หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    สบายดีท่านน้อง
    ขอพักการตอบกระทู้...ประท้วงครับ...ช้ามากหุหุหุ

    ตอบทางแมวให้แล้วนะ
     
  2. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937

    โหไวจริงๆ ยังไม่ทันตั้งตัวว่าเป็นฝีมือการออกแบบท่านใด เจ้าของตัวจริงสอบถามเป็นของท่านจริงๆ (ตรงกันครับผม)

    - แต่ยังมีพิมพ์ต้นแบบของพิมพ์สมบูรณ์พูนสุขอีกพิมพ์ก่อนที่จะมาเป็นต้นแบบพิมพ์นี้ครับ หุหุหุ
    กรมหมื่นภูมินทรภักดี ท่านเหนือชั้นจริงๆในการออกแบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2011
  3. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ครับผม ผมก็ว่างั้น หุหุ :cool:
    พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านบอกเสมอว่า...

    ความจริง ของจริง จะนานเพียงใดก็ยังเป็นจริง หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังรอการพิสูจน์เสมอ การพูดความจริง การกระทำซึ่งความจริง เป็นสิ่งที่ไม่มีวันตาย...จริงๆ

    คุณความดีของพระองค์ท่าน...กรมหมื่นภูมินทรภักดี มีมากมายปานนี้ ผมก็สงสัยว่า...
    พระองค์ท่านชอบปิดทองหลังพระหรือเปล่า...?
    ทำไมไม่ค่อยมีใครพูดถึงพระองค์ท่านเลยหนอ...?
    :'(

    แต่ท่าน ดร. ช่วยเราไว้มากจริงๆนะ ขอบอก :)
     
  4. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    พระพิมพ์ชุดสามองค์ดำอภินิหาร

    สำหรับเรื่องราวที่ว่าไว้...ได้นำเสนอผ่าน e-mail แล้ว
    ไม่นำมา post อีกครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  5. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ผมเป็นมนุษย์ Mobile I.T Man ทำงานที่ไหนก็ได้ ขอให้มี internet และไฟฟ้า

    แต่ตอนนี้อยู่ท่ามกลางหุบเขา จำต้อง...ทำใจคร๊าบ...หุหุ
     
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    วันนี้เป็นวันที่ 7 ของปรากฏการณ์...ที่พวกเราเหล่านักรบธรรมขึ้นภูผาผึ้ง
    ฟังธรรมท่ามกลางสายฝน แสงแห่งองค์พระสุริยเทพ และพระ...

    ทราบว่ามีหลายท่านที่ได้เริ่มเข้าสู่กระแสแห่งองค์มรรคแล้ว
    การปฏิบัติธรรมของท่าน ส่งผ่านมายังหมู่มิตรที่เคยปฏิบัติร่วมกันในอดีต
    พลอยให้รับรู้ ก้าวหน้า ดึงกันไป เป็นปัจจัตตังครับ

    ขอโมทนาสาธุในบุญ-บารมีที่บังเกิดขึ้นอีกวาระ หนึ่งในอีกหลายๆวาระในอนาคตครับ
     
  7. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    มรรค 4 (โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหันตมรรค)
    ผล 4 (โสดาปัตติผล สกิทาคามิผล อนาคามิผล อรหันตผล)
    นิพพาน 1

    ผู้ที่บำเพ็ญจนบารมีเต็มระดับปรมัตถบารมี ทั้งที่ผู้ปรารถนาพุทธภูมิแต่ได้ลาพุทธภูมิแล้ว และอรหันตภูมิ หากได้อธิษฐานจิตและเร่งบำเพ็ญเพียร จะสามารถบรรลุธรรม ตามเวลาดังต่อไปนี้

    7 วัน
    7 สัปดาห์
    7 เดือน
    7 ปี

    ครบ 7 วัน อาจเข้าสู่กระแสแห่งมรรคแรก (โสดาปัตติมรรค) หลังจากนั้นเร่งบำเพ็ญเพียรเพื่อเสวยผลภายใน 7 สัปดาห์ เพื่อเข้าสู่โสดาปัตติผล

