ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    คุณเจ๊ เก่งมากเลยค่ะ ทำยูทูป ^_^

     
  2. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ยอดเยี่ยมครับ คุณทางสายธาตุ :cool:
     
  3. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
     
  4. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
     
  5. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ไปสวดมนต์ที่วัดปราสาท กลับถึงบ้านแล้ว รู้สึกว่าขลังดี สถานที่ขลังดี

    ได้คุยกับท่านเจ้าอาวาสวัดปราสาท พระครูวิสุทธิจริยาภิวัฒน์(ฉลาด) เจ้าคณะตำบลบางกร่าง-บางรักน้อย

    ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านเองเป็นคนสัมผัสได้ว่าจะต้องมีแนวกำแพงแก้วโบราณอยู่แน่นอน โดยท่านนำเงินส่วนหนึ่งจ้างให้กรมศิลปากรขุดหา ที่จริงขุดหากันมาแล้ว 7-8 ปี เจอเมื่อปีที่แล้ว ประจวบเหมาะกับงบประมาณกรมศิลป์ลงมาบูรณะวัด 5 ล้านเศษ จึงเกิดโครงการสร้างกำแพงแก้วบนแนวกำแพงแก้วโบราณเกิดขึ้น

    ตอนแรกท่านพระครูจะขุดเจดีย์สององค์เล็กๆหน้าโบสถ์ออกเสีย เพราะเจดีย์เดิมเอียงมากจนเกือบล้ม จนวันที่คณะช่างของกรมศิลป์มาบูรณะ ท่านเดินผ่านเจดีย์สององค์ ท่านเกิดเข้าใจได้เองว่า เจดีย์สององค์นี้วางได้องศา ซึ่งเป็นองศาที่ว่าคือองศาเดียวกับที่ปราสาทหินพนมรุ้ง คือจะเห็นพระอาทิตย์ผ่านช่องเดียวกันหมดทั้ง 15 ช่อง องศาการวางมุมของวัดปราสาทเป็นมุมหรือทิศที่จะเห็นพระอาทิตย์ได้มุมนั้นเลย

    และวัดนี้มีบ่อน้ำโบราณ ขุดไว้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าปราสาททองถึง 3 บ่อ คล้ายๆบ่อน้ำที่วัดทองบ่อ ที่หลวงพ่อสุทัศน์เรียกว่าบ่อพญานาค

    องศาเปิด ฮวงจุ้ยเปิด ตัวอย่างวัดสมัยอยุธยาดั้งเดิม ก็คือที่วัดปราสาทแห่งนี้ เพราะโครงสร้างโบสถ์ยังเป็นโบสถ์เดิม เพียงแต่มีการซ่อมแซมมาเป็นระยะๆ

    เหมือนที่น้องอีอฟเคยพูดว่า วัดปราสาทนี้ทำให้นึกถึงอยุธยา วัดปราสาททำให้เราเห็นวัดสมัยอยุธยาได้ชัดเจนมาก สวย สะอาดตา สร้างตามหลักตามศาสตร์โบราณอย่างถูกต้อง ที่สำคัญรู้สักขลัง

    คุณรุ้งบอกจำรายการสี่ทุ่มสแควร์ได้ไหม ตอนนั้นเขาจะเอาฉากโบสถ์วัดปราสาทเป็นฉากหลังในช่วงที่เล่าเรื่องผีและวิญญาน เพราะที่นี่ดูเก่าๆเหมือนสมัยอยุธยาแท้ๆ


    สวดมนต์กับพระท่านไปเกือบๆสองชั่วโมง นั่งสมาธิ 10 นาที ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินี ยกภูมิประเทศ ยกภูมิของวัดปราสาท และเสริมบารมีตนเอง ครั้งหน้าจะมีสวดมนต์ในวันที่ 8 ตุลาคม 2553 ทางสายธาตุไปและกลับจากต่างประเทศในช่วงสัปดาห์นั้นพอดี ซึ่งคิดว่าจะไปทัวร์วัดในอยุธยาในวันที่ 9 ตุลา ดังนั้นคงจะไปสวดมนต์ที่วัดปราสาทอีกทีในวันที่ 22 ตุลาคม 2553 ค่ะ

    ร่วมอนุโมทนาบุญกันนะคะ
     
  6. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    10 สถานที่น่ากลัวในกรุงเทพฯและปริมณฑล

    เมื่อวานคุยเรื่องรายการสี่ทุ่มสแควร์ ที่ชอบมาถ่ายทำที่วัดปราสาท อ่านเจอเรื่องราว 10 สถานที่น่ากลัวในกรุงเทพฯและปริมณฑล เนื้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดปราสาท จ.นนทบุรี เพราะวัดนี้ติดอันดับที่ ๗ ของสถานที่น่ากลัวในกรุงเทพฯและปริมณฑล ผู้ที่อยู่ใกล้ๆจังหวัดนนทบุรีหรือคนในจังหวัดนนทบุรี ขอเชิญชวนให้ลองไปสัมผัสบรรยากาศวัดปราสาทด้วยตัวท่านเองค่ะ

