เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

จ้า เอาใจช่วยค่ะ กำลังเริ่มต้นด้วยสิ่งที่ดี พี่และทุกๆคนเอาใจช่วยค่ะ

 

ก็เห็นด้วยค่ะ ว่าแต่ว่ามีใครชื่อเล่น ว่า "ซี" ป่าวค่ะ ที่คุยๆกันอยู่เนี่ย เพราะ"เอ" มีแล้ว "บี"ก็มีแล้ว อิอิ แค่สงสัย(อีกแล้ว)

 

สุดยอดตัวอย่าง การจดบันทึกความฝันอย่างเป็นระบบ เลยค่ะ
รหัสลับ(จินดาวินชี่..)เผยให้เห็นพัฒนาการ ของ คำตอบ ขึ้นเรื่อยๆ
เป็นรหัสซ้ำๆ แต่ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะสามารถค้นพบ รหัสลับของตัวเองได้แบบนี้

เดรดว่าทุกคน ก็มีรหัสประจำตัวกันนะ (เดรดก็มี..อิอิ)
แต่เดรด ยังไม่สามารถ ไขความลับ ออกมาได้กระจ่างแบบ คุณ จินต์วดี เลย...ฮือออ..

คุณจินต์ เป็น ศิษย์ห้องวิทย์ฯ รุ่นบุกเบิกที่ศึกษา และ ช่ำชอง ในเรื่องนี้จริงๆค่ะ
ขอ คารวะ ศิษย์ พี่ 1 ขวด...;aa56

 

ขออนุญาติ นำโพส การจดความฝันอย่างเป็นระบบของพี่นักเขียน มาแปะอีก ครั้ง
เอาไว้ทบทวน และ เผื่อผู้ที่มาใหม่ทุกท่าน ที่ยังไม่เคยทราบด้วยค่ะ
จะเห็นว่า คุณจินต์ ฉายแวว นักถอดรหัส ตั้งกะตอนนู้น เลยนะเนี่ย...ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่
(ขอแปะ ข้อความพี่เค้า บ่อย หน่อยนะ คิดถึง...อะ)

<TABLE class=tborder id=post942324 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nova_analai<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_942324", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Aug 2007
สถานที่: Lawrence, Kansas, USA
ข้อความ: 809
Groans: 0
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 1,883
ได้รับอนุโมทนา 11,081 ครั้ง ใน 787 โพส
พลังการให้คะแนน: 782

ขอบคุณค่ะสำหรับทุกความเห็น คำย่อว่า T ตามที่ทุกท่านให้ความเห็นไว้ถูกต้องทั้งหมดค่ะ เพราะเราสามารถที่จะจินตนาการให้มันเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้นที่เราต้องการ แต่สำหรับของจินตวดีแล้ว หลังจากที่ดิฉันฝัน แล้วใช้สติสัมปชัญญะจดจ่อกับคำนี้ ตอนแรกดิฉันนึกว่าเป็นสุนัขที่บ้านที่ชื่อถังทอง เพราะสนิทกับมันมาก แต่ก็ติดที่ว่ามันคงไม่สามารถตามเราไปทุกหนทุกแห่งดังคนสนิทได้ สักพัก คำ ๆนี้ผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรกเลยค่ะ TALENT ซึ่งแปลว่า สติสัมชัญญะ หรือพรสวรรค์ แล้วมันก็ใช่เลย เพราะสติสัมปชัญญะติดตัวเราไปทุกหนทุกแห่งตลอดเวลา ตามหนังสือ "โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ" ข้อมูลที่เธอได้รับมาจากความฝันมักจะบิดเบือนเป็นอันมาก เพราะเธอมักจะใช้สัญลักษณ์ที่เธอคุ้นเคยในโลกภายนอกมาคลุมทับไว้ (พอดีไม่ได้ติดหนังสือมา อาจจะไม่ตรงนัก แต่ก็มีความหมายอย่างนี้) เพราะจินตวดีคิดว่าเพียงแค่เราใช้สติสัมปชัญญะจดจ่อในฝัน ก็จะสามารถทำให้เราเข้าใจในความหมายหรือสัญลักษณ์ที่ปรากฏในความฝันได้ดียิ่งขึ้น เปรียบเสมือนการนำกล้องถ่ายรูปเข้าไปถ่ายภาพในความฝันนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อคืนวันที่ 23 จินตวดีฝันว่าขึ้นไปบนเขาลูกหนึ่ง ได้ไปเจอบุคคลคนหนึ่ง ยื่นไพ่ให้จินตวดี ให้เราเล่นด้วยกัน ดิฉันได้แต่งงเพราะไม่รู้ว่าเล่นไพ่อะไร เล่นอย่างไร สักพักคนผู้นั้นก็บอกว่า จบเกมส์แล้ว (แต่ใจกลับรู้สึกถึงคำว่าตายแล้วแทน) ดิฉันถามกลับไปว่าตายอย่างไร เขาชี้ให้ดูในไพ่ ดูจำนวนภูเขาในไพ่สิ ดิฉันดูรูปภาพในไพ่ เป็นรูปภูเขานับได้ 9 ยอดพอดี แล้วภาพก็ตัดไปที่ห้องเรียน (อีกแล้ว) มีผู้คนอยู่ในห้องเรียนมากมาย มีอาจารย์ผู้ชายท่านหนึ่งกำลังแจกผลไม้ให้นักเรียนทุกคนอยู่ จินตวดีเข้าไปขอรับบ้าง อาจารย์ผู้ชายท่านนั้นชี้ไปที่กองผลไม้ที่เหลืออยู่ บอกว่าให้หยิบไปเอง ดิฉันก็หยิบไปจนเยอะเชียว (เกือบหมด แบบว่างก) มีคนที่รู้จักเดินตามมาเอาบ้าง พร้อมกับบอกอาจารย์ว่า เหลือนิดเดียว ดิฉันรู้ตัวว่าเอาไปเยอะกว่าเพื่อน แต่ก็เฉยไว้ แล้วก็นำเงินไปจ่ายให้อาจารย์นั้นเป็นค่าผลไม้ แต่อาจารย์ท่านไม่รับประมาณว่าให้ฟรี สักพักหันไปเห็นนักเรียนทุกท่าน กินผลไม้นั้นพร้อมกับทิ้งเปลือกไว้เต็มห้อง ดิฉันรู้แต่ว่าเดี๋ยวจะต้องมีนักเรียนอีกชุดมาเข้าเรียนต่อ จึงไปเก็บกวาดให้ ตอนสุดท้าย ปรากฏเห็นเป็นสุนัขอัลเซเชี่ยนตัวใหญ่กระโจนเข้ามาจนชิดเรา แล้วยกขาหน้าข้างหนึ่งทำท่าจะมาแตะมือกับเรา (แต่หมามันยิ้มให้ด้วย)
ดูจากความฝันเหมือนจะสับสนและไม่มีอะไร แต่ดิฉันก็พยายามที่จะจับอารมณ์ปรากฏว่า เมื่อนึกถึงการเล่มเกมส์ไพ่ และคำว่าแพ้ ดิฉันคิดถึงแต่ความตาย แต่ไม่น่าจะใช่ความตายของตน คิดถึงคำที่เขาให้ดูรูปไพ่และนับภูเขา เป็นรูปภูเขานับได้ 9 ยอด เลยคิดว่าเลข 9 ในความหมายของตัวเองคือสิ่งศักดิ์สิทธิ หรือพระพุทธรูป เลยคิดว่ามันต้องเกี่ยวกับความตาย ภูเขา ใจมันก็วน ๆ ถึงแต่เรื่องนี้
1.ปรากฏว่าเมื่อเช้านี้ได้รับข่าว ว่าเจ้าอาวาสวัดเขาบำเพ็ญ ที่อยู่ติดกับบ้าน(เพราะบ้านอยู่หลังเขา) ถูกคนร้ายบุกชิงตู้รับบริจาค คนร้ายได้ใช้มีดแทงท่านจนมรณภาพ เราก็เลยถึงบางอ้อ เพราะในใจมันวนเวียนแต่คำว่าตาย ตลอด มันก็เลยทำให้นึกถึงคำกล่าวในหนังสือ ธรรมชาติชาติภพ ว่า เธอทุกคนสามารถทำได้ มีได้ เสมอเสมือน กับคนที่เธอคิดว่าเขาเป็นผู้วิเศษ ถ้าหากเธอฝึกที่จะใช้สติสัมปชัญญะ เธอจะพบสิ่งนั้นในตัวเธอ ว่าเธอสามารถที่จะทำได้มีได้ เสมอเหมือนกัน เท่าเทียมกันหมดทุกคน (ความหมายคล้ายอย่างนี้ ขอโทษอีกครั้งดิฉันไม่ได้ติดหนังสือมา)