    ครบ 7 สัปดาห์ อาจเข้ากระแสมรรค 2 (สกิทาคามิมรรค) หลังจากนั้นเร่งบำเพ็ญเพียรเพื่อเสวยผลภายใน 7 เดือน เพื่อเข้าสู่สกิทาคามิผล

    ครบ 7 เดือน......
    ครบ 7 ปี....... เข้าสู่พระนิพพานเป็นที่สุด
    เวลาอาจแปรเปลี่ยนตามบุญบารมีได้

    ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องตรวจสอบจากพ่อแม่ครูอาจารย์อีกครั้ง เพราะมีตัวแปรคือ วิปัสสนูกิเลสที่อาจเข้าทำหน้าที่แสดงผลหลอกเราได้ นี่เป็นแค่ความเข้าใจตามปัญญาที่ผุดขึ้นของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้น ผู้ที่อยู่สูงกว่าเท่านั้นจึงจะรับรองได้

    ความจริง ย่อมเป็นความจริง มิอาจแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2011
  8. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    วันนี้หลังจากพบกับคุณสาวกธรรม1 ที่สนามพระแล้ว บังเอิญได้แวะดูของร้านหนึ่งเห็นเส้นประคำหยกของหลวงปู่โต (ตามจิตที่ภรรยาอยากได้เหมือนของท่านสมบัติ) และประคำสมเด็จม้วน เนื้อผงสมเด็จ ของหลวงปู่โตมาด้วยอย่างละ 1 เส้น นับว่าผมได้ทำตามความปรารถนาของเธอแล้ว ก็ลองชมดูนะครับ คงไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมนะครับ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN3368.JPG
      DSCN3368.JPG
      ขนาดไฟล์:
      249.3 KB
      เปิดดู:
      1,763
    • DSCN3370.JPG
      DSCN3370.JPG
      ขนาดไฟล์:
      460.9 KB
      เปิดดู:
      16,558
    • DSCN3371.JPG
      DSCN3371.JPG
      ขนาดไฟล์:
      427 KB
      เปิดดู:
      16,512
    • DSCN3372.JPG
      DSCN3372.JPG
      ขนาดไฟล์:
      427.7 KB
      เปิดดู:
      17,808
    • DSCN3374.JPG
      DSCN3374.JPG
      ขนาดไฟล์:
      373.8 KB
      เปิดดู:
      13,432
  9. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    งดงามขนาดนี้ทำไมผมตาไม่ถึงหนอ...หึหึ ยินดีด้วยครับหวังว่าหลังจากอัญเชิญติดตัวแล้วคงจะมีอภินิหารให้ปรากฎอีกครั้งนะครับ.....:cool:
     
  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    องค์ชินราชใบเสมา เท่าที่ทดลองอัญเชิญมาวันสองวัน จะออกไปทางบู๊ครับ ทรงฤทธิ์ เดช อำนาจ บารมี พลังหนักหน่วงมาก...จึงไม่จำเป็นต้องทดลององค์มเหศวร หรือชุดเนื้อชินองค์อื่นๆ เหมาะเป็นชุดของขุนศึกครับ

    สมเด็จองค์ดำ เคยบอกมาหลายๆรอบแล้ว รู้สึกจริตจะถูกกับองค์นี้ครับ สบายๆดี ขอยกนิ้วให้ :cool:

    วันนี้เที่ยงๆ อัญเชิญสององค์ดำร่วมสมาธิ...
    - คงเคยลองจับพลังพระแรงๆนะว่าเป็นอย่างไร รู้สึกเหมือนว่า...ตัวเราเองนั่นแหละเป็นแหล่งพลังงานเสียเอง
    - นั่งได้ถึงราวๆ 30 นาที จิตรีบถอนออกจากสมาธิเอง...พอเป็นปกติ เสียงรถมาส่งน้ำมาจอดหน้าบ้านพอดี แหมๆ ยังกะมีอะไรสะกิดเราเลย หุหุ
     
  11. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800><TBODY><TR><TD width=395>
    พระพุทธชินราช วัดใหญ่แห่งนครสองแคว

    [​IMG]