    ที่มา : http://nhephex.exteen.com

    [​IMG]

    10. ในซอยวัชรพล
    เป็นหมู่บ้านร้างตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ชื่อหมู่บ้านปิยพร คนเก่าคนแก่ในพื้นที่เล่าว่า ที่ดินส่วนนี้เคยเป็นป่าช้ามาก่อน เจ้าของโครงการไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง ดังนั้นพอเริ่มงานก่อสร้าง จึงพบกับอุปสรรคนานาประการ

    ต่อมามีคนงานเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหลายคนในเขตหมู่บ้านมีบึงใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ก็มีเด็กตกไปตาย 2-3 คน ประกอบกับบ้านในโครงการ ไม่มีผู้สนใจอย่างที่ประเมินเอาไว้ จึงต้องยุติโครงการ กลายเป็นหมู่บ้านร้างกลางกรุง พร้อมกันนั้นก็มีเสียงเล่าลือว่า ผู้ที่เข้าไปในเขตหมู่บ้านยามวิกาล มักจะพบวิญญาณแสดงตัวหลอกหลอน เล่นเอาขวัญหนีดีฝ่อไม่บังอาจกล้ำกลายเข้าไปอีก.

    [​IMG]

    9. ในซอยวัชรพล (เช่นกัน)
    เป็นบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ซึ่งยังก่อสร้างไม่เสร็จถูกทิ้งร้างค้างคาอยู่ในสภาพเดิม เวลากลางคืนดูน่ากลัวชวนขนลุกยิ่ง และว่ากันว่ามีคนพบเห็นวิญญาณของชายหญิงและเด็ก ปรากฏวูบวาบบ่อยๆ

    สาเหตุที่บ้านหรูหลังใหญ่ กลายเป็นบ้านร้าง เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังนี้ พาครอบครัวขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด และประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตหมดทุกคน.

    [​IMG]

    8. โรงงานร้างอยู่ในอุตสาหกรรมบางปู (ฝั่งเดียวกับเมืองโบราณ)
    สถานที่อยู่สุดซอย 2 เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำรองเท้า ขณะที่กิจการกำลังดำเนินงานไปด้วยดี ได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง คือเครื่องปั้มลมเกิดระเบิดคนงานหลายคนเสียชีวิตสยอง นับตั้งแต่นั้นคนงานที่ทำงานอยู่ ถูกผีหลอกวิญญาณหลอนจนต้องทะยอยลาออกไปเรื่อยๆจนหมด กิจการประสบความวินาศ เจ้าของโรงงานยิงตัวตายในห้องทำงานชั้นบนของโรงงาน และกลายเป็นสถานที่รกร้างเรื่อยมา เล่าลือกันว่าผีดุมาก ปัจจุบันนี้ยังมีเศษรองเท้ากระจายเกลื่อนและปั้มลมมรณะก็ยังอยู่.

    [​IMG]

    7. วัดปราสาท จ.นนทบุรี
    เป็นวัดเก่าแก่โบราณ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง เคยขุดพบกำแพงเมืองรอบอุโบสถอายุ 300 ปี ด้านหลังอุโบสถ
    มีคุ้มเก่าแก่ชำรุดทรุดโทรมว่ากันว่าเจ้าของสถานที่คือ พระนางอุษาวดีเทวี ชาวบ้านระแวกนั้นเรียกว่า "แม่" และ" เจ้าแม่ "
    เวลากลางคืนหากไปที่บริเวณคุ้มจะมีบรรยากาศวังเวงน่ากลัวมาก ผู้ใดไปแสดงกิริยาวาจาจ้วงจาบหยาบคาย
    ไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของสถานที่มักจะพบกับเหตุการณ์แปลกๆน่าขนหัวลุก.

    6. ในซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถ.พัฒนาการ
    เป็นโรงงานร้าง เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำปากกาและเป็นโรงกลึงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 80 ไร่ เหตุที่กลายเป็นโรงงานร้าง ชำรุดทรุดโทรม มีวัชพืชขึ้นปกคลุมรกครึ้มเช่นทุกวันนี้ ว่ากันว่าเจ้าที่เจ้าทางแรง ระหว่างที่ดำเนินงานอยู่ มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลายคน ผู้ลงทุนขาดทุนย่อยยับจนต้องเลิกกิจการ หากเดินเข้าไปในอาณาเขตโรงงานร้าง จะสัมผัสบรรยากาศยะเยือกผิดปกติ และเล่าลือกันว่าหากไปเคาะแท้งก์น้ำซึ่งตั้งอยู่ 3 ใบ 3 ครั้ง จะปรากฏเจ้าที่เจ้าทางออกมาให้เห็นทันที.

