หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 16 พฤษภาคม 2011.

  1. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,983

    สวัสดีครับป๋าบัติ และสมาชิกทุกท่านครับ
     
  2. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,983

    สวัสดีครับคุณ จันท์คับ ช่วงนี้ยังสามารถไปกราบนัสการพระสรีระองค์หลวงปู่ได้ตลอดครับ แต่ถ้าหากมีข่าวความเคลื่อนไหวจะนำมาแจ้งให้ทราบต่อไปครับ
     
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,597
    ค่าพลัง:
    +30,884
    [​IMG][​IMG]
    ล็อกเก็ตรุ่น 6 หลวงปู่พิศดู
    - ล็อกเก็ตรุ่นนี้สร้างปี พ.ศ.2550 โดยคณะศิษย์โรงพยาบาลจุฬาฯ สร้างถวายเพื่อให้หลวงปู่แจกเป็นทานบารมี ให้กับสานุศิษย์ที่มากราบเยี่ยม หลวงปู่ท่านตั้งชื่อรุ่นนี้ว่า "รุ่นปาฏิหาริย์ 2" ลักษณะล็อกเก็ตรุ่นนี้เป็นล็อกเก็ตฉากสีเขียว มีชื่อหลวงปู่เขียนว่า ธมฺมจารี สุขํเสติ พระทุกองค์เลี่ยมด้วยกรอบไมครอน จำนวนสร้างทั้งหมด 300 องค์เช่นกันกับ รุ่น5 แต่ล็อกเก็ตรุ่น6 นี้หลวงปู่อธิษฐานจิตนานถึง 2 ปีเต็ม ถึงค่อยแจกให้กับผู้ที่สมควรต่อไป นับได้ว่าเป็นล็อกเก็ตรุ่นที่หลวงปู่อธิษฐานจิตเอาไว้ยาวนานที่สุด ท่านบอกว่า "เก็บเอาไว้นานๆ เอาไว้รักษาตัว" ครับ


    ล็อกเก็ตรุ่น 7 หลวงปู่พิศดู


    [​IMG] [​IMG]
    1.ล็อกเก็ตหน้าหนุ่ม หลวงปู่พิศดู
    - พระชุดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2551 โดยลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่เป็นผู้สร้างถวาย (ลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากหลวงปู่มีหลายคนนะครับ) ได้ร่วมกันสร้างล็อกเก็ตรุ่นนี้ครับ โดยองค์หลวงปู่เป็นผู้บอกให้สร้างด้วยองค์เอง เพราะที่ผ่านๆมาได้มีแต่สร้างล็อกเก็ตรุ่นหน้าปัจจุบันกันหลายรุ่น(แต่ละรุ่นก็มีไม่มาก) หลวงปู่ท่านบังเอิญไปพบรูปเก่าๆตอนสมัยหนุ่มเข้า จึงบอกให้ลูกศิษย์เอารูปดังกล่าวไปทำเป็นล็อกเก็ตมาให้ท่าน ตอนแรกลูกศิษย์ถามว่าจะให้เขียนชื่อหลวงปู่ว่าอย่างไร จะให้เขียนคำนำหน้าว่า..หลวงปู่ หรือหลวงพ่อ ท่านตอบว่าไม่ต้อง แต่ให้ใส่คำว่า ธมฺมจารี สุขํเสติแปลตามบาลีว่า ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข ครับ ล็อกเก็ตรุ่นนี้สร้างออกมาพอสมควร จำนวนทั้งหมด 500 องค์

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    2.ล็อกเก็ตใส่หมวก(อินเดีย)
    - นอกจากล็อกเก็ตรูปหน้าหนุ่มแล้ว ยังมีล็อกเก็ตรูปใส่หมวกอีก สร้างในระยะใกล้เคียงกันมาก และน่าจะทำจากโรงงานเดียวกัน รุ่นนี้สร้างโดย พระอาจารย์สุรพงษ์ วัดเขาน้ำซับ มีทั้งใหญ่-ภาพสี กับภาพขาวดำ และเล็ก-ภาพสี กับภาพซีเปีย จำนวนสร้างทั้งหมด
    องค์ใหญ่ภาพสี 108 องค์
    องค์ใหญ่ภาพขาวดำ 20 องค์

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    องค์เล็กภาพสี 108 องค์
    องค์เล็กภาพซีเปียน้ำตาล 20 องค์

    การบรรจุมวลสารด้านหลัง เนื่องจากลูกศิษย์ที่จัดสร้างไม่ค่อยมีเวลากันนัก เพราะแต่ละคนก็อาจมีภาระทางบ้าน และในขณะนั้นหลวงปู่กลับอาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จึงไม่มีเวลาที่จะนัดกันมาอุดมวลสาร จึงจำเป็นต้องจ้างช่างอุดให้ โดยเอามวลสารต่างๆ ไปให้ช่างผสมเนื้อเพื่ออุดด้านหลังครับ ส่วนตะกรุดที่ฝังเป็นแผ่นยันต์ที่หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตให้ และท่านได้มอบหมายให้ลูกศิษย์เป็นผู้จารอักขระแทน โดยการใช้เหล็กจารประจำองค์ท่าน มอบให้ไปจารแทนครับ และปิดประทับด้วยจีวรเก่าที่หลวงปู่เคยใช้มาแล้วหลายปี ส่วนสีแดงๆที่ติดกับมวลสารคาดว่าน่าจะเป็นชาด ที่ช่างได้ทาเพื่อแปะจีวรและทาปิดรอยลั่นของเนื้อ แต่บางองค์ก็ปิดจีวรไม่อยู่ ทางคณะศิษย์ก็เลยจำเป็นต้องแกะเอาจีวรบางองค์ออก และใช้กาวอย่างดีแปะแทน แต่ก็ดีครับ...จะได้เป็นจุดสังเกตุได้ครับว่าถ้าเป็นของจริงในส่วนใหญ่ต้องมีชาดแดงทาด้วยจึงจะครบสูตรครับ


    [​IMG] [​IMG]
    ล็อกเก็ตรุ่น 8 หลวงปู่พิศดู

    - รุ่นนี้สร้างในปี พ.ศ.2552 โดยท่านครูบากฤษดา สุเมโธ ท่านขออนุญาติองค์หลวงปู่โดยตรง รุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับผู้ที่ทำคุณประโยชน์กับทั้งสองวัด และเป็นที่ละลึก คือเป็นรุ่นที่พิเศษมากๆ ครูบาท่านตั้งใจสร้างเองโดยตรง ด้วยมวลสารที่สุดยอดๆ ที่ท่านเก็บสะสมมา ผงที่ท่านทำเองและผงของครูบาอาจารย์ต่างๆด้วย และอธิษฐานจิตเอาไว้ตลอดมา รวมทั้งสุดยอดของผงมวลสารในแต่ละสำนัก อาทิ..
    - ผงพระธาตุต่างๆ
    - ผงสมเด็จวัดระฆัง
    - สมเด็จบางขุนพรหม
    - มวลสารจิตลดา
    - ผงหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
    - ผงหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
    - ผงหลวงปู่สี วัดเขาถ้าบุญนาค(รุ่นอายุยืน และชาญหมาก)
    - ผงหลวงปู่พิศดู ที่ท่านทำเองตั้งแต่ปี 2520
    - ผงโสฬสมหาพรหม
    - ผงมหาจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - ผงพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัล
    - และผงอีกหลายชนิด รวมทั้งมหาว่านมงคลต่างๆ เป็นจำนวนมาก

    - เกศา เล็บ จีวรเก่าของหลวงปู่พิศดู -เกศาท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ฯลฯ...ฯลฯ

    พระทั้งหมดนี้ท่านครูบาเมตตาจารอักขระเองทั้งหมดที่ฝาด้านใน ครูบาท่านจารอักขระไว้เยอะมากๆไม่มีที่ว่างเลย จากนั้นเอาเกศา เล็บ ของหลวงปู่พิศดู เกศาครูบาศรีวิชัย บรรจุเอาไว้แล้วจึงเอาจีวรปิดทับอีกชั้นแล้วจึงเอามวลสารต่างๆที่ผสมแล้วพอกอีกชั้นหนึ่ง หลังจากพวกมวลสารแล้วจึงเอาพระชัยประจำตะกูลที่สร้างเอาไว้ปี 2550 และเม็ดประคำแท้ๆของครูบาเจ้าศรีวิชัย บรรจุเอาไว้ทุกองค์ครับ เป็นวิธีการสร้างที่ละเอียดลออมาก โดยทุกขั้นตอนจะมีการกำหนดฤกดิ์-ยาม และท่านครูบาจะเป็นผู้กำกับเองทั้งหมด จากนั้นจะทำการอธิษฐานจิตเองทุกวัน โดยท่านอัญเชิญบารมีของคุณพระ ครูบาอาจารย์ทั้งหมด บารมีธรรมขององค์หลวงปู่พิศดูให้มาร่วมพิธีด้วยทุกวัน จากนั้นจึงได้นำพระทั้งหมดเอามาถวายให้องค์หลวงปู่ท่านเสกอธิษฐานอีกทีแล้วจึงมอบให้กับผู้ที่สมควรต่อไปครับ
    จำนวนสร้าง มีออกมาด้วยกัน 2 แบบ คือแบบซ้อนตรง 16 องค์ และซ้อนข้าง 16 องค์ ครับ


    [​IMG] [​IMG]
    ล็อกเก็ตรุ่น 9 หลวงปู่พิศดู(หน้าหนุ่ม 2)
    - ล็อกเก็ตรุ่นนี้จริงๆแล้วสร้างต่อจากล็อกเก็ต รุ่น7หน้าหนุ่ม ในปี พ.ศ.2552 โดยคณะศิษย์ชุดอุปัฏฐาก เนื่องด้วยล็อกเก็ตหน้าหน่ม รุ่น7 การให้สีขาดความชัดเจนไปบ้าง ลูกศิษย์จึงขออนุญาติสร้างขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่งเพื่อให้คมชัดกว่าเดิม เพียงไม่ได้ใส่ข้อความ ธมฺมจารี สุขํเสติ ที่ด้านหลังและลดขนาดลงกว่าเดิม 1 ไซด์ และฝากให้หลวงปู่อธิษฐานไปเรื่อยๆก่อนจนถึงเวลาที่ล็อกเก็ต รุ่น10 ออกมาจึงนำมาอุดผงมวลสารในคราวเดียวกัน โดยนำมวลสารเนื้อเดียวกัน และนำพระกลีบบัว สมเด็จองค์ปฐมรุ่นแรก พระธาตุ เกศา จีวร ตะกรุด บรรจุไว้ด้านหลังทุกองค์ สร้างจำนวนทั้งหมด 50 องค์ ครับ




    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    ล็อกเก็ตรุ่น 10 หลวงปู่พิศดู(ล็อกเก็ตพ่อ-ลูก)
    - ล็อกเก็ตรูปคู่ท่านพ่อลีกับหลวงปู่ หรือรุ่นที่หลวงปู่ตั้งชื่อให้ว่า ล็อกเก็ตพ่อ-ลูก สร้างในปี พ.ศ.2552-2553 โดยคณะศิษย์ จันทบุรี รุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้แจกเป็นที่ละลึกฉลองอายุ หลวงปู่พิศดู ครบ 86 ปี คณะศิษย์ผู้สร้างโดยได้รวบรวมมวลสารต่างๆมากมาย ตั้งแต่ใช้สร้างล็อกเก็ตรุ่นแรกถึงรุ่นสุดท้าย และมวลสารจากพ่อแม่ครูอาจารย์ต่างๆอีกมากมายหลายชนิดมากๆ เท่าที่ทางวัดเคยสร้างมา นำมาผสมรวมกันเพื่อเป็นมวลสารอุดไว้ด้านหลังล็อกเก็ตรุ่นนี้ อีกทั้งยังได้นำพระกลีบบัวสมเด็จองค์ปฐมรุ่นแรก และมี เกศา จีวร พลอยเสก ไว้ด้านหลัง จำนวนสร้างทั้งหมด

