รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

(10 ก.พ. 56) สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เป็นที่คาดการณ์กันว่าจะมีผู้จาริกแสวงบุญกว่า 100 ล้านคน มาร่วมอาบน้ำในเทศกาล ‘กุมภะ เมลา’ ที่จัดขึ้นในปีนี้ เป็นเวลา 55 วัน โดยเริ่มเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมาเป็นวันแรก พิธีนี้จะจัดขึ้นทุกๆ 12 ปี โดยในปีนี้พิเศษกว่าทุกครั้งเพราะเป็น ‘มหากุมภะ เมลา’ ซึ่งจะมีเพียง 1 ครั้ง ในรอบ 144 ปี
ชาวฮินดูมีความเชื่อว่าหากได้มาอาบน้ำที่ ‘สังคัม’ เมืองอัลลาฮาบาด ประเทศอินเดีย จะช่วยชำระล้างบาปและช่วยให้พ้นบาป

โดย ที่แห่งนี้ซึ่งเป็นสถานที่ที่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์สำคัญ 3 สาย ไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำคงคา แม่น้ำยมุนา และแม่น้ำสรัสวดี ซึ่งจะสามารถมองเห็นแม่น้ำ 2 สายแรกเท่านั้น เพราะแม่น้ำสรัสวดีเป็นแม่น้ำในตำนานที่มองไม่เห็น ซึ่งชาวอินเดียกล่าวกันว่าไหลมาจากใต้ดินแล้วมาผุดขึ้นที่นี่ โดยมีถิ่นกำเนิดที่เมืองราชคฤห์ รัฐพิหารในปัจจุบัน แล้วมาบรรจบกันตรงนี้
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บรรดาหญิงชายชาวฮินดูต่างก็ไปร่วมพิธีอาบน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ บ้างก็ถือธง ธนู ลูกศรและป้าย

หลาย คนเต้นรำและตีกลอง บางคนก็มาด้วยรถม้าที่ตกแต่งอย่างงดงาม และบางคนก็ขี่ม้ามา ซึ่งเกือบทั้งหมดอยู่ในเครื่องแต่งกายสีเหลืองอมส้ม ส่วนพราหมณ์หลายคน เกือบจะเปลือยกาย ทำผมเดรดล็อกและทาร่างกายด้วยขี้เถ้า ทั้งหมดต่างวิ่งลงไปในน้ำ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยที่เข้มงวดด้วยกำลังตำรวจกว่า 14,000 นาย พร้อมกองกำลังทหารและหน่วยคอมมานโด

ชายคนหนึ่งกล่าวว่าเขาต้องเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง 3 วัน จากนั้นต่อรถไฟและเดินเท้าเพื่อมาร่วมในเทศกาลนี้ เพราะเชื่อว่าการมาร่วมอาบน้ำในวันที่มีฤกษ์งามยามดีที่สุด จะช่วยล้างบาปทั้งหมด และช่วยให้เขาและครอบครัวปลอดภัยในอนาคต

รายงานอย่างเป็นทางการระบุ ว่ามีประชาชนกว่า 12 ล้านคนเข้าร่วมพิธีอาบน้ำอันศักดิ์สิทธ์นี้ นับตั้งแต่เริ่มพิธีในวันที่ 14 มกราคม เป็นต้นมา
ด้านโรงพยาบาลกว่า 14 แห่งที่เมลาเปิดเผยว่า

มีผู้จาริกแสวงบุญถูกส่งเข้ารับการรักษาที่ร.พ.กว่า 150,000 ราย แล้ว และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยผู้ป่วยเกือบทั้งหมดมีปัญหาทางเดินหายใจ เป็นหวัด ปวดตามข้อ และแพ้ฝุ่น ขณะที่ศูนย์แจ้งสิ่งของหายระบุว่า มีผู้มาแจ้งว่าพบสิ่งของและของหายกว่า 40,000 ราย