    5. รังสิต คลอง 13
    จากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร มีบ้านพักถูกไฟไหม้เกือบหมดทั้งหลัง แต่ยังเหลือซากบ้านอยู่ส่วนหนึ่ง ข้อมูลบางกระแสเล่าว่า มีผู้หญิงตายในไฟ บ้านหลังนี้อยู่ในสวนมะขามหวาน แต่ถูกทิ้งให้รกร้าง คนในระแวกใกล้เคียงต่างยืนยันกันว่าตอนกลางคืน จะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องโหยหวน มาจากซากบ้านบ่อยๆ พร้อมกันนั้นเคยมีคนเห็นผีผู้หญิงในบริเวณซากบ้านด้วย.

    [​IMG]

    4. ในซอยรอดอนันต์ 1 ถ.สุขาภิบาล1
    เป็นบ้านร้างทรงไทยอยู่ริมบึง ห่างไกลจากบ้านอื่นๆในระแวกนั้นบริเวณบ้านรกครึ้มด้วยต้นไ ม้ใหญ่น้อยคุณยายเจ้าของบ้านเสียชีวิตที่บ้านหลังนี้ และน่าเชื่อว่า วิญญาณของคุณยายไม่ยอมไปผุดไปเกิด แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในบ้าน จนกระทั่งลูกหลานไม่กล้าอยู่ ต่างแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นหมด ปล่อยบ้านทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา

    และที่บ้านหลังนี้เล่าลือกันว่าผีดุนัก คนอยู่ระแวกใกล้เคียงเคยเห็นผีคุณยายมายืนชี้นิ้วอยู่ที่ หน้าบ้านเมื่อมีเด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในบริเวณหน้าบ้าน เคยมีคนใจกล้าเข้าไปในบ้านได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ๆขู่ตะคอก จนต้องเผ่นออกมาแทบไม่ทัน.

    [​IMG]

    3. ในซอยสายหยุด อู่รถเมล์เก่าที่นี่เป็นสุสานรถเมลล์หรือรถโดยสารประจำทาง
    ที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนใช้การไม่ได้ ซากรถเมลล์แต่ละคันมีประวัติคนตายโหงคารถ ในสภาพสยดสยองมาแล้ว และเป็นที่เล่าลือกันว่า อยู่ดีๆไฟในรถกลับเปิดสว่างขึ้นมาเอง หรือมีคนมายืนโบกรถหน้าอู่ แท๊กซี่จะเข้าไปจอดรับก็หายไปบางครั้งมีคนวิ่งตัดหน้า และหายไปดื้อๆ.

    [​IMG]

    2. วัดมหาบุศย์ พระโขนง
    ที่วัดมหาบุศย์ ยังมีศาลย่านาคตั้งอยู่ สืบเนื่องมาจากตำนานรักของแม่นาคพระโขนง ที่รู้กันแพร่หลายเล่ากันว่า เมื่อผีแม่นาคอาลวาดหลอกหลอน
    จนชาวบ้านหาปกติสุขมิได้ เจ้าประคุณสมเด็จโต ( วัดระฆัง ) ได้มานำวิญญาณแม่นาคไป พร้อมกับกระดูก กระโหลกหน้าผากแล้วอบรมสั่งสอนให้รักษาศีล ปฏิบัติธรรม นัยว่าแม่นาคเลื่อนภพเป็นเทพแล้ว หากยังมีผีวนเวียนที่วัดมหาบุศย์ คงมิใช่วิญญาณแม่นาคอย่างแน่นอน.

    [​IMG]
    1. ในซอยรามคำแหง 32
    ลึกเข้าไปในซอยรามคำแหง 32 ท่านจะพบบ้านทรงสเปนหลังหนึ่งรูปทรงสวยสง่าน่าอยู่ แต่บ้านนี้ไม่มีใครอยู่อาศัยนานกว่า 20 ปีแล้ว ปล่อยให้ทิ้งร้างเก่าทรุดโทรมอย่างน่าใจหาย ประวัติของบ้านมีว่าเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ วันหนึ่งเจ้าของบ้านขับรถออกไปทำงานตามปกติ ที่บ้านมีสาวใช้อยู่เพียงคนเดียว คนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งคงมาแอบสังเกตการณ์นานพอสมควรได้ฉวยโอกาสเข้าปล้น และฆ่าสาวใช้ตายคาที่

    นับตั้งแต่นั้นมักจะได้ยินเสียงผู้หญิง ร้องให้ช่วยดังโหยหวนน่าสยดสยอง และยังเห็นผู้หญิง (เข้าใจว่าเป็นสาวใช้ที่ถูกฆ่าตาย )เดินว นเวียนวูบวาบอยู่ในบ้าน เจ้าของบ้านทนอยู่ไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น เล่ากันว่าหลังจากนั้น มีคนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วยดังมาจากบ้านร้างบ่อยๆ และมีคนเห็นผู้หญิงลึกลับยืนอยู่หน้าบ้านเป็นประจำเมื่อเ ข้าไปใกล้ก็หายไป.


