มหานาคีมหานาคาครุฑารักษากลุ่มภูเก็ตพังงาบูชานัมทานทีรอยพระพุทธบาท

ขอนอบน้อมคุณพระรัตนตรัย อภิบาล ...

จากผืนฟ้า สู่ แผ่นน้ำ และ แดนดิน​

​

​

​

​

ขอนอบน้อมบูชาคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนัตสากลจักรวาล
อภิบาลขันธ์หลวงปู่สุภาฯ เจริญบารมีญาณ เจ้าค่ะ​

ด้วยผลานิสงฆ์ที่ข้าพเจ้าได้กระทำบำเพ็ญไว้ดีแล้ว ด้วยคุณธรรม คุณงามความดี ตั้งแต่ปฐมชาติ ตราบจนวันนี้ และที่จะบำเพ็ญต่อไปในอนาคตกาล​

ขอทุกกองกุศลส่งแผ่ไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณทั่วทั่งอนันตจักรวาล ให้ท่านทั้งหลายพ้นทุกข์ ประสบสุข เข้าถึงอัตภาพภพอันบริสุทธิ์ เจริญญาณบารมี เต็มภูมิกำลังบารมีทุก ๆท่าน ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานอันบรมสุขเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ ​

กราบอนุโมทนา
๑) ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต และ http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=33052
๒) เพลงประกอบ "เมตตาดอกไม้บาน" ขับร้องโดยคุณผุสดี โทณวณิช (เสถียรธรรมสถาน)

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1310010/[/MUSIC]​

 

ต้องขอโมทนา และขอบคุณครับ คุณ ศรศิลป์ ;
หลวงปู่สุภา ท่านเมตตา หล่อองค์หลวงปุ่อุปคุตมหาเถระ ใว้ และ ให้ ศิษยานุศิษย์ อัญเชิญใว้ ๔ มุมเมืองภูเก็ต แล้วครับ โดย

- ทิศเหนือที่วัดท่าฉัตรไชย ๑ องค์ (ใกล้สะพานเข้าเกาะภูเก้ต )
- ทิศใต้ที่วัดในหาร ๑ องค์ (ใกล้แหลมพรหมเทพ )
- ทิศตะวันออก ที่ศูนย์สถาบันชีววิทยาทางทะเล ๑ องค์
- ทิศตะวันตกคือที่สำนักสงฆ์แหลมเพชร ซึ่งอยู่ หน้าหาดป่าตอง ๑ องค์

และ เดิม ที่หล่อสมเด็จหลวงปู่อุปคุตมหาเถระ ใว้แล้ว ;

1.วัดเกาะสิเหร่ (วัดแรกที่ หลวงปู่สุภา ท่าน สร้าง และ พำนัก โดยมี พระพุทธปางไสยาสน์ ใหญ่ บนยอดเขาเกาะสิเหร่..)
2.วัดสามัคคีธรรมเขารัง (สำนักปฏิบัติธรรมเทพขจรกิต )ที่หลวงปู่สุภา ท่านเมตตา สร้างใว้ เป็นวัดที่ 2 เนินเขารัง ข้าง รพ.วชิระภูเก็ต
3.วัดสิริสีลสุภาราม ที่หลวงปู่สุภา ท่านเจริญวัฒนะ ในขณะนี้
4. ท่าอากาศยานภูเก็ต
----------------------------
จากต้นแบบหล่อ องค์หลวงปู่อุปคุตมหาเถระ ที่ ดร.อ.สุธาทิพย์ ท่านออกแบบ ใว้ ในกลุ่มพลังจิตห้องภัยพิบัติ เมื่อ ปี 2551 ...

ส่วนทาง พังงา ;
นาคา พร้อม คุณพ่อ ,ครอบครัว ทองทวีวิวัฒน์ ,พี่ๆ น้องๆ ญาติธรรมพ่อทหารที่เชียงใหม่ ร่วมหล่อ และ อัญเชิญใว้ ที่ วัดสวนวาง บ้านทุ่งรักชัยพัฒน์ (จุดเกิด คลื่น เมื่อ ธค.2547
-ทราบข่าว ว่า ศิษยานุศิษย์ ที่เปิด รีสอร์ท เขาหลัก ใด้ อัญเชิญ สมเด็จ หลวงปู่อุปคุต ใว้ ที่ เขาหลัก ด้วย ครับ
ทางระนอง ;
คุณต้นอ้อ LUCKY FRIDAYญเชิญ ที่วัด ในเกาะ กลางทะเล
ทางพัทลุง ;
คุณ ๑กุหว่าใจ๋๑ อัญเชิญใว้ ที่วัด


<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 4226363" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>ศรศิลป์</TD><TD class=alt1>เรื่องการสร้างพระอุปคุตสี่องค์ ตามที่หลวงปู่สุภา สั่งไว้ที่สี่มุมเมืองเกาะภูเก็ต ไม่ทราบว่าสร้างเสร็จทุกมุมหรือยัง </TD></TR></TBODY></TABLE>
http://palungjit.org/threads/อัญเชิ...-เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ-ในพื้นที่ภาคใต้.193983/

 

อาราธนา สมเด็จหลวงปู่อุปคุต ขอพร

​

คำบูชาพระอุปคุต
<o></o>
อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธนะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โส อิทานิ มะหาเถโร นะมัสสิตะวา ปะติฎฐิโต อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะ มาหาเถรัง ยัง ยัง อุปัททะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ ​

<o></o>

หรือ (แบบย่อ)
อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร ยักขาเทวา นะระปูชิโต โสระโห ปัจจะ ยาทิมปิ มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ<o></o>​

(เกิดโชคลาภและคุ้มกันภัยภิบัติอันตรายทั้งปวง)
​

อนุโมทนาที่มาข้อมูล : คำบูชาพระอุปคุต

 

พระแม่ธรณี กำลังใจในการต่อสู้อำนาจกิเลส คุณงามความดีที่ได้บำเพ็ญ

​

แม่พระธรณีในพุทธประวัติ

พระธรณีเป็นเทพมารดาแห่งโลกเพราะเป็นผู้ที่มีคุณต่อสรรพชีวิตบนโลกนี้ที่ต้องอาศัยคุณของแม่พระธรณีในศาสตร์ทางจิตเกือบทั่วทุกมุมโลกล้วนคำนึงถึงพลังจากปฐพีนี้เสมอมาแม้ในพระพุทธศาสนาที่ว่าด้วยหลักการและเหตุผลก็ยังกล่าวอ้างถึงดังปรากฏในปฐมสมโพธิญาณภาพพุทธประวัติตอนที่แม่พระธรณีบิดพระเกศาเกิดเป็นสมุทรธาราพญามารก็พ่ายแพ้แก่พระบารมี​

<ohttp: target="_blank" p="" href="http://www.watthummuangna.com" img]=""> [FONT=Arial][COLOR=#c0504d]เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียร[/COLOR][COLOR=#c0504d]เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า[/COLOR][COLOR=#c0504d]ท่านได้ผจญกับเหล่าพวกพญามารทั้งหลาย[/COLOR][COLOR=#c0504d]พญามารได้ออกอุบายต่างๆ[/COLOR][COLOR=#c0504d]นานา[/COLOR][COLOR=#c0504d]เพื่อให้พระพุทธองค์ทรงเกิดกิเลสตัณหา[/COLOR][COLOR=#c0504d]แต่พระพุทธองค์ทรงไม่ยินดี[/COLOR][COLOR=#c0504d]ยินร้ายต่อพวกเหล่ามาร[/COLOR][COLOR=#c0504d]ในครั้งนั้น[/COLOR][COLOR=#c0504d]พระแม่ธรณี[/COLOR][COLOR=#c0504d]ทรงแสดงปาฏิหาริย์[/COLOR][COLOR=#c0504d]ปราบเหล่าพญามาร[/COLOR][COLOR=#c0504d]โดยทรงบีบมวยผมให้น้ำไหลออกมาท่วมพวกพญามารทั้งหลายให้พ่ายแพ้ไป[/COLOR][/FONT]</o[img]http:>[/LEFT]


