หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

เจอในเวปครับบอกว่าเป็นพิมพ์ใบโพธุ์ของหลวงปู่ ไม่ทราบว่ามีสร้างหรือเปล่า ถ้ามีจะได้เช่าเก็บแบบสบายใจครับ ขอบคุณครับ

 

ขออนุญาติตอบตามตรงครับ พระพิมพ์นี้มีสร้างออกมาหลายวัดมาก เช่นวัดป่าคลองกุ้ง วัดอโศการาม วัดเขาน้อยท่าแฉลบ ฯลฯ และบางส่วนเอามาให้หลวงปู่ท่านอธิษฐาน หรือนำมาให้ท่านแจกญาติโยมในบางส่วน การหาเก็บนั้นต้องได้มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้จริงๆ แต่พระพิมพ์นี้ไม่ว่าจะออกที่วัดใดก็ดีหมดครับ เพราะส่วนใหญ่เจตนาดีและพิธีเสกก็ดีทั้งหมด ลูกศิษย์สายนี้เก่งๆทุกองค์ครับ

 

สวัสดีค่ะพี่ทุเรียนทอด และทุกท่านแวะเข้ามาทักทายหน่อยค่ะ ไม่ได้เข้าตั้งมาตั้งหลายวันสบายดีกันนะคะ

 

เว็ปใช้ได้แล้ว หายไปสองอาทิตย์เลย สวัสดีคุณทุเรียนทอด และสมาชิกทุกท่านครับ

 

พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ
ผมพยายามรวบรวมข้อมูลวัตถุมงคลขององค์หลวงปู่มาเก็บไว้ในกระทู้นี้ให้ได้มากที่สุด มีทั้งที่ออกในนามวัด และของที่ฝากเข้าพิธีด้วย เพราะไม่อยากให้ข้อมูลความจริงต้องสูญหายหรือบิดเบือนไป
อย่างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิขององค์หลวงปู่นี้แม้จะสร้างจำนวนไม่มาก และไม่ได้เป็นทางการนัก เพราะสร้างขึ้นมาไว้ใช้กันเองในศิษย์สองสำนัก แต่ก็ควรลงข้อมูลเอาไว้เพื่อต่อไปจะได้ไม่เป็นการถกเถียงกันว่ามีไม่มีอย่างไร.. แต่ก่อนอื่นก็อยากจะเท้าความความเป็นมาเป็นไปของวัสดุที่นำมาสร้างพระชุดนี้ก่อน

พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ
ตามตำราระบุไว้ว่าต้องใช้วัสดุในการจัดสร้างจากไม้มหามงคล 3 ประการ คือ

1.ไม้โพธิ์นิพพานให้ใช้กิ่งที่ชี้ไปทางทิศตะวันออก และห้ามไปตัดไปโค่นลง
2.ไม้ยอป่าที่เกิดงอกกลางตอไม้
3.ไม้คูณที่ตายพราย คือ เป็นต้นไม้คูณที่ตายไปเองโดยธรรมชาติ

ส่วนที่นำมาสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ถวายให้องค์หลวงปู่อธิษฐานนั้นเป็นไม้โพธิ์ในวัดเทพธารทองที่หักลงมาเอง ในวันที่หักลงมานั้นเป็นวันพระด้วย ถ้าหากผมจำไม่ผิดวันที่หักลงมาเป็นวันพระ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 1 (ผลลับ+กัน= 9) ซึ่งก็น่าแปลกอีกเช่นกันว่า ต้นโพธิ์ต้นนี้เป็นแขนงต้นโพธิ์จากประเทศอินเดีย นำมาปลูกที่วัดเทพธารทอง ในวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 9 โมง 9 นาที ซึ่งตอนที่กิ่งโพธิ์นี้หักลงมามีลมพายุพัดแรง เสียงกิ่งโพธิ์หักลงมาเสียงดังสนั่น หลวงปู่ท่านจึงสั่งให้ให้จัดการ เลื่อยเก็บเอาไว้ และให้ทำไม้เท้ามาถวายให้ท่านด้วย ที่เหลือก็ไปจัดการกันเอาเองหลวงปู่อนุญาติ และหวยงวดนั้นก็ยังออก 09 อีกด้วย หลายคนก็ได้โชคลาภกันไป
พอเก็บไม้โพธิ์นิพพานกิ่งนี้ไว้หลายปีจนแห้งสนิทดีแล้วจึงได้นำมาแกะสลักเป็น พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ได้จำนวน 12 องค์ โดยลักษณะเป็นรูปพระลอยองค์ปางสมาธิมีพระพักตร์ 9 หน้า หมายถึงท่านมหาเศรษฐีทั้ง 9 องค์ซึ่งล้วนเป็นพระอริยะบุคคลขั้นโสดาบัน
ท่านมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน มีรายนามดังนี้

