borderColor=#333366 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=600 border=1><TBODY><TR align=middle bgColor=#26273c><TD colSpan=3>[​IMG] </TD></TR><TR vAlign=top><TD align=middle bgColor=#003399>ข้อความ :</TD><TD bgColor=#006699 colSpan=2>สมัยที่หลวงพ่อเต๋ยังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อได้เรียนวิชาอะไรจากท่านบ้างครับ ?

    อาตมาก็เรียนเท่าที่ท่านจะสอนให้ เรียนเท่าที่ท่านใช้ ไม่ได้เรียนมาทั้งหมดหรอก วิชาแรกที่เรียนก็จะเป็นจำพวก หมอยาเกี่ยวกับการรักษาญาติโยมที่เจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งสมัยนั้น จะทำการรักษาด้วยยาสมุนไพรล้วนๆ เพราะสมัยนั้นไม่มีหมอ ไม่มีโรงพยาบาลที่ทันสมัยเหมือนในปัจจุบัน พระสงฆ์ที่มีวิชารักษาโรคจึงเป็น ที่พึ่งของญาติโยมได้ดีที่สุด

    ต่อมา ท่านก็สอนวิชาการทำตะกรุด สักยันต์ และทำกุมารทอง สมัยที่หลวงพ่อเต๋ยังมีชีวิตอยู่ เวลาท่านจะทำของเหล่านี้ อาตมาก็จะเป็นผู้ช่วยท่าน
    ตำราต่างๆ ของหลวงพ่อเต๋ ปัจจุบัน หลวงพ่อได้เก็บเอาไว้บ้าง หรือเปล่าครับ ?

    สมัยที่อาตมาเรียนวิชากับหลวงพ่อเต๋นั้น ไม่ได้เรียนวิชาจากตำราหรอก ทั้งหมดจะเป็นการเรียนการสอนแบบปากต่อปาก ให้ต่างคนต่างจำกันเอาเอง เนื่องจากคนที่เรียนวิชาถ้าต้องการที่อยากจะได้วิชาไปจริงๆ เขาก็ต้องตั้งใจ ที่จะเรียนรู้ และต้องจดจำในวิชานั้นๆ ให้ได้ และถ้าสมัยนั้นมีหนังสือ เป็นตำรา หลวงพ่อเต๋ท่านกลัวว่าจะมีคนที่เป็นนักเลง หรือพวกโจร จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี หรือลูกศิษย์บางคนที่ไม่รู้จักบุญคุณกลับเอาวิชาที่เรียนมาจากอาจารย์นั้น มาทดลองหรืออาจมาแข่งกับอาจารย์ของตัวเองได้



    ตอนที่หลวงพ่อ เรียนวิชากับหลวงพ่อเต๋ เรียนยากมั้ยครับ ?

    เรียนไม่ยากหรอก ที่สำคัญ ท่านจะไม่อาบน้ำ เนื่องจากหลวงพ่อเต๋นั้น ดูเหมือนท่านจะกลัวน้ำกลัวฝน แต่ไม่กลัวแดด สมัยที่ท่านยังมีชีวิต ท่านจะอาบน้ำ เพียงปีละครั้ง แต่ที่ไม่อาบน้ำนั้น ถือเป็นหนึ่งในวิชาคาถาอาคมที่ได้เรียนมา ปัจจุบัน อาตมาเองก็ไม่อาบน้ำมานานแล้ว ตอนนี้ เป็นเวลากว่า ๓๐ ปีมาแล้วที่อาตมาไม่ได้อาบน้ำ จะใช้เพียงผ้าซับน้ำ เช็ดเนื้อตัวเสียเป็นส่วนใหญ่

    หลวงพ่อไม่ได้อาบน้ำนานๆ อย่างนี้ ไม่รู้สึกเหนียวตัวบ้างหรือครับ ?

    ไม่เหนียวนะ

    แล้วตัวไม่เหม็นบ้างหรือครับ ? ก็ไม่เห็นเหม็นอะไร (หัวเราะ)

    หลวงพ่อไม่คิดจะอาบน้ำบ้างเลยเหรอครับ ?

    อาตมาก็ไม่คิดที่จะอาบน้ำ จริงๆ ก็กลัวฝนเหมือนกัน เพราะเจอฝนเมื่อไรก็จะเป็นหวัดเป็นไข้ได้เจ็บทุกครั้ง (หัวเราะ) จากที่เคยอยู่กับหลวงพ่อเต๋มานาน ท่านจะเป็นพระที่กลัวฝนมาก ซึ่งไม่รู้สาเหตุที่ชัดเจนว่าเป็นมาอย่างไร อาตมาจำได้ว่า ครั้งหนึ่งเห็นหลวงพ่อเต๋ถูกฝนเปียก แล้วท่านจะมีอาการสั่นๆ รู้สึกว่าท่านจะหนาวมาก



    ช่วงเข้าพรรษา ไตรมาสปีนี้ เห็นหลวงพ่อลงจารอักขระทำตะกรุดมากมาย ไม่ทราบว่าเป็นตะกรุดอะไรครับ ?

    เขาเรียกว่าตะกรุดสามหู ก็เป็นวิชาที่อาตมาเรียนมาจากหลวงพ่อเต๋นั่นแหละ </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sophon_ka

    sophon_ka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +84
    <TABLE class=bodystyle borderColor=#333366 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=600 border=1><TBODY><TR align=middle bgColor=#26273c><TD colSpan=3>[​IMG] </TD></TR><TR vAlign=top><TD align=middle bgColor=#003399>ข้อความ :</TD><TD bgColor=#006699 colSpan=2>ในแต่ละพรรษา หลวงพ่อสร้างตะกรุดได้หลายดอกมั้ยครับ ?

    มันไม่แน่นอนหรอก จริงๆ มันอยู่ที่สุขภาพ และกำลังของอาตมาด้วยนะ เฉลี่ยในปีๆ หนึ่ง จะทำตะกรุดได้ประมาณ ๒๐๐ กว่าดอก ก็จะทำในช่วงเข้าพรรษา

    วัสดุที่ใช้ทำตะกรุด ทำไมจึงเป็นกระดาษ ทำไมหลวงพ่อไม่ใช่แผ่นโลหะพวกทองเหลือง หรือทองแดงทำล่ะครับ ?

