WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ข้าน้อยมิบังอาจ ขอบคุณในคำชม ท่านชุบดีก็พอมีฝีมืออยู่

ส่วนสุราษฎร์ฯช่วงนี้น่าเบื่อจังเลยครับ ฝนน่ะตกติดต่อหลายวันแล้วแต่ก็ไม่หนักจนทำให้น้ำล้นตลิ่ง ตกแค่พอกรีดยางไม่ได้หยุดกรีดกันหลายวันแล้วครับ โน่นไปหนักแถวๆ พัทลุง นราธิวาส และอีกหลายจังหวัดแถบนั้น

ชาวสวนยางพอไม่ได้กรีดยางก็เซ็งซิครับ รายได้ถดถอยบางคน ชักหน้าไม่ถึงหลังบางคน ถ้าเป็นอย่างงี้นานๆมีหวังคงไม่มีรถใช้กันบ้างล่ะบางคน สุราษฎร์ฯบ้านผมขอบอกของจะแพงกว่าทุกจังหวัดในภาคใต้ แต่ยกเว้นตามแหล่งท่องเที่ยวนะครับ คนอีสานมาขายส้มตำครกละ 30 โกยเงินกลับบ้านยังกะไปนอก รถยนต์น่ะขายดีกว่าจังหวัดอื่นๆในแถบนี้ เซ็งฝนตกจนไม่ได้ทำงานเลยบ่นยาวเลย


@สมาชิก หลายคน ได้ค้นข่าว
มาบอกกล่าว เหตุมี เกิดที่ไหน
ให้ได้รู้ ให้ได้เห็น ความเป็นไป
ทั้งเมื่องไทย เมืองนอก บอกกันมา
@ว่าวันนี้ ที่ไหน ได้เกิดเหตุ
ให้สังเกตุ ให้ระวัง อย่ากังขา
ใครจะเชื่อ ฤๅไฉน ไม่นำพา
ถ้ารู้มา ก็บอกไป ให้รู้กัน.

 

กราบเรียน สมาชิกทุกท่าน ที่เคารพ ที่จังหวัด สตูล มีฝนตกมาก เช่นกันครับ มาทั้ง 2 ฝั่งคือ อันดามัน กับ อ่าวไทย ชาวบ้านที่นี่เรียก ฝน 8 แดด 4 ครับ
ด้วยความเคารพ ครับ

 

ซ่อมถนนยุบตัว ใกล้แยกเพลินจิต พร้อมเปิดการจราจรแล้ว


จากกรณีเหตุถนนทรุดตัว จนเป็นเหตุให้ล้อรถประจำทาง สาย 13 ตกหล่ม พร้อมกับมีน้ำประปา พุ่งออกมาจำนวนมาก เต็มพื้นถนน และไม่สามารถขยับรถขึ้นมาได้ บริเวณช่องทางซ้าย ถนนวิทยุขาเข้าใกล้แยกเพลินจิต ติดธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสำนักงานเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จากการสอบถาม ทราบว่า ในช่วงเช้าจุดดังกล่าวมีน้ำซึมออก ซึ่งรถก็สามารถสัญจรตามปกติ จนกระทั่งมีรถเมล์ตกลงไปดังกล่าว โดยคาดว่าเกิดจากสาเหตุท่อน้ำประปาแตก ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ประสานกับ กทม. และการประปานครหลวง เร่งมาซ่อมแซมและนำรถยกมาทำการเคลื่อนย้ายจนสำเร็จ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา


ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 1 ม.ค.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการซ่อมแซมท่อประปาและทำการซ่อมแซมโดยการเทพื้นผิวถนนด้วยปูนจนเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้เปิดการจราจรใช้ได้ตามปกติ จากการสอบถาม พ.ต.ท.สนธยา บัวแพง รองผกก.จร.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 19.30น. ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ว่าทางเจ้าหน้าที่ของทางการประปานครหลวงและเจ้าหน้าที่จากกทม. ว่าทำการซ่อมแซมท่อประปาและพื้นผิวถนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ทำการเปิดช่อทางซ้ายของถนนวิทยุให้รถสัญจรได้ตามปกติ

ที่มา http://www.dailynews.co.th/crime/175705

 

siamblogza: ufo สวิตเซอร์แลนด์ 2012/12/29

 

อุตุฯใต้เตือน 5 จังหวัดใต้ยังไม่พ้นอันตรายฝนตก-คลื่นซัดชายฝั่ง

วันที่ 2 ม.ค. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ออกประกาศเตือนเรื่องฝนตกหนักและคลื่นลมแรงฉบับที่ 9 ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 5 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่ จ.พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และจ.นราธิวาส ระมัดระวังและป้องกันอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 1- 2 ม.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงและสูง 2-4 เมตร ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งถึงวันที่ 3 ม.ค.


นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย ผอ.ศูนย์อุคุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลาเปิดเผยว่าพื้นที่ 6 อำเภอชายฝั่งของ จ.สงขลา อ.ระโนด สทิงพระ สิงหนคร จะนะ เทพา และ อ.เมืองสงขลา ได้รับผลกระทบจากคลื่นและฝน สภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยยังไม่ลดกำลังลงและมีบ้านเรือประชาชนในพื้นที่ อ.ระโนด ได้รับผลกระทบจากการถูกคลื่นซัดเสียหาย ไม่มีรายงานของผู้เสียชีวิต


รายงานข่าวว่าบรรยากาศที่ชายหาดแหลมสมิหลา มีการประกาศเตือนให้เลี่ยงการลงเล่นน้ำทะเลในระยะนี้ แต่ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ลงไปเล่นน้ำบริเวณชายหาด ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุคลื่นซัด มีเจ้าหน้าที่ต้องคอยแจ้งเตือน


นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลาเปิดเผยว่าจากรายงานของชลประทาน ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำสะเดา อ่างจังไหร่ มีระดับน้ำเพียงร้อยละ 60 ของความจุของอ่าง ไม่น่าวิตกกับการเกิดน้ำท่วม แต่ที่น่าห่วงเรื่องคลื่นซัดชายฝั่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ อ.เทพา-ระโนด ระยะทางยาวประมาณ 80-90 กม. บางแห่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและบ้านเรือนประชาชน

ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU56QTVOakF3Tnc9PQ==&subcatid=

 

เมื่อวานกลับจาก จ.เลย เส้นทางถนนสายหลักเชื่อมระหว่าง จ.เลยและภูเรือ ช่วงเรียบเชิงเขา มีร่องรอยดินสไลด์มี 2-3 จุด เป็นสัญญาณเตือนความไม่เสถียรภาพของพื้นที่แถบนั้น ใครผ่านไปแถบนั้นควรตรวจสอบเช็คความปลอดภัย หรือถ้ามีแผ่นดินไหวพื้นที่ใกลเคียง ก็พยายามหลีกเลี่ยงเส้นทางแถบนั้น

 

ฮือฮา! รบ.มะกัน-กีวีแอบทดลอง “ระเบิดสึนามิ” หวังใช้ “คลื่นยักษ์” ทำลายชาติศัตรู
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มกราคม 2556 14:33 น.

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลสหรัฐฯ และนิวซีแลนด์แอบทำการทดลอง “ระเบิดสึนามิ” แบบลับสุดยอดในมหาสมุทรแปซิฟิก ชี้อาวุธมหาประลัยชนิดดังกล่าวซึ่งใช้การจุดระเบิดใต้น้ำจะก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ขนาดความสูงไม่ต่ำกว่า 33 ฟุต ซึ่งมีอานุภาพมากพอในการทำลายเมืองชายฝั่งของประเทศที่เป็น “ศัตรู” ได้ภายในไม่กี่อึดใจ

รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากการค้นคว้าแฟ้มลับทางทหารของเรย์มอนด์ ริชาร์ด วารู นักเขียนและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังซึ่งมีเชื้อสายชนเผ่าเมารีระบุว่า การทดลองลับสุดยอดดังกล่าวของรัฐบาลสหรัฐฯ และนิวซีแลนด์ทำขึ้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้น่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างหมู่เกาะนิว คาเลโดเนียของฝรั่งเศส กับนครโอกแลนด์ของนิวซีแลนด์ ภายใต้รหัสปฏิบัติการ “โปรเจกต์ซีล” ตั้งแต่มิถุนายน ค.ศ. 1944 ก่อนจะยุติโครงการไปในช่วงต้นปี 1945

วารูอ้างว่าพบข้อมูลทางทหารที่ระบุ “ระเบิดสึนามิ” ดังกล่าวถูกคาดหมายจากบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งในรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงในกองทัพว่า อาจเป็นอาวุธทำลายล้างโลกชนิดใหม่ที่เป็นคู่แข่งของ “ระเบิดนิวเคลียร์” จากการที่กลุ่มของคลื่นยักษ์ (อย่างน้อย 10 ลูก) ที่เกิดจากการจุดระเบิดใต้มหาสมุทรจะส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 33 ฟุตเข้าทำลายเมืองชายฝั่งของประเทศที่เป็นเป้าหมาย โดยสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของผู้คนได้เป็นจำนวนมากภายในระยะเวลาไม่นาน ขณะที่อาคารบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ของศัตรูก็จะถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองไม่ต่างจากการใช้นิวเคลียร์

