เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๕

​

 

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ในช่วงเช้าได้เดินทางไปร่วมงานทำบุญ ๓๙ ปี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้นำเงินไปขอเป็นเจ้าภาพ ในการสร้างห้องปฏิบัติธรรมของคณะสังคมศาสตร์ จำนวน ๑ ล้านบาท โดยมอบให้กับพระอุดมสิทธินายก (กำพล คุณงฺกโร), รศ.ดร. รองคณบดีคณะสังคมศาสตร์ ซึ่งท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอก จบปีเดียวกัน เพียงแต่คนละสาขาวิชา คือท่านจบรัฐประศาสนศาสตร์ กระผม/อาตมภาพเองจบการจัดการเชิงพุทธ

เมื่อร่วมงานจนกระทั่งเสร็จพิธีแล้ว ก็ได้เดินทางไปยังวัดสี่แยกเจริญพร เพื่อทำการปลุกเสกเหรียญหลวงปู่หลิวหลังท้าวเวสสุวรรณ รุ่นชนะจน ซึ่งท่านพระครูปฐมสาธุวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร ได้ทุ่มทุนสร้าง

ต้องบอกว่าระยะนี้นั้น กระแสของเหรียญท้าวเวสสุวรรณได้เริ่มสร่างซาลง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า อันดับแรกเลยก็คือ สร้างมากจนเกินไป อันดับที่สองก็คือ สภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ตลอดจนกระทั่งสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ญาติโยมทั้งหลายมีเงินมีทองเหลืออยู่น้อย จึงไม่สามารถที่จะบูชาวัตถุมงคลได้อย่างที่เคยทำมา

กระผม/อาตมภาพก็เคยบอกกล่าวไปแล้วว่า ในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น เราไม่จำเป็นที่จะต้องมีทุกรุ่น ต่อให้เคารพครูบาอาจารย์ขนาดไหนก็ตาม ตัวกระผม/อาตมภาพเองก็จะเลือกรุ่นที่สวยถูกใจตนเองเท่านั้น ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะมีหรือไม่มีก็ไม่เป็นไร

แต่ถ้าหากว่าเอาตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านบอกว่า "วัตถุมงคลของข้า ให้แกหารุ่นสุดท้ายเอาไว้" เมื่อกราบเรียนถามว่า "ด้วยเหตุผลอะไรครับ ?" ท่านเมตตาตอบว่า "เมื่อเวลาที่พระ พรหม เทวดา หรือว่าครูบาอาจารย์ท่านสงเคราะห์ ท่านเคยให้แค่ไหนก็ให้แค่นั้น ยกเว้นว่ามีอะไรเพิ่มเติมขึ้นมา ท่านก็จะบอกกล่าวเพิ่มเติมให้อีกต่างหาก"

 

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น วัตถุมงคลรุ่นหลัง ๆ ที่ได้รับอานุภาพพิเศษเพิ่มเติมมากขึ้น ๆ จนกระทั่งกลายเป็นว่ารุ่นสุดท้ายนั้นมักจะได้มากที่สุด จึงควรที่จะหารุ่นสุดท้ายเอาไว้ แต่ว่าในการเล่นหาวัตถุมงคลนั้น ส่วนใหญ่ในท้องตลาดก็มักจะหากันแต่รุ่นแรก ต่างกับกระผม/อาตมภาพที่ไม่หารุ่นแรก และไม่หารุ่นสุดท้าย แต่หารุ่นที่สวยถูกใจตนเอง เพราะว่ามีจริตนิสัยที่ว่า ถ้าวัตถุมงคลเป็นรูปพระพุทธรูปสวย ๆ ก็จะสามารถจับเป็นอนุสติ ติดตาติดใจได้ง่าย

การปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดสี่แยกเจริญพรในวันนี้ ได้รับการอนุเคราะห์สงเคราะห์จากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมตตาให้ภาวนา อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ก็คือ อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ จำนวน ๙ จบ หลังจากนั้นก็ให้ภาวนาด้วยพระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษ ซึ่ง ๒ - ๓ ครั้งหลังนี้ มักจะเพิ่มด้วยพระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษ เพราะว่าพระองค์ต้องการให้เกิดความคล่องตัวต่าง ๆ กับญาติโยมทั้งหลาย ซึ่งประสบความยากลำบากในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก

ส่วนที่กระผม/อาตมภาพหวั่นอยู่นั้น ไม่ได้กลัวในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ แต่ว่ากลัวในเรื่องของสงครามนิวเคลียร์ เพราะว่าทุกวันนี้นั้นทางด้านประเทศสหรัฐอเมริกา อียู ตลอดจนกระทั่งนาโต ก็พยายามจะส่งอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไปให้กับทางยูเครน เพื่อต่อสู้กับรัสเซีย ซึ่งเราก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า เมื่อไรที่รัสเซียจะหมดความอดทน

ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตดูจะเห็นว่า รบกับยูเครนมาเป็นระยะเวลาประมาณ ๓ เดือนเศษแล้ว ทางรัสเซียไม่เคยใช้กองทัพอากาศเข้าร่วมในการรบเลย แล้วขณะเดียวกันก็ไม่ได้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล โดยเฉพาะขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ในการรบ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็แสดงว่ารัสเซียจะต้องมีไม้ตายอะไร ที่รอเอาไว้ ให้อีกฝ่ายหนึ่งแสดงออกมาเสียก่อน ตนเองจะได้ใช้อาวุธในลักษณะที่ไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน เพียงแต่ว่าเป็นการตอบโต้ในลักษณะของการป้องกันตนเอง

 

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่ามีการรบกัน โดยเฉพาะมีการใช้นิวเคลียร์ขึ้นมาเมื่อไร ก็จะมีบุคคลที่เดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก เพราะว่ารังสีนิวเคลียร์นั้น สามารถที่จะลอยตามลมไปได้หลายร้อยหลายพันกิโลเมตร ไปถึงที่ไหนก็สร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่นั่น

แม้ว่าในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์หลายท่าน ได้สร้างวัตถุมงคลที่มีอานุภาพในการป้องกันนิวเคลียร์เอาไว้แล้ว แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะแบ่งสันปันส่วนได้ทั่วถึงกัน เหตุเพราะว่าสร้างเอาไว้ไม่มาก แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมา ผู้ที่ต้องการกลับมีจำนวนมากเหลือเกิน เป็นต้น

อีกส่วนหนึ่งก็คือ หลังจากพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ท่านพระครูปฐมสาธุวัฒน์บอกว่า "เมื่อวานนี้เห็นหลวงพ่อเปิดตลาดเทศกาลผลไม้สดจากสวน พรุ่งนี้กระผมจะขึ้นไปแต่เช้า เพื่อที่จะไปซื้อทุเรียนทองผาภูมิ"

ตรงนี้ต้องบอกว่า ท่านทั้งหลายถ้าสามารถไปทันในช่วง ๓ วันก็คือ ๒๔-๒๕-๒๖ นี้ ก็อาจจะยังมีทุเรียนทองผาภูมิและเงาะทองผาภูมิ ซึ่งท่านพระครูปฐมสาธุวัฒน์ "การันตี" ว่า ท่านเองฉันทุเรียนมาแล้วทุกยี่ห้อ ทุกสายพันธุ์ ขอยืนยันว่าถ้าในระดับที่แก่จัดแล้วก็สุกด้วยกันนั้น ทุเรียนทองผาภูมิรสชาติดีที่สุด

ตรงนี้กระผม/อาตมภาพไม่ได้ต้องการให้ท่านรับรอง เพราะว่าทุเรียนทองผาภูมินั้น ได้รางวัลที่ ๑ ในการประกวดทุเรียนโลก แล้วเมื่อไม่นานนี้ ก็ยังได้รางวัลที่ ๑ ในการประกวดทุเรียนใน "งานสุขสยาม อะเมซซิ่ง ฟรุตพาราไดซ์ ๒๕๖๕" ที่ไอคอนสยามมา ซึ่งเป็นเครื่องประกันได้ว่าทุเรียนทองผาภูมินั้นรสชาติต้องดีจริง

 

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่ามีการรบกัน โดยเฉพาะมีการใช้นิวเคลียร์ขึ้นมาเมื่อไร ก็จะมีบุคคลที่เดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก เพราะว่ารังสีนิวเคลียร์นั้น สามารถที่จะลอยตามลมไปได้หลายร้อยหลายพันกิโลเมตร ไปถึงที่ไหนก็สร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่นั่น

