เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

พระผงสมเด็จองค์ปฐม รุ่น 1 ปีหลวงพ่อมรณภาพ ครับ


รุ่นนี้มีผู้สังเกตุว่าอย่างน้อยมีด้วยกัน 3 พิมพ์ครับ

 

พระผงสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแจกสังฆทาน เป็นรุ่นที่หลายท่านเข้าใจว่าเป็นรุ่น 100 วันหลวงพ่อมรณภาพ



รุ่นแจกสังฆทานด้านหน้า พระนาม "สมเด็จองค์ปฐม" จะอยู่ด้านบน แต่ในรุ่น 100 วัน พระนามท่านจะอยู่ด้านใต้รูปพระองค์ท่าน

ด้านหลังรูปหลวงพ่อ พระนามหลวงพ่อในรุ่น 100 วัน จะมีคำว่า "วัดท่าซุง" อยู่ด้านล่างอีกแถวครับ แต่ในรุ่นแจกสังฆทานมีพระนามท่านเพียงอย่างเดียวไม่มีชื่อวัดท่าซุง

 

ผมรบกวนเรียนสอบถามความเห็นจากพี่วรรณ และพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ กัลยาณมิตรในกระทู้นี้นิดนึงนะครับ _/|\_ ผมมีผ้ายันต์ผืนๆเล็กพกติดใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์อยู่ 3 ผืนครับ [^_^] ผมได้รับมาจากกัลยาณมิตรใน Website พลังจิต นี้นะครับ ผมพกติดใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ผมมาสักระยะหนึ่งแล้วครับ มีผ้ายันต์ …

(1) ผ้ายันต์หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน จ.เชียงใหม่ พระเดชพระคุณท่านทำแจกตอนครบรอบอายุ 99 ปีครับ ลักษณะเป็นผ้ายันต์ผืนเล็กๆมีรูปอักขระเลขยันต์ มีรูปท้าวเวสสุวรรณ อสุรินทราหู และ เทพพรหม ครับ

(2) ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ ได้เข้าปลุกเสกในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระอุปัชฌาย์อิฏฐ์ฉลองชนมายุ 60 ปี, พระประจำวันเกิดปางสมาธิ, รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ ณ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2559 ครับ ลักษณะเป็นผ้ายันต์ผืนเล็กๆมีรูปอักขระเลขยันต์ และ มีรูปท้าวเวสสุวรรณ ครับ

(3) ผ้ายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน กาญจนบุรี สีขาว พิธีพุทธาภิเษกเป่ายันต์เกราะเพชร (เสาร์ห้า) 12 มกราคม 2551 ครับ ลักษณะเป็นผ้ายันต์ผืนเล็กๆมีรูปอักขระเลขยันต์เกราะเพชร ครับ

ผมไม่แน่ใจว่าในรายการที่ (1) กับ (2) นั้นเหมาะสมหรือไม่ครับ? ที่จะนำมาพกใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ครับ เพราะมีรูปท้าวเวสสุวรรณ อสุรินทราหู และ เทพพรหมอยู่ด้วยครับ ผมฟังความเห็นจากกัลยาณมิตรหลายๆท่าน บางท่านก็แนะนำบอกผมว่าพกได้เพราะมันขึ้นอยู่กับ “จิต” และ “เจตนา” ของเรา ถ้าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะ “ลบหลู่” หรือ “ดูหมิ่น” คุณพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการปรามาสครับ… บางท่านก็บอกว่าพกไม่ได้ถึงเราไม่ได้มีเจตนาที่จะ “ลบหลู่” หรือ “ดูหมิ่น” แต่ก็เป็นการ "เผลอปรามาส" คุณพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นการ "เผลอปรามาส" เพราะความไม่รู้แบบ “โมหะ” ครับ

ส่วนในรายการที่ (3) นี่มีรูปอักขระเลขยันต์เกราะเพชรเฉยๆ ไม่ได้มีรูปท้าวเวสสุวรรณ อสุรินทราหู และ เทพพรหมอยู่ด้วยครับ เราสามารถพกผ้ายันต์ในรายการที่ (3) นี้ติดใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ได้หรือไม่ครับ?

