สำนักวัดนาป่าพงคึกฤทธิ์และสาวกพลาด! สร้าง" พุทธวจน " ปลอม

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย เสขะปฎิสัมภิทา, 7 กรกฎาคม 2015.

  1. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    IMG_8102.jpeg ถ้าหากไม่ติดข้องในสิ่งนี้ ก็อยากออกบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2024 at 16:47
  2. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    #บันทึก
    ในอดีตเมื่อปี 2535 ตอนเป็นสามเณร อายุ11 ขวบนึกอย่างไรไม่รู้จึงไปสนใจเรื่องดูไพ่ยิปซี คนมาดูจนต้องหนีออกจากวัด

    พอ11ปีผ่านไป มาเริ่มดูอีก เริ่มเป็นหมอดูขาจร เริ่มดูอาชีพจากข้างถนน และบนสะพานลอยแถวบางนา เริ่มหาประสบการณ์

    #หมอดูราคาถูกแต่เปลี่ยนแปลงชีวิตแบบทันตาเห็น บอกรถชน ทางบ้านก็โทรมาบอกรถชนทันที เคยมีมาแล้ว คาโต๊ะ ฯลฯ
    [คำพูดถึงราคาที่ต้องจ่าย แก่ผู้ดู นับ 1,000 คน ถ้าผมคิดราคาจริงๆคุณไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายผมไหวหรอกครับ ขอน้ำเปล่าขวดเดียวหรือค่าน้ำ 20฿ พอครับ แล้วแถวก็ยาวเหยียด ตลอด 3 วันแถวๆสุขุมวิท ]

    จนมีความชำนาญมากพอที่จะเข้าใจ ศาสตร์ที่สามารถเข้าถึงได้ในรูปแบบของตนเอง จนเป็นทริปของตนเอง จนมั่นใจในความแม่นยำระดับ OVER คือถ้าหากทักใครแล้วคนนั้นต้องไปทำบุญสะเดาะเคราะห์กันเลยทีเดียว จนถูกกล่าวหาว่า ใช้ไสยศาสตร์ ไสยดำมนต์มืด ช๊อกตายกระทันแล้วก็มี ซึ่งปกติในการที่ผู้ดูเน้นดูเรื่องทั่วๆไป ของพื้นดวงอดีต ปัจจุบัน อนาคต และเหตุการณ์พิเศษในอนาคต ความหวัง ฯลฯ จนมาจบที่อายุขัย ว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปี จะตายแบบปกติวิสัยหรือตายแบบผิดปกติวิสัย นับ 10 กว่าชีวิต ที่ต้องจากไปเพราะเป็นไปตามคำทำนาย อย่างเร็ว ตั้งแต่เด็กนักเรียนอายุเพียง10ขวบ จนถึงผู้ใหญ่ ตายภายใน7วัน อย่างช้า 3 ปี จนรอบสุดท้าย ห้วงปี 53-55 การฝึกทหารทรหด รุ่นน้องมาดู 3 คน ก็ล้วนแต่เสียชีวิตหมด คนที่ไม่เชื่อก็ต้องมาไหว้ขอขมาเพราะโดนโจรบุกฐานปฎิบัติการจุดไฟเผาไป30% นี่จึงเป็นเหตุให้เลิกดูในที่สุด

    ปัจจุบันกลายเป็นความสามารถใหม่ ที่ใช้ประกอบชีวิตรับราชการ ในการตรวจจับทิศทางจิตสังหารของศัตรู เพื่อสังหารศัตรู และหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า จนมาถึงยุคปัจจุบันแบบสุดเบียว

    IMG_8038.jpeg
     
  3. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    IMG_8354.jpeg

    #ธรรมทาน

    #ขอท่านสหธรรมิกโปรดพิจารณาไตร่ตรองให้เห็นความเป็นจริงขอรับ

    #ความรู้ความเข้าใจระดับปฎิเวท ของเหล่าปฎิสัมภิทา ๑๖ การเปลี่ยนแปลงของอรรถและพยัญชนะปฎิรูป
    {พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดน้อมพระสัทธรรม โดยทรงตรัส ปริยัติวาระ ด้วยปฎิสัมภิทา ๑๖ วิมุตติญานทัสสนะ แปลงเป็นนิรุตติญานทัสสนะ สู่อรรถกถาญานทัสสนะ } แม้ในครั้ง ปฐมสังคายนา ทุติยะ ตติยะ ก็ถูกถ่ายทอดอย่างนี้โดยแท้ ด้วยพระปฎิสัมภิทา ๒,๒๐๐ รูป

