*** สัจจะ ****

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย หนุมาน ผู้นำสาร, 22 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ดอกบัว กำลังจะพ้นน้ำ !!!!!!!
     
  2. พุทธโกมุท

    พุทธโกมุท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +2,807
    ขอเรียนถามว่า สัจจะ เป็นหนึ่งในบารมี 10 ใช่หรือไม่ครับ
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ถ้าพูดตอนนี้...จะไม่จบ
    สรุปสั้นๆ ว่า
    โลกุตตระ...ย่อการปฏิบัติจนเหลือเพียง "สัจจะ"
    โลกุตตระ....คือ ผู้ยกคำสั่งสอนให้พระพุทธเจ้าพิจารณา....
    พระพุทธเจ้าจึงได้เชื่อ การกระทำหาความประมาณไม่ได้

    พระพุทธเจ้าค้นพบ และสอนใน "หลักสัจจะรรม"
    พระองค์ จึงพบว่า..."สัจจะ" เท่านั้น...ที่จะทำให้หลุดพ้น
    "สัจจะ" คือ แก่นสารของ ศาสนา
    หากไม่มี "สัจจะ"...การกระทำที่ทำไป จะไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้จริง ได้จริง ได้อย่างเที่ยงธรรม

    ขอให้วางตำรา ที่เคยอ่านมาไว้ก่อน
    แล้วให้พิจารณาด้วยตนเอง
    ว่า แก่นสารสำคัญของ หลักความจริง...เป็นจริงอย่างที่ข้าพระพุทธเจ้าบอก หรือไม่?
    สามารถพิสูจน์ได้

    คำสั่งสอน ธรรมะ ในยุคนี้...
    ถูกความคิดเห็น ความเชื่อนอกศาสนาพุทธบดบังอยู่มาก !!!!!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. kirikou

    kirikou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +125
    ขอถามคุณหนุมานว่า...ถ้าเราคิดว่าเราได้ทำตามสัจจะ(บ้าง ถึงเเ้ม้ือาจจะไม่ครบ เเต่ก็พยายามเรื่อยๆ) และหมั่นทบทวนตัวเองอยู่เสมอเเล้ว มีธรรมข้อนี้อยู่ในหัวเเล้ว จำเป็นที่เราจะต้องไปจุดธูป ถวายสัจจะหรือไม่?
    เเละถ้าเราไม่กำหนดว่าเราจะต้องทำการรักษาสัจจะ เป็นเวลานานเท่าไร เเต่เราหมั่นตรวจสอบจิตเราตลอดเวลา ว่าเราทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมอันใดหรือไม่ พยายามทำสิ่งที่ดีๆเสมอ อยากทราบว่าวิธีการอย่างนี้จะช่วยให้เราพัฒนาตนขึ้นได้บ้างรึไม่?
    อยากทราบว่าทางที่เราทำอยู่นี่ใช่ทางตรงที่จะไปถึง นิพพานหรือไม่?
    อยากทราบว่าถ้ามีเหตุการณ์ หรือ ภัย ที่จะมาุถึงโลกมนุษย์ เราจะมีโอกาสรอดหรือไม่ บอกตามตรงว่าตัวเราตอนนี้มีอยู่เเค่นี้. ไม่ได้มีอภิญญา หรือ สิ่งอื่นใด อย่างนี้จะรอดหรือไม่ บ้านเราอยู่ที่สุพรรณ เราจะไม่หนีไปไหน คิดว่าคนดี ความดีคุ้มครอง....

    ด้วยความสงสัย...เรียนคุณหนุมาน ช่วยไขปัญหาให้ทีค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ค้นคว้า สัจจะ ****

    ธูป...คือ วัตถุ...เป็นเพียงสื่อ...
    เพื่อให้จิตใจ เกิดความตั้งใจจริง เกิดสติ สมาธิกับสิ่งที่ศรัทธา
    จึงไม่จำเป็นต้อง...จุดธูปทุกครั้ง....แต่สำคัญที่ "ความตั้งใจจริง"

    ในธรรมชาติแล้ว...
    "ดิน ฟ้า อากาศ" จะเป็นสักขีพยานในการกระทำของเราทุกครั้ง ทุกย่างก้าว
    เราจึงควรทำ...ให้ได้จริง ตามสัญญาใจของตนเอง
    เพราะ... "สัจจะ" คือ สัญญาใจที่เกิดขึ้นกับตนเอง