    </TD><TD width=10>
    </TD><TD width=395></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=395>พระพุทธชินราชจริงๆ แล้วเป็นพระนามหนึ่งขององค์พระศาสดาในพุทธศาสนา ซึ่งพระนามนั้นมีมากมายนัก แต่พระพุทธชินราชในพระนามนี้ คนไทยส่วนใหญ่จะนึกถึงรูปลักษณ์ในนามธรรมเป็นพระพุทธรูปประทับปางมารวิชัย ด้านหลังมีซุ้มเรือนแก้ว หรือ พระรัศมีนั่นเอง ย่อมเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือกันแล้วว่า วัดใหญ่คือวัดประจำเมือง มีพระปรางค์อันประดิษฐานพระบรมธาตุอยู่ด้านใน นอกจากนั้นก็มีพระวิหาร พระอุโบสถ พระสถูป เจดีย์ และพระพุทธรูปยืนกับต้นพระศรีมหาโพธิ์เหล่านี้เป็นของคู่กัน หากจะมีพระพุทธบาทอีกก็ไม่แปลกอะไรนัก เพราะทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมาแล้ว คือ องค์ประกอบสำคัญของศาสนสถานที่เราเรียกว่า “วัด” นั่นเอง

    </TD><TD width=10>


    </TD><TD vAlign=top width=395>ถ้าเราจัดพระเครื่องสำคัญที่นิยมกันในขณะนี้ ก็อาจแบ่งกันอย่างหลงๆ ได้ 3 องค์ 5 องค์ 7 องค์ และ 9 องค์ ตามความนิยมของผู้เป็นนักพระเครื่องกัน ซึ่งแต่ก่อนถือว่าพระชินเป็นพระที่มีความสำคัญอันดับหนึ่งด้วย คำมงคลที่ว่าพระชิน และว่าผู้ชนะ เหมือนกับว่า สัมฤทธิ์ แปลว่าสำเร็จเป็นคำมงคลแบบไทยๆ ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมากนัก เหมือนกับคำว่า “บุญ” เป็นคำที่สืบเข้าใจง่ายเป็นคำที่สรุปมาแล้วอย่างสุขุมรอบคอบไม่ต้องตีความ



    </TD></TR><TR><TD width=395></TD><TD width=10></TD><TD width=395></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=395>พระพุทธชินราชท่านเป็นพระนามหนึ่งของพระพุทธเจ้า พระแบบนี้จึงไม่ได้มีรูปแบบที่ผูกขาดกัน แต่ต้องยอมรับว่านับร้อยปีถอยหลังขึ้นไปความนิยมชมชอบของพระพุทธชินราชนี้เป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวไทยโดยเฉพาะหมู่เหล่าพระเกจิอาจารย์สำคัญในยุคสงครามโลกทั้งสองครั้ง นิยมสร้างและสถาปนากันมากทั้งนี้อาจจะได้คำชี้แนะจากพระราชนิยมอันเกิดจากความศักดิ์สิทธิ์มาแต่ครั้งโบราณก็เป็นไปได้ ดังในพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชปรารภเรื่องพระพุทธชินราช เรื่อง การเชิญพระพุทธชินสีห์ไว้ ณ กรุงเทพฯ ว่า “ยังมีคำเล่ากันอยู่ทุกวันนี้ว่า เมื่อเชิญออกจากพระวิหารนั้นราษฎรพากันเศร้าโศกร้องไห้เป็นอันมาก เงียบเหงาสงัดไปทั้งเมือง เหมือน “ศพลงเรือ” แลหะแต่นั้นมาฝนแล้งไป 3 ปี ชาวเมืองพิษณุโลกได้รับความยากยับไปเป็นอันมาก ตั้งแต่พระพุทธชินสีห์ลงมาถึงกรมพระราชวังบวรมหาศักดิ์พลเสพ ทรงประชวรด้วยพระโรคมานน้ำได้ปีเศษ ก็เสด็จสวรรคตราษฎรพากันกล่าวว่า เพราะเหตุที่ท่านไปเชิญพระพุทธชินสีห์ลงมา สำหรับพระศรีศาสดานั้นเดิมเจ้าอธิการวัดบางอ้อยช้าง เชิญลงมาไว้ที่วัดบางอ้อยช้าง”



