หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

LOGO ช่างงามแต้หนอ...เข้ากรอบพอดิบพอดี

 

รับทราบและขอบคุณครับที่ให้เตรียมตั้งรับแต่เนิ่นๆ

การทุกอย่างต่างมีวาระ มีเป้าหมาย
การพูดคุยกันต่างๆในบอร์ดนี้ บางท่านก็ตามทัน บางท่านก็งงๆนี่พูดอะไรกัน
บางเรื่องดูเหมือนเกินจริง หรือบางเรื่องก็ดูเหมือนลุ่มหลง เพ้อฝันจนเกินเหตุ

แต่นั่นก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ยากยิ่งนักที่จะคาดเดากันได้

 

ด้วยความยินดีครับ ผมได้เข้ามาชมเว็บบอร์ดนี้ทุกวัน แต่ด้วยความไม่ค่อยรู้เรื่องพระเท่าที่ควร จึงขอเป็นผู้ศึกษาก็แล้วกัน การกระทำใดที่เป็นบุญเป็นกุศลแล้ว ก็ขอให้บุญกุศลนั้นจงส่งผมให้ทุกท่านบรรลุธรรมโดยเร็ว และการกระทำใดที่ประกอบด้วยบุญกุศลแล้วขอให้กาลนั้นจงสำเร็จด้วยเทอญ...
ที่บ้านผมพร้อมที่จะต้อนรับนักรบธรรมทุกท่านด้วยความเต็มใจ คำว่าเกรงใจกันไม่มีสำหรับนักปฏิบัติธรรม....ผมจะรอ 12 ส.ค. 54 หวังว่าคงได้พบทุกท่านะครับ...

 

เมื่อคืนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องออร่าของท่านพี่ท่านหนึ่ง
มีข้อมูลรายละเอียดการจำแนกวรรณะของออร่ามาแบ่งปันครับ



วันก่อนคุยกันเรื่องนี้กับท่านนนต์ เห็นว่าจะนำข้อมูลของออร่าพระพิมพ์กลุ่มเบญจภาคีมาแบ่งปันกัน ไว้รอชมร่วมกันนะครับ...

 

ขอบคุณมากๆครับ...ดีใจนะที่หันมาเป็นผู้สนใจศึกษา...

เรื่องมงคลหลายอย่างก็ควรเปิดใจศึกษาเป็นความรู้ติดตัวครับ
มีหลายท่านในที่นี้ มีความเชี่ยวชาญหลายๆด้าน พร้อมที่จะแบ่งปันกันได้ตลอดเวลา ไม่ปิดบังกัน
ขอให้เป็นแก้วน้ำที่ไม่เต็มเสมอ ไม่เช่นนั้น เราก็จะหมดโอกาสจะรับรู้ ในสิ่งที่ยังไม่รู้อีกมากมาย

ตามที่ท่านนนต์หรือพ่อแม่ครูอาจารย์บอก...
วัตถุมงคล หรืออะไรก็แล้วแต่ เมื่อเราตั้งใจศึกษา ก็จงศึกษาพินิจพิเคราะห์ให้รู้อย่างถ่องแท้
อย่ารู้แต่พอสังเขป เมื่อรู้แล้วก็จงปล่อยวาง ละเสีย ไม่เช่นนั้นเราก็จะกลายเป็นปู่โสม...

 