    การไม่กำหนดเวลา...การปฏิบัติที่ชัดเจน
    จะคล้ายกับการถือ ศีล ในปัจจุบัน
    ที่รับมา...แล้วทำไม่ได้จริง
    "สัจจะ" ที่พระพุทธเจ้าสอน...จึงไม่เหมือน "ศีล ของพราหมณ์"
    "สัจจะ" จึงมุ่งให้เกิดการกระทำใหม่...ทำให้ได้จริง

    สิ่งที่พบในปัจจุบัน
    คือ...ทำบ้าง...ไม่ทำบ้าง....อยากทำก็ทำ...ไม่อยากทำก็ไม่ทำ
    นึกขึ้นก็ทำ...พอลืมก็ไม่ได้ทำ....จึงผิดพลาด ผิดสัจจะตนเอง...ขาดตกบกพร่อง
    จึงเป็นเพียง...ทำแบบตามใจ....ไม่เป็น "สัจจะ" !!!!!!!
    เหมือน...เดินอยู่บนถนนตรง....
    แต่ตัวเราเองไม่ตั้งใจเดิน จึงออกนอกทางซ้ายที ขวาที
    ถึงเป้าหมายเหมือนกัน...แต่จะถึงช้า....ไปตามเวลาที่ออกนอกลู่นอกทางบ่อยๆ
    แต่...ยังดีกว่า....การไม่ตั้งใจเลย


    ทำไม...จึงให้เริ่มทำเพียง ๑ ชั่วโมง
    เพราะ....ต้องการให้ทำด้วยความตั้งใจจริง ตั้งใจอย่างแท้จริง
    ไม่ผิดพลาด ไม่ขาดตกบกพร่อง...ทำได้จริง
    เพื่อให้เกิดการกระทำ...ที่ทำได้จริง
    เพื่อให้เกิดเป็น...กรรมเที่ยง....และเป็นที่พึ่งของตนเองได้ต่อไป

    หน้าที่ของมนุษย์ ...
    คือ การขจัดนิสัย สันดานที่ติดอยู่กับจิตใจให้หมดไป
    นิสัย ก่อให้เกิดการกระทำ...ก่อให้เกิดกรรม
    ถ้าขจัดนิสัยไม่ดี ได้ ๑ อย่าง... ก็คือ หลุดพ้นจากวงเวียนกรรมไปหนึ่งเรื่อง นั่นเอง

    *** ทางตรงสู่นิพพาน ****
    ก็คือ...ความตั้งใจขจัดนิสัยไม่ดี ให้ได้ทุกวัน...อย่างตั้งใจจริง
    "สัจจะ" ...จึงเป็นผู้นำให้เกิดการกระทำใหม่
    นำให้เกิดสิ่งใหม่ ที่ดีต่อชีวิตเรา

    ผู้ใดมี สัจจะ ...มีการกระทำจาก สัจจะ
    ผู้นั้น ย่อมได้รับความคุ้มครองจากโลก
    จะเป็นผู้ที่ช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปให้ครบห้าพันปี

    ดังนั้น...ผู้มี "สัจจะ"...อยู่ ณ จุดใด
    ณ จุดนั้นจะปลอดภัย
    ที่สุดของปฏิหาริย์...อยู่ที่ "สัจจะ"

    ไม่ต้องสนใจเอาชาญ เอาญาณ
    มุ่งสะสมการกระทำจากสัจจะ...ก็ถึงที่สุดได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** กรรม กำลังมา จะทำอย่างไร ? ****

    กรรม กำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อย
    ณ เวลานี้
    "การกระทำ" ....เป็นสิ่งสำคัญที่สุด มีคุณค่าประเมินค่ามิได้
    เราจะหลบหลีกจากกรรม ที่จะมาถึงได้....ต้องอาศัย ..."ผลจากการกระทำ"

    การกระทำที่ดีที่สุด...คือ "การกระทำที่สร้าง กรรมเที่ยง"
    คือ "การกระทำที่เกิดจาก สัจจะ" ... และเป็นสัมมาทิฐิ
    การปลด ปลิด ละ เลิก ...สิ่งไม่ดีในชีวิต
    กิเลส นิสัย.... ที่ยังคงมีอยู่ในจิตใจของเรา

    เราจึงต้องพึ่ง "สัจจะ"...เป็นผู้นำให้กับเรา
    นำให้เกิด ...."การกระทำใหม่"
    นำให้เกิด...สิ่งที่ยังไม่เคยทำ สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ และสิ่งที่ดีที่ยังทำไม่ได้

    เราจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า...
    "สัจจะ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** เตือน ...เรื่อง สัจจะ ****