[LEFT]<o[img]http: target="_blank" p="" href="http://www.watthummuangna.com" img]="">[FONT=Arial][COLOR=#c0504d]สถานที่ที่พระมหาบุรุษประทับนั่ง[/COLOR][COLOR=#c0504d]เพื่อทรงบำเพ็ญเพียรทางใจ[/COLOR][COLOR=#c0504d]แสวงหาทางตรัสรู้[/COLOR][COLOR=#c0504d]ซึ่งอยู่ที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น[/COLOR][COLOR=#c0504d]เรียกว่า[/COLOR][B][COLOR=#c0504d]"[/COLOR][COLOR=#c0504d]โพธิบังลังก์[/COLOR][COLOR=#c0504d] "[/COLOR][/B][COLOR=#c0504d]พระยามารกล่าวตู่ว่า[/COLOR][COLOR=#c0504d]เป็นสมบัติของตน[/COLOR][COLOR=#c0504d]ส่วนพระมหาบุรุษทรงกล่าวแก้ว่า[/COLOR][COLOR=#c0504d]บังเกิดขึ้นด้วยผลแห่งบุญบารมีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาแต่ชาติปางก่อน[/COLOR][COLOR=#c0504d]แล้วทรงอ้าง[/COLOR][COLOR=#c0504d]พระนางธรณีเป็นพยาน[/COLOR][/FONT]</o[img]http:>[/LEFT]


[LEFT]<o[img]http: target="_blank" p="" href="http://www.watthummuangna.com" img]="">[FONT=Arial][COLOR=#c0504d]ปฐมสมโพธิว่า[/COLOR][COLOR=#c0504d] "[/COLOR][COLOR=#c0504d]พระธรณีก็มิอาจดำรงกายอยู่ได้[/COLOR][COLOR=#c0504d]...[/COLOR][COLOR=#c0504d]ก็อุบัติบันดาลเป็นรูปนารี[/COLOR][COLOR=#c0504d]ผุดขึ้นจากพื้นปฐพี[/COLOR][COLOR=#c0504d]..." [/COLOR][COLOR=#c0504d]แล้วกล่าวเป็นพยานพระมหาบุรุษ[/COLOR][COLOR=#c0504d]พร้อมกับบีบน้ำออกจากมวยผม[/COLOR][COLOR=#c0504d]น้ำนั้นคือสิ่งที่เรียกว่า[/COLOR][B][COLOR=#c0504d]"[/COLOR][COLOR=#c0504d]ทักษิโณทก[/COLOR][COLOR=#c0504d]" [/COLOR][/B][COLOR=#c0504d]อันได้แก่[/COLOR][COLOR=#c0504d]น้ำที่พระมหาบุรุษทรงกรวดทุกครั้ง[/COLOR][COLOR=#c0504d]ที่ทรงบำเพ็ญบุญบารมีแต่ชาติปางก่อน[/COLOR][COLOR=#c0504d]เป็นลำดับมา[/COLOR][COLOR=#c0504d]ซึ่งแม่พระธรณีเก็บไว้ที่มวยผม[/COLOR][COLOR=#c0504d]เมื่อนางบีบก็หลั่งไหลออกมา[/COLOR][/FONT]</o[img]http:>[/LEFT]


[LEFT][FONT=Arial][COLOR=#c0504d]ปฐมสมโพธิว่า[/COLOR][COLOR=#c0504d] "[/COLOR][COLOR=#c0504d]เป็นท่อธารมหามหรรณพ[/COLOR][COLOR=#c0504d]นองท่วมไปในประเทศทั้งปวง[/COLOR][COLOR=#c0504d]ประดุจห้วงมหาสาครสมุทร[/COLOR][COLOR=#c0504d]...[/COLOR][COLOR=#c0504d]หมู่มารเสนาทั้งหลายมิอาจดำรงกายอยู่ได้[/COLOR][COLOR=#c0504d]ก็ลอยไปตามกระแสน้ำ[/COLOR][COLOR=#c0504d]ปลาสนาการไปสิ้น[/COLOR][COLOR=#c0504d]ส่วนคีรีเมขลชินทร[/COLOR][COLOR=#c0504d]ที่นั่งทรงองค์พระยาวัสสวัสดี[/COLOR][COLOR=#c0504d]ก็มีบาทาอันพลาด[/COLOR][COLOR=#c0504d]มิอาจตั้งกายตรงอยู่ได้[/COLOR][COLOR=#c0504d]ก็ลอยตามชลธารไปตราบเท่าถึงมหาสาคร[/COLOR][COLOR=#c0504d]...[/COLOR][COLOR=#c0504d]พญามารก็พ่ายแพ้ไปในที่สุด[/COLOR][/FONT][/LEFT]

[LEFT][SIZE=2][COLOR=black]ที่มาข้อมูล : [/COLOR][/SIZE][URL="http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5.216223/"][SIZE=2][COLOR=black]แม่พระธรณี[/COLOR][/SIZE][/URL][/LEFT]




[CENTER][IMG]http://palungjit.org/attachments/a.782040/[/CENTER]

ขณะที่พระพุทธองค์ทรงนั่งบำเพ็ญทางจิต มีพญามารนามว่าวสวัตตี ผู้ตามผจญพระองค์มาตลอด ตั้งแต่วันเสด็จออกผนวช มาปรากฏตัวพร้อมเสนามาร มีอาวุธครบครันน่าสะพรึงกลัว พญามารร้องบอกให้พระองค์เสด็จลุกจากอาสนะว่า “บัลลังก์นี้เป็นของข้า ท่านจงลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”เมื่อพระองค์แย้งว่า บัลลังก์เป็นของพระองค์ พญามารถามหาพยาน พระองค์ทรงเหยียดพระดรรชนีลงยังพื้นดินและตรัสว่า “ขอให้วสุนธรา(พระแม่ธรณี) จงเป็นพยาน”​

ทันใดนั้นพระแม่ธรณีก็ผุดขึ้นจากพื้นดินปรากฏตัวบีบมวยผม บันดาลให้มีกระแสน้ำหลากมาท่วมทับพญามารพร้อมทั้งกองทัพพ่ายไปในที่สุด เป็นอันว่าพญามารพร้อมทั้งกองทัพได้พ่ายแพ้แก่พระองค์โดยสิ้นเชิง เหตุการณ์ตอนนี้ ต่อมาได้ถูกจำลองเป็นพระพุทธรูปรางหนึ่ง เป็นปางนั่งสมาธิ พระหัตถ์วางบนพระเพลา ชี้พระดรรชนีลงพื้นดิน เรียกว่า “ปางมารวิชัย” จากเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถจะวิเคราะห์ได้ว่าการที่พระพุทธเจ้าทรงผจญมารและเอาชนะมารได้ในที่สุด​

ความได้ว่า มาร ก็คือกิเลส ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ ที่มารบกวนพระทัยพระองค์ในขณะนั่งสมาธิ เสนามาร ก็คือกิเลสเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นบริวารของโลภะ โทสะ โมหะ การที่ทรงผจญมาร ก็คือ ทรงต่อสู้กับอำนาจของกิเลสเหล่านี้นั่นเอง​

ส่วน พระแม่ธรณี ก็คือ บารมีทั้ง ๑๐ ที่ทรงบำเพ็ญมา การอ้างพระแม่ธรณี ก็คือทรงอ้างถึงคุณความดีที่ทรงบำเพ็ญมา เป็นกำลังใจให้ต่อสู่กับอำนาจของกิเลส เพราะพระบารมีที่ทรงบำเพ็ญมาเต็มเปี่ยม พระองค์จึงสามารถเอาชนะอำนาจของกิเลสทั้งปวง บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด​

ข้อมูล : http://www.bp-smakom.org/BP_School/Social/Bud-pachan-man.htm​

​

ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสาวกทุกองค์พระโพธิ์สัตว์ทุกองค์ พรหมทุกองค์ เทพเทวาทุกองค์ ครูอุปฌาอาจารย์สืบๆ ต่อๆกันมา พ่อเกิดแม่เกิดทุกภพชาติ ผู้มีคุณผู้สูงชาติทุก ๆ ท่าน จงมาสถิตอยู่เหนือเศียรเกล้าข้าพเจ้า ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าศักดิ์สิทธิ์จงมีฤทธิ์ทุกประการเทอญ​

บุญกุศลใดใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี และที่จะบำเพ็ญต่อไปจนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพาน ที่จะให้ผลแก่ข้าพเจ้าเท่าใด ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนั้น ให้แก่จิตวิญญาณทุกดวง ทั้งหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาล ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้อนุโมทนาในกุศลนั้น และจงพลันบังเกิดเป็นเครื่องสักการะบรรณาการอันเป็นทิพย์ ที่ท่านยินดีพอใจเป็นร้อยเท่าทวีที่ท่านต้องการ ขอให้ท่านจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธรรมสาร สมบัติ พิพัฒน์มงคล อุดมสมบูรณ์พูนผล ด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ อธิบดี และญาณสมบัติอันเป็นทิพย์ยิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป ท่านคิดปรารถนาสิ่งใด ขอจงสำเร็จสมความปรารถนา ทุกสิ่งทุกประการตลอดทุกเพลาและราตรี ขอให้ท่านจงสถิตอยู่ในฐานะบิดามารดา ช่วยบำรุงรักษาข้าพเจ้า ซึ่งอยู่ในฐานะลูกสาว-ลูกชาย ให้ปราศจากโรคภัยอันตรายแพ้วพาน มีปัญญาญาณดวงตาเห็นสัจจธรรม เกิดความเจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่งทุกประการ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้ด้วยเทอญ​

<o>อนึ่ง บุญใดที่ท่านทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้วทุกภพทุกชาติ ข้าพเจ้าขออนุโมทนา ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนแห่งบุญนั้นจงทุกประการ ขอป่าวประกาศคุณงามความดีของท่าน ไปตลอดหมื่นโลกธาตุแสนโกฎิจักรวาล อนันตจักรวาล จิตวิญญาณทุกดวง ทุกเทวสมาคม ทุกเทวสภา ทั้ง ๓๑ ภูมิ จงรับรู้รับทราบ คุณงามความดีที่ท่านได้ทำแล้ว จงทุกประการเทอญ</o>​

<o></o>
ใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลาย ด้วยกายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ ในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี ที่ระลึกได้ก็ดี ที่ระลึกไม่ได้ก็ดี ที่เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ข้าพเจ้าขอกราบแทบเท้าขอขมากรรมเหล่านั้นขอท่านทั้งหลายจงโปรดเมตตายกโทษอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญสิ้น​

สิ่งใดที่ท่านทั้งหลายได้เคยล่วงเกินข้าพเจ้ามาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ข้าพเจ้าขอยกโทษอโหสิกรรมเป็นธรรมทานให้ทั้งหมดทั้งสิ้น​

ขอท่านทั้งหลายจงช่วยเสริมบารมีแก่ข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าคิดจะประกอบกิจการอันใด ที่ไม่ผิดทำนองคลองธรรม ขอให้พลันสำเร็จเป็นอัศจรรย์เหนือมนุษย์ทั้งปวงด้วยเทอญ
<o></o>
อัญเชิญพระศรีอาริย์ พระอริยอรหันต์ พระอิศวร พระนารายณ์ พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาล ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ แม่พระพาย แม่พระเพลิง แม่พระพิรุณ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เทพเทวาทั้งหลาย นายนิรบาลทั้งหลาย ท่านผู้มีตาทิพย์ หูทิพย์ ใจทิพย์ทั้งหลาย ท่านผู้มีวิชชา อภิญญา ปฏิสัมภิทาทั้งหลาย จงมารับเอาส่วนบุญกุศล และเป็นพยานในการสร้างกุศลและอุทิศส่วนกุศล พร้อมนำข่าวการอธิษฐานบุญของข้าพเจ้า ไปบอกกล่าวแก่สรรพสัตว์ให้รู้ทั้งหน้ากันทุกภูมิทุกชั้น และช่วยกันทำคำอธิษฐานนั้นให้เป็นจริงด้วยเทอญ​

อิทัง บุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ
ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็นมหาธรรมทาน เพื่ออบรมหนทางความดับ ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้ อุทิศให้ พ่อเกิดแม่เกิด ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา ผู้มีคุณผู้สูงชาติ ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง ขอจงได้รับ และอโหสิกรรมอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ ณ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ​

สาธุ สาธุ สาธุ นิพพานัง ปรมัง สุขขัง ปูเชมิ<o></o><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->​

​

 

โมทนากับทุกท่าน ครับ

วันพฤหัส,ศุกร์ หลังเลิกงาน 19.00 -21.00 โดยประมาณ แวะ เข้านั่งบำเพ็ญ บนเนินเขา ซ.สามัคคี 3 สามกอง (ด้านหลัง ห้างโลตัส ภูเก็ต ) จากนั่น กลับบ้านสวดมนต์ทำวัตร์เย็นต่อ..

อาทิตย์ 9 มค. แว็ป ขึ้นเขา ซ.สามัคคี 3 สามกอง ในตัวเมืองภูเก็ต บำเพ็ญจิต ตามเวลา ว่างในวันหยุด อาทิตย์ - จันทร์ (13.00 -16.00 )
จากนั้น เพื่อน นัด กัน ขึ้น ภาวนา ที่ ยอดเขา ทางขึ้น เขาไม้เท้า 12 ซึ่งเป็น เขตทหาร เนินเขา ที่ขึ้นไปนั้น คือ ธุดงสถาน ตาลสามต้น ( จ้อย , sarit_pk , คุณเพลิน )

ประวัติ..

พระอาจารยืรูปหนึ่ง (ท่านเจ้าสำนักที่พักสงฆ์ ธุดงสถาน ตาลสามต้น ท่านธุงดงส์ เข้าภูเก็ต และ แว็ป ไปนั่งที่ ในสวนยางพารา บนเนินเขานี้ )

ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าของสวนยาง ชอบ ปฏิบัติธรรม เขา จึง แว็ป ไปนั่ง ที่ บริเวณ ตาลสามต้น บ่อยๆ กระทั่ง เขาใด้นิมิต หรือ ฝัน ว่า จะมี พระธุดงส์ มาที่นี่ เขาจึงสั่ง ลูกน้อง คนงาน ใว้ ถ้ามีพระธุดงส์ เข้ามา ให้ นิมนต์ พระใว้ ปักกลด ที่นี่

เมื่อพระอาจารย์ ท่านมาปักลด ที่นี่ คนงานลูกน้อง จึง โทรฯ แจ้ง เข้าของสวนยาง ซึ่ง ไป ทำธุระกิจ ที่ กทม. เจ้าของสวนยาง จึงให้นิมนต์ พระท่านใว้

จึงใด้ เกิด เป็น ณ. ปัจจุบันนี้ ซึ่งพระอาจารย์ท่านนี้ ท่านเป็นลูกศิษย์ ของพระอาจารย์ใหญ่ ที่วัดป่าดงเย็น อ.......จ.ชัยนาท

เป็นวัดป่า สายพระธรรมยุต
ซึ่ง ผม ใด้กราบเรียน ท่านแล้ว กรณี ที่พระป่า สายธรรมยุต จะ มาพักพำนัก ที่นี่ (มีพระ ด้วยกันประมาณ 3- 4 รูป )

คืนนั้น เตรียมกลด ถุงนอนเรีบยร้อย ขณะ ที่ภาวนา และสวดมนต์ประมาณ 22.00 ฝนตก .พระอาจารย์ ท่านเมตตา เล่าเรื่อง การเดินธุดงส์ และ ข้อธรรม ตามสมควรแก่ เวลา 01.00 จึงพักผ่อน
เช้าๆ ไก่ ขัน ด้วยเสียงตามปกติ แต่ พระอาจารย์ท่านเมตตา หยอกเล่น กล่าวว่า... ตื่นเสียทีเถิด...
ไก่ขันปลุกคน แต่ เมื่อ มองด้วย ธรรมะ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นคือ

ตื่นเสียทีเถิด ตื่นจาก อวิชชา ต่างๆ เดินทาง สู่ อริยสัจ อริยสัจธรรม คือ การหลุดพ้นจาก วัฏฏะสังสาร หยุด การเวียนว่าย ตาย เกิด

ตื่นเสียทีเถิด .....

 

โมทนากับทุกท่าน ครับ พรุ่งนี้ 12 มค.วันพระ

วันพฤหัส,ศุกร์ หลังเลิกงาน 19.00 -21.00 โดยประมาณ แวะ เข้านั่งบำเพ็ญ บนเนินเขา ซ.สามัคคี 3 สามกอง (ด้านหลัง ห้างโลตัส ภูเก็ต ) จากนั่น กลับบ้านสวดมนต์ทำวัตร์เย็นต่อ..

