ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    3F80F4DD-F701-4178-804E-724673C95282.jpeg
    (Dec 15) ลุ้น! กนง.ลดดอกเบี้ยต้นปี”63 สัญญาณเศรษฐกิจอ่อนแรง : กูรูเศรษฐศาสตร์ฟันธงประชุม กนง. รอบสุดท้ายปี”62 วันที่ 18 ธ.ค.นี้ “คงดอกเบี้ย” ประสานเสียงปี”63 มีโอกาสลดดอกเบี้ย 1 ครั้งต้นปี หากเศรษฐกิจยังส่งสัญญาณทรุดต่อเนื่อง สร้างประวัติศาสตร์ลดดอกเบี้ยต่ำกว่า 1.25% ในรอบเกือบ 20 ปี


    นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยจากนี้ไปจนถึงปี 2563 จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก โดยการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 18 ธ.ค.นี้ น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.25% ต่อปี แต่น่าจะปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีหน้าลง หลังจากรอบที่แล้วลดดอกเบี้ย แต่ยังไม่ได้ปรับจีดีพี ซึ่ง บล.ภัทรคาดการณ์ว่า มีโอกาสจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 1 ครั้งช่วงต้นปีหน้า เพราะยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยช่วงต้นปีจะชะลอตัวลงอีก เหตุผลเดียวถ้า ธปท.ไม่อยากลดดอกเบี้ยอีกก็คือ กังวลประสิทธิภาพของนโยบายการเงินว่า ถ้าลดต่ำเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน


    ปัจจุบันตัวเลขเศรษฐกิจไทยยังแผ่วเกือบทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นส่งออกที่ติดลบต่อเนื่อง การบริโภคที่ชะลอตัว อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแตกต่างจากสหรัฐอเมริกา ที่ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ย เนื่องจากไม่ได้กังวลปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกแล้ว ขณะที่ปัจจัยภายในสหรัฐหลาย ๆ ตัวก็ดีขึ้น มีเพียงภาคการผลิตสินค้าที่ดูแผ่วลงไปตามภาวะการค้าโลกที่ชะลอ


    ดบ.นโยบายส่อต่ำสุดรอบ 20 ปี


    นายนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหาร TMB Analytics กล่าวว่า เฟดส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่า แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐจบแล้ว ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของไทย ปัจจุบันอยู่ที่ 1.25% เท่ากับดอกเบี้ยเฟด ซึ่งต้องบอกว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอกว่าที่คาด อาจจะเติบโตแค่ 2.5% ส่วนปีหน้าจะโตได้ดีขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 2.7% อย่างไรก็ดี คาดว่าช่วงต้นปีเศรษฐกิจไทยจะยังอ่อนแอ และหากไตรมาส 1 ออกมาไม่ดี กนง.จะลดดอกเบี้ยแน่นอน ซึ่งจะทำให้เป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบเกือบ 20 ปี นับตั้งแต่เริ่มใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในการดำเนินนโยบายการเงิน


    “เราคาด กนง.น่าจะลดดอกเบี้ยได้อีก 1 ครั้ง ประมาณ 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1% ตอนช่วงสิ้นไตรมาส 1 ปีหน้า หรือในการประชุมวันที่ 25 มี.ค. 2563 โอกาสลดมีมาก จากเหตุผลจากเศรษฐกิจในประเทศอ่อนแอ และหลังจากนั้น ดอกเบี้ยก็น่าจะคงที่ยาวไปจนถึงสิ้นปี 2563” นายนริศกล่าว


    จับตา ผู้ว่าการ ธปท. ครบวาระ


    นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดคาดกันว่า กนง.รอบนี้น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.25% แม้ว่าจะมีแรงกดดันให้ควรผ่อนคลายภาวะการเงินมากขึ้น แต่จากตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ก็ยังมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยตลอดไปจนถึงปีหน้า หรือหากจะลดดอกเบี้ย อย่างมากอีก 1 ครั้ง ซึ่งจะลดแรงกดดันต่อการปรับดอกเบี้ยของ กนง.ลดลงไป รวมถึงการปรับลดดอกเบี้ยรอบที่แล้วก็ถือว่าลงมาในระดับต่ำสุดแล้ว


    “เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ของ กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ไว้ก่อน เพราะช่วงนี้หลาย ๆ เรื่องดูดีขึ้น อย่างข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงระยะสั้นได้ และก็ไม่น่าจะขึ้นอีกในช่วงปีหน้าจนกว่าจะเลือกตั้งสหรัฐ ส่วนการเลือกตั้งในอังกฤษที่พรรคอนุรักษนิยมมีแนวโน้มชนะท่วมท้น ก็ทำให้ความเสี่ยงเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิต) ในลักษณะ no deal จะลดลง” นายยรรยงกล่าว


    นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุน สายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ดอกเบี้ยนโยบายปี 2563 มีโอกาสลดได้ หากเศรษฐกิจโตต่ำกว่า 2.5% โดยธนาคารกรุงไทยมองว่า การลดดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 นอกจากนี้ ปัจจัยการครบวาระของผู้ว่าการ ธปท. น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ย หากผู้ว่าการ ธปท.คนเดิมต่อวาระ โอกาสลดดอกเบี้ยจะค่อนข้างยาก


    ปีหน้านโยบายการเงินลดบทบาท


    นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ปีหน้าแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินโดยการลดดอกเบี้ยจะมีบทบาทลดลง หลังจากที่ปีนี้มีการใช้นโยบายการเงินโดย

    การลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง จะเห็นว่าธนาคารกลางในภูมิภาคและประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินที่เปลี่ยนไป ปีหน้าจะเป็นการใช้นโยบายการคลังเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น สำหรับประเทศไทยน่าจะคงดอกเบี้ยในการประชุม กนง. 18 ธ.ค.นี้ แต่หากมีสถานการณ์ที่พลิกผันหรือรุนแรงก็มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ในปี 2563 มาอยู่ที่ 1% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ


    นายเชาว์ เก่งชน ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่คาดว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ธ.ค.นี้เแต่คาดว่า ธปท.จะมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลง และประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง.จะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีหน้า เพราะเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่า 3% ถือว่าต่ำกว่าศักยภาพ


    CIMBT เชื่อคง ดบ.ถึงสิ้นปีหน้า


    ขณะที่นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย มองสวนทางว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.25% ตลอดทั้งปี 2563 โดย ธปท.อาจติดตามการส่งผ่านของมาตรการลดดอกเบี้ยสู่ตลาดการเงินก่อนตัดสินใจลดดอกเบี้ยอีกครั้งในอนาคต นอกจากนี้ สภาพคล่องในระบบที่สูงจากสินเชื่อภาคธุรกิจที่ขยายตัวช้า โดยเฉพาะในกลุ่มเอสเอ็มอี ส่วนสินเชื่อเพื่อการบริโภคก็ชะลอลงจากทั้งมาตรการคุมเข้มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และจากความกังวลของธนาคารพาณิชย์ต่อหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น


    “ตลาดการเงินไทยยังไม่ได้ตกอยู่ในภาวะสภาพคล่องตึงตัวจนต้องลดดอกเบี้ยเพิ่ม ในทางตรงข้าม เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความท้าทายด้านเสถียรภาพจากสภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน ส่งผลให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนนั้นคาดว่าเงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 29.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปลายปี 2563” นายอมรเทพกล่าว