    </TD><TD width=10>




    </TD><TD vAlign=top width=395>สมเด็จพระยาบรมมหาพิชัยเห็นว่าเป็นพระสำคัญจึงได้เชิญไปไว้ที่วัดประยูร (วัดเขาเต่า) ซึ่งเป็นวัดของท่านครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงราชสมบัติทรงพระราชดำริว่า พระศรีศาสดาเป็นพระสำคัญไม่ควรอยู่ในวัดราษฎร์ได้เชิญมาประดิษฐานที่วัดสุทัศน์เทพวรารามก่อน ภายหลังจึงย้ายไปไว้ที่พระวิหารวัดบวรนิเวศเมื่อปีกุน เบญจศก จุลศักราช 1125
    ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสดับเรื่องราวของพระพุทธชินราชมาโดยตลอด ประกอบทรงเป็นผู้มีความเลื่อมใสศรัทธามาโดยตลอดถึงพระราชปรารภเรื่อง พระพุทธชินราชว่า “พระพุทธชินราชมีพระสิริวิลาสพุทธลักษณะอันงดงาม ประดิษฐานอยู่ถึงเมืองพิษณุโลกอันไกล ผู้ใดมีความปรารถนาที่จะใคร่นมัสการจะตั้งความอุตสาหพยายามขึ้นไปให้ถึงได้ เป็นอันยากจะต้องลงทุนรอนมากจึงจะได้ไป” พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธชินราชจำลองขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2444 แล้วเชิญลงมาประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ซึ่งเป็นมิ่งขวัญของชาวกรุงเทพ ณ บัดนั้น



    </TD></TR><TR><TD width=395></TD><TD width=10></TD><TD width=395></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=395>เรื่องของพระพุทธชินราชนั้นมีกล่าวอยู่ใน พระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสือเรื่องเที่ยวเมืองพระร่วง ว่า “ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธรูปมาแล้วไม่ได้เคยรู้สึกดูปลื้มใจจำเริญตาเท่าพระพุทธชินราชเลย” และสมเด็จพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติติวงศ์ ทรงนิพนธ์ไว้ในหนังสือจดหมายเหตุระยะทางไปพิษณุโลกว่า “นมัสการพระพุทธชินราชแล้ว ดูธรรมาศน์เทศน์ สวดดูเรือนแก้ว สิ่งทั้งปวงเหล่านี้ล้วนเป็นของดีอย่างเอกไม่เคยพบเคยเห็น จากข้อมูลเดิมกล่าวถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านตะวันออกตรงข้ามศาลากลางจังหวัด หรือ วังของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช



    </TD><TD width=10>




    </TD><TD vAlign=top width=395>สมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงกล่าวไว้ว่า “เป็นวัดใหญ่และสำคัญกว่าวัดอื่นๆ ในเมืองพิษณุโลก มีพระธาตุรูปพระปรางค์อยู่กลางจะเห็นสร้างครั้งกรุงสุโขทัย เป็นราชธานีแต่ซ่อมแซมมาหลายครั้งหลายสมัย” วัดนี้ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าผู้ใดเป็นผู้สร้างมีแต่ข้อสันนิษฐานว่า น่าเชื่อว่าผู้ใดเป็นผู้สร้างพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระมหากษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงสุโขทัย และมีการเปลี่ยนแปลงสถาปนาครั้งหลังในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยการปรับปรุงรูปแบบทางลักษณะสถาปัตยกรรมหลายประการ