    1. ล็อกเก็ตฉากทอง สร้าง 30 องค์
    - บรรจุ พระกลีบบัวสมเด็จฯองค์ปฐม เนื้อโลหะแก่เงิน
    - พระธาตุ เกศา จีวร พลอยเสก(มีทั้งพลอยแดง และพลอยน้ำเงิน)
    (หรือบางองค์อาจบรรจุพระอุปคุต ยอดธง หรือเหรียญต่างๆ แล้วแต่คนที่บรรจุจะทำเอาไว้ใช้กันเอง)

    2. ล็อกเก็ตฉากสีเขียว สร้าง 700 องค์
    - บรรจุ พระกลีบบัวสมเด็จองค์ปฐม มีทั้งเนื้อ ทองเหลือง กับเนื้อทองแดง
    - เกศา จีวร พลอยเสก(มีทั้งพลอยแดง และพลอยน้ำเงิน)



    [​IMG] [​IMG]
    ล็อกเก็ตรุ่น 11 หลวงปู่พิศดู

    - ล็อกเก็ตรุ่นนี้องค์หลวงปู่พิศดู เป็นผู้บอกให้จัดสร้างในปี พ.ศ.2553 โดยให้คณะศิษย์ชุดอุปัฏฐาก เป็นผู้สร้างทั้งหมด โดยองค์หลวงปู่บอกว่า ให้ไปทำมาได้เลย ทางลูกศิษย์ก็เลยสนองพระเมตตาขององค์ท่าน โดยกำหนดเอารูปของหลวงปู่พิศดู กับท่านครูบากฤษดา อยู่คู่กันเป็นรุ่นที่2 และทางท่านครูบาก็เห็นด้วยตามนั้น ล็อกเก็ตชุดนี้ได้รวบรวมทั้งชนวน-มวลสารต่างๆมากมายสุดเท่าที่จะหาได้ โดยรวบรวมเอามวลสารจากวัตถุมงคลทุกรุ่นขององค์หลวงปู่พิศดูเอาไว้ในนี้ทั้งหมด และได้มวลสารจากท่านพ่อแม่ครูอาจารย์ต่างๆนับไม่ถ้วนมาผสมรวมกัน เพื่อบรรจุใส่ด้านหลังล็อกเก็ตรุ่นนี้ และยังได้สร้าง เหรียญพระมหาอุปคุตขนาดเล็ก เพื่อเอาไว้บรรจุใส่ด้านหลังล็อกเก็ตรุ่นนี้อีกด้วย ส่วนพิธีเสกนั้นได้เข้าพิธีเปิดโลกธาตุพุทธาภิเษกพร้อมกับรูปหล่อองค์หลวงปู่พิศดู รุ่นพระธรรมธาตุ(ทันใจ) โดยมีองค์หลวงปู่ กับท่านครูบากฤษดาได้อธิษฐานจิตร่วมกันเป็นที่เรียบร้อย จำนวนล็อกเก็ตที่สร้างทั้งหมด..

    - ล็อกเก็ตสี่เหลี่ยม รูปหลวงปู่-ครูบา ฉากทอง องค์เล็ก 30 องค์
    - ล็อกเก็ตสี่เหลี่ยม รูปหลวงปู่-ครูบา ฉากทอง องค์ใหญ่ 30 องค์

    - ล็อกเก็ตสี่เหลี่ยม รูปหลวงปู่-ครูบา ฉากขาว องค์เล็ก 109 องค์
    - ล็อกเก็ตสี่เหลี่ยม รูปหลวงปู่-ครูบา ฉากขาว องค์ใหญ่ 109 องค์


    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญพระมหาอุปคุต องค์เล็ก

    - เหรียญนี้จัดสร้างพร้อมกับล็อกเก็ตรุ่น 11 โดยได้ขออนุญาติองค์หลวงปู่เป็นที่เรียบร้อย ส่วนหนึ่งเพื่อจะนำมาอุดเอาไว้ด้านหลังล็อกเก็ตชุดนี้ โดยออกแบบให้เป็นรูปพระมหาอุปคุต พระหัตถ์ข้างหนึ่งจกบาตร อีกพระหัตถ์หนึ่งถือดอกบัว เพื่อบูชาพระพุทธองค์ และแหงนพระภักร์ชำเลืองมาร(มิให้ทำกิจอันเดือดร้อนวุ่นวายต่อผู้ที่นับถือพระศาสนา) เพราะองค์พระมหาอุปคุตเป็นผู้เลิศในทางฤทธิ์ เป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงพุทธทำนายเอาไว้ว่า ต่อไปท่านพระอุปคุตจะมาเกิด และจะบรรลุโมขธรรมนำพาเวนัยสัตว์น้อยใหญ่ให้พ้นจากบ่วงของมาร ท่านจักเป็นผู้ทำกิจบางอย่างแทนพระพุทธองค์ในทางพระศาสนา พระพุทธองค์ทรงยกย่องให้ท่านเป็นอนุพุทธะ ที่ปราศจากมหาปุริสลักษณะ และท่านพระมหาอุปคุตจะเป็นผู้ปราบพยามารให้ละพยศ และให้ตั้งความปราถนาซึ่งพุทธภูมิต่อไป และองค์ท่านพระมหาอุปคุต ท่านอาศัยอยู่ในย่านปราสาทแก้วกลางสะดือทะเล จึงออกแบบองค์พระให้ท่านได้อยู่ในซุ้มปราสาทกลางน้ำ ส่วนด้านหลัง ออกแบบให้เป็นอักขระขอมนำมาผูกร้อยเรียงกันเป็นยันต์ อ่านได้ว่า พระชนะมาร และมีตัวหนังสือไทยอยู่ด้านล่างสุดอ่านว่า วัดเทพธารทอง จำนวนสร้างทั้งหมดได้สร้างออกเป็นของ 2 วัด คือวัดของหลวงปู่จะเขียนบอกชื่อวัด และของวัดท่านครูบา จะไม่ได้บอกชื่อวัดเป็นเพียงแต่มียันต์อย่างเดียว โดยได้สร้างถวายไว้ทั้งสองวัดโดยประมาณ วัดละ 2,000 องค์

    เหรียญที่เจ้าของกระทู้พูดถึงน่าจะเป็นรุ่นนี้ใช่มั้ยครับ
     
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,597
    ค่าพลัง:
    +30,884
    <CENTER>เครื่องราง ของขลัง หลวงปู่พิศดู

    </CENTER>

    <HR style="COLOR: rgb(255,255,255); BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1>
    [​IMG] [​IMG]
    เบี้ยแก้ รุ่นแรก

    - เบี้ยแก้รุ่นแรกสร้างในปี พ.ศ.2550 โดยองค์หลวงปู่รับสั่งให้สร้างขึ้นด้วยองค์เอง ท่านเคยบอกว่า สมัยก่อนตอนเดินธุดงค์ไปตามชายทะเล เห็นเปลือกหอย(เบี้ย)สวยๆมากมาย แต่ไม่เคยคิดสนใจ แต่มาตอนนี้หาเปลือกหอยสวยๆยากแล้ว หลวงปู่ท่านทิ้งประโยคนี้เอาไว้เพียงไม่กี่วัน ท่านก็รับสั่งอีกว่า..ให้ไปหาเปลือกหอยเบี้ยมา ปรอท ชันโรง และอุปกรณ์มาทำเบี้ยแก้ให้ที เราจะเสกให้เอาไว้ใช้ ไว้กันพวกไสยศาสตร์ ต่อไปมันจะมีภัยนะ พวกไสยศาสตร์มันก็จะกลับมาอีก ทำเบี้ยแก้เอาไว้ใช้

    หากองค์หลวงปู่ท่านสั่งแล้วเป็นต้องทำให้สำเร็จ เพราะว่าปกติท่านไม่ค่อยสั่งอะไรแบบนี้ หากว่าสั่งแล้วต้องมีอะไรแน่นอนครับ
    และอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งบางคนอาจไม่ทราบว่า องค์หลวงปู่พิศดูท่านมีความรู้จักกันกับ หลวงปู่เจือ ปิยสีโล ผู้สืบสานวิชาเบี้ยแก้ของสำนักวัดกลางบางแก้ว ก็ไม่แน่ว่าท่านอาจจะเคยและเปลี่ยนวิชากันมาก่อนก็ได้ เพราะตามปกติครูบาอาจารย์สายพระป่าคงยังไม่เคยปรากฏว่ามีท่านใดคิดสร้างเบี้ยแก้เลย หรืออาจเป็นเพราะว่า เป็นคำสั่งจากพระข้างบนให้ทำก็อาจเป็นได้

    พวกลูกศิษย์ก้นกุฏิก็เลยต้องศึกษาข้อมูลวิธีสร้างเบี้ยแก้ แต่ไม่กล้าถามองค์ท่านเพราะกลัวโดนท่านดุ แต่ท่านเมตตาบอกว่าจะทำยังไงมาก็ได้ เสกได้หมดอยู่ที่เราจะอธิษฐาน ก็เลยโล่งใจไม่ถูกด่า ก็พอดีได้รู้จักกับองค์หลวงปู่ดี ธัมมะธีโร สมัยตอนท่านอยู่ที่วัดเทพากร ก็เลยขอคำปรึกษาในวิชาการสร้างเบี้ยแก้ของสำนักสายอ่างทอง ท่านก็เมตตาบอกเคล็ดวิธีต่างๆให้ เพราะท่านทราบว่าจะสร้างเพื่อการกุศลถวายครูบาอาจารย์ท่าน และเรายังได้รู้จักกับพระอาจารย์ท่านหนึ่งที่ได้เรียนวิชาทำเบี้ยแก้จากสายวัดกลางบางแก้วให้การแนะนำเพิ่มเติม พร้อมทั้งยังมอบปรอทและมวลสารมาให้อีกจึงนำมาประยุคเข้าด้วยกัน กรรมวิธีการทำโดยมีอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นผู้บรรจุปรอทและมวลสารใส่เบี้ยแทน โดยขั้นตอนการทำสลับที่สลับซับซ้อน

    มวลสารที่ใช้สร้างเบี้ยแก้ มีดังนี้
    - หอยเบี้ย ทั้งแบบหลังลายจุด และแบบหลังสีม่วง ขนาดต่างๆกัน
    - ปรอทธรรมชาติ ที่มีลูกศิษย์ไปดักมาถวาย..และที่มีลูกศิษย์ไปหามา จากที่ต่างๆ..ฯลฯ
    * ปรอทของครูบาอาจารย์ต่าง อาทิ หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ,หลวงปู่แช่ม วัดบ่อพุ ,หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ,หลวงปู่หลวง กตปุญโญ ,หลวงปู่ละมัย ..ฯลฯ
    - ผงมวลสารสำคัญต่างๆ มากมาย อาทิ แร่ธาตุต่างๆ ผงพุทธคุณจากครูบาอาจารย์ต่างๆ รวมทั้งผงพุทธคุณที่หลวงปู่ท่านทำไว้เมื่อปี 2520
    - ผ้าสบงเก่า เป็นของที่หลวงปู่เคยใช้มา
    - ชันโรงใต้ดิน ใต้จอมปลวก ที่อยู่กลางนา
    - ชิ้นส่วนโลหะอาถรรพ์(นำไปบรรจุในตัวเบี้ย)
    - ตะกั่วนม
    .........ฯลฯ

    เบี้ยแก้รุ่นแรก สร้างทั้งหมด 150 องค์

    [​IMG]
    - ตอกโค๊ต 2 ตัว บน-ล่าง


    [​IMG]
    (จะมีตอกโค๊ตอยู่ 3 ตัวเพียง 15 องค์ เพื่อมอบสำหรับผู้ที่บริจาคปัจจัย เพื่อหาซื้ออุปกรณ์ในการสร้างครับ แต่เบี้ยจำนวนนี้จะไม่ถักเชือกหุ้ม)

    หลังจากทำการบรรจุตามกรรมวิธีแล้วจึงปิดทับด้วยตะกั่วนม และตอกโค๊ตกำกับเอาไว้ทุกองค์
    เบี้ยแก้รุ่นแรก ส่วนใหญ่จะมีถักเชือกหุ้ม (โดยมากเชือกถักเป็นสีเขียว มีสีกรักน้ำตาลบ้างแต่น้อย)





    .

