เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. Pradong

    Pradong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +1,556
    กันหิวก็ได้ครับ
     
  2. ธรรมเมา

    ธรรมเมา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +18

    <TABLE width=760 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="30%">


    </TD><TD vAlign=top>
    [FONT=AngsanaUPC, MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]พระอนาคตวงศ์[/FONT]

    </TD><TD vAlign=top width="30%">

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=760 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>
    [FONT=AngsanaUPC, MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]กัณฑ์ที่ ๓ [/FONT]

    ( สฺตถา สารีปุตฺต ธมฺมสามีสมฺมาสมฺพุทธสฺ สสาสนกาเล อติกฺกนฺเต มหาปฐวิยา โยชนมตฺตํ
    อภิรุฬฺหาย มณฺฑกปฺเป นารโท จ รงฺสิมุนิ จ เทฺว พุทฺธา อุปปชฺชิส สฺนตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ กเถสีติฯ )​

    ( อนุสนธิพระสัทธรรมเทศนา มีปุพพาปรสืบเนื่องมาโดยลำดับ บัดนี้จะได้วิสัชนาในประวัติกาลแห่งสมเด็จพระบรมศรีสุคตทศพลญาณ สี่พระองค์ทรงพระนามว่า พระนารท, พระรังสีมุนีนาถ, พระเทวเทพ, พระนรสีหะ เป็นลำดับต่อไป ดำเนินเนื้อความว่า )​



    [FONT=AngsanaUPC, MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]พระนารทะ (พระยาอสุรินทราหู) [/FONT]​

    สตฺถา สมเด็จพระบรมครูสัพพัญญูเจ้าของเราตรัสพระธรรมเทศนาว่า ในกาลเมื่อสิ้นศาสนาพระยามาราธิราช ผู้เป็นธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว โลกทั้งหลายจะสูญจากสมเด็จพระพุทธเจ้าสิ้นกาลช้านานถึง ๘ กัปป์ แผ่นดินตั้งขึ้นมาใหม่ได้แสนแผ่นดิน แผ่นดินนั้นสูญเปล่าเป็นสุญญกัปป์ หาบังเกิดสมเด็จพระพุทธเจ้าไม่ ในเมื่อสุญญกัปนับได้แสนแผ่นดินล่วงไปแล้ว จึงบังเกิดแผ่นดินมาใหม่ มีชื่อว่ามัณฑกัปนั้น เป็นแผ่นดินทรงพระพุทธเจ้าได้ตรัส ๒ พระองค์ คือ
    - พระยาอสุรินทราหู ๑
    - โสณพราหมณ์ ๑
    อันว่าพระยาอสุรินทราหูจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อน ลำดับนั้นโสณพราหมณ์จักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าสืบไปฯ
    เมื่อพระยาอสุรินทราหูได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ทรงพระนามว่าพระนารทะ
    - มีพระองค์สูงได้ ๒๐ ศอก
    - มีพระชนมายุยืนได้หมื่นปีเป็นกำหนด
    - มีไม้จันทร์เป็นพระมหาโพธิ
    - ประกอบไปด้วยรัศมีสว่างรุ่งเรืองทั้งกลางวันและกลางคืน เปรียบประดุจดังว่าสายฟ้าในกลีบเมฆ พระพุทธรัศมีที่เป็นแผ่นแผ่ทึบเป็นแท่งเดียวนั้น ปรากฏสัณฐานดุจดอกปทุมชาติอันตั้งขึ้นมา
    - ครั้นศาสนาพระยาอสุรินทราหูนั้น ในแผ่นดินประเทศทั้งปวงเกิดรสภักษาหาร ๗ ประการ มนุษย์ทั้งหลายได้บริโภคภักษาหาร ๗ ประการ อันเกิดแก่แผ่นดิน ก็ประพฤติเลี้ยงชีวิตของอาตมาเป็นสุขสำราญมิได้ขาด ​

