เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

มีอีกเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟัง
สองวันก่อน มีน้องที่ป่วยด้วยโรคทาลัสซีเมีย โทรมาคุย
เค้าบอกว่าหมอ แนะนำให้เค้าเป็นอาสาสมัครไปทำการทดลอง ปลูกถ่ายไขกระดูกใหม่ที่ฝรั่งเศส
เค้าตัดสินใจไม่ถูก ว่าควรจะไปดีไหม การทดลองมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง

เดรดไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีความรู้ เดรดได้แค่ถามกลับไปว่า
เค้าเชื่ออย่างไร เค้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนที่ไปแล้วจะหาย
คำตอบอยู่ตรงนั้น...

เดรดเอาเรื่องนี้ไปคุยกับพี่นักเขียน พี่เล่าให้ฟังว่า
เมื่อก่อนไม่เคยรับรู้หรือเกี่ยวข้องกับคนเป็นโรคนี้เลย แต่พอมาคุยกับเดรด
(คือ เคยคุยเรื่องน้องคนนี้ มาก่อนหน้านี้ ระยะหนึ่งแล้ว)
พี่นักเขียนบอกว่า พี่เค้ากลับรับรู้ เกี่ยวข้องกับคนเป็นโรคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

พี่นักเขียนเล่าให้ฟังว่า...
มีสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เป็นโรคนี้ เค้าค่อนข้างมีฐานะ เค้ารับรู้ว่าเป็นโรค
แต่เค้ามีความเชื่อว่า เค้ามีความสุขได้ สองคนนี้ เที่ยวกันสุดๆ
ไปเดินป่า ปีนเขา ขับรถบิ๊กฟุตใหญ่ตลุยกัน...ฯลฯ
ไม่เคยเชื่อว่า ร่างกายอ่อนแอ และต้องยอมรับสภาพที่เป็น

หมอให้ความเชื่อเค้าทั้งสองได้แค่ว่าเค้าป่วย เป็นโรคนี้จริง และห้ามมีบุตร เค้ารับรู้ตามนั้น
แต่เค้าเลือกความเชื่อที่จะ มีความสุข สนุกสนาน ความป่วยไม่ได้มาเป็นอุปสรรคใด
เค้าใช้ชีวิตอย่างคนแข็งแรงบางคนอาจสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ อาการก็ไม่ได้กำเริบเสิบสานอีกด้วย

แม้หมอจะตรวจกี่ครั้ง ก็ยังพบเจอโรคนี้อยู่ เค้าก็ไม่ได้โต้แย้งใด เค้าก็เชื่อ
แต่หมอก็ไม่สามารถครอบงำความเชื่อในการใช้ชีวิตของเค้าได้

พี่นักเขียนบอกว่า เราเลือกได้ที่จะเป็นอย่างไร เราเชื่ออย่างไร เราก็เป็นอย่างนั้น
ความรู้สึกและอารมณ์ จะบอกได้ว่า อะไรควรทำและไม่ควรทำ

เมื่อใดที่เรารู้สึกว่ามันดี มีความสุข การกระทำทั้งหมดทั้งสิ้น ก็ต้องดี และมีความสุขแน่นอน
แต่ถ้ามันรู้สึกไม่ดีตั้งแต่แรก แล้วเราตัดสินใจด้วยเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ ว่าต้องทำ...เพราะ????
แม้...เหตุผลมันจะสมควรมากมายเท่าใด ผลที่ออกมาย่อมไม่ดีแน่นอน

 

ยินดีด้วยค่ะ กับทั้งสองท่าน สำหรับการค้นพบครั้งสำคัญ...
ความแปลก และไม่แปลก ต่างก็เป็นขั้วสองฝั่งในสิ่งเดียวกัน
ขั้วทั้งสอง ต่างวนมาบรรจบกัน ยักย้ายถ่ายเทไปมา

หากขาดขั้วใดขั้วหนึ่ง
มันก็จะไม่มีอะไรเลย เหลือเพียง มันเป็นเช่นนั้นนั่นเอง

 

อนุโมทนากับทุกๆข้อความนะครับเพื่อนๆ เป็นข้อความที่มีประโยชน์ทุกๆข้อความเลย
ทั้งการทำเลสิค ทั้งวิธีการจดจ่อ ทั้งความรู้จากความฝัน จากประสาทสัมผัสภายใน
และความรักที่ไร้เงื่อนไข

งานโคตะระยุ่งเลยช่วงนี้ ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาเท่าไร แต่ต้องตามอ่านทุกๆข้อความ เหมือนติดตามดูหนังหลายๆ scene เลย อิอิ ;aa57

ได้รับข้อมูลเมื่อคืน ผ่านความฝัน

ฝันว่าไปสวมความรู้สึกเด็กผู้ชายคนนึง กำลังวาดรูปส่งอาจารย์ ครั้งแรกวาดรูปหลักเสร็จแล้ว แต่รูปประกอบอีกรูปนึง วาดผิดสเกลไปหน่อย จะวาดรูปเด็กผู้ชายยืนมองดูดวงดาว ขนาดเล็ก แต่วาดไปวาดมา ใหญ่กว่ารูปหลักซะอีก เค้าเลยรู้สึกว่า รูปนี้คงส่งให้อาจารย์ไม่ได้

เลยคิดจะวาดภาพใหม่ โดยจะวาดรูป michael jackson ใส่ชุดขาว มือจับหมวก และมีวงดนตรี เล่นอยู่บนตัว mj

แต่กระดาษดันหมดซะนี่

เลยไปขอกระดาษจากเพื่อน เพื่อจะวาด สิ่งที่เค้าคิด เค้าเห็น
จนแล้วจนรอด กระดาษก็หาไม่ได้ซักที

พอถึงกำหนดจะต้องส่งแล้ว อาจารย์ทั้งสองก็มาตามที่บ้าน
เพื่อนก็เลยแอบส่งข้อสอบให้ไปก่อน

เด็กคนนี้เลยถามว่า ส่งรูปอะไรไปให้

เพื่อนไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้ม

(ไม่แปลครับ ฝันอาจจะดูสัญลักษณ์ภายนอกไม่เหมือนกันครับคุณจินต์ แต่ความหมายที่ซ่อนอยู่เหมือนกัน อิอิ..)

ว่าแต่โรงเรียนโนวาอนาลัยนี้ ส่วนใหญ่เป็นลูกครึ่งไทย-จีน รึเปล่า ;aa26 อิอิ..