ผมาขออนุญาต ขัดจัดหวะการชมพระเครื่องนิดหนึ่งนะครับ เพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องพระเครื่องเท่าที่ควร ผมขอเสนอปัญหาที่ตัวเองกำลังประสบอยู่ เผื่อผู้อื่นที่กำลังเริ่มปฏิบัติธรรมอาจจะลองพิจารณาและน่าจะเป็นประโยชน์ดังนี้ สืบเนื่องจากผมเริ่มปฏิบัติธรรมตอนนี้ก็โดนสิ่งมาทดสอบผมที่หนักที่สุดก็คือภรรยา และลูก ตามที่ท่าน ดร.นนต์ แนะนำไว้ซึ่งทำเอาผมเกือบตายและยังผ่านไม่ได้ เมื่อวานนี้ผมได้โทรศัพท์คุยกับคุณแม่ชมเพื่อปรึกษาหาทางออกท่านก็บอกว่าจะแก้ที่คนอื่นไม่ได้เราต้องแก้ที่ตัวเราเท่านั้น โดยแก้ที่จิต การปฏิบัติธรรมขั้นแรกต้องทำศีลให้บริสุทธิ์ คำว่าบริสุทธิ์ต้องมาจากใจที่บริสุทธิ์ไม่ใช่คิดเอง หลักการทำใจให้บริสุทธิ์และมีศีลให้ไปศึกษา มงคล 38 ประการ ให้ฟังที่ละข้อแล้วคิดพิจารณาดูว่าตัวเองทำได้ทุกข้อหรือเปล่าหากไม่ได้ต้องปรับปรุง ผมก็เลยลองฟังดูปรากฏว่าเรายังมีข้อบกพร่องเกือบทุกข้อเลย คำว่าศิลก็คือสำรวจ กาย วาจา และใจ ให้เรียบร้อย เมื่อเรื่องนี้เรายังไม่เรียบร้อยแล้วไปปฏิบัติธรรมจึงทำให้การปฏิบัติของเราธรรมไม่ก้าวหน้า อย่างเพื่อนสมาชิกธรรมท่านอื่น เพราะผมข้ามไปฟังธรรมภาคปฏิบัติ จึงตามเพื่อนสมาชิกธรรมทั้งหลายไม่ทัน เพราะเรามาเรียนลัดไม่เรียนตามลำดับ....ก็ขอขอบคุณท่านสมบัติ และท่านดร.นนต์ ด้วยที่ให้สติผมเรื่อยมา และเป็นห่วงผม ผมสัญญาว่าจะต้องผ่านด่านนี้ให้ไม่ว่าจะอยากเย็นเพียงไรต้องไปให้ได้ครับ....ผมได้แนบลิงค์มงคล 38 ประการมาให้ด้วย เผื่อมีคนที่ยังเริ่มปฏิบัติจะได้ลองนำไปฟังดูครับ ลิงค์ได้ที่ Index of /pradhama/dhamma/mongkol

 

ครับเป็นความรู้อย่างมาก จะดูโดยใช้ปัญญาพิจารณาไปด้วย...ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ...

 

ขอบคุณและโมทนาสาธุในถ้อยธรรมะและข้อมูลธรรมะโดยผ่านสื่อทางเสียงนะครับ

หากเพื่อนธรรมท่านอื่นๆสนใจ Download ธรรมะนอกเหนือจากมงคล 38 ประการนี้
ก็สามารถย้อนขึ้นไปทีละ Step (Parent Directory) นะครับ อยากให้ลองฟังธรรมะของหลวงพ่อทูลบ้าง

ในคลังข้อมูลนี้แหละครับที่เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้กำลังศึกษา หรือศึกษามามากแล้ว
แล้วเข้าไปทบทวนความรู้ ทำความเห็น ความเข้าใจ ให้ถูกต้อง ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของเราเองครับ

ธรรมะ คือโอสถทิพย์มีมากมายหลายขนาน ชื่อว่าเป็นผู้ศึกษาธรรมะแล้ว
จงพิจารณาเลือกใช้ธรรมะรักษาโรคให้ถูกกับโรค

ขอโมทนาสาธุ
ขอให้ก้าวล่วงอุปสรรคขั้นพื้นฐานไปได้โดยเร็วเด้อทิด...เอ๊ย...

 

ธรรมะหลวงพ่อทูล
พิจารณาว่าดีเลิศคุณแล้ว จึงนำมาแบ่งปัน
ศึกษาได้ตามลำดับ เมื่อรู้ดีแล้ว ขอให้นำมาแบ่งปันกันนะครับ

สาธุๆ...ขอให้เจริญรุ่งเรืองในธรรมะทุกๆท่าน

สำคัญคือตัวปัญญา....<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD><TD>panya3.pdf (317.1 KB, 0 views)</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบคุณ..ผมได้เก็บธรรมะต่างๆ ไว้ในเครื่อง Server ลองเข้าไปศึกษาดูได้นะครับที่ Index of /pradhama

 

