ธรรม...จักรวาล...การละเมิด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย yutkanlaya, 14 มิถุนายน 2007.

  1. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    ดวงจิตวิญญาณ เป็น พลังงาน?><O:p></O:p>

    หลักปกิจสมุทปบาท (ทฤษฎีสัมพันธภาพ)<O:p></O:p>


    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า <O:p></O:p>

    ทุกสรรพสิ่งในสากลจักรวาล ล้วนมีหน่วยย่อยที่เล็กที่สุด เป็น สิ่งเดียวกัน<O:p></O:p>

    นั่นคือ<O:p></O:p>
    สรรพสิ่ง คน สัตว์ พืช มวลสาร เทหวัตถุใดๆ ในสากลจักรวาล ประกอบด้วย<O:p></O:p>
    โมเลกุล หลายๆโมเลกุลรวมกัน ซึ่งแต่ละ โมเลกุล ประกอบด้วย<O:p></O:p>
    อะตอม หลายๆอะตอมรวมกัน ซึ่งแต่ละ อะตอม ประกอบด้วย<O:p></O:p>
    อิเล็กตรอน วิ่งรอบ นิวเคลียส ซึ่งมี โปรตรอน นิวตรอน ฯลฯ เช่นเดียวกันหมด <O:p></O:p>
    โดยมี พลังงาน แรงยึดเหนี่ยว(พันธะ-สัญญา) ต่อกันและกัน จึงคงอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล<O:p></O:p>

    สิ่งมีชีวิตจิตใจ ทั้งหลายล้วนประกอบด้วย<O:p></O:p>
    รูปกาย อันมีภาวะตาม สังขาร+จิตวิญญาณ อันมีภาวะตาม เวทนา อารมณ์ โดยมี แรงดึงดูด แรงยึดเหนี่ยว แรงเกี่ยวพัน คือ สัญญา รวมแล้วก็คือ ขันฑ์ 5 นั่นเอง<O:p></O:p>


    ดังนั้น<O:p></O:p>
    จิตวิญาณ คือ รูปของพลังงาน มวลสาร นั่นเอง โดยมี สัญญา เวทนา สังขาร ทำให้เราระลึกได้ว่าเป็นเรา และหลอมรวมพลังงานจิตวิญญาณธาตุรู้ ให้เป็นหนึ่งเดียวคือ เรา เพียงแต่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หยาบๆของมนุษย์เรา ยังไม่สามารถสัมผัสได้ ยกเว้น พระอริยะ หรือผู้มีสมาธิขั้นสูง<O:p></O:p>

    ดังนั้น<O:p></O:p>
    จิตวิญาณ จึงไม่มีวันสูญหาย ตามกฎพลังงาน แม้กายหยาบจะสลาย?(ตาย)??ไปก็ตาม<O:p></O:p>
    และแน่นอนพลังงานสามารถถ่ายเท แบ่งปันได้(ไฟฟ้า แบ่ง อนุกรม ขนาน) จึงไม่น่าแปลก ที่เราจะถอดจิตวิญญาณได้ ในขณะที่ ร่างกายยังคงมีชีวิตอยู่ โดยใช้พลังงานจิตวิญญาณต่ำที่สุด คือ การหายใจ ท่านจึงสอนไว้ว่า การทำสมาธิ ที่ถูกต้องโดยการกำหนดลมหายใจ เข้า ออก เพื่อรักษาชีวิตอย่างง่าย และประหยัดพลังงานที่สุด สงบที่สุด นั่นเอง<O:p></O:p>

    ธรรมจักรวาล<O:p></O:p>

    ธรรม ธรรมชาติ สรรพสิ่งในสากลจักรวาล<O:p></O:p>

    ทุกสิ่งคงอยู่ได้ด้วยหลักแห่ง “ความสมดุล”(มัชฌิมา) และหลักแห่ง “แรงดึงดูด แรงยึดเหนี่ยว” (สัญญา)ระหว่างมวล สสาร เทหวัตถุ ใดๆในสากลจักรวาล ของนิวตัน<O:p></O:p>

    ทุกสรรพสิ่งจึงอยู่อย่างสัมพันธ์กันตามหลักแห่ง “สัมพันธภาพของไอน์สไตน์”(หลักปกิจสมุทปบาท และกฎอิทิปปัจจยตา)<O:p></O:p>

    ทุกสิ่งไม่มีวันสูญหายตามหลักของ “กฎแห่งพลังงานไม่มีวันสูญหาย”( กฎแห่งกรรม)<O:p></O:p>

    เพียงแต่เปลี่ยนรูปไปมาได้ ดังสมการ<O:p></O:p>

    E = MC<SUP>2 </SUP><O:p>c ค่าคงที่</O:p>
    energy พลังงาน = mass มวลสาร

    <O:p

    มนุษย์ ประกอบด้วย เซลล์กว่า 60 ล้านล้านเซลล์<O:p></O:p>

    สมอง ประกอบด้วย เซลล์กว่า 10 ล้านล้านเซลล์<O:p></O:p>
    เซลล์ มีแหล่งพลังงานในตัวเอง คือ ไมโตรคอนเดรีย<O:p></O:p>
    ดังนั้น การคิดแต่ละครั้ง กว่า 10 ล้านล้านเซลล์ของสมอง ปลดปล่อยพลังงาน<O:p></O:p>
    เมื่อมีการตอบสนองของร่างกาย เซลล์กว่า 50 ล้านล้านเซลล์ ก็ปลดปล่อยพลังงานที่มากกว่า<O:p></O:p>
    ดังนั้น<O:p></O:p>