    ดูก่อนสำแดงสารีบุตร อันว่าพระนารทผู้ทรงพระภาคนั้น มีพระรัศมีเห็นปานดังนี้ คือพระยาอสุรินทราหูแต่ก่อนได้สร้างบำเพ็ญพระบารมีทั้งหลาย ๑๐ ประการมาเป็นอันมากแล้ว จึงได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลฯ แต่กองบารมีอันหนึ่ง พระยาอสุรินทราหูได้กระทำเป็นปรมัตถบารมีอันยิ่ง ปรากฏเป็นอัศจรรย์ พระองค์มีพระพุทธฎีกาดังนั้นแล้ว จึงนำมาซึ่งอดีตนิทานมาตรัสพระธรรมเทศนาว่า อตีเต กาเล ในอดีตกาลล่วงแล้วช้านาน ในเมื่อพระสาสนาพระพุทธกัสสปทศพลญาณ พระยาอสุรินทราหูนี้ได้เสวยพระชาติเป็นบรมกษัตริย์ เสวยศิริราชสมบัติอยู่ในมัลลนคร เป็นเอกราชอันประเสริฐ ทรงพระนามว่า พระยาสิริคุตตมหาราช มีพระราชอัครมเหสีพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า ลัมภุราชเทวี มีพระราชบุตร พระราชธิดา ๒ พระองค์ พระราชบุตรมีนามว่า เจ้านิโครธกุมาร พระราชธิดามีนามว่า นางโคตมี อยู่มาวันหนึ่งยังมีพราหมณ์ ๘ คน พากันมาสู่สำนักแห่งพระยาสิริคุตต์ กราบทูลขอพระนคร พระองค์ก็ทรงโสมนัสบังเกิดพระราชศรัทธาโปรดพระราชทานพระนครให้แก่พราหมณ์ทั้ง ๘ ยังแต่พระราชอัครมเหสีและพระราชโอรสกับพระราชธิดาทั้ง ๒ ก็พากันออกจากพระนครเข้าไปในอรัญประเทศ กระทำอาศรมอาศัยอยู่บนยอดเขาใหญ่ พร้อมกันทั้งสี่กษัตริย์ทรงเพศเป็นบรรพชิตอยู่ในอาศรมบทฯ ​

    ในกาลครั้งนั้นยังมียักษ์ตนหนึ่ง มีนามว่ายันตะ ยักษ์ใหญ่สูงได้ ๑๒๐ ศอก ออกจากประเทศราวป่ามาเฉพาะต่ออาศรมแห่งกษัตริย์ทั้ง ๔ องค์ ยืนอยู่ในที่นั้นแล้วจึงกล่าววาจาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นกษัตริย์อันประเสริฐ ข้าพเจ้านี้เกิดมาเป็นยักษ์รักษาพนาลี มีแต่เลือดและเนื้อเป็นภักษาหารเลี้ยงชีวิต ข้าพเจ้ามาทั้งนี้ ปรารถนาจะขอพระราชโอรสและพระราชธิดา ทั้ง๒องค์ เป็นภักษาหาร ถ้าพระองค์ทรงพระราชศรัทธาโปรดพระราชทานให้แล้ว ไปในอนาคตเบื้องหน้า พระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งเป็นแม่นมั่น เมื่อหน่อพระชินวงศ์ได้ทรงฟังยันตะยักษ์ทูลขอพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง ๒ นั้น พระยาสิริคุตตราชฤาษีผู้แสวงหาพระโพธิญาณก็ชื่นบานในกมลหฤทัยแสนทวี ท้าวเธอจึงมีสุนทรสารทีตรัสแก่ยันตะยักษ์ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญเอ๋ย พระราชกุมารและพระราชกุมารีทั้ง ๒ องค์นี้ ใช่ว่าเราจะไม่มีความเสน่หาอาลัยหามิได้ ด้วยเรารักใคร่ในพระโพธิญาณยิ่งกว่ากุมารทั้ง ๒ ได้ แสนเท่าพันทวี เราจะสละพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง ๒ ศรี ให้เป็นทานแก่ท่านในกาลบัดนี้ ตรัสแล้วเท่านั้นก็เสด็จลุกจากอาสน์ จูงเอาข้อพระหัตถ์พระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง๒ ผู้ร่วมพระราชหฤทัย มาพระราชทานให้แก่ยันตะยักษ์ แล้วหล่อหลั่งอุทกธาราให้ตกลงเหนือมือแห่งยักษ์ พระองค์จึงประกาศแก่ฝูงเทพเจ้าและนางพระธรณีให้เป็นสักขีพยานว่า เดชะแห่งผลทานนี้จงสำเร็จแก่พระสร้อยเพชุดาญาณในอนาคตกาลด้วยเถิด พอสิ้นความปรารถนาก็บังเกิดมหัศจรรย์ทั่วโลกทุกห้องจักรวาล ปานแผ่นพสุธาจะทรุดจะทำลายฯ
    เบื้องหน้ายันตะยักษ์ครั้นได้รับพระราชทานพระราชกุมารและพระราชกุมารีแล้ว ก็บังเกิดมีความชื่นชมยินดี พาตรุณสองศรีไปยังหลังพระบรรณศาลา ก็ก้มศีรษะลงกัดเอาคอกุมารและกุมารีทั้งสองให้ขาดด้วยอำนาจของอาตมา แล้วก็ดื่มโลหิตกินเป็นภักษาหาร แล้วก็เคี้ยวซึ่งเนื้อและกระดูกกลืนเข้าไป เสียงเคี้ยวนั้นดังกร้วมๆ พระฤๅษีผู้เป็นบิดาและมารดาเห็นเห็นหยาดเลือดย้อยลงจากปากยันตะยักษ์ในขณะเมื่อเคี้ยวนั้น มิได้มีพระทัยไหวหวาดด้วยโลกธรรม จึงร้องประกาศแก่ฝูงเทพเจ้าทุกหย่อมหญ้าลดาวัลย์ทั้งปวงจงมาชื่นชม ด้วยทานของเราบัดนี้เป็นอันประเสริฐแล้วฯ ​