ผมอยากทราบความเห็นของพี่วรรณและพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ กัลยาณมิตรในกระทู้นี้ในประเด็นดังกล่าวนี้ครับ _/\_ ผมรบกวนพี่วรรณ และ ท่านผู้รู้ในกระทู้นี้ช่วยกรุณา อนุเคราะห์ และ สงเคราะห์ตอบคำถาม ข้อสงสัยผมนิดนึงนะครับ (^__^) ขอบพระคุณครับ _/|\_

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
Ray

 

สวัสดีครับ Ray

ความเห็นส่วนตัวพี่ คือ ไม่ปรามาส นะครับ

อย่างเหรียญก้นถุง (หรือเหรียญมหาลาภรุ่น 2 ตามหนังสือสมบัติพ่อให้) ในรูปด้านบน หลวงพ่อให้เอาไว้ในกระเป๋าสตางค์ได้ ซึ่งมีทั้งรูปหลวงพ่อ และ รูปยันต์เกราะเพชร บนเหรียญ ท่านยังอนุญาติให้ไว้กระเป๋าสตางค์ได้นะครับ ถ้าท่านไม่เห็นควร ท่านคงให้ทำเป็นรูปอื่นแทนสำหรับเหรียญก้นถุงเพื่อไว้ในกระเป๋าสตางค์แล้วละครับ

แต่เวลาใส่กระเป๋าก็ควรเลี่ยงอย่าไว้กระเป๋ากางเกงหลังแล้วนั่งทับละกันครับ

 

ขอบพระคุณครับ _/\_ พี่วรรณ [^_^] ข้อมูลพี่วรรณแน่นมากครับ… ตัวจริงเสียงจริงครับ (^__^) ขอบพระคุณสำหรับความรู้ ความเห็นและการบอกเล่าประสบการณ์ของ เหรียญก้นถุง (หรือเหรียญมหาลาภรุ่น 2) นะครับพี่ _/|\_… ชัดเจนและ Convincing มากๆครับ _/|\_ เป็นข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับผมและพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ กัลยาณมิตรในกระทู้นี้มากครับ

 

ล็อกเกตรูปหลวงพ่อปี 2546



ล็อกเกตรูปหลวงพ่อแจกงานทำบุญคล้ายวันเกิดหลวงพ่อปี 2546 มีความพิเศษอยู่ว่าปีนั้นเข้าพิธีปลุกเสก 2 ครั้งใน 2 วัน

เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2546 หลวงพ่อทองอินทร์ กตปุญโญ วัดประชาคมวนาราม(ป่ากุง) จ.ร้อยเอ็ด (ปี 2546 ท่านยังไม่ได้จำพรรษาอยู่วัดป่ากุง) ท่านเดินทางมาที่วัดท่าซุง และในตอนเย็น 18.00 น. ท่านได้เข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ สำหรับวัตถุมงคลที่จะแจกในงานทำบุญคล้ายวันเกิดหลวงพ่อในวันที่ 5 ตุลาคม 2546

และเช้าวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน หลวงพ่อท่านเจ้าคุณฯ เจ้าอาวาสท่านได้ทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลชุดนี้อีกครั้งหนึ่ง


(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 272 เดือนพฤศจิกายน 2546 หน้า 116-117)

 

ทำใจแบบไหนไปนิพพาน


"หลวงพ่อเจ้าขา คนที่จะสงบจิตก่อนจะตาย ทำใจแบบไหนไปนิพพานเจ้าคะ ?"

ก่อนจะตายถ้าต้องการไปนิพพานนะเขาทำแบบนี้ ให้ตัด สักกายทิฏฐิ

มีความรู้สึกว่า ร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา

เพราะว่าร่างกายเป็นแต่เพียงธาตุ 4 คือ ธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ

มันมีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายตัวไปในที่สุด

เราไม่ขอยึดมั่นถือมั่นในร่างกายต่อไป

ถ้าหากร่างกายตายเมื่อไร ขอไปนิพพานเมื่อนั้น

ตั้งใจแบบนี้นะ ตัวสุดท้ายนะตัวนี้


(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 415 เดือนตุลาคม 2558 หน้า 86)

 

วัตถุมงคลหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์

(มีคนมาเล่าให้ท่านเจ้าคุณฟังว่า วัตถุมงคลที่วัดท่าซุง ที่ปลุกเสกหลังหลวงพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์มาก)

ยกทรง : เฉพาะตรงภาคอีสานน่ะ ฝนไม่ตกมาเป็นเวลาช้านาน วันนั้นตกสูงจากพื้นดินขึ้นมาสูงครึ่งแข้ง เป็นประวัติศาสตร์เลยฮะ ไปนับถือกันมากเลยวัดนั้น

ท่านเจ้าคุณฯ : ตอนหลังนี่พาคนมาบ่อยเลย ตอนหลังก็พามาใช่ไหม

ยกทรง : เขาคืออย่างนี้ แกรู้ว่าแกทำผิด แกตั้งสัจจะเลยตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะลุยแหลก คือจะชวนคนไปทำบุญ ตัวเองทำบุญด้วย เป็นการขอขมาลาโทษไปในที

แกมายอมสารภาพแล้ว ของวัดท่าซุงไม่ว่าจะเป็นปลุกเสกก่อนปลุกเสกหลังนะ อานุภาพเหมือนเดิมทุกประการ

ท่านเจ้าคุณฯ : มันไม่ใช่เรื่องของฉันหรอก เราทำอะไรด้วยความเคารพก็แล้วกันก็เรื่องแปลกเหมือนกัน

ยกทรง : เรียกว่าของหลังมรณภาพแล้ว อานุภาพก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร

ท่านเจ้าคุณฯ : ไม่รู้ เพราะว่าเขาเล่าให้ฟังอย่างนี้นะ


(จากคอลัมภ์ "ท่านเจ้าคุณสนทนา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 484 กรกฏาคม 2564 หน้า 24)

 

รบกวนสอบถามพี่วรรณครับล็อคเก็ตเข็มกลัด ตามภาพ ทันหลวงพ่อหรือเปล่าครับ

 

ในหนังสือสมบัติพ่อให้ มีแบบเท่าที่เห็นตามรูปด้านบนนะครับคุณ vasan

 

ขอบคุณครับ

 

ล็อกเกตเข็มกลัดรูปหลวงพ่อ สร้างสมัยหลวงพ่อท่านเจ้าคุณฯ

 

เรื่อง ธงมหาพิชัยสงคราม


แค่ผ้ายันต์พิชัยสงครามป้องกันได้ทุกอย่างแล้ว นั่นทุกอย่างเลยนะ ไม่ใช่กันอย่างเดียว เมตตามหานิยม กันจัญไรหมด

อย่างบ้านที่ถูกฟ้าผ่านะ เขาถือว่าเป็นบ้านที่เป็นจัญไร นี่กันได้ แต่ตำรับของอาจารย์พระร่วงนี้ ธงมหาพิชัยสงครามของพระร่วงนี่ธงใหญ่ ยันต์ใหญ่ ไปดูแล้วอันเดียวกันแต่ยันต์เกราะเพชรนี่เป็นยันต์ยอดธงมหาพิชัยสงคราม

"อย่างติดไว้ตามค่ายทหารนี่จะถูกตีไหมครับ ?"

ไม่ถูกตี อย่างมีรายแรกที่แปลกที่สุดคือว่า นี่รายแรกเลยนะ เจ้าทหารช่างนครสวรรค์ เขาถูกเกณฑ์ให้ไป ถึงเวลาไปมันก็มาขอไป มันก็ไปขึ้นฐานมัน ไปอีก 2-3 วันทุกฐานถูกตีหมด ไอ้ฐานนี้ไม่ถูกตีมันก็คุยเลย ข้าศึกไม่เห็นฐานกู ไปดูจริงๆ รอยเท้าเต็มเลย มันไม่เห็นจริงๆ (หัวเราะ)

ไอ้คำว่าไม่เห็น มันหมายถึงว่ามันไม่รู้ว่าตั้งที่ไหนใช่ไหม นี่ความจริงไม่ใช่ มันเข้ามาแล้ว แต่มันไม่เห็น แล้วถูกทุกฐานเป็นยังงั้นจริงๆ แทบทุกฐานถ้าขึ้นไว้นะ