    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


    https://www.prachachat.net/finance/news-401504
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Earth เข้าสู่สิ่งแปลกใหม่ เมื่อ ขั้วโลกเหนือแม่เหล็กต่อเนื่อง ผลักเข้าสู่รัสเซีย ข้าม Greenwich Meridian

    TECH

    15:08 13.12.2019

    7C6DE6EE-B13C-4FF9-9C07-FB9495B94976-3263-000001A5BB476C65.png

    ต้นปีนี้การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาและการสำรวจทางธรณีวิทยาของอังกฤษ (BGS) จำเป็นต้องอัปเดตโมเดลแม่เหล็กโลกหนึ่งปีก่อนกำหนด เนื่องจากความเร็วที่ขั้วเหนือแม่เหล็กเคลื่อนออกจากอาร์กติก แคนาดาและไปทาง ไซบีเรียของรัสเซีย


    BGS และศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสหรัฐอเมริกาได้ออกการอัปเดตใหม่ให้กับ World Magnetic Model ในสัปดาห์นี้เพื่อยืนยันว่าขั้วแม่เหล็กเหนือซึ่งมีพิกัดสำคัญสำหรับระบบนำทางที่ใช้โดยรัฐบาลกองทัพและการใช้งานพลเรือน กำลังดำเนินการผลักดันไปยังไซบีเรียต่อไป


    “ WMM2020 คาดการณ์ว่าขั้วแม่เหล็กทางเหนือจะยังคงลอยไปยังรัสเซียแม้ว่าความเร็วจะลดลงช้าลงถึงประมาณ 40 กิโลเมตรต่อปี เมื่อเทียบกับความเร็วเฉลี่ย 55 กิโลเมตรในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา” หน่วยงานของสหรัฐกล่าว คำสั่งกด


    ข้อมูลยืนยันว่าในปีนี้ขั้วโลกเหนือแม่เหล็กผ่านไปภายในระยะทาง 390 กม. จากขั้วโลกเหนือทางภูมิศาสตร์และข้ามจุดสูงสุดของกรีนิช (นายกรัฐมนตรี) คอมไพเลอร์ยังยืนยันว่าสนามแม่เหล็กของโลกกำลังอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องในอัตราประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ทุก ๆ 100 ปี


    นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบว่าสิ่งใดที่ดริฟท์เร่งการขับเคลื่อนตัวของขั้วโลก


    ทิศเหนือแม่เหล็กซึ่งเป็นจุดบนพื้นผิวของดาวเคราะห์ไปยังจุดที่เข็มทิศทั่วไปของคุณสร้างขึ้นโดยการปั่นของโลหะที่หลอมละลายในแกนกลางของโลกซึ่งสร้างกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อผลิตสนามแม่เหล็ก


    ดร. Ciaran Beggan ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีฟิสิกส์และ geomagnetic จากสำนักงานเอดินเบอระสำรวจชาวอังกฤษกล่าวว่าการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลขั้วเหนือแม่เหล็กที่ปล่อยออกมาใหม่บอกกับ FT ว่าแม้ว่าการเคลื่อนที่ของขั้วสนามแม่เหล็กโลกจะ“ เร็วขึ้นมาก” ตั้งแต่ปี 1990 เวลาใด ๆ อย่างน้อยสี่ศตวรรษ” นักวิทยาศาสตร์“ ไม่รู้จริงๆเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในแกนกลางที่ขับเคลื่อนมัน”


    ด้วยขั้วสนามแม่เหล็กโลกที่ผ่านมาถึง Greenwich meridian และดำเนินการแข่งขันทางตะวันออกต่อไปมนุษยชาติกำลังเข้าสู่การพูดทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่รู้จัก เนื่องจากตั้งแต่เวลาที่บันทึกตำแหน่งของขั้วเหนือของสนามแม่เหล็กถูกเก็บไว้เริ่มต้นในศตวรรษที่ 16 ขั้วสนามแม่เหล็กโลกลอยไปทั่วแคนาดา อาร์กติก


    เมื่อเร็ว ๆ นี้ดร. ฟิลลิเวอร์มอร์จากสถาบันธรณีฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยลีดส์ กล่าวว่า 'กระแสเจ็ต' ของเหล็กเหลวที่ไหลในแกนกลางของโลกสามารถช่วยอธิบายการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งขั้วเหนือแม่เหล็กได้ แต่แนะนำให้ติดตามการไหลของเหล็กเหลวนี้อาจเป็นเรื่องยาก “ เพราะมันอยู่ใต้หิน 3,000 กิโลเมตร”


    นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของขั้วแม่เหล็กเหนือและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสนามแม่เหล็กที่ปกป้องโลก หากไม่มีสนามแม่เหล็ก โลกจะถูกทิ้งให้เสี่ยงต่อเปลวสุริยะซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับทุกสิ่งตั้งแต่ยานอวกาศไปจนถึงกริดพลังงาน แม้จะมีสนามแม่เหล็กไม่เป็นอันตรายดาวเคราะห์ก็ยังคงมีความเสี่ยง ในปี 2554 สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกาคำนวณว่าการเกิดพายุสุริยะซ้ำเช่นที่เกิดขึ้นในปีพ. ศ. 2402 อาจทำให้เกิดความเสียหายครั้งแรกมากถึง 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐและใช้เวลาในการซ่อมแซมนานหนึ่งทศวรรษ


    ยิ่งไปกว่านั้นสนามแม่เหล็กที่อ่อนแอ อาจนำไปสู่กระบวนการที่อาจเกิดความหายนะ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกว่า“ การพลิกกลับทางธรณีแม่เหล็ก” ซึ่งขั้วโลกเหนือและใต้ของโลกสลับตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพลิกครั้งสุดท้ายนั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 800,000 ปีที่แล้วและนักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจใช้เวลาหลายศตวรรษกว่าจะเสร็จสมบูรณ์


    Earth Enters Unknown as Magnetic North Pole Continues Push Toward Russia, Crosses Greenwich Meridian

    TECH

    15:08 13.12.2019


    Earlier this year, US National Oceanic and Atmospheric Administration and the British Geological Survey (BGS) were forced to update the World Magnetic Model a year ahead of schedule due to the speed with which the magnetic north pole is shifting out of the Canadian Arctic and toward Russia’s Siberia.


    The BGS and the US National Centers for Environmental Information has released a new update to the World Magnetic Model this week, confirming that the magnetic north pole, whose coordinates are crucial for the navigation systems used by governments, militaries and a slew of civilian applications, is continuing its push toward Siberia.

    “The WMM2020 forecasts that the northern magnetic pole will continue drifting toward Russia, although at a slowly decreasing speed –down to about 40 km per year compared to the average speed of 55 km over the past twenty years,” the US agency said in a press statement.


    The data confirmed that this year, the magnetic north pole passed to within 390 km of the geographic North Pole, and crossed the Greenwich (prime) meridian. Compilers also confirmed that the Earth’s magnetic field is continuing to weaken, at a rate of about 5 percent every 100 years.


    Scientists Still Don’t Know Exactly What’s Driving Pole’s Accelerated Drift

    Magnetic north, the point on the planet’s surface toward which your conventional compass points, is created by the churning of molten metal in Earth’s core, which creates huge electrical currents to produce the magnetic field.