ฝันอีกตอนนึง

ฝันว่าพูดคุยกับตัวตนภายในอยู่ เค้าบอกว่า เค้าให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับพวกเรามาหมดแล้ว เราสามารถสร้างทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตขึ้นมาได้หมด เหมือนที่เค้าสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมา เพียงแต่เราไม่เคยเชื่อมั่นอย่างหมดใจว่า เราทั้งหลายต่างเป็นตัวแทนที่รับมอบอำนาจทุกอย่างมา

แล้วก็ชี้ให้ดูความคิด ที่มีความเร็วไม่เท่ากัน

ทั้งสองความคิดนี้ เป็นแค่ความแตกต่าง เพื่อให้เห็นว่าอีกสิ่งหนึ่งเป็นอย่างไร ได้อย่างชัดเจน

หากความเร็วทั้งคู่มันเท่ากันแล้ว เราก็จะเห็นว่า ไม่มีความแตกต่างระหว่างสองความคิดนี้เลย

ประโยคแรกพอเข้าใจครับ ส่วนประโยคสองยังก่งก๊งอยู่ [Embarrass

 

เมื่อปราศจากความแตกต่าง
เมือปราศจากการแบ่งแยก

แล้วมันจะเหลืออะไร ให้เปรียบเทียบ อะท่าน
...หูยยย กรอกหูข้าพเจ้าอยู่ทู้กเมื่อเชื่อวัน

ท่าทาง งานจะยุ่งจริงแฮะ...rabbit_scary

 

กำลังคิดถึงคุณเดรด คุณเซลล์ อยู่พอดี
ท่าทางงานจะยุ่งทั้งคู่ แต่บทจะมา ก็ (จูงมือ) มาพร้อมกันเลยนะครับ อิอิ

เอาภาพแปลกๆที่ไม่แปลกมาให้ชมกันเพลินๆครับ










ไม่อยากเชื่อเลย...อิอิ

 

หัวหน้าชมรม หารูปแปลกๆ และไม่น่าเชื่อมาให้ดูอีกแล้ว
โดยเฉพาะรูปสุดท้าย เสียวแทนเลย อิอิ...

คิดถึงเพื่อนๆทุกคนเสมอครับ กว่าจะเข้าเน็ทได้ ต้องใช้ความพยายามมาก เพราะเครื่องที่บ้านไม่เอื้ออำนวย+ไม่มีเวลา แต่ก็หาเวลามาอ่านโพสหาความรู้อยู่เสมอๆ

พอดีได้ข้อมูลจากฝันเมื่อคืน เลยต้องหาเวลามาโพส ไม่งั้นอึดอัดตาย อิอิ..

เป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังต่อสู้ กับโรคภัยต่างๆนะครับ

ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมดุลอย่างแน่นอนครับ ผมเชื่อเช่นนั้น

อ่านเรื่องราวคุณเดรด นึกถึงตอนเรียนมหาลัย

อาจารย์ที่สอน ท่านเล่าให้ฟังว่า ไปเรียนต่อดอกเตอร์ที่ต่างประเทศ

และตอนนั้นมีท้องด้วย ด้วยวัยที่เกือบ 40 ก็กังวล กลัวลูกจะไม่แข็งแรง

พอไปฝากครรภ์ หมอที่ตรวจ ได้บอกว่า ลูกของคุณ มีโอกาสสูงมาก ที่จะเกิดออกมาผิดปกติ
และแนะนำให้เอาเด็กออก ให้กลับไปตัดสินใจก่อน

อาจารย์ฟังดังนั้น ก็ใจไม่ดี เครียดมาก กลัวโน่นกลัวนี่สารพัด

ท่านอยากมีลูกมากๆ และสามีก็อยากมีเช่นกัน

ความคิดตีกันว่าจะเอาออก หรือจะเอาไว้ดี

สุดท้ายตัดสินใจไม่เอาออก เพราะได้โทรไปคุยกับพ่อที่เมืองไทย
คุณพ่อของท่าน ถามว่า ในชีวิตนี้ ลูกทำเวรกรรมอะไรมากมายหรือเปล่า ถ้าหากไม่ได้ทำขนาดนั้น แล้วทำไมต้องกังวลว่า ลูกที่กำลังจะเกิดมา ต้องผิดปกติ

อาจารย์บอกว่า เป็นคำพูดปลอบใจ ที่ทำลายความเชื่อทางด้านสถิติ ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ หมดสิ้นเลย

และตัดสินใจที่จะไม่เอาออก

จนลูกเกิดมา ก็แข็งแรงปกติดีทุกอย่าง

เราสร้างทุกอย่างขึ้นมา จากความเชื่อเราโดยแท้

 

ความฝันของเด็กผู้หญิง วัย 7 ขวบ ที่รีบตื่นมาเล่าให้แม่ฟังแต่เช้า เมื่อวันอาทิตย์ที่23 สิงหาคม2552
เห็นมีผู้ชายผอมๆเหมือนเคยเห็นหน้าในรร. แต่ไม่รู้เป็นใคร ผู้ชายคนนั้นเขาฝากกระเป๋าผ้าไว้กับหนู ในนั้นมีอุปกรณ์วาดรูป กล่องสี กล่องดินสอ และสมุดวาดรูป แม่วิ่งไปตามใคร หรือวิ่งไปไหนก็ไม่รู้ หนูจึงบอกแม่ว่า “มีคนฝากอุปกรณ์วาดรูปไว้ “ แม่จึงพูดว่า “เออ ๆ ปล่อยมันไปเหอะ” แล้วก็ตัดภาพไป
เห็นผู้ชายคนนั้นนั่งจีบสาวจีบกันจริงๆนะแม่หนูเห็นชัดเขานั่งอยู่ในรถทัวร์ ติดแอร์ด้วยหนูนั่งเก้าอี้แถวเดียวกับเขา ผู้ชายนั่งริมหน้าต่าง ส่วนผู้หญิงนั่งริมทางเดิน เก้าอี้มันขวางอยู่ บางทีเหมือนมองไม่ชัด แต่เห็นว่า จีบกันแน่ๆ หนูรู้ หนูว่ามันเกะกะ หนูจึงตัดสินใจขว้างกระเป๋าผ้าที่ผู้ชายคนนั้นฝากไว้ แล้วก็ตัดภาพไป อีกครั้งนึง
เห็นมีผู้หญิงอยู่ในร้านรองเท้าของผู้ชายที่ฝากถุงผ้าใส่อุปกรณ์วาดรูปไว้กับหนู เขาอยู่กับผู้ชายคนนี้อีกเหมือนกัน(ชายคนเดียวในฝันคนนี้เป็นเจ้าของร้านรองเท้า) หนูเห็นผู้หญิงท้องเดินข้ามไปอีกฝั่งนึง (คนนี้ก็เป็นแฟนอีกคนของเจ้าของร้านรองเท้า)ตอนเขาเดินข้ามฝั่งหนูต้องหลบเขาด้วยเพราะเดินสวนกัน แต่ใจหนูก็คิดว่า คนท้องเขาจะข้ามฝั่งไปทำไม ? จริงๆแล้วมันมีช่องว่างที่สามารถกระโดดข้ามไปได้ แต่หนูก็สงสัยอีกนะแม่เรื่องคนท้องมีเก้าอี้โต๊ะวางขวางทางอยู่ แล้วเขาเดินข้ามไปได้ไง
อิอิ พอเล่าจบลูกสาวบอกว่า ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้นะแม่โอโห มีผู้หญิงอยู่ด้วยตลอด 55555 ;k04

 

อือ...คุณ mead รูปสวยดี แปลกดี
แต่...รูปพวกนี้ของจริงทั้งหมดเลยเหรอคะ ฉงฉัย สองรูปหลัง...???


เนี่ย!!!... ติดตรรกะ อีกแระ
พี่นักเขียนสอนนักสอนหนา ให้ใช้แค่อารมณ์ ความรู้สึก
มันอดไม่ได้ทู้กที....จริงๆเล้ย
catt7<<<-----ไม่มีไรค่ะ มันน่ารักดี ตัวใหม่ ตัวใหม่ ..อิอิ

น้องนันทา เก่งจัง จำความฝันได้ขนาดนี้
ฝึกดีๆค่ะ...รุ่งแน่นอน คอนเฟิร์ม
เอ...หรือเพราะ มีคุณแม่เก่ง ๆ อย่าง คุณหงบ...

