เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 7 สิงหาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,692
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,555
    ค่าพลัง:
    +26,395
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,692
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,555
    ค่าพลัง:
    +26,395
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้ามากระผม/อาตมภาพก็ออกบิณฑบาต โดยเฉพาะรับบาตรตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าซิ่น นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ซึ่งอาทิตย์นี้คนมากันมากเป็นพิเศษ แล้วฝนก็ซ้ำเติมตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง

    หลังจากนั้นแล้วก็ต้องมาบรรยายธรรมให้กับคณะแรลลี่ทัวร์ เที่ยวชุมชน ยลวิถี จากเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ ต่อด้วยการจับสลากหาผู้โชคดี รับรางวัลวัตถุมงคลจากการที่ร่วมขบวนแรลลี่ทัวร์มา แล้วก็ต่อด้วยการดูงานภาคสนามของโครงการมัคคุเทศก์น้อยออนทัวร์นานาชาติพันธุ์ แค่นี้ก็หมดไปแล้วครึ่งวัน..!

    หลังเที่ยงแล้วก็มามอบยาห้าราก ยาฟ้าทะลายโจร แล้วก็เจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับคณะ อสม.ตำบลท่าขนุน เพื่อเอาไปใช้ป้องกันและรักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ซึ่งต้องบอกว่าทองผาภูมิของเรา การติดเชื้อยังรุนแรงมาก แต่คนกลับไม่กลัวกัน มีแต่คนที่ติดแล้วมีอาการยาวมาเป็นเดือน ที่เขาเรียกกันว่า Long COVID นั่นถึงจะรู้รสชาติของชีวิต ว่าการปล่อยให้ติดเชื้อโควิด ๑๙ แล้วเป็นอย่างไร !?

    หลังจากนั้นก็มาทำพิธีปิดโครงการ แล้วมอบวุฒิบัตรให้กับมัคคุเทศก์น้อยออนทัวร์นานาชาติพันธุ์ ยังไม่ทันจะเสร็จดี ก็ต้องวิ่งไปงานปฐมนิเทศเปิดสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมที่วัดปรังกาสี ซึ่งพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ได้รวมเอานักเรียนจากเขตตำบลลิ่นถิ่นเขต ๒ ตำบลหินดาด ตำบลสหกรณ์นิคม ตำบลท่าขนุนเขต ๑ และตำบลท่าขนุนเขต ๒ รวมทั้งสิ้น ๕ ตำบลมาเรียนรวมกัน ก็ยังมีนักเรียนแค่ไม่ถึง ๓๐ รูป

    เมื่อเสร็จพิธีปฐมนิเทศ ก็เป็นการมอบตำราเรียนให้กับคณะสงฆ์ตำบลต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการสอนนักธรรมชั้นตรี ชั้นโทและชั้นเอก กระผม/อาตมภาพยังได้มอบปัจจัยร่วมพิมพ์หนังสือสวดมนต์ของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ จำนวน ๒๓,๐๐๐ บาทให้แก่ท่านเจ้าคณะอำเภอ นี่คืองานที่ยังไม่หมด

    ในส่วนนี้เราจะเห็นว่า เรื่องของงานนั้น ถ้าเราตั้งใจทำให้ดี ไม่ว่างานจะมากแค่ไหน เราก็ทำได้ แต่ถ้าหากว่าเราขาดความตั้งใจ ขาดความพยายาม โอกาสที่จะทำทุกอย่างให้ดีก็เป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้ขาดไหวพริบปฏิภาณด้วย ก็จะยิ่งลำบากมาก
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,692
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,555
    ค่าพลัง:
    +26,395
    อย่างเมื่อเช้านี้ การรับบาตรตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าซิ่น นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" บรรดานาคที่ไปช่วยเก็บกับข้าว และสิ่งของที่ญาติโยมใส่บาตร ขาดความคล่องตัวอย่างมาก คือสำหรับคนอื่น แค่มองดูก็รู้ว่าต้องทำอะไร แต่ว่าบรรดานาคทั้งหลายกลับทำอะไรไม่ถูก

    มีบางคนก็รอให้กระผม/อาตมภาพเป็นคนเก็บกับข้าว เก็บข้าวของออกไปใส่กระสอบเอง เมื่อกระผม/อาตมภาพลองยืนรอดูว่าจะมีไหวพริบพอที่จะหยิบเองไหม ? พวกคุณก็ยืนรอกระผม/อาตมภาพเสียอีก หรือไม่บางคนทั้ง ๆ ที่คนเตือนแล้วว่าบังกล้อง แต่ก็ระวังแค่ ๒ วินาที วินาทีที่ ๓ กูก็บังต่อไป..!

    หรือไม่ก็อย่างแถวพระกำลังจะข้ามถนน เหลียวดูเพื่อให้รู้ว่ามีรถมาหรือเปล่า ? แต่เหลียวไปทีไร พวกนาคก็บังทางจนหมด ตกลงว่าพระต้องเสี่ยงดวงข้ามถนนให้รถชนตายเอาเอง เพราะว่ามองอะไรไม่เห็น..!

    เรื่องพวกนี้ถ้าคนมีไหวพริบปฏิภาณ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลย แต่ปรากฏว่าพวกเราทำได้ในลักษณะที่เรียกว่าย่ำแย่สุด ๆ ถ้าไปเจอคนปากร้าย เขาก็จะบอกว่า "ฉลาดกว่าควายก็แค่ยืนสองขาได้เท่านั้น..!"

    เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่สอนกันยาก เหตุที่สอนกันยาก เพราะถ้ายกตัวอย่างกระผม/อาตมภาพเอง เข้าไปทำงานในบริษัทหลังพระครูแสง น้องชายถึง ๓ ปี แต่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปี ก็มีความก้าวหน้าในการงานมากกว่าคนที่ทำมาแล้วถึง ๓ ปี

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพจะมองงานว่าลำดับต่อจากนี้ไป เราต้องทำอะไร ในเมื่อเราคำนวณได้ว่าจะต้องทำอะไร ก็ต้องเตรียมการสำหรับสิ่งนั้นไว้ให้เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาต้องทำ ทุกอย่างก็พร้อมสมบูรณ์ แต่พวกเราส่วนหนึ่งมองงานล่วงหน้าไม่เป็น แก้ไขหน้างานไม่เป็น การแก้ไขหน้างานคือ มีปัญหาอะไรที่ทำงานให้งานต้องสะดุด ต้องขาดความคล่องตัว เราจะแก้ไขอย่างไรให้ทันกับเหตุการณ์

    เมื่อเป็นเช่นนี้ สำหรับพวกเราก็ไม่ต้องไปพูดถึงในเรื่องของการคาดคำนวณถึงเรื่องต่าง ๆ ที่จะมีขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาทิตย์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า เพราะว่าแค่ตรงหน้าก็ยังไปไม่เป็นแล้ว ส่วนอื่นจึงไม่ต้องพูดถึง..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,692
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,555
    ค่าพลัง:
    +26,395
    ดังนั้น...ในเรื่องของการทำงาน ไหวพริบปฏิภาณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะความละเอียดรอบคอบ แต่พวกเราพอละเอียดก็จะช้าทันที ถ้าหากว่าปล่อยให้เก็บกับข้าวกันเอง คัดแยกกันเอง รับประกันได้ว่ายันฉันเพลก็ยังบิณฑบาตไม่เสร็จ..!

    แล้วพรุ่งนี้ถึงเวลาตามพระออกบิณฑบาต ก็ไม่ใช่ตะบี้ตะบันตามไปทั้งหมด ไปทำอะไรให้เกะกะเสียเปล่า ไปอย่างเต็มที่ก็ไม่เกิน ๓ คน ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเอง คนเดียวก็พอแล้ว คนแรกเก็บกับข้าวเสร็จ ก็ไปต่อท้ายแถวให้คนที่สองมาเก็บต่อ คนที่สองเก็บแล้วก็ไปต่อท้ายแถวให้คนที่สามขึ้นมาแทน หมุนเวียนกันไป..ง่าย ๆ แค่นี้เอง

    ก่อนที่จะเก็บกับข้าวก็โปรดพิจารณาด้วยว่า ไอ้ตอนที่เราเอื้อมมือไปเก็บ จะไปขวางคนอื่นเขาหรือเปล่า ? เขาใส่บาตรได้ไหม ? ถ้าหากว่าใส่บาตรรูปแรกได้ แล้วถ้ามือเราเอื้อมไปขวางอยู่ เขาจะใส่รูปที่สองได้ไหม ?

    เชื่อไหมว่าเรื่องทั้งหมดนี้ กระผม/อาตมภาพไม่เคยต้องรอให้ใครสอนเลย อยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงก็ไม่เคยให้ใครสอนงาน เข้าไปถึงตรงไหนก็ทำหน้าที่ไปได้เลย คอยสังเกตเอา แล้วก็ปรับตัวตามหน้างาน แล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่า ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงในยุคนั้นเป็นแบบนี้เกือบทุกคน ไปวัดก็มองหางานเอง ได้งานแล้วก็พิจารณาดูว่าต้องร่วมงานกับใคร ถ้าหากว่างานเกินกำลังตัวเอง ต้องอาศัยใครมาแก้ไข ทุกคนสามาถทำงานได้เองโดยไม่ต้องเสียเวลาไปให้ใครต้องมาปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไช

    แล้วทำไมแค่ไม่กี่ปี พอมาถึงยุคพวกเรา บอกว่าอย่าบังกล้อง ๒ วินาทีต่อมาก็บังอีกแล้ว..!? บอกว่าให้ยืนเยื้องไปข้างหลังแล้วเก็บกับข้าว ๒ วินาทีต่อไปก็ยืนบังหน้าอีกแล้ว จะเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจเกินไปไหม ? ถ้าหากว่าครูบาอาจารย์จะต้องมาจ้ำจี้จ้ำไชอยู่ทุกวัน ต่อให้มึงฟังแล้วไม่เบื่อ กูก็เบื่อที่จะพูด..!

    ดังนั้น...ลองดูว่าก่อนที่จะถึงวันที่ ๑๐ ช่วงบ่าย พวกเรายังมีเวลาแก้ตัว ดูว่าจะจัดสรรกำลังพลอย่างไร ใครจะตามพระ ใครจะอยู่ทำความสะอาดวัด ใครจะอยู่ช่วยเหลืองานในโรงครัว ถ้าคนแค่นี้แบ่งกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรแล้ว..!

    ถ้าหากว่านับว่า ดี ๑ ประเภท ๑ ก็คือบรรดาท่านทั้งหลายที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดในสมัยพุทธกาล หลังจากนั้นความสามารถก็ค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย แต่เหลือเชื่อแค่ว่ายุคที่กระผม/อาตมภาพถวายการรับใช้หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงอยู่ มาจนถึงปัจจุบันนี้ แค่ไม่กี่ปี ความสามารถในการคิดงานทำงานของพวกเราจะย่ำแย่ลงไปได้ขนาดนี้..!

    ถ้ารู้สึกว่าความสามารถยังไม่พอ ก็บวชอยู่ต่อไปให้นานหน่อย ดูว่าจะขัดเกลาตัวเองได้สักเท่าไร ถ้าแก้ไขได้ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตัว ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็อย่าไปมีลูกมีเมียกับใครเลย สงสารเด็กที่จะเกิดมา..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...