    สัจจะอธิษฐาน...ของคนไทยทั้งประเทศ เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘
    คนที่ทำจริง....มีน้อยมาก
    การกระทำ ...จากสัจจะ ที่เกิดขึ้นแทบไม่มี
    ส่วนใหญ่ จะลืม...ไม่สนใจ....ทำตามๆ กัน

    แต่ เราหารู้ไม่ว่า
    การปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ"...เป็นสิ่งยิ่งใหญ่
    พระพุทธเจ้า...ขัดเกลากิเลสนิสัยให้หมดไปได้...ก็ด้วย "สัจจะ"

    สิ่งแท้จริง คือ
    "สัจจะ" ....คือ สัญญาใจตนเอง
    ตั้งสัจจะ...คือ การกำหนดข้อปฏิบัติที่เป็นสิ่งดีให้กับตนเองได้ปฏิบัติ โดยมีกำหนดระยะเวลาปฏิบัติอย่างชัดเจน เวลาสิ้นสุดชัดเจน
    การถวายสัจจะ... คือ การประกาศตนว่าจะปฏิบัติด้วยสัจจะดังกล่าว ต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์โลกุตระธรรม องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้เป็นเจ้า และ พระศาสดาของศาสนา เป็นต้น

    ดังนั้น
    เมื่อ..." กำหนด สัจจะ " ขึ้นมาแล้ว
    จะต้องกระทำอย่างจริงจัง
    ไม่ใช่... ทำเหมือนการอธิษฐาน ขอพร

    แต่เมื่อปฏิบัติได้แล้ว
    ถวายสัจจะ ...เรียบร้อยแล้ว
    จึงจะอธิษฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้
    เพราะ...ต้องมี "การกระทำจาก สัจจะ" ....เป็นสื่อ

    ณ วันนี้
    "สัจจะ" ...ที่เคยกำหนดไว้....แต่ไม่ได้ทำ หรือทำไม่ได้ในอดีต
    ที่แล้ว ก็แล้วกันไป
    ขอให้เริ่มต้นใหม่ เสียตั้งแต่วันนี้
    เริ่มให้ถูกทาง
    เพื่อสะสมการกระทำที่ดี การกระทำจากสัจจะ
    การปฏิบัติสัจจะ...คือ การสะสมบารมี

    ทุกวินาที ...ที่ผ่านไปมีค่ายิ่งนัก
    ขอให้ใช้ชีวิตคุ้มค่า...ด้วยการมี "สัจจะ" นำชีวิต
    เป็นทางตรงสู่นิพพาน ...การหลุดพ้นจากความทุกข์ จนถึงการเกิดใหม่

    ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
    เวลาปลอดภัย เหลือน้อยมาก

    การมุ่งมั่นช่วยประกาศ "สัจจะ" ให้ผู้อื่นได้รู้และปฏิบัติ
    คือ... การช่วยสานต่อพุทธศาสนา เพื่อให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี
    เป็นกุศลผลบุญที่ประมาณค่ามิได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** เชื่อ สัจจะ นำชาติพ้นภัย ****

    วิกฤติของประเทศไทย ...ก่อเกิดขึ้นจากคน....จากใจคน
    การแก้ไข...จึงต้องแก้ที่คน....แก้ที่ใจคน
    จะต้องแก้ด้วย...ความจริง...คือ "หลักสัจจะธรรม"

    แก่นสารของ "หลักสัจจะธรรม" คือ....
    ...ผลของการกระทำไม่ตาย ไม่สูญสลาย และมีผลตอบแทน....

    การที่ประเทศไทย จะรอดพ้นภัย
    เราคนไทยทุกคน...จะต้องมี "การกระทำที่ดี" ที่เพียงพอ
    "ผลของการกระทำทั้งหมดนี้"...จึงจะส่งผล
    สามารถลบล้าง หักล้าง ...ผลกรรมหนักที่กำลังจะปรากฏขึ้นได้

    การกระทำที่จะสามารถส่งผลได้ดีที่สุด ?
    คือ ... การกระทำอย่างตั้งใจจริง
    คือ.... การกระทำอย่างถึงที่สุด
    นั่นคือ...การตั้งใจจริง ปฏิบัติตนด้วย
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ผู้มี สัจจะ ****

    พันท้ายนรสิงห์...คือ ผู้มี "สัจจะ"
    ถือ "สัจจะ" ตามกฎมณเฑียรบาล คือ โองการของกษัตริย์