    Commenting on the freshly-released magnetic north pole data, Dr. Ciaran Beggan, a geophysicist and geomagnetic specialist from the British Geological Survey’s Edinburgh office, told FT that although the movement of the pole has been “much faster” since the 1990s “than at any time for at least four centuries,” scientists “really don’t know much about the changes in the core that’s driving it.”


    With the pole passing the Greenwich meridian and continuing its race east, humanity is entering the unknown, scientifically speaking, since, from the time records of the magnetic north pole’s position have been kept starting in the 16th century, the pole had drifted around the Canadian Arctic.


    Dr. Phil Livermore of Leeds University’s Institute of Geophysics recently postulated that a ‘jet stream’ of liquid iron flowing in the planet’s core could help explain shifts in the position of magnetic north, but suggested tracking the flows of this liquid iron could be difficult, “because it lies beneath 3,000 kilometres of rock.”

    Scientists have previously expressed concerns about the fluctuations in the magnetic north pole and its possible impact on the magnetic field protecting Earth. Without the field, Earth would be left vulnerable to solar flares, which could cause damage to everything from spacecraft to power grids. Even with the magnetic field intact, the planet remains vulnerable. In 2011, the US National Academy of Sciences calculated that a repeat of a solar storm like the one which hit the planet in 1859 could cause as much as $2 trillion in initial damage, and take a decade to repair.


    Furthermore, a weakened magnetic field may lead to a potentially cataclysmic process scientists call a “geomagnetic reversal,” in which the Earth’s north and south poles effectively switch places. The last such flip is estimated to have taken place about 800,000 years ago, and some scientists believe that another may be due soon, even though such an event could take centuries to complete.


    https://sputniknews.com/science/201...ush-toward-russia-crosses-greenwich-meridian/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan


    มีรายงานการละลายของดินในบารังไกที่ Hagonoy, Davao del Sur หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ขึ้นในพื้นที่


    แผ่นดินไหว 87 ระลอกเวลา 16.00 น

    เด็กหญิงอายุ 6 ขวบได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตหลังจากถูกเศษซากที่เข้าบ้านในช่วงแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ที่ Brgy Asinan, Matanao, Davao del Sur.

    IMG_5647.JPG IMG_5648.JPG IMG_5649.JPG

    Soil liquefaction was reported on a barangay at Hagonoy, Davao del Sur after magnitude 6.9 earthquake hits the area.


    87 aftershock as 4:00 pm

    A 6 year old girl was confirmed dead after got hit by debris on their house during magnitude 6.9 earthquake at Brgy. Asinan, Matanao, Davao del Sur.


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


    แผ่นดินไหวที่แข็งแกร่ง ขนาด 6.9 เขย่า mindanao ฟิลิปปินส์


     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ฟิลิปปินส์มีการรายงานแผ่นดินถล่มหลายแห่งบนถนน Digos-Makar

    หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ในพื้นที่


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตำนานสุดสะพรึงเกี่ยวกับ Lucifer ปีศาจร้ายในตำนานชาวคริสต์และโรมัน

    ลูซิเฟอร์ (Lucifer) หนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงมากในตำนานของตะวันตก ทั้งในตำนานกรีกและคริสต์ศาสนาเพราะว่าเป็นตัวแทนแห่งความชั่วร้ายและมีตำนานมากมาย ชื่อของเทพองค์นี้มาจากคำละติน 2 คำผสมกัน คือ “Lux” ซึ่งแปลว่า “แสงสว่าง” และ “Ferrer” ซึ่งแปลว่า ผู้นำพา เมื่อนำมารวมกันจึงมีความว่า “ผู้นำพาซึ่งแสงสว่าง” ทั้งนี้ เทพลูซิเฟอร์เป็นอดีตเทพอัคระเทวทูตผู้ถูกสร้างมาจากแสงสว่าง ยิ่งใหญ่รองลงมาจากพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น แต่ด้วยความหยิ่งผยองในอำนาจและความยิ่งใหญ่ของตน จึงทำให้ลูซิเฟอร์มีใจกบฎต่อพระเจ้า จึงถูกลงโทษให้ตกสวรรค์ (Fallen Angel) และกลายมาเป็น ”ปิศาจ” ในที่สุด

    ชาวฮิบรูมีตำนานว่า ลูซิเฟอร์ถูกซาตานยุแยง เนื่องด้วยซาตานต้องการเป็นที่หนึ่งในจักรวาล จึงยุุยงให้เทพเจ้าองค์อื่นถูกใช้เป็นมารร้ายแทนตนเอง โดยตำนานพระคัมภีร์ฮิบรู ลูซิเฟอร์ และ ซาตานเป็นคนละคนกัน และซาตานถือเป็นหนึ่งในอัคระเทวฑูตที่ชื่อว่า Satan-Staniel (หรือ Samuel)

    ส่วนตำนานของชาวคริสต์ในไบเบิล หรือพระคัมภีร์เก่า (The old Testament) ก็นิยามลูซิเฟอร์ แทน Helel ซึ่งมีความเชื่อโยงการมารร้านที่กลายร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่หลอกล่อให้อดัมกับอีฟในสวนอีเดน

    ส่วนในยุคกลางหรือยุคมืด (ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15) นักบุญเจอโรม (St. Jerome) หลวงพ่อในคริสต์จักรยุคนั้น มีแนวคิดว่าควรเรียกปิศาจ ว่า ซาตาน มากกว่าที่จะเป็นลูซิเฟอร์ ยังไงก็ตาม ทั้งสองชื่อก็ถูกรวมและกลายเป็นคนเดียวกันในภายหลัง และจะพบในคัมภีร์บางเล่มว่า ลูิซเฟอร์ กับ ซาตาน ถูกใช้แทนกัน

    ในตำนานกรีกได้เปรียบคำว่า Lucifer เฉกเช่นเดียวกับ ดาววีนัส เพราะแรกเริ่ม ดาววีนัสชื่อเดิมคือลูซิเฟอร์ ในขณะที่ตำนานของชาวเพเก้น หรือวิคคา ได้เล่าไว้ว่า หลังจากพระเจ้าสร้างมนุษย์เสร็จก็ได้มีความเอ็นดูกับมนุษย์มากกว่าใคร จึงทำให้ลูซิเฟอร์เกิดความน้อยใจ และเป็นแกนนำในการกบฎต่อพระเจ้า

    ยิ่งกว่านั้น ปัจจุบันได้เกิดลัทธิที่นับถือ ลูซิเฟอร์ เป็นพระเจ้าของตน และเรียกตนเองว่า Luciferians (ลูซิเฟอเรี่ยน) ซึ่งเลียนตามชื่อพระ ศาสดา Lucifer Calaritanus บิ๊ชอปของลูซิเฟอร์เลี่ยน โดยมีความเชื่อว่า ลูซิเฟอร์คือเทพผู้ถูกเลือก ไม่ใช่พระเยซูคริสต์ และในคัมภีร์ของลัทธินี้ได้มีเรื่องราวเรื่อง “Before the Fall” หรือ (ก่อนการล่มสลาย) ไว้ว่า