    ออกนอกแนวทางของกระทู้นิดหน่อยนะคะ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการไปเยี่ยมชมวัดปราสาท จ.นนทบุรีในครั้งหน้าค่ะ
     
  8. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=hd2BCYn8WWw&feature=player_embedded]YouTube - วัดปราสาท[/ame]

    บรรยากาศวัดปราสาท มีคนวางคลิปนี้ไว้บน ยูทูป
    คงไปถ่ายทำไว้ก่อนการสร้างกำแพงแก้วใหม่
    พาเที่ยววัดผ่านยูทูปค่ะ​
     
  9. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    [​IMG]

    ด้วยจิ
     
  10. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=4><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=date bgColor=#d3e6f4 height=19 vAlign=center width=160></TD><TD bgColor=#d3e6f4 height=19 vAlign=top></TD><TD height=19 vAlign=top align=right><TABLE style="FILTER: alpha(opacity=100, finishopacity=10, style=1)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#d3e6f4><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="60%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=normal vAlign=top width=8>[​IMG]</TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=4><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=date bgColor=#d3e6f4 height=19 vAlign=center width=160>25 กันยายน 2553 17:09 น.</TD><TD bgColor=#d3e6f4 height=19 vAlign=top><IFRAME height=19 src="NewsAlert.aspx" frameBorder=0 width="100%" name=result scrolling=no></IFRAME></TD><TD height=19 vAlign=top align=right><TABLE style="FILTER: alpha(opacity=100, finishopacity=10, style=1)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#d3e6f4><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="60%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=normal vAlign=top width=8>[​IMG]</TD><TD>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=260><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=260 bgColor=#e7f1fa><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=260 bgColor=#ffffff><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top>"นาดาล" น่ารักตื่น 6 โมงตักบาตรหัวหิน </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสหนุ่มสเปน มืออันดับ 1 ของโลก ตื่น 6 โมงเช้าขึ้นมาตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 18 รูป ที่เดินบิณฑบาตมายังบริเวณชายหาดด้านหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหินก่อนลงทำการแข่งขัน "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพน 2010" ในสัปดาห์หน้า


    www.manager.co.th


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    โมทนา สาธุ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. of_bd

    of_bd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +304
    สิ่งใดๆก็ไม่น่ากลัว เท่าจิตใจตัวเราเอง
     
  12. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518

    ใช่ค่ะ ท่านพระอาจารย์มหาพิน วัดอินทารามท่านส่งมาให้เป็นคลิป
    เกี่ยวกับพระจักษุธาตุ อยากนำมาให้ชมกัน แต่ทำไมเปิดไม่ได้ไม่รู้สิ
    เชิญน้องผู้ชำนาญเข้าไปดึงออกมาให้ด้วยนะคะ
     
  13. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
     
  14. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    [FONT=&quot]สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวตารแห่งมหาเทพ (นเรศวรปกรณัม)[/FONT] [FONT=&quot]1
    [/FONT]

    [FONT=&quot]...ในโอกาส ช่วง 400 กว่าปี ของการครองราชย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า[/FONT][FONT=&quot] ทางมหาวิทยาลัยนเรศวร โดย ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์ ได้มีการเสนอผลงานวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก สาขา วิชาคติชนวิทยา เกี่ยวกับเรื่องของ มิติของเทพปกรณัมขึ้น[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ด้วย จุด มุ่งหมายของการวิจัยครั้งนี้ คือ การทำความเข้าใจและเสนอคุณลักษณะพิเศษและความยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวร มหาราช ในสามมิติ คือ มิติของปัจเจกบุคคล มิติของสังคมวัฒนธรรม และ มิติของเทพปกรณัมเหนือโลก[/FONT]

    [FONT=&quot]โดยการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นเหตุเป็นผล จนสามารถสร้างองค์ความรู้และนำเสนอมุมมองใหม่เกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวร มหาราชได้อย่างน่าสนใจ ที่สำคัญยังแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นพลังขับเคลื่อนเบื้องหลังประชาชาติ สยามจวบจนทุกวันนี้ [/FONT]

    [FONT=&quot]ทั้งนี้ผู้วิจัยได้พูดถึงเรื่อง คติชนวิทยา ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญ เพราะเป็นศาสตร์แห่งการเรียนรู้และทำความเข้าใจมนุษย์ในทุกมิติ ทั้งความเป็นอัตลักษณ์และความเป็นองค์รวมของวัฒนธรรมของกลุ่มชน [/FONT]


    [FONT=&quot]จากคติชนวิทยา[/FONT][FONT=&quot] ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้เราสามารถเข้าใจในความเหมือน คล้ายกัน และ ความหลากหลายแตกต่างกัน ทางวัฒนธรรมของแต่ละ กลุ่มชน นำไปสู่ทัศนคติที่ดีต่อชนชาติต่างๆ และสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม[/FONT]