    #ผู้ตรัสรู้สัจจะ สามารถเข้าถึงองค์พระสัทธรรมได้โดยตรง และอัญเชิญพระสัทธรรมโปรดเวไนยสัตว์ได้
    #พระสัทธรรมคือพระศาสดา
    #พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงเคารพพึ่งพิงพระสัทธรรม

    ในเรื่องนี้ ต่อให้เป็นนักวิชาการระดับสูงของโลกในด้านบาลีไวยากรณ์ในทางพระพุทธศาสนา แต่ไม่ได้ไม่มีในปฎิสัมภิทาจะไม่มีทางได้เข้าใจ

    ถ้าหากว่ามีใครสัก กล่าวว่า ภาษาบาลีไม่ใช่ภาษา

    มี "พระมหาปกรณ์" อยู่ครับ แต่ ต้องพิจารณาขอบเขต ๒๕๐+ ๓๐๐=๙๐๐ โยชน์ มัชฌิมประเทศที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายมาจุติ และอุบัติขึ้น และภาษาอื่นที่ทรงเสด็จไปทรงโปรดด้วย จึงจำเป็นต้องถ่ายทอดลงมาเป็นสุทธิมาคธี-มาคธี พระมหาปกรณ์นั้น ถ้าเห็นสภาพการเปลี่ยนแปลงก็จะเข้าใจครับ และในกาลอื่นๆที่ทรงเสด็จไปโปรด ภาษาที่รักษาไว้ซึ่งพระพุทธวจนะก็ทรงถ่ายทอดลงมาเป็นภาษาอื่นๆเมื่อทรงเสด็จไปโปรดสัตว์ในโลกธาตุที่มีภาษาอื่นอีกด้วยครับ ถ้าเขากล่าวว่า" ไม่ใช่ภาษา" แล้วเขาไม่รู้จัก "ปฎิสัมภิทา มัคโค" วิศิษฐปาฐะ หรือการเปลี่ยนแปลงของพยัญชนะปฎิรูป คือการเปลี่ยนแปลงของภาษาธรรม ที่แม้แต่จะถามด้วยใจก็สามารถตอบด้วยวาจา ถามด้วยความรู้สึกเช่นนั้นเป็นภาษาใด

    ขอให้สหายบัณฑิตผู้เจริญของข้าพเจ้าพิจารณาดูให้ดีนะครับ สิ่งที่ผมกล่าวเป็นทั้ง ปริยัติ ปฎิบัติและปฎิเวธ ของ ผู้เสกขภูมิ(เสขะภูมิ)อยู่ ฉนั้นเมื่อเขาไม่รู้จักการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่รู้จักปฎิสัมภิทาญาน หากเขาใช้คำพูดแบบนั้น เขากล่าวไม่ถูกต้องครับ และถ้าเขารู้จัก พระมหาปกรณ์อันละเอียด ที่มีอัตลักษณ์ ที่ไม่หยั่งลงสู่ความตรึกนี้ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นภาษาที่เราท่านสามารถเข้าใจทั้ง รูป พยัญชนะ สำเนียง ของอรรถ ในทันที ที่แม้จะไม่เคยได้รู้ได้เรียนมาก่อนเลย โดยในนามปฎิสัมภิทา เขาถือทิฏฐินั้นได้ ฉนั้นการที่จะเอา ภาษาบาลีหรือพยัญชนะเหล่าใดก็ตาม มาตรวจสอบกับแท่นพิมพ์ ถ้าแท่นพิมพ์หรือแม่แบบ นั้นแปลงสภาพให้ เป็น อักษรนั้นๆ ก็เห็นควรอยู่ ที่จะเป็นหรือเรียกว่า บาลี แต่ถ้าแม่แบบไม่เปลี่ยนให้ หรือเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นๆ ท่านก็จะคิดจะรู้ทันทีว่า เห็นที่จะไม่ใช่ ภาษานี้โดยตรง เพราะฉนั้น การที่จะเอา ภาษาใดๆก็ตามมาตรวจสอบกับแท่นพิมพ์ว่า เป็นภาษาที่ตรงกันหรือไม่ ไม่ใช่ฐานะที่จะกระทำได้หรือระบุได้ตายตัว