ขออีกที น่ารักชะมัด----->>>catt7

 

catt7 อืม.. น่ารักจริงๆด้วย เรานี่ใจตรงกันตลอด อืม... น้องเขาเล่าความฝันของเขามานานแล้วค่ะ แต่ไม่เคยเปิดเผยที่สาธารณะ แต่ก็รู้สึกฝันนี้เขากระตือรือล้นที่จะเล่ามากเป็นพิเศษแถมมีออกความคิดเห็นด้วย แต่อย่างว่า ประมาทความคิดของเด็กไม่ได้เลยนะค่ะ ขอบคุณ คุณเดรด และเพื่อนๆ ที่ให้ความสนใจกับฝันของเด็กๆ .....ฮะแฮ้ม!
ขออีกรอบcatt7 น่ารักจริงๆด้วย

 

ตัวการ์ตูนใหม่นั่นน่าร๊ากดีนะครับ
เมื่อคืนเพิ่งได้ดูหนังเรื่อง "เดชคัมภีร์เทวดาภาค 2" จบไปอีกเรื่องนึง
ถือกันว่าเป็นหนังต้นแบบให้กับหนังจีนยุคใหม่ๆนี้เลยนะครับ

เรื่องนี้เค้าดัดแปลงบทมาจากหนังเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร ที่ฉีเคอะเปลื่ยนบทและเดินเรื่องใหม่ให้น่าติดตามและออกแนวแฟนตาซีขึ้น โดยมี Jet li เล่นเป็น เหล่งหูชง ผู้ที่เบื่อหน่ายการแก่งแย่งฆ่าแกงกันในยุทธจักร ตัดสินใจที่จะถอนตัวไปใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข แต่มันไม่ง่ายอย่างที่พวกเค้าคาดคิด ไม่ว่าจะพยายามหนี และหลบเลี่ยงต่อความขัดแย้งไปไกลแค่ไหน ความยุ่งยากแห่งการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจก็จะตามล่าหาเค้าจนเจอ

รวมถึง "ตงฟางปุกป้าย" ผู้ยอมเสียอวัยวะชิ้นสำคัญเพื่อสุดยอดวิชา (จากชายกลายเป็นหญิง) จนขึ้นมายืนอยู่บนจุดสูงสุดของผู้ฝึกยุทธทั่วแผ่นดิน ที่รับบทโดย หลินชิงเสีย

ความยุ่งยากในชีวิตของ เหล่งหูชง นั้นเกี่ยวข้องกับความดี-ความเลว ที่ไม่สามารถตัดสินตีความได้ง่ายดายเหมือนตัวอักษร อาจารย์ที่เลี้ยงดูกลับกลายเป็นผู้จ้องเอาชีวิต กับเหตุการณ์ศึกแห่งพรรคสุริยะจันทรา เหล่งหูชง ต้องเผชิญกับข้อเท็จจริงที่ว่า “สหาย” ที่เขาให้ความรู้สึกดีด้วย และอาจรวมถึงหญิงที่เขารัก ซึ่งก็กลายเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง จอมมารผู้ชั่วร้าย ความรักและความแค้นที่ไม่อาจรอมชอม นั้นกลับมาซ้อนทับเข้าด้วยกัน เป็นจุดที่ดัดสินใจได้ยากยิ่ง

เดชคัมภีร์เทวดาสอง ไม่ได้พูดถึงเฉพาะความคลุมครือของเส้นแบ่งระหว่างความดีความเลว เท่านั้น แต่รวมไปถึงเส้นแบ่งระหว่าง ความผิดบาป และความถูกต้อง ความสัมพันธ์ของเหล่งหูชง กับตงฟางปุกป้าย ที่เกิดขึ้นแล้วกลายเป็นความอับอาย ความเสื่อมเสีย แต่ในใจของทั้งสองนี้เป็นความสัมพันธ์ที่ออกมาจากใจ เหล่งหูชง กลับหวั่นไหวต่อความผิดบาปที่เกิดขึ้นและก็หนีไม่พ้น ท้ายที่สุด เหล่งหูชง เองที่ใช้ทั้งชีวิตเพื่อพยายามทำลายเส้นแบ่งเหล่านี้ ก็หนีไม่พ้นเรื่องวุ่นวายเหล่านี้อยู่ดี...


[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.680926/[/MUSIC]

เคยได้ยินชื่อเสียงเรื่องนี้มานานก็เพิ่งจะได้ดูนี่ล่ะครับ
ใครที่ชอบหนังจีนคงได้ข้อคิดอะไรดีๆจากหนังหรือละครไม่ใช่น้อย
โดยเฉพาะหลี่เหลียงเซลล์ กะ หลินชิงเดรด เหตุการณ์บุ้ลิ้มจะสงบได้หรือไม่ต้องฝากคุณสงบมาระงับด้วยอีกแรง (อิอิ)
และก็มีบทเพลงเย้ยยุทธจักรที่น่าฟังและหายากเอามาฝากอีกเพลงด้วยครับ...
ที่แรกจะทำ MV แต่เวลาไม่อำนวยเท่าไหร่

 

ขอบคุณข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆของคุณเดรดค่ะ
เรื่องความเชื่อของคนนี่มันมีกำลังมากมายมหาศาลเลยนะค่ะ ตอนลูกสาวอายุ 4 เดือนก็ตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจ (55 อีกเรื่องที่ช๊อคความรู้สึกได้อีกครั้ง) ก็บอกแล้วไงผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะ!
อืม.... จากนั้นเป็นต้นมากำลังใจแห่งการต่อสู้ก็เกิดขึ้น เป็นอีกบทการเรียนรู้ ที่ทำให้เรารู้ว่า เราจะแพ้ไม่ได้ เราได้เรียนรู้ ได้ทดลอง สิ่งที่เป็นเดิมพันสิ่งเดียวคือลูก 5 ปีผ่านมาเราชนะ นั่นคือชัยชนะ ที่ยิ่งใหญ่ ที่เราต้องต่อสู้ร่วมกันมา เราไม่เคยท้อ กำลังใจเต็มเปี่ยม มาจากทุกทาง พร้อมๆกับบททดสอบอีกหลายๆด่าน ที่เราต้องฝ่าฟันมันมาให้ได้ ขอบคุณ โรคภัย และอุปสรรคนาๆชนิดที่ทำให้เราเข้มแข็ง และได้ค้นพบวิธีการที่จะต่อสู้กับมัน อย่างมีความหวัง
ขอให้ทุกท่านต่อสู้อย่างมีความหวัง อิอิ ฝากจุ๊บคุณเดรด จุ๊บๆ
;aa40
รอฟังเพลงจากหัวหน้า mead กันค่ะ อิอิ
รอ ร้อ รอ

 

อาจจะเป็นได้ว่านักเรียนที่กำลังเรียนศาสตร์นี้อยู่ส่วนมากจะอยู่ที่จีน และ ไทยกระมังจ๊ะ