    <FIELDSET class=fieldset style="FONT-SIZE: 11px; MARGIN-BOTTOM: 6px"><LEGEND style="FONT: 11px tahoma, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(34,34,156)">รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]



    </FIELDSET>


    [​IMG] [​IMG]
    เบี้ยแก้รุ่น 2 หลวงปู่พิศดู
    - เบี้ยแก้รุ่น2 จัดสร้างในปี พ.ศ.2551 สร้างขึ้นเพราะว่าเบี้ยแก้รุ่นแรกนั้นไม่พอแจกลูกศิษย์ มีบางคนที่ยังไม่ได้ จึงสร้างรุ่น2 ออกมาอีก กรรมวิธีการสร้างก็คล้ายกันกับเบี้ยแก้รุ่นแรก แต่เบี้ยแก้รุ่นนี้ได้นำเข้าขอความเมตตาจากหลวงปู่ดี ธัมมะธีโร วัดเทพากร อธิษฐานจิตให้เป็นปฐม ก่อนจะนำมาถวายให้หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตและแจกต่อไป โดยทางวัดจะตอกโค๊ตไว้เป็นสัญลักษณ์เพื่อให้แยกแยะกันได้ชัดเจน ระหว่างรุ่นแรก กับรุ่นสอง และไม่มีการถักเชือกหุ้มครับ



    เบี้ยแก้รุ่น2 สร้างทั้งหมด 120 องค์

    [​IMG]
    - ตอกโค๊ต 2 ตัวซ้าย-ขวา และตอกเลข ข้างล่าง เพื่อให้รู้ว่าเป็น รุ่นสอง




    [​IMG]
    - ตอกโค๊ต และเลข ๒ ๒ ตัวมีเพียง 15 องค์ เพื่อมอบสำหรับผู้ที่บริจาคปัจจัย เพื่อหาซื้ออุปกรณ์ในการสร้างครับ )

    หมายเหตุ: โค๊ตตัวที่ใช้ตอกเป็นสัญลักษณ์ดังกล่าว ได้ใช้ตอกในวัตถุมงคลบางอย่างของหลวงปู่ด้วย เช่น เหรียญพระอุปคุต พระรูปเหมือนขนาดบูชา เบี้ยแก้ ฯลฯ ปัจจุบันโค๊ต ได้ทำลายลงไปแล้ว จึงสบายใจได้ถึงเรื่องของเสริม ว่าจะไม่มีแน่นอน เบี้ยแก้ของหลวงปู่จึงสามารถบูชาได้เป็นมาตรฐานครับ ฯลฯ


    ขี้(สี)ผึ้งมหานิยม

    - สีผึ้งนี้จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2552 โดยคณะศิษย์ญาติโยมที่ศรัทธา มาขออนุญาติหลวงปู่สร้างสีผึ้งถวายให้ท่านแจกลูกศิษย์ที่มากราบเยี่ยม และพอดีกำลังจะเข้าหน้าสู่ฤดูหนาวเอาไว้ใช้ประโยชน์ในการทาปากกันปากแตกปากแห้ง หลวงปู่ท่านก็อนุญาติ การสร้างสีผึ้งนี้ไม่ใช่ซื้อจากตลาดแล้วเอามาบรรจุตลับนะครับ เขามีวิธีการหุงตามตำราของเขาที่ได้ศึกษามา เท่าที่ผมจำได้ผู้ที่ให้ข้อมูลบอกว่า ต้องใช้ว่านในทางเมตตาหลายอย่าง สีผึ้งของครูบาอาจารย์หลายองค์มากๆ มวลสารต่างๆ และรังผึ้งที่ทิ้งรังเอาไว้แล้ว นำตาเทียนเทศมหาชาติกัณพระนางมัทฑรี เทียนคาถาพัน น้ำมันเมตตาจากสำนักต่างๆ และน้ำตาเทียนจากหลายๆที่ๆศักดิ์สิทธิ์ในพิธีต่างๆ เทียนที่พระเจ้าอยู่หัวทรงจุดในพระราชพิธี ฯลฯ... และต้องหุงกันในวันขึ้น 15 ค่ำ ที่ตรงกับวันจันทร์ พอดีวันจันทร์ขึ้น15 ค่ำตรงกับวันมาฆบูชาพอดี และอีกวันหนึ่งตรงกับวันลอยกระทง ในปีเดียวกันเลย ก็เลยจัดการหุงสีผึ้งในวัดพิเศษดังกล่าว โดยหุงกันที่วัดหลวงปู่ตรงหน้าพระมหาเจดีธัมมะจารี โดยรับแสงจันทร์ในเวลาใกล้เที่ยงคืน แล้วเสร็จประมาณเที่ยงคืนครึ่ง โดยมาพระอาจารย์ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มาทำพิธีให้ เสร็จแล้วฝากไว้กับพระประธานในพระมหาเจดีย์แห่งนั้นตลอดราตรี ทำอย่างนี้ประมาณ 2 ครั้งในวันสำคัญ แล้วจึงนำมาบรรจุตลับแล้วนำเข้าถวายองค์หลวงปู่แจกต่อไป หลวงปู่ท่านเรียกสีผึ้งนี้ว่า ขี้ผึ้งมหานิยม พร้อมกับให้คาถามาด้วย ว่า.... "นะโมพุทธายะ นะชาลีติ เมกะมุอุ"
    จำนวนสร้างบรรจุตลับยาแล้วน่าจะประมาณ 1,000 ตลับได้ครับ และทางวัดทำการตอกโค๊ตกำกับเอาไว้ที่ฝาตลับเพื่อจะได้แยกแยะกันได้ชัดเจนครับ



    .



    .

    <FIELDSET class=fieldset style="FONT-SIZE: 11px; MARGIN-BOTTOM: 6px"><LEGEND style="FONT: 11px tahoma, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(34,34,156)">รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    แผ่นยันต์(ตะกรุด) หลวงปู่พิศดู

    - แผ่นยันต์นี้สร้างในปี พ.ศ.2553 โดยคณะผู้ใหญ่บ้าน ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ และคณะชุดทำนาปลูกข้าวที่วัดเทพธารทอง โดยได้ขออนุญาติจัดสร้างเพื่อแจกกันในหมู่คณะเอาไว้ใช้ติดตัวเพื่อความเป็นศิริมงคล และได้ถวายให้กับวัดเพื่อใช้ในการธุระกุศลต่อไปภายหน้า โดยแผ่นยันต์นี้ได้อัญเชิญ พระยันต์ ไตรสรณาคมณ์ ถอดเป็นตาหมากรุก มาไว้เป็นประธาน ล้อมด้วยคาถาของท่านพ่อลี อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง , คาถาวันโลกดับ , และคาถากันภัยต่างๆ จำนวนที่จัดสร้างทั้งหมด
    เนื้อทองคำ 2 แผ่น
    เนื้อเงินบริสุทธิ์ 32 แผ่น
    เนื้อตะกั่ว 500 แผ่น
    เนื้อทองฝาบาตร(ทองเหลือง) 2,000 แผ่น
    เนื้อทองแดง(ไม่มีปีก) 2,000 แผ่น



    [​IMG]
    เบี้ยแก้หลวงปู่ปรี่ยม รุ่นแรก
    อธิษฐานจิตโดย..
    - หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - หลวงปู่เปรี่ยม วัดโพธิ์เรียง
    - หลวงปู่ดี วัดเทพากร
    ทั้งสามองค์นี้ ล้วนเป็นพระอริยะที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของโลกที่สมควรกราบไหว้บูชา และทำบุญด้วยอย่างยิ่งครับ

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2011
  5. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,597
    ค่าพลัง:
    +30,884
    <CENTER>พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: rgb(255,255,255); BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1>Attachment 1436759 Attachment 1436760
    พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี
    (และแหวนปลอกมีดมหามงคล)


    - พระกริ่ง-ชัยวัฒน์ธัมมะจารี และแหวนปลอกมีดมหามงคล สร้างขึ้นโดยเป็นการดำหริของพระเดชพระคุณหลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้นำไปใช้อาราธนาติดตัวเพื่อคุ้มครอง และป้องกันภัยต่างๆ ตามพุทธทำนายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตกาล โดยองค์หลวงปู่ท่านมอบหมายให้ลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐาก และศิษยานุศิษย์ทั้งหลายเป็นผู้ไปดำเนินการจัดสร้าง ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ใช้เวลาตระเตรียมงานกันกว่า 2 ปี โดยแทบทุกวันนั้นก็จะแบ่งหน้าที่กันทำ ไม่ว่าใครจะไปที่ไหน จังหวัดใด ทางคณะก็จะฝากฝังให้ช่วยไปรวบรวมชนวนมวลสารมาให้ตามแต่โอกาสจะพึงมี ซึ่งก็ได้รับการร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดียิ่ง สำเร็จลงได้เมื่อปี พ.ศ.2553

    วัตถุมงคลชุดนี้สร้างขึ้นมาตามเจตนารมณ์ขององค์หลวงปู่ เพื่อที่อยากจะให้เป็นที่ระลึกถึงคุณพระรัตนะไตร ครูบาอาจารย์ทุกๆพระองค์ และเป็นการรวบรวมอธิจิต อิทธิบารมีของคุณพระ คุณครูบาอาจารย์ในทุกๆสายทั่วทั้งสากล ให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว และเพื่อผู้บูชาไม่ว่าจะอยู่ในสายใด จักได้มีกำลังใจเพราะได้อาศัยอำนาจของพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อาจาริยะคุณอันประเสริฐ ในการดำเนินชีวิตให้ถึงซึ่งความสุข ความเจริญก้าวหน้า ทั้งทางโลกและทางธรรม
    จากการร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของลูกศิษย์ทั้งสองวัด รวมทั้งสายศิษย์ทางวัดอื่นๆด้วย และด้วยพระเมตตาธิคุณ และปัญญาธิคุณจากองค์ท่านครูบากฤษดาที่ให้การปรึกษาในเรื่องต่างๆโดยตลอด เพื่อสนองพระเดชพระคุณและบุญกุศลทั้งหมด น้อมถวายแด่...."" องค์พระพ่อแม่ครูบาอาจารย์พิศดู ธัมมะจารี เอกองค์อริยะเพชรน้ำหนึ่งแห่งบูรพาภาค พระผู้เป็นได้ยิ่งกว่าครูบาอาจารย์ของศิษย์ทุกคน ""

    รายการที่วัตถุมงคลได้จัดสร้างในครั้งนี้

    [​IMG] [​IMG]
    0. พระกริ่ง-ชัยวัฒน์ เนื้อมหาสัมฤทธิ์(นวโลหะ) หล่อโบราณ(ดินไทย) 38 ชุด
    -- สำหรับพระชุดนี้สร้างขึ้นมาเพื่อ มอบให้กับท่านผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง(หลักๆ)ในการจัดสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ให้สำเร็จลงด้วยดี ตามเจตนาขององค์หลวงปู่




    [​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG]
    1.พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ เนื้อมหาสัมฤทธิ์ 1,000 ชุด