    ผมจึงใช้คำว่า ไม่ใช่ พระพุทธวจนะตรงๆจาก พระสัทธรรม แต่เป็นภาษาที่ทรงโปรดนำมาแสดงไว้ ตามความเหมาะสมของเชื้อชาติประเทศราชและท้องถิ่นนั้นๆครับ ก็เพื่อจะให้ชนส่วนใหญ่ได้ล่วงรู้โดยง่าย ถ้านำลงมาแสดงไว้ด้วยภาษาอื่นๆก็จะต้องตีความแล้วตีความเล่า เพราะยิ่งด้วยผู้มีปฎิสัมภิทาแล้ว เห็นประโยคเดียว ออกเป็นร้อยนัยพันนัยเลยที่เดียวตามกระแสสกานิรุตติ และเพ่งจิตด้วยวิมุตติญานทัสสนะตามธรรมที่เสวยวิมุตติสุขนั้นๆ ภาษาใจ ภาษาธรรมชาติ ที่เป็น "สัจธรรมมหาปกรณ์" ผมไม่สามารถจะทำให้ท่านได้รู้เห็นได้ ท่านต้องเห็นเอง ขอให้เจริญในปฎิสัมภิทาเถิดครับ ด้วยสติปัญญาของบัณฑิต ผู้สั่งสมสุตตะอย่างท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะท่านที่ได้อ่านในตอนนี้เมื่อใดที่ท่านได้เข้าสู่ทิพย์ภูมิของพระอริยะ ในปฎิสัมภิทา

    ท่านจะทราบเลยว่า ขนาดที่มีธรรมละเอียดที่จะทรงสามารถแสดงได้ขนาดนี้เพื่อให้สัตว์โลกได้เข้าใจถึงสภาวะธรรม แต่กลมลสันดานของสัตว์โลกที่ไม่ได้สั่งสมสุตตะมาก่อนไม่เหมาะที่จะตรัสรู้และเข้าใจธรรมอันประเสริฐนี้ จนทรงท้อพระทัยที่จะทรงตรัสสอน จึงแสดงเพื่อเป็นพลวปัจจัยเป็นอันมาก จึงทรงกล่าวธรรมแม้บทเดียวโดยที่เขาเข้าใจก็เป็นสุขแก่สัมปราภพของสัตว์นั้นอย่างยาวนานจวบจนพระนิพพาน และโดยเฉพาะฐานะที่ท่านทำอยู่ในการปกป้องรักษาพระไตรปิฏกด้วยความบริสุทธิ์ใจเหล่าใดก็ตามในกาลนี้ก็ตามกาลอดีตที่แล้วมาจนถึงกาลอนาคตก็ตาม พวกท่านทั้งหลายเหล่านั้นฯ ย่อมได้บรรลุสู่ ปฎิสัมภิทาญาน อย่างแน่นอนครับ พระอรหันต์๔หมวด มีคุณความสามารถที่แตกต่างกันตามบทบาทและหน้าที่ วันนั้นเมื่อท่านได้เห็น พระมหาปกรณ์ จาก พระสัทธรรม พระธรรมราชา แล้ว ท่านจะเข้าใจ อรรถพยัญชนะที่ข้าพเจ้าแสดงไว้แล้วนี้ สาธุธรรมครับ

    #เสขะปฎิสัมภิทา
     
  4. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
  5. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
  6. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    IMG_8385.jpeg IMG_8514.jpeg IMG_8394.jpeg IMG_8395.jpeg IMG_8396.jpeg IMG_8337.jpeg IMG_6387.jpeg IMG_8161.jpeg IMG_7928.jpeg IMG_7922.jpeg IMG_7921.jpeg IMG_7916.jpeg IMG_7683.jpeg IMG_7504.jpeg IMG_7510.jpeg IMG_7392.jpeg IMG_7081.jpeg IMG_5806.jpeg IMG_4889.jpeg IMG_5686.jpeg IMG_4759.jpeg IMG_4443.gif IMG_8159.jpeg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7514.jpeg
      IMG_7514.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      77.8 KB
      เปิดดู:
      0
    • IMG_7491.jpeg
      IMG_7491.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      79.6 KB
      เปิดดู:
      0
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2024 at 12:47
  7. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    IMG_7925.jpeg IMG_7925.jpeg

     
  8. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
  9. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30


    #สิ่งใดที่สำคัญที่สุดในโลกมนุษย์
    #สิ่งใดที่สำคัญที่สุดในโลกธาตุทั้งหลายฯ
    #สิ่งใดที่จักฉุดช่วยให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นทุกข์

    #ทรงอุบัติมาประกาศพระสัทธรรมที่โลกธาตุนี้

    ไม่ไปยังโลกธาตุอื่นๆ เพราะมี มหาไตรลักษณะ ๓ ชาติ ชรา มรณะ


    #รู้อย่างนี้แล้ว ควรรักษาพระสัทธรรม

    #ยุคคัดคน
     
  10. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    นรกพูดภาษาไร?
    https://youtube.com/shorts/0ZMMWKbK0cY?si=5fHYnnc4bVUq22ZX


    IMG_8761.jpeg
    #สั่งสมด้านใดมาก ความสามารถด้านนั้นก็มาก ยกตัวอย่างเช่น!
    IMG_8762.jpeg

    IMG_8760.jpeg
    เวลาสวดมนต์ไหว้พระ บางท่านนิยมออกเสียง บางท่านก็สวดเหมือนกันแต่สวดในใจ บางท่านอาศัย ทั้ง กาย วาจา ใจ ตา หู ปาก ใจ ประกอบ เจริญฝ่ายใดมาก ฝ่ายนั้นก็มีกำลังมาก


    #เจริญทางใดมาก ทางนั้นก็มีฤทธิ์มาก



    #วิสัชนาโดยปฎิเวธ เมื่อทราบตามนี้แล้วท่านพึงเจริญ!

