หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ท่านสมบัติครับ

ผมรบกวนเปลี่ยน LOGO ให้หน่อยครับ

ส่งรูปให้แล้ว

ขอบคุณครับ

 

พระสวยมากๆ
ถ้าไม่ถูกใจ เปลี่ยนลวดลายให้ใหม่นะครับ โดยการระบุสีที่ต้องการ

 

โมทนาสาธุครับ

เปลี่ยนลายเซ็นด้วยนะครับ เพราะชมรมตั้งขึ้นมาใหม่
ในนาม ชมรมพระวังหน้า
ณ. เสาร์ที่ 11 ธ.ค. 2553 เวลาราว 9 โมงเศษ เรียบร้อยแล้ว

 

​

เจ้าของภาพนี้เป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้าน (แต่ไม่เปิดเผยตัว)
ผมถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อน ดูเหมือนจะมีคนขอทำ post card ขายด้วยนะครับ

อยากได้ภาพต้นฉบับ PM มานะ

 

ภาคพุทธศาสตร์ ยอมรับว่ามีคนเก่ง ปฏิบัติธรรมขึ้นมาระดับสูงเยอะมากๆ

ขณะเดียวกัน

ภาควิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ ก็ผลิตอุปกรณ์มาทดสอบด้านพลังจิต เพื่อให้พิสูจน์ ยืนยันซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี

ยิ่งนานวันเทคโนโลยี่สูงขึ้น ก็สามารถผลิตอุปกรณ์ IT ต่างๆที่เราคิดว่าไม่น่ามีในโลกนี้ ก็มีให้เห็นกันในยุคของเรา แถมราคาถูกลงมากๆครับ

 

แต่ภาพนี้สวยงามมากครับ

ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์ น่าหลงไหล

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>

อยู่กันสองคนอย่างนี้ ก็ได้บรรยากาศแปลกๆๆ

แต่ไม่แน่ สักครู่ คนจะเข้ามาแอบดูอีก

 

55 ต้องเข้าใจว่า ชื่อหัวข้อเวปบอร์ดไม่ดึงดูดแนวกว้างอ่ะครับ
ส่วนใหญ่จะสนใจเข้ามาดูเฉพาะกลุ่มที่รัก-ศรัทธาหลวงปู่แหวนมากกว่า
ถ้าอยากดัง มีคนเข้ามาดูเยอะต้องตั้งบอร์ดใหม่ ในกลุ่มพระเครื่อง สื่อโดยตรงในแต่ละเรื่องไปเลย
แต่ที่ผมทำแบบนี้เพราะอยากเก็บ record ที่ผม post ไว้ในบอร์ดใหญ่ กรณีอยากเข้ามาทบทวนหรือให้เพื่อนๆสนิทมาดูกันว่ากิจกรรมไปกันถึงไหนแล้ว เพราะเข้าบอร์ดใหญ่กว่าจะหาเจอ เล่นเอาเหนื่อยครับ หุหุ

สำหรับพระพิมพ์เป็นการชอบโดยส่วนตัว และอยากช่วยเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักกันอีกช่องทาง ก็เป็นทางเลือกครับ

 

พระแก้วมณีโชติ วังหน้า



ทดสอบโพสต์แรก
โดยการอัญเชิญพระแก้วมณีโชติ แห่งวังหน้ามาเป็นมิ่งมงคลแด่กระทู้นี้

 

สวยงามมากท่าน

โมทนาสาธุครับ

องค์นี้ล่ะท่าน จะได้ครบชุด

 

หุหุ งั้นขอแถมอีกองค์ละกัน
สำหรับท่านมหาเทพอันยิ่งใหญ่ด้านความสำเร็จโดยง่าย ...

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จุฬาฯโต้เป็นไปไม่ได้กรุงเทพฯจมบาดาล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการจัดเสวนา “เจาะลูกข้อมูลวิชาการด้านพิบัติภัยกับข่าวสารที่ประชาชนควรได้รับรู้อย่างถูกต้อง”

โดย ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล จากภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีข่าวสารเกี่ยวกับไทยจะประสบภัยพิบัติออกมาหลายครั้ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากหลักวิชาการ ส่งผลให้ประชาชนตื่นตระหนก และเกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมตามมา การจัดเสวนาครั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องโดยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ เรื่องน้ำจะท่วมกรุงเทพฯจนถึงภาคกลาง จากภาวะโลกร้อนและน้ำแข็งขั้วโลกละลายนั้นคงเป็นเรื่องที่อ้างอิงจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น จากการละลายของน้ำแข็งเฉลี่ยทั่วโลกเพียง 3 มิลลิเมตรเท่านั้น

ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากที่ได้ทำวิจัยในเรื่องนี้มากว่า 10 ปี

โดยใช้สมมุติฐานระบบและเครื่องมือการป้องกันของไทยยังเป็นแบบในปัจจุบันพบว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้าน้ำทะเลจะกัดเซาะชายฝั่งเข้ามาเพียง 1.3 กิโลเมตร และ 50 ปี จะเข้ามาประมาณ 2.3 กิโลเมตร หรือกินพื้นที่ 1 แสนไร่ ส่วนอีก 100 ปี จะเพิ่มขึ้นเป็น 6-8 กิโลเมตร หรือประมาณ 2 แสนไร่ โดยมี 5 จังหวัดที่รับผลกระทบ คือ ฉะเชิงเทรา กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร การที่จะน้ำทะเลจะเพิ่มสูง 6-7 เมตร จนท่วมถึง สิงห์บุรี อ่างทอง จึงเป็นเรื่องเป็นไปได้ยาก และไม่เกิดขึ้นในเวลาเร็วๆนี้แน่นอน