    “พอพระเจ้าสร้างมนุษย์เสร็จ ลูซิเฟอร์ก็รักใคร่เอ็นดูในความบริสุทธิ์ใสซื่อของมนุษย์มากมาย แต่ความใสซื่อเกินไป จึงไม่รับรู้ว่าตนเองเป็นพระเจ้า พระเจ้าได้เสกงูมาเพื่อให้มนุษย์ทานผลไม้แห่งปัญญาในสวนอีเดนเข้าไป เมื่อทานแล้วจึงสัมผัสรับรู้ได้ถึงความเป็นพระเจ้าของลูซิเฟอร์ และขับไล่ลูซิเฟอร์ออกไปจากสวนอีเดน ตนเองจึงโกรธมากและก่อกบฎขึ้นในภายหลัง” ซึ่งสาวกลูซิเฟอเรี่ยนใช้เรื่องราวนี้ในการโน้มน้าวผู้ศรัทธาและภายหลังก็กลายเป็นลัทธินอกรีตในที่สุด

    เหตุผลที่ลูซิเฟอร์กลายเป็นตัวแทนแห่งบาปก็เพราะ ความคิดว่าตนเก่งและมีพลังเหนือผู้อื่นจนคิดก่อกบฎ จนในที่สุดก็เกิดมหาสงครามสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดนั่นเอง โดยศึกนี้ ลูซิเฟอร์ได้ชักจูงเทพได้ถึง 2 ใน 3 ของเทพทั้งหมด เพื่อต่อกรกับทัพสวรรค์ของแม่ทัพอัคระเทวฑูตมิคาเอล แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ไป

    เล่ากันว่า ลูซิเฟอร์มักจะปรากฏกายในลักษณ์มังกรหรือสิงโต และจะมีสมุนชื่อ Satanackia และ Agalierap ข้างกายเสมอ และสัญลักษณ์แทนตัว ลูซิเฟอร์ คือ กางเขนกลับหัว และเลขแห่งความโชคร้าย 666 ซึ่งต่างจากเลขแห่งความโชคดีของพระคริสต์คือ 333



    ที่มา :https://www.scholarship.in.th

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    มีผู้เสียชีวิตอายุน้อย และอีก 14 คนได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวในฟิลิปปินส์ตอนใต้ ประเทศที่ได้รับผลกระทบ: อินโดนีเซียฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย 56 กม. จาก polomolok, ทางใต้ cotabato


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    น้ำท่วมในรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย 15 ธันวาคม 2019


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan


    ศูนย์กลาง แผ่นดินไหว ขนาด6 9 อยู่ในต่ำกว่า limonzon, padada, phillipine 15 ธันวาคม 2019


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk
    การแบ่งปันจาก Julie Darlene Skidmore สัญญาณในดวงจันทร์
    5 ชม
    FB_IMG_1576448635446.jpg
    Sharing from Julie Darlene Skidmore. Signs in the moon.
    5 hrs
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #จับตามติสภาถอดถอนเสี่ยอ่าง
    #โหวตไล่เสี่ย
    แชร์ข่าวรอบโลกวันนี้ เรามาคุยกันเกี่ยวกับประเด็นร้อน เลื่อยเก้าอี้เสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ที่สหรัฐกันเสียหน่อย หลังจากที่เราได้ตามเรื่องเสี่ยอ่างกันมาเนิ่นนาน ตั้งแต่แกยังตั้งขบวนหาเสียงเพื่อเข้าสภา ถ้าท่านใดที่ได้ตามอ่านหน้าเพจกันมานานๆ คงจะทราบดี และแทบจะเรียกเสี่ยได้อย่างสนิทปากราวกับเพื่อนบ้าน ญาติผู้ใหญ่
    ซึ่งชาวสภามะกัน เขาก็คงจะรักเสี่ยมากเหมือนกัน เห็นพูดถึงเรื่องจะถอดถอนเสี่ยตั้งแต่วันแรกที่ก้าวขาเข้าทำเนียบ ตั้งแต่เรื่องการสมคบคิดกับรัสเซีย ให้เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐในปี 2016 ซึ่งเราก็ได้ตามคดีของโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ทำคดีนี้กันมาปีกว่า แต่ไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนในการเอาผิดทรัมพ์ได้ ก็เลยคิดว่าเสี่ยน่าจะรอดแล้ว
    แต่ทว่า เสี่ยดันมาตกม้าตายเสียเองดื้อๆ กับคดีอิรุงตุงนัง สหรัฐ-ยูเครน โดยเสี่ยอ่างแกอยากเตะตัดขา นาย โจ ไบเดน คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป และเสี่ยแกรู้ดีว่า โจ ไบเดน และ ลูกชาย เคยมีนอก มีใน กับรัฐบาลยูเครนมาก่อนเรื่องสัมปทานบริษัทน้ำมัน ตอนเป็นรองประธานาธิบดีสมัยโอบาม่า เสี่ยอ่างเลยโทรจิกตรงไปที่ ประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบัน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ให้ขุดคดีเก่าของโจ ไบเดน กับลูกชายมาแฉ แลกกับงบช่วยเหลือด้านการทหารของสหรัฐ ที่ข่าวล่าสุดรายงานว่าวงเงินสูงถึง 400 ล้านเหรียญ
    ซึ่งรายละเอียดเบื้องลึก เบื้องหลังของคดีอิรุงตุงนัง สหรัฐ-ยูเครน เคยเขียนไว้แล้ว ย้อนอ่านได้ที่นี่ค่ะ