    #สามัญผลให้ทุกอย่าง
    #ทำลายสามัญไม่ได้สิ่งใด ยังทำลายตนดังนี้

    พอรู้ดังนี้เหล่าโมฆะบุรุษอลัชชี จึงชื่อว่า ได้ทำลายตน ทั้ง ทางกายวาจาและใจ

    คนที่กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต


    ย่อมฝังตนเองไว้ในนรก!


    IMG_8764.jpeg




    https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=34&A=2121
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2024 at 06:34
  11. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    @ธรรมบุตรดาบส: มุขปาฐะในสมัยพุทธกาล ต่างร่ำเรียนจากพระโปฐิละ ผู้ทรงพระไตรปิฎก ๗ พุทธสมัย และ ร่ำเรียนจากพระปฎิสัมภิทาทั้งสิ้น แม้หลักมหาปเทส ๔ ก็ถือตรวจอรรถพยัญชนะจากทั้งสองฐานะนี้

    “ธรรมที่เราได้บรรลุแล้วนี้ เป็นคุณอันลึก เห็นได้ยาก
    รู้ตามได้ยาก เป็นธรรมสงบ ประณีต ไม่หยั่งลง สู่ความตรึก
    ละเอียดเป็นวิสัยของบัณฑิตจะพึงรู้แจ้ง
    ฐานะคือความที่อวิชชาเป็นปัจจัยแห่งสังขารเป็นต้นนี้
    เป็นสภาพอาศัยปัจจัยเกิดขึ้นนี้ แม้ฐานะคือธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวงเป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นตัณหา เป็นที่สิ้นกำหนัด เป็นที่ดับสนิทหากิเลสเครื่องร้อยรัดมิได้ นี้ก็แสนยากที่จะเห็นได้ก็ถ้าเราจะพึงแสดงธรรม สัตว์เหล่าอื่นก็จะไม่พึงรู้ทั่วถึงธรรมของเราข้อนั้นจะพึงเป็นความเหน็ดเหนื่อยเปล่าแก่เราจะพึงเป็นความลำบากเปล่าแก่เรา”

    {O} ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต {O}
    ๑) มังสจักษุ ๑) ทิพยจักษุ ๒) ปัญญาจักษุ ๔) พุทธจักษุ ๕) สมันตจักษุ
    จักษุมี ๒ อย่าง คือ มังสจักษุ ๑ ปัญญาจักษุ ๑.
    ในจักษุทั้ง ๒ นั้น ปัญญาจักษุมี ๕ อย่าง คือ พุทธจักษุ ๑, สมันตจักษุ ๑, ญาณจักษุ ๑, ทิพยจักษุ ๑, ธรรมจักษุ ๑.
    คำนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราเมื่อตรวจดูสัตวโลก ได้เห็นแล้วแลด้วยพุทธจักษุ๑- ดังนี้ ชื่อว่าพุทธจักษุ.
    คำนี้ว่า สัพพัญญุตญาณ เรียกว่าสมันตจักษุ๒- ดังนี้ ชื่อว่าสมันตจักษุ.
    คำนี้ว่า ดวงตาเห็นธรรมเกิดขึ้นแล้ว ญาณเกิดขึ้นแล้ว๓- ดังนี้ ชื่อว่าญาณจักษุ.
    คำนี้ว่า ดูก่อนภิกษุ เราได้เห็นแล้วแล ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ๔- ดังนี้ ชื่อว่าทิพยจักษุ.
    มรรคญาณเบื้องต่ำ ๓ นี้มาในคำว่า ธรรมจักษุอันปราศจากธุลี ไม่มีมลทิน เกิดขึ้นแล้ว๕- ดังนี้ ชื่อว่าธรรมจักษุ.