ดร.เครือวัลย์ จันทร์แก้ว อาจารญ์ภาควิชาธรณีวิทยา กล่าวว่า ในส่วนของการเกิดสึนามิในฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร

เพราะมีปัจจัยจากการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในบริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลกแถบเกาะนิโคบาร์เหมือนปี 2547 จนที่เกิดสึนามิมีโอกาสน้อยมาก เพราะพลังงานบริเวณนั้นได้ถูกปลดปล่อยไปแล้วและต้องใช้เวลาในการสะสมใหม่ไม่น้อยกว่า 100 ปี จึงจะเกิดแผ่นดินไหวระดับ 8 ริกเตอร์ขึ้นไปได้อีก

ด้าน ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องพายุสุริยะที่จะส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว

และสึนามิเป็นการอ้างข้อมูลในเว็บไซต์ที่ไม่ถูกต้อง เพราะการเกิดแผ่นดินไหมีสาเหตุจากการปลดปล่อยพลังงานที่สะลมบริเวณรอยเลื่อนเปลือกโลก หากไหวรุนแรงจึงมีโอกาสเกิดสึนามิ ส่วนเรื่องสนามแม่เหล็กโลกมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกๆ 11 ปีอยู่แล้ว


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

​

สวัสดีครับท่าน
หายไปหลายวันเนื่องจากติดภาระกิจในการย้ายบ้านครับ
รูปภายในบ้านบางส่วนครับ หุหุ

 

สำหรับพระกริ่งปวเรศ พิมพ์ที่อยู่ในกระแสดังทะลุโลก ดังข้ามปี ก็เลิกตามหาได้แล้ว เพราะเชื่อว่า ไม่ฟลุคแน่และ ...
อยู่ในคณะพระวังหน้า มากที่สุด
คนรอบนอก (ที่ได้มาตั้งนานและไม่รู้ว่าเก่าจริงหรือไม่)
และคนที่รู้และตามเก็บมาในตอนหลัง

ถ้าตามหา TOP4 ยังพอจะหาได้อยู่ แต่ต้องมีบุญ+ฟลุคพอสมควร หุหุ <!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->

 

TOP4
ราคาที่เห็นล่าสุด เขาปล่อยกันมากกว่าราคาที่พวกพี่ๆในชมรมพระวังหน้าเคยได้มา 135 เท่า (เอา 135xราคาในอดีต ;ต่อรองกันแบบคุ้นเคยกันแล้วนะ)
ประทานโทษ คนปล่อยไม่รู้หรอกนะว่าเป็น TOP4
ก็ต้องกัดฟันรวมเงินกันกับคนรู้จักอัญเชิญท่านออกมา เพราะไม่อยากเห็นของสูงที่สุดในจักรวาลต้องไปอยู่ตามแผงพระทั่วไปนั่นเอง<!-- google_ad_section_end -->

 

หุหุ ก็อย่างว่า พระที่เช่าหามาแพงๆบางทีอาจจะไม่ได้อยู่ในคอท่านมหาเศรษฐีทั้งหลาย อาจอยู่ใน safe หรือ bank ก็ได้ครับ อย่าไปว่าเขานา

การพิสูจน์มวลสารกับการถ่ายภาพออร่า เป็นนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่นำมาช่วยไขข้อกังขาในอิทธิคุณองค์พระพิมพ์ได้เป็นอย่างดี

ต่อไปเซียนฯคงตกงาน :'( เพราะแพ้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์นะจ๊ะ ...

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ (ทั้งสองประการ)

แต่สำหรับพระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ. 2434 (สร้างครั้งที่ 6) นี้

ผมว่าจะเป็นพิมพ์มาตรฐานที่วงการเขาเล่นกันสืบต่อไปครับ

เพราะเป็นพิมพ์ที่มีประวัติ และผลวิเคราะห์ต่างๆ น่าเชื่อถือที่สุดเท่าที่มีมา

เผลอๆ คนจะหันหาเล่นพิมพ์นี้พิมพ์เดียวด้วย

และที่สำคัญ ผมว่าคนที่มีรุ่นอื่นนอกเหนือจากรุ่นนี้

ต้องหวั่นใจหน่อยครับ เพราะไม่รู้ว่าพอพระตกไปถึงลูกหลาน

ไปหาเซียน เขาจะบอกผิดพิมพ์ไหม เพราะอย่างในหนังสือเล่มหนึ่ง

ที่ผมเคยซื้อมาดู เขาโชว์พระกริ่งปวเรศรุ่นแรก 13 องค์

แต่และองค์ไม่เหมือนกันเลยแม้แต่ งงมากๆๆ

 

โมทนาสาธุครับ

แต่ยังงัยผมเชื่อว่า เพชร ยังงัยก็ยังเป็นเพชร อยู่วันยังค่ำ

แต่อยู่ที่ว่าคนตาถึงและบารมีพอไหมที่จะค้นพบครับ

สักวันก็ไม่ต่างจากพระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ. 2434 แน่นอนครับ

 

นี่ยังไม่นำผลวิเคระห์ทองคำที่ใต้ฐานพระกริ่งปวเรศ ก้นทองคำ

มาพิสูจน์นะครับถ้ารู้จะอึ้ง 5555+

 

ช่ายๆครับ เห็นจากหนังสือพระเครื่องยี่ห้อดัง
ผมเคยซื้อมาเก็บไว้ หน้าปกสีแดงๆ เท่าที่เห็นมาก็เกือบจะเหมือนองค์วัดบวรทั้งน้านนนน หุหุ ....