2. ตอนแรกไม่คิดอยากจะเล่าให้ฟัง เพราะไม่มีเวลาพิมพ์นาน ๆ แต่ใจก็นึกถึงคำว่า "ความฝันของเธอแสดงถึงภาวะจิตของเธอ" (โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ) เลยนึกถึงความฝันตอนที่มีอาจารย์ผู้ชายแจกผลไม้ในห้องเรียน แล้วดิฉันงกไม่แบ่งให้ใคร ไม่บอกด้วยว่าเราได้เกินมา ทั้งที่อาจารย์ให้ฟรี อันนี้แสดงถึงภาวะจิตของตัวดิฉันเอง งกแม้กระทั่งประสบการณ์ หุ หุ

3. สุนัชอัลเซเชี่ยน ที่แท้มันก็คือตัว T น่ะเอง ที่ดิฉันคิดตอนแรกว่าน่าจะเป็นเจ้าถังทอง (ดิฉันเอาสัญญลักษณ์ของความเคยชินมาคลุมทับไว้ เพราะคิดมาตลอดว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และสนิทที่สุด) มันอุตส่าห์มาแตะมือเป็นทีมกันด้วย (ขนาดฝันยังอารมณ์ขันขนาด)

สรุป ตอนนี้ดิฉันซื้อสมุดมาเล่มนึงแล้ว ว่าจะจดความฝันไว้เพื่อนำมาใช้ในการวินิจฉัย ความหมาย หรือสัญลักษณ์ที่ปรากฏในความฝัน แม้จะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเข้าใจหมด แต่ก็จะพยายามเพราะถือว่านี่เป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่ง ที่ดิฉันต้องทำให้ลุล่วง แล้วเพื่อน ๆล่ะคะ มาจดบันทึกความฝันกันเถอะค่ะ

ป.ล. น้องขจรวรรณคะ พี่ก็ไม่ทราบว่าคุณมี้ดรุ้ชื่อพี่ได้อย่างไร แต่จินตวดีมีความหมายที่พี่ซ่อนปมไว้ ตรงอักษรเว้นอักษร จินตวดี ตัด น และ ว ออกไป เป็นจิตดี นี่เป็นชื่อที่แท้จริงที่ตั้งใจไว้ค่ะ(deejai) (deejai)
</TD></TR></TBODY></TABLE>
พี่นักเขียนได้จดบันทึกความฝันมายาวนานกว่า 10 ปี จนยอมรับแล้วหละค่ะว่า ฝันเป็นอาชีพ

พี่นักเขียนค้นพบว่า การจดความฝันอย่างเป็นระบบ จะทำให้เราได้สาระจากความฝันมากมาย จึงขอแนะนำการจดบันทึกความฝันอย่างเป็นระบบ ตามประสบการณ์นะคะ

1. จดวัน/เดือน/ ปี ไว้บนหัวกระดาษเสมอ
พี่นักเขียนมักจะเขียนว่า คืนวันอาทิตย์ ที่ 5 เดือน มกราคม ปี 2008

2.ก่อนนอนให้ตั้งจิตว่าจะขอเรียนรู้อะไร หรือต้องการรู้เห็นอะไร

3. ก่อนจะบันทึกความฝันแต่ละวัน ให้จดว่าเมื่อคืนนี้ได้ตั้งจิตไว้ว่าอะไร
จากนั้นจึงค่อยจดความฝัน ไม่ต้องวินิจฉัยว่า ความฝันไม่ยักกะคล้องจองกับสิ่งที่เราตั้งจิตขอรู้เห็นเลย แต่ให้จดไปตามความเป็นจริง อาจพบว่า ความฝันที่ดูเสมือนไร้สาระและไม่ได้เป็นไปตามที่ตั้งจิตขอรู้เลยนั้น กลับเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างที่เราขอรู้เห็นได้อย่างหมดเปลือก

4. หากคืนไหนฝันมีความหมายลึกซึ้งให้ทำเครื่องหมายไว้เป็นพิเศษ เช่น ฝันพิเศษและสำคัญมากให้ 5 ดาว แล้วลดหลั่นลงมาตามลำดับ เป็นต้น

5. ใส่เลขหน้าในสมุดความฝันไว้ด้วยค่ะ จดไปนานๆเราจะพบความสัมพันธ์ของความฝันใหม่กับความฝันเก่าๆที่ผ่านไปแล้ว เช่น ความฝันใหม่ล่าสุดอาจเป็นเหตุการณ์ที่มีความฝันเก่า 3 เดือนหรือเก่า 3 ปี เป็นเสมือนเหตุการณ์ในอดีตของตัวตนในความฝันตัวตนนั้น และเหตุการณ์ในความฝันล่าสุดเป็นเสมือนปัจจุบันหรืออนาคต เป็นต้น ให้พลิกกลับไปอ่านความฝันเก่า แล้วจดในหน้าความฝันล่าสุดว่า สัมพันธ์กับความฝันเก่าในหน้าใด

6. ให้เว้นที่ว่างไว้ด้านบน ด้านล่าง หรือด้านข้างของหน้ากระดาษที่จะจดบันทึกความฝัน และใช้ที่ว่างเหล่านี้จดความหมายของสิ่งที่มีความหมายสะดุดใจเป็นพิเศษ

7. จดบันทึกความฝันอย่างตรงไปตรงมาที่สุด โดยไม่ต้องพยายามตีความหมายด้วยการเปลี่ยนภาพสถานการณ์ที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล เพื่อให้คล้องจองกับเหตุผลของภาวะทางกายภาพ หรือตามเหตุผลของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลาตลอดจนแรงดึงดูดของโลก หรือปรับเปลี่ยนให้คล้องจองกับสิ่งที่เรารู้จักในโลกยามตื่น เพราะจะทำให้สาระทั้งหมดถูกบิดเบือนไป และหาความเป็นจริงไม่พบ เช่น หากพบว่าเราปรากฎตัวเป็นบุคคลสองคน คือเป็นทั้งตัวเรา และเป็นบุคคลอีกคนหนึ่งด้วย ก็ให้จดไปเช่นนั้น หรือคนสองคนรวมเป็นหนึ่ง ก็ให้จดไปเช่นนั้นโดยไม่ต้องคิดถึงเหตุผลและความเป็นจริงในโลกยามตื่น

8. หากนึกคิดถึงความฝันสาระใดๆได้ ให้จดอย่างละเอียดโดยไม่ต้องคำนึงว่า มีกี่เรื่อง เรื่องใดเกิดขึ้นก่อนหรือหลัง

9. หากจำได้เป็นเรื่องๆ ก็ให้จดทีละเรื่องโดยระบุว่าเป็นความฝันเรื่องที่ 1, 2, 3, 4,...โดยไม่ต้องใส่ใจว่าลำดับถูกหรือไม่ว่า เรื่องใดเกิดก่อนกัน เพราะเราสามารถฝันได้พร้อมกันหลายเรื่อง และกระโดดข้ามไปเหมือนเล่นหนังหลายเรื่องพร้อมกันหมด แต่เรามักจะคิดว่าเราฝันทีละเรื่องและพยายามจดเรียงลำดับ ทำให้งงและจดไม่ได้ บางวันอาจจะประหลาดใจที่จำความฝันได้มากมายหลายเรื่อง และต่อไปอาจมองเห็นความสัมพันธ์ของความฝันหลายเรื่อง ที่สะท้อนบางสิ่งบางอย่าง และทำให้ได้ความหมายลึกซึ้งกว่าการฝันเพียงแค่เรื่องเดียว ความฝัน 2 เรื่องอาจมีความหมายที่สนับสนุนหรือคล้องจองกัน ทั้งๆที่สถานการณ์ในความฝันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