    #การตรัสรู้ สัจจะนี้มี ๒ อย่าง คือ โดยการตรัสรู้ ๑ และโดยอรรถแห่งสัจจะนั้น ๑.
    ส่วนสัมโพธินั้นมี ๓ อย่าง คือ สัมมาสัมโพธิญาณ ๑ ปัจเจกสัมโพธิญาณ ๑ สาวกสัมโพธิญาณ ๑.
    ในบรรดาสัมโพธิ ๓ อย่างนั้น ชื่อว่า สัมมาสัมโพธิ เพราะรู้ คือตรัสรู้ธรรมทั้งปวง โดยชอบด้วยพระองค์เอง. มรรคญาณที่เป็นปทัฎฐานของสัพพัญญุตญาณ และสัพพัญญุตญาณที่เป็นปทัฏฐานของมรรคญาณ ท่านเรียกว่าสัมมาสัมโพธิญาณ
    ด้วยเหตุนั้น ท่านพระอานนทเถระจึงกล่าวว่า พระนามว่า พุทฺโธ ได้แก่ พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระสัพพัญญู ไม่มีอาจารย์ ตรัสรู้พร้อมเฉพาะซึ่งสัจจะทั้งหลายเอง ในธรรมทั้งหลายที่พระองค์ไม่เคยได้ยินมาในกาลก่อน เป็นผู้ถึงแล้วซึ่งความเป็นพระสัพพัญญูในธรรมเหล่านั้น และถึงแล้วซึ่งความเป็นผู้ชำนาญในพลธรรมทั้งหลาย ดังนี้.
    แท้จริง ความเป็นผู้ชำนาญในพลธรรมทั้งหลาย มีการตรัสรู้ธรรมที่ควรตรัสรู้เป็นอรรถ. ชื่อว่าปัจเจกสัมโพธิ เพราะตรัสรู้ด้วยตนเองทีเดียวเป็นส่วนตัว. อธิบายว่า ไม่ได้ตรัสรู้ตามใคร ได้แก่ ตรัสรู้สัจจธรรมด้วยสยัมภูญาณ.

    ความจริง การตรัสรู้สัจจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย แม้เป็นไปอยู่ด้วยพระองค์เองทีเดียว โดยเป็นสยัมภูญาณ ชื่อว่ามีผู้ตรัสรู้ตาม เพราะเป็นเหตุแห่งการตรัสรู้สัจจธรรมของสัตว์ทั้งหลายหาประมาณไม่ได้.
    ก็การบรรลุสัจจะนั้นของเหล่าสัตว์ผู้หาประมาณมิได้เหล่านี้ ย่อมไม่เป็นเหตุแห่งการตรัสรู้สัจจธรรมของสัตว์แม้คนเดียว. ชื่อว่าสาวก เพราะเกิดในที่สุดแห่งการฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา. การตรัสรู้สัจจธรรมของพระสาวกทั้งหลาย ชื่อว่า สาวกสัมโพธิ.

    ก็การตรัสรู้ ๓ อย่างแม้นี้ของพระโพธิสัตว์ ๓ จำพวก พึงทราบว่า ยังการเจริญโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการมีสติปัฏฐานเป็นต้นให้บริบูรณ์ เพื่อถึงที่สุดแห่งปฏิปทาที่จะมาถึงตามลำดับของตน (รอความบริบูรณ์แห่งบารมีของตน) เพราะเว้นโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการนั้น การตรัสรู้นอกนี้จะมีไม่ได้.

    "จงพิจารณาให้เห็นความเป็นจริงเถิดว่า"
    องค์สมเด็จพระบรมมหาศาสดาทรงจำแนกพระธรรมคำภีร์คำสั่งสอนออกมาเป็นทางสายกลางสายเดียวไม่มีแปลกแยกเป็นอื่น ผู้ที่ถือพระธรรมคัมภีร์ธรรมแม่บทโดยปฎิสัมภิทาญานได้ "เปรียบเสมือนผู้ถือแท่งทองชมพูนุช"เป็นแม่แบบ เป็น"รัตนมหาธาตุ"ย่อมสามารถมองล่วงรู้เห็นว่า ทองคำแท่งใดปลอมปน วัสดุอื่นตามได้อย่างละเอียด ว่ามีเหล็กบ้าง ตะกั่วบ้าง เป็นต้น ถ้าถึงกาลเวลานั้น คือมีผู้สามารถรวมรวมการแตกแยกของนิกายทั้งหมดมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้เมื่อไร ด้วย ปาฎิหาริย์ ๓ ตอนนั้นจักรวรรดิธรรม ก็จะพร้อมเรียกชื่อ นิกาย อันมีนามแท้"ดั้งเดิม" อันเป็นนามที่แท้จริงของพระศาสนา เหมือนกับสมัยพุทธันดรก่อนๆ นั้นแล

