หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เราๆชาวบ้านควรไปสักการะอยู่ 4 องค์ 4 ภาคดังนี้

1. ที่อุโบสถวัดพระญาติ อยุธยา - ภาคกลาง
2. ที่พระอุโบสถวัดปางไคร้... เชียงราย - ภาคเหนือ - หาข้อมูลไม่ได้ ไม่มีรูป
3. ที่พระอุโบสถวัดพระธาตุเรณู - นครพนม - ภาคอิสาน
4. ที่พระอุโบสถวัดของหลวงพ่อพระผุด ที่ภูเก็ต - ภาคใต้

สำหรับองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่แทนความร่มเย็นเป็นสุขทั้งประเทศก็คือพระแก้วมรกต กทม...

ผมหาข้อมูลมาเสริมให้ได้เท่านี้เองครับ

 

พระสมเด็จกลักไม้ขีดบุเงิน - ดีเด่นทางโภคทรัพย์ (ลป.โต+คณะลป.ใหญ่)

องค์แรกอัญเชิญประดิษฐานร่วมกับ TOP1,2,3,4 พระบรมฯพระองค์ที่ 1,2,3,4 ในภัทรกัปป์
ณ. พระเจดีย์ที่สร้างถวายหลวงปู่วัน อุตตโม วัดถ้ำพลวง สกลนคร (Link ที่ 2)

ส่วนองค์ที่สอง รู้สึกจะถวายพระอาจารย์ ที่บ้านเกิด ตอนที่มาขึ้นบ้านใหม่ผม ท่านเดินทางมาอัญเชิญเอง
นำไปประดิษฐานร่วมกับ TOP กับพระบรมฯ ณ พระเจดีย์ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ณ. ตอนนี้
ใต้ฐานพระเจดีย์บรรจุพระกรุวังหน้า,พระกริ่งปวเรศ ราวๆพันกว่าองค์ , พระบูชาวังหน้า ราว 3 องค์

โมทนาสาธุย้อนหลัง

 

ภาคขยายยอดถวาย...1 ปี เศษ...พร้อมๆกับการสร้างบ้าน...ทำได้ประมาณนี้แหละครับ

 

สวัสดีครับ พี่ๆธรรมทุกท่าน ผมอยากให้ถึงวันที่เราจะไปแสวงบุญวันเข้าพรรษานี้จังครับ รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกครับ อยากไปพบพระ ....... ที่สุดยอด
เราคงมีบุญมากนะครับที่ช่วยระดมทรัพย์และแรงที่ได้สร้าง กุฏิและศาลาปฏิบัติธรรมใหม่เพื่อให้ญาติธรรมได้ฟังธรรมกัน

 

อนุโมทนากับบุญ (ทานบารมี) ที่ท่านสมบัติได้กระทำในภพนี้ทุกประการ... บุญสะสมมากมายและเป็นกองใหญ่ขนาดนี้จะส่งผลต่อการบรรลุธรรมของท่านได้มาก...กล่าวกันว่า ผู้ที่ไม่ได้ออกบวชตั้งแต่ยังเป็นเณรหรือพระหนุ่ม วิธีลัดก็คือ การสร้างกองบุญที่ใหญ่สุดสักหนึ่งกอง เช่น การสร้างวัด โบสถ์ วิหาร พระพุทธรูป หรือแม้แต่การถวายพระบรมฯหรือพระบูชาดั่งที่ท่านสมบัติได้กระทำแล้ว ย่อมส่งผลใหญ่ต่อการบรรลุธรรมได้เร็วขึ้น... อย่างช้าไม่เกิน 7 ปี สำหรับการเร่งเพียรปฏิบัติตามวิชชาของพระพุทธองค์อย่างเคร่งครัด(แบบสายกลาง) ท่านจะพบกับการบรรลุธรรมอย่างแน่นอนครับ.... อนุโมทนา

 

สุดจะบรรยายเลยแหละครับ

 

รายงานภาพความคืบหน้าการสร้างกุฏิ (ครั้งที่ 3) ถวายแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ ณ ภูดานไห
ท่านให้เรียกนามท่านว่า...
พ.สุรเตโช<O</O