เมื่อวันก่อนก็ฝันว่าต้องวาดภาพส่งอาจารย์เหมือนกัน ปรากฏภาพแรกที่วาดเสร็จเกิดเหตุอันใดไม่ทราบเลยไม่เอาแต่ได้ร่างไว้เรียบร้อยแล้วเป็นภาพใหญ่เกินกรอบวาดรูปเสียอีกฮ่า ๆ ตอนหลังมีอาจารย์มาทวงภาพ คิดยังไงไม่รู้ เลยไปเอาภาพเดิมที่วาดไว้เรียบร้อยแล้วภาพนั้นมาส่งโดยลงสี แต่สีที่เอามาลงเป็นสีดำอมน้ำเงิน การแต่งแต้มสีเป็นไปอย่างเชี่ยวชาญราวศิลปิน ก็งงตัวเองในขณะนั้นใยคล่องขนาดนี้ จนไปถึงตอนสุดท้ายของภาพ แต่งยังไงก็ไม่เสร็จสักทีเพราะ ระบายสีไม่ติด ตัวการ์ตูนที่อยู่ในภาพ มันวิ่งไล่กันออกนอกกรอบไปหมดเลย

หลังจากอ่านข้อความเพื่อน ๆ มากมาย ก็เกิดความเข้าใจเป็นตัวรู้ที่อยู่ในใจ และก็คิดถึงความฝันที่ผ่านมาช่วงที่เป็นจินตภาพ คือมีแต่ความรู้สึกแต่มองไม่เห็นภาพใด ๆ เป็นช่วงเหมือนการฟังใครบางคนมาสอนมีเลคเชอร์ให้ฟังแต่ไม่สามารถจะแปลเป็นคำพูดได้ แต่ขณะนั้นคือเกิดความเข้าใจขึ้นมาแล้ว เคยคุยกับพี่นักเขียนซึ่งท่านบอกว่าฝันช่วงเวลาเป็นจินตภาพอย่างนี้มักจะตีออกมาเล่าเป็นเรื่องไม่ได้ เพราะไม่มีภาพแต่มันเป็นความรู้สึกความเข้าใจ เมื่อเกิดเหตุการณ์หนึ่ง ๆ ขึ้นมา เราจะระลึกได้เองว่าเราเคยทำความเข้าใจ หรือเรียนรู้เรื่องราวนี้มาก่อนแล้ว เหตุการณ์ในครั้งนี้ที่เพื่อน ๆนำมาโพสต์กัน ไม่ว่าจะเป็นคุณมี้ด คุณเซลล์ คุณเดรค คุณสงบ จินตวดีเลยรู้สึกคุ้นเคยทั้งนั้น

ความฝันเมื่อคืน

ฝันว่าเรากับเพื่อนรักสามคน (ผู้หญิงล้วน) ได้ไปทำงานให้กับสถานที่หนึ่งซึ่งดูไม่มีใครเลยนอกจากเราสามคน เรารู้สึกเงียบเหงามาก ต่อมา นายจ้างได้รับคนเข้ามาอีกสองคน ปรากฏว่าสองคนนั้นเป็นเพื่อนรักเรามากอีกเช่นกัน เราร่วมกันพูดคุยกัน สักพักนายเข้ามาบอกว่า จะมีการประชุมพนักงานทั้งหมด ให้ไปรวมกันที่ห้องประชุม เมื่อไปถึงแทนที่จะมีเราแค่ห้าคนอย่างที่คิดไว้ กลับเต็มไปด้วยผู้คนหลายร้อย นับพันคนได้เต็มไปหมด ทั้งไทยและเทศ ที่คิดว่าโดดเดี่ยวจริง ๆ ไม่ใช่ก็รุ้สึกสนุกมาก

ตอนตื่นขึ้นช่วงแรก จำไม่ได้ว่าฝันอะไร แต่สักพักปรากฏภาพเหมือนเป็นภาพถ่ายของผู้หญิงห้าคน (ถ่ายกันแบบเก๊กระเบิด) ปรากฏขึ้นแว้บหนึ่งที่จักระที่หก ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนนอนได้ตั้งจิตขอนำกล้องถ่ายรูปไปด้วย และขออธิษฐานให้ถ่ายภาพที่ชัดเจนที่สุดที่จะช่วยให้เราระลึกถึงความฝันต่อไปได้เมื่อเห็นภาพนั้น

ไม่น่าเชื่อรูปใบนั้นแปะกลางหน้าผากเราแต่เช้าเลย พร้อมภาพน้ำจำนวนมาก เราไม่คิดถึงอะไร เราคิดถึงแต่ ลิตเติ้ลดั๊กท่าเดียว แสดงว่ามีสารจากลิตเติ้ลดั๊กอีกแล้ว ประสาทภายในไม่เคยทำงานผิดพลาดจริง ๆ

ป.ล. ตอนได้รับภาพน้ำอันหมายถึงลิตเติ้ลดั๊ก ไหงมีภาพ การโหลดไฟล์เหมือนคอมพิวเตอร์ปรากฏขึ้นที่จักระที่หกด้วย พร้อมเวอร์ชั่นภาษาไทย "เห็นชัดไหม" เรามาทำหน้าที่ภายใต้ท้องฟ้า และดวงดาว แต่ทางเลือกของเราย่อมขึ้นอยู่กับเรา เขารู้ดี เพราะเราอยู่ภายใต้กฏแห่งจักรวาลเดียวกัน

 

รบกวนเพื่อน ๆ สักคนช่วยโหลดไฟล์เสียงเพลง color of the wind มาแปะที่ห้องนี้ทีค่ะ ความหมายดีจัง

 

[] ฟังเรื่องที่คุณเซลล์เล่ามาก็ทำให้นึกถึงเพื่อนอยู่คนนึงครับ
เค้าเป็นคุณแม่ที่มีลูกชายอายุ 3 ขวบ มีลูกคนนี้ตอนอายุเยอะแล้ว
ก็พึ่งมารู้ทีหลังจากการทดสอบของคุณหมอว่า..หูเค้าไม่ได้ยินเสียงทั้งสองข้าง
หมอก็แนะนำว่า ต้องใช้เงินผ่าตัดถึง ล้านบาทเศษ เพื่อการฝังอุปกรณ์พิเศษเพื่อช่วยให้ได้ยินเสียง
เมื่อเหลียวไปหาญาติผู้ใหญ่ที่บ้านท่านก็บอกว่าถ้าขาดเหลือก็จะช่วยทีหลัง..
เค้าจึงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มาก สงสารลูกร้องไห้เสียใจมากถึงขั้นที่คิดเตรียมปืนไว้ใต้หมอน คิดจะยิงตัวเองและครอบครัวให้จบไปตรงนั้น

จนวันนึงเมื่อได้มาคุยกันและพยายามแนะนำเค้าว่า เด็กคนนี้ถึงจะไม่ได้ยินเสียงก็ไม่ได้หมายความว่า เค้าจะเป็นเด็กพิการสักหน่อย แต่เค้าเป็นเด็กพิเศษจากฟ้าสีครามที่อาจมีหน้าที่สำคัญที่เราอาจนึกไม่ถึงก็ได้ ดูเด็กคนนี้ฉลาดและมีบางอย่างที่ไม่เหมือนใครด้วย..เค้าอาจมีการสื่อสารข้อมูลทางโทรจิตจากจักรวาลก็ได้..เพราะเมื่อวาดรูปอะไรก็ตาม เค้าจะสนใจและชี้ไปที่ จานบินและมนุษย์ต่างดาวเป็นพิเศษทุกครั้งเลย ..บางทีก็เอาแผ่น CD มาร่อนเล่น และชอบชี้บนท้องฟ้าบอกให้เรามองตาม...(อันนี้ก็พยายามชี้ให้แม่เค้าเห็นจุดเด่นในตัวเด็กมากว่าสนใจแต่ความพิการทางหู)