เมื่อประมาณสามปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จตุรวิทย์....อยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับผม (ท่านปฏิบัติสมาธิมานาน มีญาณมีตาที่สาม) ตรวจสอบพลังที่อยู่ในพระชุดเบญจภาคีของผม ปรากฏว่า พระสมเด็จวัดระฆังและพระนางพญาพิษณุโลก มีพลังออร่าเป็นรัศมีวงกลม มีแสงสีขาวนวลตา ท่านบอกว่ามีอิทธิคุณเด่นทางด้านเมตตาบารมีสูงมาก ส่วนพระรอดมหาวัน ลำพูน และพระผงสุพรรณ มีรัศมีของพลังออร่าเป็นวงรีคล้ายมีดปลายแหลม ท่านบอกว่ามีอิทธิคุณเด่นทางด้านปกป้อง แคล้วคลาด ปัดเป่า สิ่งไม่ดีเข้ามากระทบจะแฉลบออกไปหมด รวมทั้งคงกระพันด้วย ส่วนพระซุ้มกอกำแพงเพชร มีรัศมีของพลังออร่าเป็นตาข่ายสามารถยืดหยุ่นได้ ท่านบอกว่ามีอิทธิคุณสูงทางด้านโชคลาภซึ่งตรงกับแผ่นจารึกที่บอกไว้ว่า "มีกูแล้วไม่จน"

หลังจากนั้นผมจึงพยายามสร้างภาพพลังออร่าออกมาตามภาพที่เห็นเพื่อลงประกอบในบทความ "พระสมเด็จวัดระฆัง : มุมมองทางด้านวิชาการ" ซึ่งได้ตีพิมพ์ใช้ชื่อร่วมกันกับ อ.อรรคเดช สำนักพิมพ์อัมรินทร์พริ้นติ้ง ปี พ.ศ. 2553 หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมไปรู้จักกับอาจารย์สถิตย์ธรรม เพ็ญสุข ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการภาวนาสมาธิ และการตรวจสอบพลังออร่าในระดับแนวหน้าของเมืองไทย อีกทั้งท่านยังสามารถติดต่อกับ ครายออน (Kryon) คือ ผู้มีญาณชั้นสูงนอกระบบจักรวาล ซึ่งท่านยังได้ใช้พลังจักรวาลจากครายออนช่วยรักษาโรคต่างๆได้อีกด้วย ซึ่งผมเองได้มีประสบการณ์จากการไปพบท่านในครั้งแรก ก็คือ ผมลองให้ลูกศิษย์ท่านรักษาและตรวจอาการของโรค หลังจากนั้นผมมานอนพักในที่เขาจัดไว้ให้ หลังจากนั้น ขณะที่ผมนอนพักอยู่ๆผมก็ได้รับการถ่ายทอดพลังงานบางอย่างบีบอัดเข้ามาทางศรีษะเข้าไปจนเต็มตัว หลังจากนั้นตัวผมเบาและรู้สึกลอยได้ ทุกคนบอกว่าผมโชคดี เพราะไม่เคยมีใครได้รับพลังแบบนั้น (ผมก็ยังงงๆละคนสงสัยมาจนกระทั่งบัดนี้) เรื่องบางเรื่องมันดูเหมือนโอเวอร์จึงไม่ค่อยอยากจะเล่าให้ใครฟัง นอกเสียจากผู้นั้น จะสามารถรับคลื่นพลังงานจากตัวผมได้ จึงจะคุยกันต่อได้ (โปรดใช้วิจารณญาณในประเด็นนี้ มันสุ่มเสี่ยงกับอุปาทานและการลุ่มหลง ขอเป็นเพียงการเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันนะครับ)

ปล. กระแสพลังงานต่างๆ ไม่สามารถปิดบังผู้มีกระแสธรรมด้วยกันได้นะครับ เดินผ่านกันก็รู้ เอ่ยแค่ชื่อก็รู้ แม้จะไม่รู้ทั้งหมดก็ตาม นี่คือคุณสมบัติของนักปฏิบัติ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาวะของความละเอียดของจิตและสมาธิ หรือขึ้นอยู่กับบุญบารมีเก่าสะสมมา ซึ่งอาจแตกต่างกันไป เป็นปัตจัตตัง ลองพิจารณาใคร่ครวญกันเอาเอง ใครปฏิบัติผู้นั้นจะได้เองนะครับ



ตัวอย่างออร่าในพระสมเด็จวัดระฆังของบุคคลหนึ่ง

 

รัศมีหรือพลานุภาพของพระสมเด็จวัดระฆัง สามารถแผ่กระจายไปได้ถึง 100 เมตร แต่พระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีรัศมีแผ่กระจายไปไกลถึง 10 กิโลเมตร บ้านใครมีพระบรมฯ จะช่วยคุ้มครองคนได้เกือบทั้งตำบลเชียวนะครับ

 