    ตะกรุดของอาตมาที่เขียนยันต์ในกระดาษข่อยนั้น เขาเรียกตะกรุดสามหู ส่วนตะกรุดที่เขียนยันต์ในแผ่นทองเหลือง เขาเรียกว่าตะกรุดมหารูด แต่ในทางเอาไปใช้แล้วไม่มีความแตกต่างกันนัก เพราะคาถาที่เขียนลงในตะกรุดสามหู ก็เป็นคาถาตัวเดียวกันกับตะกรุดมหารูด

    ยันต์ที่หลวงพ่อเขียนลงในตะกรุด มีพุทธคุณทางด้านใดบ้างครับ ?

    ก็เน้นไปทางมหาอุดทั้งหมด รวมทั้งเมตตามหานิยมด้วย

    ยันต์มหาอุด และยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ใครเอาไปใช้แล้ว จะป้องกันอันตรายได้รอบตัวรอบทิศทาง เป็นวิชาที่อาตมา ได้สืบทอดมาจากหลวงพ่อเต๋ สมัยก่อน พอหลวงพ่อเต๋ทำตะกรุด อาตมาจะเป็นคนช่วยท่านเขียนยันต์ และช่วยถักไหมคลุมตะกรุด แล้วให้หลวงพ่อเต๋เป็นคนปลุกเสก



    วิธีทำตะกรุดสามหู ต้องทำอย่างไรบ้างครับ ?

    การทำตะกรุดแต่ละดอก จะต้องเขียนยันต์ลงบนกระดาษข่อยทั้งสองหน้า เสร็จแล้วก็ต้องม้วน จากนั้น ก็เอาไปถักแต่เดี๋ยวนี้ก็ให้ลูกศิษย์มาช่วยกันถัก เนื่องจาก สายตาของอาตมาไม่ค่อยดี เมื่อถักเสร็จแล้ว อาตมาก็จะทำพิธีปลุกเสกเป็นเวลา ๑ ไตรมาส จากนั้น จึงจะให้ลูกศิษย์ หรือญาติโยมเอาไปใช้แขวนคอ หรือคาดเอว

    วิธีใช้ตะกรุดสามหูให้ได้ผล คนใช้จะต้องทำอย่างไรบ้างครับ ?

    ตามตำราที่อาตมาได้ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อเต๋ท่านระบุเอาไว้ว่า ใครที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้ชัยชนะต้องเอาตะกรุด นี้ไว้ข้างหน้า วิ่งหนีภัยวิบัติก็ให้เอาตะกรุดไว้ข้างหลัง จะเดินทางไปหาเจ้าหานายให้มีเมตตามหานิยม ก็ให้เอาตะกรุดนี้ไว้ได้ทั้งซ้าย หรือขวา

    หลวงพ่อสร้างตะกรุดได้ในแต่ละปีกี่ดอกครับ

    มันไม่แน่นอนหรอก จริงๆ มันอยู่ที่สุขภาพและกำลังของอาตมาด้วยนะ ปีๆ หนึ่งทำตะกรุดได้ประมาณ ๒๐๐ กว่าดอก และส่วนใหญ่ตะกรุดสามห่วงเหล่านี้อาตมาก็จะทำในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา

    หลวงพ่อเริ่มทำตะกรุดสามหูมานานแค่ไหนแล้วครับ ?

    อาตมาเริ่มทำมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเต๋ยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็เคยเอาไปทดลองยิง ก็ยิงไม่ออก

    โอโห..ตะกรุดของหลวงพ่อ ถึงขนาดลองยิงได้เลยเหรอครับ !

    ก็ลองกันเลย หรือแม้แต่วัตถุมงคลอย่างอื่นๆ ของอาตมา อย่างพระกริ่ง เมื่ออาตมาทำเสร็จแล้วก็ได้มีการเอาไปลอง ยิงกันเลย ปืนยิงยังไงก็ยิงไม่ออก นี่แหละ..เป็นเพราะคาถามหาอุดที่หลวงพ่อเต๋สอนไว้


    สมัยที่หลวงพ่อเต๋ยังมีชีวิตอยู่ ท่านยังมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องสักยันต์ ด้วยใช่มั้ยครับ ?

    ก็มีคนเดินทางมาให้ท่านสักยันต์กันมาก สักเสร็จท่านก็จะลองเอามีดฟันเลย ก็ฟันไม่เข้า

    พอสักยันต์เสร็จ ก็ต้องลองของให้ดูกันเลยเหรอครับ ?

    สมัยที่อาตมาเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อเต๋ ก็เคยถูกลองวิชาหลายแห่งเหมือนกัน จำได้ว่าแถวๆ เมืองกาญจนบุรี ก็จะถูกลองหลายแห่ง สมัยนั้น ก็มีลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋จากจังหวัดพิษณุโลก และกำแพงเพชร มาขอสักยันต์กันเยอะ ท่านก็จะสักยันต์น้ำมันให้ เมื่อสักเสร็จเขาก็ขอลองเลย หลวงพ่อเต๋ก็เอามีดคมๆ ฟันลงกลางหลังเลย เป็นเรื่องที่อัศจรรย์ เหมือนกัน เพราะคมมีดมันไม่เข้าเนื้อเลยแม้แต่น้อย

    แล้วหลวงพ่อเต๋ได้สักยันต์ให้หลวงพ่อด้วยหรือเปล่าครับ ?

    หลวงพ่อเต๋ได้สักยันต์ให้อาตมาด้วยตัวเอง เป็นการสักน้ำมัน ทำพิธีเสาร์ ๕ สองครั้ง ปัจจุบันนี้หากมีลูกศิษย์หรือญาติโยม มาขอให้สักยันต์ อาตมาก็ได้สักยันต์น้ำมันตามตำราของหลวงพ่อเต๋เหมือนกัน

    วิชาสักยันต์ของหลวงพ่อเต๋มีพุทธคุณดีทางไหนครับ ?

    สมัยก่อน ที่อาตมาเพิ่งบวชใหม่ๆ ในย่านนี้จะมีพวกโจร และนักเลงมากมาย ทำให้ยันต์ที่สักของหลวงพ่อเต๋ จึงต้องเน้นไปทางหนังเหนียว ยิงไม่ออก ขนาดเสือผาด ทับสายทอง ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เขายังมาขอเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋ และให้ท่านสักยันต์ให้ แล้วก็ไปทดลองยิง ก็ยิงไม่เข้าด้วย ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อเต๋ เป็นที่รู้จักของลูกศิษย์ในวงกว้าง

    แต่ถ้าจะพูดถึงวัตถุมงคลที่ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อเต๋โด่งดังมาก ต้องเป็น "กุมารทอง" ใช่มั้ยครับ ?