    แต่เสี่ยอ่างแหกคู่แข่งไม่สำเร็จ เพราะเรื่องแดงเสียก่อน เลยถูกฝ่ายเดโมแครตถล่มกลับ และยื่นเป็นคดีเพื่อถอดถอนเสี่ยอ่าง โทษฐานใช้อำนาจประธานาธิบดีมิชอบ และสมคมคิดกับยูเครน แทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐ (ในอนาคต)
    และในที่สุด ในวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา สภาตุลาการสหรัฐ ที่เสียงส่วนใหญ่เป็นคนฝั่งเดโมแครต ก็มีมติชี้มูลว่าทรัมพ์มีความผิดใน 2 มาตรา ได้แก่ 1. ใช้อำนาจประธานาธิบดีมิชอบ และ 2. ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงที่สามารถใช้ยื่นขอมติถอดถอนประธานาธิบดีได้
    เท่านี้ก็มันส์ชาวคองเกรซเขาหล่ะ ทางประธานสภา แนนซี่ เพโลซี่ ของเดโมแครต ก็สั่งให้จัดไป อย่าได้เสีย เตรียมยื่นเรื่องเปิดประชุมสภาเพื่อลงมติถอดถอนเสี่ยอ่าง ที่คาดว่าน่าจะได้วันประมาณสัปดาห์หน้า
    สำหรับขั้นตอนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐ ต้องผ่านมติทั้ง 2 สภา บน-ล่าง โดยสภาล่าง ต้องผ่านด้วยเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง แล้วหลังจากนั้น ต้องไปพิจารณาต่อที่สภาบน ซึ่งยากหน่อย เพราะต้องผ่านอย่างน้อย 2 ใน 3 เสียง หรือ ต้องเกิน 67 จาก 100 เสียงของสภาสูง
    ทีนี้เรามาดูแนวโน้มการโหวตในสภากัน
    สภาล่างของสหรัฐตอนนี้ จำนวน 435 เสียง เป็นของเดโมแครต 233 เสียง รีพับลิกัน 197 เสียง แล้วขอมติแค่กึ่งเดียว (51%) มันผ่านฉลุยอยู่แล้ว เสี่ยอ่างไม่น่ารอดจากสภาล่างแน่ๆ
    พอมาถึงสภาบน ระดับสว. มีจำนวน 100 เสียง เป็นรีพับลิกัน 53 เดโมแครต 45 แต่ต้องการเสียงสนับสนุนมากถึง 2 ใน 3 เท่าที่ดูแล้วผ่านยากมาก ยิ่งเป็นสภาที่รีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่ด้วย การขอมติถอดถอนเสี่ยอ่างให้ผ่านสภาบนด้วย คงเป็นไปไม่ได้
    แต่ช้าก่อน
    เมื่อไม่นานมานี้ สภาคองเกรซสหรัฐเพิ่งมีมติผ่านร่างพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชนฮ่องกงไป ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ทั้งสภาบน และล่าง ตามติดมาด้วยพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ด้วยมติเอกฉันท์ในสภาล่าง เช่นเดียวกัน และกำลังจะไปโหวตต่อในสภาบน
    แสดงให้เห็นว่า ช่วงนี้สภาเมืองมะกันกำลังตุนาหงันกันสุดๆ ระหว่างฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล มีมติยกมือเอกฉันท์พร้อมเพรียงกันบ่อย ก็อาจมีอารณ์อยากร่วมทอดผ้าป่า สหบาทาเสี่ยอ่างบ้างก็เป็นได้
    ดังนั้นต้องจับตาผลการโหวตมติถอดถอนเสี่ยอ่างในสภาล่างให้ดีๆ ถ้าคะแนนเสียงส่วนใหญ่ เป็นแค่สส.ชาวเดโมแครต เสี่ยอ่างก็เบาใจได้เลยว่า ยังไงมติก็จะถูกตีตกที่สภาบนอยู่ดี
    แต่ถ้าเกิดผลโหวตสภาล่างออกมาเป็นเอกฉันท์หล่ะก็..พ่อคุณเอ๊ย! เสี่ยอ่างเตรียมจองศาลาล่วงหน้าได้เลย มีสิทธิ์เป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐที่ตกเก้าอี้จากการถูกถอดถอนจากมติสภาสำเร็จก็เป็นได้
    เข้าสภามาได้ก็พิศดาร จะออกจากตำแหน่ง ฮีทรัมพ์ก็จะขอสร้างตำนานอีกเหรอ ออกธรรมดากลัวโลกไม่จำหรือคะ เสี่ยขาาาาา
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    15:00 ภาพความเสียหายของอาคารในโรงเรียนมัธยม Matanao ในเขตดาเบา บนเกาะมินดาเนา ของฟิลิปปินส์ จากแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา via @dpressingtruths
    14:09 เกิดอาฟเตอร์ช็อคหลายครั้งหลัง M6.7 เกาะมินดาเนา ครั้งแรงที่สุดช่วงบ่ายนี้ได้แก่ M5.7 ลึก 10 กม.ที่พิกัด 125.47°E 6.54°N [Geofon]
    14:00 ภาพความเสียหายจากแผ่นดินไหว M6.7 (Mw) ในนครดาเบา (Davao) บนเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ (PAGASA วัดขนาดได้ 6.9) via @httpsjanee
    13:50 ภาพความเสียหายจากแผ่นดินไหว M6.7 (Mw) บนเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ (PAGASA วัดขนาดได้ 6.9) ในภาพคือศาลากลางเทศบาลของเมืองแมกไซไซดาเวาเดลซูร์ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักและยังคงทรุดตัวลงต่อเนื่อง ภาพโดย Anthony Allada
    13:11 แผ่นดินไหวขนาด 6.7 (Mw) ลึก 10 กม. พิกัด 125.24°E 6.62°N เกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ***แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ 6.8 แมกนิจูด***
    วันที่ 15 ธันวาคม 2562 เวลา 13.11 น. เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.8 แมกนิจูด ความลึก 10 กม.
    ศูนย์กลางอยู่ที่เมือง Mindanao ประเทศฟิลิปปินส์ มีอาฟเตอร์ช็อคตามมา ตีอเนื่อง
    เบื้องต้นตึก อาคาร และบ้านเรือนได้รับความเสียหายหนัก มีผู้บาดเจ็บติดใต้ซากจำนวนมาก
    #บิ๊กเกรียน
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    หิมะตกที่ Bucegi, โรมาเนีย ในวันที่ 15 ธันวาคม 2019

    t=100&_nc_ohc=2M_7iK3pX_UAQk3gqJwENmFbGQoUteZI9mTUAlmmCn4R1nzVrYFQ8sbXw&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    t=102&_nc_ohc=_VbBlWpGpe4AQm1VXU6QecmmhTDyNyi05AGeIfZTtDmTzNgePWCf7ASSQ&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    t=105&_nc_ohc=sIrLbTDaf3kAQmVs1tfmlzvgXqL7kLGPl2QW_vnMv3No4zjUytIx25Hog&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    เสียงลึกลับถูกได้ยินในเช้าวันอังคารใน valkenswaard เนเธอร์แลนด์ 10 ธันวาคม 2019

    หลายคนบันทึกปรากฎการณ์



     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    เมฆที่น่ากลัวเหนือ almeria สเปน วันที่ 13 ธันวาคม 2019





    t=108&_nc_ohc=UKegl77_SvkAQnOS8iVLp5RnmTTLjXbXvaXHtOiUYwDZXL7ToMw5BgjsQ&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    t=105&_nc_ohc=tZEBH_TEdEQAQmmdKbvHUlzViPeZPlIMxIoeUHNQvZHX-O1nrIp-PwIlw&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    t=104&_nc_ohc=s9HdU73aGTMAQmzUNfm0zg0NXk86t63Jqvv2b3km86qwicRIFGomE87UQ&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    t=100&_nc_ohc=99vREISi_OYAQkAvlCIK0q6eoOhdOZeFxksoo55e9sbJN1pZoKMkIl4ag&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    t=105&_nc_ohc=b84E8eZ25qsAQlixYyqon2BkKXiHCDdYm5URfE7Z_v75dOl7dGBB3dQ0Q&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    t=107&_nc_ohc=jVmkt2D_ezcAQlmVCSD1AsAj7IwZFC-WN-nzlue8Oaz4QCkOC2t_GClwA&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “เซซิเลีย เพย์น-กาปอชกิน” หญิงผู้พิสูจน์ส่วนประกอบดวงอาทิตย์ แต่กลับถูกโลกลืม
    By
    เหมียวศรัทธา
    -
    09/12/2018


    ถ้าจู่ๆ พูดชื่อ “เซซิเลีย เพย์น-กาปอชกิน” (Cecilia Payne-Gaposchkin) ขึ้นมาคงมีคนไม่น้อยเลยที่ทำหน้าสงสัยว่าเธอคนนี้เป็นใครกัน ทั้งๆ ที่เธอนั้นเป็นเจ้าของการค้นพบครั้งใหญ่สุดๆ ครั้งหนึ่งเลยด้วยซ้ำ

    greatest-female-astronomer-cecilia-pyne-3-5c0693cccb35e__700.jpg

    นั่นเพราะในปี 1925 เซซิเลียเป็นหญิงสาวคนแรกผู้เขียนวิทยานิพนธ์พิสูจน์ว่าดวงอาทิตย์นั้นมีส่วนประกอบหลักเป็นฮีเลียม และไฮโดรเจน ในขณะที่เธออยู่ได้เพียง 25 ปีเท่านั้น