    ตามกฎมณเฑียรบาลที่ว่า
    "ผู้ใดกระทำให้หัวเรือพระที่นั่งชนกับตลิ่ง หรือกิ่งไม้เป็นเหตุให้หัวเรือหัก หรือจม มีโทษถึงประหารชีวิต"
    เมื่อทำผิดตามกฎ... เพื่อรักษาคำพูด โองการของกษัตริย์
    จึงยินยอมให้ประหารชีวิต
    ถ้าไม่ประหาร ก็จะตัดหัวตัวเอง

    นี้คือ "สัจจะ" ... สัญญาใจตนเอง
    ถึงแม้ว่ากษัตริย์จะเข้าใจ และให้อภัยโทษ
    แต่เพื่อรักษาคำพูดโองการของกษัตริย์ให้คงความศักดิ์สิทธิ์ !!!!!!!

    นี้คือ ตัวอย่างของ "สัจจะ"


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สัจจะ ทำได้จริง ทำได้บ้าง ไม่ทำเลย ****

    การตั้งสัจจะ การถวายสัจจะ....เป็น "สัญญาใจ"
    แต่ เมื่อทำได้จริง... จะเกิดเป็น "สัญญาทำ"
    สิ่งที่ทำตัวเราได้...จะไปปรากฏบน...พระนิพพาน
    เป็นการบันทึกการกระทำ...ของตัวเรา
    เป็นสิ่งที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย
    และส่งผลตอบแทนให้กับเรา ตลอดเวลา...เป็นกรรมเที่ยง
    สิ่งที่ทำได้นี้...เรียกว่า "ตัวกระทำ"
    จะคอยจัดสรรชีวิตของเรา...ไปในทางที่ดี...หลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่ทำมา

    เมื่อ...เรามี "สัจจะ" เป็นผู้นำ....ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งสิ้น เป็นสรณะ เป็นหนทางตรงสู่นิพพาน
    การที่ "ทำไม่ค่อยได้"... ให้พิจารณาตนเอง ว่า...จะต้องไม่เหนือบ่าฝ่าแรงเกินไป
    การตั้งสัจจะ...จึงต้องพอหยิบ พอเอื้อมได้
    พระพุทธเจ้า จึงสอนให้... "เดินสายกลาง"
    ไม่มากเกินไป และไม่น้อยจนเกินไป

    ถ้าเราตั้งใจจนเกินกำลังใจตนเอง ...ยากลำบากเกินไปในในช่วงเริ่มต้น
    เราก็จะทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ...แล้วท้อใจ
    เช่นเดียวกับเรื่อง...รับศีลจากพระมา
    ศีลเป็นเรื่องใหญ่ ครอบคลุม...มีไม่กี่คนในโลกที่เขาทำได้จริง ทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์
    คือ ทำได้จนเป็นปกตินิสัย เป็นธรรมชาติของเขา

    สำคัญที่...ต้องทำเป็นประจำ
    เหมือนเด็กน้อย...ที่พึ่งเริ่มหัดคลาน
    เราจะไปสั่ง ไปบังคับให้เขา....ลุกขึ้นวิ่ง....มันเป็นไปไม่ได้
    เด็ก...เขาต้องลุกขึ้นยืนได้ เริ่มก้าวที่หนึ่งได้ก่อนเสมอ
    ก้าวที่สอง ก้าวที่สาม และก้าวต่อๆไป ก็จะตามมา
    เมื่อเดินได้คล่อง...เขาจะเพิ่มความเร็วเอง
    จนในที่สุด...เด็กน้อยก็เริ่มวิ่งได้
    มันคือ การเรียนรู้...การฝึกฝน....ต้องใช้เวลา

    เช่นเดียวกับเรื่อง...ขจัดกิเลสนิสัย
    พระพุทธเจ้า....สอนให้ใช้ "สัจจะ" เป็นเครื่องขจัดกิเลสนิสัย
    ก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน
    เริ่มต้นใหม่ๆ ทำได้ไม่ครบถ้วน...ก็เป็นเรื่องธรรมชาติ
    ยังดีกว่า...การทำตามใจตนเอง คือ ไม่มีสัจจะนำชีวิต !!!!!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** กรรม ****

    ทรยศสัตย์ปฏิญาณให้ไว้
    บ้านเมืองลุกโหมเป็นไฟ
    จากคิดใหญ่พวกอยากนำ
    สุดสับสนสุดอลม่าน
    วิ่งหนีพาลหลบเลี่ยงภัย
    วงศาไม่อาจไป
    จำกล้ำกลืนแต่น้ำตา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    รีบตามหา... หลักสัจจะธรรม
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สัญญาใจ ****