10. ระหว่างที่จดบันทึกความฝัน ให้ขีดเส้นใต้ key word หรือสิ่งที่เป็นสัญญลักษณ์และมีความหมายเป็นพิเศษ ยกตัวอย่าง
ความฝันของคุณtenis มีคำที่เป็น key word เป็นสัญญลักษณ์พิเศษ หรือมีความหมายสะดุดใจเป็นพิเศษเช่น คำว่าโลหะ สีเงิน ดอกบัว พระไตรปิฎก คำเหล่านี้ หรือวัตถุสิ่งของเหล่านี้เป็นสัญญลักษณ์ที่มีความหมายจำเพาะสำหรับผู้ฝัน

สำหรับพี่นักเขียนอาจรู้สึกว่า ดอกบัว ว่าเป็นสิ่งที่หายากแต่ทนทาน เพราะพี่นักเขียนอยู่รัฐ Kansas ซึ่งเป็ฯเมืองหนาว และดอกบัวออกดอกให้เห็นปีละไม่กี่เดือน หน้าหนาวน้ำเป็นน้ำแข็งดอกบัวจะจมอยู่ใต้โคลนแต่ไม่ตาย พอถึงฤดูใบไม้ผลิ ดอกบัวก็จะโผล่พ้นน้ำและกลับมาเบ่งบานอีกในต้นฤดูร้อน เราแต่ละคนจะตีความหมายของดอกบัวไปตามมุมมองและความเชื่อส่วนบุคคล

11. เมื่อตีเส้นคำที่เป็นสัญญลักษณ์พิเศษที่มีความหมายสะดุดใจแล้ว ให้ใช้ที่ว่างด้านบน ด้านล่าง หรือด้านข้างของหน้ากระดาษที่เราเว้นไว้ เขียนความหมายจำเพาะของสิ่งที่เป็นสัญญลักษณ์สะดุดใจเหล่านั้น

หลังจากนั้นให้พิจารณาบันทึกความฝันอีกรอบ โดยทดแทนความหมายของสัญญลักษณ์สะดุดใจเหล่านั้นไปตามความรู้สึกว่า เรารู้สึกว่ามันหมายถึงอะไร ไม่ใช่ตีความหมายไปตามความคิดว่า เราคิดว่ามันหมายถึงอะไร

จิตวิญญาณคือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพที่ถ่ายทอดด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด
อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดจึงเป็นกลไกการรู้เห็นของจิตวิญญาณ หรือตัวตนภายใน
แต่ความคิดตามเหตุตามผลเป็นกลไกการรู้เห็นของตัวตนภายนอก
การตีความหมายไปตามความรู้สึก จะทำให้เราได้ความหมายที่แท้จริง ที่รับรู้มาด้วยจิตวิญญาณ

12. การทวนความฝัน เพื่อให้ระลึกถึงความฝันและจดจำได้ ให้จับอารมณ์สุดท้ายที่ยังคงหลงเหลือ ก่อนที่จะลงมือบันทึกความฝัน เมื่อสัมผัสอารมณ์นั้นได้ ความฝันทั้งหมดจะผุดขึ้นมาและทำให้จดจำได้มาก

13. บันทึกเล่มแรกจบแล้ว ให้เขียนหน้าปกตัวโตๆว่า บันทึกความฝันเล่ม 1. วันที่...เดือน.....ปี.... - วันที่....เดือน...ปี

14. หลายความฝันใช้เวลายาวนานกว่าจะมาสู่ความเป็นจริง หากเราจดวันเวลา และทำเครื่องหมายเหล่านี้ไว้ การกลับไปค้นหาจะสะดวกมาก หากความฝันใดที่จดไว้กลายเป็นความจริง ให้กลับไปทำเครื่องหมายถูกไว้ ซึ่งพี่นักเขียนมักจะเรียกว่า Reality Checked คือได้ผ่านการตรวจสอบกับโลกแห่งความเป็นจริงยามตื่นแล้ว-เป็นจริงแล้ว

ต่อไปเมื่อเราพบว่าเรามีเครื่องหมายถูกเหล่านี้บ่อยๆ เราจะเกิดความมั่นใจ และเข้าใจภาวะจิตของตนเองได้ดีขึ้นว่า เราเข้านอนด้วยความคิดอย่างไร เราตั้งจิตอย่างไรจึงเหนี่ยวนำให้เรามีความฝันที่กลายมาเป็นความจริง และความฝันเหล่านั้นเหนี่ยวนำให้ประสบการณ์เหล่านั้นมาสู่ความเป็นจริงได้อย่างไร เราจะเรียนรู้กระบวนการสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของตนเองได้อย่างเหลือเชื่อ

ดีใจจังคะที่ต่อไปนี้จะมีคุณน้องจิตดีเป็นเพื่อนที่ฝันเป็นอาชีพเหมือนกัน(rose)<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คุณ wideheart ที่รัก..
กลับมาพร้อม ปิติสุข ที่อิ่มเอิบ จากการให้
โดยไม่หวังผลตอบแทน เพียงแค่อยากให้ผู้อื่นเป็นสุข
สิ่งเหล่านี้ ได้ถูกถ่ายทอด ออกมาจาก หัวใจที่เต็มเปี่ยม ไปด้วยความรัก
ขอบคุณ ที่มาแชร์ความรู้สึกดีๆ แบบนี้ค่ะ...อ่านแล้ว รู้สึก ดีจังค่ะ
รัก พี่ใหญ่จังเลย....bubu

 

คุณใจกว้างไปเที่ยวครั้งนี้ นำบรรยากาศสุขสดชื่นมาฝากๆเพื่อนๆห้องวิทย์อีกแล้ว อ่านแล้วเหมือนนั่งรถไฟไปด้วยเลยครับ he llo _car

อนุโมทนากับทุกประสบการณ์ดีๆด้วยนะครับ



คุณจินวินชี่ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของนักถอดรหัสความฝันเลยครับ
และนำประสบการณ์ ความเข้าใจ มาแบ่งปันเพื่อนๆจิตวิญญาณต่างร่างร่วมวัตถุประสงค์อยู่เสมอ


อ่านกี่ทีๆ ก็ได้อะไรกลับไปทุกครั้งนะครับ กับบันทึกความฝันของพี่นักเขียน
ขอบคุณ คุณมะเดรด อีกครั้งครับ

อ่านรอบนี้ เหมือนกับไม่เคยอ่านมาก่อนเหมือนกันครับ ตามประสาคนความจำสั้น อิอิ..

โดยเฉพาะข้อ 7

เพราะบางครั้ง ฝันมันดูไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีเหตุมีผล ที่เข้ากับความเชื่อที่เรามี
ก็เผลอที่จะนำเอาเหตุผลที่เรามี ใส่เข้าไปด้วย ทำให้ความหมายที่แท้จริง มันบิดเบือนไปจากความเป็นจริง และก็บอกตนเองว่า ความหมายที่แปลมา มันยังขาดอะไรอยู่นะ ยังไม่เข้าใจซักที

ก็อย่างที่คุณลิตเติ้ลดั๊กบอกหละครับว่า มันจะเผยความหมายของมันมาซักวันนึง ความฝันที่ค้างไว้ ที่ยังไม่เข้าใจก็ยังมีเก็บเป็นกระบุงครับ ก็รอว่า ซักวันนึง เราคงจะเข้าใจกับเค้าบ้าง อิอิ...;aa6

 

แล้ว บี นี้ใครเหรอครับ คุณหงบ จะข้ามไป ซี แล้ว ข้าเจ้าตามไม่ค่อยทันเลย อิอิ..

