หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

อืม...สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญพระพิมพ์วังหลวงจริงๆครับ

 

กราบ กราบ กราบ
กราบ กราบ

 

เรียน ท่านผู้ศรัทธาพระสมเด็จของหลวงปู่โตทุกท่าน
ขอให้ทุกท่านลองพิจารณาการสร้างวาทกรรมของ คุณบอย ท่าพระจันทร์ ที่ออกรายการทีวีของคุณหม่ำ ที่พาดพิงว่า มีพระสมเด็จวัดระฆังแท้ที่หมุนเวียนอยู่ในเมืองไทย ประมาณไม่กี่สิบองค์ หากเป็นเช่นนั้น แสดงว่า พระสมเด็จที่ลูกหลานคนไทยครอบครองอยู่จำนวนมากนั้น มีปัญหา.... หรือวงการพระเครื่องเองมีปัญหา..... หรือเซียนเอง(คนซื้อขายพระ)มีปัญหา.... หรือพระของหลวงปู่โตมีปัญหา.... หรือประวัติศาสตร์มีปัญหา....หรือเงินมีปัญหา....
แล้วกรรมจะเป็นตัวกำหนดในบั้นปลายชีวิตของผู้ที่ปรามาสหรือไม่....
แล้วข่าวที่เซียนถูกฆาตกรรมครึกโครมนั้น จะอธิบายได้อย่างไร.....

ลองเข้าไปดูในเว็บข้างล่าง แล้วพิจารณาเอาเองเถิด

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=gRWa8ziDc6Q&feature=player_embedded"]YouTube - BM 23-4-54-2 - www.ruktv.com[/ame]

 

ขอบคุณท่านอ๊อดมากครับ

 

ขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับท่านฮินดูครับ

ส่วนเรื่องภาระกิจของหลวงปู่มีชัย ที่สุรินทร์ คงต้องรอฟังข่าวจากท่าน สมาชิกธรรม กระมัง เผื่อจะมีโอกาสได้ไปกราบและร่วมทำบุญกับท่านบ้าง

 

ผมเข้าไปวัดพระชราแห่งชาติเพื่อหาข้อมูลมาแล้วครับ ผมยังไม่ได้พบกับหลวงปู่เพราะหลวงปู่ท่านกำลังจำวัด ทราบข้อมูลคร่าว ๆ จากผู้ดูแลการก่อสร้างถึงวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างวัดพระชรา คือเพื่อรองรับพระที่ชราภาพแล้ว หรือผู้ที่คิดจะบวชในช่วงบั้นปลายชีวิต ซึ่งปกติวัดทั่วไปจะไม่รับบวชให้
สำหรับเรื่องการหล่อพระนั้น ท่านจะหล่อพระจำนวน 3 องค์ ตามที่ทราบมาคือพระหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด และหลวงปู่โตครับ ซึ่งจะทำการหล่อและประดิษฐานในอาคารที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนวันทำพิธีหล่อพระพุทธรูปในวันที่ 14 พ.ค. 2554 พิธีหล่อพระเริ่มเวลา 13.15 น.
หล่อโดยคณะศิษย์จากต่างจังหวัดทางภาคใต้และภาคตะวันออก
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคทำบุญได้ตามข้อมูลข้างล่างนี้ครับ
ชื่อบัญชี เงินกฐินพระชราแห่งชาติ เลขที่บัญชี 959-207-2339 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอำเภอปราสาท
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
1. อ.สัญชัย เขตต์กลาง 084 -9594609
2. นายสมศักดิ์ ตรงเที่ยง 081-7861999
3. นายกิต ( จ๊ะ) ผู้ติดตาม 088-3434419

ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไปครับ

 

ขอบคุณ....คุณสมาชิกธรรมที่กรุณาถ่ายรูปมาให้ชมด้วย ผมจะนำรูปให้ญาติธรรมที่นี้ได้ชมด้วย มีหลายท่านรวมถึงผมด้วยที่ไม่เคยไป

 

สวยงามสมคำล่ำลือจริงๆ

 