ชาวฮินดูเชื่อว่าเมื่อเทวดาและอสูรได้ต่อสู้กันเพื่อแย่งน้ำอมฤต น้ำได้หยดลงไปในโลกมนุษย์ 4 แห่งคือ อัลลาฮาบาด นาสิก อุชเชน และหริดวาร์ อันเป็นสถานที่ในการจัดเทศกาล ‘กุมภะ เมลา’ ซึ่งได้จัดสืบต่อกันมาหลายศตวรรษ

 

'สมเด็จพระสันตปาปา' ทรงประกาศสละสมณศักดิ์ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
อ้างอายุมากไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้เต็มที่ สร้างความตื่นตะลึงให้กับคริตศาสนิกชนทั่วโลก

11 ก.พ. 56 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า
สมเด็จพระสันตปาปา เบเนดิกท์ ที่ 16
ทรงประกาศในที่ประชุมสมเด็จพระราชาคณะว่า
หลังจากทรงตรึกตรองต่อหน้าพระเจ้าหลายครั้ง
พระองค์ก็ทรงตระหนักว่าด้วยพระชนมายุที่มากถึง 85 ชันษา
และ ความแข็งแรงของพระวรกายของพระองค์
ไม่เหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจประมุขแห่งศาสนจักรอีกต่อไป
จึงทรงประกาศสละตำแหน่งพระสังฆราชาแห่งคริสตศาสนา
โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป

การประกาศสละสมณศักดิ์ของสมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกท์ที่ 16
ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 700 ปีที่มีการสละสมณศักดิ์ที่สูงที่สุดแห่งคริศตจักร

ก่อนหน้านี้สมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกท์ ที่ 16
ได้ทรงเกริ่นถึงการสละสมณศักดิ์ในการสัมภาษณ์เพื่อจัดทำหนังสือเล่มหนึ่งเมื่อปี 2553
ว่าพระองค์จะทรงสละสมณศักดิ์หากทรงรู้สึกว่าพระองค์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อีกต่อไป

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
พระองค์มีพระสุขภาพที่อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
และต้องทรงนั่งในเก้าอี้เลื่อน
เพื่อเสด็จไปยังสถานที่ต่างๆในวิหารเซนต์ปีเตอร์เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ

ด้านนายเฟดริโก ลอมบาร์ดี โฆษกกสำนักวาติกัน กล่าวว่า
สมเด็จพระสันตปาปาทรงทำให้พวกเราประหลาดใจอย่างยิ่ง

ในประวัติศาสตร์แห่งคริสตศาสนา
มีเพียงสมเด็จพระสันตปาปาเซเลสทีน ที่ 5 ที่ทรงสละสมณศักดิ์ในปี 1839
ด้วยเหตุผลว่าทรงไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้อีกต่อไป
จากปัญหาด้านสุขภาพหลังจากทรงได้รับการสนับสนุนจากพระคาร์ดินัล
ให้ทรงรับตำแหน่งพระสันตปาปาได้เพียงไม่กี่เดือน

เมื่อข่าวการสละสมณศักดิ์ของสมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกท์ที่ 16 แพร่ออกไป
ก็มีการแถลงคำสรรเสริญพระองค์จากทั่วโลก
โฆษกนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า
สมเด็จพระสันตปาปาพระองค์นี้ที่เป็นชาวเยอรมันโดยกำเนิด
ทรงสมควรได้รับการยกย่อง และ สรรเสริญ
จากผลงานที่ทรงทำในช่วง 8 ปีแห่งการดำรงสมณศักดิ์

ขณะที่นายฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า
การตัดสินใจของพระองค์เป็นที่น่ายกย่องอย่างที่สุด

สมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกท์ที่ 16
หรือชื่อเดิม นายโจเซฟ แรทซิงเกอร์ ชาวเยอรมัน
ทรงรับตำแหน่งพระสันตปาปาต่อจากสมเด็จพระสันตปาปาจอห์น ปอล ที่ 2
เมื่อเดือนเมษายน 2548
ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ฟื้นศรัทธาชาวคริสตร์
ท่ามกลางกระแสการแบ่งแยกในประเทศตะวันตกและ ข่าวอื้อฉาวในสำนักวาติกัน

ขณะที่การคัดเลือกสมเด็จพระสันตปาปาพระองค์ใหม่
จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้