    คลื่นพลังงานความคิด จากสมอง ย่อมกระจายออกจากกะโหลก สู่อากาศ อวกาศได้เช่นเดียวกับการโยนหิน ลงน้ำ ต่างกันเพียงตัวกลาง น้ำ กับ อากาศ ช่องว่าง(สมาธิจิต หรือ พลังจิต ถอดจิต ถอดฌาน นั่นเอง)<O:p></O:p>
    คลื่นพลังงานร่างกาย จากการกระทำหรือคำพูด ที่ตอบสนองต่อความคิด ย่อมกระจายออกจากตัว สู่อากาศ และอวกาศ ได้เช่นกัน ด้วยพลังงานที่ มากกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับความคิด ย่อมเป็นพลังงานที่รุนแรงได้(พลังจิต และ พลังกรรม)<O:p></O:p>

    ปัญหา ???????????<O:p></O:p>
    มนุษย์ ยังไม่สามารถผลิตเครื่องมือวัดที่ละเอียดพอที่จะวัดและแปรผล พลังความคิด พลังงานจิตวิญาณ ได้ แต่มนุษย์ทำได้แค่วัดพลังงานความคิดของสมอง จากเครื่องมือแพทย์ ECG เป็นรูปคลื่นสมอง แต่ก็ไม่สามารถแปรผลอย่างละเอียดเป็นตัวอักษร เสียง หรือภาพ ได้ คงอีกไม่นานและเรายังไม่สามารถผลิตเครื่องมือรับ(receptor)คลื่นพลังงานความคิด พลังงานจิต ได้ ยกเว้นพระอริยะ หรือผู้มีสมาธิขั้นสูงเท่านั้น ที่ทำได้ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วในอดีตโดยพระพุทธเจ้า พระอริยะทั้งหลาย และการทดลองของต่างประเทศ ปัจจุบัน<O:p></O:p>
    ตาของมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถมองเห็นพลังงานจิตวิญญาณได้ เพราะยังไม่ละเอียดพอ ต้องมีเครื่องมือช่วย กล้องออร่า เช่นเดียวกับการที่เรามองเห็นแสงสีขาวธรรมดา ที่ผ่านปริซึมทำให้เราเห็นเป็นแสงหลายสีได้ เพราะคนละความยาวคลื่น คนละความถี่ จึงทำให้เราอธิบายได้ว่า พระพรหม เทวดา ภูตผี สัมภเวสี ต่างๆ ก็ล้วนเป็นพลังงานจิตวิญญาณ ที่อยู่กันคนละความยาวคลื่น คนละคลื่นความถี่นั่นเอง และย่อมเข้าใจในภพภูมิต่างๆทั้ง นรก สวรรค์ ฯลฯได้เช่นเดียวกัน ซึ่งต่างก็ซ้อนทับกันอยู่นี่แหละ<O:p></O:p>

    ดังนั้น<O:p></O:p>
    เราจะสามารถสัมผัสพลังงานจิตวิญญาณได้ด้วยการทำ สมาธิ ขั้นสูงๆ(สมอง ความคิด จิตว่างๆสงบๆ คือ ตัวรับคลื่นพลังงานที่ดีReceptor) นั่นเอง <O:p></O:p>
    จะมีสมาธิขั้นสูงได้อย่างไร ถ้าไม่มีศีลบริสุทธิ์ สุดท้ายก็อยู่ที่ จิตใจ ที่บริสุทธิ์ นั่นเอง แล<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สรุป<O:p></O:p>
    ท่านคิดว่า ดวงจิตวิญญาณ เป็นพลังงาน หรือไม่???????????<O:p></O:p>
    ตัวอย่างง่ายๆ<O:p></O:p>
    การคิดที่จะกระดิกนิ้วครั้งหนึ่ง มี กระบวนการดังต่อไปนี้<O:p></O:p>
    -แรกเริ่มเลย เราสัมผัสสิ่งแวดล้อมภายนอกด้วย อายตนะหก รับรู้เข้าสู่สมอง แล้วผ่านกระบวนการคิด ประมวลผลด้วยสมอง สู่ดวงจิตวิญญาณ ธาตุรู้ใจจึงตอบสนองออกมาเป็นอารมณ์ อยากกระดิกนิ้ว <O:p></O:p>
    -เมื่อจิต มีเวทนา อารมณ์อยากแล้ว จึงสั่ง สมองต่อ<O:p></O:p>
    -สมองจึงตอบสนองใจด้วยการคิด ที่จะกระดิกนิ้ว เป็นหนึ่งเดียวทุกๆเซลล์<O:p></O:p>
    -ระบบประสาทสั่งการ ตอบสนอง โดยกระจายสัญญาณไปตามเส้นประสาท สู่เซลล์กล้ามเนื้อที่นิ้ว<O:p></O:p>
    -เซลล์กล้ามเนื้อนิ้ว ทุกๆเซลล์ ตอบสนองเป็นหนึ่งเดียว โดยการทำงานของแต่ละซลล์ รวมเป็น การกระดิกนิ้ว<O:p></O:p>
    -คนอื่นจึงตอบสนอง โดยการมองเห็นด้วยตา อายตนะหก ทั้งหลาย แล้วแต่ละคนจะตอบสนอง ต่อๆกันไป หรือไม่ อย่างไร???ก็สุดแท้แต่ละคน<O:p></O:p>