    ดูก่อนสำแดงสารีบุตร ในเมื่อพระศาสนาของของพระยาอสุรินทราหูได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
    - ฝูงชนทั้งปวงประกอบไปด้วยรูปศิริวิลาสเป็นอันงาม ควรจะนำมาซึ่งความสิเนหา ด้วยเดชะผลานิสงส์ที่ให้ลูกทั้งสองเป็นทานฯ
    - ซึ่งพระองค์ประกอบได้ด้วยพระพุทธรัศมีส่องสว่างสิ้นทั้งกลางวันและกลางคืนนั้นด้วยเดชะผลานิสงส์ที่เห็นโลหิตกุมารทั้ง ๒ หยดย้อยลงจากปากยักษ์ มิได้มีความหวาดหวั่นไหวในมหาทานเลย
    แสดงมาด้วยเรื่องราบพระยาอสุรินทราหูบรมโพธิสัตว์คำรบ ๕ ก็ยุติแต่เพียงนี้ฯ ​

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    ครับอย่างที่หัวข้อกระทู้ตั้งไว้วาเรื่องเล่าของคนตาทิพย์ คือรู้เห็นอะไรมาก็เล่าตามนั้น

    สำหรับคนที่สัมผัสได้ ก็จะรู้สำหรับคนที่สำผัสไม่ได้ก็ขอให้ผ่านไป ไม่ต้องยกอะไร

    มาอ้างหลอกครับ เพราะสิ่งที่บางคนรู้ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องรู้ตามแรงบุญครับ

    ยกคำอาจารย์มาเลยแล้วกันครับ

    กระทู้ห้องนี้ เกี่ยวกับ ฤทธิ์ หรือ ด้านโลกียะ..ไม่ใช่ โลกุตตระ..การบรรยายเทศนาธรรม

    ที่มุ่งสู่ความว่างเปล่า...จึงไม่น่าจะมาที่ นี่..ผิด เทศะ..คือผิดห้อง..ไม่ได้ บอกว่า

    เป็นของไม่ดี นะ..เข้าให้ถูกห้อง
     
  4. ขุนเวช

    ขุนเวช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +245
    แล้วถ้าสาว ๆ ถอดจิตมาทำดี มิร้ายผม จะกันได้ป่ะครับ

    เอแล้วจะกันไปทำไม เนอะ แฮะๆๆ
     
  5. ฌานปฺปสุโต

    ฌานปฺปสุโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +145
    กระทิงแดงก็กันได้นะครับขวดละ10บาทมีไรมาใช้ขว้างหัวมันได้เลยครับ