วารูซึ่งเพิ่งตีพิมพ์ผลงานเขียนเล่มล่าสุด “Secrets & Treasures” เมื่อปีที่แล้วระบุว่า สหรัฐฯ และนิวซีแลนด์ทำการทดลองระเบิดสึนามิกว่า 3,700 ลูก ณ พื้นที่ทดสอบบริเวณน่านน้ำใกล้เกาะนิว คาเลโดเนีย รวมถึงที่คาบสมุทรวังกาปาราอัว ใกล้เมืองโอกแลนด์ โดยโครงการทดลองลับสุดยอดดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจาก “อี เอ กิบสัน” เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ที่สังเกตเห็นการเกิดคลื่นขนาดใหญ่ หลังการทิ้งระเบิดทำลายแนวปะการังที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือตามหมู่เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงสงคราม นำไปสู่ความเป็นไปได้ในการสร้าง “ระเบิดสึนามิ” เพื่อนำคลื่นมาเป็นอาวุธทำลายล้าง

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า โครงการลับดังกล่าวถูกยุบในช่วงต้นปี 1945 หลังผู้เชี่ยวชาญอเมริกันลงความเห็นว่า “ระเบิดสึนามิ” 1 ลูกไม่มีอานุภาพมากพอในการทำลายพื้นที่เป้าหมายได้ และการจะใช้อาวุธชนิดนี้ให้ประสบผลสำเร็จยังจำเป็นต้องใช้วัตถุระเบิดอย่างน้อย “2 ล้านกิโลกรัม” วางเป็นแนวห่างจากชายฝั่งที่เป็นเป้าหมายราว 5 ไมล์

ดูภาพประกอบได้ที่ลิงค์ Around the World - Manager Online - ฮือฮา! รบ.มะกัน-กีวีแอบทดลอง “ระเบิดสึนามิ” หวังใช้ “คลื่นยักษ์” ทำลายชาติศัตรู

 

ใครอยู่เชียงใหม่ รบกวนแชร์โพสนี้ไปด้วยนะคะ ขอร้องง ไหว้เลยค่ะ ^/\^
หมาตัวนี้พลัดหลงจากเจ้าของ
เพราะตกใจเสียงประทัดเลยกลับบ้านไม่ถูก
ร้องไห้ใหญ่เลย


แบ่งอาหารให้มันก้อไม่ค่อยแตะ
ดูมันคิดถึงเจ้าของ อยากกลับบ้านมากๆ


ตอนนี้มันนอนแถวหน้าร้านจงรักษ์
(ตรงข้ามอุดมผล)
ถนน ราชวิถี อ.เมือง จ.เชียงใหม่


ช่วยกันตามหาเจ้าของให้น้องหมาหน่อยนะคะ
T_______T
ถ้ามันใช้โทรสับเป็น คงโทรหาเจ้าของไปนานแล้ว
นี่ได้แต่...รอ...รอให้มีคนช่วย
รอ ให้เจ้าของมาพบเจอด้วยความบังเอิญ

ขอร้องนะคะ ช่วยแชร์ให้ทั่วถึงกัน



สาธุ ขอให้ผลบุญที่วิวได้ทำมา
ช่วยให้ คนที่รู้จักหมาตัวนี้
เจ้าของหมาตัวนี้ ได้รับทราบ
จากโพสซักโพสที่มีคนแชร์ด้วยเถิด.

 

น่าสงสารจัง คงเหงาและคิดถึงเจ้าของมากเลย ช่วยกันนะคะ เพราะเค้าก็มีหนึ่งชีวิต และ หนึ่งหัวใจ เหมือนเราๆๆทุกคน. หนูอยู่จ.สุริน เฮ้ยได้แต่สงสารคะ.ขอให้เจอเจ้าของเร็วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะเจ้าหมาน้อย.