    [FONT=&quot]ในทัศนะของวัฒนธรรมอินเดียภารตะซึ่งมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมสยามมานาน นั้นจะถือว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] เรื่องราวประวัติศาสตร์อยู่ในสภาพที่ต่ำต้อยกว่าเทพปกรณัม เพราะเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์เป็นเพียงประวัติและตำนานเกี่ยวกับมนุษย์ สังคม ชนเผ่า นครรัฐ ประเทศ พระเอกนางเอกมีความเก่งกล้าสามารถตามแบบฉบับของโลก แต่ถ้าหากเขามิได้แทงทะลุกรอบแห่งวัตถุวิสัย เขาก็ยังไม่ได้ขึ้นสู่มิติแห่งเทพปกรณัม [/FONT]

    [FONT=&quot]ดังนั้นชาวอินเดียจึงยกให้เทพปกรณัมสูงกว่าประวัติศาสตร์ ( จากบทความ [/FONT][FONT=&quot]Raimundo Panikkar เรื่อง Time and history in tradition of India) [/FONT][FONT=&quot]....[/FONT][FONT=&quot]ตอนหนึ่งว่า

    [/FONT]
    [FONT=&quot]“เรื่องของโลกและกาละเป็นเพียงอุบัติเหตุในกระแสของสังสาระ และเป็นเรื่องที่ไม่ได้ให้คุณค่าอะไรแก่ชีวิต ดังนั้นจิตใจของคนอินเดียจึงไม่ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์เท่าใดนัก คนอินเดียจะให้น้ำหนักกับส่วนที่เหนือโลก และเหนือกาละ ซึ่งปรากฏสว่างไสวอยู่ในเทพปกรณัมและแฝงไว้ด้วยสัญลักษณ์ที่ทรงพลัง ในมรรควิธีสู่มกษะนาม ([/FONT][FONT=&quot]การหลุดพ้น[/FONT][FONT=&quot] /[/FONT][FONT=&quot]ดอกไม้เมืองบน[/FONT][FONT=&quot]) รูปเป็นสิ่งกีดขวาง และผู้มีปัญญาย่อมพยายามที่จะไม่เชื่อมโยงกับมัน อาตมัน ([/FONT][FONT=&quot]จิตวิญญาณ/[/FONT][FONT=&quot]ดอกไม้เมืองบน[/FONT][FONT=&quot] ) เท่านั้นคือสัจธรรม เพราะมันคือความเป็นจริงสิ่งเดียวที่เที่ยงแท้แน่นอน[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot] จากนัยนี้ เทพปกรณัม จึงสำคัญกว่าประวัติศาสตร์ และจากมโนทัศน์นี้เป็นส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้มีการเจาะลึกไปสู่การศึกษา[/FONT][FONT=&quot]เกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในเชิงเทพปกรณัม[/FONT][FONT=&quot]ซึ่งจัดเป็นมิติที่สามในมุมมองของคติชนวิทยา นั่นเอง[/FONT]

    [FONT=&quot]ในมิติเทพปกรณัมนี้ เป็นมิติที่[/FONT][FONT=&quot]สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้รับการเชื่อมโยงกับเทพเจ้า[/FONT][FONT=&quot] โดยในทัศนะชาวสยามเชื่ออย่างแน่นแฟ้นว่า [/FONT][FONT=&quot]พระองค์ทรงเป็นอวตารย่อยของพระศิวะมหาเทพและทรงประกอบพระราชกรณียกิจในฐานะเป็นนักรบดุจพระนารายณ์ปราบมาร [/FONT]

    [FONT=&quot] จริงอยู่ แม้พระองค์จะเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ประกอบภารกิจยิ่งใหญ่ในทางมิติของโลกด้วยการเป็นนักรบที่กอบกู้อิสรภาพฟื้นคืนความเป็นประชาชาติสยามในเชิงอธิปไตย วัฒนธรรม เศรษฐกิจ เสถียรภาพสังคม [/FONT]

    [FONT=&quot]แต่พระองค์ก็ทรงมี[/FONT][FONT=&quot]คุณสมบัติพิเศษเหนือธรรมดา[/FONT][FONT=&quot]ที่[/FONT][FONT=&quot]ทำให้พระองค์แทงทะลุเข้าไปอยู่ในมิติของเทพปกรณัม และเหนือโลก [/FONT][FONT=&quot]จึงเท่ากับพระองค์ได้ทรงมอบคุณค่าที่เป็นอมตะให้กับประวัติศาสตร์[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ปกรณัมหรือเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวร สามารถนำมาวิเคราะห์และตีความได้ตามทฤษฏีเทพปกรณัม ทั้งจากทฤษฏีฝ่ายโลกตะวันออก และ โลกตะวันตก ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเป็นสากล ของ[/FONT][FONT=&quot]พระราชประวัติในฐานะเทพปกรณัมที่สำคัญยิ่งกว่าประวัติศาสตร์[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]นเรศวร์ปกรณัม[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot] เป็นการนำเสนอคุณลักษณะพิเศษและความยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวร ..ที่ทรงเป็นแบบอย่างของพระมหากษัตริย์ในบรรดากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งปวง[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ความฉลาดลุ่มลึก และอำนาจพิเศษในบุคลิกภาพของพระองค์[/FONT][FONT=&quot]เป็นที่ประจักษ์ทั่วไปและถือว่าเป็นสิ่งเหนือธรรมดาจนได้รับการเชื่อมโยงกับพระมหาเทพอีกด้วย [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ดังนั้นในมิติของปัจเจกบุคคล [/FONT][FONT=&quot]พระองค์ทรงมีที่มาจากภพภูมิของพระศิวะมหาเทพ [/FONT][FONT=&quot]และพระนารายณ์ ผู้ซึ่งเมื่อ 453 ปีก่อน ได้เสด็จลงมากอบกู้ราชอาณาจักรสยามจากการยึดครองของพม่า สภาพชีวิตพระองค์ที่ปรากฏในปัจจึงมีความผสมผสานกันระหว่างข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และ[/FONT][FONT=&quot]ความลึกลับโดย มี อภินิหารเกิดขึ้นกับพระองค์มากมาย[/FONT]