    รับรองทั้งคนทั้งผีเผ่นกะจุ๋ย ถ้าเป้นผีเอากระทิงแดงมาขวด1ปลุกเศษด้วยอิติปิโส3จบพอ

    พอรู้สึกสัมผัสได้ขว้างมันเลยครับหัวโนแน่นๆเจอกระทิงแดง
     
  6. นาย เอ

    นาย เอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +535
    เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของคนที่ไม่มีตาทิพย์
    วันนี้ผมได้ไปหาอาจารย์ที่บูธมา ก็มาเจอผู้คนมาเยี่ยมเยือนอาจารย์หลายคน อาจักรพล และ คุณวิษณุ ก็นั่งอยู่ด้วย ครั้งนี้ผมเจอคุณวิษณุเป็นครังที่ 2 ก็เหมือนกับครั้งแรก ที่เจอ แกก็จะไม่สบตาผม เหมือนที่ไม่สบตาหลายๆคน พอดีผมเคยคุยกับอาจักรพลมาแล้วเขานั้งอยู่ด้วยกัน ก็เลยมีโอกาศตื้อคุยกับคุณวิษณุ จนทำให้เราคุยกันได้มากขึ้น
    ................................................................................................
    คุยไปคุยมาก็รู้สาเหตุ ว่าคุณวิษณุกำลังเบื่อกับการดำรงค์ชีวิตของคนทั่วไปในมุมมองที่ตนมองเห็น จนบางครั้งไม่อยากจะรับรู้ ไม่อยากมองว่าใครเป็นอย่างไร
    ..................................................................................................
    เรื่องที่จะเล่าคือตอนที่เขานั้งพูดคุยกันอยู่นั้น อาจารย์ก็นั่งตรวจสอบพระอยู่ ซึ่งต่างองค์ก็มีออร่าต่างกัน ซึ่งผมก็แอบมอง(โดยมิได้รับอนุญาติ) คุณวิษณุก็จะนั่งมองห่างๆดูตามเป็นช่วงๆ ตรวจมาสักพักเสียงแว่วจากคุณวิษณุ ว่าไม่มี ช่วงเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงอาจารย์ พูดว่าเฮ๊ยองค์นี่ไม่มีพลังว่ะ พลังหายหรือป่าวว๊ะ ไหนลองเรียกดูซิ อาจารย์ทำท่าเรียกเพื่อดูว่าพลังอาจค้างอยู่ที่ไหนสักแห่ง ก็ได้ยินแว่วมาอีกว่า ไม่มี จากคุณวิษณุ ทางด้านอาจารย์ก็บอกว่า องค์นี่ปลอม แล้วองค์อื่นก็ตรวจตามปกติ สรุป ประมาณ 60 องค์ ปลอม 1
    ...............................................................................................
    ที่สังเกตุเห็นได้คือ สิ่งที่ อาจารย์กับคุณวิษณุ เห็น น่าจะคล้ายๆกัน และมันเป็นสิ่ง ที่น่าค้นคว้า ส่วนสิ่งที่คุยกับคุณวิษณุ อย่างน้อยก็รู้ว่าคนมีตาที่ 3 ต้องคิดดี ทำดี เพราะเมื่อเห็นแล้วก็ละอายต่อบาปไปเอง ผมเพิ่งมาที่บูธอาจารย์ครั้งที่ 3 ก็เห็นบางอย่างที่น่าจะพิสูจน์ได้ ว่าตาที่ 3 นั้นมีจริง ผมก็น่าจะทำได้ แต่ติดอยู่นิดเดียว คือ ตัวผมเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2009
  7. เต๊ะจุ๊ย

    เต๊ะจุ๊ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +695
    ชอบที่คุณ "นาย เอ" ตอบครับ..
     
  8. surapar

    surapar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +2,408
    ถ้าจะพิจารณาดูแล้ว มันคืออดีต ปัจจุบัน และอนาคคต ย่อมแตกต่างกัน แต่เกี่ยวเนื่องกัน ตอนนี้เป็นอย่างไร คนสามตาทั้งหลายมาบอกเล่าให้ฟัง อนาคตเป็นอย่างไร ตถาคตบอกไว้แล้ว ตถาคตเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครได้เคยเห็น ดังนั้น จงย่าเชื่อในสิ่งที่ผู้อื่นบอก จนกว่าจะเห็นด้วยตาตัวเอง ปฏิบัติเข้าเถิด ถ้าอยากพบคำตอบ...
     
  9. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    โมทนาครับ มันคือการ ค้นหาความจริงนั้นเอง...

    -------------------------------
    ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ตกอยู่ในอำนาจของ"ความจริง"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2009
  10. TriKun

    TriKun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +2,346
  11. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914
    >>>>mhotom <<<<


    วันนี้ตอนบ่ายแก่ๆ ไปเดินกรำแดด หาบูธ อ.ตาที่สาม คนเดียว เป็นยังไงบ้าง..


    แถมโทรฯ สายตรง มาถามคนแถวริมน้ำโขงซะงั้น...ว่า บูธ อยู่ตรงไหน


    เอิ้กๆๆๆ เก็บรายละเอียดให้ได้เยอะๆ แล้วมาเล่า ในกระทู้หน่อยนะ...อิอิ...


    เผื่อตอนที่เล่าให้ฟัง...มันจะตกหล่น... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า....และ ฮ่า
     
  12. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ก็ขอบคุณ ที่ มีคน ค้น ประวัติพระราหู ขึ้นมา..
    บอกว่า จะ เป็น พระพุทธเจ้าองค้ต่อ จาก สมเด็จพระศรีอริยะเมตตรัย..
    .ซึ่งลอกมาจาก ตำนนานพระไตรปิฎก..
    .........................................................................
    แต่ถ้าไปอ่านเรื่อง ในแนวฮินดู
    ที่ นับถือ..มหาเทพ มหาเทวี เช่น พระพรหม/
    พระศิวะ พระนารายณ์ พระแม่อุมา..ฯลฯ
    จะได้ เค้าเรื่องว่า พระราหู เป็นเทพ ฝ่ายมาร.
    .เที่ยวรังแก เทวดา ชั้นฟ้า ปั่นป่วนเป็นอย่างยิ่ง.
    .ร้อนถึงพระนารายณ์ ต้องทรงแก้ไข..
    โดยใช้ จักรในมิอ ขวา ขว้างตัด พระราหู
    ห้ ขาด เหลือ แต่หัว กับมือ..ตัวไม่มี
    .................................................................
    ขนาดมีแค่หัว..ก็ยัง ชอบอมกลืน ดวงจันทร์ และ ดวงอาทิตย์...
    จะเห็นว่า เวลาเกิด จันทรคราส สุริยะคราส
    ชาวบ้าน จะตีปีป ตีกลองไล่ ราหูให้ หนีไป..
    .ถ้าดีจริง ทำไมจึงต้อง ราวี คนอื่นให้เดือดร้อน