    พระธรรมคำสั่งสอนอันสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสรู้ดีแล้ว ทรงจำแนกสั่งสอน นั้นไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลางและบั้นปลายในที่สุดนั้น เป็นความจริงอันเห็นตรงตาม ยอมรับศรัทธากันในพระพุทธศาสนานี้โดยเฉพาะ
    พึงเข้าใจเถิดว่า. ในยุคนี้ ผู้ที่แสดงพุทธภาษิต แค่เพียงภาษิตเดียว ก็ยังไม่สามารถแสดงได้เทียบเทียมพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย พระขีณาสพและพระอรหันต์ผู้ที่อยู่ในสารคุณ ให้ผู้รับฟังได้เข้าใจแจ่มแจ้งเข้าถึงวิมุติได้เลยแม้สักผู้เดียว (เมื่อผู้เสวยวิมุติแสดงธรรม ธรรมนั้นย่อมเป็นวิมุตติ)

    {โปรดเล่าเรียนศึกษาพระสัทธรรมด้วยความเคารพ}

    {O} ภิกษุ ท.! โลกธรรม มีอยู่ในโลก. ตถาคต ย่อมตรัสรู้ ย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ซึ่งโลกธรรมนั้น; ครั้นตรัสรู้แล้ว รู้พร้อมเฉพาะแล้ว ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงายของที่คว่ำ.
    ภิกษุ ท.! ก็อะไรเล่า เป็นโลกธรรมในโลก?
    ภิกษุ ท.! รูป เป็นโลกธรรมในโลก. ตถาคต ย่อมตรัสรู้ ย่อมรู้พร้อมเฉพาะ ซึ่งรูปอันเป็นโลกธรรมนั้น; ครั้นตรัสรู้แล้ว รู้พร้อมเฉพาะแล้วย่อ...มบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ ย่อมตั้งขึ้นไว้ ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนกแจกแจง ย่อมทำให้เป็นเหมือนการหงายของที่คว่ำ.
    ภิกษุ ท.! บุคคลบางคน แม้เราตถาคตบอก แสดง บัญญัติ ตั้งขึ้นไว้เปิดเผย จำแนกแจกแจง ทำให้เป็นเหมือนการหงายของที่คว่ำ อยู่อย่างนี้ เขาก็ยังไม่รู้ไม่เห็น. ภิกษุ ท.! กะบุคคลที่เป็นพาล เป็นปุถุชน คนมืด คนไม่มีจักษุคนไม่รู้ไม่เห็น เช่นนี้ เราจะกระทำอะไรกะเขาได้.
    ภิกษุ ท.! เปรียบเหมือน ดอกอุบล หรือดอกปทุม หรือดอกบัวบุณฑริกก็ดี เกิดแล้วเจริญแล้วในน้ำ พ้นจากน้ำแล้วดำรงอยู่ได้โดยไม่เปื้อนน้ำ, ฉันใด; ภิกษุ ท.! ตถาคตก็ฉันนั้นเหมือนกัน เกิดแล้วเจริญแล้ว ในโลกครอบงำโลกแล้วอยู่อย่างไม่แปดเปื้อนด้วยโลก.{O}

    #ธรรมทาน

    #ขอท่านสหธรรมิกโปรดพิจารณาไตร่ตรองให้เห็นความเป็นจริงขอรับ

    #ความรู้ความเข้าใจระดับปฎิเวท ของเหล่าปฎิสัมภิทา ๑๖ การเปลี่ยนแปลงของอรรถและพยัญชนะปฎิรูป
    {พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดน้อมพระสัทธรรม โดยทรงตรัส ปริยัติวาระ ด้วยปฎิสัมภิทา ๑๖ วิมุตติญานทัสสนะ แปลงเป็นนิรุตติญานทัสสนะ สู่อรรถกถาญานทัสสนะ } แม้ในครั้ง ปฐมสังคายนา ทุติยะ ตติยะ ก็ถูกถ่ายทอดอย่างนี้โดยแท้ ด้วยพระปฎิสัมภิทา ๒,๒๐๐ รูป

    #หลังจากนั้นก็ถือสวดท่องจำโดยมุขปาฐะ และจารจารึก หนหลังพระปฎิสัมภิทาไม่บังเกิดจึงสังคายนาด้วย วสี ๕ จนเหลือรอดมาถึงยุคปัจจุบัน