อย่างฐานเชียงของนี่วันนั้นไปกับสีมา สีมาเขาเป็นแม่ทัพ เอา ฮ. ไป บอกไปเยี่ยมฐานเชียงของทีว่ะ แหม มันตั้งฐานไม่รู้นักรบที่ไหนมันตั้ง ภูเขาเป็นกระทะเลย สูงสองข้างตั้งอยู่ข้างล่าง นี่ แหม...บอกถ้าคุณเป็นข้าศึก กูไม่ต้องใช้ปืน เอาหินขว้างหัว (หัวเราะ) เห็นธงขาว ทำไมไม่เปลี่ยนธง ธงชาติเขาขึ้นไว้ เขาบอกเปลี่ยนไม่ได้ครับ เปลี่ยนมันยิง ฮ. ลงไปต้องรีบขึ้น บอก ฮ. วันนี้ไม่ต้องขึ้นหรอก บอกไม่ได้ครับ มันยิง บอกดี ฮ. พัง มึงกับกูก็ตายห่ะอยู่ที่นี่ด้วยกัน ไม่ต้องไปกันหรอก มันก็เลยเชื่อ ไม่ขึ้น ฮ.

มันชินมาแล้วใช่ไหม มันเลยไม่ขึ้น มานั่งคุยบอกเอาธงลง มันบอกลงไม่ได้ครับ ถูกยิง บอกลงมาเถอะ จะเปลี่ยนธงให้ใหม่ และบวงสรวงขึ้น บอกว่าทีหลังถ้ามันยิงมานะเอ็งนอนเฉยๆก่อน พอมันเดินกลับยิงหลังเลย (หัวเราะ) ตั้งแต่วันนั้นไม่มีการถูกยิง ทุกฐานน่ะไม่ถูกยิง ผ้ายันต์พิชัยสงครามนี่นะ

และมีเจ้าสมานที่ห้วยโกล๋นน่ะ ที่ไฟฉายสู้อาร์ก้า มันยิงตายตั้ง 60 คน มันจะไปขี้ มันขึ้นจากฐาน และไอ้พวกนั้นเข้ามา สมานไม่รู้ มันก็เอาปืนจี้ ปืนจี้ปั๊บบอก เฮ้ย กูจะไปขี้ (หัวเราะ)

มันไม่รู้ใครเป็นใคร มันมืดใช่ไหม กูจะไปขี้ มันก็จี้ มันก็ยิง ยิงไม่ติด พอยิงไม่ติดมันก็แน่ใจไม่ใช่เพื่อนแล้ว ข้าศึกแล้ว เอาไฟฉายตี สู้กันระหว่างปืนอาร์ก้ากับไฟฉาย

ไอ้นั่นเสียท่าปืนหลุด มันเลยยิงตายก็ยิงยิงกระสุนหมด ยิงกราดใหญ่เลย จนกระทั่ง ทีนี้ผ้ายันต์มันติดไว้ที่หมวกน่ะ เข้าไปแย่งปืน กระสุนหมดแย่งปืนกลเขาน่ะ โอ...ไม่ใช่ก้อย เช้าเขาสำรวจได้ 60 คน

เดิมผืนใหญ่ไม่รู้จะให้ใครไว้ได้เลยย่อส่วน แต่ของทุกอย่างอยู่ครบนะ เดี๋ยวนี้มันสบายมันถ่ายรูปได้นี่ สมัยก่อนเขียนขนาดนี้ กว้าง เขียนตัวเล็กไม่ได้ ต้องเขียนตัวใหญ่ๆ เขียนตัวธรรมดาเรานี่ แต่มากเหลือเกิน

ผ้ายันต์ผืนนี้เดิมทีเดียวเมื่อหลวงพ่อปานตายแล้ว ฉันไม่ทำอะไรเลย เรื่องปลุกเสกนี่ไม่เอาหมด เรียนกับหลวงพ่อปานก็ไม่เรียนเพราะรำคาญ รำคาญคน หลวงพ่อปานท่านดีแสนดี ยังมีคนนินทา ไอ้เราทำให้แล้วยังนินทาทำทำไม เราคิดยังงั้นใช่ไหม มันอยากนินทา นินทาไปกูไม่เหนื่อยก็แล้วกัน (หัวเราะ ) ถ้าเหนื่อยแล้วยังนินทาอีกก็แย่หน่อย