อาทิตย์ 9 มค. แว็ป ขึ้นเขา ซ.สามัคคี 3 สามกอง ในตัวเมืองภูเก็ต บำเพ็ญจิต ตามเวลา ว่างในวันหยุด อาทิตย์ - จันทร์ (13.00 -16.00 )
จากนั้น เพื่อน นัด กัน ขึ้น ภาวนา ที่ ยอดเขา ทางขึ้น เขาไม้เท้า 12 ซึ่งเป็น เขตทหาร เนินเขา ที่ขึ้นไปนั้น คือ ธุดงสถาน ตาลสามต้น ( จ้อย , sarit_pk , คุณเพลิน )
----------------
วันเสาร์ 15-20 มค.นี้ พระอาจารย์ใหญ่ จากวัดป่าดงเย็น จ. ชัยนาท ท่านเมตตามาพัก แนะนำข้อธรรม ณ. ธุดงสถานตาลสามต้น

จากนั้น เมื่อมีวาระ ธรรม จะนิมนต์พระอาจารย์ ท่านปักกลด ที่ รอยพระพุทธบาทน้ำตกทรายขาว ที่ อ.ท้ายเหมืองจ.พังงา ( นั่งรถกระบะ หรือ มอเตอรไซด์ เข้าไป ประมาณ 3 กม. จากนั้น เดินเท้าขึ้น เนินเขาชัน สวนยาง ความสูง ประมาณ 60 เมตร ...) ลงจากเนินเขา เป็นลำธารน้ำตก ...
-----------
รับแจ้ง ข่าวสาร วิทยุสมัครเล่น ภูเก็ต
ขณะนี้ ทางสมาคมวิทยุสมัครเล่นภูเก็ต รับ ท่านที่สนใจ อบรมและสอบเพื่อใด้ใบประกาศ พนักงานวิทยุสมัครเล่น ซึ่ง จัดอบรมและสอบ ในวันเสาร์ ที่ 26 มีนาคม 2554 จำนวน 500 คน (ขณะนี้ มีท่านสนใจ ยื่นเอกสารแล้ว 410 คน ) ค่าอบรมและ สอบ ประมาณ 1000 บ.

www.100watts.com

 

วันจันทร์ 10 มค. แวะนั่งรับลม เนินเขาสามกอง (13.00-19.00 )
อังคาร 11มค. แวะนั่งรับลมเช่นเดิม (19.00-19.30 )

วันพุธ วันพระ ขึ้น 8ค่ำ หลังเลิกงาน แวะ นั่งภาวนา วัดสิริสีลสุภาราม
จากนั้น น้อม ถวาย พวงมาลัยดอกมะลิ บูชาครู และ ถวายปัจจัย ทั้งนาคา เองและ ในนาม พี่ร่มบุญ อีก 100 ...

พร้อมทั้งอุทิศแด่ ดวงจิต ของพี่ธีรัตน์ ลำปาง

 

โดนคนนั่งทางในและร่างทรงทักทุกคนว่าผมมีองค์เสด็จพ่อ (ชาติภพก่อน) พญานาคเจ้าเมืองบาดาล (ชั้นใดชั้นหนึ่ง) คอยเฝ้า คอยตาม คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา แม้ยามเห็นงูก็มักจะแผ่เมตตาให้บ่อยๆ เกลียดคนที่ชอบตีงู ที่บ้านงูเยอะครับแต่ไม่เคยเห็นมากัดเลย บ้านเป็นบ้านสวนแบบชาวบ้านนอกต่างจังหวัดทั่วไปก็เลยเฉยๆ แถมเจ้าที่ก็เป็นพญานาคเผ่าพันธุ์สีเขียวเพราะมาเข้าฝันอยากได้หุ่น ก็เลยไปซื้อมาแล้วให้ลูกศิษย์พระอาจารย์แป๊ะปลุกเสกให้ ตอนที่เบิกเนตรหลวงตาได้บอกว่าเห็นเป็นนิมิตว่ามีพญานาคมาขดอยู่นอกมุ้งในห้องเมื่อคืนก็เลยสังหรณ์ว่าจะมีคนมาหา ผมก็ขนลุกเลยเพราะว่าเขามาเข้าฝันให้ผมไปหามาแบบสีเขียวๆ พอเบิกเนตรก็เลยนำกลับมาบูชาที่บ้าน นับแต่นั้นก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมบ้านอีกเลย (ความเห็นส่วนตัวครับ) ผมก็ลูกหลานพญานาคเหมือนกันครับ

 

พระพุทธบาทนัมทานที รอยที่๕ เกาะแก้วพิสดาร เมืองเกาะแก้ว ภูเก็ต

รอยพระพุทธบาท ๕ แห่ง​

แต่ก่อนที่ถึงเรื่องราวทั้งหลายต่อไป จะขอ ย้อนกล่าวถึงรอยพระพุทธบาททั้ง ๕ แห่งเสีย ก่อน ความจริงรอยพระพุทธบาทในประเทศไทย ยังมีอีกมาก แต่เท่าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจนเป็น ที่ยอมรับของท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายนั้น มีปรากฏอยู่ในพระบาลีดังนี้ คือ :-
๑. สุวรรณมาลิก (ลังกา)
๒. สุวรรณบรรพต (สระบุรี)
๓. สุมนกูฏ (ลังกา)
๔. โยนกปุระ (เชียงใหม่)
๕. นัมทานที (ภูเก็ต)
ข้อความในวงเล็บนั้น ผู้เขียนลงเอาไว้เพื่อความเข้าใจตามที่ได้ค้นคว้ามา ซึ่งจะหาอ่านรายละเอียดได้จากหนังสือ “ธัมมวิโมกข์” ฉบับ ที่ ๑๕๖, ๑๖๓, ๑๖๔ (ปี ๒๕๓๗) ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะรอยพระพุทธบาทที่ ๕ “นัมทานที” ซึ่งได้ยืนยันไว้เป็นหลักฐานจากหนังสือ “พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์” อ่านคำจารึกโดย พระราชกวี (อ่ำ ธมฺมทตฺโต) วัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ มีใจความตามสำนวนสมัยเมื่อสอง พันห้าร้อยกว่าปีมานี้เองว่า...
“บุญมุนี อยู่ถ้ำฤษี ผู้นำพุทธ สู่เกาะ คนชาวน้ำ หมู่คนน้ำ เกาะแก้ว เข้ากราบไหว้
ห้อมล้อม พุทธสอนมาก หมู่คนขอรอยตีนไว้ ชายทเล พุทธเหยียบดิน ทำให้ใหญ่กว่า ๓ เท่า เมื่อวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย พุทธพัสสา ๒๒...”
ถ้าใช้สำนวนในปัจจุบันอ่านได้ดังนี้
“พระปุณณะ อยู่ถ้ำฤษี (เขางู จ.ราชบุรี) ผู้นำพระพุทธเจ้า สู่เกาะคนชาวน้ำ (ชาวเล) หมู่คนน้ำ เกาะแก้ว เข้ากราบไหว้ ห้อมล้อม พระพุทธเจ้าสอนมาก หมู่คนขอรอยพระบาท ไว้ที่ชายทะเล...”
ท่านเจ้าคุณพระราชกวีได้วินิจฉัยเรื่องนี้ ไว้อีกว่า
“เท่าที่ปรากฏรอยตีนพุทธนี้ ย่อมทรงแสดงให้เห็นหลักฐาน พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระองค์ว่า ได้เสด็จตั้งแต่ใต้สุดถึงเหนือสุดของ ดินแดน “สุวัณณภูมิ” จึงเสด็จเพื่อทรงเหยียบ แสดงรอยพระบาทเป็นประจักษ์พยานไว้ ณ สัจจพันธ์คีรี (จังหวัดสระบุรี) และที่ เกาะแก้ว(เกาะแก้วพิสดาร?) หรือ “นิมมทานที” (ไทยว่า..นัมมะทา) ซึ่งเป็นที่เลื่องลือมานาน กระทั่งถึงต่างประเทศคือลังกาและชมพูทวีป เพราะคำใน “อรรถกถา” ยืนยันอยู่