สำหรับผู้เรียนรู้ใหม่ ดูพระดี ดูไม่ยาก ดูจาก LOGO นั่นแล
ขอยินดี ในกุศลดีที่ถ่ายทอดมาสู่ทายาท...จากรุ่นสู่รุ่น

ทราบมาว่า คุณยายก็มีของดีๆส่งต่อมายังหลานชายเยอะมากใช่มั๊ยครับ

 

พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ เนื้อดินว่านสีออกแดง ให้พิจารณาที่ลายนิ้วมือด้านหลังจะใหญ่และเป็นขดวงประมาณนี้ อาจแตกต่างกันบ้าง ลายนิ้วจะมีปุ่มเหมือนตาข่าย ให้ดูที่ธรรมชาติด้วยนะครับ มีหลายพิมพ์ทั้งมือที่วางบนหัวเข่า(บางคนเรียกนวม)ใหญ่และเล็ก และตำหนิอีกหลายอย่าง อย่าไปยึดตำหนิของเซียนผู้ใดผู้หนึ่งเป็นอันขาด (สภาพอย่างนี้ว่ากันด้วยเลขเจ็ดหลักครับ)

 

ขอบพระคุณมากๆและโมทนาสาธุครับ
การแปรผลทุกอย่างออกมาให้สัมผัสได้ สอดรับกับความเป็นจริงดีแท้หนอ

ทราบมาว่า...พระพิมพ์ TOP4 รัศมีคุ้มครองน่าจะได้มากกว่าข้อมูลข้างต้นครับ
ในความเห็นผม ท่านน่าจะทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพลังพระพุทธานุภาพรอบๆตัวเรา

 

ประทับใจครับ นี่หล่ะหนอท่านว่า จิ๋วแต่แจ๋ว หรือ เล็กพริกขี้หนู
น่าจะปิดทองภายหลังหรือครับ...

 

ความเห็นผม เป็นจำปีที่เหมือนน้ำเต้าเรียกทรัพย์ ข้างในน่าจะเป็นผงมวลสารกลุ่มพระผงกระมังครับ
งาช้างหากเจออากาศสีท่านน่าจะฉ่ำๆ

 

สบายดียามบ่ายครับเพื่อนธรรมทั้งหลาย...
ผมพึ่งเข้าไปเยี่ยมชมความคืบหน้าของ blog พระกริ่งปวเรศของท่าน ดร.
ก็ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จ จากความพากเพียรของท่าน มา ณ ที่นี้
จนวันนี้ก้าวไกลมาถึงบทความที่ 100 ได้กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของงานมหาพุทธาภิเษกหลวงปี 2411
ว่ามีความสำคัญต่อปวงชนชาวไทยอย่างไร เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่เตรียมการไว้รอวาระกึ่งพุทธกาล
กึ่งพุทธกาลจักเกิดอะไรขึ้นบ้าง เกี่ยวข้องอะไรกับชาวพุทธเรา ก็คงหาอ่านได้ทั่วๆไป



นอกจากนั้นแล้วยังพูดถึงคณะองค์อธิษฐานจิตในแต่ละปี พ.ศ.ตั้งแต่ปี 2394-2434
เสียดายที่ผมได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะไม่เปิดเผยความลับ พลังรายละเอียดต่างๆขององค์พระในแต่ละปี,พิมพ์,องค์เสก
ก็คงบอกได้แต่เพียงว่า...
พระกริ่งปวเรศปี 2411 มีพลังแรงกว่าพระสมเด็จวัดระฆังประมาณสิบเท่า(นิดๆ)
พระกริ่งปวเรศปี 2434 มีพลังแรงกว่าพระสมเด็จวัดระฆังประมาณห้าเท่า(นิดๆ)
และนัยยะสำคัญพิเศษอื่นๆภายใต้องค์หมุด-ฐานทองคำก็มีเช่นกัน...แต่พลังแรงเท่ากันจริง

ก็ลองๆประมวลความรู้ดูนะครับ เพราะความลับต่างๆก็ออกมาค่อนข้างมากแล้ว เพียงพอให้เลิกสงสัยเสียที

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 30 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 27 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>IT Man, nontayan+, somlatri+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอบพระคุณที่เยี่ยมชมครับ

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 31 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 28 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>nontayan, IT Man, somlatri </TD></TR></TBODY></TABLE>
ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ (31 คน ในช่วงบ่ายนี้)