และมีคืนหนึ่ง นอนฟังข่าว ตามปกติเขาชอบดับไฟ ดับไฟมันดีหลายอย่าง ถ้าไม่มีเรื่องอื่นเราก็ภาวนาของเราไป เมื่อถึงเวลาข่าววิทยุก็เปิดวิทยุไป กำลังฟังข่าวนอนบนเตียง หน้าต่างก็ปิด หน้าต่างมีลูกกลอน ประตูก็ปิด เห็นคนเดินมา นุ่งขาวห่มขาว เดินมาพื้นกุกๆๆ แหม หนักเหลือเกิน มานั่งเตียงพั๊บ เตียงยวบหมด หันไปดูเห็นนุ่งขาวห่มขาว ถามว่าใคร บอก ฉัน บอกฉันคือใคร ฉันเป็นพรหมชั้นที่ 8 เป็นเจ้าของตำราท่านปาน และตำรานี้สืบทอดกันมา 9 คนแล้ว คุณนี่เป็นคนสุดท้ายในตระกูลฉัน และทำไมไม่ทำอะไรบ้าง

บอกจะทำทำไม ในเมื่อหลวงพ่อปานทำยังถูกด่าถูกนินทา ผมนอนให้ถูกด่าถูกนินทาดีกว่าใช่ไหม เหนื่อยให้มันนินทา ไม่เหนื่อยมันยังนินทา ไม่เหนื่อยดีกว่า

ท่านก็อธิบายคล้ายๆ เหมือนกับท่านหยิบตำรามา ไอ้นั่นก็ดี ไอ้นี่ก็ดี ทำงั้นทำงี้ ไปๆ มาๆ ไม่เอาผมไม่เอาอะไรทั้งหมด ไม่ต้องอธิบาย ท่านบอก คุณนี่มันดื้อมาทุกชาตินะ นี่มันเป็นชาติสุดท้ายยังดื้อ บอกถ้าไม่ดื้อมันเสียศักดิ์ศรี (หัวเราะ) ใช่ไหม อุตส่าห์ดื้อมาเป็นอสงไขยกัป ไอ้กัปหลังจะไม่ดื้อก็ซวย

ท่านนั่งนิ่งไปพักสักครึ่งชั่วโมงและหันมาใหม่ เปิดยันต์ผืนนี้ปั๊บ ไอ้นี่เขาเรียกยันต์ใหญ่ เรียกว่ายันต์มหาพิชัยสงคราม ยันต์ผืนนี้เขาใช้เวลาออกศึก และยันต์เกราะเพชรนี่เป็นยอดยันต์มหาพิชัยสงคราม ให้เรียนยันต์มหาพิชัยสงคราม ยันต์ผืนนี้ เอานี่อย่างเดียวพอ

ก็นั่งดูไม่ไหว อ่านไม่ไหว ท่านบอกอ่านไม่ไหว เราจะต้องไปอ่านทำไม เราเขียนเรื่อยไปแล้วเสกแค่ 4 ตัวนี่ 4 คำนี่เสกจริงๆ 4 คำ บอก 4 คำก็ไม่เอา ไม่เอาซะอย่าง คนไม่เอาจะเอากันยังไง

ท่านก็นั่งนิ่งไปอีกพักหนึ่ง ท่านกลับหันมาบอกเอางี้ก็แล้วกัน ทีหลังคุณทำมาเอาผ้าขาวปูเข้าจุดธูปบอกผม ผมมาทำเอง (หัวเราะ) เดี๋ยวเสียวงศ์ตระกูลนะ นอกจากคุณแล้วต่อไปทำได้ไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์หรอก ก็ไม่ช่วยสบายเลย

ตั้งแต่วันนั้นยันวันนี้สบาย เวลาทำเราจุดธูปปั๊บเราก็นั่ง ท่านบอกให้นั่งเราก็นั่งใช่ไหม เอ้าภาวนาว่าอย่างนี้นะ เราภาวนาของเราไปทำกรรมฐาน ก็ทำกรรมฐานเป็นปกติน่ะ แต่ท่านก็ทำของท่านเองแต่เห็นท่านนะ ท่านทำให้เห็น พอทำแล้วท่านจะบอกผล บอกผลจะเป็นงั้นๆๆ