    อึม..ใช่ (ยิ้ม)



    จริงๆ แล้ว กุมารทองตามตำราของหลวงพ่อเต๋ มีตัวตนจริงหรือเปล่าครับ และใช้ดีทางไหนครับ ?

    ตามความเห็นของอาตมาก็ต้องมีตัวตน เพราะกุมารทองที่ว่านี้ เมื่อมีกุมารทองอยู่จำนวน ๑๐๐ องค์ ก็ต้องมีเป็นวิญญาณ ๑๐๐ ดวง ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ญาติโยมนำเอาไปใช้แล้วจะก่อให้เกิดผลทางโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ในการค้าขาย ก็จะทำให้ทำมาค้าขึ้น

    กุมารทองของหลวงพ่อสร้างจากอะไรครับ ?

    กุมารทองจะทำมาจากดินผสมว่าน แล้วบรรจุเลขยันต์ และอาคมพิเศษลงไป รูปร่างสวยงามน่ารัก ใช้ได้เหมือนลูกกรอกหรือรักยม มีไว้ประจำบ้านเรือน สำนักงาน หรือจะเป็นห้างร้านต่างๆ จะทำให้เกิดลาภผล และเป็นสิริมงคลแก่ผู้นำไปบูชา

    นอกจาก ที่วัดสามง่ามแล้ว ก็ยังมีวัดต่างๆ นิยมสร้างของขลังในรูป "กุมารทอง" กันเยอะพอสมควร ไม่ทราบว่าเหมือนกัน หรือต่างกันอย่างไรกับกุมารทองของหลวงพ่อครับ ?

    ไม่เหมือนกันหรอก ที่เขาทำกันส่วนมากจะทำกันโดยรู้ส่วนผสมเพียงอย่างเดียว แต่ปลุกเสกไม่เป็น ซึ่งก็มีหลายวัดเหมือนกันที่ไปหลอกลวงญาติโยม โดยใช้ชื่อ และวัดของอาตมาก็มี ทำให้มีคนหลงเชื่อเช่าไปบูชา ส่วนใหญ่ที่ถูกหลอกจะเป็นชาวสิงคโปร์ ที่อาตมายืนยันได้เพราะมีลูกศิษย์มาหาที่วัด แล้วก็เอากุมารทองออกมาให้ปลุกเสก อาตมาเห็นแล้วก็มั่นใจเลยว่าเป็นของปลอม

    การปลุกเสกกุมารทองแตกต่างจากการปลุกเสกวัตถุมงคลอื่นๆ อย่างไรบ้างครับ ?

    วัตถุมงคลแต่ละอย่าง ก็จะมีพุทธคุณแตกต่างกัน การปลุกเสกก็ไม่เหมือนกัน ต้องแยกกันปลุกเสก จะเสกรวมกันไม่ได้ เนื่องจาก กุมารทองจะเน้นไปทางทำมาค้าขาย ไปทางเมตตามหานิยม ไม่ได้ลงคาถามหาอุด จึงกันกระสุนปืนไม่ได้ ฉะนั้น ถ้าต้องการพุทธคุณทางด้านมหาอุด ต้องเป็นตะกรุดสามหู



    แล้วระหว่างพระเครื่อง กุมารทอง และตะกรุดสามหู อย่างไหนมีพุทธคุณดีที่สุดครับ ?

    ทุกอย่างที่อาตมาทำการปลุกเสกนั้น ก็ต้องมีความแตกต่างกันไป เมื่อมีพุทธคุณไม่เหมือนกัน ในการนำเอาไปใช้จึงมี พุทธคุณกันคนละแบบ แต่ตะกรุดสามหูที่ทำออกมานั้นจะเป็นสิ่งที่ใช้ดีที่สุด เพราะเป็นเรื่อง ของอยู่ยงคงกระพัน อีกทั้ง เรื่องเมตตาค้าขาย ก็ใช้ได้

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อจะปลุกเสกตลอดไตรมาส ๓ เดือนทั้งหมดหรือเปล่าครับ ?

    จะปลุกเสกเป็นไตรมาสเป็นส่วนใหญ่ ก็จะนั่งปลุกเสกที่หน้ากุฏิแห่งนี้ บางส่วนก็มีญาติโยมนำวัตถุมงคล มาฝากให้อาตมาปลุกเสกให้ก็มี

    เวลาปลุกเสก หลวงพ่อจะปลุกเสกเดี่ยวเลยใช่มั้ยครับ ?

    ปลุกเสกวัตถุมงคลคนเดียวก็เพียงพอ ไม่ต้องปลุกเสกเป็นหมู่หรอก เพราะของจะดี หรือไม่ดีก็อยู่ที่คนนำไปใช้นั่นเอง

    ในสมัยนี้ เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคล ก็มักจะมีการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง มาร่วมพิธีปลุกเสก กันมากมาย ซึ่งการปลุกเสกหมู่อย่างนี้ จะไม่ดีกว่าปลุกเสกเดี่ยวเหรอครับ ?

    ไม่ถูกต้องนะ ที่ผ่านมาก็เห็นว่ามีการนิมนต์หลายพระอาจารย์มาร่วมในพิธีปลุกเสกนั้น อาตมาว่าเป็นการเอาอาจารย์ มาโฆษณากันมากกว่า หลายครั้งที่อาตมาถูกนิมนต์ไปร่วมพิธีปลุกเสก ก็ยังไม่รู้เลยว่าต้องไปปลุกเสกวัตถุมงคลอะไร บางครั้งการสร้างวัตถุมงคลก็ทำกันไม่ค่อยเข้ากับพระพุทธศาสนาเท่าไร

    ปัจจุบัน วัดต่างๆ นิยมสร้างวัตถุมงคลกันมากมายก่ายกอง ขนาดพระสงฆ์บางรูป บวชได้ไม่เท่าไหร่ก็ยังออกวัตถุมงคลกันแล้ว หลวงพ่อมองอย่างไรบ้างครับ ?