    ดังนั้นจะเห็นได้ว่าพลังงานจากดวงจิตวิญญาณ ใจเวทนา อารมณ์ ถ่ายทอดเร็วกว่า ระบบประสาทของตัวมนุษย์เอง มากมายหลายเท่านัก <O:p></O:p>
    และถ้าเชื่อว่า ดวงจิตวิญญาณ เป็น พลังงาน ธาตุรู้ เราจะอธิบาย <O:p></O:p>
    พรหม เทวดา ภูตผี สัมภเวสี และ ภพภูมิต่างๆได้<O:p></O:p>
    และตามกฎที่ว่าพลังงานไม่มีวันสูญหาย ก็จะเข้าใจคำว่า วัฎฎสงสาร”<O:p></O:p>
    สุดท้ายจะเข้าใจคำว่า นิพพานได้ในขณะมีชีวิต เพียงแค่ ตัด สัญญา เวทนา สังขาร เท่านั้นเอง<O:p></O:p>
    ในที่สุดมนุษย์ก็ต้องหันกลับมา พัฒนาจิตตัวเอง ด้วยหลักแห่ง ไตรลักษณ์ และ ไตรสิกขา แล้วจะปฎิบัติตัวต่อผู้อื่น ผัวเมีย ลูกๆ พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนๆ อย่างไร วิธีง่ายๆ ใช้หลัก พรหมวิหาร4 แล้วก็จะมี สังคหวัตถุ4ต่อกัน หมั่นทำจนเป็นนิสัย ลึกซึ้งจนถึงหัวใจ จิตวิญญาณ ด้วย อิทธิบาท4<O:p></O:p>
    แล้วเมืองไทย จะกลายเป็นตัวอย่างให้แก่คนทั้งโลก และจะเป็นหนึ่งเดียวได้ในเวลาไม่นานนัก<O:p></O:p>

    ขอความสวัสดีมีชัย แก่ไทยทั่วหล้า เอย<O:p></O:p>
    คนรักเมืองไทยคนหนึ่ง<O:p></O:p>
    :d :d :d
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2009
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,697
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ธรรมจักรวาล...คือ "หลักสัจจะธรรม" !!!!!!!
    ครอบคลุม รอบคอบ จักรวาล
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +2,177
    เซฟ
     
  4. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    cop....copy....finish...
     
  5. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    หมวกพลังจิต สั่ง วัตถุได้

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฮิตาชิโชว์"หมวกอ่านความคิด"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 มิถุนายน 2550 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=120 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=120></TD></TR><CAPTION align=bottom>อากิโกะ โอบาตะ (Akiko Obata) นักวิจัยของฮิตาชิกับหมวกอัจฉริยะอ่านคลื่นสมอง (ขอบคุณภาพจากสำนักข่าวเอพี)</CAPTION></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ฮิตาชิโชว์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เพียงแค่คิด เรื่องต้นแบบมาในรูปหมวกอ่านคลื่นสมองอัจฉริยะ เตรียมนำไปใช้เป็นรีโมททีวีแห่งโลกอนาคตที่ทำให้ผู้ใช้เปิด ปิด และเปลี่ยนช่องทีวีได้โดยใช้ความคิดเท่านั้น

    เทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า "brain-machine interface" พัฒนาโดยฮิตาชิ (Hitachi Inc.) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติญี่ปุ่น โดยวิศวกรผู้ออกแบบอธิบายแนวคิดการทำงานของเทคโนโลยีนี้ว่าเป็นการเปลี่ยนระบบไหลเวียนเลือดและรูปแบบการเคลื่อนที่ของสมองให้ออกมาในรูปสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งจากการสาธิตพบว่าความคิดสามารถทำให้รถไฟของเล่นระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ได้จริง

    การสาธิตนี้ฮิตาชิจัดขึ้นในศูนย์วิจัยระดับสูงเมืองฮาโตยามา ประเทศญี่ปุ่น มีเคอิ อัตสุกิ (Kei Utsugi) เป็นผู้ดำเนินการสาธิต โดยเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งทดลองใช้หมวกอ่านคลื่นสมองซึ่งเชื่อมกับระบบคอมพิวเตอร์สำหรับนำทางรถไฟของเล่น ระหว่างการทดสอบ อัตสุกิกล่าวแนะนำการใช้หมวกอ่านคลื่นสมองว่าควรจะสูดหายใจเข้าให้ลึกและผ่อนคลาย ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวทำตามและจินตนาการว่ารถไฟวิ่ง รถไฟก็วิ่งได้จริง

    อย่างไรก็ตาม อัตสุกิระบุว่าเทคโนโลยีดังกล่าวยังมีข้อบกพร่องเรื่องความเสถียร เนื่องจากจากผู้ใช้หยุดความคิด หรือแม้แต่เผลอร้องเพลง รถไฟก็จะหยุดลงด้วยเช่นกัน

    ฮิตาชิให้ข้อมูลว่า แต่เดิมเทคโนโลยีนี้มีจุดประสงค์หลักในการพัฒนาสำหรับใช้ในด้านการแพทย์เท่านั้น ล่าสุดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงให้สามารถนำมาใช้ในด้านการพาณิชย์มากขึ้น ล่าสุดผู้ผลิตเทคโนโลยีรายอื่นก็เริ่มเปลี่ยนจุดประสงค์ในการพัฒนาแล้วเช่นกัน โดยทีมวิจัยของฮิตาชิวางเป้าหมายพัฒนาให้อยู่ในรูปรีโมททีวีที่ผู้ใช้สามารถคิดเพื่อเปิด ปิด และเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ได้โดยไม่ต้องใช้มือกดปุ่ม ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้แทนคีย์บอร์ด และใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆได้ เช่นโคมไฟ เป็นต้น

    เทคโนโลยีอ่านคลื่นสมองของฮิตาชินั้นก้าวหน้าถึงขั้นแยกความต่างของสมองของผู้ใช้ว่าต้องการตอบคำถามว่าใช่หรือไม่ได้ตั้งแต่ปี 2005 ยังไม่มีรายงานว่าเป้าหมายการพัฒนาในอนาคต รวมถึงเป้าหมายการวางตลาดเทคโนโลยีนี้ในขณะนี้