รวมยอดทำบุญที่ผ่านผม ณ. ตอนนี้อยู่ที่ 112,260 บาท<O</O
เบิกไปเป็นค่าใช่จ่ายในการก่อสร้างฯแล้ว 80,000 บาท
- ค่าไม้,วัสดุก่อสร้าง ประมาณ 60,000 บาท
- ค่าแรงช่าง 20,000 บาท
- ร้านวัสดุก่อสร้าง บริจาคกระเบื้องมุงหลังคาแล้ว
- มีเจ้าภาพทางนู้นรับสร้างห้องน้ำถวาย (10,000 บาท) แล้ว
- เพื่อนผม บริจาคประตู-หน้าต่างแล้ว

โมทนาสาธุทุกประการครับ

เนื้อความในจดหมายเพื่อนมีดังนี้....
ตอนนี้การก่อสร้างก็กำลังดำเนินไปด้วยดี กุฏิมุงหลังคาเสร็จแล้วและก็กำลังปูพื้น
ส่วนญาติโยมก็กำลังช่วยกันขนหินปรับปรุงทางเดินกันยกใหญ่
เขาเรียกว่าทำทางขึ้นสวรรค์ ทำเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า

บรรยายด้วยภาพละกันครับ…

***************************************************
Link ที่เกี่ยวข้อง...
1. รายละเอียดการทำบุญ
2. แจ้งยอดทำบุญคร้งที่ 1
3. รายงานความคืบหน้าการสร้างกุฏิ ครั้งที่่ 1
4. แจ้งยอดทำบุญคร้งที่ 2
5. พระนามจริงตามนิมิต
6. คุณซึ้งบน1,2,3 = 12,800
7. คุณสาวกธรรม1 = 12,000
8. คุณ Powernext = 500
9. คุณ wiwek = 1,000
10. รายงานภาพความคืบหน้าการสร้างกุฏิ ครั้งที่ 2
11. คุณ praserts = 4,000
12. ดร.ณัฐชัย = 5,000
13. รายงานภาพความคืบหน้าการสร้างกุฏิ ครั้งที่ 3
14. รายงานภาพความคืบหน้าการสร้างกุฏิ-ห้องน้ำ-ทางเดินจงกรม-แผงโซล่าร์เซลล์ ครั้งที่ 4
15. แสวงบุญภูดานไห (ปิดงานสร้างกุฏิ,ทางเดินจงกรม) โดยกลุ่มนักรบธรรม

************************************************************

 

หากมีบุญคงมีโอกาสได้พบเจอท่านสักครั้งนะครับ.....

 

เห็นด้วยครับ.....และไม่สงสัยเลยว่าทำไมท่านสมบัติถึงได้อัญเชิญพระธาตุและพระกริ่งปวเรศกระจายมอบให้ตามวัดต่างๆทั่วประเทศก็เพื่อการณ์นี้เอง(ถึงบางอ้อ)นับเป็นภาระกิจที่ยิ่งใหญ่มากๆครับ น้อยคนนักที่จักทำได้ด้วยประการทั้งปวงเบื้องบนคงคัดสรรค์แล้ว โมทนาสาธุกับบุญทุกประการที่ทำสำเร็จแล้วนะครับ.....

 

ได้เห็นภาพความก้าวหน้าในการก่อสร้างแล้วก็สุขใจครับ...กับบรรยากาศเรียบง่ายธรรมดาๆแบบพื้นบ้านอิสานเรา เป็นภาพที่หายากและมากด้วยความหมายเป็นการร่วมแรงร่วมใจทุ่มเทแรงกายเพื่องานศาสนาโดยแท้ ถึงเหนื่อยหน่อยแต่ก็ยังมีรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านนะครับ(อาทิตย์หน้า15,16ก.ค.เจอกันครับทุกๆท่าน)ผมเตรียมพระพุทธรูปโสธรหน้าตัก 9นิ้วไปถวายด้วยครับ

โมทนาสาธุ.....