    สัจจะ...คือ สัญญาใจตนเอง

    ผิดสัจจะ .... คือ การผิดสัญญาของตัวเอง

    ผิดคำสัญญา ... คือ การผิดสัญญากับใจตัวเอง....คือ ผิดสัจจะ

    ผิดคำสาบาน .... คือ การผิดสัญญากับใจตัวเอง...คือ ผิดสัจจะ

    ผิดคำบนบานศาลกล่าว ... คือ การผิดสัญญากับใจตัวเอง....คือ ผิดสัจจะ

    ผิดคำอธิษฐาน .... คือ การผิดสัญญากับใจตัวเอง...คือ ผิดสัจจะ

    ผิดคำสัตย์ปฏิญาณ ...คือ การผิดสัญญากับใจตัวเอง....คือ ผิดสัจจะ



    *** เคยบ้างไหม ****

    ผมสัญญาว่า.......
    ฉันสัญญาว่า.......

    ผมสาบานว่า.......
    ฉันสาบานว่า.......

    ข้าพเจ้าขอบนต่อ.......ว่า.......
    ข้าพเจ้าขออธิษฐานว่า จะ.......
    ข้าพเจ้าขอถวายสัตย์ปฏิญาณตนว่า.......


    " ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน "
    ประโยคนี้ คือ......."หลักสัจจะธรรม"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ลองพิจารณา...ความจริงในธรรมชาติ ****

    จิตวิญญาณของเรา...มีตัวตน ไม่ตาย ไม่สูญสลาย
    สิ่งที่เราทำได้จริง....ก็มีตัวตน ไม่ตาย ไม่สูญสลาย...ส่งผลย้อนกลับมาเป็นกรรม
    การกระทำดีที่ทำได้....ก็ไม่ตาย ไม่สูญสลาย มีตัวตน...เป็นบารมี ติดตัวเราไปตลอดกาล
    ผลการกระทำ... ก็ไม่ตาย ไม่สูญสลาย....พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เรียกว่า "ตัวกระทำ"

    รูปสังขาร บนโลก...มีก่อเกิด มีผุผัง มีเปลี่ยนแปลง
    แต่....ก็ไม่สลายไปจากโลก...เป็นละอองธาตุต่างๆ

    การกำเนิดทุกสิ่ง
    เป็นผลมาจาก "ตัวกระทำ" จัดสรร
    การเกิดของเราในชาตินี้...เป็นใคร เป็นอะไร เพศอะไร สมบูรณ์หรือไม่ อยู่ในครอบครัวใด มีพ่อแม่เป็นอย่างไร อยู่ในถิ่นฐานแห่งใด ความเป็นอยู่เรื่องปากท้องเป็นอย่างไร
    ทั้งหมด...ล้วนเป็นการจัดสรรจาก "ตัวกระทำ" ของตัวเราเอง

    การเกิดใหม่...ในแต่ละครั้ง แต่ละชาติ
    จึงเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่
    .......หาก... " เกิดเป็นสัตว์ หรือ ต้นไม้ " ....ก็คือ การชดใช้กรรม
    ต้องยอมรับ...ผลการกระทำที่เคยทำมาในอดีต
    .......หาก.... "เกิดเป็นมนุษย์"...คือ โชคดีที่สุด
    สามารถเลือกทางเดินตัวเองได้...ว่าจะทำดี ทำในสิ่งไม่ดี....ทำบุญทำกุศลได้
    แต่ สิ่งสำคัญ....ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ....คือ " นิสัยสันดาน "

    "นิสัยสันดาน" ...ส่งผลให้เกิด.... การกระทำแบบเดิมๆ
    ผลการกระทำ...จึงซ้ำๆ เหมือนเดิม เหมือนในชาติก่อน ๆ
    กรรม...จึงเป็นเป็นแบบเดิมๆ....วนเวียนซ้ำๆ อยู่บนโลกแห่งนี้

    หาก...ปรารถนาที่จะพ้นทุกข์อย่างแท้จริง
    คือ...การไม่กลับมาเกิดใหม่
    คือ....การหลุดพ้น
    หลุดพ้นไปจากโลก
    หลุดพ้นสู่นิพพาน...ที่มีอยู่จริงในธรรมชาติ