    คนที่ถูกกระทำโดยราหู..ถูกราหู ครอบ แก้ได้ วิธีเดียว
    คือ ต้องแขวน หรือบูชา รุปหล่อ หรือ รูป นารายณ์ทรงครุฑ เหยียบราหู..
    .เพื่อให้เกิดความสงบ..รูปหล่อ รูปปั้นนี้..หาเช่าได้ ที่ วัดไตรมิตร กทม
    มีพระนารายณ์องค์เดียวเท่านั้น ที่ปราบพระราหูได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2009
  13. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ เรื่องที่ สิบหก
    "ผีอำ"
    ..........................................................

    คำว่า.."อำ.." หลายคนคงจะรู้จักดี
    จะมีการเล่นกันมากในระหว่างเพื่อน ที่ สนิท
    ที่ทำให้ เกิด การขำของผู้ อำ...และการเขินของผู้ภูกอำ
    เมืองฝรั่งเขาก็มีเล่นกัน เรียกว่า..April Fool Day
    หรือ วันแหกตาในเดือน เมษายน
    ......................................................................
    การอำ ถ้าเล่นกันในระหว่างเพื่อนฝูง...ก็ไม่กระไร
    ถ้าเล่นกันในวงใหญ่..ก็อาจจะมีการเสียหายมากขึ้นได้
    ....................................................................
    เช่นครั้งหนึ่งเมื่อหลายปี ผ่านมา
    ประธานสภา..ให้สัมภาษณ์ว่า จะเสนอให้ ผู้นำพรรคการพรรคหนึ่ง
    ที่ มีคะแนนสูงสุด เป็น นายกรัฐมนตรี คนต่อไป
    ฟัวหน้าพรรคคนนั้น..ก็ตั้งชุดเตรียมรับ พระปรมาภิทัย แต่งตั้ง
    แต่พอ เอาจริงๆๆ..คำสั่งพระปรมาภิทัย..กลับไปออกอีก บ้าน
    .........................................................................
    นี่คือ การเล่นการเมือง.ที่ แปลกออกไป..เพราะผู้มีอำนาจเป็นผู้กำหนด
    และก็ยังมีการเล่นต่อ..เช่นในสถานะการณ์ ปัจจุบัน
    ..........................................................................
     
  14. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    การอำ อีกอย่าง ที่ บางคนเคยเจอ
    คือ.."ผีอำ.."
    อาการคนที่ เคยโดน..คือจะรู้สึกคล้ายๆๆ ตัวแข็ง ขยับไม่ได้
    เหมือนทั้งตัวถูกมันแน่น..ต้องพยายามดิน อึกอัก อึกอัก
    กว่า จะหลุดออกมาได้ ก็เหนื่อย แทบโยน
    ...................................................................
    ทุกคน จึงกลัวอาการที่ ว่า ผีอำ..เพราะ ไม่รู้ว่า ถ้า ปล่อยให้ อำ
    แล้ว ผลจะเป็น ยังไง..วิญญาณจะถูกลากไป ไหนๆๆ ???
    จึงต้องต่อต้านไว้ก่อน...คือกลัวตายจริงๆๆ...ว่า งั้นเห่อะ
    ......................................................................
    ในโลกแห่ง ความเป็นจริง
    พบว่า คนที่ มีพลังจิตสูงๆๆและมั่นใจในพลังของตัวเอง
    กลับคิด ไป อีกแบบ..คือ ชอบให้ อำ..โดยไม่ขัดขืน
    ....................................................................
    เมื่อ ถูกอำ แล้ว ชอบ...ก็เลยถามพวกเขาที่ ชอบ หลายๆๆคน
    ก็ได้คำตอบว่า...เวลาถูกอำ แล้วไม่ขัดขืน
    จะรู้สึก หลุดออกไป อีก โลก..อีกมิติ
    เห็น หมด ว่า สิ่งที่คล้ายคนก็ไม่ใช่..คล้ายผี ก็ไม่ใช่
    เขาทำ อะไร กัน ..เขาคุยอะไรกัน..ได้เห็น ได้ ยินหมด
    ..เหมือนเราอยู่ตรงนั้นด้วย..เห้นเรื่อง และ กิจกรรมแปลก
    บันเทิงความรู้มากมาย
    ..............................................................
    ยังกะ เห็นผู้ คนอีกโลกหนึ่ง
    ที่หลุดเข้าไป..ตามที่ มีเรื่องเล่า มากมายที่เกี่ยวกับ
    สามเหลี่ยม เบอร์ มิวด้า The Triangle of Bermuda
    ที่อยู่ดีดี ทั้งคนจำนวนมาก /เครื่องบิน/ เรือขนาดใหญ่
    ไม่ใช่น้อย หายไป จาก โลก..เมื่อ เข้าไปใกล้ พื้นที่ สามเหลี่ยมที่ ว่า
    ที่ อยู่ระหว่างฟลอริด้า และ หมุ่เกาะ เวสอีนดืส ในมหาสมุทรแอตแลนติค
    มีคน เอาเรื่องลึกลับนี้ มาแปลขายมากมาย
    .........................................................................
     