นครรัฐวาติกัน (อังกฤษ: State of the Vatican City; อิตาลี: Stato della Città del Vaticano)
ประเทศเอกราช หรือรัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลก โดยมีเนื้อที่ประมาณ 250 ไร่

ในนครแห่งนี้ตามแผนผังประกอบไปด้วย วังวาติกัน, วังกัสเตลกันดอลโฟ (castelgendolfo)
อันเป็นที่ประทับ ที่อยู่นอกชานกรุงโรมไปทางทิศใต้, มหาวิทยาลัยเกรโกเรียน (Gregorian University)
และโบสถ์ 13 แห่งในกรุงโรม เฉพาะวังวาติกันมีเนื้อที่ 150 ไร่ ซึ่งรวมวิหารเซนต์ปีเตอร์
พิพิธภัณฑ์วาติกัน หอสมุดวาติกัน และที่ประทับขององค์พระสันตะปาปาด้วย

เป็นนครรัฐที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลซึ่งน้อยที่สุดในโลกทั้งในแง่พื้นที่และประชากร
ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา
ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ศูนย์กลางคือมหาวิหารนักบุญเปโตร
ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล

การปกครองเป็นแบบอำนาจเบ็ดเสร็จ
อำนาจตกอยู่ที่พระสันตะปาปาเพียงผู้เดียว
จะหมดวาระก็ต่อเมื่อสิ้นพระชนม์
และนี่นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 600 ปีที่สละตำแหน่ง
ก่อนสิ้นพระชนม์

 

ชูบดีชี้หวยคงรวยแน่
ต้องรีบแก้รีบแทงแข่งเครื่องหมุน
กลัวเจอล็อคเซ่อแดกแหลกเป็นจุณ
มันน่าลุ้นให้อุ่นใจเป็นไงเป็นกัน..
หุหุ...35 เหรอ

 

วันนี้มีคลิป หมากับแมว ของผมเองแหละครับ เอามาให้ชมกัน แมวดำชื่อไอ้เหมียว มันมาช่วงเดียวกับพิตบูลที่เล่นด้วยกันนั่นแหละ แต่ไอ้เหมียวมาจากไหนไม่รู้ ตัวเล็กนิดเดียว ยังไม่หย่านม น่ากลัวแม่มันมาแอบออกลูกใกล้ ๆ บ้านผมนี่แหละ และไอ้เหมียวคงเป็นหมาคิงคองที่เพิ่งตายไปก่อนไอ้เหมียวมาราว 1 เดือน เพราะมันไม่กลัวหมาตัวไหนเลย โดยเฉพาะดาโอะ หมาตัวเมียที่มันเคยอยู่ด้วยกันหยอกล้อกันมันก็กลัาที่จะหยอกเล่นกับดาโอะ แม้ดาโอะคาบเต็มปากมันก็ไม่ว่า หมาตัวอื่น ๆ มันก็ไม่กลัว เพราะก่อนที่คิงคองจะตายมันก็เกือบได้เป็นจ่าฝูงแล้ว

เวลานอนก็นอนบนเตียงกับผมพร้อมพิตบูล 2 ตัวนั่นแหละ นอนกอดกันอย่างมีความสุข
ลองดูเขาเล่นกันสิครับ
https://www.youtube.com/watch?v=OMWhDSziCH8

 

ช้าก่อนยังก่อนท่านคิงคอง.........ข้าน้อยต้องชี้แจงเรื่องแทงหวย
อย่าหวังเลขหวังลางทางจะรวย.....ถึงเลขสวยก็ถูกเจ้ามือกิน
ทั้งล๊อกหลอกกรอกเลขกันพันพัว..ให้มืดมัวหลงทางอำพรางสิ้น
หลอกเอาไว้ลวงเอาไว้ไม่ทำกิน....อร่อยลิ้นเจ้ามือรวยซวยประชาฯ...จ้า

 

สวัสดีครับห่างหายไปนานเลยผม ตกข่าวไปเยอะเลย สบายดีกันทุกคนนะครับ

 

