ผู้ชอบสวดมนต์...ห้ามพลาด

การสวดมนต์ ผิดอักขระไม่รู้ความหมาย ต้องไปรับโทษในนรก - เปรต - สัตว์เดรัจฉาน
เมื่อได้หมุนวนกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง ก็เป็นมนุษย์ที่มีสติ - ปัญญาไม่ดี
เรียนรู้อะไรก็เข้าใจยากมาก เงอะงะๆ เซ่อๆซึมๆ
สาเหตุก็เพราะได้สร้างความงงงวย - งมงาย - ไม่รู้เรื่อง
เหยียบย่ำตัวเองเอาไว้แล้วเรียบร้อยในคราวนี้ด้วยการสวดมนต์คือคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบผิดๆ
ถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะ ดิฉันไม่เคยได้ศึกษาพระไตรปิฏกเท่าที่ควรจึงไม่รู้แจ้ง
แต่ในความคิดของดิฉัน คนที่มีจิตคิดสวดมนต์ภาวนาแผ่กุศลให้คนอื่นๆก็มีจิตที่คิดดีทำดี
ไม่น่าจะได้รับโทษทัณฑ์เช่นนี้ สงสัยจริงว่าพระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสไว้แบบนี้แน่แท้หรือไม่
เพราะดูจะสร้างความหวาดกลัวแก่คนที่จะหันเข้าหาธรรมะ บางคนคิดอยากจะสวดมนต์แต่เพราะกลัวตัวจะสวดผิดและไม่รู้ความหมาย จึงหลีกเลี่ยงการสวดมนต์ไปเสีย คำสอนของพระพุทธเจ้าโดยแท้แล้วน่าจะยึดทางสายกลางมิใช่ขู่หรือบอกผลที่จะเกิดขึ้นแบบโจ่งแจ้ง
ครั้นนี้ผู้อ่านทุกท่านต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน
การสวดมนต์ให้ถูกอักขระและรู้ความหมายคือสิ่งที่ดีงามและควรกระทำเพราะหากทำได้ก็จะเป็นการดีต่อผู้ปฏิบัติแต่หากมีผิดพลาดพลั้งไปบ้างก็มิน่าได้รับผลตามคำกล่าวข้างต้นเลย
สำหรับคนเพิ่งเริ่มสวดมนต์และศึกษาธรรมะแบบดิฉัน พอมาอ่านเจอบทความแบบนี้ก็รู้สึกแปลกใจและค่อนข้างลังเลที่จะสวดต่อไป แต่หากตั้งมั่นในความคิดตน หากเราคิดดีทำดี
ก็ควรปฏิบัติต่อไป หากเป็นได้ก็ปฏิบัติให้ถูกต้องและดีขึ้นกว่าเดิมอีก ใส่ใจการสวดมนต์ให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก เพื่อความสบายใจในการปฏิบัติ

หากมีจิต คิดดี ทำดี ผลควรออกมาควรดี ตามคำสอนที่ว่าทำดีได้ดี นั่นแล

ขออนุโมทนากับความรู้ใหม่ที่แบ่งปันให้กันค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

 

ก็ไม่ยากนี่ครับ..ก็หาบทสวดมนต์แปล..มาสวดเพื่อจะได้เรียนรู้คำสอนไปด้วย ตั้งใจดีจิตเป็นกุศล คิดจะทำดี ก็ดีครับ แต่ควรศึกษาหนทางที่ถูกต้องในพุทธศาสนาด้วย เป็นไปได้ก็ลองหาอ่านพระไตรปิฎกเป็นการเริ่มต้นศึกษาที่ดีที่สุดครับ ข้อความที่ผมยกมานั้น มีในพระไตรปิฎกแน่ครับ มิได้เป็นคำของผมแม้แต่นิดเดียว.. ผมจึงยกมาเตือนด้วยความหวังดี....ผู้ต้องการสวดก็สวดไปครับ แต่ก็ขอให้ทำตามทื่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำไว้ สวดแล้วต้องเข้าใจ รู้ความหมายตามนั้น จุดประสงค์ก็เพื่อให้เราได้ทบทวนพิจารณาตามคำสอนของท่านไปด้วยขณะสวด ไม่ใช่สวดแบบนกแก้วนกขุนทอง.. ก็ไม่เกิดประโยชน์ สิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งใดเป็นโทษพระพุทธองค์ ท่านก็ชี้ทางไว้ให้หมดแล้ว อยู่ที่เราท่านจะเดินตามรอยท่านหรือไม่ ก็เท่านั้น เจริญในธรรม