มีฝันมาเล่าให้เพื่อนๆฟังครับ ถึงจะแปลไม่ออกทั้งหมดก็ตาม แต่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์บ้างครับ (เป็นที่คั่นหนังสือก่อน ระหว่างรอคุณไวน์ฮาร์ท และเพื่อนๆ มาเล่า อิอิ..)

บันทึกความฝัน วันที่ 30/07/09
มีตอนนึง ฝันไปว่า
ไปที่ที่นึง คล้ายๆห้าง ที่พื้นปูกระเบื้องแผ่นใหญ่สีขาวๆ ผนังสีขาวๆ
และผู้คนมากมาย ก็พูดกับถึง ประวัติของภิกษุชรารูปนึง
ภาพบรรยาย ก็โผล่ขึ้นมา เป็นภิกษุรูปนี้ ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ไผ่ ใส่จีวรสีกัก ยืนถือไม้เท้าอยู่ ยิ้มให้ที่มุมปาก
ภิกษุรูปนี้ เกิดปี พ.ศ.2419 ถ้านับมาถึง พ.ศ.2519 ก็อายุ 100 ปี
ด้วยความสงสัย ว่าท่านอยู่มาได้ยังไงตั้ง 100 ปี ถ้านับมาปีปัจจุบัน 2552 อายุก็ปาไปประมาณ 133 ปีแล้ว

ภาพก็ตัดกลับมาที่ที่เดิม เจอกับเด็กผู้ชายคนนึง
ในฝันรู้สึกว่า คือ คนๆเดียวกันกับภิกษุชราที่กล่าวถึงกัน
เลยได้เดินไปคุย
เค้าก็บอกว่า มีคนมาหาเค้าเยอะเลย คนใหญ่ๆโตๆทั้งนั้น
บิล คลินตัน ก็เคยมาหาเค้า (ฝันไฮโซจริงๆ อิอิ)
และพูดต่อว่า ที่บิล อยู่มาได้ และมาถึงระดับนี้ได้นั้น เพราะมีดวงวิญญาณภายในสนับสนุนอยู่ 100,000 ดวง
พร้อมกับนำสไลด์ 3 มิติ มาให้ดู
เป็นรูปโครงร่างคน ยืนอยู่บนหน้าผา
ภายในตัว เป็นเด็กชาติต่างๆ อยู่มากมายมหาศาล กำลังยืนจับมือ ร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน
คนที่อยู่ด้านล่าง ก็ส่งถ่ายพลังงานให้กัน เป็นแสงสีต่างๆ อย่างไม่ติดขัด

ก็เลยบอกว่า ขอรูปนี้เอาไปให้เพื่อนๆดูได้มั๊ย เพราะสวยดี
ความรู้สึกในฝัน บอกว่า มันเหมือนการทำงานของเซลล์ภายในร่างกายเลย ที่มีชีวิต มีจิตสำนึกเป็นของตนเอง
และกระบวนการที่ทำนั้น สอดประสานกันได้อย่างลงตัว ไม่ติดขัด

และก็พูดคุยกับเด็กผู้ชายคนนี้ซักพักนึง ถามเค้าว่า คนที่มาหาส่วนใหญ่ มาให้ทำอะไร
เค้าบอกว่า มาให้รักษาให้

ความรู้สึกในฝันนั้น ที่พูดคุยกันโดยไม่ได้พูด มีความหมายว่า เค้าก็อยากจะบอกคนที่มาหาเค้าเหมือนกันว่า คุณก็สามารถรักษาตนเองได้ โดยที่ไม่ต้องมาหาเค้าเลย แต่ถ้าคนมาหาจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เค้าก็ต้องรักษาให้

ก่อนที่เด็กจะไป เพราะต้องไปทำธุระอย่างอื่น

ก็ถามเค้าตรงๆว่า ท่านอายุเท่าไหร่กันแน่ เพราะดูแล้วไม่น่าจะอายุเป็น 100 อย่างที่หลายๆคนบอกมาเลย

เด็กคนนี้บอกว่า ผมอายุ 17-18 ปี ที่เค้าบอกว่า ผมอายุเป็น 100 นั้น เค้าพูดกันไปเอง เค้าเหล่านั้นต่างหาก ที่บอกว่า ผมอายุเป็น 100

ก็เลยบอกไปว่า ที่เราคุยกันอยู่นี้ หลายอย่าง ท่านพูดเหมือนกับหนังสือที่ผมเคยอ่านเลย
ถึงจะบอกกันคนละอย่างก็เถอะ แต่ความหมาย อย่างเดียวกัน
และก็ได้หยิบหนังสือ ชุดโนวาอนาลัย ให้เด็กคนนี้ไป พร้อมกับบอกว่า ลองไปอ่านดูนะครับ ความหมายเหมือนกับที่ท่านพูดมาเลย

พอตื่นมา ก็ยังไม่เข้าใจความหมายของฝันทั้งหมด
แต่พอเข้าใจถึง ความหมาย การทำงานภายในของร่างกาย จิตใจว่า ตัวเราเองก็เหมือนประธานาธิบดี ที่เป็นประธานของกาย ของใจ
ความคิดภายใน ความรู้สึกภายในเป็นเช่นไร เซลล์ภายในทั้งหมด ก็จะตอบสนองไปในทิศทางเดียวกันกับความคิด และความรู้สึกนั้น โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะต้องการสุขภาพดี ต้องการป่วยเพื่อเหตุผลทางด้านการเรียนรู้ ต้องการป่วย เพราะความคิด ความรู้สึกภายใน ที่เราไม่เคยสังเกตุก็แล้วแต่

ก่อนนอนฝนจะตก แล้วลองไปนั่งข้างนอก ดูฝนตก
และคิดเล่นๆว่า ออกมานั่งตากฝนอย่างนี้ แล้วจะป่วยมั๊ย
ความคิดเล็กๆดังกล่าว ได้ก่อรูปขึ้นแล้ว

ก่อนจะตื่น ได้ฝันว่า ป่วย ไม่สบาย

ตอนตื่นมา จึงรู้สึกว่าคัดจมูก ไม่สบาย ทำให้นึกถึงความนึกคิดเล็กๆ เมื่อวานก่อนนอน
ดูท่าความคิดนั้น มันจะไม่เล็กซะแล้ว อิอิ...
เซลล์ในร่างกาย ไม่เคยทำงานผิดพลาด จะทำตามความคิด ความรู้สึก ของประธานาธิบดี โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น
เค้าไม่เคยรู้จักคำว่า ผิด ถูก ดี เลว ข้อแม้ใดๆ
รู้แต่ว่า เค้าทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่เคยแบ่งแยก
และตอบสนองทุกๆทาง ที่ประธานต้องการมีประสบการณ์ จากความคิด ความรู้สึกภายใน

เมื่อความคิดเล็กๆ ที่ต้องการป่วย ได้รับการสานต่อแล้ว
ก็จินตนาการถึง ความคิด ความรู้สึก ถึงประสบการณ์ของความมีสุขภาพที่ดี เซลล์ต่างๆ ก็เปลี่ยนกระบวนการตามที่ประธานสั่งทั้งหมด

ผมจึงมั่นใจจากประสบการณ์ตรงว่า เซลล์ทั้งหลายภายในร่างกาย มีชีวิต มีจิตสำนึก จริงๆ และพร้อมที่จะช่วยเหลือ ผู้เป็นประธานทุกๆทาง โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น

แล้ววันนี้ คุณรู้สึกขอบคุณ เพื่อนๆของคุณแล้วหรือยัง

ปล.ไม่รู้ว่าเคยบอกคุณลิตเติ้ลดั๊กรึยังว่า ฝันที่คุณลิตเติ้ลดั๊กเคยถอดรหัสให้ ออกมาเป็นวัน เดือน ปี ผมได้เอาเป็นวันลงเสาเข็มบ้านเลย อิอิ...