    การจะหลุดพ้นได้...เราจึงต้อง.... "ขจัดกิเลศนิสัย" ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ
    การจะทำให้หมดไปได้...ต้องฝึกตนเอง
    "นิสัยขี้โมโห"...จะหมดไปได้จริง
    เราจะต้อง.... "ฝึก ไม่โกรธ ไม่โมโห" ...ทุกๆ วัน
    เราฝึกตนเองทุกวัน...นิสัย อารมณ์โกรธโมโห จะลดลง เหลือน้อยลง
    พอรู้ตัว ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
    จนในที่สุด...นิสัย อารมณ์โกรธโมโห....จะหมดไปจากจิตใจเราเอง
    ในช่วงเวลาที่...ตัวเรา ไม่มีอารมณ์โกรธโมโห...การกระทำของเราก็จะดีขึ้น

    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์....จึงสอนให้ ตั้งใจทำความดี
    ตั้งใจละเว้นความชั่ว...ตั้งใจทำจิตใจอารมณ์ไม่ขุ่นมัว
    ด้วย "สัจจะ"
    โดยกำหนด ..."สัจจะเป็นหัวข้อปฏิบัติ" ให้กับตนเองทุกวัน

    เมื่อ...เราอยู่ในความสงบ ทำ "สติว่าง"
    เราพิจารณาตนเอง...เราจะรู้ว่านิสัยไม่ดีของตัวเรา คืออะไร
    แล้วเราจึงนำมากำหนดเป็น "สัจจะหัวข้อปฏิบัติของตนเอง"

    ฝึกทุกวัน...กิเลส นิสัย จะหมดไปได้จริง
    เราต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง
    เราจึงจะพบว่า...สิ่งที่กล่าวมา คือ ความจริง
    คือ "สัจจะธรรม"
    ผลการกระทำที่ทำได้ จะเป็นบารมีติดตัวเราไป
    ....... ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน .......
    สิ่งนี้คือ................หลักสัจจะธรรม................

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** อภิญญาใหญ่ ****

    สมัยโบราณเรียก "ปริญญา"
    อภิญญาหก...ก็คือ ปริญญาหก

    อภิญญาใหญ่...ที่รอกัน คือ "สัจจะ"
    มนุษย์ทุกคน ทุกศาสนา....สามารถปฏิบัติได้หมดทั้งโลก

    ใครทำ...ใครได้....ใครสำเร็จ
    ผู้ที่เชื่อ....ผู้ที่ทำได้...จะสำเร็จ จะบรรลุ จะหลุดพ้น

    เชื่อ ไม่เชื่อ...อยู่ที่ตัวของเรา
    ท่านจะเลือกเป็น ดอกบัวแบบไหน ???

    ข้าพระพุทธเจ้าบอกแล้วนะ
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สัจจะธรรม ****

    ทุกวันนี้...มักพูดกันแต่
    นี่คือ สัจจธรรม ....
    มันคือ สัจจธรรม ...
    เป็นไปตาม สัจจธรรม ....

    แต่
    ขาด...ความรู้ที่แท้จริง เกี่ยวกับ "สัจจะธรรม"
    ขาด....วิธี ที่จะนำ "หลักสัจจะธรรม" มาใช้ในชีวิตประจำวัน
    ....... นำมาใช้เป็นเครื่องนำทางหลุดพ้น จากความทุกข์ การเกิด การตาย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สัจจะ และ อธิษฐาน ****

    ด้วยอำนาจของสัจจะ สารยายโลกุตตระธรรม
    ด้วยกำหนด ๙๙๙ ชั่วธูป ครบใน วันพุธที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐
    ที่ข้าพระพุทธเจ้า กระทำสำเร็จแล้วนั้น

    ขอพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    โปรดนำส่วนกุศลทั้งหมดนี้แผ่รอบคอบจักรวาล
    วิมานพรหมยมโลก รอบคอบจักรวาล
    สันดานมนุษย์ อุทิศส่งให้คุณบิดามารดา
    ผู้อุปการะ ผู้อุปถัมภ์ เจ้ากรรมนายเวรรอบคอบจักรวาล

    ข้าพเจ้าปรารถนาขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ทรงพบโลกุตตระธรรมที่ปรากฏในดินแดนไทย
    โดยเร็ววัน

    - ข้าพระพุทธเจ้า หนุมาน ผู้นำสาร
    วันพฤหัสบดีที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ เวลา ๑๒ นาฬิกา ๒๗ นาที
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** หลักปฏิบัติสัจจธรรม ****

    พระโลกุตตระเขตะมารัจจะ ท่านกล่าวสอนไว้ว่า......