หลังจากที่หายไปเกือบ 2 อาทิตย์ กลับมาก็เร่งเคลียร์ธุระส่วนตัวให้วุ่น ซ้ำคอมฯที่ใช้ก็มีปัญหา เน็ตก็ไม่ไหลลื่น เลยทำให้ไม่ค่อยได้เข้ามาโพสต์อะไรเลย แต่ยังไงก็ขอขอบคุณหลายๆท่านที่ยังมีเรื่องราว ข้อมูล ข่าวสาร มาแชร์ให้สมาชิกได้อ่านแก้เหงาในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะท่านkingkong1 คุณชูบดี และน้องดาว ที่กลายเป็นตัวยืนประจำกระทู้ไป

เกี่ยวกับเรื่องภัยแล้ง จากประสบการณ์ช่วงที่เพิ่งผ่านมา ผมคิดว่า น่าจะมีหลายๆวัดที่ตั้งอยู่บนเขาหรือที่สูง น่าจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำกว่าทุกปี เพราะน้ำในบ่อธรรมชาติ ฝายเก็บน้ำ มีน้อยหรือเริ่มแห้งขอด และระดับน้ำใต้ดิน ที่มีระดับต่ำมากต้องขุด เจาะ เพื่อสูบน้ำขึ้นมาใช้ ส่วนเรื่องที่ท่านเทพสีขาว พยายามนำช้อมูลของผู้มีญาณวิเศษเกินมนุษย์ มาแชร์ ก็คงต้องทำใจและปล่อยวางครับ ต่างคนต่างจิต ต่างกรรม อะไรที่จริง หรือไม่จริง สักวัน มันจะเปิดเผยออกมาเองครับ

แต่ผมกลับไม่เคยได้ยินเรื่องภัยพิบัติจากพระสายวัดป่า (สายพระอาจารย์มั่น) เลยนะ หรือท่านใดเคยได้ยิน เอามาแชร์ก็จะขอบคุณครับ ส่วนที่ผมเข้าวัดปฎิบัติธรรม ไม่เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัตินะครับ เพราะผมไม่คิดว่าประเทศไทยจะเกิดภัยใหญ่ในช่วงปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ ( 5-10 ปี ) แต่เนื่องจากผมต้องการศึกษาเพิ่มเติมจากที่เคยบวชแค่ 15 วันเมื่อนานมาแล้ว ที่ผ่านมาก็แทบไม่ได้ศึกษาหรือปฎิบัติธรรม(สมาธิ ภาวนา)อะไรเลย ส่วนใหญ่จะทำบุญทำทาน นี่ก็เลยเหมือนเป็นการรื้อฟื้น ซะมากกว่า เก็บเล็กผสมน้อย อะไรดีๆก็น้อมนำมาปฎิบัติ ต่อยอดไปทีละนิดละหน่อย ผมไม่ได้เน้นที่จะหลุดพ้นหรือนิพพานครับ แค่สนใจเรื่อง จิตกับธรรมชาติ เท่านั้น

มีภาพนกจากทางเหนือมาฝากครับ




;aa1

.

 

ทุกวันนี้ เรื่องหลอกลวง ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไปเสียแล้ว มีอยู่ทั่วไป ทุกที่ ทุกวงการ อย่าใช้อารมณ์ อย่าคล้อยตาม แล้วจะมานั่งเสียใจ เสียเงินทอง เสียดายเวลา กันซะปล่าวๆ ใช้สติและปัญญาให้มาก แต่ถึงยังไง หลายๆคนก็คิดว่ามีสติ ใช้ปัญญาแล้วนะ แต่ก็ยังไม่วาย โดนคนที่เขาชั้นเชิง เลห์เหลี่ยมสูงกว่า สร้างภาพอันน่าเชื่อถือ จนหลงคารมจนได้ ในหลายๆคดี คนร้าย ก็จะทำลายหลักฐานทั้งหมด ชนิดไม่เหลืออะไร ให้สืบค้นความหลังได้ ไร้ร่องรอย แม้แต่กลิ่น สุดท้ายคนร้ายก้อลอยนวล ตามระเบียบ

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้

:z3

หลอก - ศูนย์รวมข่าวหลอก

.