    (verygood) (verygood) (verygood) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    รูป...สังขาร(ภาวะ)
    วิญญาณ...เวทนา(อารมณ์)
    ตัด...ภาวะอารมณ์ เท่ากับ ตัด...สัญญา...จาก
    สังสารวัฏ...ไตรภพ...โลกียภูมิ...สู่..โลกุตระ
    นิพพาน...ที่ตั้งของ...ทุกสรรพสิ่ง
    (f) (f) (f) (b-oneeye) <O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2007
  7. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>มทส.โคลนนิ่งลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนสำเร็จตัวแรกของปท.</TD></TR><TR><TD vAlign=top>9 พฤษภาคม 2550 17:39 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกับช่างรุ่งฟาร์มประสบความสำเร็จวิจัยทดลองโคลนนิ่งลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนสำเร็จตัวแรกในประเทศไทย ใช้วิธีเก็บเซลส์จากใบหูพ่อพันธุ์ผสมไข่ตัวเมีย ก่อนนำเข้าแล็ปเพาะเป็นตัวอ่อนอายุ7 วัน พร้อมใช้เทคนิคย้ายฝากตัวอ่อน มั่นใจภายในปี 2557 ขยายได้มากกว่า 300 ตัว พร้อมดันเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

    ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ สำนักเทคโนโลยีการเกษตร ในฐานะหัวหน้าศูนย์วิจัยเทคโนโลยีตัวอ่อน และเซลล์ต้นกำเนิด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีร่วมกับช่างรุ่งฟาร์ม ตั้งอยู่ที่กิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ทำการโคลนนิ่งโคพันธุ์ขาวลำพูนได้สำเร็จเป็นตัวแรกของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งในวงการปศุสัตว์ในประเทศไทยที่สามารถโคลนนิ่งโคพันธุ์ขาวลำพูน ซึ่งเป็นโคพันธุ์พื้นเมืองของทางภาคเหนือที่มีลักษณะดีครบถ้วนสมบูรณ์ และยังเป็นพันธุ์ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น "พระโค" ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่ผ่านมา
    ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้เริ่มทำการวิจัย และทดลองทำโคลนนิ่งวัวพันธุ์ขาวลำพูนร่วมกับฟาร์มช่างรุ่งมาตั้งแต่ต้นปี 2549 โดยได้ทำการเก็บเซลล์จากใบหูของพ่อพันธุ์วัว "ขาวลำพูน" เพื่อไปผสมกับไข่ของแม่พันธุ์ที่เก็บแยกเอาไว้ในห้องแล็ปทดลอง เพื่อให้เพราะเป็นตัวอ่อนเป็นระยะเวลา 7 วันจากนั้นจะนำตัวอ่อนที่ได้ฉีดเข้าไปในปีกมดลูกของวัวตัวเมีย เพื่อเป็นที่ฟักตัวอ่อนที่เกิดจากการผสมกันระหว่างเซลล์ใบหูของพ่อพันธุ์ และไข่ของแม่พันธุ์ จนครบกำหนดระยะเวลาในการคลอด ซึ่งลูกวัวที่เกิดจากการทำโคลนนิ่งจะมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกับพ่อพันธุ์ทุกประการ
    " นอกจากความสำเร็จในการทำโคลนนิ่งลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนได้เป็นตัวแรกในประเทศไทยแล้ว ที่ผ่านมาศูนย์วิจัยเทคโนโลยีตัวอ่อนและเซลล์ต้นกำเนิด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารียังสามารถที่จะทำการโคลนนิ่งแมว รวมทั้งโคนมและโคพันธุ์อเมริกันบรามันได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งผลงานการวิจัยในครั้งนี้ ถือเป็นอีกความสำเร็จหนึ่งของทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีภาคภูมิใจ " ดร.รังสรรค์ กล่าว
    ด้านนายรุ่ง จันตาบุญ เจ้าของช่างรุ่งฟาร์ม กล่าวว่า เป็นความสำเร็จในการโคลนนิ่งลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนได้เป็นตัวแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นโคมงคลพันธุ์พื้นเมืองของทางภาคเหนือ เนื่องจากเป็นโคที่มีลักษณะดีครบถ้อนสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นโคพันธุ์หายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ได้เป็นผลสำเร็จ และเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของปศุสัตว์ในประเทศไทย โดยฟาร์มช่างรุ่งได้ดำเนินการเลี้ยงโคพันธุ์อเมริกันบรามัน และพันธุ์ขาวลำพูนมาประมาณ 5 ปี ปัจจุบันนี้มีโคพันธุ์บรามัน 150 ตัว และพันธุ์ขาวลำพูน 300 ตัว ถือว่าเป็นฟาร์มเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ โดยตั้งอยู่ที่อำเภอดอยหล่อ และอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่รวม 900 ไร่ หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งพันธุ์ขาวลำพูนแล้ว ทางฟาร์มตั้งเป้าว่าจะขยายโคพันธุ์ดังกล่าว อีก 300 ตัวภายในปี 2557 โดยใช้เทคนิคการย้ายฝากตัวอ่อน โดยนำเอาน้ำเชื้อมาผสมกับไข่ของตัวเมีย ซึ่งจะทำให้สามารถผสมกับไข่หลายฟอง และไปย้ายฝากในแม่โคทั่วไปได้ และจะช่วยเพิ่มปริมาณโคพันธุ์ขาวลำพูนได้อย่างรวด เร็ว ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาซื้อขายลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนอยู่ที่ตัวละ 15,000-35,000 บาท โดยในปี 2549 ยังได้ตั้งสมาคมวัว พันธุ์ ขาวลำพูนแห่งประเทศไทยแล้ว และต่อไปพร้อมจะผลักดันให้โคพันธุ์ดังกล่าวสามารถส่งออกได้ เพราะเป็นพันธุ์ ที่มีลักษณะสมบูรณ์ และเหมาะกับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย
    -->
    มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกับช่างรุ่งฟาร์มประสบความสำเร็จวิจัยทดลองโคลนนิ่งลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนสำเร็จตัวแรกในประเทศไทย ใช้วิธีเก็บเซลส์จากใบหูพ่อพันธุ์ผสมไข่ตัวเมีย ก่อนนำเข้าแล็ปเพาะเป็นตัวอ่อนอายุ7 วัน พร้อมใช้เทคนิคย้ายฝากตัวอ่อน มั่นใจภายในปี 2557 ขยายได้มากกว่า 300 ตัว พร้อมดันเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ
    ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ สำนักเทคโนโลยีการเกษตร ในฐานะหัวหน้าศูนย์วิจัยเทคโนโลยีตัวอ่อน และเซลล์ต้นกำเนิด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีร่วมกับช่างรุ่งฟาร์ม ตั้งอยู่ที่กิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ทำการโคลนนิ่งโคพันธุ์ขาวลำพูนได้สำเร็จเป็นตัวแรกของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งในวงการปศุสัตว์ในประเทศไทยที่สามารถโคลนนิ่งโคพันธุ์ขาวลำพูน ซึ่งเป็นโคพันธุ์พื้นเมืองของทางภาคเหนือที่มีลักษณะดีครบถ้วนสมบูรณ์ และยังเป็นพันธุ์ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น "พระโค" ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่ผ่านมา
    ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้เริ่มทำการวิจัย และทดลองทำโคลนนิ่งวัวพันธุ์ขาวลำพูนร่วมกับฟาร์มช่างรุ่งมาตั้งแต่ต้นปี 2549 โดยได้ทำการเก็บเซลล์จากใบหูของพ่อพันธุ์วัว "ขาวลำพูน" เพื่อไปผสมกับไข่ของแม่พันธุ์ที่เก็บแยกเอาไว้ในห้องแล็ปทดลอง เพื่อให้เพราะเป็นตัวอ่อนเป็นระยะเวลา 7 วันจากนั้นจะนำตัวอ่อนที่ได้ฉีดเข้าไปในปีกมดลูกของวัวตัวเมีย เพื่อเป็นที่ฟักตัวอ่อนที่เกิดจากการผสมกันระหว่างเซลล์ใบหูของพ่อพันธุ์ และไข่ของแม่พันธุ์ จนครบกำหนดระยะเวลาในการคลอด ซึ่งลูกวัวที่เกิดจากการทำโคลนนิ่งจะมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกับพ่อพันธุ์ทุกประการ
    " นอกจากความสำเร็จในการทำโคลนนิ่งลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนได้เป็นตัวแรกในประเทศไทยแล้ว ที่ผ่านมาศูนย์วิจัยเทคโนโลยีตัวอ่อนและเซลล์ต้นกำเนิด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารียังสามารถที่จะทำการโคลนนิ่งแมว รวมทั้งโคนมและโคพันธุ์อเมริกันบรามันได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งผลงานการวิจัยในครั้งนี้ ถือเป็นอีกความสำเร็จหนึ่งของทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีภาคภูมิใจ " ดร.รังสรรค์ กล่าว ด้านนายรุ่ง จันตาบุญ เจ้าของช่างรุ่งฟาร์ม กล่าวว่า เป็นความสำเร็จในการโคลนนิ่งลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนได้เป็นตัวแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นโคมงคลพันธุ์พื้นเมืองของทางภาคเหนือ เนื่องจากเป็นโคที่มีลักษณะดีครบถ้อนสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นโคพันธุ์หายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ได้เป็นผลสำเร็จ และเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของปศุสัตว์ในประเทศไทย โดยฟาร์มช่างรุ่งได้ดำเนินการเลี้ยงโคพันธุ์อเมริกันบรามัน และพันธุ์ขาวลำพูนมาประมาณ 5 ปี ปัจจุบันนี้มีโคพันธุ์บรามัน 150 ตัว และพันธุ์ขาวลำพูน 300 ตัว ถือว่าเป็นฟาร์มเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ โดยตั้งอยู่ที่อำเภอดอยหล่อ และอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่รวม 900 ไร่ หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งพันธุ์ขาวลำพูนแล้ว ทางฟาร์มตั้งเป้าว่าจะขยายโคพันธุ์ดังกล่าว อีก 300 ตัวภายในปี 2557 โดยใช้เทคนิคการย้ายฝากตัวอ่อน โดยนำเอาน้ำเชื้อมาผสมกับไข่ของตัวเมีย ซึ่งจะทำให้สามารถผสมกับไข่หลายฟอง และไปย้ายฝากในแม่โคทั่วไปได้ และจะช่วยเพิ่มปริมาณโคพันธุ์ขาวลำพูนได้อย่างรวด เร็ว ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาซื้อขายลูกโคพันธุ์ขาวลำพูนอยู่ที่ตัวละ 15,000-35,000 บาท โดยในปี 2549 ยังได้ตั้งสมาคมวัว พันธุ์ ขาวลำพูนแห่งประเทศไทยแล้ว และต่อไปพร้อมจะผลักดันให้โคพันธุ์ดังกล่าวสามารถส่งออกได้ เพราะเป็นพันธุ์ ที่มีลักษณะสมบูรณ์ และเหมาะกับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    (verygood) (verygood) (verygood)
     
  8. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=+2]ดาวน์โหลดสมองมนุษย์ลงคอมพิวเตอร์[/SIZE]
    คอมพิวเตอร์

    ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไม่เกินกลางศตวรรษที่ 21 มนุษย์จะสามารถดาวน์โหลดสมองลงสู่คอมพิวเตอร์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สุดแสนจะอัจฉริยะ นายเอียน เพียร์สัน หัวหน้าฟิวเจอร์แล็บของบริษัทบริติช เทเลคอม ให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ The Observer ว่า ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้จินตนาการเกี่ยวกับเทพเจ้าบนโลกไซเบอร์เป็นความจริงภายในระยะเวลา 50 ปีข้างหน้านับจากนี้