ผู้หลัก ผู้ใหญ่ ก็ไม่เชื่อมั่นว่า ใช้ตำราไหนว๊า ก็เลยไปหาหมอดูให้เค้าดูฤกษ์ให้

และหมอดูก็บอกว่า วันนี้ ดูตามปฎิทินแล้ว มันไม่ดี แต่มันดีกับเค้า

ขอบใจหลายเด้อ แม่หมอ ..

 

เมื่อคืน มีฝันบางอย่าง เข้ามาที่ห้อง เจอข้อความนี้
อืมม์...ข้อมูล ตรงกันแฮะ เลยขอเล่าความฝัน ละกัน

ฝันว่า...แบบ รายละเอียดเยอะ และหลายเรื่องมากๆ เอาสั้นๆที่ได้ใจความพอค่ะ
ฝันว่า พี่นักเขียน ส่ง pm มาถึงเดรด (ข้อความ เป็นสีลูกกวาดเหมือนเดิม)
ใจความ เขียนอธิบายเรื่อง ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ มีตัวเลข 2009 ด้วย
พี่นักเขียน ถามเดรดว่า เดรดคิดว่า จะมีวิธีรักษา ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่นี้ ด้วยวิธีไหน
ในฝันเราก็ โห...ทำไม ข้อสอบ พี่นักเขียน ยากจัง
เดรดไม่ได้ตอบกลับ แต่คิดในใจ ขณะนั้นไปแล้วว่า
"โรคนี้ ระบาดเร็วมาก และเดรดไม่ชอบเลย ความเชื่อนี้ครอบงำคนส่วนมาก ให้กลัว
และขยายวงกว้างออกเรื่อยๆ ขยายตัว เป็นจิตสำนึกรวมหมู่มากขึ้น "

จากความฝันนี้ ทำให้นึกไปถึงเรื่อง การรักษาตัวเอง วิธีการมีมากมาย
สองวันที่แล้ว เดรดแน่นท้อง แบบว่า อาหารไม่ย่อย อึดอัดมากๆ ท้องแข็งมาก
กลับมาจากทำงาน มันเริ่มไม่ไหวแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ทานอะไรไม่ได้ มันแน่น
เดรดเลย ทำสมาธิ ฉบับ"โยคะคุณเซลล์เคยสอน" ก็คือ เริ่ม ไล่ลมปราณ จากจักระที่1
แล้วจินตนาการ ให้ลมผ่านท่อตามแนวกระดูกสันหลัง ไล่มาเรื่อยๆ จนออกทาง จักระ 7

ลมเย็น เกิดขึ้นเรื่อยๆ เป็นครั้งแรกที่ทำแล้วรู้สึกทันที ปก-กา-ติ ต้องรอ
(รายละเอียด ที่ถูกต้อง ไปถาม ทั่นเซลล์ เอาเองละกันค่ะ เดรดจำได้กระท่อนกระแท่น)
ทำอยู่ประมาณ 15 นาที ก่อนทำคุยกับเซลล์ในร่างกาย ว่าไล่ลมออกไปหน่อย อึดอัด
แล้วก็ ไปทำอะไรต่อมิอะไรต่อ ซักพัก ก็เกิดอาการ เรอ เอิ๊กๆ อ๊ากๆ จนโล่ง ไปหมด
ในตัวก็เย็นวาบ เย็นวาบ สบ๊าย สบาย...

ร่างกายมีศักยภาพในการรักษาตัวเองอยู่แล้ว
แต่ถ้าไม่มีความเชื่อมั่นพอ การทำงานก็ไม่เต็มประสิทธิภาพ
เหมือนมีอะไรไปขวางพลังงานอยู่

เฉกเช่นเดียวกับ ไข้หวัด 2009 ถ้าเรากลัว เราก็จะพบเจอมัน
พ่อเดรดเข้าโรงพยาบาล หมอบอกเป็นไข้หวัด 2009 ชัวร์ จับฉีดยา และรักษา แบบเฉพาะ
โรคนี้ วัคซีนแพงมาก และ มีอะไรของเค้าอีกไม่รู้เยอะแยะ
ตอนนั้นต้องรอผลเลือด 5 วัน แต่หมอไม่รอ พ่อก็ไม่รอ เพราะพ่อจะออกจากโรงพยาบาลท่าเดียว

ปรากฎว่า หลังจากรักษาไปเป็นที่เรียบร้อย จ่ายค่ายา มหาโหดนั่นแล้ว
ผลเลือดของพ่อเดรดออกมาว่า "เป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา"

ไข้หวัด 2009 เป็นภัยพิบัติสำหรับเดรดจริงๆ
มันคร่า กะตังค์ ในกระเป๋าเดรดไปหลายๆ

 

ก่อนอื่นต้องขอบอกอย่างจริงแท้ จริงใจ จริง ๆ ว่าชื่นชอบและชื่นชมความฝันของเพื่อน ๆ ที่ได้ช่วยกันมาเล่าฝันพร้อมถอดระหัสตีความหมายให้ฟัง ถือเป็นโอกาสอย่างยิ่งสำหรับไวด์ฮาร์ทแล้ววิธีการถอดรหัสหรือตีความหมายไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ มาคราวนี้ค่อย ๆ เรียนรู้ได้อย่างหนึ่งเกี่ยวกับคำว่า Key word ขอเรียนถามเพื่อน ๆ เพื่อความแน่ใจตามที่ไวด์ฮาร์ทเข้าใจนั้นถูกต้องหรือเปล่าน่ะ ยกตัวอย่างฝันวันที่ 26/7/52 สติมาทันบอกกับตัวเองว่าไหน ๆ จะตายก็ขอตายให้สมศักดิ์ศรี คำที่ขีดเส้นใต้นั้นถือเป็นรหัสได้หรือไม่คะและรวมถึงคำว่า จับเข้าคุก ถือว่าใช่ด้วยหรือเปล่าคะ
ส่วนสัญลักษณ์ มีดดาบ, เสลดพันคอ
รวมความว่าทั้งคำพูดและสัญลักษณ์ที่ได้กล่าวถึงถ้าใช่แล้วมันแปลความหมายออกมาว่าอย่างไร ไวด์ฮาร์ทขอรบกวนเพื่อน ๆ ที่น่ารักช่วยกรุณาบอกให้รู้หน่อยนะคะ แล้วมาช่วยกันเล่าฝันต่อไปเยอะ ๆ นะคะ ขอบคุณอย่างที่สุด

เมื่อคืนนี้ก็ฝันตั้งหลายเรื่องเป็นเรื่องสั้น ๆ บ้าง ยาวบ้าง บางเรื่องก็ไม่ปะติดปะต่อ มีอยู่เรื่องหนึ่งฝันว่า
ตัวเองเดินตามทางจะไปไหนไม่ทราบมีหมานำหน้าเราถือสายร้อยคอไว้ หมานี้ตัวใหญ่สูงขนเยอะสีแกมแดงทั้งตัวแต่ไม่รู้พันธุ์อะไร(ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับพันธุ์สุนัขอ่ะค่ะ) จูงมันอยู่ดี ๆ ไม่รู้ว่ามันเห็นอะไร มันหูตั้งชันแล้ววิ่งหลุดจากมือเราตรงไปที่ห้องน้ำมันอยู่ชายป่าหายเข้าไปกลับออกมากลายเป็นชายหนุ่มสวมหมวกทรงฟักทองอ่ะค่ะ