    [​IMG][​IMG]
    2. พระกริ่ง-ชัยวัฒน์ เนื้อทองทิพย์ผสมชนวน 1,000 ชุด

    - สร้างถวายองค์หลวงปู่ ตามแต่ท่านเห็นสมควร



    [​IMG]
    3 แหวนปลอกมีดมหามงคล เนื้อมหาสัมฤทธิ์(นวะโลหะ)

    - วงใหญ่ 39 วง
    - วงเล็ก 39 วง




    [​IMG][​IMG][​IMG]
    4.พระชัยวัฒน์ เนื้อมหาสัมฤทธิ์ อุดผง 109 องค์

    - เนื่องจากพระชัยวัฒน์รุ่นนี้ ทางช่างหล่อได้เทเกินจำนวนเอาไว้(เพื่อกันชำรุด) มีอยู่จำนวนหนึ่ง เห็นว่า สภาพยังสมบูรณ์ ทางวัดจึงได้นำมาบรรจุมวลสารพุทธคุณ เอาไว้ที่ใต้ฐาน เพื่อมอบให้กับท่านผู้ที่ร่วมบริจาค โลหะชนวน-มวลสาร หลักๆสำคัญต่างๆ ไว้เป็นที่ระลึก


    @ พระกริ่ง เนื้อมหาสัมฤทธิ์(นวโลหะ) ที่จัดเข้าในชุด ตอกหมายเลขกำกับทุกองค์
    @ พระกริ่ง เนื้อมหาสัมฤทธิ์(นวโลหะ) ทุกรายการ บรรจุมวลสารของ พ่อแม่ครูบาอาจารย์มากมาย และพระเกษาธาตุ-อังคารธาตุ ของพระอริยะครูบาอาจารย์(จริงๆ) รวมทั้งหมดได้ 80 องค์ ไว้ในองค์พระทั้งหมด
    @ วัตถุมงคลทุกรายการตอกโค๊ตสัญลักษณ์ไว้ เพื่อเป็นมาตรฐาน

    วัตถุมงคลชุดนี้เดิมทีตั้งใจจะให้เป็นเนื้อนวะ(ผิวกลับ) แต่เพราะสาเหตุที่ได้มีผู้ร่วมบริจาค เนื้อโลหะชนวนต่างๆเข้ามามากมายเกินที่ได้คาดคิดไว้ จึงไม่อาจสามารถควบคุมเนื้อโลหะให้อยู่ในสูตรของนวะโลหะได้ ทำให้วรรณะของพระออกมาตามอย่างที่ทุกท่านเห็น จึงได้ขอเปลี่ยนชื่อเรียกจากเนื้อนวะโลหะ เป็น เนื้อมหาสัมฤทธิ์(นวโลหะ) แต่ยังคงสูตรของนวะเอาไว้ โดยใส่โลหะบังคับ ให้ครบทั้ง 9 อย่าง(ตามสูตร)
    ชนวนทั้งหลายนี้เป็นของสำคัญมาก ของบางอย่างหาค่าประเมินมิได้ และหลายอย่างก็ได้มาแบบไม่คาดคิด รวมทั้งท่านครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่ทางคณะศิษย์ของหลวงปู่ ไปขอความเมตตาในเรื่องของมวลสาร-โลหะชนวน และแผ่นพระยันต์ต่างๆ ปรากฏว่าไม่มีแม้แต่ท่านใดที่จะขัดข้อง ครูบาอาจารย์ทุกพระองค์ท่านเมตตาทำให้อย่างดีทั้งหมด ทั้งนี้เป็นเพราะพระบารมีของ องค์หลวงปู่พิศดู และพระบารมีของ ท่านครูบากฤษดา ที่พวกเราเคารพ รัก ศรัทธา ครับ

    # เรื่องการนิมนต์ครูบาอาจารย์มาทำพิธีเททองพระนี้ ทางคณะศิษย์ทางวัดเทพธารทอง ได้กราบเรียนปรึกษาองค์หลวงปู่ว่า จะนิมนต์ให้ผู้ใดมาทำพิธีเททองพระกริ่งของหลวงปู่ดีครับ หลวงปู่ท่านตอบว่า " ต้องนิมนต์ครูบากฤษดาผู้เดียว เพราะท่านสร้างมามาก และทำได้ดีด้วยนะ " และหลวงปู่ท่านได้มอบไม้เท้าประจำองค์หลวงปู่ท่านที่เคยใช้มาหลายสิบปี ถวายให้ท่านครูบากฤษดาเอาไว้ประจำองค์ สืบทอดแทนองค์หลวงปู่ท่านต่อไป

    # ไม้เท้าที่ท่านครูบากฤษดาใช้ในการแตะเบ้าพระกริ่ง เป็นไม้เท้าประจำองค์หลวงปู่พิศดู หลวงปู่ท่านมอบถวายให้แด่ท่านครูบา เอาไว้ใช้เป็นไม้เท้าผ่านญาณ เวลาท่านครูบาจะทำการใดๆเสมือนหนึ่งว่า ได้จับมือกับองค์หลวงปู่ร่วมกันสร้าง และการเทพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ และแหวนปลอกมีดมหามงคล ท่านครูบาก็ได้ใช้ไม้เท้าผ่านญาณ(หลวงปู่)นี้แตะที่เบ้าพระกริ่งทุกๆเบ้า และวันนั้นท่านครูบาตั้งใจทำอย่างดีมาก และยังบอกอีกว่า " ชนวนโลหะที่เอามาหล่อพระนี้เป็นของดี ศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะทุกคนที่ร่วม ทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ แค่หล่อเป็นองค์พระเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องเสก เพียงแค่ปรับกระแส(พลัง)นิดหน่อยก็ใช้ได้แล้วนะ "

    # เนื้อชนวนทั้งหมดได้ทำการหล่อหลอมมาเป็นแท่งๆ มาก่อนครั้งหนึ่งและนำมาให้หลวงปู่อธิษฐานจิต และขอความเมตตาจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมต่างๆช่วยจุณเจิม เพื่อความเป็นศิริมงคลยิ่งๆขึ้นไป ก่อนเอามาเทเป็นองค์พระโดยสมบูรณ์ต่อไป

    # พิธีการเทพระในวันนั้นถือเป็นวันมงคล เพราะท่านครูบาเป็นคนเลือกวันด้วยองค์เอง คือ ในวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทราวาส โดยบังเอิญ ซึ่งท่านเจ้าคุณนรฯ ถือเป็นพระที่องค์หลวงปู่พิศดูยกย่อง และนับถือมากอีกองค์หนึ่ง และพอเทพระเสร็จ ทางคณะศิษย์ทั้งหลายก็ได้อัญเชิญพระทั้งหมดกลับมาที่ วัดเทพธารทองโดยในวันนั้นทันที เพื่อที่จะให้ทันพิธีที่วัด ในเช้าวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งจะเป็นพิธีที่ร่วมกันสวดเจริญพระพุทธมนต์ ถวายแด่องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์พิศดู ธัมมะจารี เนื่องในวันครบรอบคล้ายวันเกิด 87พรรษา ซึ่งมีท่านเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี(ฝ่ายธรรมยุติ) เป็นองค์ประธานพิธี ร่วมกับพระเถระ ภิกษุ-สามเณรบรรพชิต ร่วมแสดงมุทิตาสักการะ และรับภัตตาหารบิณฑบาตรจากองค์หลวงปู่ เป็นอันเสร็จพิธีในช่วงเช้า และตลอดราตรีในวันเดียวกันนั้น องค์หลวงปู่พิศดู และท่านครูบากฤษดาได้ร่วมกันอธิษฐานจิตพระกริ่ง-ชัยวัฒน์ และวัตถุมงคลชุดนี้ โดยมีท่านครูบากฤษดาสวดพระธัมจักรถวาย...พิธีนี้เรียกว่าพิธีเปิดโลกธาตุพุทธาภิเษก (พิธีนี้ได้มีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้น เป็นนิมิตรหมาย)

    # และเม็ดกริ่งที่ได้ทำการบรรจุในองค์พระนั้น นอกจากจะได้เข้าพิธีมังกรฟ้าและพิธีสวด-เสก อธิษฐานจิตจากท่านครูบากฤษดามาก่อนหน้านั้นแล้ว ท่านครูบายังเมตตานำเข้าพิธีอีกหลายพิธี อาทิพิธีพุทธาภิเษกพระหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง จ.ภูเก็ต โดยมีพระคณาจารย์ผู้ทรงจิตตานุภาพอันล้ำลึกในแต่ละสายที่คัดสรรอย่างดีแล้วรวมทั้งสายพุทธาคมเขาอ้อ และหนึ่งในนั้นก็คือท่านครูบากฤษดาพระที่พวกเราเคารพศรัทธาอย่างสูงรวมอยู่ด้วย และเม็ดกริ่งดังกล่าว และพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ชุดเทดินไทย ยังได้นำเข้าพิธีเปิดสามแดนโลกธาตุ ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี โดยมีองค์หลวงตาพระมหาบัว ญานสัมปันโณ เสาหลักแห่งพระกรรมฐานสายป่าเป็นองค์ประธาน ร่วมกับพระอริยะพ่อแม่ครูจารย์ทั้งหลายร่วมพิธีคับคั่ง


    # ในองค์พระกริ่งทั้งหมดนี้ ได้มีบรรจุเกศาธาตุ อัฐิอังคารธาตุของพระอริยะสงฆ์(จริงๆ ที่ได้พิจจารณาแล้ว) ทั้งหมด 80 องค์(ในความหมายของพระอสีติสาวกฯ80) และบรรจุผงสุดยอดมวลสารต่างๆของแต่ละสำนักแทบทุกที่ในแผ่นดิน ที่ศิษย์ในทุกๆสายต่างเสาะหามาร่วมบุญในครั้งนี้อย่างนับไม่ถ้วน



    ส่วนพิธีการอธิษฐานจิตนั้นเริ่มตั้งแต่..

    # หลวงปู่ได้มอบหมายให้นิมนต์ ท่านครูบากฤษดา เป็นองค์ประธานเททองเพียงหนึ่งเดียว พร้อมกับถวายไม้เท้าคู่บารมี ให้กับท่านครูบาฯ โดยทำพิธีกันที่โรงหล่อ ในวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 (ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของท่านเจ้าคุณนรฯ โดยบังเอิญ)

    # พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายแด่องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์พิศดู ธัมมะจารี โดยมีท่านเจ้าคณะจังหวัด จันทบุรี(ฝ่ายธรรมยุต) เป็นประธาน ร่วมกับพระคณาจารย์และศิษยานุศิษย์พระภิกษุ-สามเณรบรรพชิต เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ องค์หลวงปู่พิศดู ในวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553

    # พิธีอธิษฐานจิตโดย องค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี โดยมีท่านครูบากฤษดา ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์-ธรรมจักรถวาย ตลอดราตรี(ตรงกับวันคล้ายวันเกิดขององค์หลวงปู่พิศดู )

    # พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดป่าคลองกุ้ง โดยพ่อแม่ครูจารย์ คณาจารย์สายพระป่ากรรมฐาน และเกจิอาจารย์ชื่อดัง นำโดยหลวงพ่อปู่บุญกู้ วัดมหาธาตุบางเขน , หลวงปู่ฟัก วัดเขาน้อย(สามผาน) , หลวงปู่สนั่น วัดธารเกษม , หลวงปู่พระมหาเข้ม วัดป่าคลองกุ้ง , หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ หลวงพ่อพูนทรัพย์ วัดอ่างศิลา ...ฯลฯ ตลอดทั้งราตรี


    # พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดสุทัศน์เทพวราราม ในวันมหามงคล เสาร์ 5 โดยพระเกจิอาจารย์ต่างๆ

    # หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี อธิษฐานจิตตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน

    # พิธีสมโภชน์ โดยอัญเชิญพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ และแหวนปลอกมีดมหามงคล สรง(แช่)น้ำพระพุทธมนต์ ที่มาจากแหล่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เกือบทุกวัดทั่วทั้งประเทศ และต่างประเทศ เนื่องในงานพิธีตักบาตรส่งพระมหาอุปคุต ตรงกับวันเพ็ญพุธ ในวันที่ 25 สิงหาคม 2553 โดยมีองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารีเป็นประธานร่วมกับท่านครูบากฤษดา เป็นผู้สวดอัญเชิญและพุทธาภิเษกสมโภชน์


    .................................................................