  15. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    จากการได้ ข้อมูล สองด้าน เรื่อง ถูกผีอำ
    ทางด้านที่ เรากลัวกัน..กับทางด้านที่เห็น และติดต่อ กับอีกมิติได้
    ถ้าใคร เชื่อ มั่นตัวเองในเรื่องพลังจิต ที่ สูงเกิน400 เมตร
    ก็น่า จะลอง ปล่อยให้ เขาอำ
    ถ้าไปเจอ สาวๆๆวยๆๆในโลก แห่งการอำ
    ............................................................
    ก็ปล่อยให้ เขาอำ...ปล่อยให้ เขาทำ..อะไรๆๆที่ น่าสนุก
    เราก็อำเขาบ้าง คลำเขาบ้าง..ไม่เห็นจะขาดทุน ตรงไหน
    ว่างๆๆ จะให้ คนที่ ขอบหลุดเข้าไปในโลก แห่ง การอำ
    มาเล่าให้ฟังบ้าง
    .............................................................
    ที่แน่ๆๆ ขยามารุติ หนึ่งล่ะ
    วิษณุ อีก หนึ่ง ล่ะ
    แล้วก็ มังกรบูรพา กับ ดาวทะเลทราย แถมท้าย
    ..............................................................
     
  16. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    โดนอำบ่อย แต่ก่อนมีองค์นึงชอบอำ ดิ้นไม่ได้ เราไม่ชอบ เราก็เลยด่าไป หายเลย
    เวลาจะโดนอำ จะรู้ตัวเรารีบลืมตาเลย มันฝืดๆ นะเหมือนจะลืมตาไม่ขึ้น
    พอลืมตาได้เท่านั้นแหละ รู้สึกตัวเลยว่าลิ้นเราจุก เห็นหุ่นที่ใช้ดินปั้น
    เรารู้เลย องค์เล่นของใส่เรา และก็เห็นบ่อยครั้งเวลาโดนอำ หุ่นนี้มันชอบวิ่งตาม พาไปไหนไม่รู้ น่ากัว
    ปัจจุบันมันเปลี่ยนของเล่น จากหุ่นดินปั้น เป็นหุ่นไม้ อำแรงเหมือนกัน ไม่ให้หายใจเลย
     
  17. channarong_wo

    channarong_wo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +1,510
    หวัดดีครับอาจารย์
    ผมก็เคยโดนมาเหมือนกันครับ แรกๆสู้เหนื่อยแทบตาย หลังๆมาไม่สู้ครับประหนึ่งยอมแพ้ ไม่สู้ไม่ขัดขืน ก็ไม่คิดว่าจะเห็นอะไรหรอกครับอาจารย์ แต่ในใจคิดว่า เอาเลยอยากทำอะไรทำไป หากตายตอนนี้ขอไปนิพพานเลย ขณะที่โดนอำจะมีความสุข และรู้สึกว่าเคว้งคว้างล่องลอย ความคิดตอนนั้นต้องไม่กระดุกกระดิก หากกระดุดกระดิกผีจะเลิกอำ ผมว่ามีความสุขนะที่ผีอำ... (บ้าเปล่าเรา ) แต่หลังจากนั้นผีอำก็ไม่มาเยี่ยมอีกเลย สงสัยกลัวผมไปนิพพาน...ก๊ากกก แต่เที่ยวหน้าหากอำอีก จะลองขอชม ขอเที่ยวและขอเห็น...ดู เผื่อเค้าจะกล้ามาอำอีก เอิ๊กกก...
     