1.ธนัญชัยมหาเศรษฐี

2.ยัสสะมหาเศรษฐี

3.สุมนะมหาเศรษฐี

4.ชฏิสัสสะมหาเศรษฐี

5.อนาถบิณฑิกะมหาเศรษฐี

6.เมณฑกะมหาเศรษฐี

7.โชติกะมหาเศรษฐี

8.สุมังคละมหาเศรษฐี

9.พระนางวิสาขา มหาอุบาสิกา

ซึ่งมีเคล็ดลับอยู่อย่างหนึ่งคือ เวลาสร้างเป็นรูปพระพักตร์ท่านมหาเศรษฐีทั้ง 9 นั้น พระพักตร์เพียง 1 องค์ ใน 9 องค์ จะไม่มีพระเกศเพราะเป็นรูปสมมุติของสตรีเพศ(พระนางวิสาขา)

พอแกะเป็นรูปองค์พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนำมาบรรจุมวลสารมหามงคลอย่างยิ่ง เช่น เกศาพระอริยะเจ้าที่มีมหาบารมีสูงส่ง 9 องค์ ได้แก่
- เกศาสมเด็จพระสังฆราช
- เกศาหลวงปู่ภัททันตะ อาสภะเถระ
- เกศาหลวงตาพระมหาบัว
- เกศาครูบาพรหมมา พรหมจักรโก
- เกศาหลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี
- เกศาหลวงปู่จาม
- เกศาครูบาชัยวงศาพัฒนา
- เกศาพระราชพรหมญาณ (ฤาษีลิงดำ)
- เกศาครูบากฤษดา สุเมโธ
(ในจำนวนพระเกศาอริยะธาตุเหล่านี้ มีทั้งพระอรหันต์ และพระอริยะมหาโพธิสัตว์)
และบรรจุผงพุทธะมงคลขององค์หลวงปู่พิศดู และมวลสารต่างๆที่เป็นสุดยอดของแต่ละสำนัก ที่คัดสรรแล้วว่าเป็นสายพุทธคุณ และทางเมตตาล้วนๆ จากนั้นจึงทำการปิดประทับด้วยแผ่นเงินบริสุทธิ์ ตอกโค๊ตกำกับ
และได้นำเข้าขอความเมตตาจากองค์หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตให้ ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2553 ซึ่งตรงกับวัน พฤหัสบดี ขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 เวลา 9 โมง 9 นาที เป็นต้นไปจนถึงวันสมโภชน์ในวันพิธี ตักบาตรพระมหาอุปคุต ในวันเพ็ญพุธขึ้น 15 ค่ำ และองค์หลวงปู่ยังอธิษฐานต่อให้อีกสองวัน รวม 9 วัน จึงนำกลับมา รวมความแล้วมีแต่ 9
องค์หลวงปู่พิศดูท่านเรียกพระชุดนี้เป็นนามมหามงคลอย่างยิ่งว่า พระล้านโกฏิ (อภิมหาเศรษฐี) .
จากนั้นได้ส่งพระขึ้นไปทางภาคเหนือให้ช่างได้แกะสลักฐานด้วยงาช้างแท้ๆ หุ้มที่ฐานพระอีกทีหนึ่ง และเคลือบด้วยสีผึ้งสุริยะคลาส จึงนำขึ้นขอความเมตตาท่านครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง สวดสรรเสริญคุณให้อีกรอบ และท่านยังเมตตาจารอักขระใต้ฐานที่เป็นงาช้างด้วยยันต์ ผู้ชนะสิบทิศ ซึ่งเป็นยอดแห่งยันต์ทั้งปวง ซึ่งยันต์นี้เป็นอักขระตั๋วเมือง ถอดเป็นหัวใจพระหัวใจธรรมอริยะชั้นสูง ใครผู้ใดมีไว้ครอบครองสักการะบูชาจะชนะอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีใครทำอันตรายแก่ผู้บูชายันต์นี้ได้ จะไปแข่งค้าขาย หรือแข่งขันอันใดขอให้เชื่อมั่นในพุทธานุภาพอย่างจริงใจ ไม่มีคำว่าพ่ายแพ้เลยแล..ฯ

คาถาบูชาพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ (ทุกสำนัก)​

ตั้ง นะโมตัสสะ...ฯ 3 จบ​

มาขะโย มาวะโย มัยหัง มาจะโกจิ อุปัททะโว ​

ธัญญะธารานิ ปะวัสสันตุ ธนัญชัย ยัสสะยะถาคะเร ​

สุวัณณานิ หิรัญญาจะ สัพพะโภคา จะ รัตตะนา​

ปะวัสสันตุ เม เอวังคะเร สุมะนะ ชะฎิสัสสะ ​

จะอะนาถะบิณฑิกะ เมทะ กัสสะ โชติกะ สุมังคะ สัสสะ ​

จะ มัณฑาตุ เวสสันตะ รัสสะ ปะวัสสันติ ยะถาคะเร​

เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ สัพพะ สิทธิ ภะวัน ตุ เม​

ซึ่งวิชาการสร้างและเสกพระมหาเศรษฐีนวโกฏินี้เป็นวิชาที่สูงมาก แรงมาก ผู้ที่จะทำการเสกนั้นต้องประกอบด้วยมหาบารมีธรรมชั้นสูงจริงๆจึงจะทำได้สำเร็จ ไม่ใช่เพียงแค่สร้างเป็นรูปลักษณ์สวยงามและเข้าพิธีปลุกเสกตามอย่างพระเครื่องทั่วๆไปไม่ เพราะถ้าทำได้เพียงแค่นั้นอานุภาพที่ได้ก็ไม่ถึงครึ่งของสิ่งที่ควรจะเป็น ส่วนมากผู้ที่จะทำพระมหาเศรษฐีนวโกฏิสำเร็จ ต้องเป็นพระอริยะบุคคลขั้นใดขั้นหนึ่งและจะต้องมีบารมีธรรมที่ถึงพร้อม และสามารถอัญเชิญบารมีธรรมของท่านอริยะมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่าน มาสถิตได้อย่างแน่นอนด้วย จึงจะสมเหตุสมผล ​

ผมจึงขอลงประวัติการสร้างเครื่องรางชั้นสูงที่มีองค์หลวงปู่ และท่านครูบากฤษดาเป็นผู้อธิษฐานไว้ ซึ่งได้บังเกิดขึ้นอีกวาระหนึ่งแล้ว ด้วยประการทั้งปวง จะได้เป็นหลักฐานยืนยันว่ามีการสร้างอยู่จริง แต่เราคงไม่ต้องไปหาที่ไหนเพราะว่าสร้างจำนวนทั้งหมดแค่ 12 องค์เท่านั้น คงหาไม่ได้แน่นอน เพียงแต่.. ผมและทุกท่านก็คงได้แต่อนุโมทนา สาธุ กับท่านผู้โชคดี และผู้สร้างทุกท่านมา ณ โอกาสนี้เท่านั้นครับ สาธุ




​

 

สวัสดีครับพี่ เฉียวฟง และสมาชิกทุกท่านครับ :boo:

 

รูปหล่อเหมือนองค์หลวงปู่พิศดู รุ่นแรก

- รูปหล่อรุ่นนี้สร้างถวายโดยลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากครับ สร้างในปี พ.ศ.2548 ทางคณะนี้พอสร้างเสร็จ ได้ถวายให้หลวงปู่ท่านทั้งหมด ไม่ได้ขอกลับเลยแม้แต่องค์เดียว แต่พระชุดนี้หลวงปู่บอกว่า สร้างได้สวย แต่ไม่ค่อยถูกตามลักษณะของสายพระป่า คือ ถ้าเป็นสายพระป่าจะไม่ห่มดองหรือครองจีวรแบบรัดอก แต่จะห่มเฉียงธรรมดา แต่ถ้าห่มรัดอกจะเป็นพระสายมหานิกาย แต่ผู้ทำ ทำมาถวายด้วยใจบริสุทธิ์ก็ได้อานิสงค์เสมอกัน.. พระรุ่นนี้สร้างเนื้อ ทองแดงรมมันปู เพียงอย่างเดียว สร้างทั้งหมดจำนวน 999 องค์ครับ

​

พระชุดนี้สำหรับผมเองก็บูชาอยู่ และก็ปรากฏมีพระธาตุเสด็จมาเกาะที่องค์พระหลายองค์ มีทั้งองค์ใหญ่ องค์เล็ก วรรณะขาวบ้าง ใสบ้าง เกาะอยู่บริเวณองค์ของท่านครับ นี่แหละครับเป็นเครื่องยืนยันได้เลยว่า ความบริสุทธิคุณขององค์หลวงปู่นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะธาตุขันธ์เท่านั้นที่ขึ้นพระธาตุได้ แม้แต่จิตที่บริสุทธิ์ของท่านหากได้บรจุลงในวัตถุธาตุใดๆก็ตาม ก็สามารถแปลสภาพ หรือเป็นสิ่งดึงดูดให้มีพระธาตุเสด็จมาได้เช่นกัน และเคยพบกับตาตนเองหลายอย่างแล้วในวัตถุมงคลของท่านที่เกิดมีพระธาตุ หรือพระธรรมธาตุ เช่น เหรียญรุ่น5(ใบโพธิ์ใหญ่) รูปหล่อขนาดบูชา ล็อกเก็ต ฯลฯ หายสงสัยเลยครับ