    เพียร์สันยกตัวอย่างถึงการเปิดตัวโซนี่ เพลย์สเตชั่น 3 เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า โดยระบุว่าวิวัฒนาการของเครื่องเพลสเตชั่น 3 ซึ่งทำให้ได้เร็วและทรงประสิทธิภาพกว่าเครื่องรุ่นก่อนถึง 35 เท่านั้นนับเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

    “เครื่องเพลย์สเตชั่น 3 ที่เพิ่งออกมาใหม่ทำงานได้ราว 1% ของการทำงานของสมองมนุษย์ หากเปรียบเทียบกับวิวัฒนาการของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เพลย์สเตชั่น เวอร์ชัน 5 อาจทำงานได้ทรงประสิทธิภาพเทียบเท่าสมองมนุษย์”

    นอกจากนั้นไม่เกินปี 2050 เชื่อว่าบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยน่าจะมีโอกาสทดลองใช้เทคโนโลยีดาวน์โหลดสมองกันได้ แต่จากนั้นไม่นานในราวปี 2075-2080 ต้นทุนของเทคโนโลยีจะต่ำลงจนทำให้คนธรรมดาสามารถมีโอกาสได้เข้าถึงได้

    เพียร์สันยังคาดการณ์ด้วยว่า ในอีกไม่ถึง 20 ปีข้างหน้า ในราวปีค.ศ. 2020 ยังมีความเป็นไปได้ว่ามนุษย์จะสามารถประดิษฐ์คิดค้นคอมพิวเตอร์ที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ ฉลาดปราดเปรื่องเทียบเท่ามนุษย์ โดยขณะนี้ “บลูยีน” (BlueGene) ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็มทำงานได้ในระดับที่สามารถคำนวณประมวลผลได้ถึง 70.72 ล้านล้านครั้งต่อวินาที จึงไม่น่าประหลาดใจหากเป้าหมายต่อไปของคอมพิวเตอร์คือการจำลองสติสัมปชัญญะของมนุษย์ ซึ่งจะนำไปสู่การทำให้คอมพิวเตอร์กลายเป็นอุปกรณ์ที่สามารถสื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึกออกมา ยกตัวอย่างเช่นคอมพิวเตอร์ของระบบบนเครื่องบินก็จะมีความรู้สึกหวาดกลัวว่าเครื่องบินจะตก

    เพียร์สันยังคาดการณ์ไปถึงขึ้นที่ว่าไม่เกินปี 2020 มนุษย์จะสามารถสร้างสรรค์โลกเสมือนจริงขึ้นมาโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำให้เราสามารถควบคุมเวลา เพิ่มเวลาทำงานหรือติดต่อสื่อสารกันได้มาขึ้น “เมื่อคอมพิวเตอร์สามารถสร้างสรรค์ภาพเหมือนจริงในรูปแบบ 3 มิติและเชื่อมต่อกับระบบประสาทของเราได้ เราอาจสามารถเช็กแฮนด์ทักทายกับลูกค้าได้ เหมือนกับว่าเข้าไปเยี่ยมเยียนถึงในออฟฟิศของเขา นับเป็นช่องทางสื่อสารที่แตกต่างไปจากเดิม”

    อย่างไรก็ตาม ผลที่จะเกิดขึ้นตามมา จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบทีเดี่ยว เพราะการสร้างอุปกรณ์ที่ฉลาดเทียบเท่ามนุษย์นั้น นับว่าเป็นเรื่องใหญ่







    </TD><TD vAlign=top align=left width=120><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=109 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD><!--[​IMG]--><FORM action=../mail/sendmail.asp method=post target=wnd_Mail><INPUT type=hidden value=http://www.scithai.com/explore/content.asp?id=144&cat=30 name=ref_url> <INPUT onclick="MM_openBrWindow('','wnd_Mail','status=yes,resizable=yes,width=540,height=300')" type=image height=29 width=109 src="http://www.scithai.com/images/button_mail.gif"> </FORM></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=120>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=120></TD></TR><!--<tr> <td width="120" align="center" valign="middle"> </td> </tr>--></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD><TD vAlign=top align=left width=120> </TD></TR><TR><TD>ที่มา
    หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD> พระเจ้าองค์เดียวคือธรรม(f)


    <O:pพระศาสนา สัมพันธ์ คือมรรคา<O:p></O:p>
    ที่ชักพา นำมนุษย์ สู่จุดหมาย<O:p></O:p>
    เพื่อมนุษย์ ได้เป็นสุข ทุกนิกาย<O:p></O:p>
    เราทั้งหลาย ชวนกันมา ปรึกษากัน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พระเจ้าแท้ มีแต่ พระองค์เดียว<O:p></O:p>
    ทางจึงมี แต่ทางเดียว เป็นแม่นมั่น<O:p></O:p>
    เป็นทางตรง มุ่งไป สู่ไกวัล<O:p></O:p>
    เป็นนิรัน- ดรสุข แก่ทุกคน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ไม่มีข้อ ขัดแย้ง แบ่งพรรคพวก<O:p></O:p>
    มนุษย์รัก ร่วมสุข ทุกแห่งหน<O:p></O:p>
    นี่แหละหนา พวกเรามา รวมกมล<O:p></O:p>
    แห่งปวงชน เพื่อบูชา พระเจ้าเดียว<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    การเรียกชื่อ ต่างกัน นั้นไม่แปลก<O:p></O:p>
    แต่เนื้อใน ไม่อาจแยก เป็นส่วนเสี้ยว<O:p></O:p>
    คือธรรมธาตุ หนึ่งแน่ แท้ทีเดียว<O:p></O:p>
    ทุกคนเหนี่ยว เป็นที่พึ่ง จึงรอดเอย<O:p></O:p>
    <O:p
    (verygood) พระพุทธทาสภิกขุ(verygood)