    [FONT=&quot]เริ่มจากพระนามที่สื่อให้เห็นว่ามเด็จพระนเรศวรอวตารของเทพเจ้า นั่นคือที่มาของคำว่า[/FONT][FONT=&quot]นเรศวร[/FONT][FONT=&quot] มาจากคำว่า นร + อีศวร [/FONT][FONT=&quot]–หมายถึงพระอิศวรในภาคมนุษย์ หรืออวตารย่อยของพระอิศวร[/FONT]
    [FONT=&quot] คำว่า อวตาร แปลว่า ลงมา หมายความว่า เทพ ลงมาจากสวรรค์มาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อจุดประสงค์ใด จุดประสงค์หนึ่ง เช่น [/FONT][FONT=&quot]incarnation คือการเข้าร่างของพระเยซูฯ [/FONT]

    [FONT=&quot]ตามหลักศาสนาพราหมณ์ [/FONT][FONT=&quot]–ฮินดู เชื่อว่ามี เทพเจ้าสูงสุด 3 องค์ คือ พระอีศวร (ศิวะ ) พระนารายณ์ และ พระพรหม[/FONT]

    [FONT=&quot]ในส่วนพระนามพระนเรศวร [/FONT][FONT=&quot]จะมีการขานพระนามกันหลากหลาย ซึ่งมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่าพระนามจริงคืออะไร จากการสังคายนาประวัติศาสตร์เมื่อต้นรัตนโกสินทร์ทำให้เชื่อได้ว่า คำว่านเรศวรน่าจะไม่ใช่พระนามที่แท้จริงเพราะพึ่งมามีปรากฏเอ่ยถึงภายหลัง และ ใช้อย่างเป็นทางการในสมัย ร. 4 ซึ่งพระองค์ได้เป็นผู้ให้มีการถวายพระราชสมัญญานามมหาราชเป็นครั้งแรก และถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นพระองค์แรก. ส่วนข้อมูลในเรื่องพระนามที่ได้จากที่ต่าง ๆ ในยุคใกล้เคียงรัชสมัยของพระองค์ส่วนใหญ่ นั้น ไม่มีการใช้พระนามนเรศวร เช่น [/FONT][FONT=&quot]

    ...........คัมภีร์สังคีติยวงศ์- เรียก นริสสราช[/FONT]
    [FONT=&quot]-[/FONT]
    [FONT=&quot]..........ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ เรียก พระนเรศ[/FONT]
    [FONT=&quot]...........พงสาวดาร ฉบับหอแก้ว พม่า เรียก พระนริ[/FONT]
    [FONT=&quot]...........พระไอยการกระบดศึก สมัยพระเอกาฯ เรียก จ้าฟ้านเรศรเชษฐาธิบดี[/FONT]
    [FONT=&quot]...........ศิลาจารึกหมายเลข[/FONT][FONT=&quot]K27(วัดรามลักษณ์/อันโลก-)[/FONT][FONT=&quot]เรียก พระนเรสส[/FONT]
    [FONT=&quot] ที่ถูกต้อง- นร+อิศ [/FONT][FONT=&quot]–นเรศ นริศ[/FONT]
    [FONT=&quot]............แม้แต่ใน พระราชพิธี 12 เดือน สมัยรัชกาลที่5 ยังแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงพระนามของพระองค์กับ องค์มหาศิวะเทพ (อิศวร) ได้จาก พระราชพิธีตรียัมปวาย[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]( ตามหลักศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ถือเป็นพิธีกรรม ที่จัดขั้นเพื่อ เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ซึ่งเชื่อกันว่าพระอิศวรเป็นเจ้า ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุด และเป็น ๑ ใน ๓ เทพเจ้า [/FONT][FONT=&quot]( พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม) ที่ร่วมกันสร้างโลก จะ เสด็จลงมาเยี่ยมโลกมนุษย์เป็นประจำทุกปี ปีละครั้งในเดือนยี่ กำหนดครั้งละ ๑๐วัน เริ่มตั้งแต่วันขึ้น ๗ ค่ำ เดือนยี่ ถือว่าเป็นวันเสด็จลงมาสู่โลก จนถึงวันแรม ๑ ค่ำ เป็นวันเสด็จกลับ ต่อจากนั้นในวัน ๑ ค่ำ พระนารายณ์ เสด็จลง แรม ๕ ค่ำ เสด็จกลับ ตามธรรมเนียมของการประกอบ พระราชพิธีตรียัมปวาย หรือ พิธีโล้ชิงช้า คณะพราหมณ์จึงได้จัด พิธีต้อนรับขึ้นในระยะเวลาดังกล่าว เพื่อความเป็นศรีสวัสดิมงคลแก่พระนคร ในการแห่ส่งเสด็จนี้จะมีการร้องแห่ ว่า พระนเรศรเดือนหงาย พระนารายณ์เดือนมืด (ซึ่งหมายถึงพระอิศวรเสด็จลงมายามข้างขึ้น ส่วนพระนารายณ์จะเสด็จตามมาในยามข้างแรม / [/FONT][FONT=&quot]ดอกไม้เมืองบน[/FONT][FONT=&quot])