    ผมพยายามจะรวบรวมข้อมูลต่างๆ เท่าที่ความสามารถขอผมจะพึงมี เพื่อให้บังเกิดความสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อสนองความดำหริ และเมตตาจิตขององค์หลวงปู่ผู้ให้จัดสร้าง และความตั้งใจจริงของศิษยานุศิษย์ในแต่ละสำนักที่ต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ให้ทุกท่านที่ได้มีวาสนาครอบครองในวัตถุมงคลชุดประวัติศาสตร์นี้ ได้ทราบ ซึ้ง ถึงในคุณค่าที่หาประมาณมิได้ และนี่ยังเป็นเพียงบางส่วนของข้อมูลที่ผมรวบรวมมาได้เท่านั้น ยังมีอีกมากมายที่ยังมิได้เขียนถึง รวมทั้งรูปชนวนมวลสารต่างๆ และภาพวันพิธีเททองที่จะค่อยๆทยอยลงให้ทุกท่านได้ชื่นชม ศึกษาต่อไป..

    ผมจึงขอใช้หน้ากระดานนี้เป็นหลักฐานบันทึกสำคัญชิ้นหนึ่งให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านทราบถึงข้อมูลที่เรียกได้ว่า อาจไม่สมบูรณ์ที่สุด แต่จะรวบรวมหาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ ตราบเท่าที่ผมยังมีลมหายใจ เพื่อศิษย์รุ่นหลังจักได้ศึกษากันต่อไปครับ เพื่อถวายพระคุณนี้แด่องค์อริยะพ่อแม่ครูอาจารย์พิศดู ธัมมะจารี และครูบาอาจารย์ทั้งหมดทุกๆพระองค์ครับ สาธุ

     
  6. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,597
    ค่าพลัง:
    +30,884
    หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี สุดยอดพระอริยะสงฆ์แห่งภาคตะวันออก ท่านเป็นลูกศิษย์องค์สำคัญของท่านพ่อลี ธัมมธโร แห่งวัดป่าคลองกุ้ง ในปัจจุบันหลวงปู่พิศดูถือได้ว่าเป็นลูกศิษย์รุ่นใหญ่ที่มีพรรษากาลมากที่สุดในบรรดาลูกศิษย์ของท่านพ่อลีที่ยังดำรงค์ขันธ์อยู่ ปัจจุบันท่านอายุย่างเข้า 89 ปี พรรษาที่ 67 ในชีวิตของการเป็นสมณเพศท่านไม่มีด่างพร้อย อุดมด้วยศีลา จริยาวัตร และเปี่ยมไปด้วยเมตตามหาบารมีธรรม ในทุกอิริยาบท ทุกวาจาของท่านที่พร่ำบอก ล้วนแต่เป็นธรรมปฏิบัติ สอนให้เราได้รู้ถึงองค์แห่งอริยะมรรค คือคำสอนให้เข้าถึงทางแห่งความสุขอันเกษม

    ด้านวัตถุมงคลของท่านนั้น ท่านก็มิได้ยินดีสรรเสริญในวัตถุธาตุนั้นๆ เพียงแต่ทำไว้เพื่อเสริมสติปัญญา และกำลังใจ ให้เป็นเครื่องมือประกอบในการปฏิบัติตนให้เหมาะสม และให้ไว้เป็นที่ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และครูบาอาจารย์เสมือนหนึ่งว่ามีครูบาอาจารย์คอยติดตาม จะได้อุ่นใจและไม่ตกไปในทางที่ชั่ว

    เท่าที่เคยสอบถามและมีลูกศิษย์รุ่นเก่าๆให้ข้อมูลไว้ว่า หลวงปู่ท่านเคยสร้างวัตถุมงคลด้วยองค์ท่านเองตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 เรื่อยมา โดยครั้งนั้นท่านสร้างท่านด้วยผงวิเศษที่ท่านทำขึ้นเอง และประกอบด้วยมวลสารสำคัญๆของครูบาอาจารย์รุ่นเก่าอีกหลายท่าน โดยมีลูกศิษย์สายวัดอโศการาม และวัดทรายงามทำแม่พิมพ์มาถวาย แม่พิมพ์ทุกพิมพ์เป็นพิมพ์แบบโบราณๆ และทุกขั้นตอนหลวงปู่ท่านทำการผสมเนื้อและกดพิมพ์เองทั้งหมด มีทั้งเนื้อดินดิบผสมผงว่านยาต่างๆ และแบบเนื้อดินผสมผงแล้วเข้าไฟเผาแบบโบราณ ตามแบบสูตรพระของท่านพ่อลี โดยระหว่างที่ทำการเผาสุมไฟด้วยแกลบนั้น องค์หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบๆกองไฟเพื่อปรุงธาตุ เดินธาตุ

    มวลสารที่ท่านใช้ผสมนั้นประกอบไปด้วยผงวิเศษที่หลวงปู่ท่านทำเอง ว่านยาต่างๆ ชาญหมาก เกศา ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างรวมถึงดินในวัดเทพธารทอง ฯลฯ

    พระที่สร้างนี้มีทั้งพิมพ์รูปเหมือน สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม พิมพ์พระปิดตา พิมพ์สมเด็จ และพิมพ์พระพุทธแบบซุ้มกอ นางพญา ฯลฯ จำนวนสร้างพระทั้งหมดนั้นรวมๆกันแล้วไม่น่าจะเกิน 1,000 องค์ ปัจจุบันเป็นของหายากมากๆ และเป็นที่เสาะหาของลูกศิษย์ทั้งเก่าและใหม่






    .
    <FIELDSET class=fieldset style="FONT-SIZE: 11px; MARGIN-BOTTOM: 6px"><LEGEND style="FONT: 11px tahoma, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(34,34,156)">รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>

    รายการวัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี
    ที่เป็นรายการเฉพาะเหรียญรูปเหมือนของท่าน ที่เคยสร้างมานั้นมีทั้งหมด 6รุ่นด้วยกันครับ ดังรายการต่อไปนี้

    [​IMG] [​IMG]
    1.เหรียญรุ่นแรก หรือที่ลูกศิษย์ชอบเรียกกันว่ารุ่น ๒๑ หรือรุ่น ศุกร์
    - เหรียญรุ่นนี้ ทางคณะศิษย์รุ่นเก่าๆได้สร้างถวายให้ท่านเป็นเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2540 มีเนื้อทองแดงรมมันปู เพียงเนื้อเดียว จำนวนสร้างทั้งหมด 5,000 องค์(ห้าพันองค์) และคำว่าศุกร์ นั้นหมายความตามกำลังวันของปีที่จัดสร้าง คือปีนั้นวันศุกร์เป็นวันธงชัย ตามหลักโบราณจารย์ถือได้ว่าเป็นวันมงคล วันแข็ง ถ้าเรานับจากวันอาทิตย์เป็นวันเริ่มต้นของสัปดาห์เป็น วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสฯ วันศุกร์จะได้เท่ากับเลข ส่วนเลข ๒๑ นั้นมีความหมายดังนี้คือ วันศุกร์มีกำลังวัน ๒๑ หลวงปู่จึงถือเอาวันและเลขกำลังมงคล ๒๑ มาประกอบอยู่กับเหรียญ และได้ทำการอธิษฐานจิตครั้งแรกในวันศุกร์ และเลข นั้นตามโฉลกแล้วเป็นเลขแห่งเงินทอง โชคลาภสักการะ อีกด้วย



    [​IMG] [​IMG]
    2.เหรียญรุ่น2 รูปเสมา
    - เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2547 องค์หลวงปู่เป็นผู้สั่งให้สร้างเอง และท่านเขียนอักขระภาษาขอมให้ด้วยลายมือของท่านเองเพื่อจะให้เอาไปใส่ไว้ที่ด้านหน้าของเหรียญ โดยด้านหน้าเป็นรูปเสมา มีรูปพระนาคปรก(พระประจำวันเกิดของหลวงปู่ คือวันเสาร์ ) ด้านล่างมีอักขระคาถาที่ถอดจากลายมือของหลวงปู่ เป็นบทคาถา อังคุริมาละปะริตตัง (หรือยะโตหัง) ด้านหลังเป็นรูปหลวงปู่พิศดู นั่งพับเพียบเต็มองค์ มีเนื้ออัลปาก้าเพียงเนื้อเดียว จำนวนสร้างทั้งหมด981 องค์ จากนั้นปล็อคก็แตกและไม่สามารถทำการปั๊มต่อได้



    [​IMG] [​IMG]
    3.เหรียญรุ่น3 เม็ดแตง(รูปไข่เล็ก)
    - เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2547 สร้างถวายโดยลูกศิษย์สายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่พิศดูนั่งพับเพียบ และมีลายเซ็นของหลวงปู่อยู่ด้านล่างอ่านว่า ธมฺมจารีภิกขุ ด้านหลังเป็นรูปพระนาคปรก และมีเลข ๑๐ อยู่ด้านล่าง หมายถึง กำลังวันของพระเสาร์ มีกำลังเป็น 10 มีเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียว จำนวนสร้างทั้งหมด 1,668 องค์



    [​IMG] [​IMG]
    4.เหรียญรุ่น4 ใบโพธิ์จิ๋ว
    - เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2548 สร้างถวายโดยลูกศิษย์สายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เป็นเหรียญรูปใบโพธิ์ขนาดจิ๋ว ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่พิศดูนั่งสมาธิเต็มองค์ อยู่ในรูปใบโพธิ์ ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ มีเนื้อทองเหลืองลงยาสีเขียวเพียงอย่างเดียว จำนวนสร้างทั้งหมด 3,124 องค์