    </TD></TR><TR><TD width=395></TD><TD width=10></TD><TD width=395></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=395>เมืองพิษณุโลกเดิมชื่อเมืองสองแคว คือ แควยมกับแควน่าน และเปลี่ยนเป็นเมืองพิษณุโลกในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถซึ่งพระองค์ได้เสด็จขึ้นมาประทับที่เมืองสองแควตั้งแต่ พ.ศ. 2006 จนสิ้นรัชกาลในปี พ.ศ. 2031 ในอดีตเป็นเมืองสำคัญเป็นทั้งเมืองลูกหลวงและเป็นเมืองด่านสำคัญเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางภาคกลางและภาคเหนือ ซึ่งเป็นปราการสำหรับป้องกันทางภาคกลางตอนเหนือที่สำคัญ ซึ่งยังคงอยู่กับทางพม่า
    อาณาเขตของพิษณุโลกปัจจุบันมีเนื้อที่ 8,658 ตารางกิโลเมตร ทิศเหนือจรดเขตจังหวัดอุตรดิตถ์และลาว ทิศตะวันออกจรดจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย ทิศตะวันตกจรดจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดกำแพงเพชร ทิศใต้จรดจังหวัดพิจิตร ดังนั้นถ้าวิเคราะห์จากถิ่นฐานบ้านช่องการสืบสายทางสกุลช่างสุโขทัย สกุลช่างกำแพงเพชร และพระนครศรีอยุธยา น่าจะเป็นแหล่งหล่อหลอมวัฒนธรรมทางศาสนา วัฒนธรรม ในแบบสกุลช่างพิษณุโลก ในสมัยพระนครศรีอยุธยา ดังนั้นศิลปะแบบพิษณุโลกน่าจะมีความงดงามของที่สุดของแห่งศิลปะเดียวกัน ซึ่งมีเอกสิทธิ์พิเศษไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน



    </TD><TD width=10>




    </TD><TD vAlign=top width=395>สำหรับพระพุทธชินราชใบเสมา พระพุทธชินสีห์และพระศาสดาที่มีชื่อซึ่งตั้งขึ้นใหม่เมื่อราว พ.ศ. 2450 นั้นเป็นพระกรุที่ยืนยันได้ว่าพบในพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุอย่างแน่นอน ในการพบก็มิใช่แต่จะพบเฉพาะพระพิมพ์พระพุทธชินราช เท่านั้น ยังคงพบพระพิมพ์อื่นๆ อีกไม่น้อย นอกจากนี้ส่วนพระเนื้อดินก็พบทั้งที่พิษณุโลกเองและพบที่จังหวัดกำแพงเพชรแต่ไม่เด่นชัด เพราะพบน้อยมากจนขาดความสนใจจากผู้คนไปและมักไม่กล่าวขวัญกันมากนัก เช่น พระพิมพ์ อัฎฐารส เป็นพระปางลีลา ด้านหลังเป็นพระซุ้มปางมารวิชัย พระพิมพ์นี้พบเช่นเดียวกันที่กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี พระทางวัดใหญ่เป็นพระชุดเล็กน่าใช้ เพราะดูจะเป็นพระพิมพ์คล้ายพิมพ์ท่ามะปรางหรือพระพุทธชินราชด้วยซ้ำไป พระซุ้มระฆังก็พบมาก พระซุ้มระฆังนี้พบทั่วไปในภาคกลางไม่ว่าจะเป็นกรุพิษณุโลก กรุสุพรรณบุรี เช่นกันแต่ค่านิยมค่อนข้างน้อย ถ้าเปรียบเทียบกับพิมพ์อื่นๆ ที่กล่าวข้างต้นทั้งนี้ความชัดเจนของกรุและหาคนฟันธงลงไปว่า “กรุไหนกันแน่” เพราะพิมพ์นี้มีลักษณะแตกต่างกันในเชิงช่างไม่มากนัก ส่วนเนื้อชินก็เป็นชินเงินสูตรเดียวกันผิดกันแต่พระพิมพ์อัฎฐารสพิมพ์เดียวที่เป็นชินเขียวสนิมไข่แมงดา ส่วนพระพิมพ์องค์อื่นๆ มักเป็นสนิมเกล็ดกระดี่ สนิมขุมหรืออาจมีการฉาบปลอดให้แววงามสดใสบางครั้งก็เป็นเกร็ดพิมพ์แสนอย่างที่นิยมกัน