    พระอายุ ๓๐-๔๐ ปี มาสร้างวัตถุมงคลนั้น อาตมาว่าไม่ได้เรื่องนะ เพราะพระสงฆ์พรรษาน้อยเหล่านี้มีวิชาคาถาอาคม ยังไม่มีความแกร่งกล้ามากนัก จะมีความแตกต่างมาก หากเปรียบกับพระสงฆ์ที่มีพรรษามาก และจะเป็นเกจิอาจารย์ได้ น่าจะมีอายุตั้งแต่กว่า ๖๐-๗๐ ปี ขึ้นไป เนื่องจาก เป็นช่วงเวลาที่เกจิอาจารย์เหล่านี้ได้ฝึกวิชาได้เชี่ยวชาญ ยิ่งพระสงฆ์สมัยก่อนจะมีความขลังมากกว่า เพราะว่าว่าท่านมีสัจจะ ไม่ได้เน้นโฆษณาขายของเหมือนกับ พระสงฆ์หลายวัดในทุกวันนี้



    ตลอดระยะเวลา ๕-๖ ปีมานี้ "พุทธพาณิชย์" หรือการสร้างพระเครื่อง และวัตถุมงคลต่างๆ มาเป็นธุรกิจซื้อขายได้แพร่ระบาดไปในวัดหลายแห่งทั่วประเทศ หลวงพ่อคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ ?

    วัดหลายแห่ง ได้มีการสั่งทำวัตถุมงคลมาจากโรงงานเสียเป็นส่วนใหญ่ทำให้วัดต่างๆ มีภาพที่ออกมากลายเป็นพุทธพาณิชย์ เพื่อไม่ให้เป็นพุทธพาณิชย์มากไปกว่านี้ แนวทางที่ดีนั้น อาตมาว่าทางวัดควรจะมีการทำวัตถุมงคลขึ้นมาเอง เหมือนกับอาตมา ที่ได้ทำวัตถุมงคลเองทั้งหมด ส่วนที่สั่งทำจากโรงงานก็จะเป็นพวกเหรียญเพียงอย่างเดียว เพราะอาตมาเชื่อว่าตรงนี้น่าจะช่วยลดความ เป็นพุทธพาณิชย์ลงไปได้บ้าง

    อย่างพระผงสมเด็จต่างๆ อาตมาก็จะผสมผงเอง เพื่อให้ญาติโยมเอาไปใช้แล้วเกิดเป็นผลดี อาตมาจึงต้องผสมส่วนผสม ด้วยตัวเองทุกขั้นตอน ไม่ใช่ไปทำมาจากปูนขาว ปูนปลาสเตอร์ แล้วก็ปั๊มมาจากโรงงาน แล้วก็มาหลอกขายกันเยอะแยะ พระผงของอาตมาก็จะไม่เคยสั่งปั๊มมาจากโรงงาน แต่ที่สั่งปั๊มจากโรงงานมีเพียงอย่างเดียว คือเหรียญเท่านั้น

    ทำไมหลวงพ่อถึงไม่ให้ศูนย์พระเครื่องสร้างวัตถุมงคลให้กับทางวัด ล่ะครับ ?

    ที่อาตมาไม่ให้ศูนย์พระเครื่อง หรือคนนอกที่เป็นนายทุน เข้ามาสร้าง วัตถุมงคลให้กับทางวัด สาเหตุเพราะอาตมาไม่อยาก ให้มีในเรื่องของ ผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง จนเป็นต้นเหตุทำให้เกิดกรรม การครึ่งหนึ่ง วัดอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะสร้างความวุ่นวายไม่รู้จบ และจะเห็นได้ว่าอุโบสถหรือ เสนาสนะต่างๆ ภายในวัดสามง่ามทั้งหมดจะ เป็นปัจจัยที่ได้รับมา จากญาติโยมที่ได้ร่วมบริจาคสมทบทุนในการก่อสร้าง



    การนำวัตถุมงคลไปใช้ให้เกิดดี มีความเข้มขลัง คนนำไปใช้ต้อง ปฏิบัติตัวอย่างไรครับ ?

    วัตถุมงคลจะใช้ได้ดีหรือไม่ดี ไม่ต้องไปดูที่ไหน มันอยู่ที่คนเอาไปใช้นั่นแหละ เมื่อคนนั้นประพฤติดีปฏิบัติดี วัตถุมงคลเหล่านั้นก็จะได้ผล และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัย

    สมัยที่เรียนกับหลวงพ่อเต๋ ท่านจะไม่บอกหรอกนะว่าใช้แล้วจะดีอย่างไร ท่านจะบอกเพียงว่า ใครอยากได้ก็เอาไป ใครไม่อยากได้ก็ไม่ต้องเอาไป (หัวเราะ) โดยท่านจะย้ำเสมอว่า ทองคำอยู่ที่ไหน ก็ยังเป็นทองคำ เมื่อใครนำวัตถุมงคลไปใช้แล้ว ขออย่างเดียวห้ามพูดคำหยาบ เช่น ให้ของลับ ด่าพ่อล่อแม่ ห้ามเด็ดขาด ถ้าละในสิ่งที่ว่านี้ได้ ของถึงจะขลัง

    เห็นข่าวว่า หลวงพ่อได้รับนิมนต์เดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์บ่อยๆ ใช่มั้ยครับ ไม่ทราบว่าหลวงพ่อไปทำอะไรบ้างครับ ?

    อาตมาไปสิงคโปร์ประมาณ ๑๐ ครั้งแล้ว ส่วนใหญ่ที่ไปก็จะรดน้ำมนต์ ลงนะหน้าทอง เทศนาธรรม และก็ปลุกเสก วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังให้กับญาติโยมที่สิงคโปร์ ตอนที่ไปสิงคโปร์ อาตมาต้องนั่งรับญาติโยม ที่มาไหว้ตั้งแต่เที่ยง จนกระทั่งถึง ๒ ทุ่ม ตอนนี้ ก็มีลูกศิษย์มานิมนต์ให้ไปโปรดญาติโยม ที่ประเทศบรูไน และฮ่องกงอีก อาตมาก็ไปไม่ไหวแล้ว ไปแต่ละครั้งก็เหนื่อย อายุอาตมาก็มากขึ้นด้วย

    ธรรมะข้อไหนที่หลวงพ่อมักพูดให้ญาติโยมฟัง และแนะให้นำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันครับ ?