    #ความสำคัญของอรรถกถาของอรหันต์พระปฎิสัมภิทาปฐมสังคายนา ทุติยะ,ตะติยะฯ
    #ย่อให้สั้นโดยพิสดาร
    [จักเกิดความเข้าใจในทันที]
    [เห็นหายนะของเหล่าโมฆะบุรุษอลัชชีได้ชัดเจนในทันที]
    #ญานในพระนิพพานคืออรรถปฎิสัมภิทา
    #{พระสัทธรรม}พระธรรมราชาทรงตรัสรู้ทรงเปิดประตูพระนิพพาน
    #กล่าวพระปริยัติสัทธรรมสู่การรู้แจ้ง
    #เมื่อรู้แจ้งจึงได้พระนิพพาน
    #พระสัทธรรม
    #ญานในพระนิพพาน
    #ญานมีวิมุตติรสเป็นสภาวะเป็นวิมุตติญานทัสสนะ
    #วิมุตติญานทัสสนะสู่นิรุตติญานทัสสนะ
    #นิรุตติญานทัสสนะสู่อรรถกถาญานทัสสนะ
    #อรรถกถาญานทัสสนะสู่ธรรมฐิติญานทัสสนะ
    #ธรรมฐิติญานทัสสนะสู่ผัสสนญานทัสสนะ
    เมื่อผัสสนญานทัสสนะกระทบสฬายตนะด้วยอายตนะ๑๒
    การฟังพระธรรม จนเป็นสัญญาที่มั่นคง คือ ทรงจำ พร้อมดัวยปัญญา ความเข้าใจ จนเป็นปัจจัย ให้สติปัฏฐานเกิด

    #ผู้ตรัสรู้สัจจะ สามารถเข้าถึงองค์พระสัทธรรมได้โดยตรง และอัญเชิญพระสัทธรรมโปรดเวไนยสัตว์ได้
    #พระสัทธรรมคือพระศาสดา
    #พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงเคารพพึ่งพิงพระสัทธรรม

    ในเรื่องนี้ ต่อให้เป็นนักวิชาการระดับสูงของโลกในด้านบาลีไวยากรณ์ในทางพระพุทธศาสนา แต่ไม่ได้ไม่มีในปฎิสัมภิทาจะไม่มีทางได้เข้าใจ

    ถ้าหากว่ามีใครสัก กล่าวว่า ภาษาบาลีไม่ใช่ภาษา

    มี "พระมหาปกรณ์" อยู่ครับ แต่ ต้องพิจารณาขอบเขต ๒๕๐+ ๓๐๐=๙๐๐ โยชน์ มัชฌิมประเทศที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายมาจุติ และอุบัติขึ้น และภาษาอื่นที่ทรงเสด็จไปทรงโปรดด้วย จึงจำเป็นต้องถ่ายทอดลงมาเป็นสุทธิมาคธี-มาคธี พระมหาปกรณ์นั้น ถ้าเห็นสภาพการเปลี่ยนแปลงก็จะเข้าใจครับ และในกาลอื่นๆที่ทรงเสด็จไปโปรด ภาษาที่รักษาไว้ซึ่งพระพุทธวจนะก็ทรงถ่ายทอดลงมาเป็นภาษาอื่นๆเมื่อทรงเสด็จไปโปรดสัตว์ในโลกธาตุที่มีภาษาอื่นอีกด้วยครับ ถ้าเขากล่าวว่า" ไม่ใช่ภาษา" แล้วเขาไม่รู้จัก "ปฎิสัมภิทา มัคโค" วิศิษฐปาฐะ หรือการเปลี่ยนแปลงของพยัญชนะปฎิรูป คือการเปลี่ยนแปลงของภาษาธรรม ที่แม้แต่จะถามด้วยใจก็สามารถตอบด้วยวาจา ถามด้วยความรู้สึกเช่นนั้นเป็นภาษาใด

    ขอให้สหายบัณฑิตผู้เจริญของข้าพเจ้าพิจารณาดูให้ดีนะครับ สิ่งที่ผมกล่าวเป็นทั้ง ปริยัติ ปฎิบัติและปฎิเวธ ของ ผู้เสกขภูมิ(เสขะภูมิ)อยู่ ฉนั้นเมื่อเขาไม่รู้จักการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่รู้จักปฎิสัมภิทาญาน หากเขาใช้คำพูดแบบนั้น เขากล่าวไม่ถูกต้องครับ และถ้าเขารู้จัก พระมหาปกรณ์อันละเอียด ที่มีอัตลักษณ์ ที่ไม่หยั่งลงสู่ความตรึกนี้ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นภาษาที่เราท่านสามารถเข้าใจทั้ง รูป พยัญชนะ สำเนียง ของอรรถ ในทันที ที่แม้จะไม่เคยได้รู้ได้เรียนมาก่อนเลย โดยในนามปฎิสัมภิทา เขาถือทิฏฐินั้นได้ ฉนั้นการที่จะเอา ภาษาบาลีหรือพยัญชนะเหล่าใดก็ตาม มาตรวจสอบกับแท่นพิมพ์ ถ้าแท่นพิมพ์หรือแม่แบบ นั้นแปลงสภาพให้ เป็น อักษรนั้นๆ ก็เห็นควรอยู่ ที่จะเป็นหรือเรียกว่า บาลี แต่ถ้าแม่แบบไม่เปลี่ยนให้ หรือเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นๆ ท่านก็จะคิดจะรู้ทันทีว่า เห็นที่จะไม่ใช่ ภาษานี้โดยตรง เพราะฉนั้น การที่จะเอา ภาษาใดๆก็ตามมาตรวจสอบกับแท่นพิมพ์ว่า เป็นภาษาที่ตรงกันหรือไม่ ไม่ใช่ฐานะที่จะกระทำได้หรือระบุได้ตายตัว