 

ผมได้ร่วมทำบุญกับมูลนิธิสงฆ์อาพาธของปู่ประถมประจำเดือนก.ค 54 ( ตั้งใจไว้ว่าจะทำเป็นประจำทุกเดือนครับ )และขอร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ที่นครศรีธรรมราช ด้วยครับ

 

เป็นภาระหน้าที่ระหว่างที่เป็นสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าและกองทุนหาพระถวายวัดหน่ะครับ คือมีคนมากก็จริงแต่ส่วนใหญ่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่และมีภาระหน้าที่ทางโลกมากทั้งนั้น ท่านก็ร่วมบริจาคปัจจัยจัดหา พระบรมฯ โถแก้ว พระพิมพ์ฯ ฯลฯ

ผมเองแม้จะมีภาระหลายเรื่อง แต่เห็นว่าเป็นบุญใหญ่ที่คนมองข้าม ผมเลยขันอาสาทำแทน และทำให้ดูเป็นตัวอย่างแก่ชนรุ่นหลังว่า ไม่มีอะไรที่มนุษย์เราทำไม่ได้ ช่วงนั้นผมไม่มีรถ ก็ใช้ทั้งรถทัวร์ตีตั๋วสองที่นั่ง ,ขออาศัยรถขององค์กรที่ทำงาน , ระหว่างเดินทางไปทำงานทั่วประเทศ , เหมา taxi , ไหว้วานญาติๆให้นำมาส่ง, แม้กระทั่งญาติที่เป็นมุสลิมเขายังอุตส่าห์ขนพระบูชา พระบรมฯ พระธาตุ พระพิมพ์ มาให้ผมถึงที่นี่เลยนะ น่าชื่นใจมั๊ย?

พอตั้งหลักได้ก็ได้บอกบุญและขอให้เพื่อนธรรมหลายๆสายช่วยกันอัญเชิญ กระจายไปให้ทั่วถึง

ผมประทับใจวัดสังฆทานมากที่แต่ก่อนผมเคยได้รับแจกพระบรมฯขนาดเม็ดงา โดยขอแบ่งจากเพื่อนผมมา 14 องค์ มาบูชาครั้งแรกในชีวิต แต่มารู้ภายหลังที่ญาติธรรมทาง กท. ได้บอกว่าวัดสังฆทานเขาขอนะชุดที่ผมฝากไว้ ปีติมากครับที่ได้ตอบแทนบุญคุณวัดนี้

ในภพนี้...ผมเคยบวชสองวาระ
วาระแรกคือบวชเณร เพื่อศึกษาต่อทางโลก(ม.1-ม.4) บวชได้ 5 ปี ร่อนเร่ไปหลายที่...จาก...ร้อยเอ็ด,มหาสารคาม,นครสวรรค์และพิษณุโลก
วาระที่สองคือบวชพระ เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่มารดาผู้ให้กำเนิด บวชได้ 9 วัน ได้ฉายา เตชปัญโญ

ขอขอบคุณท่าน dr.นนต์นะครับที่ให้พรเสียอย่างสูง ผมขอน้อมรับทุกประการ
ผลบุญที่ผมได้กระทำมาแล้วนี้ จงได้ย้อนกลับหาทุกๆท่าน ที่ได้รับรู้ในบุญกุศลที่ผมได้กระทำในภพนี้และทุกๆกัปป์พุทธันดรด้วยเทอญฯ

 

โมทนาสาธุบุญทุกๆประการครับ
ไม่ทราบว่าท่านได้ post แจ้งทางบอร์ดดังกล่างข้างต้นยังครับ

อัน'บุญ'นี่ไฝกิน คนนั่นเพิ่นกะอิ่ม มันบ่ไปอิ่มท้อง คนพุ้นผู้บ่กิน
ซั่นแล้ว...

 

คุณยายเสื้อสีขาวนั่นแหละครับที่ชื่อบุญชม
ท่านเป็นผู้ปฏิบัติธรรมขึ้นชั้นสูงแล้ว แต่ท่านป่วยหนัก หากคนธรรมดาคงล้มหมอนนอนเสื่อ
แต่นี่ยังทำงานหนักได้ด้วย น่าโมทนาสาธุบุญยิ่ง

ขอโมทนาสาธุบุญด้วยนะครับ แล้วเจอกันเด้อ...