แต่เดี๋ยวนี้ยังดีนะ เมื่อตอนต้นนั่นท่านบอกว่าของท่านถ้าใครได้ไป ถ้าใช้ในทางทุจริตจะถูกยิงที่แสกหน้าทุกรายเลย ไปลักขโมยถูกยิงที่แสกหน้าทุกราย เป๋งแสกหน้า บอก เอ้อ ลูกศิษย์กูละใช่แล้ว (หัวเราะ)

ความจริงก็ดีเป็นสัญญลักษณ์จะได้รู้คนเขาคนเรานะ ท่านบอกยิงข้างหลัง ยิงข้างหน้า ยิงข้างโน้น ไม่ใช่ลูกศิษย์ฉัน ถ้าแสกหน้าแน่ จบ


(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 119 เดือนมกราคม 2534 หน้า 33-35)

 

ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ ผ้ายันพิชัยสงคราม ที่ได้ประสบพบเจอมาครับ

ย้อนไปมื่อ5ปีที่แล้วยายผมป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ก่อนตายผมเอาผ้ายันผืนนี้วางไว้หัวเตียงที่โรงพยาบาล แล้วบอกฝากหลวงพ่อดูแลตาและยายด้วยครับ ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีไม่ให้มีอะไรมายุ่งกวนใจตอนจะตาย
หลังจากยายตายพระองค์นี้หายไปเลย ผมมาทำงานกรุงเทพ ทุกครั้งที่กลับบ้านผมจะหาทุกครั้ง เรียกว่าพลิกบ้านหา หาไม่เคยเจอเลยหลายปีแล้ว และคิดว่าคงหาไม่เจออีกแล้วครับ
หลังจากยายตาย นับประมาณ2ปี พี่สาวผมกลับมาจากจากต่างประเทศ และพักอยู่ในตัวเมือง พี่สาวไม่ได้ศรัทธาพระเครื่องและไม่เคยเก็บพระติดตัวติดบ้านแม้แต่องค์เดียวแล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับพี่สาวยังไง รบกวนอ่านต่อครับ
เมื่อ วันก่อน ได้รับข่าวว่า ตาผมเสีย อาการที่ตายคือ โรคชรา อยู่ดีๆก็หายใจโรยริน แล้วหมดลมไปเลย คงจะถึงคราวแล้ว เพราะอายุท่านก็ 89 ปี ท่านตายโดย หลับไปเลยโดยไม่มีอาการทุกขเวทนาอะไร ก่อนนำศพท่านเข้าสู่เตาเผา ได้เปิดดูศพท่านครั้งสุดท้ายใบหน้าท่าน มีรอยยิ้มนิดๆ เหมือนคนนอนหลับ
(ผมเชื่อว่าท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี เพราะที่บนหัวนอนของท่าน จะมีพระพุทธรูปและรูปหลวงพ่อเรา ที่ผมบูชาไปจากวัด แล้วเอาไว้บนหัวนอนท่านครับ ท่านบอกจะกราบทุกเช้า และก่อนนอน )
หลังจากเผาศพเสร็จ วันนั้นเอง ผมได้เข้าไปนอนกักตัวที่บ้านพี่สาวในตัวเมือง โดยพี่สาวผมย้ายของออกมาจากบ้านเช่าและมาอยู่กับแม่ได้ประมาณ2เดือนแล้ว ตอนผมเปิดประตูเข้าไปบ้าน ปรากฏว่าพระองค์นี้วางอยู่บนโต๊ะกลางที่กินข้าว โดดๆ โดยที่ไม่มีของชิ้นอื่นเลย ผมสอบถามไปยังพี่สาวว่า เอามาจากไหน และเคยบ้างหรือเปล่า
พี่สาวปฏิเสธบอกไม่เคยเห็น ไม่ได้สนใจ และไม่ได้คิดว่าเป็นพระ ทำความสะอาดทุกวันตอนอยู่บ้านก็ไม่เคยเห็น
ผมดีใจมากที่เจอ ทั้งที่หามาหลายปีตั้งแต่ยายเสีย
ผมคิดว่าตั้งแต่ผมขอวันที่ยายป่วย ว่าให้ผ้ายันต์ผืนนี้ช่วยดูแลตาและยายผม เทวท่านคงจะคำนั้นคำนั้น คือจนตาเสียแล้วมาเจอ สุดท้ายก็กลับมาหาผมอย่างน่าอัศจรรย์ครับ