    [​IMG] [​IMG]
    5.เหรียญรุ่น5 ใบโพธิ์ใหญ่

    - เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2549 สร้างถวายโดยลูกศิษย์ชุด อุปัฏฐาก องค์หลวงปู่ โดยด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่พิศดูครึ่งองค์ อยู่ในใบโพธิ์ มีอักขระขอมข้างๆอ่านว่า ธัม มะ จา รี ด้านหลังเป็นปริษณาธรรมชวนให้ขบคิด อธิบายคร่าวๆได้ว่า มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปางปฐมเทศนา ประทับอยู่กลางพระธรรมจักร ส่วนด้านล่างเป็นบัวสี่เหล่า หมายถึงบุคคลสี่จำพวก พระพุทธเจ้าทรงเปรียบระดับปัญญา ที่อยู่ในฐานะของบุคคลที่สามารถฝึกสอนให้รู้ธรรมได้และไม่ได้ในทางพระพุทธศาสนา... ออกได้สี่ระดับคือ
    1. ( อุคคฏิตัญญู ) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์(แสงธรรม)ก็เบ่งบานทันที
    2. ( วิปจิตัญญู ) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
    3. ( เนยยะ ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติมอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
    4. ( ปทปรมะ ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน
    ถัดจากนั้นมาจะมีอักขระยันต์ที่ระทับอยู่บนใบบัวอ่านได้ว่า พุทโธ ซึ่งเป็นบทกำหนดบริกรรมภาวนาตามแบบสายพระป่ากรรมฐาน และพุทธโธก็ยังแปลความหมายได้อีกว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยธรรม ถัดจากนั้นมา จะมีอักขระอยู่ตรงข้างพระธรรมจักรอีก 4คำ ซึ่งเป็นหัวใจของพระอริยะสัจ4 อ่านว่า ทุสะนิมะ ย่อมาจากคำหน้าของพระอริยะสัจ4คือ ทุกข์ มุทัย นิโรธ รรค ซึ่งทั้งหมดนี้รวมเรียกว่าหัวใจพระอริยะสัจทั้งสี่ประการ ถัดขึ้นไปด้านบน จะมีอักขระอีก 3 คำอ่านได้ว่า อะ ระ หัง แปลความหมายได้ว่า อรหันต์ หรือ พระอรหันต์ หมายถึงผู้ที่สามารถละกิเลศอาสวะได้ ผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา หรือพระอริยบุคคลชั้นสูงสุด และยอดสุดของด้านหลังเหรียญนั้นคือยันต์ เฑาะอุนาโลม รวมความล้วนั้น เหรียญรุ่นนี้ มีครบทั้งองค์พระตรัยรัตนะ คือ พระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์
    เหรียญที่สร้างทั้งหมดมี
    เนื้อเงิน ลงยาสีเขียว 12 องค์
    เนื้อทองแดง ไม่ลงยา 500 องค์
    เนื้อทองแดง ลงยาสีเขียว 500 องค์
    เนื้อทองเหลือง ไม่ลงยา 500 องค์
    เนื้อทองเหลือง ลงยาสีเขียว 500 องค์



    [​IMG] [​IMG]
    6.เหรียญรุ่น6 รุ่นสร้างศาลารวมใจ รูปไข่ชุบสามกษัตริย์
    - เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 สร้างถวายโดย พยาบาลคณะลูกศิษย์วัดบวรฯ เนื่องในโอกาสฉลองศาลากุฏิหลังใหม่ขององค์หลวงปู่พิศดู ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่พิศดูครึ่งองค์ รุ่นนี้แกะรูปหลวงปู่ได้สวยงามชัดเจน และเหมือนองค์หลวงปู่มากที่สุด ด้านหลังเป็นรูปกลีบบัวสี่กลีบ ด้านในกลีบบัวมีภาษาบาลีอ่านว่า ธมฺมจารี สุขํเสติ แปลว่า ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข เหรียญที่สร้างมีเนื้อชุบสามกษัตริย์พร้อมเลี่ยมทองไมครอนอย่างดี เพียงอย่างเดียว จำนวนสร้างทั้งหมด 300 องค์



    ที่ผ่านมา วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี ทุกรุ่นสร้างด้วยเจตนาที่บริสุทธิ 100% เพราะเจตนาเพื่อสร้างแจกเป็นทานบารมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทางวัดมิเคยสร้างวัตถุมงคลเพื่อมาหาปัจจัยเข้าวัด หรือเพื่อเหตุอันมีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นไม่ อย่างมากก็สร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้ใช้กันเองในหมู่ลูกศิษย์ และผู้ที่เคารพศรัทธา ในองค์หลวงปู่ และจะคิดราคาสั่งจองเพียงแค่ต้นทุนเท่านั้น และองค์พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านก็มิได้หวังว่าจะหาปัจจัยเพื่อสร้างวัตถุอันใดเลย ท่านมีแต่จะหลีกเลี่ยงทางแห่งลาภสักการะทั้งหลายทั้งปวง และไม่ยินดียินร้ายในการสร้างถาวรวัตถุต่างๆเลย แม้แต่ กฐิน ผ้าป่า แม้แต่กิจนิมนต์ต่างๆ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆทางวัดก็มิได้รับนิมนต์ด้วยประการทั้งปวง หลวงปู่ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติ ให้อยู่กับธรรมชาติ แบบน้ำพึ่งเรือ-เสือพึ่งป่า โลกไม่ช้ำ-ธรรมไม่เสีย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีจิตผู้ศรัทธาน้อมนำลาภสักการะต่างๆ อันมีภัตตาหาร สังฆทาน และจตุปัจจัยไทยทานเข้ามาสู่ ด้วยใจที่ปราถนาดี และปีติยินดีด้วยความศรัทธาอย่างยิ่ง แต่ถึงแม้จะมีลาภสักการะเข้ามาเพียงใด องค์หลวงปู่ท่านก็มิได้สะสมหรือยินดียินร้าย และมิได้ในขัดศรัทธา ที่บรรดาสาธุชนน้อมนำมาถวาย หากแต่ท่านก็นำไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ ทหาร ตำรวจ เด็กกำพร้า และโรงพยาบาลต่างๆ ดังเช่นตัวอย่างที่องค์พระคุณท่านหลวงปู่ ได้ร่วมบริจาคปัจจัยที่ญาติโยมถวายท่านมา นำเข้าโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประจำทุกปี ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 109 ตัว และบางปีได้ถึงปีละ 200กว่าตัว เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงของแผ่นดิน...ฯลฯ

    นี่แหละจึงเป็นคำกล่าวที่ว่า พระอริยะสงฆ์เนื้อนาบุญที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ท่านก็มีส่วนสำคัญที่จะสงเคราะโลก ประเทศชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ และจักได้เป็นแบบอย่าง สั่งสอนให้ศาสนิกชนและคนรุ่นหลังถือเอาเป็นแบบอย่างที่ดีงาม เพื่อยังประโยชน์สุขอันจะพึงเกิดแก่ชีวิต ทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งในภพนี้และภพหน้า สาธุ...


    วัตถุมงคลของหลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี
    ที่เป็นรายการเฉพาะเหรียญที่ไม่ใช่ รูปเหมือนของท่าน ที่เคยสร้างมานั้นมี ดังนี้

    [​IMG] [​IMG]
    พระนาคปรกใบมะขาม รุ่นแรก
    - พระนาคปรกนี้(พระประจำวันของหลวงปู่) จัดสร้างโดย ลูกศิษย์ชุดดูแลอุปัฏฐากองค์หลวงปู่ จัดสร้างปี พ.ศ.2548 ด้านหน้าเป็นพระนาคประตัดชิดองค์พระ ด้านหลังเป็นอักขระขอมอ่านว่า พุทโธ ถัดลงมา เป็นชื่อฉายาของหลวงปู่พิศดู อ่านว่า ธัมมะจารี และอักขระขอมด้านล่างสุด อ่านว่า สุคโต แปลว่า ผู้ไปดี จำนวนสร้างทั้งหมด
    - เนื้อเงิน 20 องค์
    - เนื้อทองเหลือง 500 องค์
    - เนื้อทองแดง 1,000 องค์(ในจำนวนนี้ เอาไปฝังในล็อกเก็ตรุ่นสอง ประมาณ 400 องค์)


    [​IMG] [​IMG]
    พระนาคปรกใบมะขาม รุ่นสอง
    -พระนาคปรกนี้ จัดสร้างโดยลูกศิษย์ชุดดูแลอุปัฏฐากองคหลวงปู่ จัดสร้างปี พ.ศ.2549 ด้านหน้า เป็นรูปพระนาคปรกคล้ายกันกับรุ่นแรก และด้านหลังเป็นหลังเรียบ ตอกโค๊ตตัว นะธาตุ กำกับ จำนวนสร้างทั้งหมด 500 องค์(ในจำนวนนี้ เอาไปฝังในล็อกเก็ตรุ่นสาม ประมาณ 200 องค์)


    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญพระมหาอุปคุต รุ่นแรก ของวัดเทพธารทอง
    - เหรียนรุ่นนี้ตามที่เคยลงไว้ในหน้าก่อนว่า เป็นเหรียญที่องค์หลวงปู่ท่านสั่งการให้สร้างด้วยองค์เอง รุ่นนี้เป็นของวัดเทฑธารทอง หลวงปู่ท่านปรารภว่า "ให้สร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้ให้ลูกศิษย์ของท่านใช้ ต่อไปจะมีภัยต่างๆรอบด้าน ให้สร้างพระรูปท่านพ่ออุปคุตมาบูชา แล้วจะทำให้ปลอดภัย ในยุคนี้ตั้งแต่สมัยพุทธกาลลงมา พระที่มีฤทธิ์ไม่มีใครเกินท่านพ่ออุปคุต ท่านปราบพยามารซะงอเลย แต่ไม่ใช่แค่ฤทธิ์อย่างเดียวหรอก ทางลาภก็ไม่แพ้ใครนะ.."

    เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2550 โดยทางลูกศิษย์ชุดดูแลอุปัฏฐาก และลูกศิษย์ใกล้ชิดร่วมกันบริจาคปัจจัยสร้างถวายให้ท่าน เพื่อสนองความประสงค์ขององค์ท่าน และเป็นการบูชาพระคุณแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ เดิมทีหลวงปู่ท่านให้หารูปหล่อพระอุปคุตที่ขายตามตลาดพระสวยๆมาให้ท่านปลุกเสก ทางลูกศิษย์ก็หามาให้ท่านได้ประมาณ 300 องค์หลวงปู่ท่านก็เอามาอธิษฐานจิตให้ และสั่งให้ทำสัญลักษณ์ของทางวัดเอาไว้เพื่อที่จะแยกแยะได้ถูก ลูกศิษย์เลยเอามาตอกโค๊ตกำกับ และรันหมายเลข บางองค์ก็ตอกโค๊ต แต่ไม่มีหมายเลขก็มี แล้วท้ายสุดท่านสั่งให้ย้อมเป็นสีทองอร่ามทั้งองค์ อาจเพื่อเป็นความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์บางอย่างก็ได้ แต่ต่อมา ท่านเห็นว่าอยากจะให้มีเอกลักษณ์เฉพาะสำนักวัดเรา จึงได้สั่งให้สร้างเป็นเหรียญรูปท่านพระมหาอุปคุตขึ้นมาอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรก และได้เมตตาให้บท พระคาถาวันโลกดับ ขึ้นประทับเอาไว้ล้อมยันต์ที่ด้านหลังของเหรียญ คาถาวันโลกดับ เป็นคาถาที่พบในศิลาจารึก ในวัดเชตวันวิหาร ประเทศอินเดีย เขียนจารึกโดยท่านพระอานนท์เอกองค์อรหันต์พุทธอนุชา ตามพุทธทำนาย ให้ชาวพุทธไว้สวดป้องกันอันตราย ยามที่โลกมีภัยสงคราม ภัยอันตรายต่างๆ จะมีมหันตภัยอันใหญ่หลวง จึงได้รจนาแต่งขึ้นไว้ พระคาถาดังกล่าวว่าไว้ดังนี้
    " ทิตะทิรา ทันมันฑะโล กะลิลา กะละลา สะติโส จะถิโท คะหะตะเน ฯ "
    เหรียญพระมหาอุปคุตนี้ด้านหน้าเป็นรูปท่านมหาพระอุปคุตประทับนั่งอยู่บนผิวน้ำ มีดอกบัวผุดขึ้นขนาบข้างพระวรกายทั้งสองข้าง พระหัตถ์หนึ่งจกบาตรเป็นการแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ ความมั่งคั่งร่ำรวย พระหัตถ์อีกหนึ่งถือดอกบัวและแหงนหน้าขึ้นมองเพื่อบูชาองค์สมเด็จพระทศพล บ้างก็ว่าเป็นปางชำเลืองแลมาร หรือเป็นการคอยเหลือบมองดูพระยามารมิให้มีโอกาสทำอันตรายต่อผู้ที่ศรัทธาต่อพระศาสนาได้ ด้านข้างมีอักขระขอม อ่านว่า อุปคุตโต นะโมพุทธายะ ด้านบนสุดเป็น ยันต์อุนาโลม ส่วนด้านหลังมียันต์ตรงกลาง เรียกว่า ยันต์ลงเครื่อง ซึ่งยันต์นี้เป็นยันต์ใช้ลงได้ทุกอย่าง มีพุทธคุณรอบด้าน และเป็นแคล้วคลาด เมตตามหาโชคลาภ-ปราบมาร ล้อมรอบด้วยอักขระขอมจารึก พระคาถาวันโลกดับ เหรียญที่สร้างทั้งหมดมีดังนี้

    - เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ ปีกหนา สร้าง 14 องค์
    - เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ ปีกบาง สร้าง 12 องค์
    (ตอกโค๊ต และ หมายเลขกำกับทุกองค์)

    - เนื้อนวะโลหะชนวนศักดิ์สิทธิ์ สร้าง 100 องค์ (ตอกโค๊ตและหมายเลยกำกับทุกองค์)

    - เนื้อทองเหลือง ลงยาสีเขียว สร้าง 100 องค์ (ตอกโค๊ตกำกับเป็นสัญลักษณ์ แยกแยะได้)
    - เนื้อทองเหลือง ไม่ลงยา สร้าง 900 องค์ (ตอกโค๊ตกำกับทุกองค์)
    - เนื้อทองแดง รมมันปู สร้าง 1,000 องค์ (ตอกโค๊ตกำกับทุกองค์)


    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญพระมหาอุปคุต ออกให้ธุดงคสถานเขาน้ำซับ
    - เหรียญรุ่นนี้ สร้างในปี พ.ศ.2550 พร้อมกับเหรียญพระมหาอุปคุตของวัดเทพธารทอง โดย พระอาจารย์.....เจ้าอาวาสธุดงคสถานเขาน้ำซับ(สาขาวัดเทพธารทอง) เหรียญนี้ลักษณะด้านหน้าเหมือนกันกับเหรียญของวัดเทพธารทองทุกอย่าง ต่างกันแต่ด้านหลัง คือเป็นยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า มีทั้งแบบมีห่วงและไม่มีห่วง จำนวนสร้างทั้งหมดดังนี้
    - เนื้อทองเหลืองลงยา 300 องค์
    - เนื้อทองเหลืองไม่ลงยา 500 องค์
    - เนื้อทองแดง รมมันปู 500 องค์
    - เนื้อทองแดง จ่าเงา 500 องค์


    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญพระมหาอุปคุต ทรงระฆัง ออกให้วัดปะต๊ะ หรือวัดปาต๊ะ(พระหัตถ์ 4 รอย) เมืองลา(สิบสองปันนา) ประเทศจีน
    - เหรียญรุ่นนี้ สร้างในปี พ.ศ.2552 โดยท่านเจ้าอาวาสวัดปาต๊ะ เพื่อแจกให้พี่น้องญาติโยมในแถบนั้น เพื่อใช้ป้องกันอันตราย และเพื่อใช้หาทุนสร้างถาวรวัตถุต่างๆของทางวัดต่อไป รูปร่างของเหรียญเป็นทรงระฆัง ด้านหน้าของเหรียญเป็นรูปพระมหาอุปคุตปางมารวิชัยแบบหงายพระหัตถ์ ประทับนั่งอยู่บนผิวน้ำ มีดอกบัวผุดขึ้นขนาบข้างพระวรกายทั้งสองข้าง บนดอกบัวมีอักขระขอมอ่านว่า พุทโธ พระหัตถ์ข้างหนึ่งอุ้มบาตร พระหัตถ์อีกข้างหนึ่งหงายวางบนพระชานุ(เข่า)โดยถือดอกบัวเอาไว้ด้วย ด้านบนพระประภามณฑลมีอักขระภาษา ตัวเมืองล้านนา อ่านว่า ปาฏิหารมารฮ้ายบ่หัน แปลว่า ปาฏิหาริย์มารร้ายไม่เห็น ด้านบนสุดตรงบริเวณคอระฆังเป็นรูปดอกบัว 5 ดอก อันสื่อความหมายถึงพระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในภัทรกัปนี้ มีอยู่ 5 พระองค์ .ส่วนด้านหลังป็น รูปหินปาต๊ะ หรือหินรูปพระหัตถ์ 4 รอย อยู่บนฐานดอกบัวรองรับ มีอักขระตัวเมืองด้านข้างดอกบัวอ่านว่า วัดปาต๊ะ--เมืองลา ด้านข้างหินปาต๊ะจะมียันต์ทั้งสองข้าง เรียกว่า ยันต์นะพระเจ้า 5 พระองค์ มีอักขระขอมอยู่ใต้ยันต์ด้านซ้ายอ่านว่า สุสะปะวะ และอักขระขอมใต้ยันต์ด้านขวาอ่านว่า ธัมมะจารี ถัดจากหินปาต๊ะ ขึ้นไปเป็นรูปโบว์ มีอักขระตัวเมืองล้านนาอ่านว่าพระหัตถ์ สี่รอย เหรียญที่สร้างทั้งหมดมี
    - เนื้อนวะโลหะ 600 องค์
    - เนื้อทองเหลือง 5,000 องค์
    - เนื้อทองแดง 5,000 องค์
    และทางวัดปาต๊ะได้ถวายหลวงปู่พิศดูเอาไว้แจกลูกศิษย์อยู่ส่วนหนึ่ง พอจะประมาณคร่าวๆได้ว่ามี เหรียญทองเหลืองทองแดงรวมกันได้ประมาณ 200 องค์ เนื้อนวะโลหะ อีก 100 องค์ เนื้อนวะโลหะตอกโค๊ตกำกับเพียงเนื้อเดียว
    รวมความแล้ว เหรียญชุดปาต๊ะนี้อยู่ในประเทศไทยประมาณ 300 องค์ เท่านั้น




     
  7. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,597
    ค่าพลัง:
    +30,884
    [​IMG] [​IMG]
    พระรุ่นไถ่ชีวิตโค-กระบือ
    - สร้างขึ้นในต้นปี พ.ศ.2553 โดยองค์หลวงปู่พิศดู เป็นผู้สั่งการให้สร้าง ด้วยเหตุที่มีโยมผู้หนึ่งเอาแก่นไม้พญางิ้วดำมาถวายหลวงปู่ท่อนใหญ่ ตอนแรกหลวงปู่ท่านก็รับไว้ยังไม่ได้ว่าอะไร ท่านก็อธิษฐานจิตเสกอยู่กับทุกวัน แต่ต่อมาท่านจึงสั่งให้นำไม้พญางิ้วดำดังกล่าวไปแกะเป็นองค์พระ ลูกศิษย์ทางจ.ตาก ที่มีความสามารถในเรื่องงานแกะอัญมณี จึงขอรับอาสาไปลองหาพิมพ์สวยๆแกะมาถวายหลวงปู่ท่าน ในตอนแรก แกะเป็นเนื้อหินแร่อัญมณี โดยใช้แบบของเหรียญรุ่น6 สร้างศาลารวมใจ มาเป็นแบบลองพิมพ์มาถวายหลวงปู่ก่อนจำนวน 100 องค์ แกะโดยใช้เครื่องสปาร์ค หลวงปู่เห็นแล้วบอกว่าเข้าท่า ก็เลยให้ไม้พญางิ้วดำไปแกะ มีทั้งแบบ รูปเหมือนองค์หลวงปู่ กับรูป พระวิมุตตานังจันทบุรี(เป็นพระประธานในพระเจดีย์ใหญ่ที่วัดเทพธารทอง) จำนวนสร้างทั้งหมดมีดังนี้

    - รูปเหมือนหลวงปู่พิศดู เนื้อหินแร่อัญมณี 100 องค์ (มีรันหมายเลข)
    - รูปเหมือนหลวงปู่พิศดู เนื้อไม้พญางิ้วดำ 200 องค์ (มีรันหมายเลข)
    - รูปพระวิมุตตานังจันทบุรี เนื้อไม้พญางิ้วดำ 144 องค์ (ไม่รันหมายเลข)



    เหรียญของทางวัด ที่ไม่ใช่รูปเหมือนของหลวงปู่พิศดู ยังมีอีกรุ่นหนึ่งครับ



    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญ สมเด็จองค์ปฐมกลีบบัว รุ่นแรก

    - เหรียญรุ่นนี้ทางคณะลูกศิษย์ที่จัดสร้าง ล็อกเก็ตรูปคู่ท่านพ่อลีกับหลวงปู่ หรือรุ่นที่หลวงปู่ตั้งชื่อให้ว่า ล็อกเก็ตพ่อลูก นั้นได้สร้างขึ้นเพื่อเอาไปติดไว้ด้านหลังองค์ล็อกเก็ต [​IMG] [​IMG] ส่วนพระที่เหลือก็ได้นำแจกจ่ายผู้ที่มากราบเยี่ยมหลวงปู่
    พระทุกองค์ได้ทำการตอกโค๊ต และหมายเลข โดยเหตุผลคือ สมเด็จองค์ปฐมที่ และเป็นรุ่น ของหลวงปู่ จำนวนสร้างทั้งหมดมีดังนี้

    พระสมเด็จองค์ปฐมกลีบบัว เนื้อพิเศษ สร้าง 200 องค์
    พระสมเด็จองค์ปฐมกลีบบัว เนื้อ ทองเหลือง สร้าง 500 องค์
    พระสมเด็จองค์ปฐมกลีบบัว เนื้อ ทองแดง สร้าง 500 องค์

    (ในจำนวนนี้แบ่งเอาไปติดไว้ด้านหลังล็อกเก็ต ประมาณ 750 องค์)



    [​IMG] [​IMG]
    รูปหล่อเหมือนองค์หลวงปู่พิศดู รุ่นแรก

    - รูปหล่อรุ่นนี้สร้างถวายโดยลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากครับ สร้างในปี พ.ศ.2548 ทางคณะนี้พอสร้างเสร็จ ได้ถวายให้หลวงปู่ท่านทั้งหมด ไม่ได้ขอกลับเลยแม้แต่องค์เดียว แต่พระชุดนี้หลวงปู่บอกว่า สร้างได้สวย แต่ไม่ค่อยถูกตามลักษณะของสายพระป่า คือ ถ้าเป็นสายพระป่าจะห่มเฉียงธรรมดา ไม่ห่มดองหรือครองจีวรแบบรัดอก แต่ถ้าห่มรัดอกจะเป็นพระสายมหานิกาย แต่อันนี้ไม่เกี่ยวหรอก ผู้ทำ ทำมาถวายด้วยใจบริสุทธิ์ก็ได้อานิสงค์เสมอกัน.. พระรุ่นนี้สร้างเนื้อ ทองแดงรมมันปู เพียงอย่างเดียว สร้างทั้งหมดจำนวน 999 องค์ครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    .

