เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 25 กุมภาพันธ์ 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อคืนนี้การแสดงต่าง ๆ ของชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน และชุมชนเครือข่ายอื่น ๆ เสร็จสิ้นลงในเวลา ๓ ทุ่มกว่า กระผม/อาตมภาพที่รอแจกรางวัลให้นักแสดงอยู่ก็เริ่มสั่น เหตุที่สั่นไม่ใช่เพราะว่าจ่ายรางวัลนักแสดงมากจนเกินไป หากแต่ว่ามาลาเรียกำเริบแล้ว เพียงแต่ว่าพิธีเปิด ซึ่งท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ที่ลงไปประชุมในเมืองกาญจน์นั้น เมื่อกลับขึ้นมาถึง ก็ได้เป็นประธานในพิธีเปิดเลย

    ส่วนของคุณสมมารถ คำถนอม วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี และดร.ธีรชัย ชุติมันต์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรีนั้น รับหน้าที่เป็นผู้กล่าวคำนิยมในพิธีเปิด ซึ่งทั้งสองท่านก็ชมเชยเสียจนกระผม/อาตมภาพเลิศลอยแทบจะเท้าไม่ติดดิน ซึ่งความจริงแล้วเป็นงานที่สำเร็จลงได้ด้วยคณะกรรมการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิก็ดี คณะกรรมการชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนก็ตาม ตลอดจนกระทั่งสภาเทศบาลตำบลทองผาภูมิ และสภาเทศบาลตำบลท่าขนุน ซึ่งได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

    หลวงพ่อต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) รองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค เจ้าอาวาสวัดพุตะเคียน ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอไทรโยคกล่าวว่า "หลวงพ่อเล็กได้เปรียบตรงที่ทุกโรงเรียนเต็มอกเต็มใจมาร่วมงาน แค่นักเรียนอย่างเดียวก็มากมายมหาศาลแล้ว" กระผม/อาตมภาพเองก็เห็นด้วยกับข้อวิเคราะห์ตรงนี้ เนื่องเพราะว่าได้มอบทุนการศึกษาให้กับทุกโรงเรียน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงเวลาที่วัดมีงาน ทางโรงเรียนก็เต็มใจจัดชุดการแสดงต่าง ๆ มาร่วมด้วย

    โดยเฉพาะขบวนแห่เทิดไท้องค์ราชันและเทิดเกียรติอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งประกอบไปด้วยรถบุปผชาติ ติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินีนั้น ขบวนยาวเหยียด จนกระทั่งหัวขบวนไปถึงสามแยกหน้าตลาดสดทองผาภูมิแล้ว ท้ายขบวนเพิ่งจะออกจากสำนักงานเทศบาลตำบลทองผาภูมิ..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ความจริงปีนี้เราคาดว่าจำนวนบุคคลที่ร่วมขบวนแห่ชาติพันธุ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมอญ เป็นกะเหรี่ยง เป็นม้ง เป็นเย้า เป็นเนปาลี เป็นเมียนมาร์ เป็นไทยอีสาน และเป็นลาวนั้น น่าจะอยู่ที่ประมาณ ๔๐๐ คน จึงได้เตรียมอาหารไว้สำหรับ ๕๐๐ คน

    แต่ปรากฏว่าพี่น้องมอญมาเกินจำนวนมากยังไม่พอ พี่น้องกะเหรี่ยงที่เห็นว่าในปีก่อน ๆ นั้นในขบวนแห่ตนมีคนน้อยกว่าพี่น้องมอญ ปีนี้จึงใช้วิธีจัดเต็ม นำเอาพี่น้องกะเหรี่ยงทั้งจากบ้านห้วยเขย่งและทั้งสังขละบุรีมาร่วมงานด้วย รวมแล้ว ๑,๐๐๐ กว่าคน ทำเอากระผม/อาตมภาพออกอาการหน้ามืด เพราะว่าอาหารที่เตรียมไว้ทำท่าจะไม่พอ ดีที่ได้รับความเมตตาจากท่านนายกปาล์ม (นายศราวุธ ศรีทันดร) นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ ที่บริการข้าวเหนียวไก่ทอดแบบไม่อั้น