    </TD></TR><TR><TD width=395></TD><TD width=10></TD><TD width=395></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=395>สำหรับพระพุทธชินราชนั้นอาจแบ่งเป็นพิมพ์ได้ 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก แต่ทุกแบบทุกพิมพ์ไม่มีเค้าแบบศิลปะของสุโขทัยเลยกันเป็นศิลปะที่เก่าแก่ไปกว่านั้นหรืออาจเก่าแก่ศิลปกรรมในสมัยพระมหาธรรมราชา (ลิไท) เสียอีกซึ่งอาจจะกำหนดอายุถึงสมัยขอมเรื่องอำนาจเช่นเดียวกับพระร่วงกรุนำของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุจังหวัดสุโขทัย ซึ่งแม้วัดและเจดีย์ทรงดอกบัวจะสร้างตามคตินิยมตามแบบสุโขทัยก็ตามซึ่งอาจสร้างครอบทับโบราณสถานเก่าซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่านั้นก็เป็นไปได้ ตัวอย่างเช่นนี้ก็จะเห็นได้จากพระพิมพ์จากกรุวัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่เรารู้จักกันในพระนาคปรก กรุพระงั่ว นั้นเอง ทั้งนี้ทางด้านหลักฐานทางประวัติศาสตร์ก็มิได้มีใครยืนยันว่า ก่อนพญาลิไทขึ้นมาปกครองมันมีวัฒนธรรมดั้งเดิมอยู่แล้วหรือไม่ อาจจะเป็นเช่นเดียวกับวัดจุฬามณี ก็เป็นได้เรื่องนี้ก็คงต้องดูๆ แลกันต่อไป



    </TD><TD width=10>




    </TD><TD vAlign=top width=395>บทความนี้มิต้องการให้เป็นผู้อ่านคิดเห็นให้ตรงกับผู้เขียนเสมอไป แต่ผู้เขียนต้องการให้ท่านผู้ท่านได้พิจารณาแบบอย่างทางศิลปะและอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด จงพิสูจน์ด้วยตาและหู พร้อมทั้งสติและปัญญาอย่างแท้จริง เพราะคนเล่นพระด้วยหูนั้นพังกันมานักต่อนักแล้ว
    นักเล่นพระรุ่นเก่านิยมกันมานาน เพราะขนาดไม่ใหญ่ ไม่บิดจนเกินไปนัก อีกทั้งมีประสบการณ์ต่อเนื่องยาวนาน พิสูจน์ได้อย่างแท้จริงถึงอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ประจักษ์จนเป็นที่ยอมรับของผู้ที่แขวนบูชาอย่างต่อเนื่องมั่งคงและโปรดอย่าลืมว่า อำนาจแห่งศีล สมาธิ นั้นมีพลังมหาศาลยิ่งนัก การบูชาในสิ่งที่ควรบูชาก็นับเป็นมงคลสำหรับชีวิต ดังนั้นพระพุทธชินราช วัดใหญ่หรือจะพิมพ์อื่นๆ ในกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลกก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรถูกมองข้าม ท่านไม่จำเป็นต้องแขวนพระเบญจภาคีให้ครบทุกองค์ แขวนพระพุทธชินราชใบเสมาองค์เดียวก็เหมือนกับว่า ท่านแขวนเบญจภาคีทั้งหมดนั้นและเพียงขึ้นอยู่กับว่าท่านบูชาอาราธนาด้วยศรัทธาอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้วหรือยัง ถ้ายังก็อุปมาดัง ท่านมีโทรศัพท์มือถือแต่ลืมเปิดเครื่องฉะนั้นแล ขอบอก