    *ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดสุวรรณดาราราม อยุธยา แสดงเกี่ยวกับพระสยามเทวาธิราช
    ทรงไปทูลขอให้พระอิศวร(พระศิวะ)อุบัติมายังโลกมนุษย์

    [/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2010
  15. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    [FONT=&quot]สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวตารแห่งมหาเทพ (นเรศวรปกรณัม) 2
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ในส่วน[/FONT][FONT=&quot]ปกรณัมที่สำคัญเกี่ยวกับพระนเรศวรมหาราช คือ ปกรณัมหรือเรื่องราวเกี่ยวกับภารกิจด้านการสงครามในรัชสมัยของพระองค์ ที่ต้องทรงทำสงครามอยู่ตลอดเวลาเพื่อปกป้องบ้านเมือง และเพื่อรักษาพระราชอาณาเขตให้มั่นคงปลอดภัย จนพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับวันวลิต กล่าวว่า ทรงครองราชย์อยู่เป็นเวลา 20 ปี แต่พำนักอยู่ในกรุงศรีอยุธยาไมเกินกว่า 2 ปี เท่านั้น หมายความว่า อีก 18 ปี ทรงออกศึกและตรวจราชการงานเมืองนอกพระนครศรีอยุธยา[/FONT]

    [FONT=&quot] จากคัมภีร์ภควัทคีตา อันเป็นคัมภีร์ศักดิ์ศิทธิ์ของอินเดีย ที่เนื้อหาบรรยายถึงวิถีทางไปสู่พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด ได้ให้ทรรศนะเกี่ยวกับการทำศึกสงครามว่า ..[/FONT]
    [FONT=&quot].............[/FONT][FONT=&quot]“ คนเราต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของตน ดังที่พระกฤษณะผู้เป็นอวตารของพระวิษณุ ได้ให้สติกับ[/FONT]
    [FONT=&quot]พระอรชุนที่กำลังท้อถอยที่จะทำสงครามว่า .. ขอให้มองว่ากันทำสงครามนี้เป็นหน้าที่ เพื่อขจัดอธรรมที่เอาแต่ราวีคนทั้งหลายเพื่อสนองความอหังการ์ของตน และ ให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่โดยไม่มิได้หวังผลแห่งการกระทำเพื่อตนเอง การสงครามที่จำเป็นก็จะเป็นภารกิจ มิใช่สิ่งบาป พระมหาเทพจะทรงมองเห็นและจะทรงให้อภัยต่อการฆ่าที่เป็นไปตามหน้าที่นั้น การปฏิบัติหน้าที่ยังถือเป็นหนทางแห่งการพัฒนาจิตอันจะนำไปสู่การบรรลุญาณอันประเสริฐสุด”[/FONT]

    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]โดยนัยคือ ผู้เป็นนักรบต้องมีหน้าที่รบไม่ว่าจะอยู่ในสถานะอะไร และระบุว่าหลักของพระราชาคือการทำสงครามเพื่อกอบกู้อิสรภาพและรักษาความอยู่รอดของประเทศ ดังนั้นการทำสงครามของพระนเรศวรนั้นจึงเป็นไปตามหน้าที่อันชอบธรรมของพระราชา[/FONT]