    ขณะเดียวกันนางลำแพน สุภรศรี ประธานคณะกรรมการทอผ้าพื้นเมืองบ้านทุ่งนางครวญ อดีตกำนันตำบลชะแล อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านทุ่งนางครวญ ก็ยังนำเอาส้มตำไทยอีสานมาบรรเลงให้แบบไม่อั้น ซึ่งยังโชคดีที่อดีตผู้ใหญ่บ้านลำแพนเชื่อที่กระผม/อาตมภาพบอก จึงได้ทำการซอยมะละกอเตรียมไว้หลายกะละมัง เมื่อบรรดาผู้หิวโหยทั้งหลายมาถึง จึงได้เร่งตำและปรุงให้เรียบร้อย เมื่อได้ส้มตำบวกกับข้าวเหนียวไก่ทอดเข้าไป ทุกคนก็ทำท่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง

    จนกระทั่งถึงพิธีเปิด ซึ่งควบคุมการแสดงต่าง ๆ แสง สี เสียง โดยครูตูน (นางวารุณี พรมฝ้าย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไร่ป้า อดีตครูนาฏศิลป์ โรงเรียนบ้านอูล่อง ซึ่งคุณครูได้จัดชุดการแสดง "สื่อรักสงครามโลก" ที่เป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับในช่วงสงครามโลก ที่ทหารญี่ปุ่นนำเชลยศึกมาสร้างทางรถไฟบริเวณบ้านท่าขนุน แล้วคุณหมอเกอิซัง ซึ่งเป็นทหารญี่ปุ่นได้ช่วยชาวบ้านและทหารทุกคนด้วยจรรยาบรรณแพทย์ ทำให้เป็นที่นิยมของชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงเกิดความรักกับนางสาวทองคู่ ชาวบ้านปรังกาสี

    เมื่อสงครามจบลง ความรักที่กำลังเบ่งบานก็กลายเป็นเรื่องเศร้า เพราะว่าคุณหมอเกอิซังต้องเดินทางกลับญี่ปุ่น จึงได้มอบผ้าเช็ดหน้าและแหวนแทนตัวเอาไว้ให้กับนางสาวทองคู่ ชาวบ้านปรังกาสี ซึ่งทางด้านนางสาวทองคู่ ก็เก็บของที่ระลึกนี้เอาไว้เป็นอย่างดียิ่ง และได้มอบให้กับทางป้าตุ่น (นางสาวบุญสนอง บุญยงค์) คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงเรื่องราวความรักไร้พรมแดนในช่วงสงครามโลก

    โดยเฉพาะนางสาวทองคู่นั้น ปัจจุบันมีอายุ ๙๖ ปีแล้ว ยังแข็งแรงดีทุกประการ แต่ไม่ได้ข่าวคราวจากคุณหมอเกอิซังอีกเลย จึงไม่ทราบเหมือนกันว่าคุณหมอยังอยู่ดีมีสุข หรือว่าล้มหายตายจากไปแล้ว..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ท่านพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ พระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ และพระครูสุทธิสารโสภิต รองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ที่ร่วมชมการแสดงอยู่ บอกว่าแสงสีเสียงดีกว่างานสะพานข้ามแม่น้ำแควเสียอีก..!

    กระผม/อาตมภาพไม่รู้ว่างานสะพานข้ามแม่น้ำแควหน้าตาเป็นอย่างไร เนื่องเพราะว่าไม่เคยไปปรากฏตัวในงานมาก่อน เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของฆราวาส ไม่ใช่เรื่องของพระ แต่ว่าทำหน้าที่จ่ายรางวัลให้กับนักแสดง ซึ่งแค่ชุดสื่อรักสงครามโลกนี้ ก็มีนักแสดงทั้งหมด ๘๖ คนเข้าไปแล้ว แล้วยังการแสดงชุดต่าง ๆ อีก จากสารพัดโรงเรียน

    ดังนั้น..เมื่อจ่ายรางวัลเสียจนไข้ขึ้น ก็ต้องฉันยาต่อหน้าต่อตาธารกำนัล แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่องานไม่จบ ถ้ากระผม/อาตมภาพลุกออกมาก่อน คนที่เหลือก็จะหมดกำลังใจ ครั้นเสร็จงานแล้ว ก็ต้องมานอนจับไข้อยู่คนเดียว ถ้าวันนี้ใครสังเกต จะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพนั้น สุ้มเสียงค่อนข้างจะแปลก ๆ พอตี ๓ ครึ่ง ก็ต้องออกไปนำผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๒/๒๕๖๗ เจริญพระกรรมฐานรอบเช้ามืด ต่อด้วยการทำวัตรเช้า