    </TD></TR><TR><TD width=395></TD><TD width=10></TD><TD width=395></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เข้าชมรูปภาพพระพุทธชินราช
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  12. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    ช่วงนี้เห็นสร้อยประคำที่มีอิทธิคุณสูงๆออกมาให้ได้ชมหลายเส้น.....ชอบมากครับแต่ถ้าจะหาของวังหน้าคงยากหน่อย(ต้องอาศัยท่านสมบัติช่วยเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่มาก...หึหึ)ก็ขอนำของใหม่ที่ใกล้เคียงมาให้ชมนะครับผู้ที่มอบให้ผมมาร่วมยี่สิบปีบอกว่ามีส่วนผสมของเหล็กไหลอยู่ ก็คิดว่าใช่นะเมื่อเปรียบเทียบกับเหล็กไหลพญานาคของบรบือ สีสันเดียวกัน ดูดเหล็กเช่นกันครับ.....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขออนุโมทนากับเหล่านักรบธรรม ในธรรมปฏิบัติของทุกท่านครับ
    มรรควิถี ที่เราดำเนินไป..ให้เราได้เรียนรู้ รู้จักตัวตนของตนมากยิ่งขึ้น เราได้เห็น เข้าใจจิตใจตนเองและธรรมชาติของจิตมากขึ้น จนจิตเราได้เข้าใจ เข้าถึงความเป็นจริงมากขึ้น ว่าทุกสิ่งก็เป็นเช่นนั้นเอง ธรรมชาติของมันเป็นอย่างนั้นเอง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วขณะ แล้วแปรเปลี่ยนดับไปในที่สุด เราหมั่นปฏิบัติอยู่เนืองๆ ให้จิตได้เห็นความเป็นจริงนั้นเนืองๆ..จนกว่าจิตจะปล่อยวางความยึดถือ ตามกำลังและภูมิของจิต จากหยาบๆสู่ละเอียด...
    เปรียบแม้นการเดินไปสู่ยอดเขา แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆตามแรงกำลังของเราในแต่ละช่วงตอน ยามมีแรงมากก็เร่งก้าวเดิน ยามอ่อนล้า ก็พักรับสายลมโชยใต้ร่มเงาแห่งสมาธิ เรามุ่งหน้าเดินไปในเส้นทาง ทิศทางที่พ่อแม่ครูอาจารย์ได้นำไปก่อนหน้านี้แล้ว หมั่นเดินไป ช้าบ้าง เร็วบ้าง มีเพื่อนร่วมทางให้กำลังใจ ประคับประคอง จับมือเรียงร้อยกันไป สู่..จุดหมาย นิพพานัง ปรมัง สุขัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2011
  14. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    สร้อยประคำทั้งสองเส้นนี้สร้างโดยกลุ่มวังหน้า (เจ้ากรมท่าและคณะ) ในวาระปี 2404 อธิษฐานจิตโดยหลวงปู่โต มีพลังพุทธานุภาพมากถึง 62.5 เท่าของพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์นิยมทั่วไป เท่ากับสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำทีเดียวนะครับ
     
  15. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    เหรียญหลวงปู่โต ด้านหลังน่าจะเป็นพระนารายณ์ เนื้อตะกั่วถ้ำชาผสมเหล็กไหล องคนี้เจ้าคุณกรมท่าเป็นผู้สร้างถวาย อธิษฐานจิตโดยเจ้าคุณสมเด็จโต คณะหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร และองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาร่วมในพิธีอธิษฐานจิต ในวาระงานใหญ่ 2411 พลังพุทธานุภาพ 35 เท่าของพระสมเด็จทั่วไปครับ พลังครอบจักรวาล ใครเจอที่ไหนอย่าให้หลุดมือไปนะครับ หายากมากๆๆๆๆๆๆๆ


    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3116.JPG
      DSCF3116.JPG
      ขนาดไฟล์:
      597.4 KB
      เปิดดู:
      33,878
    • DSCF3117.JPG
      DSCF3117.JPG
      ขนาดไฟล์:
      626.6 KB
      เปิดดู:
      29,172
  16. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ที่สำคัญคืองดงามครือกันหุหุ :cool:
    กลุ่มประคำเหล็กไหลไพลดำมีอิทธิคุณสูง พร้อมทั้งมีคุณสมบัติพิเศษในตัวหลายอย่าง การที่จักได้พบพานของแท้ๆ ก็ยากนิดนึงครับ คงต้องช่วยๆกันในการอธิษฐานขอพระบารมีพระเบื้องบนให้ช่วยสงเคราะห์อีกวาระ สำหรับผมคงขอเป็นชุดสุดท้ายแล้ว

    หากหาเอง ก็โปรดระวังสักนิด ทราบมาจากท่านผู้พบเจ้าแรก เห็นว่ามีของเก๊ยัดไส้ด้วย มีมานานแล้วด้วยครับ จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมถึงไม่ค่อยแพง เพราะมีปริมาณเยอะนั่นเอง
     