  18. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    ปกติแล้ว โดยส่วนตัวไม่ชอบสื่อกะอะไรรอบๆตัว รู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมชาติ เทพใช้เวทย์ กะเรา เวลาสื่อด้วย เรารู้สึกพลังจิตมันลดลงทุกทีๆๆๆๆๆๆ จนไม่เป้นตัวเองเลย
    ว่าง่ายๆ ไม่ถูกกัน ยิ่งไม่ถูกก็ยิ่งอยู่นะ ชอบบังคับ ล้างสมองเรา เทพทีว่าคือ เทพจีน

    คืนวันพฤหัส เทพฝรั่งพาเราไปแจ้งความกับพระเจ้า ว่าถูกเทพจีนลวนลาม
    พระเจ้านัดเราไว้ที่สวรรค์ เราไปอยู่ชั้น 2 เห็นคนสวดมนต์ และ ปากด่าทอ ชั้นนี้คือคนมือถือสาก ปากถือศีล
    ไปเจอเทพฝรั่งอีกองค์บอกว่าจะพาไปหาพระเจ้า
    ไปชั้น 3 เห็นแต่คนสวดมนต์ แต่มีแสงรัศมีที่หัว สวยงาม
    ไปชั้น 4 มีการแข่งขันอะไรสักอย่าง เหมือนแข่งสู้กับมาร หากชนะก็ไปชั้น 5
    เราผ่านไปเฉย ในจิตมันรู้ว่าสู้แล้วผ่านแล้ว
    ไปชั้น 5 มีเราคนเดียวที่ชนะ ผ่านไปชั้น 6
    ชั้น 6 ไม่ได้เข้า เห็นต้นห้องของพระเจ้าเป็นใครไม่รู้ จำแลงได้หลายอย่าง บอกกับเราว่า พระเจ้าให้พร 1 ข้อ

    ปกติแล้ว จะมีองค์เฝ้าเรา 2 องค์เป็นเทพจีน ห่างออกไปเป็นฝรั่ง
    ฝรั่งจะไม่มา สี่วันได้ เทพจีนคงคิดว่าจะไม่มาอีก คืนวันนั้นเลยไม่ได้เฝ้าเราไว้
    ฝรั่งเลยมาแทน สักพัก จีนก็มา ทำตัวเป็นเจ้าของเรา บอกว่าข้ามาก่อน ฝรั่งต้องถอยออกไป

    ตลกที่ฝรั่งพาไปแจ้งความมาก แต่ขอพรไปแล้วไม่เห็นเป็นจริงเลย สงสัยว่าจะขัดแย้งกัน
    พวกเทพ ศักดิ์ศรีไม่ยอมกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2009
  19. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    เรื่องของเรื่อง สมัยเด็ก ตั้งแต่อายุ 16-18 พลังจิตเราจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆๆ กำลังตอนนั้นแน่มาก จิตจะทะนงตัวเอง ไม่สะทกสะท้านกับความรู้สึกใดๆ จิตเบิกบานมาก มีความสุขสุดๆ ไม่รู้จักทุกข์เลยก็ว่าได้ในขณะนั้น ทุกๆ เช้า เวลาตื่นนอนจะเห็นคนยืนปลายเท้า จนชิน พอมาทำความรู้จักกัน มันเอาเรื่องเหมือนกัน องค์นี้เป้นองค์ที่สามที่เห็นเป็นเทพไทย ตอนอายุ 18 ยิ่งคุยด้วย พลังจิตยิ่งลดลงๆๆๆ เรารู้สึกรำคาญ ไม่มีประโยชน์ เลยเชิญท่านไป
    และแล้วก็ไม่ไป

    เราเลยลองของ ลองชั่วใช้วิชามารในการไล่ ด้วยกายหญิงเรานี่แหละ
    และแล้ว มันไม่ไป มันไม่สน มันเฉย เรายิ่งแกล้งมัน ปกติ จิตเรามันจะไม่วางแผนไรไว้หรอก ทำไรก็ทำไปเลย ลงทุนไปเลย จะเกิดไรก็ต้องเกิด ไม่กลัว ขอแค่มันไป
    พลังจิตเราลดลงเรื่อยๆๆๆ เพราะเราคิดผิด เทพที่มามันก็มาเรื่อยๆ มาดูเรื่อยๆว่า มันจะทำอะไรอีก ตอนแรกฝรั่งก็เชียร์เรา ไปๆ มาๆ ด่าเรา 555
    จีนก็ เตือนๆ เรา เราไม่ฟัง ดื้อ แบบจะไล่มันไปให้ได้ ผลสรุป คือ จีนไล่ไทยไป

    จีนก็ อำเรามั่ง สารพัดเลย และขอสรุปอีกทีว่า ชีวิตเรารำคาญเทพทั้งหมดเลย
    ทำสมาธิไม่ค่อยจะดีเลย บางทีนอนสมาธิ ก็มาแกล้งจั๊กจี้ที่คอ เป่าหู
    บางทีใช้หุ่น เอาไม้กด อกหุ่น เราเจ็บเลย จะรู้เลยว่าเอาไม้กด เพราะ เรารู้สึกมีอะไรเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสใหญ่ๆ กดๆ ที่อกเรา หมุนๆๆ ฐานสี่เหลี่ยม มันก็กดแบบจ้ำๆๆ แบบให้หายใจไม่ทัน พอดิ้นได้ เราก็ว่ามันเลย มันยังว่าเราไปเถียงมัน ชีวิตเป้นของใครหว่า.........
     