    ผมจึงใช้คำว่า ไม่ใช่ พระพุทธวจนะตรงๆจาก พระสัทธรรม แต่เป็นภาษาที่ทรงโปรดนำมาแสดงไว้ ตามความเหมาะสมของเชื้อชาติประเทศราชและท้องถิ่นนั้นๆครับ ก็เพื่อจะให้ชนส่วนใหญ่ได้ล่วงรู้โดยง่าย ถ้านำลงมาแสดงไว้ด้วยภาษาอื่นๆก็จะต้องตีความแล้วตีความเล่า เพราะยิ่งด้วยผู้มีปฎิสัมภิทาแล้ว เห็นประโยคเดียว ออกเป็นร้อยนัยพันนัยเลยที่เดียวตามกระแสสกานิรุตติ และเพ่งจิตด้วยวิมุตติญานทัสสนะตามธรรมที่เสวยวิมุตติสุขนั้นๆ ภาษาใจ ภาษาธรรมชาติ ที่เป็น "สัจธรรมมหาปกรณ์" ผมไม่สามารถจะทำให้ท่านได้รู้เห็นได้ ท่านต้องเห็นเอง ขอให้เจริญในปฎิสัมภิทาเถิดครับ ด้วยสติปัญญาของบัณฑิต ผู้สั่งสมสุตตะอย่างท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะท่านที่ได้อ่านในตอนนี้เมื่อใดที่ท่านได้เข้าสู่ทิพย์ภูมิของพระอริยะ ในปฎิสัมภิทา

    ท่านจะทราบเลยว่า ขนาดที่มีธรรมละเอียดที่จะทรงสามารถแสดงได้ขนาดนี้เพื่อให้สัตว์โลกได้เข้าใจถึงสภาวะธรรม แต่กลมลสันดานของสัตว์โลกที่ไม่ได้สั่งสมสุตตะมาก่อนไม่เหมาะที่จะตรัสรู้และเข้าใจธรรมอันประเสริฐนี้ จนทรงท้อพระทัยที่จะทรงตรัสสอน จึงแสดงเพื่อเป็นพลวปัจจัยเป็นอันมาก จึงทรงกล่าวธรรมแม้บทเดียวโดยที่เขาเข้าใจก็เป็นสุขแก่สัมปราภพของสัตว์นั้นอย่างยาวนานจวบจนพระนิพพาน และโดยเฉพาะฐานะที่ท่านทำอยู่ในการปกป้องรักษาพระไตรปิฏกด้วยความบริสุทธิ์ใจเหล่าใดก็ตามในกาลนี้ก็ตามกาลอดีตที่แล้วมาจนถึงกาลอนาคตก็ตาม พวกท่านทั้งหลายเหล่านั้นฯ ย่อมได้บรรลุสู่ ปฎิสัมภิทาญาน อย่างแน่นอนครับ พระอรหันต์๔หมวด มีคุณความสามารถที่แตกต่างกันตามบทบาทและหน้าที่ วันนั้นเมื่อท่านได้เห็น พระมหาปกรณ์ จาก พระสัทธรรม พระธรรมราชา แล้ว ท่านจะเข้าใจ อรรถพยัญชนะที่ข้าพเจ้าแสดงไว้แล้วนี้ สาธุธรรมครับ

    #เสขะปฎิสัมภิทา





    #ท่านสหธรรมกัลยาณมิตร ขอท่านจงมีเมตตาต่อเพื่อนพรหมจรรย์ ยกพุทธบริษัทเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายออกจากความหลงผิดในสัทธรรมปฎิรูป ด้วยเถิด


    โปรดเมตตาแก่พวกเขาด้วย ข้าพเจ้ายังไม่อาจและยังไม่อยากปรากฏตัวด้วยฐานะเพศพรหมจรรย์ที่ไม่บริสุทธิ์




    #อีกไม่นาน!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2024 at 20:28

แชร์หน้านี้

Loading...