  17. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    นี่แหละครับ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กันและกัน สาธุ.. :cool:
    ทว่า หากหลงทางก็สะกิดบอกกันได้นะครับ
     
  18. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    ขออนุโมทนากับเพื่อนร่วมทาง ผู้แสวงหาในธรรม กระแสแห่งบุญและความร่มเย็นแห่งวงศ์พุทธะก็เป็นดั่งนี้แล สาธุ
     
  19. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เกิน 5 ปีที่ผ่านมา ในความพากเพียรปฏิบัติธรรมของท่าน ดร.นนต์ อย่างต่อเนื่อง
    ได้แสวงหาหนทางแห่งความพ้นทุกข์ ใช่บ้าง ไม่ใช่บ้าง

    ผมรู้สึกได้เลยว่า ท่านคงเหนื่อยมามาก ขอเป็นกำลังใจให้ ให้ถึงมรรคาแห่งความพ้นทุกข์สมปรารถนาโดยเร็วเด้อ...อ้ายเอ๊ย...
     
  20. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๘๗

    ถาม - เคยมีพระท่านบอกไว้ว่าทำบุญหรือทานกับพระท่าน แล้วให้อธิษฐานว่า "นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ " ไม่ทราบว่าควรหรือไม่อย่างไรครับ?
    [​IMG]ที่โบราณาจารย์ท่านให้อธิษฐานว่าสังฆทานนี้
    จงเป็นพลวปัจจัยแก่การเข้าถึงนิพพาน
    ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอนครับ
    และหากกำหนดจิตอธิษฐานจริง ก็ต้องได้ผลแน่...แต่อาจช้าหน่อย
    โดยปกติจิตสังสารสัตว์จะสร้างภพขึ้นมาด้วยความคิดเสมอ
    แม้อธิษฐานขอไปให้ถึงนิพพานก็เหมือนกัน
    นิพพานในจิตที่ถูกห่อหุ้มด้วยอวิชชา
    ยังไงๆก็ยังคงเป็นภพหนึ่งที่จิตสร้างขึ้นมาด้วยความไม่รู้
    แค่บอกว่า "ขอให้ได้ถึง..." จะตามหลังมาด้วยอะไรก็แล้วแต่
    ล้วนแล้วแต่เป็นภพ เป็นสิ่งลี้ลับ เป็นสิ่งมองไม่เห็น
    เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งทั้งสิ้น
    ต่อเมื่อคำว่า "นิพพาน" ได้รับความเข้าใจอย่างถูกต้อง
    ว่าคือการพ้นจากการมีรูป มีนาม มีความปรุงแต่ง
    ซึ่งจะพ้นได้ ก็ด้วยการปล่อยความยึดมั่นถือมั่น
    ทั้งหยาบและละเอียดออกจากใจให้หมด
    ถ้าชาวพุทธมาได้ถึงทิฏฐิอันเป็นสัมมานี้
    แล้วอธิษฐานถวายสังฆทานเพื่อเป็นปัจจัยแก่นิพพาน
    จะทำให้จิตเล็งทิศทางเป้าหมายได้ถูกต้อง
    เป็นผลให้เกิดพลังอันเป็นปัจจัยอย่างถ่องแท้ไปด้วย
    เห็นจิตที่ถูกผูกกับสมบัติ เป็นจิตที่ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวน
    เห็นจิตที่ปล่อยสมบัติให้ผู้ชี้ทางออก เป็นจิตที่เริ่มแก้โซ่ออกทีละเส้น ทีละลำดับ
    เข้าถึงความรู้สึกปล่อยวาง เป็นอิสระ มีปีติสุข
    อันเกิดจากการให้ การจ่ายออก การไม่เอาไว้
    การไม่หวง การทำลายความตระหนี่
    ก็นับเป็นปฐมบทของการไปถึงนิพพานของแท้
    โดยเฉพาะทำกับเนื้อนาบุญอันประเสริฐของพวกเรา
    ก็ยิ่งให้ผลไพศาล เร่งให้เกิดผลลัพธ์ผลเร็วยิ่งๆขึ้น
    ธรรมทานของพวกเรา
    ก็นับเป็นนิพพานะ ปัจจโย โหตุ เหมือนกันนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...