 

ไม่ทราบตรุษจีน ( 9 กพ. ) ปีนี้ มีข่าวไฟไหม้ใหญ่รึปล่าวครับ เห็นเงียบๆไป นึกถึงเมื่อก่อน ตรุษจีนทีไร เป็นต้องมีข่าวไฟไหม้ทุกปีเลย จนเป็นเรื่องปกติ

แสดงว่า ความตระหนักในเรื่องความปลอดภัย ( SAFETY AWARENESS ) ได้รับการใส่ใจสูงขึ้นเรื่อยๆ

.

 

ทองแท้ ไม่กลัวไฟฉันใด ธรรมะที่แท้จริงย่อมยังจรรโลงอยู่สืบไป
อะไรที่ไม่จริง ไม่แท้ สุดท้ายก็จะทำลายตัวมันเอง และมอดไหม้ไม่เหลืออะไรเลย

ถ้าท่านเหล่านั้น ที่ท่านเทพสีขาวเอ่ยถึง เป็นของจริง ในอนาคตอันใกล้ ก็น่าจะยังคงอยู่ ให้เราๆท่านๆได้ รับรู้ถึงความจริงนั้นครับ ไม่นานเกินรอหรอกครับ

.

 

ขออนุโมทนา...สาธุ..ขอรับ

 

หลังจากที่หายไปเกือบ 2 อาทิตย์ กลับมาก็เร่งเคลียร์ธุระส่วนตัวให้วุ่น ซ้ำคอมฯที่ใช้ก็มีปัญหา เน็ตก็ไม่ไหลลื่น เลยทำให้ไม่ค่อยได้เข้ามาโพสต์อะไรเลย แต่ยังไงก็ขอขอบคุณหลายๆท่านที่ยังมีเรื่องราว ข้อมูล ข่าวสาร มาแชร์ให้สมาชิกได้อ่านแก้เหงาในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะท่านkingkong1 คุณชูบดี และน้องดาว ที่กลายเป็นตัวยืนประจำกระทู้ไป

เกี่ยวกับเรื่องภัยแล้ง จากประสบการณ์ช่วงที่เพิ่งผ่านมา ผมคิดว่า น่าจะมีหลายๆวัดที่ตั้งอยู่บนเขาหรือที่สูง น่าจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำกว่าทุกปี เพราะน้ำในบ่อธรรมชาติ ฝายเก็บน้ำ มีน้อยหรือเริ่มแห้งขอด และระดับน้ำใต้ดิน ที่มีระดับต่ำมากต้องขุด เจาะ เพื่อสูบน้ำขึ้นมาใช้ ส่วนเรื่องที่ท่านเทพสีขาว พยายามนำช้อมูลของผู้มีญาณวิเศษเกินมนุษย์ มาแชร์ ก็คงต้องทำใจและปล่อยวางครับ ต่างคนต่างจิต ต่างกรรม อะไรที่จริง หรือไม่จริง สักวัน มันจะเปิดเผยออกมาเองครับ

แต่ผมกลับไม่เคยได้ยินเรื่องภัยพิบัติจากพระสายวัดป่า (สายพระอาจารย์มั่น) เลยนะ หรือท่านใดเคยได้ยิน เอามาแชร์ก็จะขอบคุณครับ ส่วนที่ผมเข้าวัดปฎิบัติธรรม ไม่เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัตินะครับ เพราะผมไม่คิดว่าประเทศไทยจะเกิดภัยใหญ่ในช่วงปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ ( 5-10 ปี ) แต่เนื่องจากผมต้องการศึกษาเพิ่มเติมจากที่เคยบวชแค่ 15 วันเมื่อนานมาแล้ว ที่ผ่านมาก็แทบไม่ได้ศึกษาหรือปฎิบัติธรรม(สมาธิ ภาวนา)อะไรเลย ส่วนใหญ่จะทำบุญทำทาน นี่ก็เลยเหมือนเป็นการรื้อฟื้น ซะมากกว่า เก็บเล็กผสมน้อย อะไรดีๆก็น้อมนำมาปฎิบัติ ต่อยอดไปทีละนิดละหน่อย ผมไม่ได้เน้นที่จะหลุดพ้นหรือนิพพานครับ แค่สนใจเรื่อง จิตกับธรรมชาติ เท่านั้น