อรรถกถาปุณโณวาทสูตร​

ในตอนนี้ตามความใน อรรถกถาปุณโณวาทสูตร คัมภีร์มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในกรุงสาวัตถีได้ตรัสเรียกพระอานนท์มาสั่งว่า
“อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ พรุ่งนี้พวกเราจะเที่ยวบิณฑบาตที่หมู่บ้านพ่อค้าในแคว้นสุนาปรันตะ เธอจงให้สลากแก่ภิกษุ ๔๙๙ รูป..”
เมื่อพระอานนท์รับพระพุทธบัญชาแล้วจึงได้ประกาศแก่ภิกษุทั้งหลาย และในวันนั้น
พระกุณฑธานเถระ จับได้สลากเป็นองค์แรกในตอนเช้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งเข้าผลสมาบัติ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ของท้าวสักกะเกิดร้อนขึ้นมา
พระองค์ทรงพิจารณาแล้วทราบว่า องค์สมเด็จพระบรมศาสดาจะเสด็จไป แคว้นสุนาปรันตะ ซึ่งเป็นระยะทางไกลมาก จึงรับสั่งให้วิษณุกรรมเทพบุตร เนรมิตเรือนยอด ๕๐๐ หลัง สำหรับพระผู้มีพระภาคเจ้ามี ๔ มุข (จตุรมุข) ของพระอัครสาวกทั้งสองมี ๒ มุข ที่เหลือมี มุขเดียว พระศาสดาทรงเข้าสู่เรือนยอด และ พระสาวก ๔๙๙ รูป ต่างเข้าสู่เรือนยอด ๔๙๙ หลังตามลำดับ โดยมีเรือนยอดว่างอยู่หลังหนึ่ง เรือนยอดทั้ง ๕๐๐ หลังนั้นลอยไปในอากาศ
ครั้นถึงภูเขาชื่อ “สัจจพันธ์” แล้วทรงหยุดเรือนยอดไว้ในอากาศ ทรงเทศน์โปรดท่านสัจจพันธ์ฤาษี จนสำเร็จพระอรหันต์แล้ว จึงได้เข้าสู่เรือนยอดที่ว่างหลังนั้น ตามเสด็จไปพร้อมกับพระภิกษุทั้งหลายมายังหมู่บ้านพ่อค้า (เพชรบุรี) ที่เป็นน้องชาย พระปุณณะ ต่างก็ ได้ถวายทานเป็นอันมากแด่พระภิกษุทั้งหลาย อันมีองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมา สัมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน
เมื่อพระศาสดาประทับในที่นั้น ๒-๓วัน จึงได้เสด็จไปโปรด “นัมทานาคราช” ซึ่งตาม ในจารึกกเบื้องจารได้บอกว่า พระศาสดาได้ เสด็จโปรด “คนน้ำ” ที่เกาะแก้ว โดยประทับ ไว้ทำให้ใหญ่กว่า ๓ เท่า
ท่านเจ้าคุณพระราชกวี วินิจฉัยคำว่า “นาค” กับ “น้ำ” นั้นออกเสียงใกล้เคียงกัน และใน “อุทานวรรค” ตรัสว่าเป็น “คนทะเล”ซึ่งในเวลานี้ปรากฏว่า “คนน้ำ” หรือว่า “ชาวเล” ยังมีอยู่ ๕ กลุ่ม เช่นที่ “หาดราไวย์” เป็นต้น
ใครจะลองไปถามประวัติแกดูบ้างก็ได้ เผื่อแก อาจจะจำได้บ้าง แต่ต้องพูดภาษาเขาได้นะ
แต่ตามที่ทราบว่า สมัยก่อนพวกนี้จะรับจ้างพายเรือรับส่งคนไปกราบรอยพระพุทธบาทต่อมาชาวบ้านแถวหาดราไวย์ สามารถใช้เรือหางยาวแทน แกจึงเลยตกงานไปโดยปริยาย เพราะไม่สามารถไปหาเงินมาซื้อเรือหางยาวแข่ง กับชาวบ้านได้ จึงต้องไปดำน้ำหากุ้งหาปลามา ขายแทน แต่บางคนก็มีกับเขาเหมือนกันนะ
ตามความในพระไตรปิฎกกล่าวต่อไปว่าเมื่อพระศาสดาทรงออกจากที่นั้นแลัวก็เสด็จถึง ภูเขาสัจจพันธ์ คือที่ สระบุรี นี่เอง ทรงแสดงรอยพระบาทไว้บนหลังแผ่นหินทึบ เหมือนประทับตราไว้บนก้อนดินเหนียวสดๆ ฉะนั้น ต่อจากนั้นก็เสด็จไปถึงพระเชตวันทีเดียว
เรื่องนี้ตามที่วินิจฉัยไว้แล้วว่า รอยพระพุทธบาททั้ง ๒ แห่งนี้ มิได้อยู่ที่อินเดียแน่นอน แต่ถ้าจะคิดว่ารอยพระบาท ณ นัมทานทีอยู่ที่ลังกา ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเสด็จมาถึง“สุนาปรันตะ” สิ้นระยะทาง ๓๐๐ โยชน์ หรือ ๔,๘๐๐ ก.ม. ก็จะต้องย้อนกลับไปกลับมาหลาย ครั้ง ทั้งที่ลังกาก็ไม่ปรากฎว่าพบรอยพระบาท ที่อยู่ริมทะเลอย่างนี้มาก่อน มีแต่รอยที่ปรากฎอยู่ ตามภูเขาเท่านั้น เช่น รอยพระพุทธบาทบนยอด เขา“สุมนกูฏ” เป็นต้น
เพราะฉะนั้น รอยพระบาททั้งสองแห่งนี้จะต้องอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน ถ้าเชื่อว่ารอยพระพุทธบาทที่สระบุรีเป็นของจริง รอยพระพุทธบาทที่ภูเก็ตก็ต้องเป็นของจริงเช่นกัน โดยเฉพาะความพิสดารเล่ากันไม่หวาดไม่ไหว เล่าลือกันจนไม่มีใครกล้าไป แต่ที่ไปกันได้เพราะอาศัย ความตั้งใจจริง หรือที่เรียกกันว่า “เอาชีวิตเป็น เดิมพันกันทีเดียว” เพราะถ้ายังรักตัวกลัวตาย หรือชอบความสนุกสนาน ก็คงจะไม่ได้ไปยืน อยู่ ณ ที่นี้เป็นแน่แท้
โดยเฉพาะรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ สมัยโบราณก็มีความเชื่อว่า เป็นรอยพระพุทธบาทที่ ๕ ที่ได้ประทับไว้ ณ ริมฝั่งน้ำนัมทา ตามที่ นางนพมาศ เป็นผู้คิดประดิษฐ์ “กระทง” ให้ มีลักษณะเป็นรูป “ดอกบัว” เพื่อเป็นเครื่อง บูชาสักการะลอยไปบูชารอยพระพุทธบาท โดย ฝากไปกับ “พระแม่คงคา” ซึ่งเรื่องวัตถุประสงค์ ในการลอยกระทงนี้ กำลังถูกลอยหายไปกับ กระแสน้ำเหมือนกัน

Untitled Document​

 

<TABLE id=Table_01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" height=30><TBODY><TR><TD background=images/bar_03.jpg width="53%">ศูนย์ข่าวภัยรีพอร์ต </TD><TD background=images/bar_03.jpg width="43%"></TD><TD background=images/bar_03.jpg width="3%">

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=Table_01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" height=102><TBODY><TR><TD height=13 width=10></TD><TD background=images/pbox_02.jpg width=983></TD><TD width=16></TD></TR><TR><TD background=images/pbox_04.jpg width=10></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>
<CENTER>16/01 แผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา 5.5 ริกเตอร์ ไม่กระทบไทย

</CENTER><DD>ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว 5.5 ริคเตอร์ ใต้ทะเล นอกชายฝั่งของเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียเมื่อเวลา 23.26 น. คืนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาในประเทศไทยอยู่ที่ระดับความลึก 24 กิโลเมตร มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองไซบอลกา ของเกาะสุมาตรา ไปทางตะวันตก 285 กิโลเมตร ทั้งนี้ ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกในรัฐฮาวายของสหรัฐ รายงานว่า ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พระพุทธบาท รอยที่๕ นัมทานที เกาะแก้วพิสดาร เมืองเกาะแก้ว ภูเก็ต
(ข้อมูลส่งไม่ผ่าน จะเข้ามา อัพข้อมูล อีกครั้ง )

เนื่องจาก เมื่อหลายปี ที่ผ่านมา
หลวงปู่คล้าย วาจาสิทธ์ วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช ท่าน เมตตา ในการสร้าง มณฑป ครอบรอยพระพุทธบาท ณ.สถานนี้ ...ต่อมา ใด้สลายไปตามกาลเวลา จาก พายุ ลม แดด ฝน ดิน น้ำ ไฟ ลม )

ซึ่ง หลวงปู่ละมัย วัดป่าสมุนไพร ท่า เมตตาให้ กลุ่มพลังจิต ห้องภัยพิบัติ ให้ แปล พระคาถาบทสวดระลึก รอยพระพุทธบาท นัมทานที ให้ หลายภาษา ซึ่งในครั้งนั้น กลุ่มห้องภัยพิบัติ ใด้แปล เรียบร้อย ถวาย แด่ หลวงปู่ละมัย แล้ว

รอวาระ ในการ สร้าง มณฑป ครอบรอยพระพุทธบาท ให้สวยงาม อีกครั้ง..