    ก็ให้ประพฤติปฏิบัติตัวดี คิดดี ทำดี ที่ทำออกมาจากใจ ให้มีศีล สมาธิ ปัญญา ให้ละความโลภ ยอมรับในความวิญญาณ เวทนา และสิ่งสำคัญ ยอมรับสังขารของตัวเองว่าไม่ใช่ของเรา จึงไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น เนื่องจากความหลงเป็นสิ่งไม่รู้จริง ฉะนั้น ต้องให้ทุกคนรู้เท่าสังขาร ตัวเอง ทุกอย่างห้ามไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฟันหัก ผมหงอก เพราะมันเป็นเรื่อง อนิจจัง คิดมากไป ก็จะเป็นทุกข์

    อาตมาอยากให้ญาติโยมรู้ไว้ว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เพราะพระพุทธเจ้าได้แสวงหา คำตอบจนค้นพบแล้วว่า ความไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ตาย กระทั่งนิพพาน รู้แจ้งเห็นจริงว่า มนุษย์หลีกหนีสิ่งเหล่านี้ไปไม่พ้น

    หลวงพ่อเต๋ท่านจะไม่บอกว่า วัตถุมงคลใช้แล้วจะดีอย่างไร ท่านจะบอกเพียงว่า ใครอยากได้ก็เอาไป ใครไม่อยากได้ก็ไม่ต้องเอาไป ท่านจะย้ำเสมอว่า ทองคำอยู่ที่ไหน ก็ยังเป็นทองคำ.."
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sophon_ka

    sophon_ka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +84
    <TABLE class=bodystyle borderColor=#333366 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=600 border=1><TBODY><TR align=middle bgColor=#26273c><TD colSpan=3>[​IMG] </TD></TR><TR vAlign=top><TD align=middle bgColor=#003399>ข้อความ :</TD><TD bgColor=#006699 colSpan=2>ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อเต๋ คงทอง จาริกธุดงค์ ผ่านไปทางจังหวัดพิจิตร
    ที่จังหวัดนี้มีลูกศิษย์ และผู้เคารพ ศรัทธาท่าน เป็นจำนวนมาก

    เมื่อทราบว่า หลวงพ่อเต๋ธุดงค์มาปักกลด อยู่ที่ชายทุ่ง จึงพากันมากราบนมัสการ
    ไม่ขาดสาย และขออาราธนาให้ท่านอยู่หลายวัน เพื่อที่พวกเขาจะ
    ได้มีโอกาส ประกอบกุศลบ้าง ซึ่งท่านก็รับนิมนต์

    ระหว่างที่ปักกลดอยู่ที่นี่ ลูกศิษย์ได้ถวายปัจจัยเพื่อร่วมบริจาค ให้ท่านนำ
    ไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดสามง่าม ซึ่งชำรุดทรุดโทรม เป็นจำนวนเงินก้อนใหญ่ที
    เดียว

    ข่าวที่หลวงพ่อเต๋มีเงินบริจาค ติดตัวจำนวนมาก ทำให้พวกโจรกลุ่มหนึ่ง
    คิดแย่งเอาเงินจำนวนนั้นไปง่าย ๆ ดังนั้นในตอนกลางคืน คืนหนึ่ง กลุ่มคน
    ใจบาปซึ่งประพฤติชั่วเป็นอาจิณ พร้อมอาวุธครบมือจึงมาปรากฏตัว ที่กลด
    ของหลวงพ่อเต๋ ไอ้คนเป็นหัวหน้า ชักปืนออกมาแล้ว ขุ่มขู่ให้ ท่านมอบเงิน
    ทั้งหมดให้มัน

    หลวงพ่อเต๋ มิได้ตระหนกตกใจ และมิได้มีอารมณ์โทสะ ที่คนใจบาป
    หยาบช้ามาแสดงกิริยาคุกคามจะปล้นพระ จิตของท่านเปี่ยมด้วยความเวทนา
    และเมตตาต่อผู้ที่เห็นผิด เป็นชอบถึงเพียงนี้ ท่านจึงกล่าวกับโจรเหล่านั้นว่า

    'เงินจำนวนเล็กน้อยที่ญาติโยมบริจาคให้มานี้ เขามีเจตนาให้ไปสร้างกุฏิ
    เมื่อพวกเธอเอาไปแล้ว พระเณรจะเอากุฏิที่ไหนอยู่อาศัย เพื่อปฏิบัติธรรมเล่า'

    แล้วท่านได้แสดงเหตุผลทางธรรมด้วยถ้อยคำกินใจอีกหลายคำ โจรเหล่า
    นั้นก็พลันบังเกิดความสำนึกผิด มองเห็นผลแห่งบาปบุญ คุณโทษขึ้นมา
    อย่างไม่น่าเป็นไปได้

    แต่ละคนรีบเก็บอาวุธร้าย แล้วก้มลงกราบหลวงพ่อเต๋ โดยพร้อมเพรียงกัน
    ยิ่งกว่านั้นโจรทุกคน ต่างควักเงิน ที่ติดตัวออกมา ถวายให้กับหลวงพ่อ เพื่อร่วม
    บริจาคสร้างกุฏิคนละ เล็กน้อย หลวงพ่อเต๋ได้กล่าว คำอนุโมทนาให้เกิดปีติ
    และพรมน้ำ พระพุทธมนต์เป็นสิริมงคลก่อนที่ พวกโจรกลับใจ จะกราบลาไป



    อีกครั้งหนึ่งที่หลวงพ่อเต๋ คงทอง เกี่ยวเนื่องกับพวกโจร

    เช้าวันนั้น พวกเสือปล้นหลายสิบคน ยกขบวนมาชุมนุมกันในป่าหลัง
    วัดสามง่าม กำลังรอฤกษ์ชัยจะเข้าปล้นตลาดเกาะแรด ตอนบ่าย
    ข่าวเสือปล้นล่วงรู้ ถึงหลวงพ่อเต๋เข้า ท่านจึงให้ลูกศิษย์ชาวบ้านมาช่วย
    กันหุงข้าวต้มแกงขึ้น แล้วให้ไปตามหัวหน้าเสือปล้นมาพบ