 

บทสวดมนต์จากพระโอษฐ์ ปฏิจจสมุปบาท (วัดนาป่าพง)

ขอขอบพระคุณท่านพี่ฯที่ส่งมาให้เผยแพร่

 

ผมไปค้นต่อได้ดังนี้
และติดตั้งลงเครื่องไว้อ่านได้ ตาม link

ผู้เขียนถูกจุดประกายมาจากการอ่าน และพบข้อความที่กล่าวแสดงว่า

"ในครั้งตรัสรู้ใหม่ๆ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตัดสินพระทัยที่จะไม่ประกาศเผยแผ่ธรรมที่ท่านตรัสรู้ เพราะทรงท้อพระทัยในการแสดงธรรมว่า หมู่สัตว์ทั้งหลายคงยากที่จะเข้าใจในความลึกซึ้งของ ปฏิจจสมุปบาทและนิพพาน" ตลอดจนการพบพระพุทธพจน์ ที่ตรัสไว้ว่า

ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นชื่อว่าเห็นธรรม​

และเมื่อศึกษาพิจารณาก็พบว่า เป็นธรรมอันลึกซึ้งที่พระพุทธองค์ทรงพิจารณาอันเป็นเหตุปัจจัยให้ตรัสรู้ อริยสัจ๔ เพราะความจริงแล้ว อริยสัจ และ ปฏิจสมุปบาท ก็ล้วนเป็นธรรมเดียวกันนั่นเอง และภายหลังตรัสรู้พระองค์ยังทรงพิจารณาโดย อนุโลมและ ปฏิโลมอีกตลอด ๗ วันแรกของการเสวยวิมุตติสุขจากการหลุดพ้น จนบังเกิดพุทธปีติเปล่งพุทธอุทาน อันบังเกิดเป็นพุทธอุทานในพระศาสนาขึ้นถึง ๓ ครั้ง ๓ ครา อันล้วนเกิดจากความปีติพระทัยในความลึกซึ้งของ "ปฏิจจสมุปบาท" จึงได้ปฏิบัติโดยการโยนิโสมนสิการในปฏิจจสมุปบาทโดยละเอียดและแยบคาย
จึงพอได้เห็นธรรมความลึกซึ้งของ ปฏิจจสมุปบาท คือ เห็นถึงกระบวนการหรือกระบวนธรรมของจิตในการเกิดขึ้นแห่งทุกข์และการดับไปแห่งทุกข์โดยละเอียดจนจบครบวงจรอย่างสมบูรณ์ จึงบันทึกไว้ในแนวทางแบบจำแนกแตกธรรมให้เห็นทั้งเหตุและผลโดยละเอียด อันเกิดขึ้นจากการ โยนิโสมนสิการ คือการพิจารณาโดยละเอียดและแยบคาย ตามความเป็นจริงของธรรม(ธรรมชาติ)นั้นๆ, จนพอเข้าใจกระบวนธรรมของจิตในการเกิดขึ้นและดับไปแห่งทุกข์อย่างละเอียดโดยใช้ความรู้ความเข้าใจใน ปฏิจจสมุปบาท และ ขันธ์๕ มาประยุกต์อธิบายในธรรมของพระพุทธองค์โดยพิสดารและถูกต้องตามพระพุทธประสงค์ อันยังให้สามารถเข้าใจในสภาวธรรมหรือธรรมต่างๆได้ดีขึ้น ทั้งในแนวการพิจารณาแบบพุทธศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ก็ตามที ซึ่งควบคู่กันไปอย่างสอดคล้องถูกต้องตามความเป็นจริง อันยังผลให้การปฏิบัติตามปัญญาญาณที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างราบรื่นและก้าวหน้า, โดยการโยนิโสมนสิการด้วยความเพียร และอาศัยการศึกษาค้นคว้าประกอบกัน เช่น จากหนังสืออันทรงคุณค่าเกี่ยวกับปฏิจจสมุปบาทของท่านพุทธทาส ผู้จุดประกายธรรมอันลึกซึ้งนี้ให้ปรากฎแก่ชาวโลกให้มาสนใจธรรมอันลึกซึ้งนี้อีกครั้งหนึ่งด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องตามพุทธประสงค์ว่าไม่ใช่เป็นเรื่องข้ามภพข้ามชาติแต่เพียงอย่างเดียว ดังที่ยึดถือและถ่ายทอดกันต่อๆมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานนับเป็นพันปี แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติเพื่อการสิ้นภพ สิ้นชาติ เสียตั้งแต่ในปัจจุบันชาตินี้ หรือในปัจจุบันจิตนี้ที่มีการเกิดดับๆ...อยู่ตลอดเวลาเป็นสำคัญ, และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหนังสือของท่านพระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) ผู้ได้เสริมสร้างความเข้าใจในธรรมให้ก่อกําเนิดเป็นรูปร่าง จากหนังสือ"พุทธธรรม"อันทรงคุณค่ายิ่ง, และข้อธรรม ข้อคิดของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล จากหนังสือ"อตุโล ไม่มีใดเทียม", หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ฯลฯ. ผู้เขียนจึงใคร่ขอกราบขอบพระคุณแด่ปูชนียบุคคลผู้ทรงคุณค่าทั้งหลายที่ได้กล่าวถึงหรืออ้างอิงในเวบนี้ เป็นอนุสรณ์ ณ ที่นี้ ตลอดจนบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกๆท่าน ตลอดจนครอบครัวและคุณยุวดี คูภิรมย์ ผู้เข้าใจผู้เขียนเป็นอย่างดีและให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างดียิ่งมาโดยตลอด