----ทั้งในกลุ่มห้องภัยพิบัติ โดยการนำ คุณ kananun ใด้มากราบสักการะ ,และ คณะบึงลับแล ใด้มากราบสักการะ เช่นกัน (ต่างกัน ที่ เพลา นำขึ้น น้ำลงในทางโลก ในทางทิพย์ หลายท่าน... )

 

วันอาทิพย์ 16 มค.ใด้เดินทางขึ้น ธุดงสถานตาลสามต้น พระอาจารย์โปร่ง

ภาพ1-11 ศาลาปู่เจ้า.. ก่อนขึ้นเขาไม้เท้าสิบสอง เขตทหาร (สังเกตุ มี ป้าย บอก ทางอพยพ ) นั่งภาวนา
ภาพ12-13 ณ.ด้านบนสวนยาง
จากนั้น ร่วมบุญกวาดลาน , ขุด ถอน ตอไม้ เพื่อให้ พระท่าน ปฏิบัติกิจของสงฆ์ใด้สะดวก...( 13.30 -16.00 )
ภาพ14 ปักกลด หินใต้ หินใหญ่คล้ายช้าง (17.30 ..)
ประมาณ 21.30 คุณจ้อย ใด้ เข้ามา ร่วมปักกลด ซึ่งนั่งภาวนา บนหิน อีกก้อนหนึ่ง ห่างประมาณ 10 เมตร ..
สังเกตุ จะมี แมงทวยมัน (แมงป๋อง ) 1 ตัวมาหลบใต้หิน ที่ ผมนั่ง ,นอนภาวนา ตลอด ทั้งคืน เมื่อเช้า เปิดมุ้งกลด ขึ้นมา ถ่ายภาพ เขาเลย คลานหลบใต้ซอกหิน...

รุ่งเช้า วันจันทร์ ถวายนมกล่องใส่บาตรพระ เมื่อท่านเดินลงจากเนินเขามา บิณฑบาตร

จากนั้น เลี้ยวรถ ตามเส้นทางมาทางวัดหลวงปู่สุภา ใด้ถวายนมกล่องใส่บาตร แด่ พระมหา...วัดหลวงปู่สุภา ซึ่งใด้ กราบเรียนท่านพระมหา ในเรื่องการปักกลดบนเนินเขา

 

วันพุธ วันเพ็ญ พระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒ (สมเด็จหลวงปู่อุปคุตมหาเถระ )

​

เชียงใหม่ร่วมตักบาตรเที่ยงคืนพระสงฆ์กว่า300รูปและชาวบ้านร่วมสืบสานประเพณีล้านนา


วันนี้(19 ม.ค.) เวลา 00.09น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดอุปคุต และวัดสวนดอกพระอารามหลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้จัดพิธีตักบาตรเป็งปุ๊ด หรือตักบาตรเที่ยงคืน ซึ่งถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายในรอบปีขึ้น โดยบรรยากาศรอบๆ วัดมีประชาชนออกมายืนรอตักบาตรกับพระและสามเณรที่เดินเรียงตามกันมาเป็นแถวยาวเหยียดไม่ต่ำกว่า 300 รูป ทั้งนี้ สำหรับประเพณีใส่บาตรเที่ยงคืน หรือตักบาตรเป็งปุ๊ดนั้น เป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวล้านนา โดยมีความเชื่อว่าพระอุปคุตซึ่งเป็นพระมหาเถรที่ทรงฤทธาภิญญาท่านหนึ่ง บำเพ็ญเพียรอยู่ใต้มหาสมุทร มีอิทธิฤทธิ์ป้องปราบมารและภูติผีปีศาจที่มารังควาญรบกวนผู้ปฏิบัติธรรม จะแปลงกายเป็นสามเณรมารับบาตรของประชาชนในวันเป็งปุ๊ดนี้ ผู้ใดใส่บาตรแก่ท่านจะถือว่าได้โชคมหาศาล และประสบผลสำเร็จตามคำอธิษฐาน มีโชคลาภร่ำรวยไม่อับจน โดย
ประเพณีวันเป็งปุ๊ดของชาวล้านนานี้ จะจัดขึ้นในวันพระขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธของทุกปี และครั้งนี้ก็ถือเป็นแรกของปี 54 นี้ด้วย จึงทำให้มีผู้มาใส่บาตรจำนวนมาก
การใส่บาตรในบริเวณวัดคนเนื่องแน่น เพราะปีนี้การบูชาพระอุปคุตมาแรง ใครๆก็อยากมาตักบาตรตุลาคมปีนี้ยังมีอีกวัน วันพุธที่ 12 ต.ค.2554เป็นวันเพ็ญขึ้น15ค่ำ เป็นวันออกพรรษาด้วยคาดว่าคนอาจเยอะกว่าวันนี้แน่นอน ตักบาตรเป็งปุ๊ด หรือตักบาตรเที่ยงคืน
<INPUT id=ctl00_ContentPlaceHolderMain_IMGButtonB style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; WIDTH: 200px; HEIGHT: 150px; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px" onclick="RadCallbackNamespace.AsyncRequest('ctl00$ContentPlaceHolderMain$IMGButtonB', '', 'ctl00_ContentPlaceHolderMain_CallbackPanelDataB'); return false;" type=image src="http://www.chiangraitoday.net/imagesdb/hotnews/21912554134827.jpg" name=ctl00$ContentPlaceHolderMain$IMGButtonB> <INPUT id=ctl00_ContentPlaceHolderMain_IMGButtonF style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; WIDTH: 200px; HEIGHT: 150px; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px" onclick="RadCallbackNamespace.AsyncRequest('ctl00$ContentPlaceHolderMain$IMGButtonF', '', 'ctl00_ContentPlaceHolderMain_CallbackPanelDataB'); return false;" type=image src="http://www.chiangraitoday.net/imagesdb/hotnews/61912554134827.jpg" name=ctl00$ContentPlaceHolderMain$IMGButtonF>
เทศบาลนครเชียงราย ร่วมกับ วัดมิ่งเมือง จัดพิธี ตักบาตรเที่ยงคืน ( วันเป็งปุ๊ด ) โดยนายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายนายสมพงษ์ กูลวงค์ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย คณะผู้บริหารเทศบาล ประชาชนในเขตเทศบาล ร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ สามเณรกว่า 500 รูปที่ออกรับบิณฑบาต ในคืนวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ณ วัดมิ่งเมือง จ.เชียงราย บนถนนบรรพปราการ โดยมีประชาชนผู้มีจิตศรัทธาพากันหลั่งไหลมาร่วมทำบุญนับพันคน

นายสมพงษ์ กูลวงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย เป็นประธานประกอบพิธีลงดำน้ำอัญเชิญ อาราธนาพระอุปคุต ขึ้นจากแม่น้ำกก ที่บริเวณเชิงสะพานแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย ขึ้นมา ประดิษฐานบนรถบุษบกแห่ไปรอบตัวเมืองเชียงราย ให้ประชาชนในจังหวัดเชียงรายได้สักการะ

และไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดมิ่งเมือง ก่อนอัญเชิญพระอุปคุตนำขบวนพระสงฆ์และสามเณร ได้ร่วมทำบุญตักบาตรตามประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน(วันเป็งปุ๊ด) เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและ
ยังเป็นการสืบทอดอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวล้านนา
สำหรับกิจกรรมตักบาตรเที่ยงคืน(วันเป็งปุ๊ด) เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ที่ย่างเข้าสู่วันพุธคืนวันที่ 19 มกราคม 2554 โดยจะมีการอาราธนาพระอุปคุตและพระสงฆ์สามเณรออกรับบิณฑบาต ไปตามถนน ในตัวเมืองเชียงราย โดยพิธีดำน้ำอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากน้ำมาประกอบพิธีทางศาสนาถือเป็นพิธีทางศาสนาที่แปลกและสร้างสนใจแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีนี้ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน

***จองวันล่วงหน้า อิอิอิ....วันพุธที่ 12 ต.ค.2554 วันออกพรรษา
เชียงรายทูเดย์ ข่าวเด่นประเด็นร้อน ตักบาตรเที่ยงคืน ( วันเป็งปุ๊ด )

 

<TABLE id=Table_01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" height=30><TBODY><TR><TD background=images/bar_03.jpg width="53%">ศูนย์ข่าวภัยรีพอร์ต </TD><TD background=images/bar_03.jpg width="43%"></TD><TD background=images/bar_03.jpg width="3%">

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=Table_01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" height=102><TBODY><TR><TD height=13 width=10></TD><TD background=images/pbox_02.jpg width=983></TD><TD width=16></TD></TR><TR><TD background=images/pbox_04.jpg width=10></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>
<CENTER>22/01 แผ่นดินไหว5.6ริกเตอร์เกาะสุมาตราอินโดฯ ไม่มีรายงานความเสียหาย

</CENTER>สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานในวันนี้ว่า เมื่อเวลา 14.38 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 5.6 ริกเตอร์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา
โดยรายงานระบุว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวในครั้งนี้ อยู่ห่างจาก บันดา อาเจะห์ เมืองใหญ่ของเกาะสุมาตรา ไปทางทิศใต้ 290 ก.ม. และห่างจากกรุงจากาตาร์ 1,605 ก.ม. ลึกลงไปใต้พื้นดิน 20.8 ก.ม. โดยประชาชนสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน ต่างวิ่งออกจากตัวอาคารมาอยู่ตามท้องถนน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย และไม่มีการเตือนสึนามิ แต่อย่างใด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบคุณท่านจ่า ครับ..

หลังเลิกงานเวลาประมาณ 18.30 วันศุกร์ 21 มค. ทางเพื่อน hs8stf วิทยุสมัครเล่น ภูเก็ต โทรฯแจ้ง นิมนต์พระอาจารย์โปร่ง พร้อมด้วย หลวงพี่ ปรีชา ณ.ธุดงสถานตาลสามต้น ภูเก็ต เนินเขา ข้าง เขาไม้เท้าสิบสอง

นิมนต์ ท่าน ปักกลด ณ. ป่าช้าเก่า... ข้างบ้าน ของ hs0syy ที่ บ้านนาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

ยามค่ำคืน จึง พากเพียร ในวัต นั่งภาวนา และ เดินจงกลม...ยามเช้า ด้วยหมอกลง ที่หนาวกว่าทุกครั้งในพื้นที่ ภูเก็ต พังงา...

จากนั้น นิมนต์พระอาจารย์ท่าน ฉันเอกา 1 มื้อ บ้าน hs0syy (sarit_pk )เมื่อใด้เวลา ประมาณ 09.30 ธุดงส์ ต่อ ที่ น้ำตกทรายขาว..ผ่านป่าสวนยาง บนเนินเขาชัน ที่ความสูง ประมาณ 80-100 เมตร..

กราบสักการะ รอยพระพุทธบาทน้ำตกทรายขาว (ตามที่เป็นข่าวลงในหนังสือพิมพ์ มีชาวบ้านเจอรอยเท้าใหญ่ และ รอยเท้า เล็กๆๆ อีกมากมาย ในประมาณ ปี 2535 ถ้าจำไม่ผิด พร้อมเจอ กบตัวใหญ่ หรือ ชาวบ้านเรียกว่า กง )

ในขณะนั้น มี พุทธศาสนิกชน ท่านนิมนต์พระอาจารย์ชัยวัฒน์ ท่านเมตตา กราบสักการะ ตามในหนังสือ ตามรอยพระพุทธบาท และ ในเว็ป ตามรอยพระพุทธบาท (ทั้งใน นัมทานที พระพุทธบาทรอยที่ ๕ เกาะแก้วพิสดาร ภูเก็ต )

นาคา พร้อม พระอาจารย์ ท่านปักกลด 1 วัน 1 คืน ณ.รอยพระพุทธบาทน้ำตกทรายขาว และ มี หิน คล้ายแท่นบรรทม อีก 1 แท่น ยาวประมาณ เกือบ 2 เมตร.
ชั้นบนสุด ทางคุณ hs8stf ใด้เคย ปีนหน้าผา เจอ สถูปธาตุเจดีย์...

รุ่งเช้า วันอาทิตย์ 23 มค. นิมนต์พระอาจารย์ ฉันเอกา 1มื้อ บ้านคุณพ่อ คุณ sarit_pk
--------------เพิ่มเติม---------
ภาพ 6-9 ป่าช้าเก่า ท้ายเหมือง ยามเช้าอากาศหนาวดี ต้องตื่นมา ก่อไฟ



http://palungjit.org/threads/มหานาค...นทีพระพุทธบาท-up-น-15-ว-สื่อสาร.124284/page-5 ( หน้า 5 ภาพการเดินทางครั้งแรก )

 

<TABLE id=Table_01 height=30 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="53%" background=images/bar_03.jpg>ศูนย์ข่าวภัยรีพอร์ต </TD><TD width="43%" background=images/bar_03.jpg></TD><TD width="3%" background=images/bar_03.jpg>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=Table_01 height=102 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=10 height=13></TD><TD width=983 background=images/pbox_02.jpg></TD><TD width=16></TD></TR><TR><TD width=10 background=images/pbox_04.jpg></TD><TD vAlign=top bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
<CENTER>26/01 ทัพเรือภาค 3 จัดลาดตระเวนเข้มทางน้ำ-อากาศกัน “โรฮิงญา” เข้า

</CENTER>พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีมีการจับกุมกลุ่มโรฮิงญาที่เดินทางโดยมาทางเรือที่ในพื้นที่จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมในฝั่งทะเลอันดามันสงบ จะมีกลุ่มโรฮิงญาเดินทางเข้ามาทางเรือเป็นจำนวนมาก เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น

ในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 มีหน้าที่ในการดูแลทางด้านฝั่งทะเลอันดามันได้วางมาตรการในการป้องกัน เพื่อให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้เข้ามาขึ้นฝั่งที่ประเทศไทย ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน เฝ้าระวังกันอย่างเข้มงวดตลอดเวลา โดยการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน ทั้งทางอากาศและทางเรือ ตั้งแต่จังหวัดระนองจนถึงจังหวัดสตูล

พื้นที่ที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ พื้นที่จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล เนื่องจากข้อมูลทางด้านการข่าวนั้นจะได้รับการแจ้งข้อมูลจากเรือประมงในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งขณะนี้ในส่วนของ จ.ตรัง และสตูล ยังมีน้อยอยู่

อย่างไรก็ตาม ในการลาดตระเวนทั้งทางอากาศและทางทะเล หากพบเห็นเรือของกลุ่มโรฮิงญาที่ต้องการความช่วยเหลือ ทหารเรือก็จะให้ความช่วยเหลือตามมนุษยธรรม ทั้งเรื่องของอาหารและน้ำเพราะเป้าหมายการเดินทางของคนเหล่านี้ต้องการเดินทางไปที่อื่น

จากข้อมูลทางด้านการข่าว ทราบว่า ในช่วงนี้มีกลุ่มโรฮิงญา ออกเดินทางมาประมาณ 6-7 ลำ โดยมีผู้โดยสารลำละประมาณ 70-90 คน

พล.ร.ท.ชุมนุม กล่าวต่อไปว่า ในการเฝ้าระวังนั้น หากพบว่า มีเรือเหล่าต้องมีการจับกุมและผลักดันกลับประเทศ เพราะเป็นการเข้าเมืองโดยผิดกฎมาย แต่ในกรณีที่การลอยลำอยู่นอกเขตน่านน้ำถ้าต้องการความช่วยเหลือ ทหารเรือก็จะให้ความช่วยเหลือตามมนุษยธรรม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนและเรือประมงสามารถแจ้งข้อมูลข่าวสาร ผ่านทางเครือข่าววิทยุมดดำของทหารเรือได้ หรือแจ้งข้อมูลการกระทำความผิดของชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 076-391598</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ความเป็นอยู่อย่างนัั้น เพียรธรรม ... สาธุ