"เอดิสัน" เกิดมาก็หูทั้งสองข้างไม่ได้ยินตั้งแต่กำเนิดยังสามารถเป็นนักประดิษฐ์ที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งในโลก
"โมสาร์ท" ก็หูพิการในภายหลัง แต่ก็ยังแต่งเพลงออกมาได้เรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จได้อย่างน่าทึ่ง เป็นเสียงโทนต่ำๆแต่หนักแน่นกว่าตอนหูดีๆด้วยซ้ำ

ก็บอกเค้าว่าอย่าคิดมากให้พยายามพลิกเปลื่ยนความคิดใหม่และหาทางดูแลลูกด้วยความรักให้มากที่สุด เพราะเค้าเลือกที่จะเกิดมาเพื่อขยายประสบการณ์ในส่วนนั้น จะเป็นยังไงก็ตามสู้เราทำใจให้สบายก่อนดีกว่า..

จากการช่วยเหลือและให้กำลังใจวันนั้นจากเพื่อนๆ ชีวิตเค้าก็เปลื่ยนไป...
เค้าเริ่มออกหาเงินรักษาลูกทุกๆวิธี...ช่วยกันส่ง forward Mail วิ่งไปตามมูลนิธิต่างๆและคนรู้จัก จนตอนนี้ก็ยังขาดเงินอีกเพียง 3 แสนบาทจากวันนั้ใช้เวลาสั้นๆเพียง 2 เดือนเศษเท่านั้นเอง เพื่อผ่าตัดติดตั้งอุปกรณ์พิเศษสำหรับการได้ยินเสียงรูปแบบใหม่ที่นักวิทย์ฯเพิ่งคิดค้นได้เมื่อ 4 ปีมานี้เองครับ

เห็นได้ว่าเมื่อความคิดได้เปลี่ยนเป็นบวก การต่อสู้อย่างมีความหวังก็เกิดขึ้นจากกำลังใจและความรักที่มีให้กันเสมอ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกจัดสรรส่งเข้ามาให้ครอบครัวนี้ในทันทีด้วยความรักอันบริสุทธิ์ ที่ชักนำเป้าหมายนั้นเข้าใกล้ยิ่งขึ้น และอุปสรรคทำให้เราเข้มแข็งอย่างที่คุณสงบพูดได้จริงๆ
เชื่อว่าคุณแม่ทั้งหลายย่อมต้องสู้เพื่อคุณลูก(ช่างฝัน) กันอยู่แล้วนะครับ.. []

ไหนๆก็เล่าเรื่องผ่านกระทู้นี้แล้ว ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้เพื่อนด้วยนะครับ

หากพวกเราที่เข้ามาอ่านยินดีและเต็มใจช่วยกันเพื่อ กดปุ่ม Start
ให้เด็กชายตัวเล็กคนนี้ได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่
เปลี่ยนแปลงชะตากรรมให้เด็กชาย Benedict G.Loh อายุ 3ขวบ
ที่หูทั้งสองข้างไม่ได้ยินเสียงมาแต่กำเนิด โดยทางแพทย์จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาในการรักษาอย่างทันทีทันใด เป็นอุปกรณ์หูใส่เพื่อการคำนวณเสียงแบบล่าสุด เพื่อให้เด็กชายเบเนดิกส์สามารถปรับปรุงเขาการรับรู้ได้ดีขึ้นอย่างทันการ
คุณแม่-คุณพ่อ ตอนนี้ทำแทบทุกอย่างเพื่อขอความช่วยเหลือ
และขอพรให้ลูกได้ยินเสียงทุกวี่วันอย่างมีความหวัง
เพียงคนละ 10 บาท หนึ่งแสนท่าน หรือ 100 บาทหนึ่งหมื่นท่าน ช่วยๆกัน
แม้จะต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ก็เป็น"ความหวัง"อีกหนทางหนึ่ง


สามารถบริจาคได้ที่ : ธนาคารไทยพาณิชย์ (แห่งประเทศไทย)
ชื่อบัญชี:จันทนา ธีรสกุลรัตน์ (สำหรับ Benedict G.Loh)
บัญชีเงินฝากสะสม: 023-294673-9

ถ้าจะสอบถามใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ กรุณาติดต่อ:
จันทนา ธีระสกุลรัตน์ (คุณแม่)
โทรศัพท์เคลื่อนที่: 085-9072388
Loh Yoong Shin(คุณพ่อชาวมาเลเชีย)
โทรศัพท์เคลื่อนที่: 083-7103338
email:garylor.agel@yahoo.com

 

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/xbuzskVs6rc&hl=en&fs=1& width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">

ใครก็ได้ช่วยหาเนื้อร้องกับคำแปลมาแปะด้วยครับ
รู้สึกจะเป็นเพลงที่น่าฟังและมีความหมายดีทีเดียวครับ
และก็รอคุณจินต์มาร้องให้ฟังอีกเวอร์ขั่นนึงด้วยนะครับ...
เป็นลูกครื่งไทย-จีน-ผรั่ง กันสักวัน อิอิ
</EMBED>

 

Colours Of The Wind
..............................................​

You think you own whatever land you land on
เราคิดว่าเราครอบครองสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้ย่างกรายไป​

The Earth is just a dead thing you can claim
โลกมันก็นอนสงบนิ่งรอให้เราได้เรียกร้องขอ​

But I know every rock and tree and creature
แต่ว่าเรารู้จักทุกโขดหิน ต้นไม้ทุกต้น และสรรพสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ​

Has a life, has a spirit, has a name
ซึ่งเหล่านี้ ว่ามีชีวิต มี จิตและวิญญาณ มีนามให้เรียกขาน​

You think the only people who are people
ขณะที่ เราคิดถึงเพียงแต่ คน แล้วใครล่ะ คือคน​

Are the people who look and think like you
คนเหล่านั้นคิดและก็มองสรรพสิ่งเหมือนเรา รึ​

But if you walk the footsteps of a stranger
แต่ถ้าหากว่าเราย่างก้าวเท้าออกไปเดินในถิ่นคนแปลกหน้า​

You'll learn things you never knew you never knew
เราก็จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่ เราไม่เคยรู้จัก มาก่อน ๆ​

Have you ever heard the wolf cry to the blue corn moon
เธอเคยได้ยินเสียงหมาป่ามันร้องหอนโหยหวน ใต้พระจันทร์ และ ท้องฟ้ายามค่ำคืนหรือเปล่า​

Or asked the grinning bobcat why he grinned?
หรือว่ามีคำถามไม๊ว่าเจ้าแมวป่าเหตุใดจึงได้แสยะ แยกเขี้ยว​

Can you sing with all the voices of the mountains?
เธอ พร้อมที่จะขับขาน ไปกับสรรพเสียงแห่งขุนเขารึ ​