    สาธุชนทั้งหลาย ควรตั้งอยู่ในศีลในธรรม และมีสัจจธรรม โดยมีหลัก 3 ประการ คือ ต้องมี"ใจ"อันสัจจธรรม มี"ปาก"อันสัจจธรรม และ"ปฏิบัติ"อันสัจจธรรม.....

    1.ใจอันสัจจธรรม-เมื่อใจนึกในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามใจที่เป็นสัจจธรรม อย่าให้ออกนอกลู่นอกทาง คือ ไม่ให้เกิดกิเลส โลภ-หลง และไม่ให้ถืออาฆาตพยาบาทกับผู้ใด เมื่อผู้อื่นทำให้เราไม่พอใจ เราก็ถือใจสัจจธรรมว่า ไม่โต้ตอบ จะได้บรรลุศีลอันบริสุทธิ์ถึงขั้นอรหันต์ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามใจสัจจธรรม ที่ได้มุ่งมั่นไว้ ก็จะทำให้เราลดบารมีศีลไป

    2.ปากอันสัจจธรรม-เมื่อเราลั่นวาจาออกมาแล้วในวาจาระหว่างนี้ เป็นวาจาสัจจธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพูดว่า"ไป"ก็ต้องไป ถ้าเราพูดว่า"ไม่" ก็ต้องไม่ อย่าพูดออกมาโดยไม่ตรงกับใจ ซึ่งเป็นการผิดไปจากสัจจธรรม เช่น เมื่อเราตั้งใจว่า วันนี้จะขอสุขกายสุขใจ แต่เมื่อพบสิ่งไม่พอใจเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ปากไม่สงบ คือ ผิดไปจากปากอันเป็นสัจจธรรม จะหลั่งวาจาอันไม่สมควรฟังออกมาแก่ผู้อื่น ถ้าเราถือใจสัจจธรรมและปากสัจจธรรมแล้ว จะต้องตั้งอยู่ในสมาธิ ให้ถือขันติ มีมานะอดทน มีมุทิตา มีอุเบกขา จะได้เป็นการคล้องจองกับการถือใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม.....

    3.ปฏิบัติอันสัจจธรรม-ต้องให้คล้องจองกับปากและใจ เช่น เมื่อใจคิดว่าสวดมนต์หนึ่งเล่มธูป ปากก็ได้สวดมนต์ ในการกระทำ ก็ต้องกระทำให้ครบเล่มธูป เป็นการคล้องจองไป จะได้มีบุญบารมีสะสมไว้ใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม ถ้าสามสิ่งนี้ ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ถือว่า"ขาดศีล"ในชีวิตครอบครัว ภรรยาเป็นหลักหนึ่งที่ช่วยค้ำจุนองค์สัจจธรรม เมื่อสามีปฏิบัติสิ่งใด ภรรยาควรใช้สายตาตรวจชี้ในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าสามีจะออกนอกลู่นอกทาง ภรรยาก็ควรช่วยเตือนสติปัญญา ให้เขากลับมา แต่ภรรยาจะต้องถือใจปฏิบัติสัจจธรรม ปากถือปฏิบัติสัจจธรรม และตัวปฏิบัติถือสัจจธรรม จึงจะได้ผล อย่าโมโหโกรธา หน้าบึ้งหน้าบูดหน้าเบี้ยว เป็นกิริยาที่ไม่น่าดูไม่น่าชม แทนที่จะเป็นหลักช่วยกระตุ้นเตือนให้สามี กลับเป็นน้ำมันราดในกองเพลิงให้มันลุกช่วงโชติขึ้นมา เป็นการผิดนอกลู่นอกทางของสามี มิได้เป็นการเสริมสร้างบารมี แต่เป็นการทำลายบารมีของภรรยาเอง ผู้ใดปฏิบัติสามประการนี้ได้ ก็จะเป็นศรีภรรยาตามหลักขององค์สัจจธรรม ลูกหลานจะได้เจริญรุ่งเรือง อุปมาเหมือนปากกับท้อง ดังนี้ คือ :-