ฝันต่อมามีสามสาวมาหาบอกว่าต้องการหาโฆษณาลงหนังสือ ไวด์ฮาร์ทถามว่าหนังสืออะไร หนึ่งในนั้นบอกชื่อหนังสือชื่อใย ไวด์ฮาร์ททำท่างงและคิดว่าชื่อหนังสืออะไรฟังดูสะดุดหู อีกคนก็เสริมว่าเป็นหนังสือนิตยสารใหม่ที่เราเพิ่งทำกันเป็นครั้งแรก ไวด์ฮาร์ทกลับบอกไปว่าเคยได้ยินชื่อนิตยสารฉบับนี้มาก่อนแล้วมันก็เคยเป็นนิตยสารที่มีมายาวนานก็ไม่ใช่ชื่อแค่คำเดียว พวกนั้นฟังแล้วหน้าม่อยไม่ชอบใจที่ฉันพูด ภาพตัดกลับมาบ้านก็ต้องประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีกพวกญาติพี่น้องรวมถึงสะไภ้ทั้งหลาย เอาช่อหัวใจสีแดงมาวางเรียงตั้งไว้เยอะแยะไปหมด ถามว่าเอาอะไรมาทำช่อรูปหัวใจได้อย่างนี้ พวกนั้นบอกว่าเอาดอกกุหลาบนี่แหละมาทำสำหรับให้พี่เป็นเบริทเดย์ พอดีแม่เดินมาแม่พูดว่า ทายซิวันนี้มีคนมาที่บ้านจะเอาช่อรูปหัวใจไปลงหนังสือ พอแม่พูดสิ้นสุดคำว่าหนังสือ ไวด์ฮาร์ทบอกแม่หยุดหนูจะบอกแม่ว่าหนังสือนั้นชื่อว่า ใยไหม ใช่ไหม แม่หัวเราะชอบใจและพยักหน้าบอกว่าใช่ แล้วถามว่ารู้ได้อย่างไร./

ฝันทั้งสองเรื่องไวด์ฮาร์ทอยากทราบว่า หมา กุหลาบ และนิตยสาร สัญลักษณ์พวกนี้แทนความหมายอะไรบ้างคะ รบกวนอีกนิดนะจ๊ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

 

อิอิ.."
งั้นข้ามไปหา คนชื่อดี ก่อนเลยไหมค่ะ คุณเซลล์ อิอิ จริงๆแล้วไม่ได้ ตั้งใจใช้ชื่อนี้ค่ะ แต่ระบบคงจัดให้ ตอนที่มาอ่านห้องฝัน?ใช้ชื่อเล่นสมัครสมาชิกที่เวปค่ะ กี่บี หรือบีอะไรต่อท้ายก็ไม่ผ่านค่ะ แต่พอใช้"สงบระงับ"ผ่านพรวดรวดเดียวแถมเป็นชื่อที่ได้จากความคิดที่เรียกว่า "ความคิดแว่บ"อันนี้เป็นศัพท์บรรณหยัดที่อาจารย์ สอนศิลปะ ท่านว่าไว้จริงๆ ค่ะ อาจารย์บอกว่า ความคิดพวกนี้เป็นความคิดของศิลปินที่สามารถรังสรรค์งานได้สุดยอดในหลายๆขิ้นงาน เหอเหอ จริงป่ะค่ะ คุณmead น้าน..........
เดี๋ยวจะโม้ยาวเสียกระมังเรา แถมเมื่อสมัครใช้ชื่อ"สงบระงับ"แล้วก็ไปเจอป้ายอันนี้อยู่ต้นไม้กลางลานวัด55
และในวันเดียวกันนั้นก็ได้เจอหนังสือธรรมมะ ที่ได้สอนเกี่ยวโยงกับคำว่า" สงบระงับ"ด้วยประการฉะนี้ค่ะทุกท่าน

 

"ก่อนอื่นต้องขอบอกอย่างจริงแท้ จริงใจ จริง ๆ ว่าชื่นชอบและชื่นชมความฝันของเพื่อน ๆ ที่ได้ช่วยกันมาเล่าฝันพร้อมถอดระหัสตีความหมายให้ฟัง ถือเป็นโอกาสอย่างยิ่งสำหรับไวด์ฮาร์ทแล้ววิธีการถอดรหัสหรือตีความหมายไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ มาคราวนี้ค่อย ๆ เรียนรู้ได้อย่างหนึ่งเกี่ยวกับคำว่า Key word ขอเรียนถามเพื่อน ๆ เพื่อความแน่ใจตามที่ไวด์ฮาร์ทเข้าใจนั้นถูกต้องหรือเปล่าน่ะ ยกตัวอย่างฝันวันที่ 26/7/52 สติมาทันบอกกับตัวเองว่าไหน ๆ จะตายก็ขอตายให้สมศักดิ์ศรี คำที่ขีดเส้นใต้นั้นถือเป็นรหัสได้หรือไม่คะและรวมถึงคำว่า จับเข้าคุก ถือว่าใช่ด้วยหรือเปล่าคะ "
อ้างอิง:ข้อความไวด์ฮาร์ทติดตามความฝันของคุณมาตลอดค่ะ อืม........เขียนหนังสือ"ใย" ได้เป็นเล่มแล้วนะค่ะเนี่ยสนุกสนานตื่นเต้นตลอด แถมความฝันที่คุณฝันก็ถอดระหัสได้มากมาย(อันนี้ต้องรอผู้เชี่ยวชาญจากกรุงเทพ. อี้ย....ไม่ใช่ ผู้เชี่ยวชาญจากห้องฯค่ะ ) แต่ลึกๆ อันตัวเราเองก็ฝันไม่มีวันหยุด แต่ก็ไม่กล้าเล่า อิอิ เคยฝันว่ากลับไปบ้านเก่าเดินไปแล้วทำปิ่นโตที่แม่ห้อยไว้ข้างฝาบ้านมันหล่นลงมา ในฝัน มันเป็นเสียงโครมที่ดังมาก รีบเก็บแล้วนำไปห้อยไว้ที่เดิมแถมมองเห็นด้วยว่า เอ.....ทำไมแม่เอาปิ่นโตคนละเถาแถมขนาดไม่เท่ากันมารวมเป็นเถาเดียวตอนหล่นมันก็ไม่ได้กระเถาะเสียหายทั้งที่เป็นปิ่นโตเคลือบและหล่นแรงซะขนาดนั้น ในฝันมีคิดพิจารณาด้วยค่ะ
จึงนำฝันนี้ไปเล่าให้พี่สาวฟัง ถัดมาอีกหลายเดือนพี่สาวก็บอกว่า พี่ฝันแต่ฝันต่อจากบีนะ ที่เคยเล่าเรื่องปิ่นโตที่บ้านหล่นให้พี่ฟัง พี่เข้าไปในฝันเดียวกันเห็นปิ่นโตที่บีเล่าด้วยพี่ไปปลดมันลงมา จัดเสียใหม่เอาปิ่นโตที่มีขนาดเดียวกันสีเดียวกัน มาจัดเป็นเถาเดียวแล้วแขวนไว้ที่เดิม 555
ก็เลยบอกกับพี่สาวว่า แถมหลังจากที่ฝันก็คิดนะว่าทำไมเราไม่สามารถจัดปิ่นโตเถานั้นได้ ยังตกใจรีบเก็บไว้ที่เดิมด้วย มันก็น่าจะจัดเสียก่อน( ดีที่พี่สาวฝันต่อ แล้วจัดการเสียให้เรียบร้อย) เฮ้อ โล่งอก แต่เราสองพี่น้องก็ตีความหมายของคีย์เวิร์ดนั้นได้เรียบร้อยและตรงกันด้วยค่ะ แต่ที่สำคัญ พี่สาวเขาไม่เคยศึกษาเรื่อง"มิติความฝันชาติภพฯ"เลยอ่ะค่ะ อิอิ

 

แหมต้องขอบคุณ คุณสงบระงับทีเดียวเชียวค่ะที่นำหัวข้อ ใช้ชื่อเล่นสมัครสมาชิก ของคุณมาเล่าสู่กันฟังแถมยังได้ความรู้ จาก “ความคิดแว่บ” ที่อธิบายไว้ด้วย ดีจังค่ะ ไวด์ฮาร์ทก็เลยไม่อยากตกถนนผ่านไป ขออาศัยจังหวะนี้เล่าบ้างเกี่ยวกับชื่อที่ใช้สมัครนี้อ่ะค่ะ ตอนที่จะสมัครอาจารย์สอนคอมฯส่วนตัวถามว่าจะใช้ชื่ออะไรดีสมัคร ความคิดแว่บ ออกมาทันที ประเภทถามปุ๊บตอบปั๊บ ว่า wideheart อาจารย์ถามว่าทำไมถึงใช้ชื่อนี้ ก็บอกเล่าให้ฟังว่า สามีชอบเรียกหนูว่า wide animal ว่าหนูแรง ๆ ว่าเป็นสัตว์ดุร้าย ป่าเถื่อน ดื้อ พยศ ไม่เคยยอมเขาเลยจนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยยอมอ่อนให้เขาเลย หนูก็เลยให้มันตรงข้ามกับที่เขาเรียกซะเลยค่ะอาจารย์ อิอิ ก็เลยได้มาด้วยประการฉะนี้ เหมือนกันค่ะ