Can you paint with all the colors of the wind?
เฉกเช่น เธอพร้อมที่จะจรดพู่กันแต่งแต้มทุกสีสันแห่งสายลม​

Can you paint with all the colors of the wind?
,,-----------------------------------------------------------,,​

Come run the hidden pine trails of the forest
จงวิ่งและซ่อนตัวหลบอยู่หลังแนวป่าสนกันเถิด​

Come taste the sunsweet berries of the Earth
มาลองลิ้มรสชาดลผลเบอร์รี่ที่หวานหอมแห่งโลกกันดีกว่า​

Come roll in all the riches all around you
มาร่วมปล้นสะดมเจ้าพวกคนรวย ที่รายล้อมเราอยู่กันเถอะ​

And for once, never wonder what they're worth
และในครั้งหนึ่ง,,,ไม่ต้องฉงนใจเลยว่าพวกเค้านั้นมั่งคังขนาดไหน​

The rainstorm and the river are my brothers
อันพายุฝนและแม่น้ำ คือ พี่น้องของข้า​

The heron and the otter are my friends
เช่น นกกระสา และนากน้ำ เป็นดั่งผองเพื่อน​

And we are all connected to each other
แหละ ผองเพื่อน พี่น้อง เชื่อมสายโยงใยต่อกัน​

In a circle, in a hoop that never ends
เหมือนเส้นวงกลมที่มันไม่เคยสิ้นสุด​

How high will the sycamore grow?
ต้นซินคะมอร์เมเปิ้ลจะสูงทะยานสักเท่าไหร่ ? เธอจะรู้ไม๊?​

If you cut it down, then you'll never know
ถ้าเรา ไป ตัดมันลงเสียก่อน เราก็จะไม่มีวันรู้เลยว่าต้นซินคะมอร์เมเปิ้ลจะสูงสุดได้สักเท่าไหร่​

And you'll never hear the wolf cry to the blue corn moon
นั่นแหละ และ เราก็จะไม่ได้ยินเสียงหมาป่ามันร้องหอนโหยหวน ใต้พระจันทร์ และ ท้องฟ้ายามค่ำคืนเลย​

For whether we are white or copper skinned
ไม่ว่าเราจะสีผิว ขาว หรือ ดำแดง​

We need to sing with all the voices of the mountains
เราอยากที่จะขับขาน ไปกับสรรพเสียงแห่งขุนเขา​

We need to paint with all the colors of the wind
เราอยากจะระบายได้ครบทุกสีแห่งสายลม​

You can own the Earth and still
นี่แหละเธอก็จะเป็นเจ้าครองโลก และ ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป​

All you'll own is Earth until
เธอเป็นผู้ครองโลก ตราบนานเท่านาน​

You can paint with all the colors of the wind
เธอก็จะสามารถแต่งแต้มทุกสีทุกเฉดให้กับสายลม​

..............................................​

 

ส่วนVersion นี้ เป็น Instrumental
จัดให้คุณจินต์ โดยเฉพาะ ร้องมาให้เพื่อนๆกับเดรด ฟังนะคะ

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/Jix-XSJaIk8&hl=en&fs=1& width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">
</EMBED>
มีโปรแกรมอัดยังค่ะ ขอแนะนำ
<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR ondblclick=edit_attachment_name_341781();><TD></TD><TD>JAD6_BASIC.zip (16.10 MB)</TD></TR></TBODY></TABLE>

อย่าลืมไมค์ นะคะ ....ที่เหลือ ปรึกษา คุณ mead ค่ะ
และ ถ้าอยากได้ ระบบการ mix เสียง ขั้นเทพ ติดต่อคุณ meadโดยตรง
เดี๋ยว หัวหน้า จัดห้ายย..(ใคร สนใจร้องมาฟัง กันบ้าง ก็ดีนะคะ สนุกๆ)

ปล.หัวหน้า เรื่อง รูปแทนตัวตงฟางปุป้าย...ฝากไว้ก่อน นะท่านนะ
เดี๋ยวข้าพเจ้า ไปลงโปรแกรม Photoshop ก่อน
พร้อมเมื่อไหร่ก็..เมื่อนั้น...ฮึ่มม!!!

ว่า แต่ว่า Photoshop Cs เนี่ย มันใช้ไงอะ..?? ใช้เป็นแต่ธรรมดา อ่ะ..ฮือออ

 

คุณเดรดแปลเนื้อหาเพลงออกมาใช้ได้เลย แต่มีบางท่อนบางตอนคงต้องรู้ที่มาที่ไปของเพลงนี้ก่อนถึงจะแปลออกมาได้ตรง

เพลงนี้เป็นเพลงประกอบการ์ตูนเรื่องโพคาฮอนตัสของ walt disney เพลงนี้เพราะเหมือนกันครับ คนที่ร้องคือนางเอกของเรื่องที่เป็นอินเดียแดงที่ร้องถึงคนผิวขาวที่มาแย่งดินแดงของพวกอินเดียแดงในสมัยที่เพิ่งค้นพบอเมริกา เดี๋ยวขอแปลบ้างล่ะกันขอแปลจากความเข้าใจของตัวเองนะอาจจะมีความหมายเพี้ยนไปบ้างก็ได้ บางท่อนก็งงๆ อยู่

Colours Of The Wind
..............................................​

You think you own whatever land you land on
คุณคิดว่าคุณเป็นเจ้าของสิ่งต่าง ๆ ในดินแดนที่คุณได้ย่างกรายไป​

The Earth is just a dead thing you can claim
โลกก็เป็นที่แค่สิ่งที่ไม่มีชีวิตที่คุณสามารถเรียกร้องเอาได้​

But I know every rock and tree and creature
แต่ว่าเรารู้จักทุกโขดหิน ต้นไม้ทุกต้น และสรรพสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ​

Has a life, has a spirit, has a name
ว่าสิ่งเหล่านี้มีชีวิต มีจิตและวิญญาณ มีนามให้เรียกขาน​

You think the only people who are people
คุณคิดแค่ว่าคนที่เป็นคน​

Are the people who look and think like you
คนเหล่านั้นต้องคิดและก็มองสรรพสิ่งเหมือนคุณหรือ​

But if you walk the footsteps of a stranger
แต่ถ้าหากว่าคุณออกเดินตามทางคนแปลกหน้า​

You'll learn things you never knew you never knew
คุณก็จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน ๆ​

Have you ever heard the wolf cry to the blue corn moon
คุณเคยได้ยินเสียงหมาป่าร้องหอนโหยหวน ใต้พระจันทร์ และท้องฟ้ายามค่ำคืนหรือเปล่า​

Or asked the grinning bobcat why he grinned?
หรือว่ามีคำถามไหมว่าเจ้าแมวป่าเหตุใดจึงได้แสยะแยกเขี้ยว?​

Can you sing with all the voices of the mountains?
คุณสามารถที่จะขับขานทุกสรรพเสียงแห่งขุนเขาได้หรือเปล่า?​

Can you paint with all the colors of the wind?
คุณสามารถระบายทุกสีสรรของสายลมได้หรือเปล่า?​

Can you paint with all the colors of the wind?
,,-----------------------------------------------------------,,​

Come run the hidden pine trails of the forest
มาวิ่งซ่อนตัวหลบอยู่หลังแนวป่าสนกันเถอะ​