ผู้เขียนเอง เมื่อแรกปฏิบัติก็หลงงงงวยเป็นอย่างยิ่ง พาให้ปฏิบัติถูกปฏิบัติผิดโดยไม่รู้ตัวด้วยอวิชชา ไม่รู้แนวทาง เมื่อพอมีความรู้ความเข้าใจบ้างแล้ว จึงใคร่ตอบแทนคุณพระศาสนา และเพื่อเป็นประโยชน์สืบไป จึงได้บังเกิดหนังสือและโฮมเพจบันทึกธรรมนี้ขึ้นมา ตามความเข้าใจในธรรมที่ได้บังเกิดขึ้นบ้าง เพื่อสืบสานพระศาสนา และเทิดพระเกียรติ์แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เองพระองค์นั้น ในธรรมอันยิ่งใหญ่ และเพื่อบรรดากัลยาณมิตรในธรรมทั้งหลายที่ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสแก่นธรรมแท้ๆ จักได้มีโอกาสได้สัมผัสแก่นธรรม อันจักยังประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ผู้เห็นธรรมนั้น สมดั่งพระพุทธพจน์ ที่ได้ตรัสไว้ว่า

"ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม"
(มหาหัตถิปโทปมสูตรที่ ๘)​

ข้อธรรมบรรยายจะเป็นไปในลักษณาการที่แจงให้เห็นเหตุเห็นผล หรือความเป็นเหตุปัจจัยตามหลักปฏิจจสมุปบันธรรม คือธรรมหรือความเป็นสภาวธรรมหรือธรรมชาติจึงอาจมีลักษณะที่แลดูเยิ่นเย้อ ที่พยายามแจงเหตุ อธิบายผลให้เห็นอยู่เนืองๆ ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแท้จริง ก็เนื่องจากเป็นธรรมอันประณีต เพื่อให้เกิดความเข้าใจหรือปัญญาญาณเป็นสำคัญ อันมีจุดประสงค์สูงสุดเพื่อให้เห็นธรรม หรือธรรมจักขุ และย่อมยังให้การปฏิบัติธรรมเป็นไปอย่างถูกต้องแนวทางและราบรื่น การสื่อหรือการจำแนกแตกธรรมในแนวทางแบบนี้ จึงอาจไม่เหมือนข้อธรรมหรือธรรมะตามความเคยชินที่ผ่านๆมาบ้างเป็นธรรมดา
อนึ่งพึงระลึกว่าข้อธรรมใน Web นี้ เป็นการกล่าวเน้นไปในทางปฏิบัติด้านปัญญา หรือปรมัตถ์ สำหรับนักปฏิบัติที่ปรารถนาถึงขั้นจางคลายจากทุกข์คือเป็นสุขตามควรแห่งฐานะตนอย่างถาวร หรือจนขั้นดับสนิทแห่งทุกข์อย่างถาวรไม่กลับกลาย ด้วยปัญญาวิมุตติ จึงเป็นการกล่าวโดยโลกุตระเป็นสำคัญ คือตามปรมัตถ์ความเป็นจริงสูงสุดเป็นสำคัญ ที่ย่อมมีศีล สติ สมาธิความตั้งใจมั่นเป็นพื้นฐานคือบาทฐานอยู่ในที และเมื่อกล่าวกันถึงขั้นปัญญาอย่างโลกุตระแล้ว เบื้องต้นย่อมอาจเกิดความรู้สึกราวกับว่าขัดแย้งกับธรรมหรือสภาวธรรมบางประการที่มักกล่าวแสดงในแง่ของโลกิยะหรือแบบโลกๆโดยทั่วๆไปบ้าง แต่แท้จริงแล้วธรรมเหล่านั้นก็มิได้ขัดแย้งกันแต่ประการใด เป็นเพียงการจำแนกแตกธรรมออกไปเป็นลำดับขั้นลำดับภูมิก็เพื่อประโยชน์แก่ชนทุกระดับ การจำแนกแตกธรรมจึงมีความแตกต่างกันไปตามโลกุตตรภูมิหรือโลกิยภูมิ จึงพึงพิจารณาโดยแยบคาย

ผู้เขียนปฏิจจสมุปบาท ยินดีให้เผยแพร่ ส่วนหนึ่งส่วนใด ข้อเขียน ข้อความ ทั้งหลายทั้งปวงในรูปแบบต่างๆได้ โดยไม่สงวนสิทธิใดๆทั้งสิ้น เพราะย่อมยังประโยชน์แก่ผู้อ่าน โดยเฉพาะนักปฏิบัติและโลกเป็นที่สุด​

พนมพร คูภิรมย์​

 

ขอให้บุญนี้จงทำให้พี่มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไป

 

พี่ IT MAN ครับเราจะได้ช่วยสร้างเหมือนในรูปบ้างใหมครับ (ออกค่ายธรรม)

 

ขอร่วมทำบุญสร้างกุฏิ,ศาลาปฏิบัติธรรม ถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ เป็นจำนวน 5,000
บาทครับ โอนเข้า บ/ช คุณบุญชม เวลา 18.30 น. เรียบร้อยแล้วครับ
ขออนุโมทนาบุญ ทุกประการ กับทุกท่านที่ร่วมทำบุญก่อนหน้านี้ด้วยครับ

ขอรบกวนถามท่านอาจารย์ นนต์ ครับ เรื่องมือใหม่หัดนั่งฯ เมื่อเราเริ่มหัดนั่งสมาธิใหม่ๆ ภาวนา พุธ-โธ กำหนดลมหายใจเข้า-ออก จิตมันเหมือนกับลิง วิ่งไปโน่นมานี่
คิดไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผ่านมาประมาณ 2 เดือน ลิงตัวนี้เริ่มเชื่อง บอกให้อยู่กับที่ตรงนี้
มันก็อยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน คำภาวนา พุธ-โธ มันหายไปเมื่อไหร่ ไม่รู้ ลมหายใจก็เหมือน
จะไม่มี เป็นอย่างนี้มา 3-4 วันแล้ว อยากถามท่านอาจารย์ นนต์ ผมควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ

 

ก็ได้แต่หวังว่า...คงพอเหลือให้ช่วยสร้างกระมังครับ หุหุ