​

​

มหาอนุโมทนาสาธุการบุญบำเพ็ญเหล่าท่านค่ะ ​

วันนี้ วันพระ แรม ๘ ค่ำ เดือนยี่ ส่งร่วมบำเพ็ญกิจเพียรธรรมถวายเป็นพุทธบูชา "ท่านนาคา" จำนวน ๑,๐๐๐ บาท ซึ่งมีส่วนเป็นของคุณวิชา ฝากร่วม ๕๐๐ บาท โปรดจัดสรรกิจบุญได้ทุกประการตามอัธยาศัยนะคะ ขอได้รับความปกป้องรักษา เจริญยิ่ง และแจ้งในพระสัทธรรม สาธุค่ะ​

น้อมกราบเสียงสวดพระธรรมจักร หลวงพ่อสุวัฒน์ วัดหนองไผ่เจริญธรรม สามชุก สุพรรณบุรี
ภาพพระอุปคุต ถ่ายจากวัดไทยวัฒนาราม มหายาน เมืองตาก
และ ภาพจิตรกรรมประกอบจากอินเตอร์เน็ต​

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1337204/[/MUSIC]​

 

<TABLE id=Table_01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" height=30><TBODY><TR><TD background=images/bar_03.jpg width="53%"> ศูนย์ข่าวภัยรีพอร์ต </TD><TD background=images/bar_03.jpg width="43%"></TD><TD background=images/bar_03.jpg width="3%">

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=Table_01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" height=102><TBODY><TR><TD height=13 width=10></TD><TD background=images/pbox_02.jpg width=983></TD><TD width=16></TD></TR><TR><TD background=images/pbox_04.jpg width=10></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>
<CENTER>27/01 แผ่นดินดินไหว 6.1 ริกเตอร์ เกาะสุมาตราสะเทือนถึงมาเลย์

</CENTER>สำนักธรณีวิทยาแห่ชาติสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า ได้เกิดแผ่นดินไหว ใต้ทะเล วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.1 ริกเตอร์ บริเวณนอกชายฝั่งตะวันตกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
โดยรายงานระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ลึกลงไปใต้ทะเลประมาณ 22.6 กิโลเมตร ใกล้กับเกาะซิมิวลู นอกชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุมาตรา และอยู่ห่างจากเมืองเมดาน เมืองเอกของเกาะสุมาตรา ประมาณ 255 กิโลเมตร โดยแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ครั้งนี้ สามารถรับรู้ได้ถึง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ยังไม่พบรายงานความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตามรอยพระพุทธบาทน้ำตกทรายขาว อ.ท้ายเหมือง พังงา ครั้งที่ ๔.

ตามรอยพระพุทธบาทน้ำตกทรายขาว ครั้งที่ ...

๑. จากการที่คุณคณานันท์ ใด้มอบหนังสือ ตามรอยพระพุทธบาท ที่พระอาจารย์ชัยวัฒน์ ท่านใด้จาริก ทั่วประเทศ ,ภาคใต้ จากนั้น นาคา ใด้ติดต่อไปยัง ท่าน sarit_pk หรือ hs0syy เพื่อนที่เคยอยู่ในกลุ่มวิทยุสมัครเล่นด้วยกัน ในกลุ่มเด็กเลี้ยงแกะ 144.975 MHz และ เล่นดนตรีด้วยกัน. พร้อมด้วย ท่าน hs8irr ,hs8stf เดินทางเข้า กราบสักการะ

๒.พร้อมด้วย ท่าน sarit_pk หรือ hs0syy ,hs8stf 3 ท่าน ร่วมอัญเชิญถวายพระบรมสารีริกธาตุ และ พระธาตุข้าวบิณฑ์ แด่ หลวงพ่อ วัดราชา (วัดเก่าแก่ มีประวัติยาวนาน สมัย รุ่นทวด ของ ทวด เนื่องจาก ภาพวาด ในศาลา จะมี ท่านคุณหญิง องค์มธุรส ,ทหารเก่า ที่ปกป้องเมืองเก่านี้ใว้ )จากนั้น ปักกลดปฏิบัติธรรม บนลานหิน กลางน้ำตกที่ไหลรอบข้าง ..

๓.พร้อมด้วย คณะบึงลับแล จาก กทม. ทริปกราบสักการะ รอยพระพุทธบาทนัมทานที และ กราบหลวงปู่สุภา ( คณะบึงลับแล จาก กทม ตั้งแค้มป์ ที่ ทีพักสงฆ์ควนตาแท่น บ้านลิพอน ภูเก็ต )

๔.นิมนต์ พระอาจารย์โปร่ง พร้อมด้วย หลวงพี่ปรีชา ปักกลด ในครั้งนี้.

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 4308122" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>บุญญสิกขา</TD><TD class=alt1>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">มหาอนุโมทนาสาธุการบุญบำเพ็ญเหล่าท่านค่ะ
วันนี้ วันพระ แรม ๘ ค่ำ เดือนยี่ ส่งร่วมบำเพ็ญกิจเพียรธรรมถวายเป็นพุทธบูชา "ท่านนาคา" จำนวน ๑,๐๐๐ บาท ซึ่งมีส่วนเป็นของคุณวิชา ฝากร่วม ๕๐๐ บาท โปรดจัดสรรกิจบุญได้ทุกประการ....

</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
โมทนาในกองบุญ และขอบคุณ ซึ่งกันและกันครับ แม่บุญญ ,น้องวิชา..
ต้นเดือนกุมภา นี้ มี กองบุญ อยู่ครับ จะจัดสรร ตามวาระ กำลังบุญ..

------------
ภาพ 1 ปักกลด ป่าช้าเก่า .
ภาพ 2 ข้างรอยพระพุทธบาทน้ำตกทรายขาว ท้ายเหมือง
ภาพ 7-8 ปลา ที่แวะมาเยือน ใน ลานหิน ขนาด กว้าง 1*1.5 ม.ลึกประมาณ 1 ฟุต ข้าง ที่ นาคา ปักกลด ภาวนา
ภาพ 9-10 จุดเทียนถวายพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา รอยที่ ๒,๓
ภาพ 11-13 ยามค่ำคืน
ภาพ 14 -15 ยามค่ำคืน ใช้ แก๊สกระป๋องในการ ต้มน้ำร้อน
ภาพ 16 -17 น้ำตก ชั้น 2-3 และ ภาพลงจากเนินเขาผ่านป่าสวนยาง
ภาพ 18- 20 ถวายภภัตตาหาร เอกา บ้านคุณพ่อคุณ sarit_pk (hs0syy )

**นับจาก เข้าพรรษาปี ๒๕๕๓ นาคา ทานอาหาร ๒ มื้อ ขึ้นเขาเนินเขา พร้อมเพื่อนในกลุ่มภูเก็ต,พังงา , คุณร่มบุญ ,แม่พิชญ์ ,น้องกี้ พิษณุโลก ในวาระ กฐินวัดป่าเวียงสวรรค์ ลำปาง,กฐินวัดป่ากกกะบาท พิษณุโลก , มาตลอด 6 เดือนใน มค.54 นี้
และ จาก วันเสาร์ 22 มค.54 ที่พระอาจารย์โปร่งท่าน ฉันเอกา แบบพระป่า นาคา เลยตั้งใจ ทานอาหาร 1 มื้อเอกา ด้วย จากวันเสาร์ -วันนี้ นับใด้ เอกา ๗ วัน กำลัง ปฏิบัติ ไปเรื่อยๆ เท่าที่ตั้งใจ และ สังขาร ในการทำงาน ทั้งทางโลก และทางธรรม...

http://palungjit.org/threads/มหานาค...นทีพระพุทธบาท-up-น-15-ว-สื่อสาร.124284/page-6 (หน้า 6 ปักกลด น้ำตกทรายขาว และ หน้า 7 คณะบึงลับแลกราบสักการะ นัมทานทีพระพุทธบาท,หลวงปู่สุภา )