Come taste the sunsweet berries of the Earth
มาลองลิ้มรสชาดลผลเบอร์รี่ที่หวานหอมแห่งโลกกันดีกว่า​

Come roll in all the riches all around you
มาร่วมปล้นสะดมเจ้าพวกคนรวย ที่รายล้อมเราอยู่กันเถอะ​

And for once, never wonder what they're worth
และในครั้งหนึ่ง,,,ไม่เคยแปลกใจเลยว่าพวกมันมีค่าขนาดไหน​

The rainstorm and the river are my brothers
อันพายุฝนและแม่น้ำ คือ พี่น้องของข้า​

The heron and the otter are my friends
เช่น นกกระสา และนากน้ำ เป็นดั่งผองเพื่อน​

And we are all connected to each other
และพวกเราทั้งหมดก็ล้วนเชื่อมโยงถึงกัน​

In a circle, in a hoop that never ends
เหมือนเส้นวงกลมที่มันไม่เคยสิ้นสุด​

How high will the sycamore grow?
ต้นซินคะมอร์เมเปิ้ลจะสูงทะยานสักเท่าไหร่ ? เธอจะรู้ไหม?​

If you cut it down, then you'll never know
ถ้าคุณไปตัดมันลงเสียก่อน คุณก็จะไม่มีวันรู้เลย​

And you'll never hear the wolf cry to the blue corn moon
นั่นแหละและคุณก็จะไม่ได้ยินเสียงหมาป่ามันร้องหอนโหยหวน ใต้พระจันทร์ และ ท้องฟ้ายามค่ำคืนเลย​

For whether we are white or copper skinned
ไม่ว่าเราจะสีผิว ขาว หรือ ดำแดง​

We need to sing with all the voices of the mountains
เราอยากที่จะขับขานไปกับทุกสรรพเสียงแห่งขุนเขา​

We need to paint with all the colors of the wind
เราอยากจะระบายได้ทุกสีสรรแห่งสายลม​

You can own the Earth and still
คุณสามารถครองทั้งโลกได้และก็ยังเป็นอยู่​

All you'll own is Earth until
คุณจะเป็นผู้ครองโลกได้ตราบนานเท่านานได้จนกว่า​

You can paint with all the colors of the wind
คุณสามารถแต่งแต้มทุกสีทุกเฉดสีของสายลม​

..............................................​

 

ขอคารวะ จอมยุทธบู๊ลิ้มทั้งหลาย
โชคดีจริงๆ ที่มีแค่รูปเดียว ไม่งั้นหัวหน้าห้อง มียำเละแน่ๆ อุอุ

ตอนนี้คงเป็นศึกมหากาพย์แน่ครับ
ระหว่าง มี๊ดหูชง vs ตงเดรดปุ๊กป้าย

ใครที่เอารูปเว๊ป ต้องระวังนะครับ มี๊ดหูชง นี่วิทยายุทธไม่ธรรมดา

ถ้าจะให้เลือกบทเอง ขอนั่งดูเฉยๆดีกว่า เลี้ยงหมา เลี้ยงปลา ไปตามประสา อิอิ..

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ไฟอาจจะตก และกระชากได้ ตัว supply ของคอมพ์ จะพังเอาง่ายๆครับ
ทางที่ดี ซื้อตัวสำรองไฟมาติดจะป้องกันได้เยอะเลยครับ

วันนี้เพิ่งยกเครื่องไปทำ เพราะไฟตก
ช่างคอมพ์ แนะนำ และกำชับว่า ต้องไปซื้อตัวป้องกันมา เพราะเค้าก็เป็นเหมือนกัน 555

ฝันในช่วงจินตภาพ ผมว่ามันเหมือนเราดูเทปที่ความเร็วสูงมากๆครับคุณจินต์ จากประสบการณ์ที่สังเกตุดู เราจะจับรูปภาพมาได้บางรูปที่เราพอเข้าใจมาได้

เทปดังกล่าว ก็เหมือนบทละคร ที่ต้องแสดงไป

คิดดูแค่ว่า วันต่อมา เราโลดแล่นในชีวิตประจำวัน เราต้องเจอบทอะไรบ้าง ข้อมูลจะมาล่วงหน้าอยู่แล้ว หากเราจับภาพได้ เราก็จะรู้สึกว่า เราเคยเจอมาแล้ว

เมื่อคืนมีตอนนึงฝันว่า ไปคลีนิค จะไปรักษาอาการปวดแข้งปวดขา และก็พาแมวไปรักษา
หมอถามว่ามีประกันสังคมมั๊ย ยังไม่ทันตอบอะไร หมอยื่นเงินมาให้ 684 บาท ก็เก็บใส่กระเป๋าเสื้อไว้ หมอบอกว่า นี่เป็นเงินช่วยเหลือ ที่รักษาอาการปวดขา และก็หยิบมาให้อีก 4000 กว่าบาท หมอบอกว่า นี่เป็นเงินช่วยเหลือค่ารักษาแมว แต่จะรักษาได้ ต้องเอาแมวไปเซ็นรับรองที่อนามัยก่อน และค่อยพามาคลีนิค

ในฝันรู้สึกว่า ยังไม่อยากใช้เงิน เพราะเดี๋ยวน่าจะมีเอาคืน จะรอให้ชัวร์ก่อน

และเห็นสัญลักษณ์ ใบไม้ ที่ร่วงมาจากต้นไม้ เป็นภาพจำลองจากคอมพิวเตอร์ ความละเอียดสูง รวมถึงผู้คนเต้น และยกขา กันอย่างสนุกสนาน ฯลฯ แต่จับภาพมาได้แค่ 2 ภาพ

ตื่นมา ไฟตก คอมพ์เสีย มีคนมาขอรับบริจาคที่บ้าน พอยกคอมพ์ไปซ่อม มีป้ามาขายขนมให้ และขอให้ช่วยซื้อหน่อย ก็ซื้อคุณป้าเค้ามา คอมพ์ซ่อมเสร็จแล้ว กลับมาบ้าน อินเทอร์เน็ตล่ม

เงินที่ได้มาในฝันเมื่อคืน ได้ใช้ปรนนิบัติหมดแล้วคร๊าบ อิอิ

ความหมายในฝัน กับยามตื่น มันมีความหมายรองรับอยู่ตรงที่
เงินที่ได้มา แทนเงินที่เราบริจาค กับช่วยป้าซื้อขนม
ป้าที่เดินมาขายขนมให้นั้น เหมือนเทพยดา ที่มาช่วยยังไงยังงั้น คอมพ์ที่มีลักษณะว่า อาจต้องประกอบเครื่องใหม่ เพราะเมนบอร์ดชำรุดไปแล้ว
พอไปซ่อม ช่างคนเดิมที่เคยบอกว่า เมนบอร์ดบวม ครั้งหน้าถ้าเป็นอีก คงต้องประกอบใหม่
เค้าบอกว่า เป็นแค่ตัว bios ตัวเดียว เค้าแค่เขี่ยให้เข้าที่ก็เสร็จแล้ว อย่างอื่นไม่มีปัญหา
แต่เค้ากำชับว่า ให้ไปซื้อตัวสำรองไฟมา ใช้ 2 เครื่อง ก็ประมาณ 4000 กว่าบาท