    สามีทั้งหลาย ให้ถือว่าเป็น"ปากเป็นเสียง" ภรรยา ให้ถือว่าเป็น"ท้อง" เมื่อสามีใช้ปากดำเนินกิจการต่างๆ ปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัว ภรรยาก็เป็นท้องสำหรับรองรับ เมื่อสามีปฏิบัติตามในหลักธรรมที่ถูกต้อง คือ หาเลี้ยงชีพอย่างสุจริตชน ไม่โกงเขา ไม่โลภหลง เงินทองที่ทำมาหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย สร้างความภูมิใจ เท่ากับว่า เป็นอาหารอันโอชา เมื่อเงินทองที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ก็เป็นอาหารทิพย์ เมื่อเอามาเลี้ยงท้อง ท้องก็จะอยู่ดี รับด้วยความสบาย มีพลังเข้าถึงหลักธรรมได้ ปากกับท้องนี้ ต้องอยู่คู่กันไปตลอดชาติ เมื่อท้องแข็งแรง ปากก็ดี ก็พลอยให้จิตใจของเราดีไปด้วย เมื่อจิตใจเราดี ผู้นั้นย่อมเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันสิ้นสุด

    เมื่อปากที่ให้สมมุติฐานว่าเป็นสามี ได้เงินได้ทองมาในสิ่งที่ผิดๆ เมื่อเอามาเลี้ยงท้องแล้ว ก็จะเกิดเป็นพิษ เมื่อท้องปวดท้องเจ็บ ก็ต้องอุทธรณ์ให้สามีเลิกปฏิบัติการในสิ่งที่ผิด เมื่อปากปฏิบัติถูกต้องแล้ว ท้องก็จะอยู่เย็นเป็นสุข ปากก็จะอยู่เป็นสุข ไม่เป็นพิษไม่เป็นภัยถ้าภรรยาซึ่งเป็นท้อง กินทุกสิ่งทุกอย่าง โลภไม่มีวันหยุด หลงไม่มีวันหยุด ก็พลอยให้ปากผิดไปด้วย ถ้าสามียึดมั่นอยู่ในธรรมะ ก็จะไม่ปฏิบัติตามท้อง ท้องก็จะอาละวาด ทำให้ครอบครัวไม่มีความร่มเย็นเป็นสุข แต่ถ้าสามีที่เป็นปากนี้ เกิดไปหลงผิดตามท้อง หาในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามมาป้อนให้ท้องได้สบอารมณ์หมาย แต่ในบั้นปลายผลรับจะเป็นอย่างไร ผลรับนี้ ก็จะทำให้เสียทั้งปากทั้งท้อง

    การปฏิบัติใดๆ ถ้ามีธรรมะ เมื่อเกิดหลงผิดแล้ว ก็ยังมีทางที่จะชำระได้
    บุญ- หมายถึง สิ่งอันบริสุทธิ์สดใส
    กรรมชั่ว-หมายถึง สิ่งที่ดำมืด ไม่มีให้ความสว่าง

    ขอให้สาธุชนทั้งหลาย ค่อยๆศึกษา ค่อยๆปฏิบัติกันไป ให้บรรลุถึงใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม ให้ครบสามประการ สิ่งใดที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง จงใช้อารมณ์เย็นเข้าลูบ เมื่ออารมณ์เย็นเข้าสู่ร่างกายของเราแล้ว ก็จะเกิดสติปัญญาขึ้น และจะมีความสดใสชั่วกาลนาน.........

    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=89717

    -
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ยุคสัจจธรรมนิยม ****

    เมื่อก้าวสู่ยุคสัจจธรรมนิยม.......

    มนุษย์ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ สัตว์ ต้นไม้ บนโลกอย่างมีความสุข
    ความสุข เกิดจากความพยายามปฏิบัติตนเอง ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่มีบ่อเกิดจากกิเลสนิสัย
    พยายามพึ่งพาตนเอง ก่อนเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่น นำตนเองได้ ก่อนนำผู้อื่น
    รักษาความดีด้วย สัจจธรรมปฏิบัติ หมายถึง การปฏิบัติตนตามหลักสัจจะธรรม ด้วยสัจจะ
    ถือ หลักสัจจธรรมเป็นแก่นสารสำคัญที่สุด คือ ผลการกระทำไม่สูญสลาย จะติดตัวผู้กระทำไปตลอดกาล และมีผลตอบแทนทุกการกระทำ
    กฎระเบียบข้อบังคับ กฎหมายทุกข้อ เกิดขึ้นตามหลักสัจจธรรมทั้งสิ้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** โอกาสสุดท้าย ****

    เปิดโอกาส...ให้เรียนรู้
    เปิดโอกาสให้....คนหา หลักโลกุตตระธรรม
    เปิดโอกาสให้...รับ สัจจะ
    คือ ให้โอกาส....หลุดพ้นทุกข์

    โอกาสสุดท้าย ก่อนกรรมมาถึง
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...