แม้ว่าในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์หลายท่าน ได้สร้างวัตถุมงคลที่มีอานุภาพในการป้องกันนิวเคลียร์เอาไว้แล้ว แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะแบ่งสันปันส่วนได้ทั่วถึงกัน เหตุเพราะว่าสร้างเอาไว้ไม่มาก แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมา ผู้ที่ต้องการกลับมีจำนวนมากเหลือเกิน เป็นต้น

อีกส่วนหนึ่งก็คือ หลังจากพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ท่านพระครูปฐมสาธุวัฒน์บอกว่า "เมื่อวานนี้เห็นหลวงพ่อเปิดตลาดเทศกาลผลไม้สดจากสวน พรุ่งนี้กระผมจะขึ้นไปแต่เช้า เพื่อที่จะไปซื้อทุเรียนทองผาภูมิ"

ตรงนี้ต้องบอกว่า ท่านทั้งหลายถ้าสามารถไปทันในช่วง ๓ วันก็คือ ๒๔-๒๕-๒๖ นี้ ก็อาจจะยังมีทุเรียนทองผาภูมิและเงาะทองผาภูมิ ซึ่งท่านพระครูปฐมสาธุวัฒน์ "การันตี" ว่า ท่านเองฉันทุเรียนมาแล้วทุกยี่ห้อ ทุกสายพันธุ์ ขอยืนยันว่าถ้าในระดับที่แก่จัดแล้วก็สุกด้วยกันนั้น ทุเรียนทองผาภูมิรสชาติดีที่สุด

ตรงนี้กระผม/อาตมภาพไม่ได้ต้องการให้ท่านรับรอง เพราะว่าทุเรียนทองผาภูมินั้น ได้รางวัลที่ ๑ ในการประกวดทุเรียนโลก แล้วเมื่อไม่นานนี้ ก็ยังได้รางวัลที่ ๑ ในการประกวดทุเรียนใน "งานสุขสยาม อะเมซซิ่ง ฟรุตพาราไดซ์ ๒๕๖๕" ที่ไอคอนสยามมา ซึ่งเป็นเครื่องประกันได้ว่าทุเรียนทองผาภูมินั้นรสชาติต้องดีจริง

 

ดังนั้น...ใครที่ไปร่วมรายการ กระผม/อาตมภาพจึงอยากที่จะคืนกำไรให้ เนื่องเพราะไม่ว่าจะที่กินที่อยู่อะไรก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อหักจากค่าทริปแล้วก็จะเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถที่จะหาสิ่งของมาตอบแทนท่านได้

กระผม/อาตมภาพในฐานะที่เป็น "หลวงตา" จึงได้ทำการหาวัตถุมงคลมา ในลักษณะที่คืนกำไรให้ท่านแทน ต้องบอกว่าช่วยสนับสนุนการทำมาหากินของเด็กดีในสายตาของกระผม/อาตมภาพเอง ซึ่งบางคนก็มีรายการแซวว่า "หลวงตาหลงหลาน"

กระผม/อาตมภาพนั้นมีหลานอยู่ ๓๐ กว่าคน หลานที่รักแบบสุดจิตสุดใจ เพราะว่าเป็นเด็กดี มีความประพฤติเรียบร้อย มีความกตัญญู รู้จักทำมาหากิน ทำตัวเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ ไม่เป็นภาระของครอบครัวนั้น ต้องบอกว่ามีแค่ไม่กี่คน

ดังนั้น...ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ที่บอกว่า เราควรที่จะรักบุคคลอื่นให้เสมอหน้ากันนั้น เราสามารถที่จะรักทุกคนให้เสมอหน้ากันได้ก็จริง แต่สำหรับบางคนที่ความประพฤติของเขาอยู่ในกรอบ อยู่ในเกณฑ์ของบุคคลตัวอย่าง ก็ควรที่จะได้รับความรักความเมตตามากกว่าคนอื่นเช่นกัน

ในส่วนนี้จะเรียกว่าลำเอียงก็ใช่ แต่ถ้าหากว่าดูกันอีกในลักษณะหนึ่ง ก็อยู่ในลักษณะของ ปูชา ลภเต ปูชํ วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ คือผู้ให้ย่อมได้รับการให้ตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ เมื่อบุคคลที่ตั้งหน้าตั้งตาทำความดี ก็สมควรที่จะได้รับความดีตอบแทนเช่นกัน

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)