คุณป้า กับ ชายที่ขอรับบริจาค ก็เหมือนกับตัวช่วยให้ไม่ต้องเสียสตางค์เยอะ
เพราะเค้าได้นำเงินมาให้ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว บอกว่า เป็นเงินช่วยเหลือ
ส่วนอนามัย ที่รับรอง ก็ต้องดูว่า เมื่อเจอเหตุการณ์นี้ เราจะตัดสินใจยังไง
ทั้งๆที่ขนมซื้อมาเราก็ไม่ได้ชอบ ชายที่มาขอบริจาค ก็ไม่รู้ว่า เค้าเป็นมูลนิธิจริงหรือไม่

ทุกสิ่งทุกอย่าง จึงไม่เคยมีความบังเอิญ

เมื่อเจอเหตุการณ์อะไร อยู่ที่เราจะมองโลกยังไง เรามองอย่างไร ก็เท่ากับว่า เราตัดสินใจที่จะเล่นบทอะไร

รู้สึกชื่นชมจากใจจริง ถึงความเป็นแม่ของคุณหงบ และก็ความเป็นแม่ในหัวใจเพื่อนคุณ mead ด้วยนะครับ

จะโพสเพลง ก็ทำไม่เป็น ถ้า dj ทั้งหลายจะกรุณา
ขอเพลงจับมือไว้ ของเบิร์ด และก็เพลง เพียงแค่ใจเรารักกัน ของวิยะดา ได้มั๊ยเอ่ย

 

ในหนังสือระบุออกมาว่าความฝันแบ่งเป็นสามรูปแบบ
แบบแรกคือ ฝันที่เป็นกายภาพ คือมีลักษณะปรากฏเป็นภาพภายใต้กรอบของสัญลักษณ์ที่มีอยู่ในธนาคารความทรงจำทุกชาติภพ ทุกมิติรวมกัน

แบบที่สอง นั้นจะเป็นแบบ จินตภาพ คือไม่มีภาพปรากฏให้เห็น มีแต่ความรู้สึกอย่างเดียว ถ้าเป็นในรูปของภาพปรากฏแม้จะเร็ว น่าจะเป็นฝันแบบแรกมากกว่าค่ะ อย่างไรรบกวนคุณเซลล์อ่านในเล่มความฝันอีกทีหนึ่งแล้วช่วยมาบอกพี่จินต์ด้วยนะคะ

แบบที่สาม อันนี้จะเป็นการท่องเที่ยวไปในโลกหลากมิติ อันนี้จะไม่ปรากฏทั้งภาพและความรู้สึก

แต่การฝันแบบนี้จะบังเกิดด้วยการไล่เลียงกันไปโดยลำดับ โดยจะเป็นฝันที่เป็นกายภาพคือปรากฏภายใต้สัญลักษณ์ก่อน แล้วจึงเป็นจินตภาพ แล้วจึงเป็นอย่างสุดท้าย ( จำชื่อไม่ได้) แล้วจึงกลับมาเป็นจินตภาพ แล้วกายภาพ เรียงกันไปโดยไม่สามารถข้ามขั้นตอนได้ตามกฏ

พูดถึง เอ.เจ. (ต่อ)

เมื่อคืนจินตวดีทำสมาธิเสร็จ (คร่าว ๆ) กำลังจะนอน แต่ปรากฏภาพของเอ.เจ.เข้ามา จึงคิดได้ว่าน้องต้องมีอะไรบางอย่างบอกเรา เมื่อตื่นตอนเช้าได้มาพบกันทีทำงานก็ได้รับข่าวจริง ๆ น้องเล่าให้ฟังว่า ในขณะที่กำลังนอนกลางวัน น้องไม่ได้หลับแต่เป็นภาวะที่จินตวดีเรียกว่า "ภาวะกายหลับจิตตื่น ภาวะของญาณสี่" น้องได้ยินเสียงผู้คนมากมายร้องด้วยความตกใจ เสียงกรีดร้องโหยหวน เสียงไซเรนของรถดังก้องหูไปหมด น้องเอ.เจ.ตกใจ พร้อมลืมตาขึ้นมา เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า เขาไม่ได้หลับฝัน ถึงกระนั้นเสียงกรีดร้องของฝูงชนมากมายและเสียงไซเรนรถ ยังดังก้องหูต่อไป ในใจบอกขึ้นมาว่า เป็นเหตุการณ์ที่ผู้คนมากมายอยู่ในเหตุการณ์ น้องจำไว้แต่ไม่รู้วันที่ หลังทำใจน้องนอนต่อ และได้ฝ้นไปว่า ได้ไปทำข้อสอบกับอาจารย์ต่อ เป็นข้อสอบเกี่ยวกับวิชา ชีวภาพ น้องบอกว่าในข้อสอบมีรูปภาพสัตว์ชนิดต่าง ๆ เต็มไปหมด น้องเขียนไปแล้วครึ่งเล่มแต่ได้พับหน้าสุดท้ายเอาไว้ เพราะคิดว่าสมุดเล่มเล็กที่เอาไว้เขียนคำตอบคงไม่พอ ว่าจะไปหาซื้อเล่มใหม่มาแทน เอ.เจ. บอกว่า เพื่อนคนอื่น ๆ พากันเขียนคำตอบอย่างรวดเร็ว แต่กับเอ.เจ.นั้น อาจารย์บอกว่า "การบ้านนี้ให้ส่งวันที่ 19 09 2009 (52)"

เอ.เจ. นั้นเป็นเด็กผู้ชายอายุ ยี่สิบหก ถนัดซ้าย มีความสนใจทางด้านสัมผัสที่หก ที่ผ่านมาไม่เคยอ่านหนังสือชุดโนวาอนาลัย แต่ชอบฟังจินตวดีพูดเกี่ยวกับข้อมูลในหนังสือโนวาอนาลัย ซึ่งจินตวดีก็ชอบเล่าโน่น เล่านี่ และประสบการณ์ให้ฟัง เอ.เจ. ชอบฝีกทักษะของประสาทสัมผัสที่หก โดยการเขียนหนังสือ กลับหัว ประกอบที่ถนัดซ้ายตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ เลยทำให้การฝึกฝนเป็นไปได้เร็ว ตอนเด็ก ๆ เคยมี ยูเอฟโอ นำจานบินทั้งลำ มาหมุนโชว์ตัวหนึ่งรอบให้ดู ที่หน้าประตูบ้านมาแล้วขนาดใกล้ เวลาอยู่กับจินตวดี มักเป็นจินตวดีเห็นภาพ แต่น้องได้ยินเสียงแทน

มีน้องอีกท่านหนึ่ง ชื่อ "เอ็ม" (จินตวดีเรียก เอ็มเจ) เป็นชายหนุ่มอายุ ยี่สิบหกเท่าเอเจ สนใจเรื่องนี้ แต่ไม่เคยเข้าเว็บพลังจิตเหมือน เอ.เจ. ชอบมานั่งฟังจินตวดีรำพันเกี่ยวกับข้อมูลหนังสือชุด โนวาอนาลัย เหมือนกัน ฟังแล้วดันเข้าใจซะด้วยสิ เลยแจกหนังสือ ธรรมชาติ ชาติภพ ให้ไปอ่านเล่น อ่านแล้ว เริ่มฝันแล้ว เลยบอกว่าถ้าจะให้ดี บันทึกความฝ้นไปด้วยพร้อมกันจะดีไม่น้อย