 

ตัวตนในความฝัน

ตัวตนในความฝันแบ่งออกได้เป็นสามประเภทตามภาวะการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะคือ:

1.การจดจ่อเอาใจใส่ในสิ่งที่เป็นกายภาพ ได้แก่ วัตถุสิ่งของ
2.การจดจ่อเอาใจใส่ในสิ่งที่เป็นจินตภาพ ได้แก่ ความรู้สึก นึกคิด
3.การจดจ่อเอาใจใส่ในความว่างเปล่า ได้แก่ ห้วงแห่งความว่างเปล่า ความเงียบสงัด ความสงบ

เมื่อจิตวิญญาณจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะและเอาใจใส่ในภาวะใด
จิตวิญญาณจะมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปด้วยรูปกายตัวตนในภาวะนั้นๆ
การจดจ่อเอาใจใส่ของจิตวิญญาณ ด้วยสติสัมปชัญญะ
ดึงดูดรูปกายตัวตน-สภาพแวดล้อมและประสบการณ์ทั้งหลายที่คล้องจองกัน
มาสู่ขณะจิตนั้นๆ-ตามกฎแห่งการดึงดูดของจักรวาล

ตัวตนที่เป็นกายภาพ
ตัวตนในความฝันเป็นตัวตนที่เธอคุ้นเคยที่สุด เมื่อเธอมีรูปกายตัวตนในความฝัน
เธอมีความรู้สึกว่าเธอมีตัวตนที่เป็น"กายภาพ"
แต่ตัวตนในฝันก็สามารถกระทำในสิ่งที่ไม่อาจทำได้ ตามปกติในโลกทางกายภาพ
เช่น ลอยตัวได้ อย่างไรก็ตาม-ตามกฎเกณฑ์ แล้วเธอไม่อาจทะลุกำแพงได้ด้วยตัวตนนี้
ตัวตนในฝันเป็นตัวตนที่อยู่ในโลกภายในของความฝันตามปกติ
การลอยตัวเป็นไปได้ตามข้อจำกัดด้วยกายที่เป็นกายภาพนี้
เธอสามารถรู้เห็น อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต-ได้ในวงจำกัด

ตัวตนที่เป็นจินตภาพ
เมื่อจิตวิญญาณของเธอเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปสู่มิติอื่น
ความสามารถของรูปกายตัวตนจะเปลี่ยนไปด้วยความตั้งใจ และวัตถุประสงค์ที่แตกต่างไป
ทำให้จิตวิญญาณปรากฎในรูปกายตัวตนที่ฉันจะเรียกว่าเป็น"จินตภาพ"

รูปกายตัวตนนี้ยังคงมีรูปกายที่เป็นกายภาพ แต่สามารถเดินทะลุผ่านวัตถุทางกายภาพได้
ลอยตัวหรือเหาะเหินได้อย่างอิสระ การท่องเที่ยวไปได้เพียงภายในระบบสุริยจักรวาล
ไม่อาจไปได้ไกลกว่านี้

ในกายที่เป็นจินตภาพนี้การรู้เห็นอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
ทำได้ในวงกว้างขึ้นกว่ารูปกายที่เป็นกายภาพ
ภาวะการรับรู้ของจิตวิญญาณครอบคลุมได้กว้างขึ้น
รูปกายที่เป็นจินตภาพเป็นรูปกายซึ่งสามารถซึ่งสามารถพบปะกับผู้อื่นได้ในฝัน"ตามนัด"

ตัวตนที่เป็นจิตวิญญาณ
ตัวตนที่เป็นจิตวิญญาณเป็นตัวตนที่เกิดจาก
การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะ
ไปสู่มิติต้นกำเนิดแห่งจิตวิญญาณ อันเป็นมิติที่เป็นห้วงแห่งความว่างเปล่า

ซึ่งเป็นรากฐานของสรรพสิ่งทั้งปวง ฉันจะได้กล่าวถึงมิติต้นกำเนิดในบทต่อไป
ในที่นี้ฉันต้องการให้เธอรู้จักตัวตนที่เธอจะมี-ดำเนินไปในภาวะต่างๆเสียก่อน
ตัวตนที่เป็นจิตวิญญาณปราศจากรูปทรง ปราศจากรูปกาย
ท่องเที่ยวไปในระบบสุริยจักรวาลรู้เห็น อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
ของโลกแห่งความเป็นจริงโลกนี้และโลกอื่นได้ทั้งหมด

-----------------------------------------------------------------------------

จากหนังสือ โนวา อนาลัย
"ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ"
บทที่ ๙ ความฝันกับมิติของจิตวิญญาณ หน้าที่ 127-128

 

"10. ระหว่างที่จดบันทึกความฝัน ให้ขีดเส้นใต้ key word หรือสิ่งที่เป็นสัญญลักษณ์และมีความหมายเป็นพิเศษ ยกตัวอย่าง
ความฝันของคุณtenis มีคำที่เป็น key word เป็นสัญญลักษณ์พิเศษ หรือมีความหมายสะดุดใจเป็นพิเศษเช่น คำว่าโลหะ สีเงิน ดอกบัว พระไตรปิฎก คำเหล่านี้ หรือวัตถุสิ่งของเหล่านี้เป็นสัญญลักษณ์ที่มีความหมายจำเพาะสำหรับผู้ฝัน

สำหรับพี่นักเขียนอาจรู้สึกว่า ดอกบัว ว่าเป็นสิ่งที่หายากแต่ทนทาน เพราะพี่นักเขียนอยู่รัฐ Kansas ซึ่งเป็ฯเมืองหนาว และดอกบัวออกดอกให้เห็นปีละไม่กี่เดือน หน้าหนาวน้ำเป็นน้ำแข็งดอกบัวจะจมอยู่ใต้โคลนแต่ไม่ตาย พอถึงฤดูใบไม้ผลิ ดอกบัวก็จะโผล่พ้นน้ำและกลับมาเบ่งบานอีกในต้นฤดูร้อน เราแต่ละคนจะตีความหมายของดอกบัวไปตามมุมมองและความเชื่อส่วนบุคคล

11. เมื่อตีเส้นคำที่เป็นสัญญลักษณ์พิเศษที่มีความหมายสะดุดใจแล้ว ให้ใช้ที่ว่างด้านบน ด้านล่าง หรือด้านข้างของหน้ากระดาษที่เราเว้นไว้ เขียนความหมายจำเพาะของสิ่งที่เป็นสัญญลักษณ์สะดุดใจเหล่านั้น

หลังจากนั้นให้พิจารณาบันทึกความฝันอีกรอบ โดยทดแทนความหมายของสัญญลักษณ์สะดุดใจเหล่านั้นไปตามความรู้สึกว่า เรารู้สึกว่ามันหมายถึงอะไร ไม่ใช่ตีความหมายไปตามความคิดว่า เราคิดว่ามันหมายถึงอะไร"


สัญลักษณ์ที่มาในฝัน มีความหมายจำเพาะของแต่ละบุคคล เท่านั้นค่ะ คุณ wideheart
เมื่อพบเจอสัญญลักษณ์ ต้องใช้อารมณ์ความรู้สึกเท่านั้นค่ะ
Keyword มีมากมายในแต่ละฝัน แต่จะมีตัวหลัก ตัวที่กระทบเราที่สุด
ลองสังเกตุดูค่ะ และมีตัวรองๆ ตัวเสริม ตัวขยาย

อย่างเรื่องที่บอกว่า "ตายอย่างสมศักดิ์ศรี" ถ้าเป็นเดรด ตัวหลักน่าจะเป็นตาย
เพราะกระทบอารมณ์ มากกว่า เพราะตายมันก็จบแล้ว
สมศักดิ์ศรีน่าจะเป็นคำขยาย ให้ "ตาย"
มีความรู้สึก บวก หรือ ลบ อันนี้เป็นความคิดของเดรด คนเดียวนะ

คุณหงบ รู้ดีที่สุดแล้วค่ะ...