.[/FONT][/COLOR]

 

ชุดพระผงรูปเหมือนหลวงปู่พิศดู มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่นครับดังนี้..ครับ






1.พระกสิณ พิมพ์รูปเหมือน รุ่นแรก(ยุคแรก) ของหลวงปู่ สร้างประมาณปี2520

- เท่าที่เคยสอบถามและมีลูกศิษย์รุ่นเก่าๆให้ข้อมูลไว้ว่า หลวงปู่ท่านเคยสร้างวัตถุมงคลด้วยองค์ท่านเองตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 เรื่อยมา โดยครั้งนั้นท่านสร้างท่านด้วยผงวิเศษที่ท่านทำขึ้นเอง และประกอบด้วยมวลสารสำคัญๆของหลวงปู่เอง และครูบาอาจารย์รุ่นเก่าอีกหลายท่าน โดยมีลูกศิษย์สายวัดเขาน้อยท่าแฉลบ และที่ต่างๆ ช่วยถอดแม่พิมพ์ถวาย แม่พิมพ์ทุกพิมพ์เป็นพิมพ์แบบโบราณๆ และทุกขั้นตอนทำกันในวัด โดยมีลูกศิษย์ช่วยผสมเนื้อและช่วยกันกดพิมพ์ มีทั้งเนื้อดินผสมผงวิเศษ ผงธูป ขมิ้นเหลือง ว่านยาต่างๆ และแบบเนื้อดินผสมผงแล้วเข้าไฟเผาแบบโบราณ ตามแบบสูตรพระของท่านพ่อลี โดยระหว่างที่ทำการเผาสุมไฟด้วยแกลบนั้น องค์หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบๆกองไฟเพื่อปรุงธาตุ เดินธาตุ

มวลสารที่ท่านใช้ผสมนั้นประกอบไปด้วยผงวิเศษที่หลวงปู่ท่านลบเอง ว่านยาต่างๆ ชาญหมาก เกศา ผงธูปอธิษฐาน ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆรวมถึงดินศักดิ์สิทธิ์ในวัดเทพธารทอง ดอกไม้บูชาพระ ฯลฯ (ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากลูกศิษย์รุ่นเก่าๆของหลวงปู่ครับ)

พระที่สร้างนี้มีด้วยกันหลายพิมพ์มาก อาทิ รูปเหมือน สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม พิมพ์พระปิดตา พิมพ์สมเด็จ พิมพ์นางพญา พิมพ์พระพุทธแบบซุ้มกอ ขุนแผน ใบโพธิ์....ฯลฯ ปัจจุบันเป็นของหายากมาก และเป็นที่เสาะหาของลูกศิษย์ทั้งเก่าและใหม่




2.พระผงรูปเหมือน รุ่น2 ของหลวงปู่พิศดู
- สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2547 โดยคณะศิษย์สาย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ถือได้ว่าสร้างได้ดีมากๆอีกรุ่นหนึ่งทีเดียว เพราะมีมวลสารต่างๆที่หลวงปู่มอบให้ไป รวมทั้งมวลสารที่ทางคณะนี้ได้นำมาใส่ไว้ด้วย อาทิ ผงวิเศษของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ผงหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ฯลฯ
โดยรูปแบบนั้นหลวงปู่ท่านสั่งให้ทำเป็นรูปใบโพธิ์ ใต้ฐาน บรรจุตะกรุดที่หลวงปู่จารอักขระเอง โดยจารใส่แผ่นใหญ่ๆ แล้วให้ตัดซอยออกมาได้หลายดอก แล้วจึงม้วนห่อไว้ด้วยเกษาของหลวงปู่พิศดูท่าน แล้วจึงบรรจุไว้ใต้ขอบล่างทุกองค์ เป็นชุดเล็กที่สุดยอดจริงๆครับ จำนวนสร้างทั้งหมดเพียง 1,000 องค์ อฐิษฐานจิตอยู่ข้างพระประธานกุฏิหลวงปู่หลังเก่าอย่างน้อย 2-3 ปีครับ






3.พระผงรูปเหมือน รุ่น3 ของหลวงปู่พิศดู รวย รวย
- สร้างขึ้นปี พ.ศ.2548 โดยลูกศิษย์ที่เป็นเศรษฐีท่านหนึ่งสร้างมาถวาย สำหรับแจก และอีกส่วนหนึ่งได้นำไปบรรจุกรุพระเจดีย์ที่วัด รุ่นนี้จึงไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก สร้างมาถวายทั้งหมดโดยประมาณ 1,000 องค์