 

แชร์มาจากเฟสบ็ุคนะค่ะ ช่วยๆกันหน่อยนะคะ น่าสงสารน้องเค้า และต้องขอโทษนะคะ ที่ลงกระทู้นี้เพราะคิดว่า มีท่านสมาชิก อ่านกระทู้นี้มากที่สุด ขอบคุณค่ะ

 

(ฮือฮา! รบ.มะกัน-กีวีแอบทดลอง “ระเบิดสึนามิ” หวังใช้ “คลื่นยักษ์” ทำลายชาติศัตรู)

ข่าวนี้ออกมาลักษณะที่เค้าไม่เคยหยุดคิดหาอาวุธชนิดต่างๆที่ร้ายแรง ไม่ว่าจะรูปแบบใด ทั้งลับและไม่ลับที่ไม่ลับนี่เพราะข่าวรั่วหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือจะขายของ อะไรก็น่าสงสัยไปหมด ต่อไปเวลาแผ่นดินไหว ก็จะว่าธรรมชาติหรือมีคนทำให้เกิด พอสึนามิก็สงสัยอีก ดูๆจะสับสนไปหมดแล้วโลกใบนี้

ทั้งโครงการ ปริศนา HAARP โครงการควบคุมธรรมชาติหรืออาวุธทำลายล้าง??
ปริศนา HAARP โครงการควบคุมธรรมชาติหรืออาวุธทำลายล้าง??

องค์กรลับ "อิลลูมินาติ" ILLUMINATI - New rungsira
https://sites.google.com/site/newrungsira/slak-wi-tamci/xngkhkrlab

ทั้งองค์กรลับ ทั้งโครงการลับ ยังมีที่ไม่รู้ไม่เปิดเผยอีกเท่าไหร่ไม่รู้

สรุปคือ เราจะไม่ได้อยู่กันอย่างปรกติ อยู่อย่างสงบสุข อยู่อย่างสุขสบายอย่างในอดีตอีกต่อไป

 

ข่าวด่วน จากคณะศิษย์พระอาจารย์รัตน์

จากเดิมที่พระอาจารย์รัตน์ได้แจ้งว่าวันที่3มค 2556 ตั้งแต่เวลา17.00 น.เป็นต้นไป จะมี (อาการ) แรงกดทับถึงกับต้องคลานไปจนถึงวันที่14กพ56 รวมระยะเวลาเป็นจำนวน42วันนั้น. ณ ปัจจุบันท่านได้พบว่า (อาการ) แรงกดทับไม่ได้รุนแรงจนถึงกับต้องคลาน (อย่างหนัก) เนื่องด้วยพระอาจารย์ได้คิดค้นและทำอุปกรณ์พีรามิดเพื่อลดแรงกดทับดังกล่าวและได้มีการจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าวไปโดยลูกศิษย์แล้วนั้น. หากท่านใดที่ได้ซื้ออุปกรณ์พีระมิดดังกล่าวไม่ได้รับประโยชน์จากอุปกรณ์(ตัวช่วย) ที่ทำขึ้นมาเพื่อลดแรงกดทับ สามารถขอคืนอุปกรณ์และรับเงินคืนจากบุคคลที่ท่านได้ขอซื้ออุปกรณ์มาได้โดยตรง. ภายในวันที่31มค2556
คณะศิษย์ยอมรับในคำติเตียน. โดยไม่โต้เถียง โต้แย้งใดๆทั้งสิ้น

ขออธิบายเรื่องแรงกดทับซึ่งบางคนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นแรงกดทับ3เท่า(3G)อาการที่ค้นพบจะมีอาการที่ผิดจากปกติ จากหลักการที่แรงกดทับจะกระทำต่อตัวรู้ของคนและสัตว์ที่มีมโนธาตุ. จะทำให้การเคลื่อนไหวยากลำบากนั้น. จะมีผลโดยตรงกับคนและสัตว์ที่รู้ได้ไว เช่น คนที่เจริญสติได้ดี. คนป่วย. เด็ก. คนไม่แข็งแรง หรือคนทั่วไปที่มีปราณ,มโนธาตุน้อย จะรับรู้ถึงอาการที่ผิดปกติดังนี้
-ใน เดือนธค.จนถึงวันที่24ธค55. มีอาการแน่นหัว. มีการปวดหัวจิ๊ดๆ. เป็นช่วงๆ. มีอาการตึงคอ ปวดไหล่. ท้องตึง แน่น. มีลมในกระเพาะถึงขนาดต้องอาเจียนออกหรือขับถ่าย. รู้สึกแขนชา ขาชา. เคลื่อนไหวได้ยากลำบาก
-เช้าวันที่25ธค2555อาการได้ทุเลาเบาลงอย่างเห็นได้ชัด. และดีขึ้นเรื่อยๆ ในวันต่อๆมา
-วันที่30ธคเวลา15.00น. อาการได้กลับมารุนแรงอีกเพิ่มขึ้น
-วันเคาท์ดาวท์ สวดมนต์ ข้ามปี. วันที่31ธค55เวลา22.30น. จะเกิดอาการปวดหัว แน่นหัว อย่างรุนแรง. และอ่อนเพลีย
-คืนวันที่1มค56. ถึงเช้ามืดวันที่2. จนกระทั่งขณะนี้. จะเกิดอาการปวดร้าวตรงหัวใจและหน้าอก

ขอเน้นย้ำว่าอาการดังกล่าวนี้ เป็นอาการที่ผิดจากปกติ
เช่น. เคยกิน อยู่ ใช้วิถีชีวิตแบบปกติ. แต่ต้องอาเจียนหรือถ่ายท้องอย่างไม่ทราบสาเหตุ.