ดีใจจังเจ้ากระทู้ที่รู้กลับ
นึกขยับหยิบกลอนย้อนขย่ม
ก็เปลี่ยนท่าว่าตามต่อความคม
ให้ดูสมที่สร้างทางกระทู้

เรื่องภัยพิบัติใหญ่ถ้ามันมีจริงพระผู้วิเศษจริง ๆ ท่านต้องรับรู้ และบอกกล่าว โดยเฉพาะเทพเทวาผู้เกี่ยวข้องกับโลกมนุษย์ท่านย่อมรับรู้ก่อนใคร ๆ และจะรีบเตือนภัยก่อนใคร ๆ แต่นี่หลาย ๆ เรื่องเทพผู้เกี่ยวข้องกับมนุษย์คือพระยายมราชหรือท้าวกุเวรเทวราชท่านก็หัวเราะลั่นพร้อมกับด่าว่าเอา ท่านว่ากูเป็นพญายมราช ถ้าเหตุร้ายคนตายเป็นแสนเป็นล้านมันจะเกิดจริง ผู้ที่รู้ก่อนใคร ๆ คือกูนี่แหละ แต่นี่มันไม่จริงสักเรื่อง (ท่านว่าไว้ตั้งแต่ต้นปี 2554 ซึ่งกระแสทำนายจาก ดช.ตุ้ยอริยุบญว่าจะเกิดสตอร์มเซิร์ทลมหอบน้ำทะเลเข้าท่วมกรุงเทพ ฯ ช่วงเดือนมีนาคม 2554 และข่าวพระรูปหนึ่งจากภาคใต้แจกใบปลิวว่าจะเกิดแผ่นไหวและสึนามิที่ร้ายแรงกว่าปลายปี 2547) เรื่องจะมีพายุใหญ่หอบน้ำทะเลมาท่วมกรุงเทพ ฯ ก็ไม่มีจริง มาพนันกับกูได้ มันจะมีบ้างก็พายุพัดมาจากพม่ามาทางไอ้ไข่นุ้ย(หมายถึงภาคใต้) แต่มันเป็นปลายพายุ ไม่มีใครเดือดร้อนหรอก (ซึ่งต่อมาอีกไม่กี่วันก็มีพายุนากรีสถล่มพม่า มีคนตายหลายร้อยคน) แล้วเรื่องแผ่นดินไหว สึนามิถล่มที่ไอ้พระบ้าจัญไรแจกใบปลิวจนโกลาหลนั้นก็ไม่มีจริง เชื่อกูนิ มึงมันไอ้จิตป่วน ไปเที่ยวหาเที่ยวดูข่าวอะไรต่อมิอะไรเอามาเล่า อยู่ให้มันสงบได้มั้ย (เล่นผมเข้าแล้วสิครับ ผมก็เข้ามาท่องในพลังจิตนี่แหลบะแล้วเอาข่าวไปเล่า ท่านก็เลยเหะหะลงมาด่าไง) กูจะบอกให้ ปีนี้น้ำจะท่วมใหญ่ ท่วมหนักกว่าปีที่แล้ว นี่แหละคือภัยใหญ่ในปีนี้

ส่วนปี 2555 ท่านว่าที่ทำนายกันว่าน้ำจะท่วมใหญ่ในปีนี้ ไม่จริง มาพนันกัน กูว่ามันจะแล้งเอา และที่ไอ้ปลาบู่บ้าบออะไรน่ะ ที่ว่าเขื่อนจะแตก น้ำจะไหลลงมาท่วมกรุงเทพ ฯ
ก็ไม่มีจริง ไอ้ที่ว่าโลกจะแตก แผ่นดินจะแตก น้ำจะท่วมโลกก็ไม่มีจริง พวกมึงอย่าได้แตกตื่นกันไปเลย

ส่วนปีนี้ 2556 ท่านทำนายตั้งแต่ปีที่แล้วว่า ปีหน้าจะแห้งแล้งมาก ๆ ฝนจะน้อย น้ำท่าไม่พอจะใช้

 