ขอบคุณครับ...ผมเองก็ยังงงๆอยู่เหมือนกันว่าระยะนี้จะได้พบเจอแต่สิ่งดีๆเหนือความคาดหมายอยู่เรื่อยเลย...ได้ครอบครองพระเครื่องที่สูงค่า หายากระดับต้นๆหลายสำนักซึ่งตามความเป็นจริงแล้วไม่มีความสามารถหรือมีปัจจัยพอที่จะหามาบูชาได้ในราคาเช่าหาตามปกติทั่วไปแต่กลับได้แบบง่ายๆ...ไม่คาดดิค...ไม่เคยหวังว่าจะมีกลับเป็นความฟลุ้คหรือบังเอิญได้มาครอบครองในราคาที่พอรับได้.....ถือว่าเป็นความโชคดีของผมครับ

 

สวยงามยินดีด้วยครับ...พิมพ์ใหญ่พระประธานมีหน้า มีตาถือว่าสุดยอดระดับต้นๆของวังหน้าทีเดียวครับ

 

พละ หรือ พละ 5 คือ กำลัง ห้า ประการ<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP> ได้แก่

1. ศรัทธาพละ ความเชื่อ กำลังการควบคุมความสงสัย
2. วิริยะพละ ความเพียร กำลังการควบคุมความเกียจคร้าน
3. สติพละ ความระลึกได้ กำลังการควบคุมความประมาท การไม่ใส่ใจ ใจลอย ไร้สติ
4. สมาธิพละ ความตั้งใจมั่น กำลังการควบคุมการวอกแวกเขว่ไขว่ ฟุ้งซ่าน
5. ปัญญาพละ ความรอบรู้ กำลังการควบคุมเพิกเฉยไม่สนใจ หลงงมงาย

พละทั้งห้านี้ เป็นหลักธรรมที่ผู้เจริญวิปัสสนาพึงรู้ ศรัทธาต้องปรับให้สมดุลกับปัญญา วิริยะต้องปรับให้สมดุลกับสมาธิ ส่วนสติพึงเจริญให้มากเนื่องเป็นหลักที่มีสภาวะปรับสมดุลของจิตภายในตัวเองอยู่แล้ว เป็นหลักธรรมที่คู่กับอินทรีย์5 คือศรัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ โดยมีความเหมือนความแตกต่างและความเกี่ยวเนื่องคือ พละ5เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นแก่จิตในปัจจุบันที่ทำให้เกิดมีขึ้น ส่วนอินทรีย์คือพละ5ที่สะสมจนตกผลึก เหมือนกับนิสัย หรือสันดาน เช่นผู้มีสมาธิทรีย์มากก็อาจทำสมาธิได้ง่ายกว่าผู้มีน้อยกว่า ผู้มีปัญญินทรีย์มากก็มีปกติเป็นคนฉลาด พละ5อาจเกิดขึ้นได้ดีและสั่งสมเป็นอินทรีย์ได้ไวคือผู้ทีบวชรือประพฤติพรหมจรรย์ และผู้ปฏิบัติโมเนยยะปฏิบัติ

 

สวัสดีครับคุณ IT MAN หายไปนานครับ

 

ผมได้ลูกสะกดของวังหน้ามาหนึ่งลูกแต่ไม่เหมือนของท่าน IT Man เลยครับขนาดกว้าง1.5 สูง2.5 ซ.ม.น้ำหนักประมาณพระกริ่งปวเรศ...ไม่มีรูร้อยสาย...มองแนวตั้งจะเห็นอักขระ4 แถว...ไม่ทราบว่าใช่ลูกสะกดหรือปล่าวครับ

 

แบบนี้เป็นลูกสะกดใหญ่..
ลูกสะกดของผมน้ำหนักประมาณ 1 บาท(ทอง) มีรูร้อยสายอ่ะครับ

 

พักนี้...พักจำศีลครับท่าน หุหุ

ผมพึ่งได้ไปพบพ่อแม่ครูบาอาจารย์มา ท่านเป็นพระอริยะบุคคลที่อาจเรียกได้ว่า...ตามหามาชั่วชีวิต ในที่สุดก็ได้พบเจอ ทำให้พอมีความหวังในเส้นทางสายหลัก(พระนิพพาน)