 

อยากทราบว่าพระอาจารย์รัตน์เป็นผู้กล่าวข้อความที่เน้นนั้นด้วยตัวท่านเองหรือเปล่า ครับ หรือเป็นลูกศิษย์ไปกล่าวอ้างเอาเอง......

 

ดูตาเค้าแล้ว อดสงสารไม่ได้ค่ะ
เฮ้อ! เรายิ่งรักน้องหมาอยู่ด้วย:'(

 

สวัสดีค่ะท่านNirvana
ปีใหม่แล้ว ก็ยังไม่ยอมหันหน้ามาเช่นเคยนะคะ

 

ใจเยงๆ ครับ คุณครู

เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะพลิกกลับแล้ว ครับ...5555555555
โปรดอดใจรอ......ชม...อิอิอิอิอิ

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ จริงหรือคะ หันหน้ามาหน่อยนะคะ

 

จริงมากๆ เป็นดังนี้เลย ใครไม่มีอุปกรณ์ ท่าน( พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของเรา)ให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ คุ้มภัยนะ

 

จังหวัดสกลนคร เตรียมประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว



เนื่องจากอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศา ติดต่อกัน 3 วันแล้ว ขณะที่อุตุฯ เตือนประชาชนระมัดระวังสุขภาพและสัตว์เลี้ยง การเกิดอัคคีภัย

รายงานสภาพอากาศ ประจำวันที่ 2 มกราคม 2556 สภาพอากาศโดยทั่วไปอากาศหนาว กับมีลมแรง โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน จะหนาวเย็น อุณหภูมิในช่วงกลางคืน 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิในเช้าวันนี้ อยู่ที่ 15 องศา กับมีหมอกบางในตอนเช้า

โดยสถานีอุตุนิยมวิทยา จังหวัดสกลนคร รายงานสภาวะอากาศเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม เป็นต้นไป บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่ จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยอีกครั้ง จะทำให้อุณหภูมิลดลง และเริ่มหนาวเย็นอีกระลอก

นายสมจิต เข็มทอง หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยา จังหวัดสกลนคร ได้ประกาศเตือนประชาชนว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงสำหรับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมา ควรระมัดระวังหากสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนผู้ที่ก่อไฟผิงในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ควรดับไฟให้เรียบร้อย เพราะในช่วงนี้สภาพอากาศแห้งและมีลมแรง อาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้

รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดสกลนคร เตรียมประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว เนื่องจากอุณภูมิต่ำกว่า 15 องศา ติดต่อกันเกินกว่า 3 วัน โดยวันแรก อุณหภูมิ 14 องศา วันที่ 2 อุณหภูมิ 12 องศา วันนี้ 15 องศา

m.krobkruakao.com



ประมงจีนเดือดร้อน หลังน้ำกลายสภาพเป็นน้ำแข็ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มกราคม 2556 17:27 น.

สภาพอากาศหนาวเย็นจัดที่แผ่ปกคลุมจีนมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำทะเลนอกชายฝั่งในอ่าวไหลโจว มณฑลซันตง ทางตะวันออกของจีน กลายสภาพเป็นน้ำแข็งที่แผ่วงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้กินพื้นที่ยาวนับสิบกิโลเมตร แผ่นน้ำแข็งมีความหนาถึง 10 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมของผู้คนในแถบดังกล่าว ทั้งธุรกิจการจับปลาและการเดินเรือ เนื่องจากแผ่นน้ำแข็งปกคลุมผืนน้ำเป็นบริเวณกว้าง
นอกจากนี้ ยังสร้างความเสียหายให้กับฟาร์มเลี้ยงหอยเชลล์มูลค่ามหาศาล เนื่องจากผู้เลี้ยงไม่สามารถเก็บหอยในฟาร์มที่มีมากเกือบ 40,000 กระชัง ใต้น้ำได้

Manager Online - ประมงจีนเดือดร้อน หลังน้ำกลายสภาพเป็นน้ำแข็ง