    เมื่อหัวหน้าโจรนำบริวารมาที่วัด หลวงพ่อเต๋ก็จัดการเลี้ยงดูจนอิ่มหนำ
    สำราญดี แล้วท่านก็ถามว่า 'จะขอบิณฑบาตทุกคน มาเป็นลูกศิษย์จะ
    ยินยอมไหม หากเป็นลูกศิษย์แล้วจะให้ของดี'

    พวกโจรยอมถวายตัวเป็นลูกศิษย์ โดยพร้อมเพียง

    เมื่อให้สัจวาจาเป็นศิษย์หลวงพ่อเต๋ เรียบร้อยแล้ว แล้วก็มอบของดี
    ให้แก่ทุกคนตามสัญญา ของดีของท่านคือ พระธรรมคำสั่งสอน ของพระ
    พุทธเจ้า ที่สอนให้ ยึดมั่นต่อ การกระทำความดี ละเว้นความชั่ว
    หลวงพ่อเต๋ แสดงธรรมชี้ทางสว่าง ให้บรรดาเสือปล้นฟัง
    พอสมควรแก่เวลา จึงได้ยุติ


    เป็นอันว่าเสือปล้นก๊กนั้น เลิกล้มแผนการปล้นตลาดเกาะแรด
    โดยเด็ดขาด แล้วแยกย้ายกันกลับถิ่นของตนไปจนหมด ทำให้
    ชาวตลาดและ ชาวบ้านรอดพ้นจากภัยโจรไปได้อย่างหวุดหวิด
    ด้วยบารมีธรรม ของหลวงพ่อเต๋ คงทอง เพียงรูปเดียว

    ในยุคสมัยนั้น บ้านเมืองยังไม่เจริญ เส้นทางคมนาคมมีเพียง
    ถนนสายหลักไม่กี่สาย พื้นที่นอกเขตกรุงเทพมหานครหากไม่เป็น
    ท้องทุ่งท้องนา ก็เป็นป่าดงหนาแน่น ชุมชนหมู่บ้านอยู่อาศัยรวมกัน
    เป็นกลุ่ม และแต่ละหมู่บ้านก็อยู่ห่าง ๆ กัน

    การติดต่อคมนาคม ระหว่างชุมชนต่อชุมชน ต้องอาศัยทางน้ำ
    เป็นทางสัญจร ด้วยเรือพายเรือแจว หากเป็นทางบก ก็ต้องเดินไป
    หรือใช้เกวียนไปมาหาสู่กัน และเสียเวลาเป็นวัน ๆ กว่าจะถึงที่หมาย

    และในสมัยนั้น เกิดมีเสือปล้นโจรร้ายตั้งเป็นก๊ก เป็นเหล่าขึ้นมา มากมาย
    ประกอบกับการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นไปอย่างยากลำบาก

    เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนกำลังไปโดยสะดวก รวดเร็ว เป็นช่องทางให้พวกโจร
    กำเริบเสิบสานยกพวกเข้าปล้น สะดมสุจริตชนอย่างไม่หวั่นเกรง
    อาญาบ้านเมือง ผู้มีฐานะมั่งคั่ง ร่ำรวยจึงมักตกเป็นเหยื่อ ของเสือปล้นเหล่านี้
    แทบทุกราย บางหมู่บ้านถึงกับถูกปล้น ยกหมู่บ้านกันเลยทีเดียว
    สร้างความเดือดร้อน ทุกข์เข็ญ ให้แก่ราษฎร เป็นอย่างยิ่ง

    บ้านสระพัง จังหวัดนครปฐม ก็เป็นอีกหมูบ้านหนึ่งที่ถูกโจรปล้น
    ทั้งหมู่บ้านหนึ่ง ชาวบ้านสระพัง หวาดกลัวภัยโจรถึง กับอพยพ โยกย้าย
    ไปอาศัยญาติพีน้องอยู่ที่อื่นหมด ปล่อยให้หมู่บ้านทิ้งร้างว่างเปล่าอย่าง
    น่าสังเวช



    มีชาวบ้านสระพังรายหนึ่ง มาอ้อนวอนให้หลวงพ่อเต๋ ซื้อเรือนไม้ฝากระดาน
    ของตนในราคาถูก ๆ เพราะตั้งใจไม่หวน กลับมาอีก ตลอดชีวิต หลวงพ่อเต๋
    ก็ซื้อไว้ แล้วให้ลูกศิษย์นำเกวียนหลายเล่มไปรื้อบ้านหลังดังกล่าวเพื่อขนกลับ
    มาสร้างกุฏิพระ เมื่อขบวนเกวียนไปถึงหมู่บ้าน พวกโจรก็กรูกันเข้ามาล้อม
    หมาย จะปล้น เอาทรัพย์สิน เงินทองแล้วยึดเอาเกวียนเอาวัวเทียมไปให้หมด

    ลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋พากัน ตื่นตะลึงคิดไม่ถึง ว่าจะมีพวกโจร มาอาศัยอยู่
    ในหมู่บ้าน ร้าง แต่ก่อนจะมีอะไรเกิดขึ้น หลวงพ่อเต๋ก็เดินดุ่ม ตรงเข้ามาโดย
    ไม่มีใครว่าท่าน มาจากไหน พวกเสือปล้นหันไปดู พอเห็นว่าเป็นหลวงพ่อเต๋
    วัดสามง่าม ก็พากันทรุดลง นั่งประนมมือ เป็นแถวด้วยความเคารพ เลื่อมใส
    ในกิตติคุณ ของท่าน บางคนเป็นกลุ่มโจรมี วัตถุมงคลของท่านคล้องคออยู่
    ก็เท่ากับศิษย์โดยปริยาย

    เมื่อเสือปล้นรู้ว่าหลวงพ่อเต๋ จะมารื้อบ้าน ไปสร้างกุฏิ พวกโจรก็ช่วยกัน
    กับลูกศิษย์ หลวงพ่อ รื้อบ้านหลังดังกล่าว มาใส่เกวียนจน เสร็จเรียบร้อยใน
    เวลาไม่นานนัก

    จากนั้นพวกโจร ก็พากันฝากตัวเป็นศิษย์ และขอของดีไว้ปกป้อง คุ้มครอง
    ตน หลวงพ่อเต๋ก็เมตตานำเหรียญบ้าง ตะกรุดบ้าง จากในย่ามออกมาแจกให้
    ทุกคน พร้อมกับเตือนสติและนำ ให้บรรดาเสือปล้น คนร้ายจดจำเอาไว้ว่า