4.พระผงรูปเหมือน รุ่น4
พระผงชุดนี้จัดสร้างโดยคณะศิษย์ชุดอุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่ ลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ครึ่งองค์อยู่ในใบโพธิ์ เพราะเอาบล็อคเหรียญรุ่น5 มากดพิมพ์ ส่วนด้านหลัง มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบเหมือนกับด้านหลังเหรียญใบโพธิ์รุ่น5 อีกแบบคือด้านหลังเป็นรูปใบไม้ สร้างประมาณปี พ.ศ.2549 พอหลังจากปั๊มเหรียญรุ่น5สำเร็จเสร็จลง ก็นำเนื้อผงมวลสารต่างๆมานวดคลุกเคล้ากันและลองกดพิมพ์พระนี้ขึ้นมาได้จำนวนไม่มากนัก ไม่น่าเกิน 60 องค์ และมีเนื้อกดพิมพ์นำฤกษ์ 7 องค์ เป็นงานทำแบบง่ายๆไม่ปราณีต ขนาดการตัดขอบแต่ละองค์ไม่ค่อยเท่ากันนัก และถวายหลวงปู่อธิษฐานจิตไว้นานถึง 2 ปี
ส่วนแม่พิมพ์ทั้งหมดก็ได้ทำลายไปแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้จึงสบายใจได้ครับ รวมถึงพระรุ่นอื่นๆด้วยครับ
พระผงชุดนี้จะเป็นเนื้อผง แก่น้ำมัน(มนต์)ครับ เพราะฉะนั้นเนื้อพระจึงออกมีความฉ่ำ กระแสเนื้อออกเป็นสีเหลืองอมขาว ส่องแว่นขยายดูจะเห็นมวลสารผสมอยู่ในเนื้อมากมายครับ เป็นพระอีกชุดนึงที่ไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับพระผงรูปเหมือนหลวงปู่พิศดูนั้น พระผงชุดนี้นับว่าหาดูยากที่สุด เนื่องจากจำนวนสร้างที่น้อยมากครับ..



.................................




พระรุ่นไถ่ชีวิตโค-กระบือ
- สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยองค์หลวงปู่พิศดู เป็นผู้สั่งการให้สร้าง ด้วยเหตุที่มีลูกศิษย์ผู้หนึ่งเอาแก่นไม้พญางิ้วดำท่อนใหญ่มาถวายหลวงปู่ ตอนแรกหลวงปู่ท่านก็รับไว้แต่ยังไม่ได้สั่งอะไร ท่านก็อธิษฐานจิตเสกอยู่ทุกวัน แต่ต่อมาท่านจึงสั่งให้นำไม้พญางิ้วดำดังกล่าวไปแกะเป็นองค์พระ โดย ลูกศิษย์ทางจ.ตาก ที่มีความสามารถในเรื่องงานแกะอัญมณี จึงขอรับอาสาไปลองหาพิมพ์สวยๆแกะมาถวายหลวงปู่ท่าน ในตอนแรก แกะเป็นเนื้อหินแร่อัญมณี โดยใช้รูปแบบของเหรียญรุ่น6 สร้างศาลารวมใจ แกะมาเป็นลองพิมพ์ถวายหลวงปู่ก่อนจำนวน 100 องค์ โดยใช้เครื่องสปาร์ค หลวงปู่เห็นแล้วบอกว่า เข้าท่า ก็เลยให้ไม้พญางิ้วดำไปแกะ มีทั้งแบบ รูปเหมือนองค์หลวงปู่ กับรูป พระวิมุตตานังจันทบุรี (ปางนาคปรก) ซึ่งเป็นพระประธานในพระเจดีย์ใหญ่ที่วัดเทพธารทอง จำนวนสร้างทั้งหมดมีดังนี้
- รูปเหมือนหลวงปู่พิศดู เนื้อหินแร่อัญมณี 100 องค์ (มีรันหมายเลข)
- รูปเหมือนหลวงปู่พิศดู เนื้อไม้พญางิ้วดำ 200 องค์ (มีรันหมายเลข)
- รูปพระวิมุตตานังจันทบุรี(ปางนาคปรก) เนื้อไม้พญางิ้วดำ 144 องค์ (ไม่รันหมายเลข)

 

กราบหลวงปู่พิศดูครับ

ดีใจที่ได้อ่านข้อมูลพระเครื่องหลวงปู่ครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน ขอบคุณมากครับพี่ทุเรียนทอดสำหรับข้อมูล และอยากขออภัยท่านเจ้าของพระด้วยครับที่นำรูปมาโพสโดยพละการ ขอบคุณครับ

 

หวัดดีท่านเจ้าของกระทู้และสมาชิกทุกท่านครับ

 