เดรดไม่ใช่ผู้รู้นะค่ะ เดรดเป็นเพียง messenger นำข่าวสารข้อมูลที่ได้รับมา มาบอก
ตามความเข้าใจส่วนตัว และการตีความที่เป็นเอกลักษณ์ ของตัวเอง เท่านั้น
มีทั้งถูก และ ผิด + ทั้งไม่ถูก และ ไม่ผิด
...แล้วแต่ท่านทั้งหลาย จะนำไปใช้ประโยชน์จ้า

 

(smile)คุณหงบ รู้ดีที่สุดแล้วค่ะ...

เดรดไม่ใช่ผู้รู้นะค่ะ เดรดเป็นเพียง messenger นำข่าวสารข้อมูลที่ได้รับมา มาบอก
ตามความเข้าใจส่วนตัว และการตีความที่เป็นเอกลักษณ์ ของตัวเอง เท่านั้นมีทั้งถูก และ ผิด + ทั้งไม่ถูก และ ไม่ผิด[/COLOR]
..แล้วแต่ท่านทั้งหลาย จะนำไปใช้ประโยชน์จ้า
จ้า แค่นี้ก็ ใบอ่อน...(สุดยอด)แล้วจ้า คุณเดรดคนสวย (smile)

 

สัญลักษณ์ที่มาในฝัน มีความหมายจำเพาะของแต่ละบุคคล เท่านั้นค่ะ คุณ wideheart
เมื่อพบเจอสัญญลักษณ์ ต้องใช้อารมณ์ความรู้สึกเท่านั้นค่ะ
Keyword มีมากมายในแต่ละฝัน แต่จะมีตัวหลัก ตัวที่กระทบเราที่สุด
ลองสังเกตุดูค่ะ และมีตัวรองๆ ตัวเสริม ตัวขยาย

อย่างเรื่องที่บอกว่า "ตายอย่างสมศักดิ์ศรี" ถ้าเป็นเดรด ตัวหลักน่าจะเป็นตาย
เพราะกระทบอารมณ์ มากกว่า เพราะตายมันก็จบแล้ว
สมศักดิ์ศรีน่าจะเป็นคำขยาย ให้ "ตาย"
มีความรู้สึก บวก หรือ ลบ อันนี้เป็นความคิดของเดรด คนเดียวนะ

ขอบคุณนะคะคุณเดรดที่รัก ที่ช่วยอธิบายให้เข้าใจยิ่งขึ้น
ไวด์ฮาร์ทลองเอาช่วงอารมณ์ว่าจะตายแน่ มาทบทวนดูอีกที ก็เป็นความรู้สึกกระทบใจอย่างมากคือเตรียมตัวตายอย่างมีสติ คือไม่กลัวตายแต่ก็รอดตาย เข้าใจแจ่มแจ้งค่ะ

 

มาอีกแระ...
อิอิ วันนี้เฝ้าบอร์ด...อิอิอิ

ยินดีรับใช้ค่ะ คุณสงบระงับ และคุณ wideheart ดาร์หลิงทั้งสอง
เรามาเล่นอะไร สนุกๆ กันมะ ลองมาให้ความหมายของคำว่า"ตาย" กันไหมค่ะ
ใช้แต่อารมณ์ และความรู้สึกเท่านั้น เก็บเหตุและผล เข้าห้องลับไปเลยค่ะ
ปิดโหมดตรรกะ ซะ...

อย่างของเดรด คำว่า"ตาย"คำนี้ ไม่ใช่วัตถุสิ่งของแน่นอน เพราะงั้นข้อมูลรูปลักษณ์ไม่มีแน่ๆ
ความรู้สึกที่มีต่อคำๆนี้ ให้ความรู้สึกถึงการจบแระ เสร็จแระ ไม่ทันแระ
เวลาฝันว่าใครตาย จะเสียใจมาก เพราะ เรารู้สึกว่า เรายังทำอะไรให้เค้าได้ไม่เต็มที่เลย
ทุกครั้งจึงรู้สึกว่า มันสายไปอีกแล้ว ฉะนั้น เมื่อฝันถึงความตาย
จะเป็นอะไรที่ ทำให้กลับมาคิดเสมอว่า มีอะไรที่ยังไม่ได้ทำอีก ทำซะ
ทำตอนนี้ เดี๋ยวนี้ Now....เพราะ มันอาจไม่มี วินาทีต่อไป เหลือแล้ว

บอกรักใครกันยังคะ รีบไปบอกซะ...เดี๋ยวไม่มีโอกาส แล้วจะเสียดาย
:z10

 

ความหมายของคำว่าตาย สงบว่ามันน่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของคนเราเนี่ยล่ะคะ แล้วคำว่าตาย ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เช่นวาระจิตที่พร้อมหรื่อไม่พร้อมที่จะตาย หรือไม่อ่ะ....ยังไม่พร้อม ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ ความเชื่อหลังความตาย(อันนี้ก็ยิ่งแตกต่างกัน) มันเป็นช่วงรอยต่อของชีวิตที่ยิ่งใหญ่มากเลยค่ะคุณมะเดรด ฉะนั้นถ้าสงบฝันว่าตัวเองกำลังจะตายไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่สงบจะสะกดจิตตัวเองให้ตื่นทันที(ยังไม่ยอมตายแม้แต่ในฝัน อ่ะ เป็นไงค่ะ)
ฉะนั้น. อย่างคุณวายด์ฮาร์ดก็ต้องทราบแน่นอนเลยว่ายังมีอะไรที่ค้างคาสะสางยังไม่เรียบร้อยอาจจะต้องรีบสะสางค่ะทำให้มันเสร็จสิ้น ไม่ใช่ว่าเพื่อให้ทันกับการที่ต้องตายนะค่ะ แต่พระพุทธองค์ ท่านก็ทรงตรัสว่า"ให้ระลึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก "อิอิ นั่นคือ การไม่ประมาทค่ะ จะได้ตายอย่างสมศักดิ์ศรี ที่เราตั้งใจไว้ มิเสียเวลาเป็นชาติ อ่ะค่ะbubu

 

สุดยอดไอเดียเลยค่ะคุณเดรด กลับมาจากข้างนอกเข้าเว็บบอร์ดทันที ไวด์ฮาร์ทยังสงสัยไม่หายเวลาฝันเรื่องตายทำไมถึงกลัว แต่เวลาตื่นจากฝันหรือใช้ชีวิตประจำวันนี้กลับมองดูเรื่องความตายเป็นเรื่องปกติที่ไวด์ฮาร์ทพิจารณามันทุกวันไม่เว้นเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคิดแม้กระทั่งก่อนนอนให้จิตเคยชินไม่สะดุ้งหวั่นไหว หรือถ้าเมื่อไหร่คนที่เรารักต้องตายจากก็ไม่เศร้าโศกเกินไปจนไม่เป็นอันกินอันนอนเป็นการทรมานร่างกายก็เป็นบาปอีกฉะนั้นจะไม่ประมาทกับความตายเป็นแน่แท้ ขอบคุณสำหรับเรื่องคิดเล่นหนุก ๆ แบบนี้ มีอะไรอีกที่จะเล่นไวด์ฮาร์ทร่วมด้วยช่วยคิดช่วยเล่น อิอิ..

 

เข้าบอร์ดมา ก็เจอคำว่า เด้ดสะมอเร่ เลย อิอิ..

ขอเล่นด้วยคนครับ

คำว่า ตาย ในความรู้สึก หมายถึง การพัก เพื่อเริ่มใหม่ ครับ