    เครื่องมงคลของท่าน จะเข้มขลังมีประสิทธิผลได้ สำหรับผู้ประพฤติดี
    ประพฤติชอบเท่านั้น หากได้ของดีจากท่านไปแล้ว แต่ไม่ยึดมั่นศีล๕
    ยังตั้งหน้าประกอบกรรมชั่ว คอยแต่เบียดเบียน ทำร้ายผู้อื่นไม่ย่อมหยุดไม่
    ยอมเลิกรา ของมงคลก็จะเสื่อม ไปจากตัวในที่สุด

    พวกโจรทุกคน ต่างก็สาธุ รับคำจะนำคำสอน ของท่านไปปฏิบัติ โดยพร้อม
    เพรียงกัน

    เป็นอันว่าการรื้อบ้าน ในถิ่นเสือปล้น นำมาปลูกกุฏิได้สำเร็จ ลุล่วงไป
    โดยไม่มีเหตุร้ายใด ๆ เกิดขึ้น ขบวนเกวียนบรรทุกไม้ ที่รื้อบ้าน เป็นชิ้นส่วน
    เดินทางกลับวัดสามง่าม โดยสวัสดิภาพ
    สำหรับหลวงพ่อเต๋ คงทอง ท่านได้เดินตามขบวนเกวียนมาจนถึงวัด
    เพราะตลอดชีวิตที่ครองสมณะ หลวงพ่อเต๋ จะไม่ยอมนั่งพาหนะที่ใช้สัตว์
    ลากจูง เป็นอันขาด เพราะไม่ต้อง การสร้างบาป เพียงเล็กน้อย
    ด้วยการ เพิ่มความทุกข์ ยากให้สัตว์ เหล่านั้นเข้าไปอีก

    นี่คือปฏิปทาส่วนหนึ่งของ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดอรัญญิการาม
    (วัดสามง่าม) ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. sophon_ka

    sophon_ka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +84
    <TABLE class=bodystyle borderColor=#333366 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=600 border=1><TBODY><TR align=middle bgColor=#26273c><TD colSpan=3>[​IMG] </TD></TR><TR vAlign=top><TD align=middle bgColor=#003399>ข้อความ :</TD><TD bgColor=#006699 colSpan=2>รูปหล่อบูชาครู หลวงพ่อเต๋ =>> เนื้อปูนผสมผง ขนาด 5 นิ้ว สภาพสวยสมบูรณ์ ลงสีเดิมๆสุดคลาสสิกครับ // ภาคประสบการณ์ ปาฏิหารย์นะปัดตลอดหลวงพ่อเต๋ => คนรุ่นเก่าแก่ของที่วัดเล่าให้ฟังว่าสมัยเมื่อก่อนใครที่สักกับหลวงพ่อเต๋ จะมีผ้าขาวบางรองนั่น เวลาท่านสักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเป่าพรวดเดียวยันต์ที่สักลงกระหม่อมไปติดที่ผ้าขาวรองนั่งของผู้สักทุกคน มีคนรู้เห็นหลายคน ลองสอบถามที่วัดได้เลยครับ เรื่องจริงไม่ได้สร้างข่าวปลุกกระแสแต่ประการใด // เผยแพร่ได้เพื่อบูชาคุณหลวงพ่อ และเพื่อให้ลูกศิษย์ที่สรัทธาเลื่อมใสอยู่แล้วจะได้มั่นใจยิ่งขึ้น ใช้ของท่านแล้วจะได้เห็นผล ตามที่ท่านเคยบอกไว้ว่า "ของดี ต้องลองได้"
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sophon_ka

    sophon_ka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +84
    <TABLE class=bodystyle borderColor=#333366 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=600 border=1><TBODY><TR align=middle bgColor=#26273c><TD colSpan=3>[​IMG] </TD></TR><TR vAlign=top><TD align=middle bgColor=#003399>ข้อความ :</TD><TD bgColor=#006699 colSpan=2>หนังหน้าผากดีทางมหาอำนาจสูงมาก แต่ทั้งนี้เสือนั้นมีดี 3 อย่าง => (1)...เป็นเจ้าป่า มีตบะเดชะมหาอำนาจ แค่เพียงกลิ่นสาปเสือโชยไปกระทบสัตว์อื่นเป็นต้องหวาดกลัว (2)...ถึงแม้เสือจะเป็นสัตว์ที่ดุและน่ากลัวแต่คนก็อยากเห็นและอยากเจอเสือ ข้อนี้ท่านว่าเป็นเมตตามหานิยมครับ (3)...หากินคล่องไม่มีฝืดเคืองเรื่องอาหาร // อุปเท่ห์การใช้ตะกรุด ๓ ห่วง =>> ถ้าสู้...รูดตะกรุดไว้ข้างหน้า // ถ้าหนี...รูดตะกรุด ไว้ข้างหน้า // เข้าหาผู้หญิง...รูดตะกรุดไว้ข้างซ้าย // เข้า หาผู้ใหญ่ ...รูดตะกรุดไว้ข้างขวา (ญ.ซ้าย ช.ขวา เป็น เมตตาคนละอย่าง) // ภาคประสบการณ์ ปาฏิหารย์นะปัดตลอดหลวงพ่อเต๋ => คนรุ่นเก่าแก่ของที่วัดเล่าให้ฟังว่าสมัยเมื่อก่อนใครที่สักกับหลวงพ่อเต๋ จะมีผ้าขาวบางรองนั่น เวลาท่านสักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเป่าพรวดเดียวยันต์ที่สักลงกระหม่อมไปติดที่ผ้าขาวรองนั่งของผู้สักทุกคน มีคนรู้เห็นหลายคน ลองสอบถามที่วัดได้เลยครับ เรื่องจริงไม่ได้สร้างข่าวปลุกกระแสแต่ประการใด // เผยแพร่ได้เพื่อบูชาคุณหลวงพ่อ และเพื่อให้ลูกศิษย์ที่สรัทธาเลื่อมใสอยู่แล้วจะได้มั่นใจยิ่งขึ้น ใช้ของท่านแล้วจะได้เห็นผล ตามที่ท่านเคยบอกไว้ว่า "ของดี ต้องลองได้" // ไม่ได้สักกับท่าน ก็ใช้ตะกรุดของท่านแทนได้ครับ ลงไว้ครบทุกด้าน เป็นมหารูดครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sophon_ka

    sophon_ka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +84
    [​IMG]
     
  9. pharm.taung

    pharm.taung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +432
    ศรัทธาท่านมากครับ
    หากใครได้อ่านประวัติของท่าน แล้วน้อมนำมาปฏิบัติ
    ในเรื่องพรหมวิหาร4 จะดีมากๆเลยครับ สาธุ
     
  10. jumpasak

    jumpasak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +460
    สาธุ กราบหลวงพ่อด้วยความศรัทธายิ่ง
    เมื่อวานไปวัดสามง่าม ได้กราบหลวงปู่แย้ม ด้วย
    ให้ท่านจารหัวให้ด้วย สุดยอด โชคดีมั่กมากหลวงปู่อยู่พอดี
    ไปตอนเย็นๆสี่ห้าโมงเย็น ตอนหัวปู่จารหัว ขนลุกสุดยอด
     
  11. เตมินทร์

    เตมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +302
    อยากไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจังเลยเดี๋ยวต้องหาทางไปให้ได้ชอบมากๆครับ ปกติก้ติดคอยู่ ครับ ขุนแผนอินโดจีน รุ่นแรก อิอิ เมตตาสุดๆ
     
  12. หลวงจีน

    หลวงจีน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    861
    ค่าพลัง:
    +1,326
    ตอนนี้พระขุนแผนอินโดจีน บูชากันเท่าไหร่ บูชาได้ที่ไหนบ้าง
     
  13. สองแคว

    สองแคว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +4
    ส่วนผมเลือกใช้ ขุนแผน กุมารนอนโลงปี 2503 ขึ้นคอประจำครับ เมตตา โชคลาภ ดีมากครับ:cool::cool:
     
  14. บอย68

    บอย68 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +521
    เหรียญรุ่นแรก ฝีมือดีนะครับ ระวังกันด้วย...
     
  15. เตมินทร์

    เตมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +302

    แล้วแต่สภาพครับผมแต่ถ้าสวยๆมีจมูกมีตา ต้องว่ากันที่ ราคา 18000+ ครับผมยิ่งถ้าเนื้อดำนี้ 25000+ ครับผม
     
  16. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ท่านเป็นพระที่เก่งและศักดิ์สิทธิ์มากองค์หนึ่ง ผมยังเคยไปกราบท่าน ในขณะที่ตอนนั้นอายุแค่ ๑๕ ปี อยู่ในราวปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ทางวัดจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตพอดี ยังบูชาพระผงรูปเหมือนนั่งกระต่ายติดมือมาด้วย (ท่านเกิดปีเถาะ)

    ก่อนมาอยู่อเมริกา ได้ไปกราบหลวงพ่อแช่มที่วัด ตอนนั้นยังมีของ ๆ ท่านตกค้างอยู่ที่วัด บูชาพระเนื้อดินมา ๒ องค์ และตะกรุด ๑ ดอก เป็นตะกรุดโทนพระเจ้าห้าพระองค์ นำภาพเท่าที่ถ่ายรูปไว้แล้วมาให้ชมกันครับ

    สำหรับพระลีลาทุ่งเศรษฐี เป็นของตกทอดกันมาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2010
  17. เด็กบางแค

    เด็กบางแค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +1,989
    ที่บริษัทพ่อผมเค้า มีกุมารทองของหลวงปู่อยู่ มีประสบการณ์กับกุมารทองของท่านอยู่หลายครั้งเหมือนกัน อย่างเช่น บางวันไม่มีลูกค้าเข้าบริษัทก็จะขอให้เค้าช่วยเรียกลูกค้าให้ ไม่นานก็จะมีลูกค้าเข้ามา แล้วตัวน้องสาวผม นอนหลับฝันว่ามีเด็กมาวิ่งเ่ล่นด้วย บ่อยๆ ตอนปีใหม่โรงเรียนของน้องผมเค้าจัดงาน น้องผมเค้าขอให้พี่...ช่วยให้ได้รางวัลนี้ด้วย ปรากฏว่า อาจารย์ที่แจกรางวัลบนเวทีจับได้เลขประจำตัวของน้องผม ทำให้น้องผมได้รางวัล ตัวผมเองก็ใช้ผ้ายันต์รูปสิงห์ของหลวงปุ่พกติดตัว ของๆท่านทุกชิ้นได้มาตั้งแต่ตอนที่ท่านยังอยู่ เมื่อก่อนปู่ชอบไปวัดท่านครับ
     
  18. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    พระเครื่องหลวงพ่อเต๋ รุ่นที่ทันหลวงพ่อปลุกเสก แต่ราคาไม่แพงก็น่าจะอาราธนาขึ้นคอใช้นะครับ เพราะหลวงพ่อเต๋ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำอะไรให้กับสังคมเยอะ ผมไปรับราชการอยู่ที่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม 7 ปี คนในจ.นครปฐม ผู้คนแถวนั้น และละแวกใกล้เคียง ต่างก็นับถือหลวงพ่อเต๋ ด้วยความเคารพศรัทธาท่านจริง ๆ ครับ เพราะท่านให้สังคมเยอะจริง ทั้งถนน โรงพยาบาล โรงเรียน ผมเคยอ่านหนังสือเล่นหนึ่ง จำชื่อไม่ได้แล้ว เขียนว่า ตอนที่หลวงพ่อเต๋ ท่านได้เข้าเฝ้าในหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจที่ 9 พระองค์ท่านทรงตรัสว่า ถ้าเมืองไทยมีพระอย่างหลวงพ่อเต๋ หลาย ๆ องค์ ประเทศไทยคงจะเจริญขึ้น ครับ นี่คือสิ่งที่รับรองเกียรติคุณของหลวงพ่อเต๋ คงทอง ได้เป็นอย่างดีครับ
     
  19. มัณฑณา

    มัณฑณา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    อยากได้กุมารทองจังเลยใครช่วยส่งให้ทีอยู่ญี่ปุ่นอะ
     
  20. ชนคุณ

    ชนคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +298
    กราบหลวงพ่อเต๋ครับ พี่ผมมีพระสมเด็จพระประธานหลวงพ่อเต๋ หลังรูปเหมือน ปี2516
    ไม่ทราบว่าดีไหมครับ จะได้แลกมาไว้บูชาครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...