ผมได้ปฏิบัติธรรมร่วม,ได้รับคำสั่ง,คำสอนจากท่านมา โดยเฉพาะเรื่องของสมบัติเก่ากับของวิเศษ ต่อให้ที่ผมมีอยู่ จักเป็นเลิศในปฐพีก็ไม่ใช่แนวทางแห่งความหลุดพ้น กลับจักนำพาให้ผมถลำลึกเข้าไปเรื่อยๆ

ทำให้ผมจำต้องถอยหลังไปหลายก้าวเพื่อทบทวนเส้นทางการดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่ (ปกติธรรมเหล่านี้ผมตระหนักอยู่เสมอ และตั้งใจว่าจะค่อยๆสละของดีของวิเศษเพื่อพระบวรพุทธศาสนาอยู่แล้ว แต่ไม่แรงและเร็วเท่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาบอก)

กัลยาณมิตรที่ดีกับเพื่อนสหมิกธรรมทั้งหลาย ทำให้ผมต้องอยู่ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อจรรโลงพันธสัญญาใจไปสักระยะนะครับ

ธรรมะสวัสดี

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>IT Man, nontayan+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

กราบสวัสดีครับท่านนนต์

ขอให้สอบผ่าน DR. ไปได้ด้วยดีนะครับ

 

อนุโมทนากับท่านสมบัติด้วยครับ
สาธุ..สาธุ..สาธุ..

 

ภาพถ่ายหอฉัน
ทางขึ้น

คิดว่าได้นะครับ

พระอาจารย์ท่านธุดงค์มาจากจ.หนองคาย และเมื่อราวปี 47 ท่านก็ได้มาจำวัดอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมภูดานไห (ดาน=แผ่นหิน)
บนเขาแห่งหนึ่งในอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนผมเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ย่านนั้น

เมื่อวันที่ 26 กุมภาฯ 54 ผมได้อัญเชิญพระบรมฯไปถวายวัดทางสกลฯ
ผมได้มอบพระบรมฯพระองค์ที่ 3,4 ให้เพื่อนอัญเชิญไปถวายวัดต่างๆที่เขานับถือ
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้

เมื่อวันที่ 9 เม.ย 54 เพื่อนก็ได้บวชเพื่อปฏิบัติธรรมกับท่าน ซึ่งวันนั้นผมไปอัญเชิญพระพญาเหล็กที่อยุธยา
ผมรับปากว่าจะไปหาท่านก่อนที่เพื่อนจะสึกและจะนอนพักที่นั่นสัก 1 คืน ซึ่งผมก็ได้ทำตามสัญญา

โดยวันที่ 23 เม.ย 54 ผมได้อัญเชิญพระบรมฯของพระองค์ที่ 1,2 ไปถวายเพิ่ม
เพราะทราบว่าพระอาจารย์ท่านก็อัญเชิญไปตามสถานที่ต่างๆอยู่เนืองๆ
ผมเองก็รับรู้ในคุณธรรมของพระอาจารย์มาก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าท่านจะสูงส่งขนาดที่ผมยอมศิโรราพได้

โดยผมได้ปฏิบัติบูชา ฟังธรรมะ 1 คืน (23/04) อีกวันถัดมาเพื่อนก็ลาสิกขา (24/04)
พวกเราก็ได้นิมนต์ท่านไปกราบหลวงปู่คำพันธ์ นครพนม ผมเดินทางกลับในคืนวันอาทิตย์ที่ 24

อีก 2 วันเพื่อนก็นิมนต์ท่านไปกราบไหว้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เช่น หลวงปู่คำคะนิง อุบลฯ หลวงปู่ชา - หลวงปู่ดุลย์ - สุรินทร์ และหลวงปู่สรวง - ศรีษะเกษ)
ครูบาอาจารย์เหล่านี้ รวมทั้งหลวงปู่มั่น เว้นหลวงปู่ดุลย์ ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรู้ธรรมของพระอาจารย์ในภพนี้เป็นอย่างยิ่ง
ท่านจึงอยากไปกราบสักการะครับ โดยผมได้ร่วมทำบุญออกค่าใช้จ่ายในระหว่างการเดินทางทุกวาระ

ณ ตอนนี้ท่านไปโปรดญาติธรรมที่สกลนคร และจะแวะสักการะพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายป่าด้วย

มีต่อ...

 

ขออนุโมทนากับคุณไอทีแมนด้วยครับ สาธุๆๆๆ