    ชุดพระผงรูปเหมือนหลวงปู่พิศดู มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่นครับดังนี้..ครับ




    [​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG]

    1.พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก ของหลวงปู่ สร้างปี2520

    - เท่าที่เคยสอบถามและมีลูกศิษย์รุ่นเก่าๆให้ข้อมูลไว้ว่า หลวงปู่ท่านเคยสร้างวัตถุมงคลด้วยองค์ท่านเองตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 เรื่อยมา โดยครั้งนั้นท่านสร้างท่านด้วยผงวิเศษที่ท่านทำขึ้นเอง และประกอบด้วยมวลสารสำคัญๆของครูบาอาจารย์รุ่นเก่าอีกหลายท่าน โดยมีลูกศิษย์สายวัดอโศการาม และวัดทรายงามทำแม่พิมพ์มาถวาย แม่พิมพ์ทุกพิมพ์เป็นพิมพ์แบบโบราณๆ และทุกขั้นตอนหลวงปู่ท่านทำการผสมเนื้อและกดพิมพ์เองทั้งหมด มีทั้งเนื้อดินดิบผสมผงว่านยาต่างๆ และแบบเนื้อดินผสมผงแล้วเข้าไฟเผาแบบโบราณ ตามแบบสูตรพระของท่านพ่อลี โดยระหว่างที่ทำการเผาสุมไฟด้วยแกลบนั้น องค์หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบๆกองไฟเพื่อปรุงธาตุ เดินธาตุ

    มวลสารที่ท่านใช้ผสมนั้นประกอบไปด้วยผงวิเศษที่หลวงปู่ท่านทำเอง ว่านยาต่างๆ ชาญหมาก เกศา ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างรวมถึงดินในวัดเทพธารทอง ฯลฯ (ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากลูกศิษย์รุ่นเก่าๆของหลวงปู่ครับ)

    พระที่สร้างนี้มีทั้งพิมพ์รูปเหมือน สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม พิมพ์พระปิดตา พิมพ์สมเด็จ พิมพ์นางพญา และพิมพ์พระพุทธแบบซุ้มกอ....ฯลฯ จำนวนสร้างพระทั้งหมดนั้นรวมๆกันแล้วไม่น่าจะเกิน 1,000 องค์ ปัจจุบันเป็นของหายากมากๆ และเป็นที่เสาะหาของลูกศิษย์ทั้งเก่าและใหม่



    .
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    2.พระผงรูปเหมือน รุ่น2 ของหลวงปู่พิศดู
    - สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2547 โดยคณะศิษย์สาย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ถือได้ว่าสร้างได้ดีมากๆอีกรุ่นหนึ่งทีเดียว เพราะมีมวลสารต่างๆที่หลวงปู่มอบให้ไป รวมทั้งมวลสารที่ทางคณะนี้ได้นำมาใส่ไว้ด้วย อาทิ ผงวิเศษของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ผงหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ฯลฯ
    โดยรูปแบบนั้นหลวงปู่ท่านสั่งให้ทำเป็นรูปใบโพธิ์ ใต้ฐาน บรรจุตะกรุดที่หลวงปู่จารอักขระเอง โดยจารใส่แผ่นใหญ่ๆ แล้วให้ตัดซอยออกมาได้หลายดอก แล้วจึงม้วนห่อไว้ด้วยเกษาของหลวงปู่พิศดูท่าน แล้วจึงบรรจุไว้ใต้ขอบล่างทุกองค์ เป็นชุดเล็กที่สุดยอดจริงๆครับ จำนวนสร้างทั้งหมดเพียง 1,000 องค์ อฐิษฐานจิตอยู่ข้างพระประธานกุฏิหลวงปู่หลังเก่าอย่างน้อย 2-3 ปีครับ




    [​IMG][​IMG]
    3.พระผงรูปเหมือน รุ่น3 ของหลวงปู่พิศดู รวย รวย
    - สร้างขึ้นปี พ.ศ.2548 โดยลูกศิษย์ที่เป็นเศรษฐีคนหนึ่งสร้างมาถวาย สำหรับแจก และอีกส่วนหนึ่งได้นำไปบรรจุกรุพระเจดีย์ที่วัดแห่งหนึ่ง รุ่นนี้จึงไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก สร้างมาถวายทั้งหมดโดยประมาณ 1,000 องค์



    .
     
  8. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,597
    ค่าพลัง:
    +30,884
    นำข้อมูลมาให้เจ้าของกระทู้แล้วครับ ถ้าจะแก้ไขข้อมูลหรือจัดเรียงข้อมูลให้สวยงามก็ต้องเจ้าของบ้านทำล่ะครับ(deejai)(deejai)
     
  10. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,977
    เข้ามากราบหลวงปู่พิศดูครับ

    และมาสวัสดีพี่ทุเรียนทอด และ พี่ทุกท่านครับ
     
  11. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,983

    ขอบคุณป๋าบัติครับที่ก๊อปข้อมูลเก่าจากกระทู้หลวงปู่เชยมาลงไว้ให้ ข้อมูลบางอย่าง(ที่ก็อปมาให้)ก็ได้ลงไปบ้างแล้วอยู่ที่หน้ากระทู้ต้นๆครับ แต่ก็มีข้อมูลบางอย่างที่ยังไม่ได้ลงเพราะว่ามีบางส่วนที่ต้องดัดแปลงแก้ไขอยู่นิดหน่อย เพื่อให้หน้ากระทู้นี้ดูสวย บริบูรณ์ด้วยเนื้อหา และแน่นหนาด้วยข้อมูลความจริงที่สุด เท่าที่จะทำได้





    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2011
  12. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,983

    สวัสดีครับคุณ คนกันเอง ยินดีต้อนรับสู่กระทู้นี้ครับ ทุกท่านสามารถร่วมพูดคุยเรื่องราวต่างๆ(ได้ทุกเรื่องโดยไม่จำเป็นต้อเป็นเรื่องเกี่ยวกับองค์หลวงปู่) หรือบอกบุญ และออกความคิดเห็นได้ครับ :cool:
     
  13. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,983
    ขอชี้แจงสักนิดครับข้อมูลเกี่ยวกับองค์หลวงปู่ถ้าไม่ใช่ผมและพวกเราทำ ก็จะไม่มีใครทำจริงๆ เรื่องข้อมูลต่างๆภาคประวัติ และประสบการณ์ก็คงจะมีผู้รู้อยู่บ้าง แต่ท่านเหล่านั้นก็ไม่ไม่ค่อยร่วมลงข้อมูลให้ทุกท่านได้ทราบกันเลย บางท่านก็ลงไม่เป็นเพราะไม่เคยเล่นเน็ต
    แต่สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับวัตถุมงคลอันนี้ผมมั่นใจที่สุดเลยว่า ถ้าผมไม่ลงเอาไว้ แน่นอนไม่มีใครรู้ และไม่มีใครคิดจะทำ ถึงมีความคิดจะทำ ข้อมูลก็ไม่แน่นแน่นอน แม้ผมเองจะเสี่ยงโดนวิภาควิจารณ์ในจุดนี้ หาว่าผมปั่นกระแสขององค์หลวงปู่ให้แพง แต่ขอถามหน่อยว่า ถ้าคนที่มีของหลวงปู่ไม่เยอะ(อย่างผมเป็นต้น)จะปั่นไปเพื่ออะไรจริงไหมครับ(มันไม่ได้รวย) ขององค์หลวงปู่ไม่มีใครมีเยอะหรอกครับ เพราะของกระจัดกระจายไปทั่วประเทศ และต่างประเทศ และถ้าไม่ทำวันนี้ สักวันถ้าผมไม่อยู่บนโลกนี้แล้วใครจะไปรู้ข้อมูลตรงนี้ สักวันคนก็คงลืมกันไปหมด ของดีๆที่พ่อแม่ครูอาจารย์อุตส่าห์พากเพียรอธิษฐานเอาไว้ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้สร้างก็เป็นของดีทั้งนั้น เพราะผมมั่นใจว่าถ้าองค์หลวงปู่เป็นผู้อนุญาติให้ผู้นั้นจัดสร้างแล้ว ผู้นั้นเจตนาต้องบริสุทธิ์ แน่นอน เพราะอย่าลืมว่ามีผู้มาขออนุญาติจัดสร้างมากมาย แต่ท่านจะอนุญาติให้เพียงบางคนเท่านั้น ไม่อย่างนั้นวัตถุมงคลของท่านก็คงจะเกลื่อนตลาดไปนานแล้ว

    จุดประสงค์จริงๆ หลักๆ ก็เพื่อเผยแพร่เกียติคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ให้ผู้คนได้กล่าวขานไปตราบนานเท่านาน ใครจะว่าอย่างไรเราไม่ใส่ใจถ้าคำเหล่านั้นเป็นคำที่ไม่มีสาระ(ถึงรู้แต่ก็จะ..ไม่ตอบโต้) แต่ถ้าคำไหนๆที่สะท้อนกลับมาเป็นสิ่งที่มีเหตุผลสาระ ผมน้อมรับ และเต็มใจแก้ไขตรงจุดนั้นด้วยความเต็มใจและเคารพครับ.. ^^ :cool:

    ที่ผมต้องขอเน้นย้ำเรื่องนี้บ่อยๆ เพราะด้วยเหตุผลที่ว่า อาจมีบางท่านที่ไม่ค่อยเข้าใจเจตนาพวกเรา หรือท่านที่เข้ามาอ่านใหม่จะได้ทราบในเจตนาตรงกันนั่นเองครับ..^^



    .
     
  14. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,977

    ขอบคุณครับ พี่ทุเรียนทอด ที่นำเรื่องราวดีๆ มาให้ทราบครับ:cool:
     
  15. จันท์คับ

    จันท์คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,334
    ค่าพลัง:
    +11,056
    กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ ขอเป็นกำลังใจให้พี่ทุเรียนทอดนะครับใครจะคิดอย่างไรผมไม่รู้แต่ส่วนตัวผมเคารพและนับถือพี่ครับ เรื่องราวบางเรื่องของหลวงปู่ วัตถุมงคลแต่ละชนิดที่นำมาลงบอกตามตรงว่าผมเองก็ไม่เคยรู้แต่ก็ได้ความรู้จากพี่ที่นำมาเสนอด้วยเจตนาบริสุทธ์ สู้ต่อไปนะครับพี่ทุเรียนทอด คนอื่นไม่รู้แต่ผมเชื่อว่าฟ้าดินและครูบาอาจารย์รวมทั้งองค์หลวงปู่ท่านรับรู้ในเจตนาอันบริสุทธ์ของพี่นะครับ ด้วยความนับถือครับ
     
  16. kamolnetr

    kamolnetr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +633
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณทุเรียนทอด และทุกๆท่านครับ ข้อมูลเชิงลึกของหลวงปู่ไม่มีที่ไหนเลย...ผมเคยลองหาดูแล้ว ต้องกระทู้นี้แหละครับ อยู่ที่ใจนะครับหลวงปู่ทราบดี จะติดตามต่อไป.....
     
  17. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,597
    ค่าพลัง:
    +30,884
    เป็นกำลังใจให้เช่นกัน เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่หลวงปู่ก็รู้ ข้อมูลที่เจ้าของกระทู้นำมาให้ศึกษา เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อศิษย์รุ่นหลังมากๆเลยครับ ถ้าไม่มีกระทู้นี้สงสัยคนที่ต้องการเก็บวัตถุมงคลหลวงปู่คงหลงทางกันไปหมดแล้วครับ ส่วนเรื่องราคาผมว่าเป็นความพอใจทั้งสองฝ่าย ถ้าคิดว่าราคาสูงเกินไปก็อย่าไปเช่าครับ สักวันนึงคงได้เจอของที่ราคาที่เราพอใจและเต็มใจที่จะเช่าบูชา ไม่ก็อาจจะได้มาแบบไม่ต้องเสียเงินไปเช่ามาก็ได้ครับ :cool:

    อย่างเหรียญนี้ผมก็ไม่เคยคิดที่จะได้มาเลยครับ แต่แล้วหลวงปู่ก็มาโปรดครับ
    DSC00495.JPG
     
  18. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,983

    ยินดีอย่างยิ่งครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ :cool:
     
  19. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,983

    ขอบคุณมากๆครับคุณ จันท์คับ ที่ให้กำลังใจ ผมจะพยายามนำเรื่องราวดีๆมาเสนอให้ทุกท่านทราบต่อไป ประโยชน์อันใดมีน้อมถวายบูชาพระคุณพ่อแม่ครูอาจารย์ครับ
     
  20. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,983

    ขอบคุณมากๆครับคุณ kamolnetr ที่ให้กำลังใจ ผมจะพยายามนำเรื่องราวดีๆมาเสนอให้ทุกท่านทราบต่อไป ประโยชน์อันใดมีน้อมถวายบูชาพระคุณพ่อแม่ครูอาจารย์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...