    นี่นับเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่มากเลยก็ว่าได้ แต่เคยสงสัยกันไปว่าทำไม ชื่อของเซซิเลียกลับแทบไม่มีการพูดถึงเลย ทั้งๆ ที่มีผลงานยิ่งใหญ่ขนาดนั้น

    greatest-female-astronomer-cecilia-pyne-2-5c0693cb6a125__700.jpg

    เรื่องของเรื่องคือ เซซิเลียมีชีวิตอยู่ในสมัยที่สังคมมีความเหลื่อมล้ำทางเพศสูง ดังนั้นแม้ว่าเธอจะได้เป็นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็ตาม แต่งานวิทยานิพนธ์ของเธอก็ถูกตั้งคำถามอย่างหนักอยู่ดี เนื่องจากเขียนโดยผู้หญิง และปฏิเสธแนวคิดเดิมๆ แบบสุดโต่ง

    นั่นทำให้เพื่อนนักดาราศาสตร์ของเธอ “เฮนรี นอร์ริส รัสเซลล์” แนะนำไม่ให้เธอนำเสนอวิทยานิพนธ์ของตัวเองไป ซึ่งมันจะไม่มีปัญหาเลยถ้าเขาไม่นำมันวิทยานิพนธ์ที่ว่านั้นไปตีพิมพ์ในฐานะผลงานของตัวเองในเวลาต่อมา

    greatest-female-astronomer-cecilia-pyne-1-5c0693ca17eff__700.jpg

    การกระทำของเฮนรีทำให้ เซซิเลียไม่ได้รับชื่อเสียงอย่างที่เธอสมควรจะได้รับ และกว่าที่นักดาราศาสตร์คนอื่นๆ จะรู้ความจริงที่ว่า เซซิเลียเป็นคนเขียนวิทยานิพนธ์ฉบับนั้น เฮนรีก็ได้ใช้ชีวิตกับชื่อเสียงที่เขาขโมยมาอยู่นานทีเดียว

    เท่านั้นยังไม่พอเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอถูกแย่งผลงานไป การค้นพบปรากฏการณ์สตาร์คของเธอเองก็เคยถูกยับยั้งการตีพิมพ์ จนถูกนักวิทยาศาสตร์คนอื่นนำเสนอการค้นพบตัดหน้าไปก่อนเช่นกัน

    greatest-female-astronomer-cecilia-pyne-5-5c0693d11a8a8__700.jpg

    นับว่าโชคดีมากที่ชีวิตหลังจากนั้นของเซซิเลียไม่ได้เลวร้ายลงไปกว่านั้น เพราะหลังจากเรื่องร้ายๆ ในชีวิต ในที่สุดเธอก็ได้รับตำแหน่งนักดาราศาสตร์อย่างเป็นทางการไปในปี 1938

    เท่านั้นยังไม่พอเพราะหลังจากนั้นมา เซซิเลียก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ จนในปี 1956 เธอก็ได้เป็นผู้หญิงของแรกที่ได้เป็นผู้อำนวยการภาควิชาดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเลยทีเดียว

    greatest-female-astronomer-cecilia-pyne-11-5c0693e4bd543__700.jpg

    เซซิเลีย เพย์น-กาปอชกิน เสียชีวิตไปในวันที่ 7 ธันวาคม 1979 และแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ได้รับชื่อเสียเป็นที่จดจำอย่างที่ควรก็ตาม แต่เธอก็แสดงให้โลกเห็นแล้วว่า เธอเป็นนักดาราศาสตร์หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งเลยนั่นเอง

    ที่มา boredpanda, britannica


    https://www.catdumb.com/cecilia-pay...uDxuKes7xNJnOftxqf0ecGobYwU9Czo-3qL93fu0RuefE
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan
    ศิลปะถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในโลกใน Maros-Pangkep, Sulawesi, อินโดนีเซีย

    ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวอินโดนีเซียและชาวออสเตรเลียได้ลงถ้ำศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักในโลกบนเกาะ Sulawes ของอินโดนีเซีย

    ฉากล่าสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดถูกค้นพบในจิตรกรรมถ้ำในสุลาเวสีเมื่อเร็ว ๆ นี้ ภาพเขียนในถ้ำมีอายุประมาณ 44,000 ปี ภาพวาดแสดงให้เห็นกลุ่มของมนุษย์ครึ่งสัตว์บางส่วน - therianthropes - ตัวเลขการล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ด้วยหอกหรือเชือก

    ทีมนักโบราณคดีนำโดยมหาวิทยาลัยกริฟฟิ ธ ในออสเตรเลียซึ่งทำการค้นพบบอกว่ามันทำให้เกิดแสงสว่างใหม่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของความรู้ความเข้าใจที่ทันสมัยของมนุษย์

    ตีพิมพ์ในวารสาร Nature บทความของพวกเขาอธิบายถึงจิตรกรรมโบราณในถ้ำหินปูนใน Sulawesi ซึ่งเป็นศิลปะหินที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยรู้จักมา
    การพรรณนาถึงอุปมาอุปไมยของนักล่าว่าเป็นเทพเจ้าเถระ (Therianthropes) อาจเป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของความสามารถของเราในการจินตนาการถึงการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ
    World's oldest cave art in Maros-Pangkep, Sulawesi, Indonesia

    A team of Indonesian and Australian scientists has dated some of the world’s earliest known cave art on the Indonesian island of Sulawes.

    The earliest hunting scene was found in a cave painting in Sulawesi recently. The paintings in the cave are estimated to be 44 thousand years old. The painting depicts a group of half-human, partial-animal - therianthropes - figures hunting large mammals with spears or ropes.

    The team of archeologists, led by Griffith University in Australia, who made the findings say that it sheds new light on the origins of modern human cognition.

    Published in the journal Nature, their paper describes the ancient painting in the limestone cave in Sulawesi as the oldest rock art ever known.

    The figurative portrayal of hunters as therianthropes may also be the oldest evidence of our ability to imagine the existence of supernatural beings.

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สนามแม่เหล็กทิศเหนือของโลกกำลังขยับตัวในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน 30 ไมล์ต่อปีโดยทิ้งข้อมูลตำแหน่งดาวเทียมและระบบนำทาง

    โมเดลแม่เหล็กโลกใหม่เผยให้เห็นการเคลื่อนไหวในสนามแม่เหล็กของโลก

    ขั้วโลกเหนือของโลกกำลังเคลื่อนไปทางไซบีเรียและอยู่ห่างจากแคนาดา

    แสงเหนืออาจมองเห็นได้ยากจากแคนาดาเนื่องจากทิศเหนือของสนามแม่เหล็กเปลี่ยนแปลง

    อุปกรณ์แม่เหล็กและระบบ GPS ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการทหารและการบินพึ่งพาการอ่านสนามแม่เหล็กที่แม่นยำ

    โดย JONATHAN CHADWICK เพื่อ MAILONLINE
    เผยแพร่: 15:09 GMT, 13 ธันวาคม 2019 | ปรับปรุง: 16:04 GMT, 13 ธันวาคม 2019

    ขั้วโลกเหนือแม่เหล็กของโลกกำลังเดินทางด้วยอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อนและกำลังเร่งความเร็วเมื่อมันเคลื่อนที่ไปสู่ไซบีเรียตามข้อมูลจากดาวเทียมดวงใหม่

    ขั้วโลกเหนือแม่เหล็กเป็นจุดพเนจรบนพื้นผิวของซีกโลกเหนือที่สนามแม่เหล็กของโลกสร้างขึ้นโดยเหล็กหลอมเหลวภายในแกนกลางของโลกชี้ลงในแนวตั้ง

    แบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกล่าสุดซึ่งติดตามการเคลื่อนที่ของสนามแม่เหล็กของโลกแสดงให้เห็นว่าทิศเหนือแม่เหล็กกำลังเคลื่อนที่ด้วยอัตรา 30 ไมล์ต่อปี

    นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่บันทึกไว้ที่เร็วที่สุดของโลกทางเหนือตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และอาจทำให้ระบบการบินและระบบนำทางเสียหายรวมถึงแอพสมาร์ทโฟนที่ใช้ GPS

    WMM ยังมี 'ข้อควรระวังโซน' บนโลกรอบสนามแม่เหล็กที่เข็มทิศอาจมีข้อผิดพลาดและส่งผู้ใช้ออกนอกเส้นทาง
    *
    ข้อมูลแผนที่แม่เหล็กโลกใหม่แสดงให้เห็นว่าทิศเหนือแม่เหล็กของโลกกำลังเคลื่อนที่ที่ 31 ไมล์ต่อปีเพิ่มขึ้นจาก 6.2 ไมล์ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาห่างจากแคนาดาและไปยังไซบีเรีย
    *

    ข้อมูลแผนที่แม่เหล็กโลกใหม่แสดงให้เห็นว่าทิศเหนือแม่เหล็กของโลกเคลื่อนที่จากแคนาดาและไปยังไซบีเรียอย่างไร ขั้วdip (dip pole) เป็นขั้วแม่เหล็กที่จุดเข็ม เข็มทิศหมุนอิสระชี้ลงไปที่พื้นโดยตรง (the magnetic pole where a free-swinging compass needle points) ขั้วสนามแม่เหล็กโลกเป็นตำแหน่งของขั้วแม่เหล็ก ถ้าสนามแม่เหล็กของโลกเป็นเหมือนแท่งแม่เหล็ก ความแตกต่างระหว่างพวกเขาแสดงให้เห็นว่าสนามแม่เหล็กบิดเบี้ยวอย่างไร

    'ขั้วโลกเหนือแม่เหล็กเดินอย่างช้าๆรอบ ๆ ทางตอนเหนือของแคนาดาจากปี 1590 ถึงประมาณปี 1990 และจากนั้นก็เร่งความเร็วในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจาก 10 กม. (6.2 ไมล์) ต่อปีเป็นมากกว่า 50 กม. (31 ไมล์) ต่อปี การสำรวจทางธรณีวิทยาของอังกฤษบอกกับ MailOnline

    ‘ในทางตรงกันข้ามขั้วแม่เหล็กใต้เคลื่อนตัวไม่มากในรอบ 100 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากการไหลของแกนนอกมีความสงบมากขึ้น'

    หลังจากวนรอบภาคเหนือของแคนาดาเป็นเวลาหลายร้อยปีที่ตั้งโดยประมาณของขั้วเหนือแม่เหล็กเริ่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังไซบีเรียในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ
    *

    แม่เหล็กพึ่งพาสนามแม่เหล็กของโลกเพื่อส่งผู้ใช้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ปัญหาคือสนามแม่เหล็กกำลังหมุนรอบตลอดเวลา

    *
    ขั้วแม่เหล็กใต้แทบไม่เคลื่อนไหวในรอบ 100 ปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับขั้วโลกเหนือ

    ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามันได้ข้ามเส้นเมอริเดียนของกรีนนิชซึ่งเป็นเส้นของ Zero Longitude ที่มีการเส้นLongitude ต่างๆ ที่ถูกวัดทั้งหมด

    สนามแม่เหล็กของโลกถูกสร้างขึ้นจากการเคลื่อนที่ของเหล็กเหลวในแกนโลกรอบนอกซึ่งอยู่ห่างจากเราราว 1,800 ไมล์

    เหล็กร้อนมาก (มากกว่า 5,432 องศาฟาเรนไฮต์) และไหล เหมือนน้ำซึ่งหมายความว่ามันไหลได้ง่ายมาก

    เมื่อของเหลวไหลมันจะลากสนามแม่เหล็กออก

    ‘เราคิดว่าขั้วเหนือของสนามแม่เหล็กถูกดูดเข้าไปในลำธารที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว (a fast moving jet stream) ใกล้กับด้านบนของดาวเคราะห์และนั่นทำให้มันถูกดึงจากแคนาดาไปยังไซบีเรีย

    'มีปัจจัยอื่น ๆ แต่นั่นเป็นปัจจัยหลัก'

    นับตั้งแต่การค้นพบในปี พ. ศ. 2374 ขั้วแม่เหล็กเหนือได้เดินทางรวม 1,400 ไมล์
    โดยทั่วไปการเคลื่อนไหวนี้ค่อนข้างช้า แต่เมื่อช่วงเปลี่ยนศตวรรษมีความเร็วสูงขึ้นถึงความเร็วเฉลี่ยประมาณ 34 ไมล์ต่อปี
    *
    การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้มีโอกาสน้อยที่จะได้เห็นแสงเหนือ ในแคนาดา ตอนเหนือ

    WMM ใหม่คาดการณ์ว่าขั้วแม่เหล็กทางเหนือจะยังคงลอยไปสู่ไซบีเรียในอีกห้าปีข้างหน้าด้วยความเร็วที่ช้าลงเล็กน้อยประมาณ 25 ไมล์ต่อปี

    การย้ายก็หมายความว่าแสงเหนือจะเคลื่อนตัวเล็กน้อยจากแคนาดาตอนเหนือไปยังไซบีเรียซึ่งหมายความว่าจะมีโอกาสน้อยกว่าที่จะเห็นพวกมันในบางพื้นที่

    World Magnetic Model เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับระบบนำทางพลเรือนและแผนภูมิทางทะเลและการบินซึ่งจำเป็นต้องปรับการวัดของพวกเขาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของทิศเหนือแม่เหล็ก

    สนามบินรันเวย์ยังขึ้นอยู่กับเครื่องมือช่วยนำทางและใช้ข้อมูล WMM เพื่อให้ชื่อตัวเลขทางวิ่งซึ่งนักบินอ้างถึงบนพื้นดิน

    เป็นรุ่นมาตรฐานที่ใช้สำหรับการนำทางโดยกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรและกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา - และแม้แต่เข็มทิศและแอพสมาร์ทโฟนที่ใช้ GPS
    หากคุณมีสมาร์ทโฟนที่มีแอปพลิเคชั่นแผนที่ (และเข็มทิศแบบ inbuilt ซึ่งโทรศัพท์ส่วนใหญ่ทำ) Google หรือ Apple จะเปลี่ยนแผนที่สนามแม่เหล็กในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอัพเดทซอฟต์แวร์ทั่วไป

    WMM ได้รับความร่วมมือจากการสำรวจทางธรณีวิทยาของอังกฤษและศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

    ได้รับการอัปเดตทุกห้าปีเพื่อคำนึงถึงความไม่แน่นอนของสนามแม่เหล็กของโลก


    แบบจำลองที่ได้รับการปรับปรุงยังยืนยันว่าสนามแม่เหล็กของโลกกำลังอ่อนลงประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ทุกศตวรรษ

    หากสิ่งนี้ดำเนินต่อไปในที่สุดสนามก็สามารถย้อนกลับได้ซึ่งจะมีผลกระทบร้ายแรงต่ออารยธรรมรอบ ๆ เพื่อเป็นสักขีพยานเพราะสนามแม่เหล็กจะไม่ปกป้องโลกจากการทำลายของแสงอาทิตย์และรังสีคอสมิก