    </TD><TD vAlign=top align=left width=120><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=109 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD><!--[​IMG]--><FORM action=../mail/sendmail.asp method=post target=wnd_Mail> </FORM></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=120>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=120></TD></TR><!--<tr> <td width="120" align="center" valign="middle"> </td> </tr>--></TBODY></TABLE>
    </TD></TR><TR><TD></TD><TD vAlign=top align=left width=120></TD></TR><TR><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2007
  10. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    ในที่สุด
    มนุษย์
    ก็สามารถมี
    อายุยืน...หมื่นๆปี
    โดยไม่มีข้อจำกัด
    แต่...??????
    (b-smile) (b-smile) (b-smile) (one-eye)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2007
  11. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403

    สมมติว่าเป็นเช่นนี้จริง

    จะจัด ระบบ ระเบียบ สังคมยุคนั้น กันอย่างไร?????
    Cloning,Download,Copyๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    หรือคุณคิดว่า ควรจะทำอย่างไร?????????
    (b-ng) (b-ng) (b-ng) (b-ng) (b-smile)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2010
  12. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ก็ไม่รู้มันจะมีจริงหรือเปล่านะครับ ไอ้ชีวิตอมตะนี่อะ
    แต่อาจมีบางคน ปราถนาชีวิตอมตะม้าก มาก
    อาจมากถึงขนาด ขายพ่อขายแม่ ขายพี่ขายน้อง ขายเพื่อนขายฝูงก็ได้

    ทั้งๆที่ก็ยังไม่รู้ว่าชีวิตอมตะ มีจริงหรือเปล่า
    แต่พอมีใครเอามาล่อก็เริ่มกระดิก ดิ๊กๆ ซะแล้ว

    เหมือนกับหมาน้อย ที่รอน้ำลายยืดอยู่ใต้โต๊ะ ที่เค้ากินโต๊ะกันอยู่
    มันก็ไม่รู้ว่าบนโต๊ะเค้ากินอะไรกันบ้าง แค่เค้าทำท่าว่าจะแบ่งให้กินบ้าง
    เค้าขอมือ... ทุจ้า... หูกระดิก หางกระดิก
    รับบัญชาไปซะทุกอย่าง

    เค้าอาจจะหลอกให้ดีใจเล่นก็ได้ ใครจะรู้
     
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
     
  14. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "อุปกรณ์สำคัญที่สุดของมนุษย์คือจิตซึ่งประกอบด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด-ไม่ใช่สมอง"
    จากหนังสือความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,697
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ยังพบไม่หมด ไม่ถึงที่สุด ****

    ทุกวันนี้...นักวิทยาศาสตร์ พบว่า ....พลังงานไม่มีวันสูญสลาย
    แต่ ... นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่พบว่า....ทุกการกระทำ สร้างพลังงานขึ้นมา
    โลกุตตระ (พระไตรปิฎก) เรียกว่า..."ตัวกระทำ"

    ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า...ก็เรียก "ตัวกระทำ" เช่นกัน...แต่ขาดการบันทึกไว้
    "หลักสัจจะธรรม" ที่พระพุทธเจ้า ทรงค้นพบ โดยตรัสสรุปไว้สั้นๆ คือ...
    ...
     
  16. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    เหมือนพวกเชียร์บอลหรือเปล่าครับ
    เชียร์อย่างกับเป็นโคตรพ่อโคตรแม่ตัวเอง
    ทั้งๆที่นับกันจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นญาติอะไรกับนักเตะในทีม
    ก็ไม่ได้เป็นญาติอะไรกับเจ้าของทีม ยกเว้นจะแทงพนันไว้มาก...

    แต่เวลาทีมแพ้ หรือ ใครมาว่ามาตำหนิทีมที่ตนเชียร์ โอ้ยจะเป็นจะตาย
    อย่างกับโดนย่ำลงไปกลางกล่องดวงใจ

    ยังดีนะเป็นแค่อุปาทานหมู่ ถ้าเริ่มอุปาทานจ่า อุปาทานหมวด
    อุปาทาน..ผบ.ร้อย อุปาทาน..ผบ.พัน
    ....อุปาทาน..ผบ..จู๋ง..จุด
    หละก็..น้ามบานนนน
     
  17. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    ......การแหกกฎ......
    กายทิพย์ กายหยาบ
    ถอดจิต ถอดวิญญาณ
    ถ้า...ทำได้...ทำไม????
    จะใส่จิต ใส่วิญญาณ
    ไปยัง...กายทิพย์ กายหยาบ อื่นๆ มิได้

    จะอธิบาย อย่างไร?????
    การเข้าทรง
    การลงองค์
    การสิงสู่

    หรือเพราะกายหยาบนั้นๆ
    ยินดี??ไม่ยินดี??
    เจตนา...ไม่เจตนา??
    สัมมา...ไม่สัมมา?????????

    หรือนี่คือ...การแหกกฎ แหกเกณฑ์ ก้าวก่ายกันเอง ของ
    มนุษย์ เทพ พรหม ยมโลก ภูติผี สัมภเวสีต่างๆๆๆๆๆทั้งหลาย....เอวัง


    โคลนนิ่ง ดาวน์โหลด ก็อปปี้ แล้ว ถอดกายทิพย์ จิต สิงสู่ ตัวโคลนนิ่งเรา ได้มั้ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2010
  18. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ต้องทำใจ...นี่แหละที่เรียกว่ากฏไม่มีความทรงตัว
     
  19. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    <TABLE class=tborder id=post653113 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_653113 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">กฎธรรมชาติ..ที่แท้จริง???..กฎแห่งกรรม


    จาก สูงสุด วัตถุ กาย จิต..กิเลส
    สู่ สามัญ จิต กาย..บริสุทธิ์

    สรรพสิ่งในมหาสากลจักรวาล คือ สิ่งเดียวกัน???