  20. LightMaker

    LightMaker Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +66
    ผมมีประสบการณ์มาแชร์เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการถูกอำ....
    จากที่โดนมาจะได้รับรู้ทั้งเสียง ความรู้สึก และการเห็น เมื่อก่อนเคยโดนบ่อยอยู่พักนึงจะขอยกมาเล่าแค่บางเรื่องนะครับ

    1. ช่วงบ่ายหลังกลับจากโรงเรียน นอนพักบนเตียงแล้วหลับ พอโดนอำก็ลืมตาได้ครึ่งลูก มองเห็นขาน้องชายวิ่งไปแอบหลังกองหมอน ก็นึกโกรธคิดว่าน้องแกล้งแล้วไปแอบ ก็เลย
    คิดในใจว่า เด๋วเถอะ..จะเจอดี มาแกล้งกันแบบนี้ แต่ตอนนั้นขยับตัวไม่ได้ พูดก็ไม่ได้ ก็เลยด่าอะไรไม่ได้ ...ทันทีที่ขยับตัวได้ สิ่งที่ทำคือเอี้ยวตัวไปหลังกองหมอน หวังว่าจะพบกับน้องที่ซ่อนอยู่ แต่สิ่งที่เจอคือ ดวามว่างเปล่า

    2. โดนที่หอพักช่วงเย็นๆ หลังจากนั่งสมาธิเสร็จก็พักจนหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็ขยับตัวไม่ได้
    แต่รู้สึกว่า ในห้องมีคนเยอะไปหมด พูดกันให้แซด แต่ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนไม่ใช่ภาษาไทย ก็พยายามจะออกแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากตรงนั้น เพราะรู้สึกอึดอัด สักพักได้ยินเสียงผู้หญิงที่ข้างหูซ้ายว่า ไม่ไป ไม่ไป... หลังจากนั้นก็ได้ยินเหมือนมีผู้ชายมาฉุดตัวผู้หญิงคนนั้นออกไป อีก 1 นาทีจึงขยับตัวได้ (ตอนที่โดนลืมตาไม่ขึ้น)

    3. ตอนนั้นอยู่ในห้องนอนที่บ้าน กลางวันอีกเช่นเคย..มีอาการขยับตัวไม่ได้อีก ในใจก็คิดว่าโดนอีกแล้วกู... ก็พยายามรวบรวมกำลังใจฝืน พยายามดิ้นให้หลุด แต่สิ่งที่พบคือ ขาหลุด! คือหมายถึง ยกขาขึ้น แต่มองไม่เห็นขา เห็นเป็นขาลางๆ ใสๆ งงๆอยู่สักพักก็นึกขึ้นได้ว่า เฮ้ย..นี่มันกายทิพย์นี่หว่า ต่อจากนั้นเริ่มรู้สึกว่ากายมันเริ่มชาๆ ไปตามร่างกายเหมือนกับว่า มันจะค่อยๆหลุดหมด ถึงตอนนี้บอกตรงๆ กลัวตายมาก รีบเอาขาวางลงเพื่อให้มันเข้าที่ วางอยู่ 3 ครั้งจึงลง....

    4. ขณะหลับอยู่ ประมาณตี 2 ก็เกิดอีก คราวนี้นอนอยู่ในท่านอนคว่ำ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นผู้ชายยืนอยู่ที่นอกชานตากผ้า แต่มองไม่เห็นรายละเอียดว่าแต่งกายหรือ หน้าตาเป็นอย่างไร มองเห็นเป็นมืดๆดำทั้งตัว ตัวไม่ใหญ่มากน่าจะสูงราว 165 ซม. ก็สงสัยว่าเป็นใคร หรือว่าเป็นขโมย แต่เอ ทำไมมันยืนเฉยๆไม่เขามาขโมยของ เราก็จ้องสักพักเลยอยากจะลุกไปดู ก็เอามือดันตัวขึ้นในท่าวิดพื้น แต่ก็รู้ว่ากายทิพย์หลุดออกมาอีก ปรากฎว่ามีแสงสีขาวยิงพุ่งออกจากตัวเขาแล้วฉายลงมาที่ตัวเราอีกที เท่านั้นแหละ....ร่างกายมันอ่อนปวกเปียกหมดเรี่ยว หมดแรงทันที ในใจก็คิดว่า ยอมแล้วๆๆ... พอตั้งตัวได้ก็รีบลุกขึ้นไปเปิดไฟนั่งพักแผ่เมตตาสักพักจึงนอนต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...