สวัสดีค่ะ คุณทุเรียนทอดและเพื่อนสมาชิก เพิ่งได้รับพิมพ์นี้มาจากหลวงพ่อองค์หนึ่งที่วัดธรรมสถิตย์ค่ะ ท่านว่าเป็นของวัดอโศการาม แต่เหลี่ยมแล้วด้านหลังบรรจุเกศา ท่านบอกว่าเป็นเกศาขององค์หลวงปู่ค่ะ
วันนี้ขอเล่าเรื่องความเมตตาขององค์หลวงปู่ค่ะ เมื่อวันครบรอบ 50 วันที่ท่านละสังขาร ทางวัดได้จัดให้มีการทำบุญ มีพี่คนหนึ่ง ฝากอาหารใส่ปิ่นโตมมาร่วมบุญด้วย โดยได้ตั้งจิตอธิฐานถึงองค์หลวงปู่ เนื่องจากไม่สามารถมาร่วมงานได้ ผ่านไปหลายวันเอาปิ่นโตไปคืนและร่วมอนูโมทนาบุญกับพี่เขา พี่เขาเล่าให้ฟังว่าวันนั้น ตกบ่ายงีบหลับไปฝันเห็นองค์หลวงปู่มาสวดมนต์ให้พรที่บ้าน ทำให้นึกถึงป้ายที่วัด ที่เขียนไว้ว่า "ไม่ใช่เลือดใช่เนื้อ แต่มีใจเอื่อเฟื้อ ก็เหมือนเนื้ออาตมา ใช่เลือดใช่เนื้อ ไม่มีใจเอื่อเฟื้อก็เหมือนเนื้อในป่า" พี่เขาไม่เคยไปกราบองค์หลวงปู่มีแต่ร่วมบุูญและร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันทุกครั้ง ที่เราได้ไปกราบหลวงปู่ หลวงปู่เมตตาพี่เขาจริง ๆ ค่ะ

 

สำหรับข้อมูลที่เสนอไปก็เพียงความรู้ที่ผมพอทราบเท่านั้นครับ ก็ยินดีที่มีประโยชน์ให้ท่านทั้งหลายได้หายสงสัยครับ แต่ขออนุญาติสักนิดนึงครับหากว่ารูปวัตถุมงคลนั้นๆที่จะนำมาสอบถามหากมีชื่อร้านหรือชื่อบุคคล ขอสงวนสิทธิ์ของท่านเหล่านั้นสักนิด ขอให้สอบถามมาทาง PM จะสะดวกมากกว่านี้นะครับ ขอบพระคุณครับ ^_^.

 

พระปัจเจกโพธิ ขนาดบูชาหน้าตัก 3 นิ้ว ไม้โพธิ์นิพพานแกะ

พระชุดนี้สร้างขึ้นในปี 2553 เพื่อไว้บูชาส่วนตัว โดยแกะสลักจากไม้โพธิ์ข้างกุฏิเก่าขององค์หลวงปู่ ที่หักลงมาเอง(ไม้โพธิ์นิพพาน) ในวันที่หักลงมานั้นก็เป็นวันพระด้วย ถ้าหากผมจำไม่ผิดวันที่หักลงมาเป็นวันพระ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 1 ต้นโพธิ์ต้นนี้เป็นแขนงต้นโพธิ์ตรัสรู้จากประเทศอินเดีย นำมาปลูกไว้ที่วัดเทพธารทอง ในวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 9 โมง 9 นาที ซึ่งตอนที่กิ่งโพธิ์นี้หักลงมามีลมพายุพัดแรง เสียงกิ่งโพธิ์หักลงมาเสียงดังสนั่น ทันทีที่กิ่งหักลงมา หลวงปู่ท่านจึงสั่งให้ให้จัดการเลื่อยเก็บเอาไว้ และสั่งให้ทำไม้เท้ามาถวายท่านด้วย ที่เหลือก็ไปจัดการกันเอาเองหลวงปู่อนุญาติ และหวยงวดนั้นก็ยังออก 09 อีกด้วย หลายคนก็ได้โชคลาภกันไป
พอเก็บไม้โพธิ์นิพพานกิ่งนี้ไว้จนแห้งสนิทดีแล้ว จึงได้นำมาแกะสลักเป็น พระมหาเศรษฐีนวะโกฏิได้ 12 องค์ , ไม้เท้า 4 ด้าม และพระปัจเจกโพธิ์ ขนาดบูชา 4 องค์ พระปัจเจกโพธินี้ใช้ส่วนที่เป็นแกนในสุดของกิ่งโพธิ์นิพพานมาแกะ โดยมีรูปพระปัจเจกพุทธเจ้าของวัดสันพระเจ้าแดงมาเป็นแบบ หลังจากทําเสร็จได้ขอความเมตตาครูบาอธิษฐานอัญเชิญบารมี จากนั้นจึงไปขอความเมตตาหลวงปู่พิศดูอีกครั้งครับ<!-- google_ad_section_end -->

ใต้ฐานบรรจุสุดยอดสิ่งมงคลสักการะ และมวลสารต่างๆดังนี้..