 

ท่านเข้าใจถูกต้องแล้วละครับ ปกติผมจะอ่านพระไตรปิฏก และฟังคำสั่งสอนของพระอริยเจ้าประกอบไปด้วย คนทั่วไปตีความพระไตรปิฎกเองได้ไม่ถูกต้องทั้งหมดหรอกครับเพราะไม่ใช่ตัวกฎหมายที่ต้องตีความอย่างเคร่งครัด(เพราะมีกิเลส กับอวิชชามาเกี่ยวด้วย) ศาสนาพุทธอยู่ที่การฝึกการปฏิบัติและเน้นลงที่ใจ(ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ) พระอริยะเจ้าที่ดับขันธุ์ไปแล้วหรือที่ครองขันธ์อยู่ ไม่มีท่านใดเลยที่บอกว่า สวดมนต์ผิดอักขระ สวดไม่ถูก ไม่รู้ความหมาย ต้องไปตกนรก ตกอบายภูมิ ฯลฯ..ไม่มีสักท่านเลย ทั้งที่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ หากผิดจริงมีโทษหนักจริง ท่านต้องรีบเตือนแล้ว ลองดูบทความของผู้รู้(ข้างล่าง)ผมว่าให้ข้อคิดดีครับ

"พระไตรปิฏกยังไม่ตีความก็ยังเป็นธรรมะพระพุทธเจ้าอยู่
ตีความแล้วต้องดูอีกใครตีความ กิเลสมันตีความ
หรือพระอริยะตีความ หรือยกมากล่าว

พระวินัยหละ ตีความออกมาจากกิเลส
ก็เป็นกิเลสทั้งหมด เพราะกิเลสมันเป็นคนอ่านและตีความ
.........................................................

แต่ถ้าเอาชาวป่าชาวเขาไปพิพากษา ตัดสินโทษแล้วสิ่งใด
จะเกิดขึ้น ชาวป่าชาวเขาไม่รู้กฏหมาย ไม่เป็นที่ยอมรับ
โดยสมมุติของทนาย ของโจทย์ ของจำเลย สิ่งใดจะเกิดขึ้น<!-- google_ad_section_end -->

เชกเช่น เอากิเลสไปตีความพระวินัย พระธรรม พระไตรปิฏก

กิเลสมันไม่รู้ธรรม ไม่รู้วินัย ไม่เข้าใจธรรมะ แค่อ่านหนังสือ
และแปลบาลีออก

เปรียบเหมือนเอาชาวป่าไปพิพากษา ไม่มีผิด
ชาวป่าไม่รู้กฏหมาย ไม่รู้ธรรมเนียมประเพณี
ศีลธรรมของคนเมือง แต่อ่านหนังสืออก ก็ฉันนั้น"

ลองพิจารณาดูนะครับ ระหว่างพระอริยผู้บริสุทธิ์ ผู้เข้าถึงพระรัตนไตร
กับคนที่อ้างพระไตรปิฏกและตีความอย่างเคร่งครัด ตามความคิดของตน
เราจะเชื่อใคร ...ครับ

ผมขออโหสิกรรมด้วย หากบทความทำให้ท่านผู้ใดไม่พอใจ
และขอขมาพระรัตนไตรด้วยหากพลั้งเผลอไป ....

ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านครับ

 

ผมขอถามว่าพระไตรปิฎกในไทยนะ แปลเป็นไทยแล้วนะครับ แล้วผมก็ยกมาจากพระไตรปิฎก คุณจะว่าผู้แปลพระไตรปิฎกในไทย แปลผิด เขียนผิดหรือ
ส่วนที่เขียนไว้ตั้งแต่แรกก็ยกมาจากพระไตรปิฎกชุด 91 เล่ม ของมหามุกฏราชวิทยาลัย
ผมก็ขอให้พิจารณาระหว่างครูบาอาจารย์ของเราท่าน กับครูใหญ่คือพระพุทธองค์ คุณจะเชื่อใคร
หากคุณเรียกตัวเองว่าชาวพุทธ แต่ไม่ทำตามคำสอนของพระพุทธองค์ สิ่งใดควรมิควร ท่านก็สอนไว้ หากคุณคิดว่าคำสอนของพระองค์มั่นเคร่งครัดเกินไป แล้วเหตุใด จึงมานับถือพุทธศาสนาเหล่า หากไม่คิดจะเรียนรู้แล้วทำตามคำสอนของท่าน
เมื่อพระองค์เตือนไว้ดังนั้น เราก็ควรเชื่อท่าน ท่านเป็นผู้บัญญัติไว้ ครูอาจารย์เรามาที่หลังเป็นเพียงนักเรียนเหมือนเราท่าน ย่อมมีผิดพลาดได้ แต่คำสอนของพระองค์ย่อมไม่มีผิด นอกจากคุณจะคิดว่าผู้แปลๆ ผิดหรือ ทั้งที่พระไตรปิฎกไทย เป็นที่ยอมรับของผู้ที่ศึกษาพระไตรปิฎกฉบับต่างๆ ในโลกนี้ว่า เป็นฉบับที่ละเอียดตรงไม่ผิดเพี้ยน เหมือนฉบับภาษาอื่น
ก็อยู่ที่ว่าใครจะเลี่ยงบาลีหรือไม่ ก็พิจารณาเอา จะเลือกเชื่อพระไตรปิฎกหรือไม่ ทางที่ดี ไม่แน่ใจ ไม่ควรเชื่อใคร หากเพียงไปหาอ่านศึกษาเอาตามเล่ม และหน้าที่ผมได้โพสต์ลงในนี้ไว้แล้ว ท่านก็จะเห็นเองว่าผมเอากิเลสตีความ หรือเอาธรรมนำกิเลสตน..
ผู้ใดจะถูกใจหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าความจริง เพราะคุณหรือโทษที่จะมีจะเกิดขึ้นนั้น ย่อมเกิดขึ้นกับเราท่านเอง ผมก็ยังยืนยันตามสิ่งที่พระองค์สอนไว้ ส่วนท่านทั้งหลายจะเลือกเดินทางใด ย่อมเลือกเองได้ แต่อย่าตามใจกิเลสตนให้พาทำผิดไปจากคำสอนของพระพุทธองค์ ความเจริญย่อมมีแก่เราท่านเองนะครับ โปรดพิจารณา

 

อนุโมทนา เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ครับ

 

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ให้สวดมนต์ไม่ถูก และไม่ต้องรู้ความหมาย นะครับ
ถ้าสวดมนต์ได้ถูกต้อง และรู้ความหมายด้วย จะดีมาก.(ผมเห็นด้วยในประเด็นนี้)

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ผู้เริ่มเข้ามาปฏิบัติ ไม่ใช่ว่าจะต้องรู้และถูกต้องหมดเสียเลยทีเดียว
ต้องค่อยๆเรียนรู้ไป ศึกษาไป และเชื่อว่าไม่ได้เป็นบาปกรรมตามที่ว่าหรอกครับ ...

จิตใจที่เป็นกุศล มีศรัทธา เชื่อมั่นในพระรัตนไตร จะเป็นบาปเป็นกรรมได้อย่างไร...ครับ.

 

อ่านแล้วรู้สึกเครียดค่ะ