เรื่องเด่น หนึ่งในโลก “พระกลักฝิ่น” วัดสุทัศน์ สัญลักษณ์ปราบฝิ่นต้นรัตนโกสินทร์

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 23 กุมภาพันธ์ 2020.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    0b894e0b8b5e0b8a2e0b8a7e0b983e0b899e0b982e0b8a5e0b881-e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b89ee0b8b8e0b897e0b898.jpg

    เมื่อวันที่ 23 ก.พ.พระวิสุทธาธิบดี (เชิด จิตฺตคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) กล่าวว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พิมพ์พระคาถาสุนทรีวาณี พระราชทานเป็นพระราชกุศลธรรมทาน เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. 2562 นั้น สำหรับพระสุนทรีวาณีนี้ เป็นเทพธิดาบนดอกบัว เป็นบุคลาธิษฐานซึ่ง สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม คิดแบบขึ้นจากคาถาสรรเสริญพระธรรมรัตนะซึ่งปรากฎในบานแพนกของคัมภีร์สุโพธาลังการ โดยถือว่าคาถาพระสุนทรีวาณีในคัมภีร์สุโพธาลังการ เป็นปฐมบทที่จะนำพาบุคคลให้ประสบความรุ่งเรืองทางสติปัญญา ซึ่งในขณะนี้ทางวัดกำลังเตรียมที่จะจัดสร้างพระสุนทรีวาณี หน้าตัก 20 นิ้ว 2 องค์ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประดิษฐานที่พระวิหารของวัด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะบูชา

    เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่วัดยังมีพระพุทธรูปสำคัญ องค์เดียวในโลกที่สร้างจากกลักฝิ่น ชื่อว่า พระพุทธเสรฏฐมุนี สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นพระพุทธรูปที่หล่อจากกลักฝิ่น ประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ วัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 3 มีชาวต่างชาตินำฝิ่นเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งฝิ่นจัดอยู่ในประเภทสิ่งเสพติดชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้คนขาดสติ ทรงมองว่าบั่นทอนความมั่นคงของบ้านเมือง จึงมีพระราชโองการปราบฝิ่นครั้งใหญ่ในปี 2382 และโปรดรวมมาเผาทำลายที่สนามชัย หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท และเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2382 ทรงนำกลักฝิ่นจำนวนมากมาหล่อเป็นพระพุทธรูป ที่โรงหล่อของหลวงในพระบรมมหาราชวัง และอัญเชิญมาประดิษฐาที่ศาลาการเปรียญ วัดสุทัศนเทพวราราม โดยผู้คนในขณะนั้นเรียกว่า “พระกลักฝิ่น” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามว่า “พระพุทธเสรฏฐมุณี”

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.dailynews.co.th/education/759103
     
  2. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    0b983e0b899e0b982e0b8a5e0b881-e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b881e0b8a5e0b8b1e0b881e0b89de0b8b4e0b988e0b899.jpg

    เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เผย พระพุทธรูปสำคัญ องค์เดียวในโลกชื่อ “พระพุทธเสรฏฐมุนี” เป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ สร้างจากการนำกลักฝิ่นในยุคปราบฝิ่น 2382 สมัยรัชกาลที่ 3 มาหล่อเป็นองค์พระ


    เมื่อวันที่ 23 ก.พ.63 พระวิสุทธาธิบดี (เชิด จิตฺตคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระคาถาสุนทรีวาณี พระราชทานเป็นพระราชกุศลธรรมทาน เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. 2562 นั้น สำหรับพระสุนทรีวาณีนี้ เป็นเทพธิดาบนดอกบัว เป็นบุคลาธิษฐานซึ่ง สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม คิดแบบขึ้นจากคาถาสรรเสริญพระธรรมรัตนะซึ่งปรากฏในบานแพนกของคัมภีร์สุโพธาลังการ โดยถือว่าคาถาพระสุนทรีวาณีในคัมภีร์สุโพธาลังการ เป็นปฐมบทที่จะนำพาบุคคลให้ประสบความรุ่งเรืองทางสติปัญญา ในขณะนี้ทางวัดกำลังเตรียมที่จะจัดสร้างพระสุนทรีวาณี หน้าตัก 20 นิ้ว 2 องค์ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประดิษฐานที่พระวิหารของวัด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการบูชา


    เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่วัดยังมีพระพุทธรูปสำคัญ องค์เดียวในโลกที่สร้างจากกลักฝิ่น ชื่อว่า พระพุทธเสรฏฐมุนี สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นพระพุทธรูปที่หล่อจากกลักฝิ่น ประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ วัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 3 มีชาวต่างชาตินำฝิ่นเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งฝิ่นจัดอยู่ในประเภทสิ่งเสพติดชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้คนขาดสติ ทรงมองว่าบั่นทอนความมั่นคงของบ้านเมือง จึงมีพระราชโองการปราบฝิ่นครั้งใหญ่ในปี 2382 และโปรดรวมมาเผาทำลายที่สนามชัย หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท และเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2382 ทรงนำกลักฝิ่นจำนวนมากมาหล่อเป็นพระพุทธรูป ที่โรงหล่อของหลวงในพระบรมมหาราชวัง และอัญเชิญมาประดิษฐานที่ศาลาการเปรียญ วัดสุทัศนเทพวราราม โดยผู้คนในขณะนั้นเรียกว่า “พระกลักฝิ่น” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามว่า “พระพุทธเสรฏฐมุณี”.


    อ่านเพิ่มเติม…

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1778323
     

แชร์หน้านี้

Loading...