    เท่าที่มนุษย์ ค้นพบ
    ดิน น้ำ ลม ไฟ
    ดวงดาว ป่าเขา แผ่นดิน ท้องฟ้า ทะเล แม่น้ำ สรรพสัตว์
    ประเทศ จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ครอบครัว คน สัตว์ สิ่งของ
    โมเลกุล อะตอม อิเล็กตรอน โปรตรอน นิวตรอน นิวตริโน อนุภาคแสง โฟตอน แกมมา อัลฟา ฯลฯ

    สิ่งที่เล็กที่สุด คือ อะไร????ทำจากอะไร????เกิดจากอะไร????จิต???

    สรรพสิ่งในมหาสากลจักรวาล

    ยึดกันอยู่อย่างไร??? ห่างกันเท่าใด???ใกล้ชิดแค่ไหน????
    เท่าที่มนุษย์คิดได้ มีตัวชี้วัด คือ ระยะ..
    ระยะทาง ระยะห่าง ระยะเวลา
    นั่นแสดงว่ามี
    ช่องว่าง ความว่าง ระหว่างสรรพสิ่ง
    ช่องว่าง ความว่าง ระหว่างทุกสรรพสิ่ง เป็น..ผืนเดียวกัน..เชื่อมต่อกัน..คุณสมบัติ..เหมือนกัน????
    ...ย่อมเป็น..ผืนเดียว..อันเดียวกัน..จริงแท้แน่นอน...ทั่วทั้งสากลมหาจักรวาล
    ...ย่อมเป็น..ที่ตั้งอยู่ และ เปลี่ยนรูปไป..ไม่ดับ..ของ..ทุกสรรพสิ่ง ทั่วทั้งสากลมหาจักรวาล

    ในช่องว่าง ความว่าง ระหว่างสรรพสิ่ง มีอะไร????
    สรรพสิ่งยึดกันอยู่ด้วยอะไร????
    แรง?
    แรงดึงดูด
    แรงโน้มถ่วง
    แรงยึดเหนี่ยว
    แรงเกี่ยวพัน
    แรงสัญญา
    ฯลฯ


    จึงเห็นว่า
    ทุกสรรพสิ่ง ล้วน เกี่ยวข้อง สัมพันธ์กัน
    ทุกสรรพสิ่ง ประกอบด้วย วัตถุ+ช่องว่าง ซึ่ง บรรจุด้วย แรง ทำให้ ยึดติด สัมพันธ์กัน เฉกเช่น คน สัตว์ สิ่งของ ล้วนเกี่ยวข้อง ผูกพันกันและกัน มีผลต่อกันและกัน ต่อเนื่องกัน ไม่มีที่สิ้นสุด ดุจ ทฤษฎีปฏิจจสมุทปบาท ทฤษฎีสัมพันธภาพฯลฯ ทั้ง การกระทำ คำพูดและ ความคิด จิตใจ หรือนี่คือที่มาของคำว่า กฎแห่งกรรม


    ซึ่งเป็นไปตาม กฎธรรมชาติ เช่น
    ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง ของนิวตัน
    ทฤษฎีแรงสัมพันธภาพ ของไอน์สไตน์
    ทฤษฎีปฏิจสมุทปบาท ของพระพุทธเจ้า
    ฯลฯ เท่าที่มนุษย์ คิดได้

    อยากถาม..มนุษย์อีกว่า
    จะแยกเขา แยกเรา แยกเผ่า แยกพันธุ์ แยกหมู่ แยกพวก แยกเชื้อ แยกชาติ แยกศาสนา แยกๆๆๆฯลฯ...ทำไม..????? ในเมื่อ..เราล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน ตั้งอยู่บนช่องว่าง ความว่าง อันหนึ่งอันเดียวกัน มีแรงฯลฯยึดเหนี่ยวเกี่ยวพัน กันและกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เมื่อใหร่???..จะยินยอมพร้อมใจ..และกลับคืน..สู่..สามัญ
    ธรรมชาติ ..สมดุลย์
    ธรรมดา ..สบายๆ..
    ด้วย..
    ธรรม ..สายกลาง
    อันหนึ่งอันเดียวกัน คือ ความ..รัก..ดี..ที่จิต..กาย..พอดี พอเพียง..ต่อสรรพสิ่ง
    สู่..
    ความว่าง..ช่องว่าง..จิต..กาย..บริสุทธิ์..ดั่งเดิม..นิพพานัง..จิตจักรวาล..หนึ่งเดียวกัน

    วิธีการ นั้นมีอยู่แล้ว ฟรีๆ ทุกๆที่ ทุกๆเวลา ขณะจิต

    หรือนี่คือ???
    กฎแห่งความจริงแท้ แน่นอน ของมหาสากลจักรวาล
    ;aa26;aa8;aa8;aa8 CHANGE
    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"></TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls -->








    <TABLE class=tborder id=post653113 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_653113 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">





    </TD></TR></TBODY></TABLE>












    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2009
  20. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    สัญญา...กฎฯลฯ

    กฎฯลฯ

    กฎพลังงาน
    กฎแห่งกรรม
    กฎแห่งธรรม
    กฎแห่งธรรมชาติ
    กฎแห่งแรงดึงดูด
    กฎแห่งแรงโน้มถ่วง
    กฎแห่งสัมพันธภาพ
    กฎแห่งปฎิจจสมุทปบาท

    หรือนี่คือ
    สัจจะ ความจริง
    ความจริง เป็นสิ่งไม่ตาย
    พลังงาน..ไม่มีวัน..สูญสลาย
    [b-hi] [b-hi] [b-hi] (b-smile)
    พลังงาน...คิด..พูด..ทำ..กรรม<!-- / message --><!-- edit note -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...