    [FONT=&quot]สิ่งที่ทรงทำนับเป็นการเสียสละอย่างที่สุด พระองค์ทรงปฏิบัติในสิ่งที่ยากเย็นและยาวนาน อันไม่อาจมีมนุษย์คนไหนทำได้เสมอเหมือน แม้แต่พระอรชุนในภควัทคีตา เข้าร่วมรบในสงครามที่ยาวนานเพียง 18 วัน แต่ สมเด็จพระนเรศวรทำสงครามยาวนาน เมื่อบวกกับก่อนขึ้นครองราขย์ จะรวมประมาณ 22 ปี หากพระองค์ไม่ทรงมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าและมีภาวะจิตอันมั่นคงแล้ว คงไม่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อประกอบภารกิจได้สำเร็จ[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่สำคัญในความมุ่งมั่นอันแรงกล้าและภาวะจิตอันมั่นคงในการทำสงครามแต่ละครั้ง มิได้เกิดจากความหวังเพื่อผลประโยชน์พระองค์เองไม่ว่าจะเป็นการสร้างชื่อเสียง เกียรติยศ หรือในทางอำนาจ แต่เพื่อประโยชน์สุขของประชานิกรชาวสยามโดยแท้[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]และเมื่อเราลองมองเปรียบเทียบดูจากโครงสร้างชีวิตโดยทั่วไปของวีรบุรุษ ในทางคติชนคดี ตามทฤษฏีของ ลอร์ด แรกแล่น จะเห็นได้ว่า โครงสร้างชืวิตเชิงวีรบุรุษในเทพปกรณัม ดังกล่าวที่กำหนดไว้ นั้น ปกรณัมเกี่ยวกับพระราชประวัติพระนเรศวรฯแสดงให้เห็น โครงสร้างชีวิตของพระองค์ที่สอดคล้องกับ โครงสร้างชืวิตเชิงวีรบุรุษในเทพปกรณัม ที่กำหนดไว้ โดยทรงอยู่ในข่ายตามข้อต่าง ๆ ดังนี้คือ[/FONT]

    [FONT=&quot]2.. บิดาเป็นกษัตริย์[/FONT]
    [FONT=&quot]5. ถูกกล่าวขวัญว่าเป็นลูกของเทพยดา[/FONT]
    [FONT=&quot] แม้ในความเป็นจริงจะมิได้มีใครเล่าขานดังนั้น แต่ โดยพระนามที่มีพระศิวะเป็นเจ้านั้น [/FONT]
    [FONT=&quot] (นร +อิศ และ นร +อิศวร) ก็บ่งบอกให้ทราบว่าพระองค์ทรงสืบสายมาจากเบื้องบน[/FONT]
    [FONT=&quot]7. ถูกพาหนีไปอย่างลึกลับ[/FONT]
    [FONT=&quot] ในกรณีนี้พระนเรศวรแม้จะไม่ได้ถูกพาหนีไป แต่พระองค์ต้องเสด็จจากบ้านเมืองไปเป็นองค์ประกัน ณ กรุงหงสาวดี ซึ่งการเสด็จนั้นมิได้ถูกบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน จึงถือเป็นความลึกลับทีทำให้ยังมีความคลุมเครือ ถกเถียงกันหลายครั้ง หลายประเด็นว่า เสด็จไปคราวใด พระชนม์เท่าไหร่ [/FONT]
    [FONT=&quot]8. มีผู้รับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมในต่างแดน [/FONT]
    [FONT=&quot] คือ พระเจ้าบุเรงนอง[/FONT]
    [FONT=&quot]9. ไม่มีการบอกเล่าเกี่ยวกับวัยเด็ก[/FONT]
    [FONT=&quot] ในพระราชประวัติของพระองค์ไม่มีการพูดถึงวัยเด็ก แม้แต่ พงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับวันวลิต ที่ถือว่าอยู่ใกล้รัชสมัยพระองค์มากสุดก็เอ่ยแค่ว่า พระชนม์ 13 ต้องเสด็จไปเป็นองค์ประกันที่เมือง พะโค [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2010
  16. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระจักษุธาตุ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=VJgevyWWAZY&feature=player_embedded]YouTube - พระจักษุธาตุ พระบรมสารีริกธาตุ 1[/ame] [ame=http://www.youtube.com/watch?v=rRgmgFZ7b40&feature=player_embedded]YouTube - พระจักษุธาตุ พระบรมสารีริกธาตุ 2[/ame]​
     
  17. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระจักษุธาตุ


    [​IMG]
    ที่เห็นนี้ ไม่ใช่เพชร แต่เป็นพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระจักษุ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    [​IMG]
     
  18. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ภาพพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระจักษุธาตุ

    [​IMG]



    1000 ปี ปรากฎให้เห็นครั้งเดียว เพื่อโปรดวิกฤตประเทศไทย



    [​IMG]



    รายรอบด้วยพระบรมสารีริกธาตุ ​



    [​IMG]
    พระจักษุพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
     
  19. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2010
  20. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=gvRHX6fj-Ew&feature=player_embedded]YouTube - ภาพพระจักษุธาตุ 1/5[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=RG2GO-woSts&feature=player_embedded]YouTube - ภาพพระจักษุธาตุ 2/5[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=nnyMZewk6EU&feature=player_embedded]YouTube - ภาพพระจักษุธาตุ 3/5[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=UW7AmxwrkYA&feature=player_embedded]YouTube - ภาพพระจักษุธาตุ 4/5[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Ei10c04dulU&feature=player_embedded]YouTube - ภาพพระจักษุธาตุ 5/5[/ame]​
     

แชร์หน้านี้

Loading...