พอจะนึกออกกันมั้ยครับ ในสมัยพระพุทธเจ้ามีเรื่องนางยักษิณีที่จองเวรกันมากับลูกสาวชาวบ้านคนหนึ่ง นางคนนั้นคลอดลูกทีไรนางยักษิณีก็จำแลงเป็นคนไปเยี่ยมแล้วจับลูกน้อยกินถึง 2 ครั้ง แต่ครั้งที่ 3 นางกุลธิดาจึงหนีไปคลอดลูกที่บ้านพ่อแม่ นางยักษิณีพ้นจากเวรส่งน้ำให้ท้าวเวสสุวรรณก็รีบติดตามไป จนไปพบนางกุลธิดาหนีไปพึ่งพระพุทธเจ้า เมื่อฟังธรรมพระพุทธเจ้าก็บรรลุเป็นพระโสดาบัน และเลิกฆ่าสัตว์ตลอดกาล พระพุทธเจ้าจึงให้นางกุลธิดารับเป็นภาระเอาไปเลี้ยง ต่อมานางยักษิณีก็ไปอยู่ที่กระท่อมปลายนา และทุกปีก็จะทำนายให้ชาวบ้านรู้ว่าปีนี้ฝนจะมาก หรือจะแห้งแล้ง ถ้าปีไหนนางยักษ์ทำนายว่าฝนมาก ชาวบ้านก็พากันทำนาบนที่ดอน ข้าวก็รอดพ้นจากถูกน้ำท่วม ปีไหนฝนแล้งชาวบ้านก็หาที่ลุ่มน้ำท่วมถึงเพื่อทำนา ก็ได้ข้าวเต็มยุ้งฉางทุกปี

สรุปว่ายักษ์มีวิชาอุตุนิยมล่วงรู้ธรรมชาติฟ้าฝนดีกว่ากรมอุตุนิยมวิทยา

 

แต่เนื่องจากผมต้องการศึกษาเพิ่มเติมจากที่เคยบวชแค่ 15 วันเมื่อนานมาแล้ว ที่ผ่านมาก็แทบไม่ได้ศึกษาหรือปฎิบัติธรรม(สมาธิ ภาวนา)อะไรเลย ส่วนใหญ่จะทำบุญทำทาน นี่ก็เลยเหมือนเป็นการรื้อฟื้น ซะมากกว่า เก็บเล็กผสมน้อย อะไรดีๆก็น้อมนำมาปฎิบัติ ต่อยอดไปทีละนิดละหน่อย ผมไม่ได้เน้นที่จะหลุดพ้นหรือนิพพานครับ แค่สนใจเรื่อง จิตกับธรรมชาติ เท่านั้น

ขออนุโมทนาบุญที่ได้แสวงหาบุญกุศลที่ถูกทางพระพุทธศาสนาจริง ๆ เรื่องจิตกับธรรมชาตินี่แหละคือเรื่องของพุทธศาสนาจริง ๆ ผู้ที่ชอบศึกษาทางนี้โดยตรงต้องศึกษาคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง หลวงพ่อพุทธทาส และหลวงพ่อพุธ 4 ท่านนี้สายตรงเลย สำนักปฏิบัติสายหลวงพ่อชาที่ปากช่องก็มีวัดเขาวันชัย อยู่ใกล้ตัวเมืองปากช่องที่สุด ดูภาพได้จากเว็บสันยาสี sanyasi.org วัดเขาหินตัด อยู่เลยเขื่อนลำตะคองไปหลายกิโลเมตร อยู่ซ้ายมือ สถานที่สงบมาก กุฏิกรรมฐานมีมากกว่าคนอยู่อาศัย

 

...


ขออนุโมทนา..ขอรับ

 

ขอบคุณท่านkingkong1 ที่กรุณาแนะนำพร้อมข้อมูลเพิ่มเติม วันข้างหน้าคงหาโอกาสไปที่เขาวันชัยสักครั้ง

 

^^ เข้ามาทักทายค่าาาาาา

 

สวัสดีวันแห่งความรักครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

 

น้ำหน้าแล้ง - รู้หลบ
วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 00:00 น.