 

ลูกแก้วสารพัดนึก รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

ชื่อเรียกแบบเป็นทางการ ทางวัดท่าซุงเราจะเรียกว่า “แก้วมณีรัตนะ” แต่คนส่วนใหญ่ทั่วๆไปจะเรียกง่ายๆว่า “ลูกแก้วสารพัดนึก” ลูกแก้วชุดนี้สร้างออกมาเป็น รุ่น2 มีอยู่ด้วยกัน3วรรณะ คือ แบบกลมสีขาว แบบกลมสีเขียวอ่อน และแบบกลมสีนิลดำ

ลูกแก้วทั้งหมดทุกแบบทุกรุ่น หลวงพ่อท่านพุทธาภิเษกโดยใช้ลูกแก้วจักรพรรดิ์องค์จริงเป็นประธาน พระท่านบอกกับหลวงพ่อท่านว่า ผลจะได้ถึง 99%ของลูกแก้วองค์จริง

การอาราธนาลูกแก้วท่านบอกให้ทำเป็นกรรมฐานจะเกิดผลมากและยิ่งใหญ่ คือทิพจักขุญาณ ให้อาราธนาทุกวันควบคู่กับการภาวนาพระคาถาเงินล้านไปด้วย จะมีความคล่องตัว จะบังเกิดให้เห็นทันตา และยังป้องกันอันตรายต่างเหมือนพระเครื่องทุกประการ ควรอธิษฐานว่า “ขอความปราถนาทุกอย่างของข้าพเจ้าจงสำเร็จทุกประการ”

***********************************************

เพื่อความคล่องตัวในด้านการเงิน ใช้ท่องกับคาถาเงินล้านครับ การเงินจะคล่องตัว

คาถาเงินล้าน

(ตั้ง นะโม ๓ จบ )

สัมปจิตฉามิ
นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน )
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันต ุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
(บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)

 

พิธีบวงสรวงเปิดบ้านสายลม

วันศุกร์ ที่ 5 พ.ย. 2564 เวลา 13.00 น. หลวงพี่สมนึกได้ทำพิธีบวงสรวงเปิดบ้านสายลม โดยมีหลวงพ่อโอ หลวงพ่อสุรจิต และหลวงพี่วารีสมบูรณ์ ร่วมในพิธี

 

(จากหนังสือ สมบัติพ่อให้ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 เดือนตุลาคม 2537 หน้า 130)


แก้วจักรพรรดิ์ มีทั้งหมด 20 องค์ หลังหลวงพ่อมรณภาพแล้ว ได้นำออกมาให้บูชาองค์ละ 160,000 บาท ที่บ้านซอยสายลม เฉพาะเวลาพระท่านมารับสังฆทานตอนต้นเดือน

 

วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีพิธีแสดงมุทิตาจิตเนื่องในวันเกิดของ พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม (หลวงพี่บ๊ะ) วัดโพธิลังการ์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

หลวงพี่บ๊ะท่านได้เมตตามอบของมงคลเป็นที่ระลึกแก่ญาติโยมและศิษยานุศิษย์ ทุกท่านที่ได้มาร่วมในงาน โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ 2 รายการ

เป็น "พระผงท้าวหิรัญพนาสูร" 1 องค์ และ "แก้วทำน้ำมนต์" 1 ใบ

โดยศิษย์ของท่านคนหนึ่งได้บอกกับผมว่า หลวงพี่บ๊ะท่านว่าใส่น้ำแล้วก็เป็นน้ำมนต์เลย จะรักษาอะไรก็สุดแต่จะอธิษฐาน

 

เหรียญก้นถุง (เหรียญมหาลาภ รุ่น 2) เลี่ยมกรอบพลาสติกในกรอบเดียวกัน