    'ถ้าสนามกลับด้านปกติจะใช้เวลาประมาณ 5,000-10,000 ปีในการทำเช่นนั้น' ดร. เบกแกนกล่าว

    'กระบวนการปกติคือขั้วแม่เหล็กที่แข็งแกร่งทั้งสอง (เหนือและใต้) หายไปอย่างช้าๆเพื่อแทนที่ด้วยขั้วท้องถิ่นจำนวนมาก (ดังนั้นเข็มทิศชี้ไปที่' ขั้วโลก 'ที่ใกล้ที่สุด)
    'สถานะนี้ใช้เวลาไม่กี่พันปีและจากนั้นขั้วแม่เหล็กทิศใต้และทิศเหนือจะสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่

    'เราจะไม่ทราบว่าเรากำลังพลิกกลับมาเป็นเวลานานหรือไม่ - แน่นอนว่าจะนานกว่าชีวิตมนุษย์โดยเฉลี่ย'

    อ่านเพิ่มเติม:
    โมเดลแม่เหล็กโลก NCEI


    Earth's magnetic north is shifting at an 'unprecedented' rate of 30 miles a year - throwing satellite positioning data and navigation systems off course

    • New World Magnetic Model reveals movements in the Earth's magnetic field
    • Earth's magnetic north pole is moving towards Siberia and away from Canada
    • Northern lights may be harder to see from Canada as the magnetic north shifts
    • Magnetic devices and GPS systems used by military and aviation industries rely on accurate magnetic field readings
    By JONATHAN CHADWICK FOR MAILONLINE

    PUBLISHED: 15:09 GMT, 13 December 2019 | UPDATED: 16:04 GMT, 13 December 2019


    The Earth's magnetic North Pole is travelling at an unprecedented rate and is picking up speed as it moves towards Siberia, according to new satellite data.

    The magnetic North Pole is the wandering point on the surface of Earth's Northern Hemisphere at which the planet's magnetic field - created by molten iron within the planet’s core - points vertically downwards.

    The latest World Magnetic Model, which tracks the movement of the Earth’s magnetic field, shows that the magnetic north is moving at a rate of 30 miles per year.

    This is the fastest recorded shift of the Earth's north since the mid-16th century and could cause havoc for aviation and navigation systems, including smartphone apps that use GPS.

    The WMM has also located ‘caution zones’ on Earth around the magnetic fields where compasses may be prone to errors and send users off course.

    22204410-7789269-image-a-30_1576248349995.jpg

    New World Magnetic Map data shows Earth's magnetic north is moving at 31 miles per year, up from just 6.2 miles around 20 years ago, away from Canada and towards Siberia

    22199216-0-image-a-10_1576237913555.jpg

    New World Magnetic Map data shows how Earth's magnetic north has moved away from Canada and towards Siberia. The dip pole is the magnetic pole where a free-swinging compass needle points directly into the ground. The geomagnetic pole is the position of the pole if the Earth’s magnetic field was like a bar magnet. The difference between them show how distorted the magnetic field has become

    ‘The magnetic North Pole wandered slowly around northern Canada from 1590 to around 1990 and then accelerated over the past 20 years moving from around 10 km (6.2 miles) per year to over 50 km (31 miles) per year,’ Ciaran Beggan of the British Geological Survey told MailOnline.

    ‘In contrast, the south magnetic pole has barely moved much in the past 100 years as the flow of the outer core there is much more sedate.'

    After circling northern Canada for hundreds of years, the approximate location of the magnetic north pole started moving speedily towards Siberia at around the turn of the century.
    22200148-0-image-a-22_1576238756362.jpg
    Magnets rely on the Earth's magnetic field to send users in the right direction, but the problem is the magnetic field is constantly shifting around over time

    22199212-0-image-a-9_1576237908341.jpg

    +5
    The south magnetic pole has barely moved in the past 100 years compared to the north pole

    In recent months, it has crossed the Greenwich meridian line - the line of Zero Longitude from which all other longitudinal lines are measured.

    Earth’s magnetic field is created by the movement of liquid iron in the Earth’s outer core, some 1,800 miles below our feet.

    The iron is super hot (over 5,432 degrees Fahrenheit) and as runny as water meaning it flows very easily.

    As the liquid flows, it drags the magnetic field with it.

    ‘We think the magnetic north pole has been sucked into a fast moving jet stream near the top of the planet and that’s causing it to be pulled from Canada to Siberia,’ Dr Beggan said.

    'There are other factors, but that is the main one.'

    Since its discovery in 1831, the north magnetic pole has travelled a total of around 1,400 miles.

    This movement has been generally quite slow, but since the turn of the century has sped up – reaching an average speed of about 34 miles per year.

    22199464-0-The_shift_will_mean_there_will_be_less_chance_to_see_the_Aurora_-a-11_1576238020672.jpg

    The shift will mean there will be less chance to see the Aurora in place of northern Canada

    The new WMM forecasts that the northern magnetic pole will continue drifting towards Siberia in the next five years, at a slightly slower speed of about 25 miles per year.

    The move also means that the northern lights will move slightly away from northern Canada towards Siberia, meaning there will be less chance to see them in some areas there.

    The World Magnetic Model is a vital tool for civilian navigation systems and marine and aviation charts, which need to constantly adjust their measurements to account for the shifts in magnetic north.

    Airport runways also rely on the navigation aid and use WMM data to give runways numerical names, which pilots refer to on the ground.

    It’s the standard model used for navigation by the UK Ministry of Defence and the US Department of Defence - and even compasses and smartphone apps that rely on GPS.

    If you have smartphone with a map application (and an inbuilt compass which most phones do), then Google or Apple will change the magnetic field map in the next few months, as part of the general software updates.

    The WMM is jointly put together by the British Geological Survey and the USA’s National Centers for Environmental Information.

    It’s updated every five years to take account of the unpredictability of the Earth’s magnetic field.

    The updated model also confirms that the Earth’s magnetic field is weakening by about 5 per cent every century.

    If this continues, the field could eventually reverse, which would have dire consequences for any civilisation around to witness it, because the magnetic field would no longer shield the Earth against damaging solar and cosmic radiation.

    'If the field does reverse, it typically takes 5,000-10,000 years to do so,' said Dr Beggan.

    'The usual process is that the two strong magnetic poles (north and south) vanish slowly, to be replaced by lots of local poles (so a compass points to its nearest 'pole').

    'This state lasts a few thousand years and then the (reversed) south and north magnetic poles re-establish themselves.

    'We won’t know if we’re in a reversal for a long time – certainly much longer than the average human lifetime.'

    Read more:
    https://www.dailymail.co.uk/science...-uWHPF8ni-ExYrMHPItgfn3qDjb4gGbS0Vi8dlvHlW6bY
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Michael DiFato

    ความเห็น

    จะเป็นสอง สามวันที่ที่เครียดอย่างต่อเนื่องสำหรับ สนามแม่เหล็ก ของโลก เริ่มต้นด้วยการบีบอัดตอนเช้าขององค์ประกอบฟิลด์ By และ Bz ...

    IMG_5668.JPG IMG_5669.JPG

    Going to be a continued stressful couple of days for the Magnetosphere of the Earth. Beginning with this mornings compression of the field components By and Bz...

     

แชร์หน้านี้

Loading...