ย้ำกันอีกทีว่า อากาศช่วงนี้มีความเปลี่ยนแปลง เจอได้ทั้งฝน ร้อน และหนาวเย็นปนกัน

ซึ่งเป็นปกติของฤดูกาล

อย่างช่วงต้นสัปดาห์ ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ มีอิทธิพลของความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรง ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ

ช่วงที่ความกดอากาศสูงอ่อนกำลังลงมาก ๆ ก็ทำให้ฝนลดลง และรู้สึกร้อน

พอวันที่ 13–15 กุมภาพันธ์ ความกดอากาศสูงอีกระลอกจะแผ่ลงมาในจุดเดิม คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับทะเลจีนใต้

ช่วงแรกที่มา จะทำให้มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

ลมเย็นที่กระโชกลงทะเลอ่าวไทย ก็ทำให้มีคลื่นลมแรง

คำเตือนที่กรมอุตุนิยมวิทยาบอกไว้ในรายงานข่าว ระบุว่า วันที่ 13–16 กุมภาพันธ์ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

วันที่ 10–15 กุมภาพันธ์ ให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในอ่าวไทยไว้ให้มาก

ฝนที่กระหน่ำนอกฤดูกาล บางแห่งดูรุนแรงมีลูกเห็บ มีลมกระโชกแรง แต่ปริมาณน้ำที่ตกลงมาไม่ได้มากพอจะกักเก็บไว้ใช้เท่าใดนัก

ยังไงก็เป็นช่วงฤดูแล้งที่ต้องใส่ใจกับการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค

กรมชลประทานรายงานการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกไปแล้วกว่า 9.50 ล้านไร่ หรือร้อยละ 99

จำแนกรายละเอียดได้ว่า เฉพาะนาปรัง ทำกันเต็มพื้นที่ 9.19 ล้านไร่ หรือร้อยเปอร์เซ็นต์ไปเรียบร้อยแล้ว

ไม่เกรงใจกันจะบอกว่าเกินไปนิด ๆ ซะด้วย

พวกพืชไร่-พืชผัก ก็ทำไปแล้วร้อยละ 72 ของแผน

กรมชลประทาน ย้ำมาว่า เฉพาะในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการทำนาปรังไปแล้วกว่า 6.22 ล้านไร่

แผนกำหนดให้ทำแค่ 5.40 ล้านไร่เท่านั้น

มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก

จึงร้องขอให้งดทำนาปรังครั้งที่ 2 ซะ เพราะน้ำต้นทุนปีนี้ มีน้อย อาจไม่พอให้ใช้ ดังนี้ แม้กรมชลฯ จะใจไม่แข็งพอ แต่ถ้าเหลือไม่พอ ก็ไม่รู้จะเอาที่ไหนมาจ่าย

ขอให้เชื่อเถอะว่าทำไปก็เสี่ยง

นอกจากนี้ที่ต้องเตือนสำหรับชุมชน หรือบ้าน ที่แวดล้อมด้วยทุ่งหญ้า ซึ่งกำลังแห้งกรอบ ควรตระหนักว่า โอกาสเกิดไฟไหม้หญ้าลุกลามเข้าใกล้เกิดได้เสมอ และถึงจะแก้ไขดับได้ทัน แต่อันตรายจากควันก็ประมาทไม่ได้

แม้มีฝน ลม พัดกระหน่ำเป็นครั้งคราว ก็ให้ความชื้นไม่พอลดความแห้งแล้ง

ออกแรงตัดฟันให้เหี้ยนเตียนเสียดีกว่า

วางใจได้แน่นอน.

หยาดน้ำฟ้า

เดลินิวส์

 

เข้าหน้าแล้งแล้วนะเจ้าข้าเอ๋ย
ไม่นึกเลยน้ำเคยท่วมอ่วมทั้งผอง
ทั้งเหนือใต้อิสานกรุงเต็มคุ้งคลอง
ราวกับดองแผ่นดินจนสิ้นปี

มาวันนี้ทีท่าแล้งมาแล้ว
เริ่มเป็นแนวจากอิสานบานทุกที่
โผล่ถึงเหนือเจือจานรานทวี
ปฐวีแตกระแหงแล้งเหลือเกิน