พระธาตุ

แร่ต่างๆ

พระเกศาธาตุ พระสุปฏิปันโน 10 องค์
- เกศาสมเด็จพระสังฆราช
- เกศาหลวงปู่ภัททันตะ อาสภะเถระ
- เกศาหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
- เกศาครูบาพรหมมา พรหมจักรโก
- เกศาหลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี
- เกศาหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
- เกศาครูบาเจ้าชัยวงศาพัฒนา
- เกศาพระราชพรหมญาณ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
- เกศาหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
- เกศาครูบากฤษดา สุเมโธ

และมวลสารต่างๆที่ใช้บรรจุในพระกริ่งธัมมะจารี ...ฯลฯ







พระผงยอดธง หลังพระเจ้าตากสิน
พระสมเด็จชุดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยท่านพระมหาลอย จัตตมโล พระลูกวัดของวัดพลับบางกะจะ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ได้ขออนุญาตท่านเจ้าอาวาสวัดพลับจัดสร้างพระผงขึ้นมา เพื่อแจกจ่ายแก่ญาติโยม โดยท่านพระมหาลอยได้นำมวลสารต่างๆตั้งแต่สมัยหลวงปู่เหรียญ อดีตเจ้าอาวาสและเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดพลับบางกะจะ และมวลสารต่างๆมาผสม และกดพิมพ์เป็นองค์พระขึ้นมา ได้ประมาณ 1,000 องค์
โดยพุทธลักษณะด้านหน้าเป็นรูปพระยอดธงพระเจ้าตากสินมหาราช มีอักขระขอมรายล้อมองค์พระอ่านว่า " พุทโธอะระหัง อะระหังพุทโธ สุคโต ภะคะวา นะเมตตาจิต " และ " นะ จัง งัง "
ส่วนด้านหลังเป็นพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงถือพระแสงดาบ พร้อมด้วยพระนามของพระองค์ และด้านล่างเป็นชื่อ วัดพลับ จันทบุรี ที่มุมทั้ง 4 ด้านประกอบด้วยอักขระขอม 4 ตัวคือหัวใจธาตุทั้ง 4 อ่านว่า " นะมะพะทะ "
ด้วยเหตุที่ทางวัดพลับบางกะจะจัดสร้างพระผมพิมพ์นี้ ก็เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงกอบกู้เอกราชชาติสยาม จนได้รับชัยชนะ ด้วยการรวบรวมไพร่พลที่เมืองจันทบุรี และวัดพลับบางกะจะนี้ เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงได้ตั้งสัตยาธิษฐาน และทรงสร้างพระยอดธงบรรจุกรุเอาไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ แทนคุณผืนแผ่นดิน และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา
หลังจากได้กดพิมพ์พระเสร็จแล้ว ได้นำพระทั้งหมดมาขอเมตตาให้องค์หลวงปู่พิศดูช่วยอธิษฐานจิตให้ เป็นระยะเวลา 1 ไตรมาส(3เดือน) จากนั้นได้มอบพระพิมพ์นี้ถวายให้องค์หลวงปู่ไว้แจกแก่ผู้ศรัทธา ประมาณ 300-400 องค์(ส่วนของวัดเทพธารทองจะมีปั๊มตรงยางกลมๆครับ ถ้าเป็นพระส่วนของวัดพลับ จะไม่ได้ปั๊มตรายางกลมๆ แต่ว่าหลวงปู่เมตตาอธิษฐานให้พร้อมกันทั้งหมดครับ) ส่วนพระที่เหลือนั้น ท่านพระมหาลอยได้นำไปแจกจ่ายญาติโยม และบรรจุกรุไว้ที่วัดพลับ เพื่อสืบทอดพระศาสนาต่อไปครับ

พระผงยอดธง หลังพระเจ้าตากสินชุดนี้ สร้างพร้อมกันกับพระผงสมเด็จ หลังพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ พระพุทธบาท 4 รอย ชุดนี้นั่นเองครับ