    หลังจากนั้นก็ต้องออกรับบิณฑบาตจากนักท่องเที่ยวและประชาชนในชุมชน เฉพาะในบริเวณตลาดริมแคว ตามโครงการ "วันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน" ซึ่งเมื่อรวมผู้ปฏิบัติธรรมและนักท่องเที่ยวเข้าไปแล้ว ก็ทำเอาแถวยาวยืดมาจนเกือบจะถึงบ้านท่านผู้กำกับมนตรี แตงโต ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ซึ่งท่านผู้กำกับเองก็ลงมาดูแลการใส่บาตรอยู่ด้วย

    ครั้นกลับมาแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ทำการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติรุ่นที่ ๒/๒๕๖๗ อย่างเป็นทางการ แล้วขึ้นแสดงพระธรรมเทศนาวันมาฆบูชา ครั้นกลับลงมาก็ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ รับถวายภัตตาหารสังฆทานจากญาติโยมทั้งหลาย

    ครั้นให้พรแล้ว จึงได้ปล่อยให้ทุกท่านออกไปช่วยกันทำความสะอาดวัดวาอาราม ส่วนตนเองก็ต้องมารับแขกที่บุกมาถึงกุฏิ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ก็ต้องรีบฉันเพล แล้วนอนภาวนาเก็บแรงเอาไว้ จนเที่ยงตรงก็กลับเข้าไปในศาลา ๑๐๐ ปีฯ สนทนาธรรมกับผู้เข้าปฏิบัติธรรม
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เมื่อถึงเวลาเที่ยงครึ่งก็นำสมาทานกรรมฐาน แล้วมอบหมายหน้าที่ให้ดร.แม่ชีกุลภรณ์ แก้ววิลัย วิปัสสนาจารย์ประจำสำนักฯ นำปฏิบัติธรรม ตัวกระผม/อาตมภาพไปทำหน้าที่พระอุปัชฌาย์ ประชุมสงฆ์ ๓๕ รูป ทำการอุปสมบทหมู่จำนวน ๕ รูป สำหรับบุคคลที่ตั้งใจอุปสมบทเพื่อปฏิบัติธรรมช่วงสัปดาห์มาฆบูชา หลังจากที่บวชเสร็จแล้ว ก็ได้ฟังพระปาฏิโมกข์ต่อเลย

    เมื่อออกจากโบสถ์มา กระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางข้ามไปยังตลาดริมแควอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าได้นัดหมายกับครูโรส (นางสาวสมรส สวรรค์งาม) ครูโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ที่เป็นกรรมการสภาวัฒนธรรมตำบลท่าขนุน ได้นำเอาเด็กนักเรียนซึ่งเป็นเด็กหอพัก มาทำโครงการคังด้งสร้างสมาธิ

    คำว่า คังด้ง ในที่นี้ก็คือ การใช้ไหมพรมพันเป็นรูปต่าง ๆ เลียนแบบใยแมงมุม ซึ่งเป็นใยแมงมุมที่กะเหรี่ยงนับถือกันมาก เพราะถือว่ามีความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ นอนอยู่เฉย ๆ ก็มีอาหารตกมาถึงปากเอง ดังนั้น..ถ้าจะว่าไปแล้ว เรื่องของวิชา "แมงมุมดักทรัพย์" นั้น เริ่มต้นมาจากบรรดาพี่น้องกะเหรี่ยงนี้เอง

    เด็ก ๆ ทำคังด้ง นอกจากเป็นชิ้นใหญ่สำหรับประดับบ้านประดับสวนแล้ว ยังทำชิ้นเล็กเป็นพวงกุญแจบ้าง ต่างหูบ้าง กระผม/อาตมภาพสั่งพวงกุญแจไว้ จึงต้องไปรับ ซึ่งเด็ก ๆ จำหน่ายในราคาพวงละ ๑๒๙ บาท กระผม/อาตมภาพขอต่อราคาที่ ๑๕๐ บาทถ้วน..! ทำเอาทั้งเด็กทั้งครู ทำหน้า "เหวอ" ไปตาม ๆ กัน

    ครั้นกลับมาก็ทำการซักผ้า แล้วบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ต่อจากนี้ก็จะออกไปตามประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง ถวายเป็นพุทธบูชา แล้วไปเป็นประธานในการแสดงของบรรดาเด็กนักเรียน ในงานทำบุญประจำปีปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน และทำบุญอุทิศอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน จังหวัดกาญจนบุรี ปี ๒๕๖๗ ต่อไป

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...