พระผงสมเด็จ หลังพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ พระพุทธบาท 4 รอย
พระสมเด็จชุดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยท่านพระมหาลอย จัตตมโล วัดพลับ(บางกะจะ) อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เพื่อบรรจุกรุสืบทอดพระศาสนา โดยท่านพระมหาลอยได้นำมวลสารต่างๆตั้งแต่สมัยหลวงปู่เหรียญ อดีตเจ้าอาวาสและเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดพลับบางกะจะ และมวลสารต่างๆมาผสม และกดพิมพ์เป็นองค์พระขึ้นมา ได้ประมาณ 1,000 องค์ โดยพุทธลักษณะด้านหน้าเป็นรูปสมเด็จพระประธานปางสมาธิ ที่ฐานมีอักษรว่า ก.จ.๑ จันทบุรี ๒๕๕๒ ความหมายสันนิจฐานว่าน่าจะเป็น บางกะจะ รุ่น๑ นั่นเอง ส่วนด้านหลังนั้น เป็นรูปพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ และรูปพระพุทธบาท 4 รอย พร้อมด้วยบทคาถาว่า นะโมพุทธายะ นะชาลีติ มะอะอุ..
หลังจากได้กดพิมพ์พระเสร็จแล้ว ได้นำพระทั้งหมดมาขอเมตตาให้องค์หลวงปู่พิศดูช่วยอธิษฐานจิตให้ เป็นระยะเวลา 1 ไตรมาส(3เดือน) จากนั้นได้มอบพระพิมพ์นี้ถวายให้องค์หลวงปู่ไว้แจกแก่ผู้ศรัทธา เนื่องในงานตักบาตรพระมหาอุปคุตประจำปี 2553 ประมาณ 200 องค์ ส่วนพระที่เหลือนั้น ท่านพระมหาลอยได้นำไปบรรจุกรุไว้ที่วัดพลับ เพื่อสืบทอดพระศาสนาต่อไปครับ







พระอุปคุตลอยองค์ เนื้อผงรุ่นนี้สร้างประมาณปี พ.ศ.2550 โดยคณะศิษย์ทางกรุงเทพฯ เป็นผู้สร้างถวายครับ ซึ่งทางคณะศิษย์ชุดนี้ได้ช่วยกันรวบรวมผงพุทธคุณไว้มากมาย อาทิ ผงพระหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ผงบางขุนพรหม และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยช่วยกันกดพิมพ์ที่วัดๆหนึ่งในเขตห้วยขวาง กทม. ทั้งตำผง ผสมผง และกดพิมพ์กับมือใส่บล็อกยางแบบประกบ และได้นำมาถวายให้องค์หลวงปู่ ไว้แจกลูกศิษย์ได้ประมาณ 1,500 องค์ มีทั้งสี ดำ น้ำตาล และสีขาว(ครีม)






<!-- google_ad_section_end -->

 

หวัดดีครับคุณทุเรียนทอด แล้วประคำข้อมือใช้ได้เหมือนกันหรือป่าวครับ

​

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดียามเช้าครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน แวะมาทักทายทุกท่านครับ

 

หวัดดีเจ้าของกระทู้และสมาชิกทุกท่านครับ

 

สวัสดีครับพี่บัติ รู้ไหมครับว่าประคำข้อมือชุดนี้อยู่กับท่านนานที่สุด(ผมจำได้) กว่าจะเอามาแจกได้ เก็บเอาไว้จนลืมครับ พอดีวันหนึ่งไปพัฒนากุฏิท่านกันแล้วก็เจอ ท่านเลยให้เอามาแจกกัน พุทธคุณใช้ได้เหมือนกันทุกอย่างครับ อีกอย่างประคำขององค์หลวงปู่ ท่านบอกว่า ถ้าอยากจะแบ่งใครเอาไปบูชา ก็ตัดแจกไปคนละเม็ดสองเม็ดก็ได้ ก็ยังมีคุณภาพเหมือนเดิม เพราะสมัยก่อนตอนที่ท่านยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่านมากนัก ท่านมีประคำอยู่ไม่กี่เส้น ท่านเห็นว่าบางทีคนที่มาหามีหลายคน ท่านก็ตัดสายประคำแจกเม็ดประคำคนละเม็ด เอาไว้ติดตัวเป็นเครื่องรางได้อย่างดีเลยครับ

 

ได้มีโอกาสดี ได้คุยกับคุณทุเรียนทอด

อนุโมทนาด้วย มาก ๆ ครับหลวงปู่เมตตา คุ้มครองดูแล คุณตลอดเลย กระแสเมตตาแรงมาก ๆ จนผมน้ำตาไหลเลย

เสียดายโอกาสตัวเอง จัง ได้รู้จักครูบาอาจารย์ ที่มีบารมีมาก แต่ไม่สามารถไปกราบได้ ด้วยเหตุแห่งกรรมที่ต้องยอมรับ

ขอกราบครูบาอาจารย์ทุก ๆ พระองค์ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงปู่ทุก ๆ องค์ รวมทั้งหลวงปู่พิศดู เป็นที่สุด ครับ

 

อย่างนี้ต้องขอแบ่งเจ้าของเขาบ้างล่ะ 5555